Masukตึง ตึง เสียงกลองตีบอกเวลาในยามห้า นางกำนัลในตำหนักตื่นแต่เช้าตรู่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขัน ร่างใหญ่นอนหลับอยู่บนเตียงดิ้นไปดิ้นมาก่อนจะรู้สึกว่าตอนนี้ข้างกายของเขามีไออุ่นอีกคนนอนกอดตนเองอยู่
“อื้อ องค์ชายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ขอรับ ท้องฟ้ายังไม่สว่างเลยนี่น่า”
“ข้ารบกวนทำให้เจ้าตื่นหรือ? จะทำอย่างไรได้เล่าข้าคิดถึงเจ้าจนไม่อาจจะข่มตาหลับได้ เจ้านี่นะช่างใจร้ายไม่คิดถึงข้าแม้แต่น้อยกลับหลับสบาย อย่างนี่ต้องลงโทษหน่อยแล้ว” จื่อถงชันแขนขึ้นจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างหลงใหล แสงสว่างจากโคมไปด้านนอกสาดส่องเข้ามาเผยให้เห็นใบหน้าสลัว ๆ มืออีกข้างไม่อยู่นิ่งคืบคลานเข้าไปใต้ผ้าห่มลูบคำใต้สะดื้อจนอีกฝ่ายต้องส่งเสียงประท้วง
“องค์ชายอย่าซุกซนนักสิขอรับ”
“ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ อยู่กับข้าจงเรียกชื่อของข้าอีกอย่างข้ามิได้ซุกซนเพียงแต่นี่คือบทลงโทษที่เจ้าต้องพบเจอต่างหากดูสิมันสู้มือข้าขนาดนี้ จะให้ข้าหยุดได้อย่างไร" จื่อถงไม่หยุดเพียงเท่านั้นล้วงเข้าไปจับแท่งร้อนที่กำลังตั้งชูชันสู้มือของเขา จิ้งเซียนเริ่มดิ้นทุรนทุรายเมื่อมือหนาจับบีบเคล้นคลึงด้านล่าง ร่างกายเริ่มร้อนผ่าววาบหวิวสั่นสะท้านไปทั้งตัว จื่อถงยิ่งเห็นอาการของจิ้งเซียนอารมณ์พลุ่นพล่านไม่อาจจะอดทนอีกต่อไปลุกขึ้นดึงผ้าห่มกายออกพรางดึงอาภรณ์ของจิ้งเซียนออกไม่เหลือแม้ชิ้นเดียว ร่างกายนี้ที่เขาเคยปรารถนายามนี้อยู่ตรงหน้าของเขาแล้ว มือหนาลูบไล้ใบหน้าจิ้งเซียนอย่างแผ่วเบา คลี่ยิ้มบางให้แก่เขา
“ข้าหลงใหลในตัวเจ้ายิ่งนักแม้ว่าเจ้าจะอยู่กับข้า ข้ากลับยิ่งถวิลหาเจ้ามากกว่าเดิมไม่รู้จักพอ รักของข้าที่มีต่อเจ้ามากกว่ารักที่ข้ารักตัวเองเสียอีก จิ้งเซียนเจ้าสัญญากับข้าได้หรือไม่จะอยู่ข้างกายข้าตลอดไปไม่ว่าวันข้างหน้าจะเกิดอันใดขึ้น” จิ้งเซียนยื่นมือไปจับใบหน้าของจื่อถงเช่นเดียวกันส่งสายตาหวานเยิ้มให้อีกฝ่าย จื่อถงยิ้มตอบ
“เหตุใดต้องเอ่ยออกมาเช่นนั้นขอรับ ไม่ว่าอย่างจิ้งเซียนผู้นี้ก็อยู่ข้างกายของท่านตลอดไปมิเห็นต้องสัญญา เพราะท่านคือคนรักของข้า จื่อถงท่านคือยอดดวงใจของข้า ข้าเองก็ถวิลหาท่านเช่นเดียวกันและตอนนี้ร่างกายของข้าต้องการการโอบกอดอบอุ่นของท่าน” จิ้งเซียนยื่นมือไปจับใบหน้าของจื่อถงเช่นเดียวกันส่งสายตาหวานเยิ้มให้อีกฝ่าย จื่อถงยิ้มตอบค่อย ๆ โน้มตัวลงต่ำจูบประทับริมฝีปากหนามอบความหวานลึกซึ้งให้แก่กันและกันอย่างดูดดื่ม
