ตำนานของหลินตงกำลังแพร่สะพัดในมหาวิทยาลัยเจียงหนาน น้องใหม่หลายคนต่างก็สงสัยเกี่ยวกับเรื่องของหลินตงหลังจากที่รู้ว่าเดิมทีเขาเป็นลูกคนรวย เพราะอยากตามหารักแท้ ทำตัวเป็นเด็กยากจนส่งอาหารเดลิเวอรี่ทุกวันผลลัพธ์กลับถูกแฟนสาวของตัวเองนอกใจ จนสุดท้ายต้องฟื้นสถานะลูกคนรวยน้องใหม่ทุกคนอึ้ง!!!ฉากที่ปรากฏแต่ในละครโทรทัศน์เกิดขึ้นจริงในชีวิตจริง?เด็กยากจนกลายเป็นเจ้าชายหลังจากถูกนอกใจ!มีอะไรที่น้ำเน่ากว่านี้อีกไหม?การกระทำของหลินตงโดนใจนักศึกษาชายหลายคนมากเพราะคนที่มีสถานการณ์เหมือนเขามีไม่น้อยหลังจากเข้ามหาวิทยาลัย ได้สัมผัสสิ่งของมากมาย ทนการล่อลวงของรถหรูและกระเป๋าแบรนด์เนมไม่ไหว มีนักศึกษาจำนวนไม่น้อยที่สุดท้ายก็ทิ้งแฟนหนุ่มที่ยากจนอย่างไรก็ตามไม่ใช่ทุกคนที่ถูกทิ้งจะสามารถแปลงร่างเป็นลูกคนรวยได้เหมือนหลินตง จนผู้คนนับไม่ถ้วนอิจฉา ทำให้เทพธิดามารุมล้อมนอกจากหลินตงแล้ว ผู้ชายคนอื่น ๆ ที่ถูกแฟนทิ้งก็ได้แต่แอบเสียใจและอธิษฐานให้แฟนเปลี่ยนใจซึ่งก็มีหญิงสาวที่เดิมทีตั้งใจจะเลิกกัน เริ่มแอบสืบประวัติแฟนหนุ่ม ดูว่าตัวเองจะได้เจอกับลูกคนรวยคนที่แสร้งทำตัวเป็นคนจนอย่างหลินตงบ้า
"หลิวเผิง! นายเคยมากินข้าวที่นี่ ค่าใช้จ่ายที่นี่แพงแค่ไหน?" มีเพื่อนร่วมชั้นถามอยู่ข้างหลิวเผิง"ฉันก็เคยมาที่นี่ไม่กี่ครั้ง เข้ามาที่นี่ ค่าใช้จ่ายต่อหัวต่ำสุดก็ต้องเกินหมื่นถึงจะได้" หลิวเผิงตอบ"ห๊ะ??? ค่าใช้จ่ายต่อหัวต่ำที่สุดเกินหมื่นเหรอ? แพงขนาดนี้เลยเหรอ? แล้วพวกเราห้าหกสิบคน ไม่ต้องจ่ายห้าหกแสนเหรอ?"ตอนนี้ทำให้ทุกคนตกใจมากค่าใช้จ่ายต่อหัวต่ำสุดก็ต้องเกินหมื่น?ทั้งห้องห้าหกสิบคน ค่าใช้จ่ายอย่างน้อยห้าหกแสน?ในบรรดาเพื่อนเหล่านี้ยังมีเพื่อนหลายคนที่มีสภาพครอบครัวไม่ค่อยดีค่าครองชีพรายเดือนของพวกเขาอยู่ที่ประมาณหนึ่งหรือสองพันค่าใช้จ่ายขั้นต่ำหลักหมื่นก็เพียงพอสำหรับค่าครองชีพของพวกเขาหนึ่งปีแล้วชีวิตของคนรวยนั้นฟุ่มเฟือยมากจริง ๆหลินตงเต็มใจที่จะใช้เงินมากมายเพื่อเลี้ยงพวกเขาจริง ๆ เหรอ?หลายคนรู้สึกถอยแล้วโดยเฉพาะอย่างยิ่งจนถึงตอนนี้ยังไม่เห็นเงาของหลินตงเลย คงไม่ได้ถูกเบี้ยวแล้วนะ?ถ้าสุดท้ายให้พวกเขามาหารกัน พวกเขาจะไม่สามารถจ่ายเงินนี้ได้"นี่เป็นเพียงมาตรฐานขั้นต่ำ คนที่สามารถเข้ามาที่นี่ได้จะไม่ใช้จ่ายแค่มาตรฐานขั้นต่ำเท่านั้น ฉันคิดว่าพวกเรามีกันหลา
