กู้ชูอวิ๋นเอ่ย "สามสิบล้านตำลึง""สามสิบสามล้านตำลึง""สามสิบสี่ล้านตำลึง""สามสิบแปดล้านตำลึง""สี่สิบล้านตำลึง"ในงาน หลายคนเสนอราคาอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าใครจะเสนอราคาเท่าไหร่ กู้ชูอวิ๋นก็จะเสนอราคาสูงสุดต่อไปเสมอกู้ชูหน่วนรู้สึกประหลาดใจเล็กน้อยกู้ชูอวิ๋นเอาเงินจำนวนมากมาจากไหน?แม้ว่าองค์หญิงตังตังจะโง่ แต่นางไม่ได้โง่ขนาดนั้น หากไม่มีเงิน นางคงไม่กล้าที่จะเสนอราคาแบบนี้แน่ๆดูเหมือนเมื่อครู่นางแค่แกล้งทำเป็นไม่มีเงิน ไม่ได้ไม่มีจริงๆในขณะที่กู้ชูหน่วนกำลังคิดว่าจะหลอกเอาเงินทั้งหมดของนางมาดีหรือไม่ เย่จิ่งหานที่นั่งอยู่ข้างกายนางก็ยกป้ายขึ้นมาอย่างกะทันหัน "แปดสิบล้านตำลึง""เฮือก......"ทั้งงานมีแต่เสียงสูดหายใจเข้าด้วยความตะลึงแปดสิบล้านตำลึง......ราคานี้สูงเกินไปจริงๆกู้ชูอวิ๋นชะงักไป นางนึกไม่ถึงเลยว่าเย่จิ่งหานที่เงียบมาตลอดทั้งคืนจะเสนอราคาสูงลิ่วเช่นนี้แปดสิบล้านตำลึง......นางจะสู้ได้อย่างไร?กู้ชูหน่วนกระซิบว่า "แปดสิบล้านตำลึงเลยนะ ท่านบ้าไปแล้วหรือ? ไม่รู้ด้วยซ้ำว่ายาอายุวัฒนะนี้จะได้ผลจริงหรือไม่ ต่อให้ได้ผลจริง ก็คงแค่ทำให้หน้าตาเปล่งปลั่ง ผิวพ
กู้ชูหน่วนตกตะลึงให้ยาอายุวัฒนะนางทำไม?นางมิได้อยากได้ยาอายุวัฒนะซักหน่อยเมื่อหันมองเย่จิ่งหานอีกครั้ง ในดวงตาที่เย็นชาดั่งน้ำแข็งนั้น ดูเหมือนจะมีรอยยิ้มแฝงอยู่กู้ชูหน่วนแทบคิดว่านางตาฝาดไป"ให้ข้า?" นางเอ่ยด้วยความตกตะลึง"อืม ให้เจ้า หากเจ้าไม่ชอบก็ทิ้งไปได้เลย"คนในงานประมูลต่างพากันตกตะลึงทิ้งรึ?นั่นมันเงินตั้งหนึ่งร้อยล้านตำลึงเลยนะในใจของสองสามีภรรยาคู่นี้ เงินหนึ่งร้อยล้านตำลึงมีค่าแค่ตำลึงเดียวหรืออย่างไร?เหล่าบรรดาสตรีในงานประมูลต่างพากันเอามือปิดปาก มองพวกเขาด้วยความอิจฉา"ดูสิ คู่สามีภรรยาคู่นั้นรักกันมากขนาดไหน หนุ่มน้อยคนนั้นยอมทุ่มเงินตั้งหนึ่งร้อยล้านตำลึงเพื่อให้ภรรยายิ้มได้ ข้าอิจฉาพวกเขาแทบแย่""ใช่เลย ของข้าน่ะขี้เหนียวมาก อย่าว่าแต่หนึ่งร้อยล้านตำลึงเลย แค่สิบตำลึงเขาก็ยังต้องมานั่งคิดบัญชีกับข้า แต่งงานกันมาตั้งหลายปีแล้ว เขายังไม่เคยให้อะไรข้าเลยสักอย่าง""ไม่เปรียบเทียบก็ไม่เจ็บปวดจริงๆ""โอ้สวรรค์ หากข้าเป็นผู้หญิงคนนั้น ข้าคงซึ้งจนน้ำตาไหลแน่ๆ""แต่ดูเหมือนว่าบนใบหน้าของผู้หญิงคนนั้นจะไม่มีร่องรอยของความสุขเลยสักนิด หรือว่านางจะตื่นเต้น
