เจ๋ออ๋องหัวเราะขมขื่นต่อให้พวกเขาต้องการก็ไม่ทันแล้วเงินของกู้ชูหน่วน ไม่รู้ว่าเป็นของนางเอง หรือเทพสงครามให้นางตั้งห้าสิบล้านตำลึง นางไม่รู้สึกรู้สาอะไรเลยสักนิดภายในห้องพิเศษหมายเลขสาม ซ่างกวานฉู่อยู่ในชุดสีขาวดุจหิมะ เขานั่งอยู่ริมหน้าต่าง ต้มชาพลางลิ้มรสชาติชาไปด้วย มุมปากยกยิ้มบางๆ ทอดมองลงไปด้านล่างนิ่งๆของประมูลออกไปสองชิ้นแล้ว เขายังไม่ได้เสนอราคาเลยสักครั้งบริเวณที่นั่งธรรมดา เชิงเฟิงกระซิบกระซาบเสียงเบา "ท่านอ๋อง ราคาที่พระชายาเสนอสูงเกินไป พวกเราขาดทุนยิ่งนัก"กู้ชูหน่วนหูดี รีบยกนิ้วหัวแม่มือขึ้นมาทันที "ชิงเฟิง ทีอย่างนี้ฉลาดได้สักทีสินะ ใช้ได้เลยทีเดียว"ชิงเฟิงใจเต้นตึกตัก รู้สึกสังหรณ์ใจว่าจะเกิดเรื่องไม่ดีอยู่ตลอดเป็นอย่างที่คิด กู้ชูหน่วนพูดขึ้นมาด้วยท่าทางหนักแน่นมั่นใจ "ไปจ่ายเงินเถอะ""อะ...อะไรนะ จ่ายเงินอะไร""จะอะไรเสียอีก ก็มุกอุ่นประภพที่ประมูลมาได้อย่างไรเล่า""นี่...นายท่านไม่ได้ร่วมการประมูล เหตุใดข้าน้อยต้องจ่ายเงินด้วย"กู้ชูหน่วนกระพริบตาที่ใสซื่อบริสุทธิ์ อธิบายให้ชิงเฟิงฟังทีละคำ "เขาคือนายของเจ้า ข้าคือภรรยาของนายเจ้า เช่นนั้นข้าก็
"กอบกู้เอง" เย่จิ่งหานเป่าใบชาในถ้วย ไม่แม้แต่จะเงยหน้าขึ้นมาสักนิด เมินเฉยต่อแววตาออดอ้อนน่าสงสารของนางชิงเฟิงได้แต่อธิษฐานในใจนายท่านจะต้องยืนหยัดไว้ไม่เช่นนั้นนิสัยใช้เงินมือเติบของพระชายา เกรงว่ากิจการที่จวนอ๋องสั่งสมมาทั้งหมดคงจะถูกผลาญจนสิ้นในไม่ช้ากู้ชูหน่วนท้าวคาง หน้าด้านหน้าทน "ข้าไม่มีเงิน""แก้ปัญหาเอง""ข้าเป็นเพียงหญิงอ่อนแอผู้หนึ่ง สถานการณ์นี้ใหญ่เกินไป ข้าแก้ไม่ไหว"ครั้งนี้เย่จิ่งหานขี้เกียจแม้แต่จะตอบนาง ยิ่งไม่ต้องหวังให้เขาส่งสายตาใดๆ ให้นางเลยกู้ชูหน่วนกะพริบตาปริบๆเย่จิ่งหานหลอกยากกว่าองค์หญิงตังตังและไทเฮานัก ท่าทางหน้าหนาหน้าทน ไม่สะทกสะท้านใดๆ เขาไม่กลัวว่าจะถูกนางทำให้ชื่อเสียงป่นปี้บ้างเลยหรือ"ขอเชิญแขกหมายเลขยี่สิบแปดจ่ายเงินรับมุกที่ด้านหลัง" ผู้ดำเนินรายการย้ำอีกครั้งมีคนตะโกนออกมาจากกลุ่มคน "หมายเลขยี่สิบแปด เจ้ากล้าเพิ่มราคา แต่ไม่กล้าจ่ายเงินหรือ ลานประมูลเฟิงเซียงไม่ใช่ว่าเจ้าอยากจะตะโกนเท่าไหร่ก็ได้ หากเจ้าไม่มีปัญญาจ่าย อย่างน้อยก็ต้องทิ้งของที่มีอยู่ในตัวที่เหมือนกันไว้หนึ่งอย่าง""คนผู้นี้ดูไม่คุ้นหน้าเอาเสียเลย เกรงว่าจะมาลานป