ตั๊บ ตั้บ เสียงเนื้อกระแทกเนื้อดังคับห้องนอน ร่างกายทั้งสองแนบชิดไร้อาภรณ์เคล้าอารมณ์เพลิงสวาทอย่างรื่นเริง
"จิ้งเซียนช่วยเปล่งเสียงของเจ้าให้ข้าได้ฟังที อย่าได้อดกลั้นมันเอาไว้จนมือของเจ้าเจ็บระบม ปล่อยให้เสียงของเจ้าได้ไปตามอารมณ์ของเจ้ายามนี้เถิด" เสียงแผ่วเบาซาบซ่านของจื่อถงกระซิบข้างหูยามนี้กายของจิ้งเซียนยืนหน้าชิดผนังห้อง ขาสองข้างถ่างออกจากกันโดนมีจื่อถงโอบกอดเอวจากด้านหลังแท่งเอ็นอุ่น ๆ สอดแทงเข้าไปที่รูพับจีบโยกเอวกระแทกเน้น ๆ หลายครั้งหลายคราจนแทบอดกลั้นไม่ให้น้ำรักไหลออกมา พรางกระซิบบอกคนตรงหน้าให้ส่งเสียงเมื่อเห็นอีกฝ่ายอดกลั้นความรู้สึกกัดมือของตนเองข่มเอาไว้
"ข้าร้องได้จริง ๆ นะหรือ? นี่ก็ใกล้สว่างนางกำนัลคงตื่นมาทำหน้าที่"
"ตอนนี้เจ้าสนใจผู้อื่นมากกว่าข้าที่อยู่ตรงหน้าอย่างนั้นหรือ ? ร้องมาเถิดข้าอยากฟังเสียงเจ้ามิต้องคิดสิ่งใดนอกจากอารมณ์ของเราทั้งสองยามนี้" สิ้นเสียงของจื่อถง เขาค่อย ๆ ครวญครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน
"อ่าา... จื่อถงข้าเสียว เสียวเหลือเกินขอรับ แท่งร้อนของท่านมันขยายใหญ่มากกว่าเดิมเสียอีก สมองของข้าขาวโพลนจนแทบไม่มีสติแล้ว"
"เช่นนี้แหละที่ข้าต้องการ โอ้ว.. อึก ข้าชอบน้ำเสียงของเจ้ายามนี้เหลือเกินจิ้งเซียน" จื่อถงกระแทกแรงกว่าเดิม สองมือจับเอวหนาของจิ้งเซียนกระแทกกระทั้น พรางตีบั้นท้ายจนแดงเป็นริ้ว ๆ
เพี้ยะ ! เพี้ยะ !
อ่าา อ๊าา... เสียงครวญครางดังสักระยะก็เงียบลงเมื่อจื่อถงเสร็จสิ้นอารมณ์หมาย ค่อย ๆ ดึงแก่นกายของตนออกมาจากรูพับจีบอย่างช้า ๆ พร้อมน้ำรักที่ไหลเยิ้มออกมา
"เจ้าเจ็บหรือไม่ ? ยามที่ข้าร่วมรักกับเจ้า ข้ามักลืมตัวเสมอ" เขาเอ่ยพรางกอดจิ้งเซียนจับกายให้ใบหน้าของอีกฝ่ายหันมาทางตน
"สิ่งใดที่ท่านชอบก็จงทำเถิดขอรับ ยามนั้นข้ามิได้รู้สึกเจ็บอันใดมันเพิ่มความเสียวให้ร่างกายของข้าเสียมากกว่า ท้องฟ้าสว่างพอดีข้าขอตัวไปล้างเนื้อล้างตัวก่อนขอรับ อีกไม่นานนางกำนัลคงเข้ามาเปิดหน้าต่างและปลุกข้าเช่นดั่งเคย"