เสี่ยวลู่โบกมือ และทันใดนั้นก็มีคนเก็บแผนที่ม้วนหนังแกะโบราณนางยิ้มเอ่ยว่า "ในแผนที่นี้มีสัญลักษณ์บางอย่างที่เราไม่เข้าใจ บางทีเราอาจจะพบสถานที่ที่แผนที่ระบุไว้ผ่านสัญลักษณ์เหล่านี้ ยามนี้ราคาเริ่มต้นคือห้าแสนตำลึง"ทั้งงานเงียบสงัดไม่มีใครเสนอราคาเพิ่มแผนที่ที่ดูไม่ออก กลับมีราคาถึงห้าแสนตำลึงเงิน มากเกินไปจริงๆคงมีแต่คนโง่ถึงยอมเสียเงินซื้อเศษกระดาษ"ไม่มีใครเสนอราคาเพิ่มเลยหรือ? แม้ว่าแผนที่จะอ่านไม่ออก แต่แค่พูดถึงม้วนหนังแกะโบราณแล้ว คุณค่าก็ประเมินค่าไม่ได้แล้ว ทุกคนสามารถพิจารณาเป็นของสะสมได้""ถึงจะเป็นของสะสม ก็แพงไปอยู่ดี""ใช่แล้ว สมัยนี้เงินทองหายากมาก ข้าว่าข้ามการประมูลชิ้นนี้ไปเลยดีกว่า แล้วไปต่อรายการต่อไป จะได้ไม่เสียเวลา""ชิ้นต่อไป ชิ้นต่อไป......"เสี่ยวลู่ไม่สนใจเสียงเรียกร้องของฝูงชน แต่หันไปมองทิศทางของกู้ชูหน่วน "แขกผู้มีเกียรติหมายเลขยี่สิบแปด ไม่ทราบว่าพวกท่านจะประมูลแผนที่นี้หรือไม่"กู้ชูหน่วนกำลังจะเสนอราคา แต่ก็เหลือบไปเห็นกู้ชูอวิ๋นมองนางด้วยสายตาประหลาดแม้แต่เจ๋ออ๋องบนชั้นสองก็มองนางด้วยสายตาแปลกๆนางเกรงว่าคนทั้งสองจะจงใจประมูลราคาแข่ง
"สิบเอ็ดล้านตำลึง" กู้ชูอวิ๋นเอ่ยกู้ชูหน่วนยกเปลือกตาขึ้นอย่างเกียจคร้าน พึมพำกับตัวเองว่า "ม้วนหนังแกะโบราณที่อ่านอะไรไม่ออกสักอย่าง ยังมีคนกล้าให้ราคาสูงถึงสิบเอ็ดล้านตำลึง จุๆ ๆ ในเมื่อเจ้าชอบมากขนาดนี้ ข้ายกให้เจ้าก็แล้วกัน""……"กู้ชูอวิ๋นขมวดคิ้วแม้ว่ากู้ชูหน่วนจะดูสงบนิ่ง ไม่แสดงสีหน้าใดๆ ออกมา แต่นางก็สัมผัสได้อย่างชัดเจนว่า กู้ชูหน่วนต้องการแผนที่นี้มาก หรือว่านางจะคาดเดาผิดไป?หลังจากที่ราคาถูกเสนอขึ้นไปถึงสิบเอ็ดล้านตำลึง ทั้งงานก็เงียบสนิท ไม่มีใครเสนอราคาเพิ่มอีกแม้แต่ซ่างกวานฉู่ก็ไม่ได้เสนอราคาเพิ่มเสี่ยวลู่ยิ้มเอ่ยว่า "แขกผู้มีเกียรติหมายเลขสิบหกช่างใจใหญ่จริงๆ เสนอราคาสูงถึงสิบเอ็ดล้านตำลึง แผนที่หนังแกะโบราณนี้ถือว่าได้พบกับเจ้าของที่คู่ควรแล้ว"อัครเสนาบดีกู้แทบจะเป็นลมเขายกมือขึ้นตบหน้ากู้ชูอวิ๋นอย่างแรง"นังอกตัญญู เงินสิบเอ็ดล้านตำลึงนี้ เจ้าต้องหาทางจ่ายเอง ข้าจะไม่ให้เงินเจ้าแม้แต่ตำลึงเดียว"เสียงของอัครเสนาบดีกู้ดังมากผู้คนในการประมูลถูกดึงดูด บางคนที่มีสายตาแหลมคมก็ร้องออกมาทันที"เอ๊ะ นี่ไม่ใช่ท่านอัครเสนาบดีกู้แห่งแคว้นเย่ของเราหรอกหรือ? ผ
