Beranda / รักโบราณ / ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม / ภาคต่อตอนที่59หญิงนางนั้นนางมีจุดหมายใดกันแน่

Share

ภาคต่อตอนที่59หญิงนางนั้นนางมีจุดหมายใดกันแน่

last update Terakhir Diperbarui: 2025-04-23 21:25:27

ผ่านมาแล้วสิบแปดปีเมืองหลวงแคว้นเป่ยเหลียงเจริญรุ่งเรือง ลำน้ำฉางซียังคงไหลเอื่อยๆ เรื่อยๆ ดั่งวันวาน ทว่าใต้ผืนฟ้ากว้าง... เด็กน้อยในวันนั้น บัดนี้เติบใหญ่กลายเป็นหนุ่มสาวงามสง่าสดใสในจนอ๋องไร้พ่าย

ภายในจวนอ๋องที่บัดนี้กลับครึกครื้น

"ไป๋อวี้ เจ้าอย่าขี่ม้ากลางลานซ้อมคนเดียวแบบนี้นักสิ ไหนจ้าบอกว่าจะตามข้าไปที่ตลาด"

เสียงหวานดุแกมตำหนิดังแทรกขึ้น พร้อมเงาร่างหญิงสาวในชุดสีครามอ่อน ผมยาวมัดด้วยเชือกไหม ถักเป็นเกลียวประณีต ใบหน้าแม้ยังคงมีเค้าความสดใสแบบเด็กสาว แต่ดวงตานั้น... สะท้อนความฉลาดหลักแหลมไม่แพ้ใคร แล้วยังอยู่ใกล้กันกับความว่าหญิงงามที่สุดในใต้หล้า

"พี่สาว เจ้าเอาแต่ตำหนิข้า ข้าก็โตแล้วนะ จะยืนเคียงข้างท่านพ่อไปรบไม่วันใดก็วันหนึ่งข้าหัดขี่ม้าไว้ให้เชี่ยวชาญจึงดี"

หัวเราะเสียงใส พลางสะบัดแส้เบา ๆ บังคับม้าให้หยุดตรงหน้า

เขาคือ ไป๋อวี้บุตรคนโตของอ๋องเฉิงอู๋ และมารดาอ้ายฉิงหยิงที่งดงามที่สุดในใต้หล้า ผู้มีสายเลือดนักรบในร่าง และมีใบหน้าหล่อเหล่าราวหญิงงาม ดวงตาคมราวนกอินทรี สายลมที่โบกผ่านใบหน้าทำให้คนมองเผลอคิดว่าเขาคือเงาสะท้อนในวัยหนุ่มของเฉิงอู๋อ๋องไม่มีผิด

หญิงงามอีกคนที่
Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi
Bab Terkunci
Komen (1)
goodnovel comment avatar
นพชารัตน์ อิทซิงแกร์
มีตอน ต่อจากนี้หรือไม่ หรือว่า จบเรื่องแล้ว
LIHAT SEMUA KOMENTAR

Bab terbaru

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   เลือดใหม่

    ณ มุมสวนด้านตะวันตกของจวนอ๋องไร้พ่าย ภายหลังการแสดงและพิธีรินชา ผู้คนต่างทยอยแยกย้ายไปตามมุมพักผ่อน แต่เสียงหัวเราะใสๆ กลับดังขึ้นจากใต้ต้นเหมยซึ่งกำลังออกดอกบานสะพรั่ง“เจ้ารู้หรือไม่” ไป๋ฮวาเดินเข้ามาด้วยดวงหน้าเปื้อนยิ้ม ขณะในมือถือถาดขนมเปี๊ยะหอมใหม่แกะจากห้องเครื่อง “การที่อี้หลินยกชาส่งให้เจ้า นั่นหมายถึงนางให้โอกาสเจ้าได้แก้ตัวแล้ว”ไป๋อวี้ยกจอกชาขึ้นจิบเบาๆ แววตาแฝงความหมายจนยากจะปิดบัง “แต่ข้าก็ยังไม่กล้าพอจะเอื้อมขออะไรจากนาง…”“ก็ดีแล้ว” ไป๋ฮวาหัวเราะพลางเอื้อมมือหยิบขนมเปี๊ยะส่งให้ “ถือว่าฟ้าให้โอกาส อย่ารีบเร่งนักต้องใจเย็นๆ นางยังไม่ไปไหน”ก่อนที่ไป๋อวี้จะทันตอบเสียงทุ้มหนึ่งก็ดังขึ้นจากด้านหลัง“เมื่อใดข้าจึงจะได้โอกาสดีๆ เช่นนั้นบ้างเล่า”เสียงนั้นอ่อนโยนแต่แฝงรอยตัดพ้อบางเบาไท่จือซางหลางยืนพิงเสาไม้ ทอดสายตามองหญิงสาวตรงหน้าอย่างไม่วางตา…ไป๋ฮวายกคิ้ว ทำทีเป็นไม่เข้าใจในความหมาย “ท่านหมายถึง…อี้หลินหรือ เช่นนั้นเจ้าต้องข้ามศพเจ้ากบไปก่อนล่ะ ข้าจะช่วยถือดาบให้ ลำบากท่านแล้ว ไท่จือซางหลางเอาอย่างนี้ไป๋ฮวาเป็นแม่สื่อให้ท่านเองดีไหม”“หึ…” ซางหลางถอนหายใจ ก่อนจะสาวเท