"เจ้าจะไปล้างเนื้อล้างตัวเพียงผู้เดียวได้อย่างไร อีกอย่างเมื่อครู่มีเพียงแค่ข้าเสร็จผู้เดียว เดี๋ยวข้าจะล้างตัวให้เจ้าเอง" เอ่ยจบจื่อถงปล่อยเขาออกจากอ้อมกอดนั่งคุกเข่าลง จับลูบไล้แท่งร้อนของจิ้งเซียนที่เริ่มอ่อนระทวย จนตอนนี้เริ่มแข็งสู้มือ ค่อย ๆ อ้าปากใช้ลิ้นแตะเลียที่ยอดองคชาตเบา ๆ จนร่างหนาสะดุ้งโหยงใบหน้าหงิกเก
"อึก องค์ชาย....อย่าขอรับ" แม้ปากจะสั่งห้ามให้เขาหยุดกระทำ ทว่าร่างกายกลับไม่ฟังยื่นมือไปจับศีรษะของเขาเอาไว้แน่น จื่อถงเงยหน้าขึ้นมองอย่างพึงพอใจก่อนจะตวัดลิ้นดูดดื่มรุนแรงมากกกว่าเดิม ค่อย ๆ ขยับปากเข้าออกตามจังหวะ น้ำเสียงของจิ้งเซียนครางขึ้นอีกครั้งอย่างห้ามตนเองไม่อยู่ แตกต่างจากตอนที่เขาถูกกระทำจากรูพับจีบเสียอีก
"เสียว เสียวเหลือเกิน อ๊าาา ช่วยแรงกว่านี้หน่อย ข้าใกล้แล้ว ข้าใกล้จะเสร็จแล้ว" พอได้ยินร่างกายของจื่อถงเร่งความเร็วของปากตนเองมากกว่าเดิมจนกระทั่งน้ำสีขาวขุ่นของจิ้งเซียนพุ่งกระฉูดเต็มปาก
"อึก !!! ข้าไม่ไหวแล้วขอรับ อ๊าาา"
" น้ำรักของเจ้ารสชาติหอมหวานจริง ๆ แถมยังมีมากอีกด้วย ดูสิขนาดข้าดื่มลงคอไปมากแล้วยังเลอะใบหน้าของข้า คงต้องไปอาบน้ำล้างตัวกันจริง ๆ เสียแล้ว" จื่อถงกลืนน้ำรักลงคอค่อย ๆ ใช้มือเช็ดที่ยังหลงเหลืออยู่บนใบหน้า ก่อนจะจับมือของอีกฝ่ายเข้าไปที่ห้องอาบน้ำ
"เพราะท่านมิใช่หรือขอรับ ที่ทำให้เป็นเช่นนี้ ผู้ใดใช้ให้ท่านลงไปเล่นกับเจ้านั่นของข้า แถมยังกินมันจนไม่เหลือ "
"เพราะข้ารักเจ้ามากอย่างไรเล่า ไม่เคยรังเกียจอันใดที่เกี่ยวกับเจ้าเพียงนิด เฮ้อ! ยิ่งข้าได้กลิ่นน้ำรักของเจ้า ดูน้องชายของข้าสิแข็งขึ้นมาอีกแล้ว วันนี้ข้าคงจะได้กินเจ้าเป็นอาหารเช้าเสียแล้ว " เขาจ้องมองใบหน้าของจิ้งเซียนอย่างหื่นกระหายในกายของเขาไม่รู้จักพอก่อนจะพาเขาไปเสวยสุขในอ่างอาบน้ำจนกระทั่งแสงแดดสาดส่องเข้ามาด้านใน
"ท่านจิ้งเซียน ตื่นหรือยังเจ้าคะ พวกข้ายกน้ำและอาภรณ์ของวันนี้มาเตรียมให้ท่านเปลี่ยนวางไว้ตรงนี้นะเจ้าคะ" เสียงนางกำนัลดังขึ้นระหว่างที่แท่งร้อนของจื่อถงยังคารูของจิ้งเซียนอยู่ในท่าที่จิ้งเซียนกำลังขึ้นขย่มอยู่ด้านบนร่างกายของจื่อถงในอ่างอาบน้ำ รีบหยุดชะงักก่อนจะตอบออกไปกลัวว่านางกำนัลจะเข้ามาเห็น
"ข้ากำลังล้างเนื้อล้างตัวอยู่ พวกเจ้าออกไปทำงานของพวกเจ้าและเตรียมสำรับขึ้นโต๊ะให้องค์ชายเถิดเดี๋ยวข้าจะรีบตามไป อึก อะ!!" จื่อถงขยับกายกระแทกเหมือนอยากแกล้งจิ้งเซียนทำให้เขาเผลอครางออกไปเล็กน้อย นางกำนัลได้ยินถึงกับเป็นห่วงขึ้นมา
