“วันนี้ฉันเชิญทุกคนมาที่นี่เพื่อพูดคุยกันถึงเรื่องบางเรื่อง ฉันเชื่อว่าคุณคงได้เรียนรู้เกี่ยวกับสถานการณ์ของกาแล็กซีทางช้างเผือกจากอินเทอร์เน็ตแล้ว โลกกำลังจะเข้าสู่ยุคสมัยระหว่างดวงดาว แต่ฉันรับรองได้ว่ามันจะปลอดภัยอย่างแน่นอน และจะไม่มีใครกล้าทำอะไรกับโลก แต่ฉันหวังว่าทุกคนจะจัดการคนของตัวเองให้ดีและรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโลก” หลินตงกล่าวขณะที่เขามองไปที่ผู้นำของกองกำลังในต้าเซี่ย“ไม่ต้องห่วง ท่านหลินตง! เราจะทำอย่างดีที่สุดเพื่อรักษาความสงบเรียบร้อยภายในโลกและจะไม่ก่อปัญหาใดๆ ให้กับคุณ คุณสามารถวางใจจัดการกับมนุษย์ต่างดาวได้”“ใช่แล้ว ท่านหลินวางใจได้ เราจะไม่สร้างปัญหาใดๆ ทั้งสิ้น!”ผู้นำทุกฝ่ายที่เข้าร่วมแสดงการสนับสนุนทันที“ดีมาก! วันนี้ฉันเชิญทุกคนมา ยังมีอีกเรื่องหนึ่ง ฉันได้สิ่งที่เรียกว่าเซรุ่มจากยานศักดิ์แปดเหลี่ยมของมนุษย์ต่างดาว ซึ่งผลิตโดยกาแล็กซีอารยธรรมระดับที่สาม สำหรับสรรพคุณของมันนั้น สามารถค้นหาทางอินเทอร์เน็ตและฉันเชื่อว่าพวกคุณจะรู้ในไม่ช้า ฉันจะให้เวลาพวกคุณ”หลินตงหยิบโทรศัพท์ของเขาออกมาและโบกมือให้พวกเขาทำเช่นเดียวกันเมื่อได้ยินเช่นนี้ ทุกคนก็หยิบโท
ในลานบ้านของซ่งซือหมินหลินตงเพิ่งแจกจ่ายเซรุ่มให้กับกองกำลังหลักในต้าเซี่ยเมื่อเขามาถึงที่นี่เขาวางถุงเซรุ่มสามถุงลงบนโต๊ะแล้วพูดกับซ่งซือหมินว่า "ลุงซ่ง นี่คือเซรุ่มสามพันโดส คุณสามารถเอาไปให้หัวกะทิของต้าเซี่ยใช้ได้เลย! หากไม่มีเลือดนับไม่ถ้วนที่พวกเขาหลั่งเพื่อต้าเซี่ย ต้าเซี่ยก็คงไม่สามารถมาถึงจุดนี้ได้”“หลินตง ขอบคุณ!!!”ซ่งซือหมินไม่ปฏิเสธเพราะด้วยสิ่งนี้หัวกะทินับไม่ถ้วนที่เสียสละทุกสิ่งทุกอย่างไปเพื่อต้าเซี่ย ก็จะมีความหวังที่จะพัฒนาต่อไปอีก"ไม่จำเป็นต้องขอบคุณฉัน! นี่คือสิ่งที่ฉันควรทำ และนั่นคือสิ่งที่พวกเขาสมควรได้รับ ลุงซ่ง อย่าลืมกินเองด้วยล่ะ แม้ว่าเซรุ่มจะทำงานได้ดีที่สุดกับผู้ที่มีอายุ 10 ถึง 30 ปี แต่พวกมันก็ยังคงมีผลสำหรับผู้ที่อายุเกิน 30 ปี หากคุณสามารถปลดล็อกศักยภาพได้มากขึ้น คุณอาจก้าวหน้าต่อไปได้ ซึ่งจะเพิ่มทั้งความแข็งแกร่งและอายุขัยของคุณ คุณมีชีวิตอยู่มากกว่าคนส่วนใหญ่มาก ฉันจะจากไปในไม่ช้า และโลกจะต้องได้รับความคุ้มครองจากคุณ”“นายกำลังจะไปจากโลกเหรอ?” ซ่งซือหมินถามด้วยความตกใจ“ใช่ เราไม่สามารถถูกกักขังอยู่ในโลกได้ตลอดไป เราอาจรับมือกับภัยคุกค