ในเวลานี้สาวสวยร่างสูงคนหนึ่งมาต้อนรับและถามอย่างสุภาพว่า "สวัสดีค่ะคุณผู้ชายคุณผู้หญิง!!! ฉันเป็นผู้จัดการล็อบบี้ของโรงแรมโรงแรมโกลเด้นลิฟ ไม่ทราบว่ามีอะไรให้ช่วยไหมคะ?""เอ่อ... ผม... เราแค่มาดู!" เพื่อนร่วมชั้นตอบ"ใช่ใช่ใช่!!! พวกเราแค่เข้ามาดูเฉย ๆ ไม่ได้ต้องการอะไร พี่สาว คุณไปยุ่งเถอะ!""ขอโทษด้วยทุกท่าน! ที่นี่เป็นโรงแรมระดับไฮเอนด์ที่สุดในมณฑลเจียงหนาน ไม่อนุญาตให้เข้าชม ถ้าทุกท่านไม่มีธุระอะไร เชิญออกไปด้วยค่ะ" ผู้จัดการสาวสวยยังคงพูดอย่างสุภาพ แต่สีหน้ากลับดูถูกเล็กน้อย"พวกเรามาหาหลินตง เขาไม่ได้บอกคุณไว้เหรอ?" หลิวเผิงพูดแทรกขึ้นมาเขาไม่เชื่อว่าหลินตงจะไม่ได้จัดการเรื่องนี้ให้เรียบร้อย"ที่แท้พวกคุณก็เป็นแขกของนายน้อยหลินนี่เอง! นายน้อยหลินได้สั่งไว้แล้วค่ะ สถานที่ก็จัดไว้เรียบร้อยแล้ว เชิญทุกท่านตามฉันมาค่ะ" ผู้จัดการสาวสวยได้ยินว่ามาหาหลินตง ก็รีบเปลี่ยนหน้าทันที ยิ้มแย้มแจ่มใส กล่าวด้วยความเคารพคำพูดของผู้จัดการสาวสวยก็ทำให้ทุกคนสบายใจเช่นกันที่แท้หลินตงได้จัดการไว้เรียบร้อยแล้วดูเหมือนว่าจะทุ่มเงินหลายล้านเลี้ยงข้าวพวกเขาจริง ๆ!ลูกคนรวยของแท้แน่นอนไม่ไ
โต๊ะขนาดใหญ่เต็มไปด้วยอาหารเลิศรส โดยทั่วไปเคยเห็นแต่ในทีวีเท่านั้นสามนาทีผ่านไป...ทุกคนต่างยุ่งกับการถ่ายรูปต่าง ๆโพสต์บนโมเมนต์สารพัดอวดสิบนาทีผ่านไป...อวดเสร็จแล้ว แม้ว่าทุกคนจะแอบกลืนน้ําลาย แต่ก็ไม่มีใครขยับตะเกียบเลยเพราะตัวเอกอย่างหลินตงยังไม่มา!ใครจะกล้าขยับ???หลิวเผิงเห็นว่าอาหารเกือบจะเย็นแล้ว จึงโทรหาหลินตง"ฮัลโหล!!! หลิวเผิง พวกนายมาถึงแล้วเหรอ?" เสียงของหลินตงดังมาจากโทรศัพท์"หลินตง นายอยู่ไหน? เรามาถึงแล้ว อาหารก็เสิร์ฟหมดแล้ว ทุกคนกำลังรอนายอยู่!" หลิวเผิงกล่าวทันทีที่หลิวเผิงพูด ทุกคนก็มองมาที่เขา"อาหารครบแล้ว พวกนายก็รีบกินสิ! จะรอฉันทำอะไร? เดี๋ยวฉันมาดื่มกับพวกนายสองแก้วก็พอ ไม่ต้องรอฉันแล้ว""งั้นก็ได้!!! เราจะกินกันก่อนแล้ว"หลิวเผิงวางสายโทรศัพท์แล้วก็พูดว่า "ทุกคนเริ่มกันเลย! ไม่ต้องรอหลินตง ตอนนี้เขายุ่งอยู่ เดี๋ยวจะมาทีหลัง"หลังจากพูดจบ ทุกคนก็ยังไม่กล้าขยับหลิวเผิงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากหยิบตะเกียบแล้วเริ่มกินจากนั้นทุกคนจึงเริ่มกินอาหารบนโต๊ะนี้อร่อยมาก!!!ผู้ชายทุกคนกินกันอย่างตะกละตะกลาม"หลิวเผิง อาหารโต๊ะนี้ต้องแพงมากเล