อี้เฉินเฟยรึ?นอกจากเขา นางคิดถึงใครไม่ออกแล้วจริงๆกู้ชูหน่วนมองไปทางเย่จิ่งหาน กลับเห็นเย่จิ่งหานกำลังมองไปทางห้องพิเศษหมายเลขเจ็ดที่ชั้นบน ดวงตาคู่นั้นเต็มไปด้วยความรู้สึกที่นางไม่อาจเข้าใจได้คนในห้องพิเศษหมายเลขเจ็ดจ่ายเงินแทนนางหรอกหรือชิงเฟิงออกไปวนหามารอบหนึ่ง ก่อนจะกลับมาปรากฏตัวข้างกายเย่จิ่งหานราวกับวิญญาณ เอ่ยเสียงเบา "นายท่าน คืออี้เฉินเฟยอาจารย์สามจากสำนักหยู"เสียงของชิงเฟิงเบามาก แต่กู้ชูหน่วนกลับได้ยินชัดเจน ดวงตาของนางฉายแววเจ้าเล่ห์ ก่อนจะพูดต่อ "ท่านอ๋อง ข้าเป็นภรรยาของท่าน ผู้อื่นจ่ายเงินแทนข้า ข้าไม่กล้ารับ ไม่เช่นนั้น ท่านนำเงินห้าสิบล้านตำลึงไปคืนเขาแทนข้าเถอะ"เย่จิ่งหานเงยหน้าขึ้นมา เหมือนจะยิ้มแต่ไม่ยิ้ม ทำให้ผู้ที่เห็นรู้สึกชาวาบไปถึงหนังหัว"ฮูหยินมีสหายอยู่ทั้งใต้หล้า ในเมื่อเขาช่วยเจ้าจ่ายแล้ว เหตุใดไม่รับไว้ด้วยความยินดีเล่า อีกอย่าง ในเมื่อพวกเราเป็นสามีภรรยากัน เช่นนั้นไข่มุกอุ่นประภพก็เป็นสมบัติร่วมกันของสามีภรรยา""……"เป็นครั้งแรกที่กู้ชูหน่วนถึงกับยอมจำนนเย่จิ่งหานนับวันจะยิ่งหน้าหนาขึ้นเรื่อยๆ แล้วชายทั่วไปล้วนแต่ต้องทนไม่ไหว แต่เขาก
มุกอุ่นประภพดึงดูดเขาเป็นอย่างมากตำรารวมสูตรปรุงยาดึงดูดเขายิ่งกว่าสองชิ้นแรกประมูลมาไม่ได้ก็แล้วกันไป ชิ้นที่สามต่อให้ต้องทุ่มหมดตัว เขาก็จะต้องประมูลมาให้ได้ ไม่มีทางปล่อยให้เสียไปอีกเด็ดขาดดวงตาที่อ่อนโยนของซ่างกวานฉู่เหลือบขึ้นมามองเล็กน้อย ดูเหมือนจะมีความสนใจในของชิ้นที่สามนี้อยู่บ้างทว่าไม่นานนักเขาก็ก้มหน้าลงไปต้มชาต่อ ราวกับว่าความสนใจนั้นมีเพียงแค่น้อยนิดเท่านั้นดวงตาของชิงเฟิงฉายประกายสว่าง "นายท่าน ตำรับยาโบราณไม่เลว ไม่เช่นนั้นพวกเราก็...""จะรีบร้อนไปใย ของดีล้วนแต่อยู่ด้านหลัง"ด้านหลัง ?ด้านหลังมีของดีอะไรหรือนายท่านจะรู้แล้วว่าของประมูลชิ้นสุดท้ายคืออะไรดวงตาที่ใสเป็นประกายของกู้ชูหน่วนฉายให้เห็นแววตาที่ต่างออกไปของประมูลชิ้นแรก นางอยากจะลองทำตามวิธีของนางเอง ดูว่าจะสามารถกลั่นยาปี้อวี้ได้หรือไม่ ถึงได้ยอมซื้อมาในราคาที่สูงลิ่วของประมูลชิ้นที่สอง นางอยากจะประมูลไปให้เยี่ยเฟิง มุกอุ่นประภพเม็ดนี้ มีความเป็นไปได้อย่างยิ่งว่าจะเป็นเม็ดที่ถูกชิงไปจากเยี่ยเฟิงส่วนของประมูลชิ้นที่สาม เป็นสิ่งที่นางสนใจเองข้ามมิติย้อนกลับมายังอดีต เพราะไม่มีวิทยายุทธ