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ยังให้โอกาส

    ไป๋อวี้...ยืนอยู่ใต้เงาร่มไผ่ ใบหน้าเงียบขรึมแต่ดวงตากลับเปี่ยมด้วยความรู้สึกหลากหลายเขาจ้องมองอี้หลินด้วยสายตาที่สะท้อนทั้งความรู้สึกผิดเขาปรามาสนางเกินไปดวงตาคู่นั้นเหมือนจะได้ยินทุกถ้อยคำจากปากนางทุกถ้อยคำที่เปรียบเสมือนเข็มทิ่มกลางอกเขาขยับเท้า...ราวจะก้าวไปข้างหน้าแต่แล้ว...กลับหยุดชะงักใจเต้นแรงดั่งระฆังทองถูกเคาะในอกสุดท้าย เขาทำได้เพียงมองนางเงียบๆแม้ยืนอยู่แค่ปลายสายตา... ก็ยังไม่กล้าเดินเข้าใกล้ความรู้สึกผิดเต็มหัวใจเว่ยจิน ไท่จือแห่งเป่ยเอียน เดินตรงเข้ามาตรงหน้าเจียวหยูและตงเกานั่งเคียงข้างกันเว่ยจินหยุดยืนตรง ก้มศีรษะคารวะอย่างนอบน้อม“ข้าน้อยเว่ยจิน คารวะฮูหยินเจียวหยูและท่านฟางตงเกา เป็นเกียรติยิ่งนักที่ได้พบท่านทั้งสองในวันนี้”เจียวหยูยิ้มบาง แต่แววตายังคงสุขุมเปี่ยมไปด้วยชั้นเชิงของสตรีที่ผ่านโลกมามาก นางพยักหน้ารับ“เจ้าช่างเติบโตมาได้องอาจสมกับที่เป็นโอรสของฮ่องเต้โตวโฮฉินและองค์หญิงเก้าจิวอันนัก ข้าได้ยินชื่อเสียงของเจ้าไม่น้อย...”ตงเกาเอ่ยขึ้นบ้าง เสียงนุ่มลึก“ตระกูลเป่ยเอียนและตระกูลฟางแม้ไม่เคยเกี่ยวข้องกันโดยตรงแต่ก็เคยมีสายสัมพันธ์อันดีกันในอดีต บ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ตามหารักแท้พบเจอหรือยัง

