รุ่งเช้าของวันต่อมา สวีเหลียนฮวาลืมตาตื่นขึ้นมาพร้อมกับอาการปวดหนึบที่ศีรษะเป็นอย่างมาก นางคงดื่มเยอะไปสินะเมื่อคืนนี้
"ตื่นแล้วก็ปล่อยข้าเสียที!!!"
สวีเหลียนฮวาที่ได้ยินเสียงของอวิ๋นซีเฉินก็รู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างยิ่ง นางรีบเงยหน้าไปมองทันที ก่อนจะพบว่าเป็นอวิ๋นซีเฉินจริง ๆ
"ฝ่าบาท!!!"
"ปล่อยมือจากกายข้า!!!"
"เพคะ?"
"เจ้าจับสิ่งใดอยู่เล่าตอนนี้ แหกตาดูเสีย!!!"
สวีเหลียนฮวารู้สึกว่ามือของนางจับบางสิ่งบางอย่างอยู่จริง ๆ จึงหันขวับไปมองทันที ก่อนจะต้องเบิกตากว้างด้วยความตกใจ
"อ๊าส์!!!"
"แหกปากทำไมกัน!!!"
สวีเหลียนฮวารีบดีดตัวลุกหนีออกมาจากเขาทันที แต่ทว่าดวงตาคู่สวยกลับมิอาจหยุดมองลำแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ของเขาได้เลย
อวิ๋นซีเฉินรีบสวมอาภรณ์ให้เรียบร้อย ก่อนจะเดินเข้าไปกระชากตัวนางเข้ามาหาเขา เมื่อคืนเขาต้องอดทนอดกลั้นต่อความอยากขนาดไหน!!!
สวีเหลียนฮวาพยายามผลักไสเขาออกไป ในใจนึกก่นด่าตนเองอยู่หลายครา
"หึ!!! เสแสร้งเก่งเสียจริง เมื่อคืนยังออเซาะข้าอยู่เลย!"
"หม่อมฉันคงเมาเพคะ"
"เช่นนั้นหรือ? คนอย่างเจ้าน่ะมันเชื่อถือไม่ได้ แต่จะโทษเจ้าไปเสียทั้งหมดก็มิถูก ข้าเองก็หล่อเหลาเสียจนเจ้าอดใจไม่ไหว!"
"อุแหวะ!!!"
"บัดซบ!!! เจ้านี่มัน!!!"
"ขออภัยเพคะ อุแหวะ!!!"
"ออกไปไกล ๆ ข้า!!!"
อวิ๋นซีเฉินผลักนางให้ห่างกายก่อนจะถอดอาภรณ์ตัวนอกที่เปื้อนคราบน้ำลายของนางโยนทิ้งลงไปบนพื้น ดวงตาคมจ้องมองนางด้วยความดูแคลน สวีเหลียนฮวาเดินตรงไปที่อ่างน้ำก่อนจะล้างหน้าล้างตาให้สะอาดหมดจด
"ฝ่าบาททรงรอสิ่งใดหรือเพคะ เหตุใดจึงยังมิไปอีกเพคะ?"
"เจ้ากล้าไล่ข้าหรือ?"
"หม่อมฉันอยากล้างตัวน่ะเพคะ พระองค์ทรงอยู่ที่นี่คงจะไม่เหมาะเท่าใดนัก โอ๊ย!!! เจ็บนะเพคะ"
เขาผลักนางให้ล้มลงไปบนพื้นอย่างแรงจนสวีเหลียนฮวาเจ็บบั้นท้ายไม่เบา
"เฮอะ!!! คิดว่าข้าอยากดูนักหรือ! ข้าไม่สนสักนิด!!!"
เขาสะบัดชายเสื้อเดินจากไปทันทีอย่างไม่รั้งรอ สวีเหลียนฮวาถอนหายใจโล่งอกทันที นางไม่ชอบเขาเอาเสียเลย
เขาเดินกลับมาที่ตำหนักมังกรสวรรค์ ก่อนจะผลัดเปลี่ยนฉลองพระองค์ใหม่ เพื่อเตรียมจะออกไปประชุมเช้าที่ท้องพระโรง
"ฝ่าบาท"
"ราชเลขา เจ้าไสหัวไปเสีย!!! ก่อนที่ข้าจะโมโหไปมากกว่านี้!!!"