ทั้งหมดนี้เป็นเพราะกู้ชูหน่วนอัครเสนาบดีกู้โกรธจนสะบัดแขนเสื้อจากไปกู้ชูอวิ๋นลูกสาวคนที่สองที่เคยคิดว่าเป็นความภาคภูมิใจของเขา บัดนี้กลับกลายเป็นความอัปยศอดสู ทำให้เขาไม่อาจยอมรับได้"สิบเอ็ดล้านตำลึงครั้งที่หนึ่ง สิบเอ็ดล้านตำลึงครั้งที่สอง สิบเอ็ดล้านตำลึง......"กู้ชูหน่วนขยิบตาแวววาวให้กับห้องหมายเลขเจ็ดบนชั้นสองอี้เฉินเฟยในห้องหมายเลขเจ็ดบนชั้นสองเข้าใจทันที จึงเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน "สิบสองล้านตำลึง"กู้ชูอวิ๋นถอนหายใจด้วยความโล่งอกเล็กน้อยแต่ในไม่ช้า หัวใจของนางก็เต้นแรงขึ้นอีกครั้ง นางรู้สึกว่ามีบางอย่างผิดปกติฝีเท้าที่กำลังจะจากไปของอัครเสนาบดีกู้หยุดชะงัก แล้วหันหลังกลับมาคว้าป้ายประมูลจากมือนาง พร้อมกับตะโกนเสียงต่ำ "คนไร้ประโยชน์ ทำอะไรก็ไม่สำเร็จ ข้าไม่น่ามีลูกสาวอย่างเจ้าเลย""ท่านพ่อ แขกในห้องหมายเลขเจ็ดน่าจะเป็นคนที่เพิ่งช่วยน้องสามจ่ายเงิน หากเรายังคงเพิ่มราคา พวกเขาก็จะเพิ่มตาม""ยังไม่ต้องว่าแขกในห้องหมายเลขเจ็ดจะเป็นคนที่ช่วยกู้ชูหน่วนจ่ายเงินหรือไม่ ต่อให้ใช่ แล้วเกี่ยวอะไรกับเรา? แค่ภาพวาดเก่าๆ ทำไมเราต้องประมูลในราคาสูงขนาดนั้นด้วย?""น้องสามทำให
มือที่ข้อกระดูกชัดเจนของอี้เฉินเฟยเคาะลงบนโต๊ะ มุมปากของเขายกยิ้ม พร้อมเอ่ยอย่างสุภาพว่า "หนึ่งร้อยล้านตำลึง""หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง""หนึ่งร้อยห้าสิบล้านตำลึง""สองร้อยล้านตำลึง"กู้ชูหน่วนยกมือลูบหน้าผากด้วยความเจ็บปวดแผนที่นี้ นางไม่อยากได้แล้ว ใครอยากได้ก็เอาไปเถิดสองร้อยล้านตำลึง......พวกเขาสองคนประมูลกันไปได้อย่างไร?กู้ชูหน่วนมองแผนที่ รู้สึกเจ็บปวดในใจนางอยากได้ แต่ก็ไม่อยากจ่ายถึงสองร้อยล้านตำลึงเย่จิ่งหานยิ้มเยาะ จะแข่งกันเรื่องเงินใช่หรือไม่?"สองร้อยห้าสิบล้านตำลึง"ตู้ม......ในงานประมูล หลายคนตกใจจนเป็นลมสองร้อยห้าสิบล้านตำลึง......พวกเขาหูฝาดไปหรือไม่?นี่แผนที่อะไรกัน ถึงได้มีราคาสูงขนาดนี้กู้ชูหน่วนพยายามพยักหน้าไปที่ห้องหมายเลขเจ็ดบนชั้นสอง บอกให้อี้เฉินเฟยหยุดประมูลได้แล้วเด็กรับใช้ของอี้เฉินเฟยกุมถ้วยน้ำชาและมือสั่นระริก"อาจารย์อี้ แม่นางกู้บอกให้เราหยุดการประมูล หรือว่าเราทำตามที่แม่นางกู้บอกดีหรือไม่""สามร้อยล้านตำลึง" อี้เฉินเฟยเอ่ยกู้ชูหน่วนอยากจะตายเสียให้ได้สามร้อยล้านตำลึง ให้เงินนางดีกว่าเสี่ยวลู่เอ่ยอย่างตื่นเต้น "แผน
เสียงของพิธีกรเสี่ยวลู่ดังขึ้นอีกครั้ง"สินค้าชิ้นต่อไปที่จะประมูลคือของปิดการประมูลของเราในครั้งนี้ ยังคงเป็นแผนที่ แผนที่สมบูรณ์ ชื่อว่าแผนที่มังกรเขียว"ตู้ม......การประมูลก็ระเบิดขึ้นทันที"เจ้าพูดอะไรนะ แผนที่มังกรเขียว? เป็นแผนที่พบลูกแก้วมังกรสีเขียวใช่หรือไม่?""