อาหารโต๊ะละล้านห้า คนที่กินอยู่ที่นั่นเสียดายมากแม้จะอร่อยจริงจนแทบจะกลืนลิ้นไปให้หมด แต่เมื่อนึกถึงค่าใช้จ่ายเฉลี่ยคนละแสนห้า ก็ทำให้พวกเขารู้สึกอึดอัดใจถ้าพวกเขาต้องเลือกระหว่างอาหารมื้อหนึ่งกับเงินแสนห้า พวกเขาจะเลือกเงินแสนห้าแน่นอนสำหรับเพื่อนร่วมชั้นที่บ้านไม่ได้ร่ำรวย ห้าแสนนี้พวกเขาสามารถทำอะไรได้หลายอย่างแม้กระทั่งเป็นรายได้ของครอบครัวหลายปีแน่นอนว่านี่เป็นสิ่งที่คนอื่นเลี้ยง พวกเขาไม่สามารถเลือกได้ ดังนั้นก็กินให้เยอะ ๆ เถอะทุกคำที่กินเข้าไปก็ได้กำไรเมื่อกี้มีคนดื่มไวน์แค่ไม่กี่คนตอนนี้ได้ยินว่าไวน์ขวดหนึ่งราคาสามแสนขนาดผู้หญิงหลายคนยังแย่งกันดื่มเล็กน้อยเนื่องจากโอกาสแบบนี้หายากมากดื่มหลายอึก ต่อไปจะได้มีทุนคุยโวได้ไม่ใช่เหรอ?ฉันก็เป็นคนที่เคยดื่มไวน์แดงชั้นนำขวดละสามแสนครึ่งชั่วโมงต่อมา...ทุกคนกินไม่ไหวแล้วจริง ๆบนโต๊ะกลับยังมีอาหารอีกมากมายโต๊ะละล้านห้า ปริมาณก็สุดยอดมากแต่ไม่มีใครลุกจากโต๊ะเลยโอกาสหายาก พักผ่อนสักพัก เข้าห้องน้ํา อาจจะกินได้อีกบ้างในเวลานี้ประตูห้องส่วนตัวก็เปิดออกหลินตงเดินเข้ามาจากข้างนอกทุกคนลุกขึ้นโดยอัตโนมัติ
ตัวเองได้เฝ้าดูอยู่ตลอดแม่งเอ๊ย ประมาทไป!สองสามหมื่นถูกคนอื่นแย่งไปแล้ว"ไม่งั้น เราใช้ชาแทนไวน์เถอะ!" ติงเว่ยพูดอย่างกระอักกระอ่วนเล็กน้อยหลินตงเห็นว่าแก้วไวน์ของทุกคนว่างเปล่าและไวน์ก็เปิดหมดแล้วก็รู้ว่าดื่มกันหมดแก้วแล้ว จึงลงมือกดโทรศัพท์ที่ติดอยู่บนกำแพง"จะใช้ชาได้ยังไงล่ะ! นี่ดูเหมือนจะเป็นปาร์ตี้ครั้งแรกในรอบสามปีของเราที่อยู่ห้องเดียวกันมาใช่ไหม? และคนก็ครบแบบนี้ ก็ไม่ใช่เรื่องง่าย ดื่มอีกหน่อยเถอะ!" หลินตงกล่าว"ไม่ต้องหรอก! หลินตง จริง ๆ! แค่นี้ก็สิ้นเปลืองมากแล้ว ถ้าเอามาอีก พวกเราก็รู้สึกไม่ดีจริง ๆ""เงินเป็นของนอกกาย ทุกคนกินดื่มอิ่มหนำสำราญเป็นสิ่งที่สำคัญที่สุด ในเมื่อผมเป็นคนเลี้ยง สุดท้ายทุกคนไม่พอใจ นี่ไม่ได้ตบหน้าผมหลินตงเหรอ? วันนี้ทุกคนฟังผมจัดการ ตอนนี้นั่งลงกันให้หมด!"หลินตงพูดจบ ก็ไม่มีใครคัดค้านต่อ พากันนั่งลงกันหมดไม่นานประตูห้องส่วนตัวก็เปิดออกอีกครั้งผู้จัดการล็อบบี้สาวสวยเดินเข้ามา"นายน้อยหลิน! ไม่ทราบว่ามีอะไรต้องการคะ?" ผู้จัดการสาวสวยกล่าวด้วยความเคารพ"เสิร์ฟไวน์ชนิดเดียวกับบนโต๊ะอีกโต๊ะละสิบขวด""ได้ค่ะ!!! นายน้อยหลินกรุณารอสักค