ราชเลขาก้มหน้างุด เขาทำผิดเรื่องใดกัน เมื่อวานก่อนเขาเพียงนำโอสถมาให้ฝ่าบาท แต่ทว่าเมื่อฝ่าบาททรงทอดพระเนตรเห็นคราบโจ๊กที่ขันทีบัดซบผู้ใดก็ไม่รู้ถุยกระเด็นมาโดนที่จานรอง ฝ่าบาทก็กริ้วเขาเป็นอย่างมาก
อวิ๋นซีเฉินมองราชเลขาที่เดินออกไปนอกตำหนักด้วยแววตาที่เย็นชา เป็นราชเลขามานานกลับไม่คิดจะหาทางหลบหลีก!!!
แต่ทว่าข้าก็คงปล่อยให้มันพุ่งแรงไป!!! ช่างมันเถิด ข้าไม่ผิด ข้าทนไม่ไหวใครจะทำไม!!!
เมื่อจัดการเปลี่ยนฉลองพระองค์เสร็จเรียบร้อยแล้วเขาจึงมุ่งหน้าไปที่ท้องพระโรงทันที
"ทูลฝ่าบาท แคว้นเยี่ยน แคว้นเย่ว์คิดแข็งข้อพ่ะย่ะค่ะ มิทรงส่งเครื่องบรรณาการมาให้ต้าเทียนร่วมเดือนแล้วพ่ะย่ะค่ะ"
อวิ๋นซีเฉินอ่านฎีกาในมือไปพร้อมกับฟังเหล่าขุนนางร้องเรียนไปด้วย เขามิค่อยแปลกใจเท่าใดนัก แต่ไหนแต่ไรมา เยี่ยนอ๋องและเย่ว์อ๋องก็มิเคยยอมสวามิภักดิ์ให้ต้าเทียนอยู่แล้ว
เมื่อหลายปีก่อนเสด็จพ่อทรงรบชนะเหล่ากบฏต่างแคว้นได้ และสถาปนาต้าเทียนเป็นเมืองหลวง ฉินอ๋องและหานอ๋องคนก่อนคิดแข็งข้อ ยุยงแคว้นทั้งสี่ให้ก่อกบฏอีกคราจึงถูกสังหารทิ้งเสีย เสด็จพ่อจึงส่งเสด็จอาไปปกครองแคว้นฉินและแคว้นหานแทนเสีย อีกนัยหนึ่งก็เพื่อจะให้เสด็จอาคอยเป็นหูเป็นตาสอดส่องชายแดนทั้งสี่เอาไว้
เยี่ยนอ๋อง เย่ว์อ๋อง ยอมสวามิภักดิ์ด้วยมิอยากสูญเสียแคว้นของตนไป แต่ทว่าลึก ๆ แล้วเขาย่อมรู้ดีว่าสองแคว้นนี้กำลังรอโอกาสโจมตีเมืองต้าเทียนเขาอยู่
"ปล่อยพวกมันไปก่อน ข้าอยากจะรู้นักว่าพวกมันคิดจะก่อความวุ่นวายเรื่องใดขึ้นมาอีก"
"ทูลฝ่าบาท มิเช่นนั้นเราควรอภิเษกธิดาของเยี่ยนอ๋องกับเย่ว์อ๋องเข้ามาเป็นพระสนมดีหรือไม่พ่ะย่ะค่ะ"
"ไม่ดี พวกนางคงคิดสอดส่องหาทางส่งข่าวไปบอกบิดาของพวกนางเป็นแน่ เจ้านี่ช่างโง่เสียจริง!!! เป็นขุนนางมาหลายปี กลับคิดชักศึกเข้าบ้าน ลากไปโบยห้าสิบไม้!!!"
"ฝ่าบาท!"
"ไสหัวไป!!!"
เขาคร้านจะสนใจขุนนางโง่งมเหล่านี้เสียแล้ว จึงยกเลิกการประชุมไปเสียกลางคัน ราชเลขาที่เห็นเช่นนั้นจึงรีบตามไปทันที
"ฝ่าบาท"
"มีสิ่งใดอีก?"