"นั่นสิ รีบไล่นางออกไปเถอะ จะได้ไม่มีผู้ใดก่อกวน"เหล่าแขกในงานประมูลต่างพากันขับไล่นาง ก็ดีจะได้ตัดคู่แข่งไปได้หนึ่งคนเสี่ยวลู่ยิ้มพิมพ์ใจ ท่าทางใจเย็น สง่างามแฝงไว้ด้วยเสน่ห์แบบหญิงสาว น้ำเสียงของนางใสหวานราวกับนกขมิ้นจากหุบเขา "แขกหมายเลขยี่สิบแปดไม่ได้ติดค้างเงินลานประมูล ตามกฎ งานประมูลไม่มีสิทธิ์ไล่ผู้ใด""เห็นๆ กันอยู่ว่าเมื่อครู่นางไม่มีเงินห้าสิบล้านตำลึงมาจ่าย""แต่สหายของนางจ่ายแทนนางแล้ว พวกเราลานประมูลดูแค่เงิน ไม่สนว่าผู้ใดจ่ายแทนนาง"เสี่ยวลู่พูดเช่นนี้ เป็นการแสดงออกอย่างชัดเจนแล้วว่าพวกเขาไม่มีทางไล่กู้ชูหน่วนออกไป จากมุมของพวกเขา ไม่มีความจำเป็นจะต้องไล่นางออกไปจริงๆ อย่างไรนางก็ไม่ได้ติดค้างเงินสักแดงเดียวกู้ชูหน่วนมองไปทางองค์หญิงตังตัง คลี่ยิ้มหยอกเย้า "พวกเจ้ารีบร้อนจะไล่ข้าไปเช่นนี้ คงไม่ใช่เพราะจ่ายไม่ไหวหรอกนะ"องค์หญิงตังตังยกป้ายขึ้นมา เอ่ยเสียงดังลั่นทันที "ยี่สิบเอ็ดล้านตำลึง"นางแพศยา สายตาเช่นนั้นคืออะไรเห็นได้ชัดเลยว่านางกำลังโอหังอวดดี"สามสิบล้านตำลึง"เฮือก…ทุกคนกระอักเลือดอีกครั้งยี่สิบเอ็ดล้านตำลึงเพิ่มเป็นสามสิบล้านตำลึง นางจริงจั
กู้ชูหน่วนหรี่ตาลงเล็กน้อย พินิจดูปรมาจารย์ฟงตาเฒ่าจากที่ไหน คิดจะมาแย่งตำรารวมสูตรปรุงยากับนางหรือนางเอ่ยพร้อมยกป้าย "แปดสิบล้านตำลึง""แปดสิบห้าล้านตำลึง""เก้าสิบล้านตำลึง"เฮือก...ทุกคนต่างก็ตะลึงงันตำรารวมสูตรปรุงยาเล่มเดียวราคาขึ้นไปถึงเก้าสิบล้านตำลึง...นี่เป็นราคาที่สูงลิ่วเลยทีเดียว แม้จะเป็นฮ่องเต้หรือเชื้อพระวงศ์ ก็ยากจะมีเงินมากขนาดนี้ได้ปรมาจารย์ฟงยิ้มด้วยความเมตตา พลางลูบเคราสีขาวมัวของเขา "นังหนูเข้าใจการปรุงยาหรือไม่""ไม่เข้าใจ""เช่นนั้นข้างกายเจ้ามีผู้ที่ปรุงยาได้หรือ""ไม่มี""หากเป็นเช่นนี้ นังหนูต้องการจะประมูลตำรารวมสูตรปรุงยาเพื่อนำไปมอบให้ใครอย่างนั้นหรือ""ก็ไม่ใช่ ข้าเห็นว่าบันทึกหนังแกะของโบราณงามดี ข้าอยากประมูลมา ตอนอารมณ์ดีก็นำมาหนุนนอนเป็นหมอน"ซี้ดดด...ทั่วทั้งงานเริ่มชุลมุนวุ่นวายหญิงผู้นี้บ้าไปแล้วหรืออย่างไรจะนำตำรารวมสูตรปรุงยาไปทำหมอนเช่นนั้นรึนั่นมีมูลล่าถึงเก้าสิบล้านตำลึงเชียวนะอีกอย่าง ผู้ใดบ้างที่จะไม่เห็นตำรารวมสูตรปรุงยาเป็นสมบัติล้ำค่าแม้แต่ปรมาจารย์ฟงก็มีท่าทีประหลาดใจกับคำตอบเช่นนี้ของกู้ชูหน่วน"นังหนู ห
