Share

เราทุกคนล้วนบอบช้ำมา

last update Last Updated: 2025-07-19 08:22:19

แสงจันทร์ส่องลอดผ่านเงาไม้ลงบนพื้นหินเย็นเยียบ เสียงสายลมพัดเบาๆ ปะทะม่านผ้าทางเดินที่พลิ้วไหวราวจะบอกว่าราตรีนี้ยังไม่หลับใหล

ซางหลาง เดินโซเซมาในชุดคลุมยาว สีหน้าระเรื่อด้วยฤทธิ์สุรา กลิ่นเหล้าจางๆ โชยมาตามตัว ท่วงท่าแม้จะมัวเมา แต่สายตากลับแจ่มชัดเมื่อเขายืนหยุดอยู่หน้าประตูห้อง

ประตูห้องเปิดแง้มอยู่

ดวงตาคู่นั้นสบเข้ากับภาพตรงหน้า เว่ยจินที่นอนหลับตาอยู่บนแท่นนอน มือข้างหนึ่งยังคงกุมมือของไป๋ฮวาที่นั่งอยู่ข้างแท่นนอน ใบหน้าของนโน้มไปเล็กน้อย ราวกับจะหลับไปเช่นกัน

สายตาของซางหลาง...นิ่งคล้ายกับหยุดชะงัก ไม่มีถ้อยคำ ไม่มีเสียงถอนใจ

มีเพียงแววตา ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าปนปวดร้าว บางสิ่งที่ซ่อนไว้ในใจ กลับถูกเปิดออกด้วยเงียบงันเบื้องหน้านั้นเอง

เสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นด้านหลัง เป็นเงาของชายหนุ่มอีกผู้ที่เดินเข้ามาหยุดยืนข้างเขา

ไป๋อวี้

เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไร เพียงมองตามสายตาของซางหลาง แล้วก็ถอนหายใจเบาๆ

มือหนึ่งของไป๋อวี้ยกขึ้น ตบเบาๆ ลงบนไหล่ของซางหลาง

“ไปเถอะ... ไปดื่มกัน ยังดื่มไม่มากพอจึงเป้นเช่นนี้ปลดปล่อยมันออกมาเสียพรุ่งนี้จึงจะไม่ต้องทุกข์ตรม อย่างน้อย...ท่านก็ยังมีเหล้า มีราต
Continue to read this book for free
Scan code to download App
Locked Chapter

Latest chapter

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ถุงหอมใบใหม่

    ไป๋อวี้ ถอนหายใจ ก่อนจะยิ้มเต็มปากและบอกด้วยน้ำเสียงที่เป็นกันเอง “พี่ไป๋ฮวาคิดว่าท่านไมไ่ด้คิดมากอย่างนี้นางหวังว่าท่านจะหนักแน่น” เสียงของเขาแฝงไปด้วยความเข้าใจที่ลึกซึ้งซางหลาง ยืนนิ่ง พยายามตีความคำพูดเหล่านั้น ก่อนจะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงทุ้ม “ข้าจะลองพิจารณาดู... จะพยายามให้นางเห็นว่าข้ารู้สึกยังไง”ไป๋อวี้ พยักหน้าหนักแน่นและยิ้มให้อย่างเป็นกันเอง “นั่นแหละ ท่านต้องเป็นตัวของตัวเอง ไม่ต้องคิดมากเกินไป พี่ไป๋ฮวาจะเข้าใจในตัวของท่าน ว่าท่านรู้สึกอย่างไร”ซางหลางหันไปมอง ไป๋อวี้ ด้วยแววตาที่หนักแน่นมากขึ้น แม้ว่าในใจจะยังคงมีคำถามบางอย่าง แต่เขารู้ดีว่า ไป๋อวี้ พูดจากใจจริง“ขอบคุณ… ข้าจะคิดดูดี ๆ” เขาพูด ก่อนจะหันไปมองทางที่ไป๋ฮวาเดินไปสาวใช้คนหนึ่งเดินเข้ามาในห้องของ อี้เหยา พร้อมกับใบหน้าที่ดูซีเรียสแต่ยังคงพยายามรักษามารยาท สาวใช้พูดขึ้นด้วยเสียงอ่อน ๆ ว่า“ฮองเฮาจิวฮัวเรียกคุณหนูอี้เหยาเจ้าค่ะ”“เรียกข้าหรือ”“ฮองเอาจิวฮัวบอกข้าว่าให้เรียกท่านไปช่วยเย็บถุงหอมใบใหม่ให้กับท่านไท่จือเว่ยจินค่ะ”อี้เหยา เงยหน้าขึ้นจากการทำงานตรงหน้า พลางขมวดคิ้วด้วยความแปลกใจ “เย็บถุงหอม... ฮ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ซางหลาง+ไป๋ฮวา