"คืนนี้จะต้องทรงร่วมพิธีสรงน้ำกับฮองเฮานะพ่ะย่ะค่ะ"
อวิ๋นซีเฉินขมวดคิ้วมุ่น เขาลืมไปเสียสนิทเลย ที่ต้าเทียนจะมีพิธีศักดิ์สิทธิ์หลังจากฮ่องเต้และฮองเฮาอภิเษกสมรสกันแล้ว นั่นคือพิธีสรงน้ำร่วมอ่างเดียวกัน
พิธีสรงน้ำนี้ มีเพียงฮองเฮาผู้เป็นภรรยาเอกเท่านั้นที่จะสามารถร่วมพิธีได้ ภายในสระน้ำจะมีดอกไม้หลากชนิดโรยเอาไว้ส่งกลิ่นหอมสดชื่น ทั้งสองจะต้องแช่น้ำร่วมกันเป็นเวลาครึ่งชั่วยามท่ามกลางแสงจันทร์ที่ส่องแสงนวลสว่าง เพื่อให้เทพสวรรค์เป็นพยานว่าทั้งสองจะครองคู่กันชั่วนิรันดร์และร่วมกันปกครองบ้านเมืองให้สงบสุข
อวิ๋นซีเฉินยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เขาหาทางเอาคืนนางได้แล้ว ให้นางแช่น้ำทั้งคืนจนหนาวตายคงจะสะใจดีไม่น้อย
เมื่อคิดได้เช่นนั้นเขาจึงสั่งให้ราชเลขาไปจัดการพิธีให้เรียบร้อย
สวีเหลียนฮวาที่ได้ยินขันทีมาแจ้งเรื่องพิธีสรงน้ำในคืนนี้ก็รู้สึกหงุดหงิดเป็นอย่างมาก นางพยายามหาทางหลบเขา นางอยากอยู่ในส่วนของนาง แต่เขาก็พยายามหานั่นนี่มาให้นางทำอยู่เรื่อย ๆ
สวีเหลียนฮวาขมวดคิ้วมุ่นพลางครุ่นคิด นางไม่ไว้ใจเขาเสียเลย คนอย่างอวิ๋นซีเฉินเกลียดนางออกปานนั้น เขาย่อมไม่มีวันปล่อยนางแช่น้ำอย่างสงบสุขเป็นแน่
ต้องระวังตัวให้ดี!!!
เวลาผ่านล่วงเลยมาจนถึงเวลาที่พระอาทิตย์ลับขอบฟ้า สวีเหลียนฮวาถูกเหล่านางกำนัลแต่งกายให้อย่างประณีต ก่อนจะพานางไปยังพิธีสรงน้ำที่เตรียมเอาไว้
เมื่อมาถึงนางกลับพบว่าอวิ๋นซีเฉินกำลังนั่งอยู่ในสระน้ำ เขาเอนกายพิงศีรษะกับขอบสระและหลับตาไว้ เมื่อได้ยินว่าสวีเหลียนฮวามาแล้ว เขาจึงลืมตาขึ้น
"ยืนบื้ออยู่ทำไม!!! แก้ผ้าแล้วรีบ ๆ ลงมาสิ!!! ข้ามิสนใจเรือนร่างสกปรกของเจ้าหรอก"
เมื่อได้ยินอวิ๋นซีเฉินบอกว่านางต้องแก้ผ้าแช่น้ำร่วมกับเขา ใบหน้าสวยหวานก็พลันแดงระเรื่อขึ้นมาทันที
บ้าจริง!!! นี่นางต้องแก้ผ้าอาบน้ำร่วมกับคนเป็นโรคประสาทอย่างนั้นหรือ?