หลินตงในฐานะตัวเอกของในวันนี้ ย่อมได้รับเชิญจากเพื่อนร่วมชั้นหญิงหลายคนแต่หลินตงแสร้งทำเป็นเมาและปฏิเสธได้สัมผัสกับสาวสวยชั้นนำมากมายที่มีอยู่ระดับเก้าสิบห้าคะแนน สายตาของหลินตงก็สูงขึ้นโดยไม่รู้ตัว พวกเจ็ดแปดสิบคะแนนเขาไม่สนใจจริง ๆเขาไม่สนใจ แต่คนอื่นสนใจในไม่ช้าหลิวเผิงหลายคนก็ต้านทานสิ่งล่อใจไม่ได้และเข้าร่วมการเต้นรำด้วยในห้องยังมีนักเรียนหญิงที่หน้าตาดีหลายคน ฉวยโอกาสเอาเปรียบหน่อยก็ดีนะแต่น่าเสียดายที่ซูยิงเสวี่ยซึ่งเป็นเทพธิดาของมหาวิทยาลัยเจียงหนานไม่ได้เข้าร่วม ไม่ใช่นั้นจะยิ่งสนุกมากกว่านี้พวกเขาก็อยากเห็นว่าเทพธิดาเต้นรำเป็นยังไงในความคิดของพวกเขา ซูยิงเสวี่ยจะดูเรียบร้อยมาตลอดหลังจากหลิวเผิงจากไป หลินตงก็หาโอกาสและออกจากห้องส่วนตัวอย่างเงียบ ๆส่งข้อความถึงหลิวเผิง จบแล้วให้เขาพาทุกคนออกไปเลย ตัวเองได้จ่ายเรียบร้อยแล้วแม้ว่าหลินตงจะไม่ได้ส่งข้อความนี้ หลิวเผิงก็ทำได้เพียงพาทุกคนออกไปเท่านั้นไม่มีใครแย่งกันจ่ายเงินแน่นอน เพราะไม่มีใครสามารถจ่ายได้หลินตงมองดูเวลา ตอนนี้เป็นเวลาสามทุ่มแล้ว เขาเดินออกจากโรงแรมโกลเด้นลิฟเพียงลำพัง เตรียมจะออกไป กลับไปพั
"เพื่อนหาน? คุณมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง?" หลินตงถามอย่างสงสัย"หลินตง ฉันมีเรื่องจะคุยกับคุณ" หานชือหยุนตอบ"มีธุระคุณสามารถโทรหาผมหรือส่งข้อความหาผมก็ได้หนิ! คุณรออยู่ที่นี่ ถ้าผมไม่กลับมาจะทำยังไง?""ไม่เป็นไร! ถ้าคุณไม่กลับมา ฉันก็จะกลับมหาวิทยาลัยแล้ว" หานชือหยุนพูดด้วยรอยยิ้มแต่รอยยิ้มก็ดูขมขื่นเล็กน้อยไม่ว่าจะมองอย่างไร"ดึกขนาดนี้แล้ว คุณกลับไปคนเดียวก็ไม่ค่อยปลอดภัยนะ?""ถัดจากหมู่บ้านนี้มีสำนักงานตำรวจชั่วคราวอยู่ ฉันนั่งแท็กซี่กลับมหาวิทยาลัยก็ได้แล้ว"หลินตงไม่รู้จะตอบอย่างไรสักพัก เดินไปเปิดประตูแล้วพูดว่า "เข้ามาคุยกันข้างในเถอะ!"หานชือหยุนเดินตามหลินตงเข้าไปในบ้านหลินตงรินน้ำแก้วหนึ่งส่งให้หานชือหยุน จากนั้นนั่งบนโซฟาหนังแท้แล้วถามว่า "เพื่อนหาน คุณมาหาผมมีธุระอะไร?""หลินตง คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงง่าย ๆใช่ไหม?" หานชือหยุนถาม"ทำไมจู่ ๆ ถึงถามแบบนี้ล่ะ?""เพราะฉันคิดว่าตั้งแต่ครั้งที่แล้วที่คุณหนีไปกลางดึก คุณหลบฉันมาตลอด การจู่โจมของฉันทำให้คุณคิดว่าฉันเป็นผู้หญิงง่าย ๆ ใช่ไหม?""เปล่าเลย! ช่วงนี้ผมยุ่งมากจริง ๆ! แม้แต่มหาวิทยาลัยก็ไม่ค่อยได้กลับมาแล้ว""การ
