“พี่ธนา พะ...พอก่อนได้ไหมคะ ตะ...แต้ม...อื๊อ !” แต้มรักครางเสียงสั่น เธอบิดส่ายบั้นท้ายหนีปากร้อนผะผ่าว แต่ยิ่งหนี เขาก็ยิ่งดูดดื่มกับสัดส่วนอ่อนไหวของเธอ และพอเธอบิดส่ายดิ้นไม่หยุด เขาก็จับหัวเข่าสองข้างของเธอแยกกว้างแล้วกดลงกับที่นอน เปิดเปลือยเนื้อนวลสาวชุ่มฉ่ำให้เขาได้สำรวจด้วยปากและลิ้นทุกซอกมุม
เสียว...เธอรู้สึกถึงแต่ความเสียว เขาจัดการเธออย่างดุดันช่ำชอง เขากระตุ้นปลุกเร้าอารมณ์สาวให้หลงระเริงไปกับความเสียดเสียว เสียงดูดดึงและปาดเลียดังหยาบโลน กระตุ้นให้เธอเสียวสุดจนพุ่งทะยานไปสู่ปลายทางสุขสม
แต้มรักหวีดร้องพร้อมกับกระดกบั้นท้ายขึ้นเหนือที่นอน สัดส่วนความสาวถูกปาดเลียอย่างบ้าคลั่ง น้ำสวาทที่ซ่านกระเซ็นออกมาคราแรกเปรอะเปื้อนใบหน้าที่ซุกซบอยู่กลางหว่างขา ส่วนที่ไหลถะถั่งตามออกมาถูกเขาดูดกลืนลงท้องจนหมดสิ้น
แต้มรักอ่อนเปลี้ยไปทั้งตัว เธอยังคงหอบหายใจแรงอยู่ในตอนที่ร่างสูงใหญ่ขยับขึ้นทาบทับตัวเธอไว้อีกครั้ง คราวนี้เขาใช้หัวเข่าแทรกกลางหว่างขา แยกสองขาเรียวออกกว้าง แล้วนาบความแข็งแกร่งร้อนผะผ่าวขยับเสียดสีกลางกลีบเนื้อชุ่มฉ่ำ
“อื๊อ ! พี่ธนา...แต้มขอเวลาหายใจอีกนิดนะคะ” แต้มรักบอกเสียงสั่น เธอยังเสียวตรงจุดนั้นอยู่ เขาก็ยังจะพาตัวตนแข็งกร้าวมาเสียดสีให้เธอเสียวซ้ำอีก เธอแทบจะหายใจไม่ทันอยู่แล้ว
ทว่าคนใจร้อนไม่ยอมต่อเวลาให้เธอเลย เขาเอาแต่ใจด้วยการจับข้อพับขาข้างหนึ่งของเธอดันขึ้นแล้วกดไว้กับที่นอน เขาค่อย ๆ ผลักส่งตัวตนแข็งกร้าวเข้ามาในร่างกายเธอทีละนิด
“พี่ธนา...แต้มเจ็บค่ะ” แต้มรักกอดเขาไว้เต็มอ้อมแขน เธอกรีดเล็บลงบนแผ่นหลังเรียบตึงที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเพื่อระบายความเจ็บระคนเสียว
คราวนี้เขาใจดีกับเธอเล็กน้อย เขาหยุด และปล่อยให้ส่วนแรกที่ชำแรกเข้ามาในตัวเธอซุกซบค้างคาอยู่อย่างนั้น เขาก้มลงจูบเธออย่างอ่อนหวาน หลอกล่อให้เธอลืมว่าเขากำลังเติมเต็มเข้ามา ทว่าแต้มรักก็ยังรู้สึกถึงมันอยู่ดี เพราะมันใหญ่โตเต็มแน่นกลางหว่างขา และดูเหมือนว่ามันจะเข้ามาไม่สุดสักที คนที่ไม่หลงกลไปกับจูบหวาน ๆ แล้วจึงสะบัดหน้าหนีจูบแล้วอุทธรณ์เสียงสั่น
“พี่ธนา...แต้มเจ็บ ยะ...หยุดก่อนได้ไหมคะ เอามันออกไปก่อน” เธออยากให้เขาเอามันออกไป เธอเจ็บ เธออึดอัดไปหมดแล้ว
คนที่ทาบทับอยู่เหนือตัวเธอไม่ตอบรับสิ่งที่เธอร้องขอ เขาสอดแขนสองข้างลงใต้แผ่นหลังเนียนแล้วโอบกอดเธอไว้แน่น ปากอุ่นร้อนพรมจูบแก้มนวลสองข้าง แล้วจูบหนัก ๆ ที่หน้าผากมน ก่อนกระซิบบอกชิดใบหูเล็กว่า
