แต่น่าเสียดาย เขามองใบหน้าขององค์หญิงน้อยแค่แวบเดียวก็อยากคุกเข่าแล้วอย่าว่าแต่สู่ขอกลับบ้านเลย แม้แต่คิดล่วงเกินก็ยังไม่กล้าด้านข้างคือหนานฉีที่เพิ่งมาถึง “พี่รอง ท่านว่าทำไมองค์หญิงน้อยของตงโจวถึงหน้าตาคล้ายองค์หญิงแคว้นเซียนหลิงของเราเช่นนี้?”หนานโย่วส่ายศีรษะ เขาก็อยากรู้เช่นกันทางนี้มีเชื้อพระวงศ์และชนชั้นสูงไม่น้อยมาคารวะเหล่ากู้หว่านเยว่ แม้ยังไม่ได้จัดพิธีแต่งตั้ง แต่ปัจจุบันอำนาจที่อยู่ในมือของกู้หว่านเยว่ เรียกได้ว่าเป็นหนึ่งในสองของเชื้อพระวงศ์ที่มีอำนาจสูงสุดแล้ว“องค์หญิง” ทันใดนั้นก็มีเสียงดังขึ้นจากข้างหลัง เมื่อกู้หว่านเยว่หันกลับไป ก็มองเห็นผู้หญิงหน้าตาอ่อนหวานละมุน และสายตาเต็มไปด้วยความชื่นชมคนหนึ่ง“เจ้าคือ?”แววตากู้หว่านเยว่เผยให้เห็นความตะลึง แวบแรกที่เห็นหร่วนหรง นางก็รู้สึกดีอย่างอธิบายไม่ถูกอาจเป็นเพราะแววตาของหร่วนหรงจริงใจมาก“องค์หญิง หม่อมฉันชื่อหร่วนหรง ท่านพ่อคือหร่วนจื้อไจ้ ช่วงก่อนตามท่านไปตีเป่ยตี้เพคะ” หร่วนหรงแนะนำตัวเองอย่างอ่อนโยน ราวกับว่านางเขินอาย ขณะที่พูดก็ใช้มือจิกชายเสื้อไปด้วย“ที่แท้ลูกสาวของแม่ทัพหร่วนนี่เอง” กู้หว่านเยว่
จงหลี่พยักหน้า “เช่นนั้นพี่ใหญ่ไปรอเจ้าที่ข้างนอก”กู้หว่านเยว่พยักหน้าแล้วเดินเข้าไปในห้อง ผ่านไปครู่หนึ่ง ก็ออกมาพร้อมกับสีหน้าที่เคร่งขรึม“พี่ใหญ่ เป็นพิษชวนวู”อินทรีสิงโตถูกพิษ แต่ตรวจพบพิษชนิดนี้ได้ยากมากจงหลี่ครุ่นคิดครู่หนึ่ง “นี่ไม่ใช่ผิดธรรมดา และพบได้ในแคว้นโยวหลานเท่านั้น”ทั้งสองสบตากันแวบหนึ่ง “ข้าจะให้คนไปตรวจสอบเดี๋ยวนี้ ดูว่าช่วงนี้มีคนจากแคว้นโยวหลานเข้ามาในตงโจวหรือไม่”ปัจจุบันแคว้นตงโจวกำลังใช้ระบบทะเบียนบ้านและเอกสารผ่านด่าน ทุกคนที่เข้าเมืองหรืออำเภอของตงโจว จะมีการบันทึกอย่างละเอียด ไม่ว่าจะเป็นสถานะหรือมาจากแคว้นใดกู้หว่านเยว่พยักหน้าถ้าหากเป็นแคว้นโยวหลานก็ไม่ใช่เรื่องแปลกต้องเป็นเพราะพวกเขากลัวตงโจวร่วมมือกับแคว้นเซียนหลิง ดังนั้นจึงพยายามยับยั้ง“ต้องหาคนไปบอกแคว้นเซียนหลิง” กู้หว่านเยว่แบมือสอง นางจะไม่ยอมเป็นแพะรับบาป“น้องเล็กวางใจได้ พี่ใหญ่รู้ว่าควรจะทำอย่างไร” จงหลี่ลูบศีรษะของกู้หว่านเยว่ และยิ้มที่มุมปากอย่างเลห์ร้ายไม่ต้องสนใจว่าคนที่อยู่เบื้องหลังคือแคว้นตงโจวหรือไม่แต่ถ้าพวกเขาจับได้ ก็ต้องใช้ประโยชน์ให้เต็มที่หลังจากบอกลากู้