"ฮองเฮา จะทรงเลยฤกษ์ดีแล้วนะเพคะ พระองค์"
"ข้ารู้แล้ว"
สวีเหลียนฮวาจึงพยักหน้าให้หลิวหมัวมัวและหลิงเจียวมาช่วยนางถอดเสื้อผ้าออกจนหมด และประคองนางลงไปแช่ในสระน้ำที่ถูกจัดเตรียมเอาไว้
อวิ๋นซีเฉินหลับตาลงเช่นเดิม ก่อนจะแอบหรี่ตาเพ่งมองนางคราหนึ่ง ทำให้เขาได้เห็นตอนที่นางถอดเสื้อผ้าออกพอดี
ผิวพรรณของนางนวลเนียนและขาวราวหิมะ เอวบางที่คอดเล็ก กับบั้นท้ายที่งอนงามชวนมอง ทำให้เขารู้สึกสั่นสะท้านเกินจะทน ยิ่งได้มองเห็นหน้าอกอวบอิ่มสองเต้าของนางที่มียอดปลายถันสีหวานชวนหลงใหล ก็ยิ่งทำให้ใบหน้าหล่อเหลาของเขาแดงระเรื่อขึ้นมา
สวีเหลียนฮวาแช่กายลงไปในบ่อน้ำ ตั้งแต่เกิดมานางยังไม่เคยถอดเสื้อผ้าให้ผู้ใดดูเลย น่าอับอายเสียจริง!!!
นางได้กลิ่นหอมของบุปผาหลากหลายชนิดที่ถูกโรยมาในสระน้ำก็รู้สึกดีเหลือเกิน แต่ทว่าในน้ำนี่ช่างเย็นยิ่งนัก
เขาจงใจบังคับให้นางแช่ในน้ำเย็น!!! คนนิสัยไม่ดี
อวิ๋นซีเฉินที่เห็นเช่นนั้นก็ยกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เขาจะคอยดูว่านางจะทนทานต่อความหนาวเย็นได้หรือไม่ เขาเองมิสะทกสะท้านสิ่งใดอยู่แล้ว เพราะเขาชื่นชอบน้ำเย็น ๆ มาตั้งแต่ยังเด็ก
สวีเหลียนฮวารู้สึกหนาวไม่น้อย แต่นางยังพอทนไหว ทั้งสองนั่งหลบสายตากันไปมาอยู่เช่นนั้น จนผ่านไปครู่หนึ่งสวีเหลียนฮวาก็เหลือบไปเห็นกบตัวสีเขียวขนาดใหญ่ที่กำลังเกาะอยู่ริมขอบสระ!!!
นางกลัวกบ!!!
"ฝ่าบาท!!!"
"เรียกทำไม!!!"
"กบเพคะ!!! หม่อมฉันกลัวกบเพคะ!!!
สวีเหลียนฮวารู้สึกตื่นตระหนกเป็นอย่างมาก นางจึงขยับเข้ามาใกล้เขา ก่อนจะจับแขนของเขาเอาไว้แน่น
"ปล่อยข้า!!!"
"ไม่เพคะ!!! มันจ้องหม่อมฉัน!!!"
"แค่กบตัวเดียว!!!"
"ฝ่าบาท!!!"
"โอ๊ะ!!!"
มารดามันเถอะ!!! นางเอานมมาถูหลังข้า!!!
สวีเหลียนฮวาหวาดกลัวเป็นอย่างมาก นางหลบไปอยู่ด้านหลังของเขา ก่อนจะแนบกายเข้าไปชิดกับแผ่นหลังของอวิ๋นซีเฉิน สองเต้าอวบอิ่มจึงบดเบียดเสียดสีกับแผ่นหลังของเขาทันที
อวิ๋นซีเฉินซู้ดดปากด้วยความเสียวกระสัน แม้เขาจะมิเคยหลับนอนกับสตรีใดมาก่อน แต่อย่างไรเสียเขาก็เป็นบุรุษ มีสตรีมาบดเบียดแนบชิดเช่นนี้เขาจะไม่รู้สึกได้เช่นไร!!!
"อ๊าส์!!! ฝ่าบาท!!!"
"มันไปแล้ว!!! ซี้ดดดด"
"ฝ่าบาททรงส่งเสียงครางทำไมเพคะ!!! หรือว่า!!! กบมัน!!!"
"หุบปาก!!! หน้าอกเจ้าถูไถกับหลังของข้า!!! หน้าไม่อาย!!!"
สวีเหลียนฮวาที่ได้ยินเช่นนั้นจึงรีบผละออกจากเขาทันที
อวิ๋นซีเฉินจ้องมองนางด้วยแววตาไม่พอใจ สวีเหลียนฮวาที่เห็นเช่นนั้นจึงแสร้งเบือนหน้าหนีไปมองที่อื่นแทน
ก็นางตกใจกบนี่นา!!!