“หยุดไม่ได้แล้วครับ”
เสียงนุ่มทุ้มที่ไม่คุ้น แต่เหมือนเคยได้ยินจากที่ไหนสักแห่ง แต่ที่แน่ ๆ ไม่ใช่เสียงแฟนหนุ่มของเธอแน่นอน มันทำให้แต้มรักชาวาบไปทั้งตัว หญิงสาวรีบดันบ่ากว้างแล้วผลักเขาสุดแรง ทว่าร่างใหญ่ไม่เขยื้อนสักนิด กลับกัน...เขากระชับอ้อมแขนกอดเธอไว้แน่น แล้วผลักส่งตัวตนสลักลึกสุดในร่างกายเธอ
แต้มรักสะท้านเฮือก เจ็บแสบราวกับถูกมีดกรีดกลางซอกสาว แต่เธอไม่อาจร้องออกมาได้ เพราะเขาดูดกลืนเสียงร้องของเธอไว้ด้วยจูบดุดันเอาแต่ใจ
เมื่อเขาถอนจูบ แต้มรักจึงถามเสียงสั่น
“ใคร...คุณเป็นใคร” เธอทั้งกลัวทั้งหวาดหวั่น เขาเป็นใคร เขาเข้ามาทำแบบนี้กับเธอได้ยังไง นี่มันห้องของพี่ธนา ห้องของแฟนเธอ
“ฮันเตอร์” เขาบอกพลางเริ่มขยับตัวตนในแอ่งเนื้ออุ่นอ้าวคับแน่น
“อ๊ะ ! ออกไปนะ !” แต้มรักดิ้นสุดแรง เธอผลักไสเขาด้วยความตื่นตระหนก
ไม่ใช่...มันต้องไม่ใช่แบบนี้ เธอกำลังมีอะไรกับใครก็ไม่รู้ มันไม่ใช่เรื่องที่ถูกต้อง
“ชู่ว์...ใจเย็นทูนหัว”
“คุณกำลังข่มขืนฉัน” แต้มรักกัดฟันพูด เธอทุบบ่าเขาไปหลายครั้ง ทว่าคนที่กักกันเธอไว้ด้วยร่างสูงใหญ่ และลำกายที่สลักลึกในตัวเธอก็ไม่สะท้าน
“ไม่เอาน่า...เรากำลังจะมีความสุขด้วยกันต่างหาก” เขาบอกพร้อมกับส่ายบั้นเอวบดขยี้เนื้อนวลชุ่มฉ่ำ
“อื๊อ ! ไม่ !”
“คุณต้องการผม อย่าปฏิเสธความรู้สึกของตัวเอง อ่า…” เขาพูดพลางขยับตัวตนออกจากร่องรักจนเกือบสุด ก่อนจะผลักส่งมันเข้าไปใหม่อย่างดุดัน
“อ๊า !” แต้มรักสะท้านเฮือกอีกครั้ง หญิงสาวเงยหน้าเชิด แอ่นแผ่นหลังโค้งเหนือที่นอน เธอจิกเล็บลงบนบ่ากว้างสุดแรง
“ดีใช่ไหม...หืม...” เขากระซิบถามแล้วเลียใบหูเล็ก บั้นเอวขยับเนิบนาบ สอดใส่แล้วดึงออกเกือบสุดซ้ำ ๆ ความแข็งแกร่งร้อนผ่าวถูครูดบดขยี้หนักแน่น
“มะ...ไม่ อ๊า !” แต้มรักไม่อยากยอมรับความจริงว่า เธอมีอารมณ์ร่วมไปกับเขา จุดอ่อนไหวกลางซอกขาวูบวาบไปหมด ร่องเนื้อบีบรัดลำกายแกร่งอย่างน่าอาย ร่างกายของเธอตอบสนองเขาโดยที่เธอควบคุมไม่ได้
“ลืมทุกอย่าง ลืมทุกคนซะ บนเตียงนี้มีแค่คุณกับผม จะไม่มีใครรู้ว่าคุณกับผมทำอะไรกันในคืนนี้”
แต้มรักส่ายหน้า เธอกำลังต่อสู้กับความอยากของตัวเอง แต่เมื่อเขาจูบอย่างดูดดื่มอีกครั้ง แผ่นอกกว้างเสียดสีเม็ดทับทิมบนเต้าทรวง ลำกายอวบยาวโยกคลึงในร่องรักอุ่นอ้าว ขนดกหยาบขยี้ติ่งเนื้อสาวจนเสียววูบวาบ มันทำให้เธอก็ลืมทุกอย่างไปเสียสิ้น