"แต่ร้อยห้าสิบล้านก็มากเกินไป หากของประมูลชิ้นต่อไปนางยังคงต้องการประมูลอีกละก็ พวกเรา...""ต่อให้ต้องสิ้นเนื้อประดาตัว ก็จะสนองความพอใจของนาง""ขอรับ..."ในโถงงานประมูล ดวงตาที่ใสเป็นประกายของเสี่ยวลู่เบ่งบานไปด้วยรอยยิ้มชวนหลง"หมายเลขยี่สิบแปดเสนอราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง ยังมีผู้ใดจะเพิ่มอีกหรือไม่ หากไม่มี ตำรารวมสูตรปรุงยาก็จะตกเป็นของแขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปด"ล้อกันเล่นใช่ไหมผู้ใดจะกล้าเสนอราคาต่อตำรารวมสูตรปรุงยาเป็นเพียงแค่ส่วนที่เหลืออยู่เท่านั้น ไม่ใช่ฉบับสมบูรณ์เสียหน่อย อีกทั้งยังผ่านมาเป็นสองพันกว่าปีแล้ว ต่อให้ตำรารวมสูตรปรุงยาจะยอดเยี่ยมเพียงใด แต่ผ่านมาเนิ่นนานขนาดนั้น ผู้ใดจะล่วงรู้ได้ว่าสมุนไพรหลายชนิดสูญพันธ์ไปแล้วหรือไม่แล้วผู้ใดจะรู้ได้ว่าตำรารวมสูตรปรุงยาจะดีจริงอย่างที่เล่าขานกันหรือไม่ปรมาจารย์ฟงอยากจะเพิ่มราคาต่อ แต่หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงทำให้เขาลังเลอีกทั้งเห็นตอนที่กู้ชูหน่วนขานราคาหนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึงออกมา ไม่มีสีหน้าท่าทางประหม่าใดๆ เลยแม้แต่น้อย สายตาแน่วแน่ สงบนิ่ง ดวงตาที่ใสสว่างคู่นั้นยิ่งแฝงไว้ด้วยแววตาเจ้าเล่ห์คนเช่นน
จ่ายเงินไปแล้ว ตำรารวมสูตรปรุงยาย่อมตกเป็นของกู้ชูหน่วนทุกคนต่างก็มองตำรารวมสูตรปรุงยาในมือของนางตาละห้อย ภายในดวงตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยาและเกลียดชังกู้ชูหน่วนกวาดสายตามองทุกคนในลานประมูลรอบหนึ่ง ความรู้สึกรีบร้อนอยากจะเปิดตำรารวมสูตรปรุงยาดูพลันดับสลายไปในพริบตานางยกไปไว้ด้านหลัง ทำเป็นหมอนวางไว้ที่ท้ายทอย ก่อนจะตะโกนออกมาด้วยความสบายตัว "สายตาข้าหลักแหลมใช้ได้เลย บันทึกหนังแกะเล่มนี้นำมาทำเป็นหมอนช่างสบายยิ่งนัก""……"เสียของทำเสียของอย่างแรงตำรารวมสูตรปรุงยาถูกนางประมูลไป ช่างเปล่าประโยชน์ยิ่งนักองค์หญิงตังตังด่าด้วยความเกรี้ยวกราด "เจ้า...เหตุใดถึงได้หน้าไม่อายเพียงนี้"กู้ชูหน่วนตอบอย่างมาดมั่น "ข้าใช้เงินของข้า ซื้อของที่ต้องการ หน้าไม่อายเช่นไร หากเจ้าอยากได้ เช่นนั้นเจ้าก็แค่เพิ่มราคา หรือข้าไปบังคับไม่ให้เจ้าเพิ่มราคาประมูลต่อแล้วหรือ""องค์หญิง ช่างเถอะ ของประมูลชิ้นต่อไป หากพวกเราชอบ นางก็ชอบ พวกเราเสนอราคาสูงๆ ประมูลมาเลย อย่าให้นางสมหวังก็พอ นางใช้เงินไปตั้งร้อยห้าสิบล้านตำลึงแล้ว ในตัวจะต้องมีเงินอยู่ไม่มากแล้วเป็นแน่" เสี่ยวลวี่กอดขานางเอาไว้แน่นปรนน
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