ใช่ ทุกคนคงรู้ดีว่าลูกแก้วมังกรหมายถึงอะไร มีลูกแก้วมังกรทั้งหมดเจ็ดลูกในโลก ได้แก่ แดง ส้ม เหลือง เขียว ฟ้า น้ำเงิน และม่วง หากต้องการค้นหาลูกแก้วมังกร ก็ต้องมีแผนที่""โอ้สวรรค์ ลูกแก้วมังกรในตำนาน รีบกลับไปรวบรวมเงิน แม้ว่าเจ้าจะขายทรัพย์สินทั้งหมดของเจ้า เจ้าก็ต้องรวบรวมเงินทั้งหมด""ท่านพ่อ การขายบ้านทันทีทำได้ยากมาก""เช่นนั้นก็เอาบ้านไปจำนองก่อน แล้วเอาเงินมา""อาฝู รีบกลับไปหาฮูหยินเร็ว และให้ฮูหยินรวบรวมเงินทั้งหมดในบ้านและให้ลูกชายข้าไปยืมเงินทุกที่ที่ทำได้ ยืมให้ได้มากที่สุด คราวนี้เราจะเสี่ยงชีวิตเพื่อประมูลแผนที่ไข่มุกสีเขียว""……"แขกทุกคนในงานประมูลแทบจะให้คนรับใช้กลับไปรวบรวมเงินแม้แต่อัครเสนาบดีกู้ที่ไม่อยากเข้าร่วมการประมูลต่อแล้ว ก็ยังหวั่นไหวอีกครั้งและให้กู้ชูอวิ๋นรีบกลับไป แม้ว่าจะต้อ
"ห้าร้อยห้าสิบล้านตำลึง" ซ่างกวานฉู่รีบตามมาติดๆการเพิ่มราคาเมื่อครู่เป็นเพียงแค่การอุ่นเครื่องเท่านั้น ยามนี้ผู้ที่เสนอราคาคือตัวเอกที่แท้จริงกู้ชูหน่วนรู้ว่าอี้เฉินเฟย ซ่างกวานฉู่ และเย่จิ่งหานจะต้องแข่งขันกันแล้ว แต่ไม่รู้ว่าสามยักษ์ใหญ่เหล่านี้ใครจะเหนือกว่ากัน"หกร้อยล้าน""หกร้อยห้าสิบล้าน""เจ็ดร้อยล้าน"ซี้ดดด......ทั้งงาน นอกจากอี้เฉินเฟยและซ่างกวานฉู่แล้ว ไม่มีใครกล้าเสนอราคาอีกเลยแม้ว่าพวกเขาจะอยากได้ไข่มุกสีเขียวมากแค่ไหน ก็ไม่สามารถหาเงินมาได้มากขนาดนั้นกู้ชูหน่วนมองไปทางเย่จิ่งหานเจ้าคนนี้มองดูเฉยๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ ไม่ได้เสนอราคาเลย หรือว่าเขาตั้งใจจะรอให้อี้เฉินเฟยกับซ่างกวานฉู่สู้กันเสร็จก่อนแล้วค่อยเสนอราคา?เจ็ดร้อยล้านตำลึง นี่ไม่ใช่จำนวนเงินเล็กๆ เลยนะคงจะเทียบเท่ากับเงินทั้งหมดในคลังหลวงกระมังอี้เฉินเฟยเป็นบุคคลสำคัญของแคว้นหวา ทั้งยังเป็นอาจารย์สามของสำนักหยู และยังมีอีกหลายตัวตนที่ไม่เปิดเผย เขามีเงินก็สมเหตุสมผลแต่ซ่างกวานฉู่มีอะไร เขาเอาเงินมากมายขนาดนี้มาจากไหน?หรือจะพูดว่าเขามีตัวตนลับหลังอีกมากแค่ไหนกันแน่"เจ็ดร้อยห้าสิบล้านตำลึง" อี
“เจ้าจงไปตายเสียเถิด” ใบหน้าหล่อเหลาเย็นชาของเยี่ยเฟิงเต็มไปด้วยความเกลียดชัง เขาดึงดาบออกมาอย่างแรง เลือดสีแดงสดของนายท่านหลันพุ่งทะลักไปทั่ว สาดกระเซ็นมาบนใบหน้าขาวซีดของเยี่ยเฟิง ทำให้สายตาของเขาเลือนลาง ทว่าวินานี้ เยี่ยเฟิงกลับเห็นชัดแจ้งกว่าผู้ใด ดวงตาที่เต็มไปด้วยความอาฆาตแค้นคู่นั้นสะท้อนสีหน้าตกตะลึงของนายท่านหลัน “เจ้ากล้าฆ่าข้าเลยรึ...