“อ๊ะ ! คุณชิณณ์...พรีมอยากดูบ้านก่อนค่ะ” พรีมจับมือที่ยุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของเธอไว้ แต่ก็ไม่อาจทัดทานห้ามปรามเขาได้ สามีของเธอมุ่งมั่นกับการถอดจนเธอไม่อาจหยุดยั้งเขาได้“เมื่อกี้พาเดินดูแล้ว”“แต่พรีมยังไม่เห็นอะไรเลยนี่คะ”“ดูผัวก่อน แล้วค่อยไปดูบ้านก็ได้ มันไม่มีขาหนีไปไหนหรอกน่า”คนเอาแต่ใจ ! คนหื่น ! พอคึกขึ้นมาอะไรก็ฉุดรั้งไว้ไม่อยู่ แล้วดูสิ แป๊บเดียวเธอก็เปลือยล่อนจ้อนไม่ต่างจากเขาแล้ว“อื๊อ !” พรีมตั้งรับจูบดุดันแทบไม่ทัน เมื่อปากอุ่นแนบสนิท เธอทอดถอนใจแล้วเผยอปากรับจูบจากเขา สองแขนเรียวคล้องลำคอแกร่งไว้ สองขาแยกแย้มแล้วตวัดรัดเอวสอบ เธอกระดกบั้นท้ายแอ่นอ้านวลเนื้อ เพื่อให้เขานาบตัวตนแข็งกร้าวกลางกลีบชุ่มชื้นอย่างรู้ใจ“พรีมจ๋า…” ชิณณ์ถอนจูบ เขาลากปลายจมูกลงมาตามลำคอระหง พร้อมกับจับสองขาเรียวออกจากเอว แล้วดันต้นขาสองข้างให้แยกกว้าง ร่างสูงเลื่อนตัวลงต่ำเรื่อย ๆ เขาแวะดื่มด่ำกับเต้านมอวบใหญ่อยู่ครู่เดียว ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงสู่นวลเนื้อหวานฉ่ำ“อื๊อ !” พรีมขยุ้มเส้นผมสามีไว้เต็มสองมือ เธอกระดกบั้นท้ายลอยเหนือที่นอนทันทีที่ปากของเ
ตอนที่ชิณณ์ลงมาจากห้อง ทุกคนในบ้านเตรียมตัวพร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว พอเห็นปะป๊าเดินมาใกล้ เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักคุณปู่ก็ยื่นสองมือออกไปหาปะป๊าทันที แถมยังส่งเสียงเรียกน่าเอ็นดู“ปะปะ ปะปะ”“ห่างนิดห่างหน่อยไม่ได้ เจ้าตัวขี้อ้อน !” คุณย่าพุดซ้อนว่าพลางยิ้มเอ็นดูหลานสาว“ไป ๆ ไปหาปะป๊านะลูก”คุณปู่โชครีบส่งเจ้าตัวน้อยให้ปะป๊ารับไปโอบอุ้มเต็มอ้อมแขน พอได้อยู่กับอกปะป๊า เด็กหญิงตัวเล็กก็กอดคอปะป๊าไว้แน่น แล้วซบหน้าอิงแก้มยุ้ยกับบ่าอบอุ่นอย่างคุ้นเคย“ไปกันเถอะครับ” ชิณณ์เอ่ยปากชวนทุกคนพอคุณพ่อโชคประคองคุณแม่พุดซ้อนเดินออกไปก่อน เขาก็อุ้มลูกสาวไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่ง แล้วยื่นมืออีกข้างไปตรงหน้าภรรยาพรีมมองสบตาเขาแล้วยิ้มอ่อนหวาน เธอวางมือนุ่มลงบนฝ่ามือของเขา ชิณณ์กระชับมือเธอไว้ในมืออบอุ่น ก่อนจะพาเดินตามคุณพ่อคุณแม่ไปยังรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าบ้านตลอดการเดินทาง ชีต้าเกาะติดปะป๊าตลอด กระทั่งผล็อยหลับไปสองแขนก็ยังโอบกอดลำคอปะป๊าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ชิณณ์โอบกอดลูกสาวไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่งอย่างมั่นคง