อวิ๋นซีเฉินรู้สึกอยากจับนางกดน้ำอีกสักครา บัดซบ!!! เพราะนางคนเดียว นางทำให้เขาต้องใช้มือรูดชักลำแท่งในน้ำเช่นนี้!!!
เขามองนางไปพลาง มือใหญ่ก็สาวชักลำแท่งที่แข็งชูชันอยู่ใต้น้ำไปพลางด้วยความเสียวกระสัน สวีเหลียนฮวารู้สึกว่าใต้น้ำมีบางอย่างเคลื่อนไหวแต่นางก็ไม่ได้ใส่ใจเท่าใดนัก
อวิ๋นซีเฉินพยายามจะทำให้มันเสร็จสมอารมณ์โดยเร็ว แต่ลำแท่งสวรรค์ของเขาก็ช่างแข็งทนนานเสียเหลือเกิน!!!
สตรีต่ำช้า!!! ใครสั่งให้เจ้ารีบขยับหน้าอกออกไปกัน!!!
"ฝ่าบาทเพคะหม่อมฉันหนาวแล้ว!'
"ไม่มีคำสั่งจากข้า เจ้าอย่าหวังจะได้ลุกไปจากสระน้ำแห่งนี้!!!"
"อยากจะแช่ก็ทรงแช่ไปคนเดียวเถอะเพคะ หม่อมฉันขอทูลลา!!!"
"หยุด!!!"
"โอ๊ะ!!! ว้าย!!!"
อวิ๋นซีเฉินกระชากแขนนางให้นั่งลงมาในสระน้ำเช่นเดิม แต่ทว่าสวีเหลียนฮวากลับเซถลามานั่งทับลงบนท่อนขาแกร่งของเขา ลำแท่งแก่นกายใหญ่ยาวที่อ่อนลงแล้วเริ่มกลับมาแข็งชูชันอีกครา ทำให้ท่อนเนื้อท่อนเอ็นนั้นถูไถมาโดนร่องหลืบสวาทของนางเข้าพอดี ยิ่งนางพยายามลุกขึ้นลำแท่งมังกรสวรรค์ก็ยิ่งจ่อมาที่รูสวยของนางมากกว่าเดิม
สวีเหลียนฮวาสะดุ้งเฮือกนางรีบหันไปมองหน้าอวิ๋นซีเฉินทันที เขาเองก็สบตากับนางด้วยท่าทีกระอักกระอ่วน
แท่งบัดซบ!!! มันไม่เชื่อฟังข้าเลย
"ฝ่าบาทเพคะ!!!"
"ลุกไปสิเจ้าจะรอให้มันเสียบเข้าไปก่อนหรือ? อย่าฝันลม ๆ แล้ง ๆ !!!"
"ฝะ ฝ่าบาท!!!"
"มีสิ่งใดอีก!!!"
"คือว่า!!! ปลายหัวมันทิ่มเข้ามานิดหน่อยเพคะ ฝ่าบาททรงไม่รู้สึกบ้างหรือเพคะ!!! อื้ออ"
อวิ๋นซีเฉิน "..."