เขาแค่อยากให้เธอก้าวไปสู่ระดับดาวเทียมและอยู่เคียงข้างเขาตลอดไปหวงฝู่ซีเยว่ก็เป็นเหมือนกับในช่วงเวลาชีวิตนั้น ด้วยพรสวรรค์ที่สูงมาก หลังจากได้รับเซรุ่ม ความแข็งแกร่งของเธอก็พุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วยุนซีได้รับคำแนะนำจากหวงฝู่ซีเยว่หลินตงมุ่งความสนใจไปที่จ้าวซวนผู้หญิงคนนี้ หลินตงก็ไม่อยากให้เธอทิ้งไปเช่นกันโชคดีที่จ้าวซวนมีศักยภาพที่ดี หลังจากได้รับเซรุ่ม ทำให้เธอมีโอกาสเติบโตแข็งแกร่งขึ้นอย่างแท้จริงสิ่งที่หลินตงไม่คาดคิดมากที่สุดก็คือ แม้ว่าลู่เซียวเซียวจะมีศักยภาพสูง แต่ศักยภาพของหานซือหยุนก็แข็งแกร่งมากเช่นกันและดูเหมือนว่าศักยภาพทั้งหมดของป้ากับน้าของเขา จะถูกถ่ายโอนไปที่หลินตง และส่งผลให้ทั้งสองคนไม่เกิดการเปลี่ยนแปลงสักเท่าไหร่ในตอนแรก หลินตงคิดว่าเนื่องจากพรสวรรค์ของเขาไม่ธรรมดาในช่วงเวลาชีวิตอื่นและป้ากับน้าของเขา ซึ่งมีสายเลือดเดียวกันก็ควรจะมีพรสวรรค์ที่แข็งแกร่งด้วยแต่แล้วทั้งสองคนยังปกติเหมือนเดิมหลินตงก็ไม่มีทางเลือก ในจุดนี้เช่นกันอย่างน้อยก็ยังไม่มีวิธีแก้ปัญหาได้แต่รอจนกว่า ตัวเขาจะเข้าไปในบริเวณใจกลางของกาแล็กซีทางช้างเผือก เพื่อดูว่ามีวิธีใด
ในความว่างเปล่าที่ห่างจากโลกประมาณ 3,000 ปีแสงยานรบประจัญบานกาแล็กซีที่สลักด้วยตัวอักษรเฟิงขนาดใหญ่ กำลังมุ่งหน้ามายังโลกด้วยรวดเร็วนี่คือหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของอาณาจักรกาแล็กซี ยานรบประจัญบานกาแล็กซีของตระกูลเฟิงยานรบประจัญบานกาแล็กซีเป็นยุทธภัณฑ์ทางการทหาร ที่ก้าวหน้ากว่ายานศักดิ์สิทธิ์แปดเหลี่ยมไม่ว่าเป็นเรื่องของขนาด ความเร็ว การป้องกัน และการโจมตี ยานอวกาศนี้ก็มีความแข็งแกร่งกว่ายานศักดิ์สิทธิ์แปดเหลี่ยมมากกว่าหนึ่งระดับสิ่งที่สำคัญที่สุดคือยานรบประจัญบานกาแล็กซี ไม่สามารถซื้อได้ด้วยเงินนอกจากเงินแล้ว การเป็นเจ้าของยานรบประจัญบานกาแล็กซี ยังต้องมีคะแนนผลงานจำนวนมากอีกด้วยและคะแนนผลงานต้องได้รับการสนับสนุนจากอาณาจักรกาแล็กซีจึงจะได้รับในฐานะหนึ่งในแปดตระกูลใหญ่ของอาณาจักรกาแล็กซี ตระกูลเฟิงมียานรบประจัญบานกาแล็กซีเพียงสามลำเท่านั้นยานรบประจัญบานกาแล็กซีนั้นหาได้ยากขณะนี้ ยานรบประจัญบานกาแล็กซีของตระกูลเฟิงชายคนหนึ่งที่มีรูปลักษณ์อ่อนโยนแต่ดูน่ากลัว กำลังนั่งหลับตาพักผ่อนเขาคือเฟิงจิ่วจง นายน้อยคนที่เก้าของตระกูลเฟิง และเป็นผู้ที่เพิ่งได้รับตำแหน่งทายาทของตระ