    แสงแดดยามเย็นทอดยาวเหนือทางเดินหินอ่อนที่ประดับด้วยพรรณไม้และต้นบ๊วยริมทางสายลมเย็นพัดผ่านเสื้อคลุมบาง ๆ ของ ไป๋ฮวา ที่เดินไปตามทางเสียงฝีเท้าของ ซางหลาง ที่กำลังเดินทางไปในทิศทางตรงกันข้ามไป๋ฮวา หยุดฝีเท้าทันทีแล้วหันไปจับสายตาของเขา“ท่าน…ทำไมต้องหลบหน้าข้า?” เสียงนางดังขึ้นอย่างแผ่วเบาแต่แฝงด้วยความรู้สึกที่ซับซ้อนซางหลาง มองแวบเดียวแล้วพยายามจะหลบสายตานั้นโดยไม่พูดอะไร ตัดสินใจเดินผ่านไปอย่างไม่สนใจแต่ ไป๋ฮวา ก้าวข้ามทางไปขวางเขาทันที“ข้าไม่ได้หลบหน้า” เขาพูดขึ้นเสียงต่ำแต่หนักแน่นไป๋ฮวา ยิ้มบาง ๆ ใบหน้าที่ยังคงสดใส แต่แฝงไปด้วยความรู้สึกที่ทิ่มแทงใจ“ไม่ได้หลบหน้า แล้วทำไมท่านไม่ไปหาข้า... ข้ารินน้ำชาให้ท่าน แต่นี่สิ... ดูใจท่านซะก่อน ว่าท่านตั้งใจจะลืมมันเสียจริง ๆ หรือ ข้าน้อยใจนะ…”คำพูดของนางทำให้เขาหยุดชะงัก เสียงหัวใจของ ซางหลาง ดังก้องอยู่ในหู แต่เขากลับเงียบ ราวกับถูกความรู้สึกบางอย่างบีบคั้นจนไม่อาจพูดอะไรออกมาไป๋ฮวา ก้มหน้านิ่ง แล้วหันหลังวิ่งจากไปตามทางเดินทันที ราวกับว่าเธอไม่สามารถทนเห็นความเงียบที่เขามอบให้เธอได้อีกต่อไปซางหลาง ยืนนิ่งอยู่พักหนึ่ง มองตามไป

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ลั่นกลองรบ

    ม่านผ้าไหมสีทองถูกยกขึ้นเบาๆ ขณะองครักษ์ประกาศเสียงกังวาน“เฉิงอู๋อ๋อง ฟางตงเกาขอออนญาตเข้าเฝ้าฝ่าบาท”เสียงฝีเท้าหนักแน่นก้าวเข้าไปในท้องพระโรง ชุดเกราะดำลายเมฆทองส่องประกายสะท้อนแสงอาทิตย์เฉียงเช้า บนใบหน้าเฉิงอู๋อ๋องไม่มีรอยยิ้ม มีเพียงดวงตาเข้มขรึมดั่งเปลวเพลิงที่รอวันลุกโชนบนบัลลังก์…ฮ่องเต้ปาหวางฮ่อ ทรงประทับนิ่ง เฝ้ารอฟังอย่างเงียบงัน ข้างพระองค์…จิวอันฮองเฮายืนเคียงอยู่ สีหน้าเคร่งขรึมไม่ต่างกันเฉิงอู๋อ๋องกับตงเกาทรุดตัวลงคุกเข่า“กระหม่อม เฉิงอู๋อ๋อง ขอทูลขอพระราชทานจัดทัพแคว้นเป่ยเหลียง เพื่อออกล้างแค้นให้กับฝ่าบาทโตวโฮฉิน”เสียงของเขาดังชัด ก้องท้องพระโรง ทุกอักขระแฝงความอัดอั้นและความอาลัยปาหวางฮ่องเต้ทอดสายตามองเฉิงอู๋อ๋องและตงเกาผู้ภักดีเบื้องหน้า“เจ้าแน่ใจหรือว่าทัพเป่ยเหลียงพร้อมแล้ว”เฉิงอู๋อ๋องเงยหน้าขึ้น ตอบด้วยน้ำเสียงไม่สั่นไหว“แม้ไม่พร้อม ข้าก็จะต้องให้มีการซ้อมรบ เพื่อทำให้พร้อม และข้าเฉิงอู๋อ๋องจะต้องวางกลยุทธ์ให้ดี แม้ต้องเดินทางเพียงลำพัง ข้าก็จะล้างแค้นแทนพระองค์ผู้ถูกปลิดชีพอย่างอัปยศ โตวโฮฉิน คือพันธมิตรที่แท้จริงของเป่ยเหลียง หากเรายอมให้เป่ยซวีลอยนวล