"ท่านจิ้งเซียนไม่สบายตรงไหนหรือไม่เจ้าคะให้พวกข้าเข้าไปดูแลจะดีหรือไม่"
"ไม่ต้อง ๆ เพียงแค่เมื่อครู่ข้าเห็นแมลงเท่านั้น พวกเจ้าไปจัดการตามที่ข้าบอกเถิดส่วนข้าจะจัดการแมลงตัวนี้เอง" จื่อถงยิ้มระเรื่อหัวเราะในลำคอ เสียงฝีเท้าของนางกำนัลเดินออกไปจิ้งเซียนมองค้อนครู่หนึ่งพรางใช้มือตีที่หน้าอกแกร่งของเขา
"แมลงตัวนี้ช่างดื้อยิ่งนักวันนี้ข้าจะจัดการให้เข็ดเลย"
"เอาสิข้าเองก็อยากจะถูกเจ้าจัดการจนแทบบ้าอยู่แล้ว" จื่อถงชอบใจมากกว่าเดิม ร่างหนาไม่เอ่ยตอบแต่กลับดึงกายของเขามาจูบอย่างดูดดื่ม โยกสะโพกขึ้นลงอย่างเร่าร้อนไม่นานน้ำรักของจื่อถงกระฉูดในรูพับจีบของจิ้งเซียนไหลเยิ้มออกมาในอ่างน้ำ ก่อนที่ทั้งสองจะลุกขึ้นเช็ดเนื้อเช็ดตัวและออกไปด้านนอกหากนานกว่านี้มีหวังนางกำนัลได้เข้ามาตามอีกรอบแน่ ๆ
ตอนที่ 5 คิดถึง ตึง ตึง เสียงกลองตีบอกเวลาในยามห้า นางกำนัลในตำหนักตื่นแต่เช้าตรู่ทำหน้าที่ของตนเองอย่างแข็งขัน ร่างใหญ่นอนหลับอยู่บนเตียงดิ้นไปดิ้นมาก่อนจะรู้สึกว่าตอนนี้ข้างกายของเขามีไออุ่นอีกคนนอนกอดตนเองอยู่“อื้อ องค์ชายมาตั้งแต่เมื่อไหร่ขอรับ ท้องฟ้ายังไม่สว่างเลยนี่น่า”“ข้ารบกวนทำให้เจ้าตื่นหรือ? จะทำอย่างไรได้เล่าข้าคิดถึงเจ้าจนไม่อาจจะข่มตาหลับได้ เจ้านี่นะช่างใจร้ายไม่คิดถึงข้าแม้แต่น้อยกลับหลับสบาย อย่างนี่ต้องลงโทษหน่อยแล้ว” จื่อถงชันแขนขึ้นจ้องมองใบหน้าอีกฝ่ายอย่างหลงใหล แสงสว่างจากโคมไปด้านนอกสาดส่องเข้ามาเผยให้เห็นใบหน้าสลัว ๆ มืออีกข้างไม่อยู่นิ่งคืบคลานเข้าไปใต้ผ้าห่มลูบคำใต้สะดื้อจนอีกฝ่ายต้องส่งเสียงประท้วง“องค์ชายอย่าซุกซนนักสิขอรับ”“ข้าบอกเจ้าแล้วมิใช่หรือ อยู่กับข้าจงเรียกชื่อของข้าอีกอย่างข้ามิได้ซุกซนเพียงแต่นี่คือบทลงโทษที่เจ้าต้องพบเจอต่างหากดูสิมันสู้มือข้าขนาดนี้ จะให้ข้าหยุดได้อย่างไร" จื่อถงไม่หยุดเพียงเท่านั้นล้วงเข้าไปจับแท่งร้อนที่กำลังตั้งชูชันสู้มือของเขา จิ้งเซียนเริ่มดิ้นทุรนทุรายเมื่อมือหนาจับบีบเคล้นคลึงด้านล่าง ร่างกายเริ่มร้อนผ่าววาบหวิ