อย่างน้อยสองในสามของเนื้องูเหลือมดารากว่า 500 กิโลกรัมนั้น ถูกเฟิงจิ่วจงกินเข้าไปแม้ว่าเฟิงจิ่วจงจะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเฟิงแต่เขาไม่ได้มาจากสายญาติเดียวกับเฟิงรั่วเฉิน เฟิงจื่อเยว่และคนอื่นๆแต่เป็นอีกสายญาติหนึ่งของตระกูลเฟิงอย่างไรก็ตาม สายญาติของเขาตกต่ำลงเมื่อนานมาแล้ว เนื่องจากสถานการณ์ที่ไม่คาดฝัน เหลือเฟิงจิ่วจงเป็นผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวตระกูลเฟิงสันนิษฐานว่าสายญาติฝั่งนั้น จวนจะหมดทายาทสืบสายเลือดต่อไป จนกระทั่งเฟิงจิ่วจงผู้มีความสามารถพิเศษปรากฏตัวออกมาแม้ว่าเฟิงจิ่วจงจะเป็นทายาทสายตรงของตระกูลเฟิงเช่นกัน แต่สถานะของเขาก็ต่ำต้อยกว่าทายาทสายตรงคนอื่นๆ มากเขาไม่เคยกินอาหารที่มีคุณค่าสูงเช่นนี้มาก่อนสำหรับเหตุผลที่เฟิงจิ่วจง ที่สามารถคว้าตำแหน่งนายน้อยของตระกูลเฟิงมาได้ประการแรก พรสวรรค์ของเฟิงจิ่วจงนั้นล้ำเลิศอย่างมาก ทำให้คนในตระกูลเฟิงตามหลังไม่ทันประการที่สอง ตระกูลเฟิงยังคงมีบุคคลเก่าแก่แม้ว่าผู้อาวุโสคนนี้จะไม่ยุ่งเกี่ยวกับเรื่องตระกูลเฟิงมานานแล้วแต่ครั้งหนึ่งเขาเคยวางกฎเกณฑ์ไว้ตำแหน่งผู้นำตระกูลเฟิงนั้น จะต้องเป็นของทายาทสายตรงและมีความสามารถ
เฟิงจื่อเยว่กับฟิงรั่วเฉินเป็นพี่น้องสายเลือดเดียวกันปู่ของเฟิงรั่วเฉินคือเฟิงซิงโจวในขณะที่ปู่ของเฟิงจื่อเยว่คือเฟิงซิงเจี้ยนเฟิงซิงโจวกับเฟิงซิงเจี้ยน จึงเป็นพี่น้องกันดังนั้นสายเลือดของทั้งสองคนจึงค่อนข้างใกล้ชิดกันพวกเขาคุ้นเคยกันมาตั้งแต่เด็กและมีความสัมพันธ์ที่ดีเมื่อได้ยินเรื่องการตายของเฟิงรั่วเฉินเฟิงจื่อเยว่ก็ตัวสั่นด้วยความกลัวเช่นกันเฟิงจิ่วจงที่อยู่ข้างๆ ไม่รู้สึกอะไรมากนักเมื่อเขาได้ยินข่าวนี้เขารู้จักนายน้อยเฟิงรั่วเฉินแต่ไม่คุ้นเคยกับเขามากนักเนื่องจากสายญาติทางฝั่งของเขาตกต่ำลง เขาจึงต้องซ่อนตัวและสร้างชื่อเสียงให้กับตัวเองในการการรวมตัวของตระกูลด้วยเหตุนี้ ทายาทสายตรงของตระกูลเฟิงคนอื่นๆ จึงไม่ได้ให้ความสนใจเขามากนักในอดีต“เป็นเรื่องจริง พี่ชายของเธอตายแล้ว แผ่นชะตาชีวิตของเขาสลายไป” เฟิงซิงเจี้ยนยืนยัน“พี่ชายของฉันตายได้อย่างไร?” “ก่อนที่เขาจะตาย พี่ชายของเธอส่งข้อความกลับไปหาตระกูลว่าเขาพบดาวเคราะห์พื้นเมืองที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ที่มีสิ่งมีชีวิตอาศัยอยู่ที่ชายขอบของกาแล็กซีทางช้างเผือก อย่างไรก็ตาม ดาวเคราะห์ดวงนี้มีนักรบระดับดาวเครา
แต่ตอนนี้ความขุ่นเคืองได้หายไปแล้วตระกูลเฟิงเป็นตระกูลที่ใหญ่โตอย่างเหลือเชื่อต้องมีการวางแผนและพิจารณาอย่างรอบคอบศัตรูนั้นแข็งแกร่งเกินไปไม่มีอะไรที่พวกเขาสามารถทำได้ความเกลียดชังจากพ่อแม่และญาติของเขานั้น เมื่อเขาแข็งแกร่งขึ้น ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของเขาไปจัดการและแก้แค้นด้วยตัวเอง!