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ผลัก

    ดวงตาของเขานิ่งราบเรียบ...เหมือนแม่น้ำที่ถูกน้ำแข็งปิดทับ อี้เหยาไม่สะทกสะท้านหัวเราะเบา ๆ พยายามไล่บรรยากาศอึมครึมนั้นเสีย“ท่านเคยพูดว่า ข้าโกรธอะไรท่านหรือเปล่าคราวนี้ข้ามาตอบคำถามให้แล้วนะ อยากฟังไหม”อีกคนเงียบงัน“ไม่ลองชิม ข้าจะน้อยใจจริง ๆ ด้วย…ข้าขี้งอนนะใครๆ ก็พูดแบบนั้น” อี้เหยาพูดพร้อมทำหน้าแง่งอน แสร้งล้อเลียนตัวเองแต่เว่ยจินยังนิ่ง ไม่ตอบ ไม่สบตา ในใจเขาหนักอึ้งจนไม่อาจส่งรอยยิ้มให้ใครได้อีกเงียบ… เงียบงันราวกับทั้งห้องไร้เสียงรอยยิ้มบนใบหน้าอี้เหยาเริ่มไหวเล็กน้อย ดวงตากลมโตที่เคยสดใสตอนเข้ามานั้น บัดนี้เริ่มเปลี่ยนเป็นเศร้าสร้อยอีกครั้งวางถาดขนมลงบนโต๊ะข้างแท่นนอนอย่างแผ่วเบา“…เจ้าไม่อยากคุยกับใคร…ข้าก็เข้าใจ” อี้เหยากระซิบเบา แทบไม่เป็นคำ “แต่…อย่างน้อย…ข้าก็อยากให้เจ้ารู้ ว่าข้ายังอยู่ตรงนี้...ข้ายังอยากให้เจ้ากลับมาทะเลาะกับข้าเหมือนเดิม” กลืนก้อนแข็งๆ ลงคอ ยิ้มสุดท้ายให้เขา ดวงตาเริ่มแดงก่ำแต่ยังคงยิ้มก่อนจะหมุนตัวกลับ เดินช้า ๆ ออกไปทันใดนั้น...มือเรียวยาวของเว่ยจินเอื้อมออกไปแต่ยังไม่ทันสัมผัส…ปลายนิ้วเขากลับสั่นน้อย ๆ แล้วชะงักเขาเผลอยื่นไปจนปลายนิ้วสัมผ