สวีเหลียนฮวากลับมาถึงต้าเทียนได้หลายวันแล้ว ยามนี้ท่านแม่ทัพใหญ่สวีที่รู้สึกผิดต่อบุตรสาวก็พยายามมาขอพบนางที่ตำหนักเฟิ่งหวง แต่สวีเหลียนฮวากลับไม่ยอมให้เขาเข้าพบเลยสักครั้งนางมิใช่สวีเหลียนฮวาคนเก่า และนางรู้ดีว่านี่คือความตั้งใจของสวีเหลียนฮวาที่ตายไปแล้ว บิดาผู้นี้ไม่เคยเห็นนางเป็นบุตรสาว เพราะนางอ่อนแอ และสู้สวีหลานฮวาไม่ได้ อีกทั้งตอนที่นางหนีไปจากต้าเทียน หลิงเจียวได้เล่าให้นางฟังว่า แม่ทัพใหญ่สวีโกรธนางมาก ถึงกับมาทูลต่อไท่ซังหวงว่านางคือความอับอายของตระกูลสวี ไท่ซังหวงที่ได้ยินเช่นนั้นจึงต่อว่าแม่ทัพใหญ่สวีไปเสียยกใหญ่ อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่า หากไม่เห็นนางเป็นบุตรสาว ก็ไม่เป็นไร พระองค์พึงใจสะใภ้ผู้นี้ ใครก็อย่าได้คิดมาต่อว่านางเป็นอันขาดเช่นนั้นนางเองก็จะไม่ขอพบเจอกับบิดาเช่นนี้อีก แม้จะไม่ได้เกลียด แต่การไม่พบกันย่อมจะเป็นเรื่องที่ดีเสียมากกว่าด้านจิ้งกุ้ยเฟยก็ได้ออกจากวังหลวงไปแต่งกับบัณฑิตตระกูลโจว ชีวิตของนางดูจะมีความสุขเป็นอย่างมาก มีหลายคราที่นางแวะเวียนมาเยี่ยมเยือนสวีเหลียนฮวาถึงในวังหลวงอยู่หลายครั้ง อีกทั้งยังบอกอีกด้วยว่าสามียอดรักของนางนั้น 'ยาว' ถูกใจนางเพียงใ
ท้ายที่สุดสวีเหลียนฮวาก็ต้องปิดร้านบะหมี่ไปก่อน นางนั่งมองอวิ๋นซีเฉินที่เดินไปเก็บร้าน ก่อนจะเดินตรงเข้ามาหานาง พร้อมกับจ้องมองนางด้วยแววตาที่ล้ำลึก สวีเหลียนฮวาที่เห็นเช่นนั้น จึงถลึงตามองเขาทันที "มองข้าทำไม?""เหลียนฮวา เจ้ายอมคืนดีกับข้าเถิดนะ""ไม่!!! เจ้ามันคนนิสัยไม่ดี ชอบข่มเหงจิตใจข้า!""ข้าจะไม่ทำอีกแล้ว ข้ายอมเจ้าแล้ว เอาเถิด ข้าจะรอจนกว่าเจ้าจะยอมใจอ่อนนะ""ไม่..."ยังไม่ทันที่สวีเหลียนฮวาจะเอ่ยสิ่งใดต่อ ดวงตาคู่สวยของนางก็เหลือบลงไปที่หว่างขาของอวิ๋นซีเฉิน คงเพราะเขาไม่ทันระวังตอนที่กระทืบชายผู้นั้น ทำให้เป้ากางเกงของเขาขาดออกเป็นวงกว้าง เผยให้เห็นลำแท่งเอ็นร้อนขนาดใหญ่ที่โผล่ออกมาท้าทายสายตาของนาง สวีเหลียนฮวาลอบกลืนน้ำลายลงคออึกใหญ่ คล้าย ๆ กับว่ามันจะใหญ่ขึ้นใช่หรือไม่? นางไม่ได้กินมันมานานแล้วด้วย?ให้ตายเถอะ!!! นางคิดสิ่งใดอยู่กันแน่!!! "ข้าจะไปอาบน้ำแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะเดินหนีเขาไปอาบน้ำทันที ยามค่ำคืนมาเยือน เพราะที่นี่คือแคว้นที่อยู่ในป่า จึงค่อนข้างเงียบสงบ มีเพียงเสียงจากสัตว์ป่าดังแว่วมาในบางคราเท่านั้น เหล่าชาวบ้านต่างเข้านอนกันหมดแ