“จิ่วจง! ฉันรู้ว่านายไม่พอใจกับตระกูลเฟิงที่นิ่งเฉยในขณะที่ครอบครัวของนายถูกฆ่า แต่นายต้องเข้าใจว่า แม้จะเราจะเป็นตระกูลระดับสูงก็ตาม แต่ตระกูลเฟิงก็ไม่ใช่ศัตรูของตระกูลเหยียน ถ้าไม่ใช่เพราะ ความจริงที่ว่าบรรพบุรุษของเรายังมีชีวิตอยู่ ทำให้ตระกูลเหยียนไม่กล้าทำอะไรวู่วาม เพราะอย่างนั้นตระกูลเฟิงฝั่งสายญาติของนายเลยถูกฆ่าล้างบาง ดังนั้นอย่าตำหนิตระกูลไปเลยนะ ตอนนี้สิ่งต่างๆ ก็เปลี่ยนไปในทางที่ดีขึ้น จากพรสวรรค์และการประทับเครื่องหมายทาส นั่นยังมีโอกาสแก้แค้นอยู่ในอนาคต” เฟิงซิงเจี้ยนอธิบาย“ลุงสอง ฉันเข้าใจ! ฉันไม่โทษคุณเช่นกัน พ่อแม่และญาติเองก็มีเรื่องบาดหมางกันอย่างลึกซึ้งกับตระกูลเหยียน และฉันจะหาทางทำให้พวกนั้นชดใช้อย่างแน่นอน”“ดีมาก! จิ่วจง มีอีกสิ่งหนึ่งที่ฉันอยากจะบอกนาย จื่อเยว่เป็นหลา
สิบวันผ่านไปอีกครั้งขณะนี้โลกกำลังอยู่ในบรรยากาศตึงเครียดในช่วงเวลานี้ มนุษย์บนโลกไม่เพียงแต่เรียนรู้เกี่ยวกับความกว้างใหญ่ไพศาลของกาแล็กซีทางช้างเผือกจากอินเทอร์เน็ตเท่านั้นยังได้เรียนรู้เกี่ยวกับสิ่งมีชีวิตนอกโลกที่ทรงพลังบางชนิด ที่สามารถข้ามความว่างเปล่าและต่อยดาวเคราะห์ดวงเล็กได้ด้วยมีวิดีโอจำนวนนับไม่ถ้วนที่แพร่กระจายออนไลน์ในบางครั้ง ก็ทำให้พวกเขารู้สึกเหมือนกำลังดูหนังไซไฟด้วยความเข้าใจที่เพิ่มมากขึ้นเกี่ยวกับกาแล็กซีทางช้างเผือกมนุษย์โลกค่อยๆ เข้าใจว่าแท้จริงแล้วโลกเป็นเพียงดาวเคราะห์ระดับต่ำที่ขอบกาแล็กซีทางช้างเผือกนอกโลกนั้นใหญ่เกินไปโลกในจักรวาลก็เหมือนเม็ดทรายในทะเลทรายดั่งหยดน้ำในมหาสมุทรไม่มีอะไรน่าสนใจเลยพวกเขาจึงเริ่มทำงานหนักและพยายามเพิ่มความแข็งแกร่งของตนเองหวังว่าสักวันหนึ่งจะก้าวออกจากโลกและเห็นโลกที่เต็มไปด้วยดวงดาวอันกว้างใหญ่ภายนอกณ ขณะนี้ยานรบประจัญบานกาแล็กซีของตระกูลเฟิงได้เข้าใกล้ระบบสุริยะ และกำลังมุ่งตรงมายังโลกจ้าวซวนได้เข้าสู่ระดับเสือภายในระยะเวลาสั้นๆ หลังจากใช้เซรุ่มเพื่อกระตุ้นศักยภาพของเธอการชี้นำอย่างระมัดระวังขอ
อสูรดาราในอสูรกาแล็กซีเหล่านี้ไม่ได้ฆ่าหลินตงทันที แต่เลือกที่จะค่อยๆ เข้าใกล้และบีบวงล้อมของพวกมันพวกเขาจะทำเช่นนี้เพราะทั้งหลินตงและคนอื่นๆ ต่างก็เป็นปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินที่มีศาสตราเทพมายาอันตรายอย่างยิ่งหากทั้งสองร่วมมือกันและโจมตีฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งโดยกะทันหัน ก็มีแนวโน้มว่าจะส่งผลให้ได้รับบาดเจ็บสาหัสหรือถึงแก่ชีวิตได้ดังนั้นจึงจำเป็นต้องป้องกันไม่ให้หลินตงและเฉินจิงจื่อหานตอบโต้ตราบใดที่ขวางทางถอยของหลินตงและค่อยๆ รุกคืบ แม้ว่าหลินตงจะลอบโจมตี พวกเขาก็จะมีเวลาตอบสนองและหลีกเลี่ยงผลที่ตามมาอันเลวร้ายหากปรมาจารย์ระดับเซียนเดินดินเกือบสามสิบคนรวมใจกันเป็นหนึ่ง แล้วโจมตีพร้อมกัน โดยไม่สนว่าตัวเองจะบาดเจ็บหรือไม่ หลินตงกับเฉินจิงจื่อหานจะไม่มีโอกาสต้านทานท้ายที่สุดแล้ว ความแตกต่างด้านจำนวนคนของทั้งสองฝ่ายนั้นมากมายเกินไปน่าเสียดายที่ไม่ใช่พวกเขาอสูรยักษ์สีทองเหล่านี้คือกำลังรบชั้นนำของเผ่าพันธุ์ของตน ไม่เพียงแต่เป็นตัวแทนของเผ่าพันธุ์ตัวเองเท่านั้น แต่ยังเป็นตัวแทนของอสูรดาราที่ัตัวเองสังกัดอยู่ด้วยหากใครคนใดคนหนึ่งถูกหลินตงเล็งเป้าโจมตีอย่างกะทันหันจนได้รับบาดเจ
หลังจากเข้าใกล้เต่ายักษ์แล้ว พวกเขาก็ถอนกายาทองคำอมตะและยืนอยู่บนกระดองของมันอย่างไรก็ตาม พวกเขาไม่ได้กลับไปที่คฤหาสน์การเคลื่อนไหวของพวกเขาดึงดูดความสนใจของอสูรยักษ์สีทองที่อยู่รอบ ๆ ทันที“เกิดอะไรขึ้น? เมื่อกี้แกยังทำเป็นเก่งอยู่เลยไม่ใช่เหรอ? ไม่เพียงแต่แกเรียกพวกเราว่าสัตว์เดรัจฉาน แถมยังบอกอีกว่าถึงเราจะโจมตีพร้อมกัน ก็ยังไม่สามารถฆ่าแกได้ ตอนนี้ทำไมล่ะ? กลัวขึ้นมาแล้ว? ถ้ากแน่กริงก็เข้ามา! มาสู้กันอีกสามร้อยยก!” ป้าเทียนเยาะเย้ย"ชิ!!! ในหัวนั่นมีสมองอยู่ไหม? แกมองยังไงว่าฉันหนี? ถ้าฉันกลัวคงวิ่งหนีไปแล้ว? ตอนนี้ฉันยืนอยู่ตรงนี้ ถ้าพวกแแกกล้าก็มาฆ่าฉันสิ!" เฉินจิงจื่อหานตะโกนตอนนี้ เขาได้กลับมามีท่าทีเหมือนเจ้าสำนักน้อยแห่งสำนักดาวสวรรค์อีกครั้งแล้วนี่แหละยังอธิบายได้ว่า ใช้อำนาจรังแกคนอื่นมีไป๋หลี่เหยียนหง ปรมาจารย์ระดับราชันย์อมตะหนุนหลังอยู่แน่นอนว่าเขาจะไม่กลัวขยะพวกนี้เฉินจิงจื่อหานเมินอสูรยักษ์สีทองที่กำลังเข้ามาเหล่านี้แต่หลินตงที่อยู่ข้างๆ กลับรู้สึกกังวลเล็กน้อยไป๋หลี่เหยียนหงเคยกล่าวไว้90% ของพลังการต่อสู้ของเธอ จะต้องใช้เพื่อระงับความปรารถนาที่กำ
คำพูดของเฉินจิงจื่อหาน เรียกได้ว่าด่าอสูรยักษ์สีทองเรียงแบบเหมารวมเลยพวกเขาคืออสูรดาราที่สูงส่ง เคยโดนเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่ ถึงกลับถูกด่าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานนี่มันเกินกว่าที่ใครจะทนได้แล้วจริง ๆแต่ถึงอย่างนั้น ก็ยังไม่มีใครกล้าลงมือทันทีแต่เพราะกำลังรอการกระทำต่อไปของป้าเทียนป้าเทียนคือหนึ่งในสามปรมจารย์อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินของมังกรทลายฟ้าถูกซัดจนบาดเจ็บไม่พอ ยังโดนด่าเป็นสัตว์เดรัจฉานอีก แน่นอนว่าไม่มีทางปล่อยอีกฝ่ายไว้ได้"ดี! ดีมาก! ดีจริงๆ !"