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   เราทุกคนล้วนบอบช้ำมา

    แสงจันทร์ส่องลอดผ่านเงาไม้ลงบนพื้นหินเย็นเยียบ เสียงสายลมพัดเบาๆ ปะทะม่านผ้าทางเดินที่พลิ้วไหวราวจะบอกว่าราตรีนี้ยังไม่หลับใหลซางหลาง เดินโซเซมาในชุดคลุมยาว สีหน้าระเรื่อด้วยฤทธิ์สุรา กลิ่นเหล้าจางๆ โชยมาตามตัว ท่วงท่าแม้จะมัวเมา แต่สายตากลับแจ่มชัดเมื่อเขายืนหยุดอยู่หน้าประตูห้องประตูห้องเปิดแง้มอยู่ดวงตาคู่นั้นสบเข้ากับภาพตรงหน้า เว่ยจินที่นอนหลับตาอยู่บนแท่นนอน มือข้างหนึ่งยังคงกุมมือของไป๋ฮวาที่นั่งอยู่ข้างแท่นนอน ใบหน้าของนโน้มไปเล็กน้อย ราวกับจะหลับไปเช่นกันสายตาของซางหลาง...นิ่งคล้ายกับหยุดชะงัก ไม่มีถ้อยคำ ไม่มีเสียงถอนใจมีเพียงแววตา ที่เต็มไปด้วยความว่างเปล่าปนปวดร้าว บางสิ่งที่ซ่อนไว้ในใจ กลับถูกเปิดออกด้วยเงียบงันเบื้องหน้านั้นเองเสียงฝีเท้าเบาๆ ดังขึ้นด้านหลัง เป็นเงาของชายหนุ่มอีกผู้ที่เดินเข้ามาหยุดยืนข้างเขาไป๋อวี้เจ้าตัวไม่ได้พูดอะไร เพียงมองตามสายตาของซางหลาง แล้วก็ถอนหายใจเบาๆมือหนึ่งของไป๋อวี้ยกขึ้น ตบเบาๆ ลงบนไหล่ของซางหลาง“ไปเถอะ... ไปดื่มกัน ยังดื่มไม่มากพอจึงเป้นเช่นนี้ปลดปล่อยมันออกมาเสียพรุ่งนี้จึงจะไม่ต้องทุกข์ตรม อย่างน้อย...ท่านก็ยังมีเหล้า มีราต

  • ชายาอัปลักษณ์ของท่านอ๋องรูปงาม   ความหวังจากความสงสาร

    แสงตะเกียงบนโต๊ะหนังสือส่องผ่านม่านบางสะท้อนเงาอ่อนโยนลงบนใบหน้าเรียบนิ่งของ อ้ายฉิง ที่นั่งจิบชาเงียบๆ มือเรียวสวยวางถ้วยชาลงเบา ก่อนจะเอ่ยเสียงเรียบแต่จริงจัง“ข้าได้ยินมา... ว่าในงานเลี้ยงน้ำชา วันนั้น ไป๋ฮวาเป็นฝ่ายรินชาให้กับซางหลางก่อน”เฉิงอู๋อ๋อง ที่ยืนอยู่ริมหน้าต่างเบือนหน้ากลับมาช้าๆ แววตาครุ่นคิดก่อนจะตอบเสียงหนักแน่น“เรื่องนั้น... ไว้ค่อยพูดกันอีกทีเถิด เว่ยจินก็ไม่ได้ทำอะไรผิด และเจ้าเองก็เห็น เขา...ช่างน่าสงสารยิ่งนัก”อ้ายฉิงเงยหน้าขึ้นมองเขา แววตานิ่งสงบแต่ลึกซึ้ง ราวกับมองเข้าไปถึงความคิดของบุรุษตรงหน้า“ท่านอ๋อง...ท่าน กำลังคิดอะไรอยู่กันแน่”หยุดไปครู่หนึ่งก่อนจะกล่าวด้วยน้ำเสียงแน่วแน่“ความพอใจของไป๋ฮวา ถือเป็นที่สุดแล้วสำหรับคนเป็นแม่อย่างข้าในเมื่อไป๋ฮวาเลือกซางหลาง ข้าก็ควรจะยอมรับ... และซางหลางเอง ก็หาได้ทำผิดอันใด”เฉิงอู๋อ๋อง เงียบไปชั่วอึดใจ ก่อนจะเดินเข้ามาใกล้ แล้วโน้มตัวสวมกอด อ้ายฉิง ไว้แน่น ดวงตาที่เคยเฉียบคมกลับหม่นแสงลง“ข้าแค่... สงสารเว่ยจิน เขาสูญเสียบิดา สูญเสียบ้านเมือง บัดนี้... ข้าก็ไม่อยากให้เขาต้องสูญเสียหัวใจไปอีก หากไป๋ฮวาจะลองเปิดใจให้เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status