เจ้าคือผู้ที่ฆ่าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต เหตุใดถึงกล้าฆ่าข้าได้ เฮือก...” สิ่งที่ตอบแทนนายท่านหลันกลับมาคือการแทงด้วยกระบี่เข้าไปอีกครั้งอย่างไร้เยื่อใยจากเยี่ยเฟิง นายท่านหลันถูกแทงติดกันสองครั้ง ร่างกายเจ็บปวดราวกับใจจะขาด แต่เขากลับไม่รู้สึกอะไรเลย เพียงแค่จ้องมองเยี่ยเฟิงด้วยความโกรธแค้น จากความรู้สึกเหลือเชื่อในตอนแรก กลายเป็นปวดร้าว ไปจนถึงโกรธเกลียด เยี่ยเฟิงแสยะหัวเราะเบาๆ “ข้าคือผู้ที่เจ้าเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กจนโต ? เลี้ยงดูงั้นรึ เหอะ...เลี้ยงดูที่เจ้าหมายถึงคือทรมานข้าทุกวันทุกเวลา หน้าหนาวปล่อยให้ข้านอนเปลือยกาย หิวโหยอยู่บนพื้นหิมะ หน้าร้อนแขวนข้าไว้ใต้แสงอาทิตย์ไม่ให้กินดื่มเป็นเวลาหลายวัน ทั้งยังลงโทษอย่างหน
นายท่านหลันที่เดิมก็กระสับกระส่ายจนทำอะไรไม่ถูก เพราะการเข้ามามีส่วนร่วมของกู้ชูหน่วน ทำให้มีบาดแผลเพิ่มขึ้นอีกหลายแผล "ฟึบ..." อาวุธลับของกู้ชูหน่วนเชื่องช้า ทว่าพุ่งออกมากลางอากาศแล้วความเร็วกับเพิ่มกะทันหัน พริบตาเดียวเพิ่มขึ้นเป็นเท่าตัว อาวุธพุ่งเข้าที่หน้าอกของนายท่านหลัน ฝังลึกในร่างกาย เขาอยากจะตอบโต้ ทว่ากลับถูกต้อนจนจนมุม ไม่มีช่องว่างให้โจมตีกลับได้เลยแม้แต่น้อย ขืนเป็นเช่นนี้ต่อไป เขาคงต้องตายอย่างไม่ต้องสงสัย นายท่านหลันรู้สึกสิ้นหวังยิ่งกว่าเดิม หวังแค่ว่านายท่านหมู่ตานและคนอื่นๆ จะรีบมาถึงโดยเร็ว ไม่เช่นนั้นชีวิตของเขาคงต้องจบลงตรงนี้แล้ว กู้ชูหน่วนและอี้เฉินเฟยยิ่งร้อนรน ลำพังเพียงแค่เขาคนใดคนหนึ่งต่างก็ไม่อาจสังหารนายท่านหลันได้ ยามนี้วิทยายุทธของกู้ชูหน่วนแข็งแกร่งไม่พอ อี้เฉินเฟยทั้งเจ็บสาหัสและป่วยหนัก เว้นเสียแต่พวกเขาร่วมมือกัน แต่บาดแผลของอี้เฉินเฟยรุนแรงเกินไป อาจต้านทานไม่ไหวได้ทุกเมื่อ หากเขาทนไม่ไหว เช่นนั้นสถานการณ์การต่อสู้ครั้งนี้จะพลิกผันทันที เสียงขลุ่ยเปลี่ยนไป ราวกับกลองรบคำราม กึกก้องหนักแน่น ดาบที่พุ่งใส่นายท่านหล
ใบหูของกู้ชูหน่วนพลันกระดิก นางรับรู้ได้ถึงไอสังหารของนายท่านหลันแล้ว เพียงแต่ความเร็วของนางยังไม่เปลี่ยน ยังคงรวบรวมกำลังภายในทั้งหมดกระแทกใส่นายท่านเถาฮวา สองนายท่านแห่งกองธงร่วมมือกันโจมตี นางถูกหนีบอยู่ตรงกลาง ไม่มีหนทางจะชนะได้เลย หากเป็นเช่นนี้ ไม่สู้จัดการไปทีละคน สังหารนายท่านเถาฮวาก่อน ค่อยหันไปจัดการนายท่านหลัน ขณะเดียวกัน นางเองก็เชื่อ เชื่อว่าอี้เฉินเฟยไม่มีทางปล่อยให้นางตายอย่างทุกข์ทรมานด้วยน้ำมือของนายท่านหลัน "เฮือก..." นายท่านเถาฮวาไม่มีที่ให้หลบได้อีก ถูกพลังจากฝ่ามือของกู้ชูหน่วนโจมตี ร่างกายราวกับว่าวที่สายขาด