    เสียงปรบมือสองที… แปะ… แปะ…ผู้คนหันขวับใต้ร่มพัดไผ่ลายทอง ไท่จือเว่ยจินยืนนิ่งในอาภรณ์สีน้ำเงินเข้มปักลายพญาอินทรีเหินเวหา ดวงตาคมยามนั้นมีแววเฉียบขาดแต่เรียบสงบ ริมฝีปากคลี่ยิ้มบาง เปิดเผยจริงใจเขาหันข้างเล็กน้อย แล้วกล่าวกับขันทีคนสนิทเสียงแผ่วเบาแต่หนักแน่น“นำของกำนัลไปมอบให้คุณหนูทั้งสอง… กล่าวกับนางว่า ข้าชื่นชมจากใจ”ขันทีนามหลิวกวง โค้งรับคำ แล้วเบี่ยงตัวออกไปในมือมีหีบไม้จันทน์ขนาดเล็กสองกล่อง ห่อด้วยผ้าไหมทอด้วยดิ้นทองขันทีน้อยยืนเบื้องหน้าสองพี่น้อง แล้วกล่าวด้วยเสียงชัดเจน“ไท่จือเว่ยจิน รับชมการแสดงของคุณหนูฟางทั้งสองด้วยความประทับใจอย่างยิ่งจึงขอมอบของกำนัลนี้แด่ท่านทั้งสอง เพื่อเป็นเกียรติและคำขอบคุณในศิลปะอันเลอค่า ขอให้รับไว้เถิดขอรับ”อี้เหยาถอนหายใจไม่ชอบใจท่าทีอวดสรรพคุณของเว่ยจินนัก ก่อนที่อี้หลินจะรับเอาหีบไม้ประคองไว้ด้วยมือนุ่มนวลอี้เหยายืนนิ่ง แต่ก็ย่อกายเล็กน้อย กล่าวเสียงนุ่ม“ไท่จือเมตตาเกินไปเพคะ พวกหม่อมฉันหาได้กล้ารับสิ่งใดโดยไม่กล่าวคำขอบคุณ...”เว่ยจินเพียงแค่ยกมือขึ้นเบา ๆ“อย่าได้เกรงใจ... สตรีที่ยิงธนูแม่นยำราวกับอ่านใจได้ และผู้บรรเลงพิณเสนาะจ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   สองพี่น้องบ้านฟาง

    เสียงพิณแว่วแผ่วจากเหล่านางดนตรี เพลงบรรเลงพลิ้วราวหมอกยามเช้า ผสานเข้ากับเสียงดีดเครื่องสายอย่างสงบเยือกเย็นบนฟากฟ้าเหนือเวที…สายลมเริ่มพัดแรง ใบหลิวปลิวว่อนประหนึ่งสัญญาณแห่งความแปรเปลี่ยนทันใดนั้นเองเสียงตะโกนจากผู้ดำเนินงานดังกังวาน“และบัดนี้...ขอเชิญรับชมการแม่นธนูและบรรเลงเพลงพิณจากบุตรีบ้านฟาง คุณหนูฟางอี้หลิน และคุณหนูฟางอี้เหยา”จู่ๆ แสงไฟเวทีพลันหรี่ลง ท้องฟ้าสีทองส้มฉายเงาผ่านหลังคาศาลาไม้สูงเสียงลมหวิว…ผู้คนทั้งงานหันหน้าขึ้นไปพร้อมกันและแล้วร่างหนึ่งในชุดสีฟ้าครามปักลายปรากฏกายเหนือหลังคาศาลา ใบหน้าปิดบังไว้ด้วยหน้ากากอัปลักษณ์สลักลายคล้ายหยกกะเทาะ ร่อนตัวลงจากหลังคา ร่างเบาหวิวราวกับขนนก ในนาทีที่เท้าสัมผัสพื้นเวที ก็ยืนในท่ามั่นเสียงฮือฮาอื้ออึง มือขวายกคันธนูไม้หอมขึ้นเหนี่ยวสายคันธนูดั่งเทพีธนูที่หลุดมาจากตำนานเสียงฮือฮาทั้งลานดังขึ้นอีกครั้งกับท่าทีสง่างามเกินหญิง“นั่นหรือคุณหนูฟาง ไหนว่าพวกนางสองพี่น้องงดงามราวเทพีสวรรค์ แล้วเหตุใดถึงสวมหน้ากากอัปลักษณ์เช่นนั้น “หรือตั้งใจจะทำสิ่งใดกันแน่” เสียงซุบซิบดังไปทั่วลานท่ามกลางสายตาทุกคู่ที่จับจ้อง ไป๋อวี้ที่นั่

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   มิตรภาพ

    กลิ่นหอมจากชาอู่หลงชั้นเลิศลอยแผ่วอ้อยอิ่ง ขับกล่อมให้ลานน้ำชาชั้นสูงดูอบอุ่นและงดงามในแสงอาทิตย์อ่อน ๆอี้เหยาในอาภรณ์ผ้าไหมสีชมพูอ่อนปักดอกเหมย ยืนเคียงมารดาเจียวหยูริมซุ้มพฤกษา แววตาเธอจับจ้องไปยังขบวนเสด็จของโตวโฮฉินและเครื่องบรรณาการที่มีไท่จือเว่ยจินปรากฏตัวพร้อมกับขบวนบรรณาการอลังการอี้เหยาเบ้ปากเล็กน้อย ขณะกระซิบเบาๆ กับมารดา“ท่านแม่...บุรุษหน้ายิ้มผู้นั้นคือผู้ใดหรือเจ้าคะ ช่างทำตัวเย่อหยิ่งราวกับโลกทั้งใบเป็นของเขา มิรู้จักความพอดีเอาเสียเลย”เจียวหยูหันมามองลูกสาวแวบหนึ่ง ก่อนเอ่ยเสียงนุ่ม“นั่นคือไท่จือเว่ยจิน บุตรชายหัวแก้วหัวแหวนขององค์หญิงเก้าจิวฮัวกับฮ่องเต้โตวโฮฉินแห่งแคว้นเป่ยเอียน”อี้เหยาทำตาโต“โอ้...เชื้อสายสูงศักดิ์เช่นนั้นหรือ...ก็ว่าอยู่ ทำไมถึงดูร่ำรวยและ...อวดดีนัก”“เหยาเอ๋อร์” เจียวหยูปรามเสียงเบาแต่จริงจัง “แม้เจ้าจะไม่ชอบเขา ก็ไม่ควรพูดเช่นนั้น บุญคุณเก่าระหว่างแคว้นเป่ยเอียนกับเรา รวมถึงตัวฝ่าาทกับฮองเฮาแคว้นเป่นเอียน เคยมีต่อพ่อเจ้าและตัวแม่ไม่น้อย เขาก็ไม่ต่างจากเฉิงอู๋อ๋องกับพระชายาที่เจ้าชื่นชมนัก”อี้เหยาขมวดคิ้วเล็กน้อย“แต่เขามิใช่เฉิงอู๋อ๋อง

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   มาเพื่อชนะ

    “หากนางยอมรินชาให้มือนางเอง...ข้าจะถือว่าชนะไปแล้วครึ่งหนึ่งพ่ะย่ะค่ะ” ซางหลางกล่าวเสียงนุ่มแล้วดวงตาคมนั่นก็เหลือบไปทางหนึ่ง...เงาผ้าชั้นดีปักลายกลีบบุปผากำลังพลิ้วไหวไปตามทางเดิน... พร้อมเจ้าของที่ไม่รู้ตัวเลยว่าทุกฝีก้าวกำลังถูกเฝ้ามองด้วยใจอันแน่วแน่แม้ยามเช้าเพิ่งคล้อยสู่สาย แต่ลานกลางสวนหลวงในจวนอ๋องไร้พ่ายกลับเนืองแน่นไปด้วยผู้คนม่านแพรหลากสีปลิวไหวในสายลมบางเบา กลิ่นชาหอมฟุ้งลอยแตะจมูกไปทั่ว เสียงคุยเจื้อยแจ้วของเหล่าบุตรีขุนนางผสานเสียงหัวเราะแผ่วเบาโต๊ะน้ำชาถูกจัดเรียงเป็นกลุ่มรายรอบศาลากลางน้ำที่มีเวทีเล็ก ๆ ตั้งขึ้นเพื่อแสดงดนตรีขับกล่อม เสียงพิณจีนร่ำไห้เบา ๆ เคล้าความงามของกลีบดอกเหมยที่โปรยปรายลงมาช้า ๆขุนนางฝ่ายบุ๋นและฝ่ายบู๊มากมายทยอยเดินทางมาถึง บุตรชายผู้มีวัยไล่เลี่ยต่างประดับตนด้วยเสื้อผ้าสีสุภาพแต่อาภรณ์งามล้ำ สะท้อนสถานะและความมุ่งหมายในการพบปะหญิงงามแห่งวังหลวงเจียวหยูและตงเกาก็เดินยิ้มมาร่วมโต๊ะกลางพร้อมเสียงหัวเราะและกล่องขนมหวานแปลกตาที่นำมาจากตลาดเมืองเหนือแต่แม้จะครื้นเครงเท่าใด... กลับยังมีเงาเงียบงันหนึ่งแผ่คลุมเหนือทุกบทสนทนา“ท่านแม่ท่านรู้หรือ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status