ป้าเทียนพูดคำว่าดีออกมาติดกันถึงสามครั้ง ก่อนจะตะโกนลั่น “พี่ใหญ่! พี่รอง! พวกท่านก็ได้ยินใช่ไหม ไอ้มนุษย์นั่นมันกล้าด่าพวกเรามังกรทลายฟ้าว่าเป็นสัตว์เดรัจฉานเลือดโสโครก มังกรทลายฟ้าเคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีขนาดนี้เมื่อไหร่กัน? แล้วพวกคุณ เมื่อครู่ก็โดนด่าเหมือนกัน ทุกคนยังจะทนได้อยู่อีกเหรอ?”คำพูดของเขายังไม่ทันจบดี ก็มีเสียงตอบรับดังกลับมา“ทุกคนลุยพร้อมกันเลยเถอะ! รีบจัดการให้จบเร็วๆ ตามที่น้องสามของฉันพูดเมื่อกี้ ของรางวัลจากศึกนี้ มังกรทลายฟ้าของฉันขอแค่สนับมือ ส่วนที่เหลือ พวกคุณก็เอาไปแบ่งกันเอ
ไม่ว่าจะเป็นหลินตง หรือมนุษย์ที่อยู่ข้างเขา ก็ไม่ต่างกันหลินตงสามารถข้ามระดับย่อยสองขั้น แล้วเอาชนะปรมาจารย์เซียนเดินดินตอนปลายอย่างหยวนเซิงได้มนุษย์หนุ่มคนนี้ก็ไม่ธรรมดาเช่นกัน สามารถข้ามย่อยหนึ่งระดับ แล้วเอาชนะป้าเทียน ที่อยู่ระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดินเหล่าอสูรยักษ์สีทองที่ล้อมอยู่รอบๆ ต่างก็อิจฉาตาร้อนพวกเขาแทบรอไม่ไหว อยากจะลงมือจัดการหลินตง เพื่อแย่งชิงศาสตราเทพมายาที่เขาครอบครองไว้ถ้าแย่งมาได้ ตัวเองก็จะมีพลังที่สามารถสู้ข้ามระดับเช่นกัน“อาณาจักรนิรันดรระดับจุดสูงสุดเซียนเดินดิน? มีแค่นี้เองเหรอ!!! ฮ่า ๆๆ” เฉินจิงจื่อหานหลังจากซัดป้าเทียน แล้วก็ยังยืนหัวเราะลั่นอยู่ที่เดิมเสียงหัวเราะของเขานั้น ป้าเทียนได้ยินเต็มๆ ช่างบาดหูมากการที่ตัวเองถูกมนุษย์ที่มีพลังต่ำกว่าหนึ่งขั้นเล่นงาน จนได้รับบาดเจ็บถือเป็นความอัปยศครั้งใหญ่ที่สุดในชีวิตของเขาเลยในอสูรกาแล็กซี มังกรทลายฟ้าคือเผ่าพันธุ์อันดับหนึ่ง ไม่มีเผ่าพันธุ์ใดกล้าท้าทายเคยชินกับการใช้กำลังข่มขู่ จนกลายเป็นนิสัยของพวกเขา และไม่เคยถูกเหยียบศักดิ์ศรีแบบนี้มาก่อน?ในเวลานี้ ในใจของป้าเทียนเองก็เต็มไปด้วยความตกตะลึ
ป้าเทียนหลบหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานได้เพียงฉิวเฉียด แต่ยังไม่ทันได้โต้กลับ หมัดอีกข้างของเฉินจิ้งจื่อหานหมัดอีกข้างก็พุ่งเข้าใส่ทันทียังคงเป็นหมัดดาวสวรรค์สยบมารอันทรงพลัง ป้าเทียนถึงกับมองเห็นอย่างลางๆ ที่เหนือหมัดดาวสวรรค์สยบมารของเฉินจิงจื่อหานมีดาวเคราะห์สีแดงเพลิงขนาดมหึมาความร้อนแผ่ซ่าน ทำให้เขารู้สึกว่าผิวหนังกำลังร้อนแสบหมัดนี้ เขาหลบไม่ทัน จึงทำได้แค่รับมันไว้อย่างเต็มแรงหมัดราชันย์!!!