กระเด็ดกลับไป สุดท้ายชนเข้ากับหินก้อนโตอย่างแรง เลือดอาบหินก้อนนั้นจนชุ่ม ความเร็วของกู้ชูหน่วนยังไม่เปลี่ยน ถีบลูกเตะออกไปทำให้นายท่านเถาฮวาพลัดตกหน้าผาร่วงไปยังทะเลโลหิตด้านล่าง ความแข็งแกร่งของนางอยู่เพียงแค่ขั้นหนึ่งชั้นกลาง แต่พละกำลังที่นางระเบิดออกมากลับแกร่งกว่าขั้นสอง นายท่านเถาฮวาผู้น่าสงสารจึงต้องตายไปเพราะกู้ชูหน่วนที่วิทยายุทธด้อยกว่าเขามาก ขณะเดียวกัน กระบวนท่าไม้ตายของนายท่านหลันก็พุ่งเข้ามาถึง อี้เฉินเฟยยกมือขวาขึ้นมา
"ในเมื่อเจ้าพูดยากขนาดนี้ เช่นนั้นก็คงต้องทำลายแก้วมังกรทิ้งเสีย ถึงอย่างไรหากต้องตาย มีแก้วมังกรฝังไปด้วยกันก็ไม่เลว" กู้ชูหน่วนพูดพลางเล็งอาวุธลับไปที่ดอกกุหลาบอีกครั้ง นายท่านหลันหน้าถอดสีอย่างรุนแรง นางผู้นี้ไม่เคยทำอย่างที่คนปกติเขาทำกันเลย หากนางยิงแก้วมังกรบนดอกกุหลาบร่วงลงทะเลโลหิตจริง เช่นนั้นก็จะกลายเป็นความสูญเสียที่ไม่อาจย้อนกลับคืนมาได้อีก แม้อี้เฉินเฟยจะรู้ว่ากู้ชูหน่วนไม่มีทางทำให้แก้วมังกรร่วงหล่นทะเลโลหิตไปจริงๆ แต่เห็นแล้วก็ยังรู้สึกอกสั่นขวัญแขวนอยู่ดี "ผลไม้สีแดงเพลิงของที่นี่มีฤทธิ์ในการรักษาอาการบาดเจ็บ เพียงแค่กินเข้าไปไม่กี่ลูก ก็จะสามารถฟื้นฟูได้ ซึ่งก็คือผลไม้ในมือเจ้าเมื่อครู่นั่นแหละ" "เจ้ารู้ได้อย่างไรว่าผลไม้นี่สามารถรักษาอาการบาดเจ็บได้" "กู้ชูหน่วน ข้าขอเตือนเจ้าว่าอย่าถามให้มากนัก" เขาจะบอกกู้ชูหน่วนได้อย่างไรว่า เขาไม่ได้กินอะไรมาหลายวัน เพราะความหิว จึงเด็ดผลไม้มากิน คิดไม่ถึงว่าวิทยายุทธจะได้รับการฟื้นฟูกลับมาแบบงงๆ กู้ชูหน่วนคลี่ยิ้มมีเลศนัยให้เขา เช็ดผลไม้ในมือ ก่อนจะยื่นให้อี้เฉินเฟยพลางจ้องมองนายท่านหลันด้วยท่าทีระวังตั
ไม่ไกลออกไป มีเสียงอาวุธกระทบดังขึ้นมาไม่หยุด หลังจากนั้นก็มีเสียงหินแตกกระจายและระเบิดในที่สุด กู้ชูหน่วนถือผลไม้สีแดงเพลิงที่เพิ่งเด็ดออกมาจากต้นเอาไว้ในมือ พลางฟังเสียงความเคลื่อนไหวอย่างละเอียด "มีเสียงกางและหุบพัด ทั้งยังมีเสียงอาวุธลับกลีบดอกไม้อีกบางส่วน น่าหลันหลิงรั่วกำลังต่อสู้กับนายท่านหมู่ตานเผ่าหมอ น่าแปลก คนเผ่าหมอบาดเจ็บหนักไม่ใช่หรือ เหตุใดถึงได้มีพละกำลังแข็งแกร่งเพียงนี้ น่าหลันหลิงรั่วอาจจะสู้พวกเขาไม่ได้" กู้ชูหน่วนพึมพำคนเดียว นางอยากไปดูด้วยตัวเอง ทว่าอี้เฉินเฟยยังอาการสาหัสขนาดนั้น หากฝืนประครองเขาไป มีแต่จะทำให้อาการเขาแย่กว่าเดิม แต่น่าหลันหลิงรั่วหากไม่ใช่เพราะช่วยนาง ก็คงไม่ต้องตกลงมายังที่แห่งนี้ แม้อี้เฉินเฟยจะบาดเจ็บสาหัสทั้งยังป่วยหนัก แต่ก็ไม่ได้หมายความว่าเขาจะฟังอะไรไม่ออกเลย สามารถใช้พลังกระแทกหินก้อนโตให้แตกได้เป็นก้อนๆ ต่อให้พละกำลังยังไม่ฟื้นฟูกลับมาทั้งหมด แต่เกรงว่าจะกลับมาถึงเจ็ดแปดส่วนแล้ว นายท่านหมู่ตานและนายท่านเถาฮวาล้อมโจมตีน่าหลันหลิงรั่ว กลัวแต่ว่าน่าหลันหลิงรั่วจะสู้พวกเขาไม่ไหว อี้เฉินเฟยเอ่ยอย่างเบาแรง "คนที่เจ้