ถ้าหากม้าขนแผงคอสีแดงไม่ได้หยุดครึ่งทางกระทันหัน ไม่โจมตีองค์หญิงน้อย หรือองค์หญิงน้อยควบคุมสัตว์ไม่เป็น เช่นนั้นตอนนี้คนที่นอนอาบเลือดอยู่บนพื้นคงเป็นองค์หญิงน้อยแล้วครั้งนี้หลีมู่ทำเกินกว่าเหตุ จิตใจอำมหิตมากชิงเยี่ยนส่ายศีรษะ เมื่อเห็นกู้หว่านเยว่หมุนกายเดินจากไป ก็รีบไล่ตามออกไปทันที“นี่ พวกเราทำอย่างไรดี?” ทหารยาทถามอย่างกระสับกระส่ายอีกคนที่ฉลาดกว่าขมวดคิ้ว “เมื่อครู่องครักษ์ชิงก็บอกแล้วไม่ใช่หรือ? องค์หญิงน้อยสั่งพวกเราอย่างไรก็ทำเช่นนั้น ไปหาเปลมาหามคนออกไปกันเถอะ แล้วก็หาหมอผีสักคนมาดูนางหน่อย”นี่คือทั้งหมดที่ทำได้หลังจากกู้หว่านเยว่ออกจากอุทยานหลวงก็ตรงไปที่พระราชวัง กลิ่นของสัตว์ในอุทยานหลวงแรงมาก หลังจากนางเข้าไปก็มีกลิ่นมูลม้าและม้าติดออกมา ขณะที่ตั้งใจว่าจะไปอาบน้ำในห้องบรรทมจงหลี่ก็ได้ตามมาอย่างเร่งรีบแล้ว“น้องเล็ก”สีหน้าเขาตื่นตระหนก ราวกับสูญเสียสมบัติล้ำค่าอะไรไปกู้หว่านเยว่หยุดเดิน และหันกลับไปมองจงหลี่ “พี่ใหญ่ ท่านมาหาข้ามีธุระอะไรหรือ?”จงหลี่รีบดึงนางมาที่ตรงหน้า “ข้าได้ยินว่าเกิดเรื่องที่อุทยานหลวง ม้าขนแผงคอสีแดงวิ่งออกมาจากคอก อีกทั้งยังไป
สองขาของนางวิ่งเร็วกว่าม้าขนแผงคอสีแดงได้อย่างไร ม้าที่ตัวสูงใหญ่วิ่งมาถึงข้างหลังพร้อมกับเสียงคำราม ทำเอาหลีมู่ตกใจจนเข่าอ่อน“ทำไมถึงเป็นนาง?” เมื่อชิงเยี่ยนที่อยู่ไกลออกไปเห็นหลีมู่ ก็คิ้วขมวดชนกันคนฉลาดอย่างเขา สามารถคาดเดาเรื่องราวได้ในทันทีเขาหันไปมององค์หญิงน้อยที่อยู่ข้างกายแวบหนึ่ง แม้แทบโตมาพร้อมกับหลีมู่ แต่ด้วยสถานการณ์ในตอนนี้ เขาจะร้องขอความเมตตาได้อย่างไร?หลีมู่นะหลีมู่ เจ้าช่างโง่เขลานัก เคยวิเคราะห์ให้เจ้าฟังตั้งนานแล้วทำไมเจ้าถึงยังคิดแทนและออกหน้าแทนองค์ชายตามใจชอบ?ชิงเยี่ยนขมวดคิ้ว หันไปทางอื่นม้าขนแผงคอสีแดงเกือบจะตามหลีมู่ทันแล้ว นางตกใจจนหน้าถอดสี และตะโกนอย่างความตื่นตระหนก “ช่วยด้วย หยุดม้า หยุดมาเดี๋ยวนี้!”ทหารยามที่ไม่รู้อะไรรีบไล่ตามออกไปกู้หว่านเยว่เป่าขลุ่ย เป็นเสียงของการโจมตีม้าขนแผงคอสีแดงคำรามพร้อมยกขาหน้าขึ้น ก็เหยียบไปที่ขาของหลีมู่อย่างแรง“อ๊า!”หลีมู่กรีดร้องอย่างเจ็บปวดแสนสาหัสแทบจะในพริบตานั้น นางก็ตาเหลือก เจ็บจนหมดสติไปโดยตรง“ใต้เท้าหลี?” ทหารยามวิ่งเข้าไปอย่างตื่นตระหนกกู้หว่านเยว่เปลี่ยนโทนเสียงของขลุ่ย ม้าขนแผงคอส