ผู้นำแคว้นม่อเป่ยรีบวิ่งหนีไปทันทีอย่างไม่รีรอ อวิ๋นซีเฉินจึงหันไปมองเสิ่นเหยาและหานเยียนเล็กน้อย "เรียบร้อยดีหรือไม่?""อาเฉิน ทางนั้นเรียบร้อยดี เจ้าจะกลับต้าเทียนเมื่อใด?""ยังไม่มีกำหนด เจ้ากลับไปกราบทูลเสด็จพ่อเสียก่อน ว่าข้าจะพาเหลียนฮวากลับไปด้วย""นางยังมิยอมกลับหรือ?""ยัง แต่อีกไม่นานหรอก""ตกลง ข้าจะกลับไปรายงานไท่ซังหวงที่ต้าเทียนเสียก่อน แล้วจะกลับมาหาเจ้าอีกครา ส่วนศพของอวิ๋นเสวี่ยเฟยข้าโยนทิ้งเป็นอาหารสัตว์ป่าไปแล้ว""อืม ดีมาก! นำศีรษะมันไปเสียบประจานที่หน้าประตูเมืองต้าเทียนด้วย ส่วนเจ้าเสิ่นเหยา ข้าขอบใจเจ้ามาก""กระหม่อมมิกล้ารับพ่ะย่ะค่ะ เป็นเพราะความเมตตาของฝ่าบาท กระหม่อมจึงสามารถล้างแค้นให้ตระกูลเสิ่นได้"เมื่อเอ่ยวาจากันจนเข้าใจแล้ว เสิ่นเหยาและหานเยียนจึงขอตัวลากลับทันที อวิ๋นซีเฉินมุ่งหน้ากลับมาที่บ้านของสวีเหลียนฮวา ก่อนจะเอ่ยเรียกนาง "เหลียนฮวา""มีอะไร?""ข้านำอาหารมาเผื่อเจ้าด้วย เจ้าออกมากินเสียหน่อยเถิด""ไม่ ข้าจะนอนแล้ว"สวีเหลียนฮวาเอ่ยปฏิเสธเพียงเท่านั้น ก่อนจะดับแสงเทียนในห้องลงทันที อวิ๋นซีเฉินก้มหน้างุดด้วยความเหนื่อยล้า เขาเอนกายพิงที่เสาไม้ตร
สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าหมดหน้าที่ของตนเองแล้ว จึงหันหลังเพื่อจะกลับไปที่แคว้นม่อเป่ยทันที "อาเฉิน""พวกเจ้าจัดการเก็บกวาดแคว้นฉินให้เรียบร้อย สังหารให้หมดสิ้น ส่วนชาวบ้านบริสุทธิ์ก็อย่าเข่นฆ่าให้พวกเขาหวาดกลัว""เจ้าจะไปที่ใด?""อาเยียน ข้าจะไปตามหัวใจของข้ากลับคืน"อวิ๋นซีเฉินเอ่ยเพียงเท่านั้น ก่อนจะมุ่งหน้าติดตามสวีเหลียนฮวาไปทันที สวีเหลียนฮวาที่เห็นว่าเขาติดตามนางมาด้วยก็รีบเร่งฝีเท้าให้เร็วมากกว่าเดิม นางไม่อยากเจอหน้าเขาอีก แต่ทว่าอีกใจหนึ่งนางก็แอบดีใจที่เห็นว่าเขาปลอดภัยดี "เหลียนฮวา""ตามมาทำไมเพคะ?""เหลียนฮวา อยู่ที่นี่ข้ามิใช่ฝ่าบาท แต่ข้าเป็นอาเฉินของเจ้า""ของหม่อมฉันหรือ?""อย่าเอ่ยวาจาห่างเหินกับข้าเช่นนี้เลย""ไม่พอใจก็ไสหัวไปเสีย!!! ข้าขอให้เจ้ามาตามข้าหรืออย่างไรกัน!!!"สวีเหลียนฮวาเอ่ยเพียงเท่านั้นก่อนจะสะบัดหน้าหนีเขาและเดินจากไปทันที อวิ๋นซีเฉินเองก็ไม่ยอมลดละ เขายังคงตามนางจนเข้าสู่แคว้นม่อเป่ย นี่เป็นครั้งแรกที่เขาได้มองดูแคว้นม่อเป่ยอย่างชัดเจน ที่นี่มีทั้งอากาศที่บริสุทธิ์ และอบอวลไปด้วยกลิ่นอายของธรรมชาติที่จรรโลงใจ เดินตามนางมาได้ครู่หนึ่ง ก่อนจะพบกับบ้