ตอนที่ 4 ความฝันประหลาดภายในห้องกว้างใหญ่ องค์ชายจื่อถงนั่งลงบนเก้าอี้ในห้องของตนใบหน้าเคร่งเครียดทำให้ขันทีหย่งอู่รู้สึกได้“องค์ชายมีอะไรเรียกใช้กระหม่อมหรือพะย่ะค่ะ หรือว่าการไปเยือนที่เรือนตระกูลไป๋มีเรื่องอันใดผิดพลาด กระหม่อมน่าจะตามไปตั้งแรก”“มิใช่เรื่องนั้น ตอนนี้ข้ารู้สึกว่าความทรงจำของจิ้งเซียนจะหวนคืนกลับมา ข้าจะต้องทำทุกอย่างเพื่อไม่ให้เขาจำได้จนกว่าเขาจะหลงรักข้าจนหมดหัวใจและหนีไปจากข้าไม่ได้ หากเขาต้องการหนีข้าจะกักขังเขาเอาไว้ข้างกายของข้า เจ้าไปกำชับนางกำนัลและทหารทุกคนในตำหนักแห่งนี้ อย่าได้เอ่ยถึงเรื่องราวความหลังของจิ้งเซียนหรือแม้แต่ชื่อจริงของเขา ”“พ่ะย่ะค่ะ แต่ว่าการห้ามมิให้จำเรื่องของตนเองในอดีตนั้นช่างยากนัก เรื่องนี้กระหม่อมไม่มั่นใจว่าจะพยายามปกปิดได้นานเพียงใด หากว่าวันหนึ่งจิ้งเซียนจำเรื่องราวทุกอย่างได้ เขาจะไม่โกรธเคืองหรือเสียใจที่องค์ชายทำเช่นนี้หรือพ่ะย่ะค่ะ เมื่อนั้นอย่าว่าแต่ความรักจากเขาเลย ความเชื่อใจไว้ใจและความรักที่มีให้องค์ชายอาจจะจบสิ้นลงและผู้ที่จะเจ็บปวดก็คือองค์ชายเอง”“ไม่ข้าไม่มีทางให้เป็นอย่างนั้นเด็ดขาด เพราะฉะนั้นข้าต้องทำทุกอย่างเ
ตอนที่ 3 เดินเล่นตลาดฮุ่ยซานชื่อเสียงเลื่องลือการตีดาบ ผู้คนส่วนมากที่มาเดินจะเป็นทหาร หรือขุนนางเสียส่วนใหญ่ กลิ่นไอเหงื่อ เหล็กสนิทที่ถูกตีคละคลุ้งในอากาศ ทั้งสองมาถึงตลาดดวงตะวันเริ่มคล้อยต่ำลงจึงรีบเดินตรงไปยังร้านที่องค์ชายจื่อถงเลือกเอาไว้แล้ว“เถ้าแก่ข้าต้องการมีดเล็กเอาไว้ป้องกันตัว ขอเป็นเหล็กกล้าอย่างดีที่ร้านของท่านคงมีอย่างที่ข้าต้องการใช่หรือไม่?” เถ้าแก่ร้านตีมีดร่างกายกำยำกำลังตีมีดที่หล่อหลอมด้วยเปลวเพลิง หยุดชะงักดึงผ้าปิดหน้าลงและหันกลับมามองผู้มาเยือน ทันทีที่เห็นว่าเป็นผู้ใดเขารีบวางมือลงและต้อนรับองค์ชายเป็นอย่างดี“ขออภัยองค์ชายหลิวจื่อถง ข้ากำลังตีดาบอยู่ไม่ทันได้สังเกตว่าองค์ชายมาเยือนที่ร้านเล็ก ๆ ของข้า มีดเล็กที่ท่านต้องการร้านของข้าย่อมมีทว่ายังตีไม่เสร็จ หากท่านต้องการจริง ๆ เอาไว้อีกสามวันให้หลังค่อยมาเอาได้หรือไม่ขอรับ” จื่อถงฉีกยิ้มมุมปาก ก่อนจะตอบตกลง“ได้อีกสามวันข้าจะมาเอา ข้าหวังว่ามีดเล็กของข้าจะออกมางดงามเพราะข้าต้องการให้เป็นของขวัญให้แก่คนของข้า” เถ้าแก่ร้านเหลือบไปมองด้านหลังเห็นชายร่างใหญ่ก็พอเข้าใจว่าเขาต้องการมีดเล็กให้แก่คนด้านหลังแน่แท้“