ราวกับอินทรีสิงโตสามารถเข้าใจในสิ่งที่นางพูด มันก้มหัวกินยาสงบจิตเม็ดนั้นเข้าไปอย่างเชื่อฟัง“ดีมาก” กู้หว่านเยว่ลูบหัวของอินทรีสิงโตแล้วเดินออกไปข้างนอก“เป็นอย่างไรบ้าง องค์หญิงน้อยเห็นความผิดปกติอะไรหรือไม่?” ทหารยามพลางล็อคกุญแจ พลางถามกู้หว่านเยว่“ข้ารู้แล้ว แต่เกิดอะไรขึ้นกันแน่ ข้ายังต้องไปศึกษาดูก่อน”ทหารยามพยักหน้า สายตาของเขาเต็มไปด้วยความชื่นชมต่อกู้หว่านเยว่ องค์หญิงน้อยเก่งจริงๆ เพิ่งมาครู่เดียวก็มองปัญหาออกแล้วคนของอุทยานหลวงดูตั้งแต่เช้า ก็ไม่เห็นความผิดปกติอะไรเลย“รอข่าวจากข้า” กู้หว่านเยว่พูดทิ้งท้ายหนึ่งประโยค และกำลังจะหมุนกายจากไปในเวลานี้ กลับเกิดความปั่นป่วนขึ้นในอุทยานหลวง ม้าศึกที่ถูกขังอยู่ในคอกล้วนเริ่มกระสับกระส่ายสีหน้าทหารยามเปลี่ยนฉับพลัน และรีบไปยืนขวางตรงหน้ากู้หว่านเยว่ “องค์หญิงน้อย ท่านรีบไปเร็ว ไม่รู้ว่าใครปล่อยม้าบ้าตัวนั้นออกมา ม้าบ้าตัวนั้นสามารถเหยียบคนตายได้เลย”“ม้าบ้าอะไร?” กู้หว่านเยว่หรี่ตากวาดมองโดยรอบ นางรู้สึกได้ถึงความอันตรายแล้วชิงเยี่ยนก็ไปยืนขวางตรงหน้ากู้หว่านเยว่เช่นกัน “องค์หญิงน้อย ท่านไม่รู้หรอกว่าในอุทยานหลวงมีม
อินทรีสิงห์โตเอาแต่ขดตัวอยู่ที่มุม ไม่สามารถมองเห็นสถานการณ์ของมันผ่านกรงเลยกู้หว่านเยว่หยิบขลุ่ยที่อยู่ตรงเอวขึ้นมา เป่าเพลงควบคุมสัตว์ให้มันผ่อนคลายก่อนหนึ่งเพลงเมื่อเห็นอารมณ์ของอินทรีย์สิงโตเริ่มสงบลง กู้หว่านเยว่จึงจะยกมือ “เปิดประตูกรง”ทหารยามของอุทยานหลวงกล่าวเตือน “องค์หญิงน้อยโปรดระวังด้วย”พลางหยิบกุญแจออกมาเปิดประตูกรงเนื่องจากเมื่อครู่กู้หว่านเยว่เป่าเพลงควบคุมสัตว์ปลอบใจ ดังนั้นอินทรีสิงโตจึงไม่มีปฏิกิริยาที่รุนแรงมากนัก มันแค่เงยหน้ามองกู้หว่านเยว่แวบหนึ่งกู้หว่านเยว่สังเกตเห็นว่าสีหน้าของมันเศร้าหมอง และเหมือนมีน้ำตาคลอด้วยพลันดวงตาชิงเยี่ยนเป็นประกาย “องค์หญิงน้อย นี่คืออินทรีสิงโตที่ขี่มาจากต้าฉีตงโจวตั้งแต่ต้น”การฝึกอินทรีสิงห์โตเป็นเรื่องยาก และตงโจวก็มีอินทรีสิงโตไม่เยอะนัก อินทรีสิงโตตัวนี้ยังอายุค่อนข้างน้อย และมันยังไม่ผลัดขนเป็นสีดำทั้งหมด ถือว่ายังอยู่ในวัยเด็ก ดังนั้นชิงเยี่ยนจึงจำได้ในปราดเดียว“ที่แท้มันเองเหรอ”กู้หว่านเยว่รู้สึกได้ถึงความใกล้ชิดมากขึ้นเล็กน้อยอินทรีสิงโตตัวนี้พาพวกเขาข้ามป่าป่าซิงโตวไม่ใช่เรื่องง่ายเลยนางยิ่งรู้สึกสงสั