มือป้อม ๆ ที่ตีแปะ ๆ อยู่บนใบหน้าทำให้คนที่กำลังหลับอยู่บนเตียงงัวเงียลืมตาตื่น พอเห็นว่าเป็นใคร ริมฝีปากหยักก็คลี่ยิ้มกว้าง ร่างสูงพลิกตัวกดเจ้าตัวจ้ำม่ำนอนหงาย แล้วก้มฟัดพุงอวบ ๆ อย่างมันเขี้ยวเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก และอาการตีแขนขาอย่างพออกพอใจของลูกสาววัยเก้าเดือน ทำให้คุณแม่ที่ยืนมองอยู่ข้างเตียงอมยิ้ม เธอเป็นคนปล่อยคุณลูกขึ้นไปปลุกปะป๊าเอง“ลุกไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” เสียงดุ ๆ ของคุณภรรยาทำให้ชิณณ์หันไปยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันกลับมาจูบและหอมลูกสาวสุดรักสุดดวงใจไปทั้งตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งฝ่าเท้าน้อย ๆ สองข้าง“ปะป๊ากำลังจะทำให้เราสองคนผิดนัดกับคุณปู่คุณย่านะคะ” พรีมกอดอกจิกตามองคนที่มัวโอ้เอ้เล่นกับลูกโดยไม่สนใจที่เธอบอกชิณณ์ปรายตามองภรรยา ขณะที่ปากของเขาประทับอยู่บนฝ่าเท้าของลูก เขาพูดอู้อี้กับฝ่าเท้าป้อม ๆ นุ่ม ๆ ว่า“ดุยังกับแม่เสือ”“คุณชิณณ์” พรีมใช้โทรเสียงราบเรียบเพราะเธอกลัวลูกสาวตกใจ ทว่าสายที่มองสามีนั้นดุยังกับแม่เสืออย่างที่เขาว่า“เฮ้อ ! ชีต้าครับ ปะป๊าขอเวลานอกไปอาบน้ำก่อนนะครับ มีคนดุ ปะป๊ากลัวโดนดูดหัว เอ
ความหวามหวานแสนเสียวที่เขาปรนเปรอให้จนสุดปลายทางเมื่อครู่ทำให้พรีมอ่อนเปลี้ย แต่พอเขาลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มเธอขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ พรีมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หญิงสาวรอคอยในขณะที่เขาดึงกางเกงนอนลงไปกองที่เท้าแล้วสะบัดออก ลำกายอวบยาวเด้งออกมาโชว์ต่อหน้าต่อตาทำให้เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พอเขาขยับเข้ามาใกล้ พรีมก็ใช้สองขารัดเอวสอบ และโอบกอดลำคอแกร่งไว้“พรีม...มันคิดถึงคุณมากแค่ไหน คุณเห็นหรือเปล่า” ชิณณ์กระซิบเสียงสั่นพร่า เขาสบตาเธออย่างเชิญชวน พอเขาหลุบตามองตรงกลางระหว่างเขากับเธอ พรีมก็ก้มมองตามชิณณ์จับส่วนหัวมนทู่ลากไล้ขึ้นลงช้า ๆ เสียงเนื้อน้ำเสียดสีกันดังหยาบโลน มันกระตุ้นอารมณ์ร้อนรักของหนุ่มสาวให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งได้เห็นด้วยตา ได้ยินเสียง และสัมผัสมันด้วยสัดส่วนที่ไวต่อความรู้สึก หัวอกหัวใจก็หวามไหว กระสันอยากอย่างแรงกล้าพรีมเฝ้ามองสิ่งที่เขากระทำต่อเธอด้วยใจเต้นระรัวแรง พอเขาจับส่วนหัวกดเข้าสู่ร่องรักชุ่มฉ่ำ พรีมก็กรีดเล็บลงบนลำคอแกร่งเพื่อระบายความเสียวซ่าน เธอแอ่นเนินเนื้อรองรับเขาด้วยความเต็มใจเมื่อส่งส่วนหัวเข้าสู่ปากทางร่องรักแล้ว ชิณณ์