ตอนที่ 2 เยี่ยมเรือนตระกูลไป๋ เวลาผ่านไปไม่นานจิ้งเซียนชำระล้างกายแต่งกายด้วยผ้าไหมสีม่วงงดงาม สะท้อนให้เห็นถึงฐานะ“เจ้าช่างงดงามเสียจนข้าไม่อยากให้เจ้าออกไปด้านนอกสู่สายตาผู้อื่น อยากจะจับเจ้าขังไว้ในตำหนักนี้มีเพียงแต่ข้าเท่านั้นที่ได้จ้องมองเจ้าเพียงผู้เดียว” เสียงทุ้มต่ำดังขึ้นมา นางกำนัลรีบพากันปลีกตัวออกไปเมื่อเห็นองค์ชายห้าเดินเข้ามาด้านใน “ท่านกล่าวเกินไปแล้วขอรับ ผู้ใดอยากจะถูกจับขังอยู่ในกรงกันเล่าข้ามิใช่นกน้อยที่ท่านชอบเลี้ยงเสียหน่อย อีกอย่างองค์ชายต่างหากที่ดูยามข้าเดินตามหลังท่านทุกสายตาของนางกำนัลหรือแม้แต่บุตรสาวของขุนนางต่าง ๆ มันจะตามมาทางท่านเป็นตาเดียว” “จิ้งเซียนเจ้าหึงหวงหรอกหรือ? ช่างเป็นเรื่องที่น่าดีใจจริง ๆ ที่เจ้ารักข้าจนไม่อยากให้ผู้ใดเห็นข้า ตอนนี้เจ้าแต่งกายเสร็จแล้วออกไปกินอาหารเขช้ากันเถอะ วันนี้ข้าจะไปเจ้าไปเยือนท่านพ่อท่านแม่ของเจ้า ตอนนี้เกี้ยวจัดเตรียมรอเจ้าที่หน้าตำหนักแล้ว” จื่อถงยื่นมือให้คนตรงหน้าจับประคองและพากันเดินออกมา ในตำหนักไม่มีผู้ใดกล้าแม้จะเงยหน้ามองเมื่อทั้งสองเดินผ่าน “องค์ชายให้กระหม่อมเดินทางไปด้วยดีหรือมั้ยขอรับ” ขันทีหย่งอ
ความทรงจำทั้งหมดหายไป ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าตนเองมีคนรักคอยเอาอกเอาใจอยู่ข้าง ๆ ทว่าความฝันในทุก ๆ คืนกลับไม่ใช่น้ำเสียงความนุ่มนวลอย่างที่เขาเคยพบเจอ ความทรงจำนั่นมันคืออะไรกันนะคำนำ ไป๋จิ้งเซียน บุรุษร่างกำยำในคราแรกเขาจำไม่ได้ด้วยซ้ำว่าตนเองมีนามว่าอะไร ความทรงจำที่มีทั้งหมดตั้งแต่เยาว์วัยจนถึงตอนนี้เขาไม่สามารถจำได้ไม่ว่าจะนึกเท่าไหร่ก็เจ็บที่สมองทุกครา แม้ไม่มีความทรงจำแต่ก็ยังมีเรื่องดีกับเขาอยู่หนึ่งอย่างคือคนรักที่อยู่ข้างกายคอยเอาอกเอาใจไม่ว่าต้องการอะไรเพียงเอ่ยปากเขาก็หามาให้ได้เสมอ เพราะเขาคือองค์ชายห้า หลิวจื่อถง คนแรกที่จิ้งเซียนลืมตาขึ้นมาและพบเขาคอยอยู่ข้าง ๆ และบอกว่าทั้งสองรักกันมากเพียงใด เขารับความรักจากจื่อถงจนไม่อยากรู้ความทรงจำที่ผ่านมา จนกระทั่งวันหนึ่งเขาได้พบกับ ท่านชินอ๋องจินฟาน ความรู้สึกหลากหลายอย่างเข้ามาในสมองอย่างพรั่งพรู แต่ก็นึกไม่ออกเสียที สีหน้าแววตาที่เขาจ้องมองช่างเศร้าและเหงาใจแถมยังดีใจที่ได้พบเขา ไม่ทันได้เอ่ยพูดคุยกันเพียงครึ่งคำเสียงเข้มขรึมดังขึ้นด้านหลังจับกายของจิ้งเซียน พร้อมกับป่าวประกาศเสียงดัง ว่าเขาคือคนรักขององค์ชายห้า