แต่ป้าเทียนก็ไม่ยอมแพ้สวนกลับด้วยหมัดราชันย์ สุดยอดไม้ตายของมังกรทลายฟ้าฟาดใส่เเฉินจิงจื่อหานเต็มแรงเฉินจิงจื่อหานเผยสีหน้าเหยียดหยามถึงหมัดของป้าเทียนจะดูทรงพลังไม่น้อยแต่หากเทียบกับ หมัดดาวสวรรค์สยบมาร หนึ่งในสุดยอดวิชาของสำนักดาวสวรรค์แล้ว ยังห่างกันเกินไป และไม่ได้อยู่ในระดับเดียวกันด้วยซ้ำและที่สำคัญ ตอนนี้เฉินจิงจื่อหานยังมีศาสตราเทพมายาที่พ่อมอบให้---เปลวตะวันสนับมือถูกสร้างขึ้นมาโดยเฉพาะ เพื่อใช้คู่กับหมัดดาวสวรรค์สยบมาร เมื่อทั้งสองผสานรวมกัน พลังจะยิ่งรุนแรงยิ่งกว่าเดิมแม้จะยังเทียบไม่ได้กับตอนที่หลินตงใช้ดาบกำราบมารร่ายวิชาดาบกำราบมารแต่ถึงอย่างนั
ไม่แน่อาจจะมีชิ้นที่สาม หรือชิ้นที่สี่ก็ได้และคนที่ดีใจที่สุดท่ามกลางทุกคน คงหนีไม่พ้นป้าเทียนแห่งมังกรทลายฟ้าเขามีวิชาหมัดราชันย์ ซึ่งต้องอาศัยสนับมือช่วยเสริมพลัง จึงจะสามารถปลดปล่อยพลังออกมาอย่างเต็มที่ไม่ทันได้ออกแรง ก็มีคนเอามาประเคนถึงหน้าสนับมือศาสตราเทพมายาคู่นั้น ต้องเป็นของเขาป้าเทียนเมื่อได้สนับมือมาครอบครองแล้ว พลังของหมัดราชันย์ จะต้องเพิ่มขึ้นแบบก้าวกระโดดอย่างแน่นอน“ฮ่าๆ นึกไม่ถึงจริงๆ พวกแกรู้ได้ยังไงว่า ฉันกำลังต้องการสนับมือศาสตราเทพมายาอยู่? ถึงกับรีบเอามาส่งให้ฉันถึงที่ ถ้าเป็นแบบนี้ ฉันก็ไม่เกรงใจล่ะนะ สนับมือคู่นี้ ใครก็ห้ามแย่ง ส่วนของอย่างอื่น ฉันไม่ต้องการ” ป้าเทียนพูดพร้อมหัวเราะเสียงดัง“ได้เลย! ป้าเทียน! สนับมือคู่นี้ให้คุณ ส่วนศาสตราเทพมายาชิ้นอื่น ไม่ว่าจะมีอีกกี่ชิ้น คุณห้ามแตะต้องเด็ดขาด”“ใช่! ป้าเทียน สนับมือคู่นั้นให้คุณ แล้วต่อให้หลินตงไม่มีศาสตราเทพมายาเหลืออีก เราก็จะไม่แย่งกับคุณ แต่คุณก็ต้องให้สัญญาว่า จะเอาแค่สนับมือเท่านั้น”“ตกลง!!! ฉันจะเอาแค่สนับมือ ส่วนของชิ้นอื่นให้พวกคุณ” ป้าเทียนตอบกลับ"สัญญา!!!""สัญญา!!!"“ดูท่าพวกแก
ท่ามกลางฝูงอสูรยักษ์สีทองอาณาจักรนิรันดระดับเซียนเดินดินกว่าสิบตัวที่ล้อมรอบอยู่ ทุกตัวดูฮึกเหิมและพร้อมเปิดฉากโจมตีหลินตงไม่ได้รู้สึกหวาดกลัวแม้แต่น้อย และพูดด้วยสีหน้าเรียบเฉย "ฉันคิดไว้อย่างดีแล้ว ก็อยากให้พวกนายได้ศาสตราเทพมายามากกว่านี้เหมือนกัน แต่มันก็ช่วยไม่ได้! หามาได้แค่อันเดียวเอง ฉันก็ไม่ใช่นักมายากล จะเสกของตามใจพวกนายได้ยังไง""ทุกคน! ดูท่าหลินตงจะไม่คิดยกศาสตราเทพมายาให้ พวกเราจะรออะไรกันอีก ลงมือเลยเถอะ! แค่ฆ่าหลินตงให้ได้ ไม่ว่าเขาจะมีศาสตราเทพมายากี่ชิ้น สุดท้ายก็เป็นของพวกเราทั้งนั้นแหละ!" หยวนหมิงที่อยู่ข้างๆ เร่งเร้าเขาอยากจัดการหลินตงให้จบๆ โดยเร็วถ้าปล่อยไว้นานเกินไป อาจมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นก็ได้เพราะหยวนหมิงสังเกตเห็นบางอย่างผิดปกติเมื่อต้องเผชิญหน้ากับปรมาจารย์ระดับเดียวกันมากมายขนาดนี้หลินตงไม่เผยความกลัวแม้แต่น้อย มีเพียงความเยือกเย็นส่วนชายหนุ่มที่มากับเขา ก็แสดงสีหน้าเหยียดหยามออกมาแค่แวบเดียวแม้สีหน้านั้นจะปรากฏเพียงแวบเดียว แต่ก็ยังถูกหยวนหมิงสังเกตเห็นที่เกิดสถานการณ์แบบนี้ไม่อย่างนั้นสองคนนี้ก็ซื่อบื้อมากหรือไม่ก็ยังไม่ได้เอาไ