กู้ชูหน่วนฟังด้วยความมึนงง ในเมื่อเกิดมาสูงศักดิ์ เหตุใดถึงได้ถูกปฏิบัติด้วยเช่นนั้น "เป็นหน้าที่แบบใดกันแน่" "หน้าที่ที่หนักมาก หนักอึ้งเสียจนหายใจไม่ออก" "เช่นนั้นตอนนี้นางอยู่ที่ใด" "ข้าก็ไม่รู้ว่านางไปอยู่ที่ใดแล้ว แต่ข้าเชื่อ ว่าอีกไม่นานนางจะกลับมา แค่กแค่ก..." ไม่รู้เพราะพูดมากเกินไปหรือไม่ อี้เฉินเฟยไอออกมาเป็นเลือดอีกครั้ง พลังชีวิตในร่างหายไปอย่างรวดเร็ว กู้ชูหน่วนเริ่มร้อนใจ คำถามมากมายที่กระจุกอยู่ภายในใจไม่อาจถามได้อีกต่อไป ทำได้เพียงแค่เอ่ยออกไป "ท่านอย่าเพิ่งพูดเลย พักผ่อนเถอะ" "อาหน่วน...หากวันใดที่ข้าไม่อยู่แล้ว เจ้าจะต้องมีชีวิตอยู่ต่อไปอย่างดี" "ท่านพูดเหลวไหลอะไร ท่านดูสิ ข้าพบแก้วมังกรเขียวแล้ว พวกท่านหาพบสี่ลูกแล้วไม่ใช่หรือ บวกกับลูกนี้ก็เป็นห้า ขอแค่หาเพิ่มอีกสองลูก อาการป่วยของท่านก็จะรักษาหายแล้ว" กู้ชูหน่วนหยิบแก้วมังกรขนาดเท่าไข่นกพิราบออกมา ดวงตาใสเป็นประกายฉายแววยิ้ม ดวงตาของอี้เฉินเฟยกำลังยิ้ม ทว่าในใจกลับขมขื่น แก้วมังกรลูกเดียว ต้องใช้ความพยายามของคนตั้งกี่รุ่น ถึงจะเจอเบาะแส หาง่ายเช่นนั้นเสียเมื่อไหร่ แก้วมังกรลู
ก้นหลุมดำ ลมพัดจนพวกเขาวิงเวียนศีรษะ กลิ้งตุปัดตุเป๋ สุดท้ายก็ถูกทุ่มลงไปบนพื้นอย่างแรง กู้ชูหน่วนเกือบจะเป็นลมสลบไป โชคดีที่พื้นอ่อนนุ่ม ไม่เช่นนั้นนางคงต้องตายไปแล้ว ทันใดนั้น นางรู้สึกสังหรณ์ใจไม่ดี ทันทีที่ลืมตาขึ้นมากลับพบว่าไม่ได้อยู่บนพื้นที่อ่อนนุ่ม แต่ล้มลงบนร่างของชายหนุ่มผมขาวชุดขาวคนหนึ่ง กู้ชูหน่วนรู้สึกบีบคั้นหัวใจ รีบประครองเขาขึ้นมา "พี่ใหญ่อี้เฟย ท่านตื่นขึ้นมาสิ..." กู้ชูหน่วนเอื้อมมือออกไป กลับสัมผัสโดนของเหนียวข้นบางอย่าง เมื่อจ้องมองดูดีๆ จะเป็นอะไรไปได้อีกนอกจากเลือด มุมปากของอี้เฉินเฟยมีเลือดซึม บนร่างโดนหินมีคมบาดจนเป็นแผลทั้งตัว ชุดสีขาวดุจหิมะถูกย้อมไปด้วยเลือดสีแดงสด พื้นที่มืดดำ ใบหน้าของเขาซีดขาว ไร้ซึ่งเลือดฝาด เพียงแต่บนใบหน้าที่อ่อนโยนยังคงคลี่ยิ้มปลอบโยน เอ่ยอย่างอ่อนแรง "เจ้าไม่เป็นไรก็พอ" กู้ชูหน่วนขอบตาแดงก่ำในชั่วพริบตา "ท่านมันโง่เสียจริง เหตุใดถึงดีกับข้าขนาดนี้ ข้ามีอะไรควรค่าให้ท่านช่วยเหลือด้วยชีวิตเช่นนี้" "เพราะ...เจ้าคือน้องสาวของข้า..." "ท่านเจ็บหนักมาก อย่าเพิ่งพูดเลย ข้าจะช่วยท่านรักษาอาการบาดเจ็บ" "ไม่...ไม่