พรีมปิดก๊อกน้ำ และเช็ดมือกับผ้าที่แขวนที่อยู่ใกล้ ๆ เธอแตะมือลงบนลำแขนที่รัดเอวเธออยู่“หิวหรือยังคะ พรีมทำกับข้าวมาให้ตั้งหลายอย่าง ของโปรดคุณทั้งนั้นเลย”ชิณณ์ถอนหายใจแรงแนบเนื้อนุ่มตรงซอกคอสาว เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วจับเธอหมุนมาหา ตาคมจ้องมองดวงหน้านวลเป็นประกาย“หิวแล้ว” ชิณณ์ตอบยิ้ม ๆ และรอยยิ้มของเขาไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย“กินข้าวก่อนนะคะ”พรีมรู้ว่าเขาหมายถึงหิวอะไร แต่เธอก็หาทางหลบเลี่ยงชิณณ์หัวเราะในลำคอ เขาถอนหายใจแรง ก่อนจะก้มหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่“คิดถึง”ชิณณ์แตะมือบนแก้มสาว เขาใช้นิ้วโป้งไล้แก้มเธอเบา ๆ ตาคมหลุบมองปากอิ่มที่เขารู้ว่าหวานเย้ายวนขนาดไหน พรีมมองตามสายตาเขา เธอเม้มปากแล้วแลบลิ้นเลียปากโดยไม่รู้ตัว คนที่มองอยู่จึงไม่อาจหักห้ามใจได้ ชิณณ์กอดรัดเธอมาแนบชิดด้วยวงแขนข้างหนึ่ง เขาประคองท้ายทอยเธอไว้ในฝ่ามืออีกข้าง แล้วแนบปากลงบดจูบด้วยความโหยหาพรีมทอดถอนใจบางเบา เธอยกแขนขึ้นโอบลำคอแกร่ง เผยอปากรับจูบจากเขาด้วยความเต็มใจ ปากอิ่มถูกจูบเรียกร้อง ลิ้นเล็กถูกดูดดึงหยอกล้อ เขาจ้วงลิ้นควานทั่วโพรงปากนุ่มอุ่น ปรน
พอไม่ได้เห็นหน้าคนที่เธอเคยเห็นทุกวันก่อนหน้านี้ พรีมก็เป็นฝ่ายกระวนกระวายใจเสียเอง เขาไปนอนที่คอนโด หรือนอนที่ผับ แล้วถ้านอนที่ผับ เขานอนกับใคร จะนอนคนเดียวอย่างที่แม่พุดซ้อนบอกเธอหรือเปล่า คนหื่นอย่างเขา จะอดเรื่องแบบนั้นได้เหรอ“หนูพรีม เป็นอะไรลูก นั่งเหม่อเชียว” แม่พุดซ้อนทักเมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่นั่งเหม่อ ใบตองในมือนั้นก็ถือค้างนานแล้ว แต่เธอไม่ยอมหยิบก้อนแป้งขนมเทียนไปใส่สักที“เอ่อ...เปล่าค่ะคุณแม่”พรีมยิ้มเจื่อน หญิงสาวหยิบแป้งก้อนกลมมีไส้ข้างในมาใส่ในใบตองแล้วห่ออย่างรวดเร็วแม่พุดซ้อนมองอาการว่าที่ลูกสะใภ้แล้วยิ้มเอ็นดู ที่ยังเรียกว่าว่าที่ลูกสะใภ้ เพราะลูกชายของท่านยังไม่ปัญญาจีบเมียตัวเองติด ทั้งสองยังคงนอนคนละที่ ยังไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันด้วยซ้ำหลังจากห่อขนมเทียนเสร็จ แม่พุดซ้อนจึงสั่งให้เด็กรับใช้มาเอาไปนึ่ง แล้วหันไปชวนพรีมไปคุยกันในห้องนั่งเล่น สองสัปดาห์ยังไม่นานเท่าไรก็จริง แต่ดูท่าทางแล้ว หากไม่มีใครเชื่อมช่องว่างระหว่างสองคนนี้ เห็นทีลูกชายของท่านอาจจะต้องรอนานจนใจขาดเลยก็ได้“มานั่งตรงนี้จ้ะ” แม่พุดซ้อนนั่งลงที่โซฟาต