อวิ๋นซีเฉินส่งคนออกไปตามหาสวีเหลียนฮวาอย่างไม่ยอมลดละ แต่ก็ไร้ซึ่งวี่แววของนาง เขานึกโกรธเกลียดตนเองในใจเป็นอย่างยิ่ง ที่คืนนั้นเขาคลาดสายตาจากนางและยังพูดจากระทบกระเทือนจิตใจของนางอีก ยามนี้เขาเข้าใจแล้ว ว่าหากไม่มีนางคอยอยู่ข้างกาย เขาเองก็ไม่อยากจะมีชีวิตอยู่อีกต่อไป เรื่องของหัวใจก็ช่างหนักหนาสาหัส เรื่องของฉินอ๋องก็ประเดประดังเข้ามาอย่างรวดเร็ว อวิ๋นเสวี่ยเฟยส่งคนมาสอดแนมที่ต้าเทียน และให้ลอบสังหารเสิ่นเหยาเสีย เสิ่นเหยาคือผู้ที่จะปล่อยเอาไว้ไม่ได้ เนื่องจากมันล่วงรู้ความเป็นไปของแคว้นฉินเป็นอย่างดี อวิ๋นเสวี่ยเฟยรู้ว่าสวีเหลียนฮวาได้หายตัวไปอย่างไร้ร่องรอย เขายกยิ้มเจ้าเล่ห์ที่มุมปาก เช่นนี้ก็ดีแล้ว เขาจะได้สังหารอวิ๋นซีเฉินให้ตกตายไปเสีย และตามล่าหาตัวนางมาเป็นนางบำเรอของเขา เขาชื่นชอบนางเป็นอย่างมาก นางทั้งงดงามและเก่งกาจกว่าสตรีใดในใต้หล้า หากเขาได้นางมาครอบครอง ย่อมต้องเป็นเรื่องดีแต่ทว่าหน่วยสอดแนมของอวิ๋นเสวี่ยเฟยก็ถูกอวิ๋นซีเฉินจับได้ในเวลาต่อมา และถูกเขาสังหารทิ้งทันที พร้อมกับส่งหัวของหน่วยสอดแนมผู้นั้นกลับไปให้อวิ๋นเสวี่ยเฟยที่แคว้นฉิน อวิ๋นเสวี่ยเฟยโกรธแค้นเป็นอย
ด้านเสิ่นเหยานั้น เขาต่อสู้กับฉินอ๋องอย่างเอาเป็นเอาตาย ด้วยเพราะเขาเก่งทั้งด้านบุ๋นและด้านบู๊ จึงสามารถรอดตายมาได้อย่างเหลือเชื่อ เขาพาร่างที่โชกเลือดโซซัดโซเซมาถึงต้าเทียนอย่างยากลำบาก เดิมทีเหล่าทหารที่เฝ้าเวรยามหน้าประตูไม่ยอมให้เขาเข้าไปในต้าเทียนได้ แต่ทว่าอวิ๋นซีเฉินและหานเยียนกลับมาถึงต้าเทียนพอดี จึงได้พบกับเสิ่นเหยา ก่อนจะพาเขาเข้ามารักษาตัวในวังหลวง สวีหลานฮวาที่ได้รู้ข่าวว่าเสิ่นเหยายังไม่ตาย นางจึงรีบวิ่งเข้ามาหาเขาที่ตำหนักมังกรสวรรค์ทันที ภาพที่นางเห็นคือเสิ่นเหยาบาดเจ็บสาหัส ร่างกายของเขาโชกไปด้วยเชือด สวีหลานฮวาทนไม่ไหวจนต้องปล่อยโฮออกมา "เสิ่นเหยา ท่านห้ามตายนะ ฮึก อย่าตายนะ""หลานฮวา""ข้าตั้งครรภ์ลูกของท่าน ข้าตั้งครรภ์แล้วเสิ่นเหยา"เสิ่นเหยาที่ได้ยินเช่นนั้นก็ดีใจเป็นอย่างยิ่ง เขาพยายามเอื้อมมือไปจับใบหน้าของนางด้วยความยากลำบาก "หลาน ฮวา""ฮือออ ท่านต้องอยู่กับข้านะ!!!"อวิ๋นซีเฉินสั่งให้ตามหมอหลวงมารักษาเขาอย่างเร่งด่วน เสิ่นเหยาเจ็บหนักปางตาย แต่ยังดิ้นรนมาถึงต้าเทียนเพื่อพบกับคนรักของเขา อวิ๋นซีเฉินที่ได้เห็นเช่นนั้นก็อดชื่นชมไม่ได้ "เจ้าก็อยู่เฝ้าสามีเจ้