"พี่เฉิน ฉันขอโทษ ฉันเป็นคนทำให้คุณเดือดร้อน ไปสู้กันเถอะ"หลังจากหลินตงพูดจบ เขาก็แปลงร่างกายาทองคำอมตะอีกครั้ง!แม้ว่าเฉินจิงจื่อหานจะไม่ค่อยเข้าใจว่าคำพูดของหลินตงหมายถึงอะไรแต่เมื่อเห็นว่าหลินตงเตรียมพร้อมสำหรับการต่อสู้อีกครั้งเขาก็ไม่สามารถถอยกลับได้เช่นกันท้ายที่สุดแล้ว เขาก็มาจากอารยธรรมระดับสูง จะแพ้คนอย่างหลินตงที่มาจากอารยธรรมระดับต่ำกว่าได้อย่างไร?ให้ได้รู้ซะบ้าง วิชาลับของสำนักดาวสวรรค์น่ากลัวขนาดไหนทั้งสองแสดงกายาทองคำอมตะออกมาทีละคน พร้อมที่จะต่อสู้ในขณะนี้ ไม่รู้ว่าใครตะโกนออกมาท่ามกลางอสูรยักษ์สีทองหลายสิบตัว"โจมตี!!!"ทันใดนั้น อสูรยักษ์สีทองทั้งหมดก็ปลดปล่อยความเร็วสูงสุดและพุ่งเข้าหาหลินตงและเฉินจิงจื่อหานในเวลาเดียวกัน พวกเขาก็เตรียมท่าไม้ตายที่แข็งแกร่งที่สุดของพวกเขาเช่นกันตั้งใจที่จะทำร้ายหรือแม้กระทั่งฆ่าหลินตงและสหายในการโจมตีครั้งแรกนี่จึงเป็นวิธีที่ดีที่สุดในการป้องกันไม่ให้พวกเขาตอบโต้กันปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนลงมือพร้อมกันช่างเป็นภาพที่น่าตื่นตาตื่นใจจริง ๆ?ยุนซีกับสาวๆ ที่กำลังดูอยู่ ต่างก็ใจเต้นรัวเธอกลัวว่า
เฉินจิงจื่อหานอาจยังคงนึกถึงภาพที่อสูรดาราเหล่านี้คุกเข่า และขอความเมตตาหลังจากที่ป้าหงของเขาลงมือ!แต่ความจริงก็คือคนที่ทำให้เกิดสถานการณ์เช่นนี้ ต้องตำหนิหลินตงถ้าไม่ใช่เพราะเขาไป๋หลี่เหยียนหงจะใช้พละกำลังทั้งหมด เพื่อควบคุมตัวเองแ ละไม่สามารถลงมือได้อย่างไร?แต่ว่าหลินตงเองก็บริสุทธิ์เช่นกันการเชื่อมโยงทางจิตวิญญาณของเขากับไป๋หลี่เหยียนหง เป็นสิ่งที่อยู่นอกเหนือการควบคุมของเขาอย่างสิ้นเชิงใครทำให้ร่างเสน่ห์ของไป๋หลี่เหยียนหงน่าดึงดูดเกินไปล่ะ?ทำให้พลังจิตวิญญาณของเขาถูกดึงดูดเข้าหาอย่างไม่สามารถควบคุมได้ และทำสิ่งที่เลวร้ายเช่นนี้หลินตงก็เพิ่งค้นพบเป็นครั้งแรกเช่นกัน ว่าพลังจิตวิญญาณก็สามารถเป็นเช่นนี้ได้?นั่นทำลายความเข้าใจของเขาที่มีต่อโลกไปอย่างสิ้นเชิงเมื่อมองดูอสูรยักษ์สีทองเกือบสามสิบตัวเคลื่อนเข้ามาใกล้เฉินจิงจื่อหานยังคงเฉยเมยในความคิดของเขาใครหนุนหลังเขาอยู่?นั่นคือไป๋หลี่เหยียนหง!!!ผู้นำของเจ็ดเซียนแห่งนิกายแก้วเจ็ดแสงรุ่นก่อนราชันย์อมตะแห่งอาณาจักรนิรันดรนิกายแก้วเจ็ดแสงจะมีเซียนที่ไม่มีใครเทียบได้เจ็ดคนซึ่งเป็นตัวแทนด้วยเจ็ดสี ได้แก่ แดง
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