แผนฆ่าคนไม่ให้มือตัวเองเปื้อยนเลือด เรียกได้ว่าสมบูรณ์แบบแทบไม่ต้องเปลืองแรงใด ๆ ก็สามารถกำจัดมังกรเก้าหัวได้อย่างไรก็ตาม วิกฤตนั้นได้รับการแก้ไขอย่างง่ายดายโดยหยวนหมิงหลินตงมองดูท่าทางของอสูรยักษ์สีทองมากกว่าสิบตัวที่อยู่รอบตัวเขาเขารู้ว่าคำพูดของหยวนหมิงมีอิทธิพลต่อพวกเขาแล้วศาสตราเทพมายาชิ้นเดียว ก็สามารถทำให้พวกเขาต่อสู้จนตายได้ไม่ต้องพูดถึงหลายชิ้นหรือแม้แต่สิบชิ้นประเด็นสำคัญคือหลินตงไม่มีทางอธิบายสถานการณ์นี้ได้เดิมทีตั้งใจจะยืมมีดฆ่าศัตรู แต่จู่ ๆ ก็ถูกตลบหลังโดยไม่ทันตั้งตัวตอนนี้กลับกลายเป็นเขาเองที่จนมุม ไม่มีทางให้ถอยแล้วหลินตงส่ายหัวอย่างช่วยไม่ได้แน่นอนว่าหยวนหมิง ผู้ซึ่งสามารถขึ้นสู่อาณาจักรนิรันดรและกลายเป็นผู้นำเผ่ามังกรเก้าหัว ไม่ใช่คนโง่ในขณะเดียวกัน เฉินจิงจื่อหานเฝ้าดูทุกอย่างดำเนินไปด้วยความสนใจอย่างยิ่งด้วยฐานะของเขา จึงไม่จริงจังกับอารยธรรมระดับกลางเช่นนี้มากนักแม้ว่าคู่ต่อสู้จะมีจำนวนมากและทรงพลัง แต่ถ้าเขาต่อสู้อย่างจริงจังและใช้ไพ่เด็ดทั้งหมด เขาก็ไม่กลัวสัตว์ร้ายมากกว่าสิบตัวเหล่านี้ท้ายที่สุดแล้ว อารยธรรมระดับสูงนั้นเกินกว่าที่
ปรมาจารย์อาณาจักรนิรันดรของอสูรกาแล็กซีต่างก็พยักหน้ารับรู้ขณะที่พวกเขากำลังเตรียมโจมตีและสังหารหยวนหมิงและหยวนเซิงจู่ๆ หยวนหมิงก็คิดวิธีที่ดีในการหาทางออกขึ้นมาเขาตะโกนทันที "ทุกคน ได้โปรดอย่าหลงกลอุบายของหลินตง เป้าหมายของเขา คือการใช้ศาสตราเทพมายาเพื่อล่อพวกเราอสูรกาแล็กซีให้ต่อสู้กันเอง ตราบใดที่เราร่วมมือกันฆ่าเขา ศาสตราเทพมายาก็จะเป็นของทุกคนไม่ใช่เหรอ? มังกรเก้าหัวของฉันสัญญาว่าจะไม่เข้าร่วมการแย่งชิงนี้ พวกคุณได้ไตร่ตรองยัง? มีศาสตราเทพมายาเพียงหนึ่งเดียว แล้วทุกคนจะแบ่งกันอย่างไร? มันจะเป็นการต่อสู้ที่ดุเดือดอีกครั้งภายใอสูรกาแล็กซี ซึ่งหลินตงได้วางแผนไว้แล้ว จิตใจของเขาชั่วร้ายเกินกว่าจะปล่อยไว้ได้"หลังจากหยุดชั่วครู่ หยวนหมิงก็พูดต่อ "นอกจากนี้ หลินตงยังเจอศาสตราเทพมายาในซากปรักหักพังโบราณอีกด้วย ใครเล่าจะรับประกันได้ว่าเขาเจอเพียงชิ้นเดียว? ถ้าเขาเจอเพียงชิ้นเดียวจริง ๆ แล้วศาสตราเทพมายาล้ำค่าขนาดนี้ เขาจะเต็มใจเอาออกมาให้ทุกคนเหรอ? ฉันคิดว่า เขาต้องพบหลายชิ้นแน่ๆ ตอนนี้เอาออกมาเพียงชิ้นหนึ่งเพียง เพื่อกระตุ้นความขัดแย้งภายในอสูรกาแล็กซีของเรา"“สิ่งที่เราควรทำตอนน