มือของกู้ชูหน่วนกำอาวุธลับไว้แน่น มือข้างหนึ่งรวบรวมกำลังภายในทั้งร่างให้ขึ้นไปถึงขั้นสูงสุด พร้อมจะรับท่าไม้ตายของพวกเขาทุกเมื่อ น่าหลันหลิงรั่วเองก็ยืนอยู่ข้างกายกู้ชูหน่วนในทันที พร้อมจะสู้เคียงบ่าเคียงไหล่ไปกับนาง แต่พวกเขาคิดไม่ถึงเลยว่า ท่าไม้ตายเหล่านั้นยังไม่ทันมาถึงตัวนาง ก็ถูกใครบางคนสลายไปเสียก่อน มีคนอีกกลุ่มอยู่ในสระโลหิต คนกลุ่มนั้นมีผ้าคลุมสีขาว แขนเสื้อปักตัวอักษร "อวี้" คนเหล่านี้มีทั้งวัยชราและหนุ่มสาว พละกำลังกำลังแข็งแกร่ง เผ่าเทียนเฝินและเผ่าหมอร่วมมือกันก็ยังไม่อาจทำให้พวกเขาเสียเปรียบได้ "เผ่าอวี้...หายสาบสูญไปหลายพันปี ในที่สุดพวกเจ้าก็โผล่มาแล้ว" คนเผ่าเทียนเฝินต่างก็ตกตะลึง จ้องมองไปที่พวกเขาอย่างไม่ประสงค์ดี บรรยากาศมาคุขึ้นเรื่อยๆ เห็นได้ชัดเลยว่าเป็นศัตรูคู่แค้นกันมานาน ต่างก็เกิดอาการฉุนเฉียวกันอย่างแรง "ทุกชีวิตที่สูญเสียไปเป็นพันปี วันนี้ถึงเวลาสะสางกันแล้ว" ผู้เฒ่าผมขาวคนหนึ่งของเผ่าอวี้กัดฟันกรอด เค้นออกมาหนึ่งประโยค ดวงตาของเขาแดงก่ำ อยากจะฆ่าคนเผ่าเทียนเฝินให้เกลี้ยงเสียเดี๋ยวนั้น กู้ชูหน่วนหันไปทางน่าหลันหลิงรั่ว "เผ่าอ
ผู้อาวุโสระดับสูงแข็งแกร่งนัก ผู้อาวุโสฮวาต้านไว้ไม่อยู่ ถูกโต้กลับจนเจ็บหนัก ทันทีที่พัดสีดำของน่าหลันหลิงรั่วพลิกกลับ อาวุธลับนับสิบออกมาพร้อมกัน ทว่าถูกผู้อาวุโสระดับสูงของเผ่าเทียนเฝินต้านไว้จนกระเด็นออกไปหมด แม้แต่อาวุธลับของกู้ชูหน่วนก็กระเด็นออกไปพร้อมกัน “ฟิ้ว...” ไม่รู้ว่าผู้อาวุโสระดับสูงเคลื่อนไหวเช่นไร แต่เขาไปถึงด้านบนเสาดอกบัวเรียบร้อยแล้ว เขาผลึกกำลังภายในไว้ในมือ สลายพลังคุ้มกันรอบเสาดอกบัว น่าหลันหลิงรั่วเห็นเช่นนั้น พัดในมือราวกับมีจิตวิญญาณ คนและพัดประสานเป็นหนึ่งเดียว พุ่งเข้าไปด้วยความรวดเร็ว "ปัง ปัง ปัง......" เพียงพริบตาเดียว ทั้งสองคนต่อสู้กันไปหลายกระบวนท่า ท่วงท่าของพวกเขาเร็วเกินไป ทำให้กู้ชูหน่วนไม่รู้ว่าพวกเขาใช้กระบวนท่าอะไรบ้าง เห็นเพียงแค่ผู้อาวุโสระดับสูงกดน่าหลันหลิงรัวเสียอยู่หมัดอย่างรางๆ "ปัง......" หลังจากที่กระแทกฝ่ามือเข้าด้วยกัน ทั้งสองคนแยกออกจากกัน น่าหลันหลิงรั่วเจ็บหนัก เลือดไหลออกทางมุมปาก เขาเลียเลือดที่มุมปากด้วยท่าทางเจ้าเล่ห์ คิดจะบุกเข้าไปอีกครั้ง ทว่ากู้ชูหน่วนขวางเขาเอาไว้ "ตาแก่วิทยายุทธแข็งแกร่งมาก ขืนฝืนบุ