...บนเตียงนี้มีแค่เธอกับเขา !
เมื่อแต้มรักยกแขนขึ้นโอบกอด กระดกบั้นท้ายรับลำกายแกร่งด้วยความอยากกระสัน เขาจึงกอดรัดร่างนุ่มเต็มอก ขยับบั้นเอวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ สอดใส่เต็มแรง กระแทกจนคนใต้ร่างแทบจมไปกับที่นอน
แม้รู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ เขาควรใจเย็น แต่เพราะเธอคับแน่นเร้าใจ ทั้งยังบีบรัดเขาไปทั้งลำ เขาจึงโยนความอ่อนโยนที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกทิ้งไป แล้วกระหน่ำแก่นกายโถมถั่งเข้าหา ฉุดกระชากเธอให้กระโจนสู่ห้วงกามเร่าร้อนอย่างดุดัน ทั้งกระซิบสั่งเธอว่า
“ครางชื่อผม” เขาบอกแล้วกระแทกตัวตนเต็มแรง
“อ๊ะ !” แต้มรักหลุดคราง เธอกัดฟันแน่น ส่ายหน้าไปมา เธอไม่ยอมเรียกเขาตามที่เขาต้องการ
“ฮันเตอร์...เรียก !” เขาสั่งเสียงเข้มดุเอาแต่ใจ ทั้งยังซอยบั้นเอวกระหน่ำสอดใส่ลำกายในร่องเนื้ออย่างไร้ความปรานี พอเธอไม่ยอมเรียก เขาก็บดปากจูบดุดันราวกับต้องการลงโทษ
แต้มรักโยกคลอนไปตามแรงโจนจ้วง อกอวบเสียดสีไปกับแผ่นอกกว้าง ปากอิ่มถูกบดจูบแทบไม่ว่างเว้น โพรงปากนุ่มถูกเขากวาดลิ้นสำรวจจนทั่ว ร่างกายถูกเขาลูบไล้สัมผัสทุกส่วน ร่องรักสาวถูกกระหน่ำสอดใส่ไม่เว้นพัก บทรักดุดันเร่าร้อนทำให้เธอพ่ายแพ้ แต้มรักปล่อยกายปล่อยใจ ยอมทำตามอย่างที่เขาต้องการ
“ฮะ...ฮันเตอร์...อ๊า !” แต้มรักเรียกเขาด้วยน้ำเสียงอ้อนวอนสั่นพร่า เสียงของเธอกระตุ้นเร้าให้เขาโถมถั่งเข้าหาดุดันยิ่งขึ้น
แต้มรักดีดดิ้นและรู้สึกไปกับเขาอย่างรุนแรง เธอตอบสนองรองรับด้วยความเต็มใจ หญิงสาวครางเรียกเขาจนเสียงแหบแห้ง ร่องสาวถูกกระแทกซ้ำ ๆ จนร้อนฉ่า เธอเสียวสยิวกลางหว่างขา และรู้สึกถึงมันมากขึ้นเรื่อย ๆ เมื่อเขาขยับแก่นกายสอดแทงในตัวเธออีกไม่กี่ครั้ง แต้มรักก็สะท้านสั่นอย่างรุนแรง เธอหวีดร้องเรียกเขาสุดเสียง
“ฮันเตอร์ !” แต้มรักกระตุกค้าง เธอแตกกระจาย ล่องลอยไปยังห้วงความสุขสม ปลดปล่อยน้ำหวานซ่านกระเซ็นเต็มซอกขา
เมื่อรับรู้ว่าเธอทะยานสู่จุดสุดยอดแล้ว ชายหนุ่มจึงทาบทับทิ้งน้ำหนักลงบนคนตัวเล็ก เขาขยับบั้นเอวซอยถี่ยิบ เร่งพาตัวเองตามติดเธอไปโดยไม่รัดรั้งอารมณ์ไว้ จังหวะสุดท้ายเขากระแทกเต็มแรงจนเกิดเสียงดังลั่น เขาสอดใส่ล้ำลึก กดลำกายแช่นิ่งกลางร่องเนื้ออุ่นนุ่ม ปลดปล่อยอารมณ์สุดเสียว ปล่อยให้เธอรีดเค้นสายน้ำอุ่นออกจากลำกายอย่างสะใจ
…
“ออกไป…” แต้มรักบอกเสียงสั่น เธออยากจะร้องไห้แต่ แต่ร้องไม่ออก
“ชู่ว์...นี่เพิ่งเริ่มต้นเอง คืนนี้เรามีอะไรต้องทำด้วยกันอีกเยอะแยะ...ที่รัก”
“ไม่ !” แต้มรักดิ้นอีกครั้ง เธอพยายามผลักไสเขา แต่ดูเหมือนว่าคนตัวโตกว่าจะรู้วิธีจัดการกับเธอ เขาหลอกล่อ ปลอบประโลม และทำให้เธอสมยอมอีกครั้งจนได้ และก็เป็นไปตามที่เขาบอก เขามีอะไรทำกับเธอเยอะแยะ เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยทำให้ใครแต่ก็ต้องทำให้เขา เป็นสิ่งที่เธอไม่เคยรู้ แต่เขาก็สอนให้เธอรู้
ค่ำคืนเร่าร้อนกับผู้ชายแปลกหน้าช่างยาวนานนัก ทั้งเสียว ทั้งสุข คละเคล้ากับความรู้สึกผิดบาปในใจ เพราะการมีอะไรกับคนที่ไม่ใช่แฟนก็เท่ากับว่าเธอกำลังมีชู้
และเมื่อบทสวาทเร่าร้อนบทสุดท้ายจบลงพร้อมกับเสียงหวีดร้องเรียกชื่อชู้ แต้มรักก็หลับไปแทบจะทันทีด้วยความอ่อนเพลีย เธอหลับไปในอ้อมกอดชู้ หลับไปพร้อมกับความรู้สึกผิดบาปเต็มหัวใจ...
“อุ๊ย !” แต้มรักสะดุดสุดตัวเมื่อถูกมือของใครบางคนจับหัวไหล่จากข้างหลัง หญิงสาวรีบหมุนตัวหันไปมองด้วยสายตื่นตระหนก
“แต้ม...แกเป็นไรหรือเปล่า ทำไมหน้าตาเป็นแบบนี้” พรีม...เพื่อนตั้งแต่สมัยเรียนมหาวิทยาลัยทักด้วยความเป็นห่วง
“ปะ...เปล่า ฉันไม่ได้เป็นอะไรสักหน่อย”
“แต่หน้าตาแกแปลก ๆ เหงื่อออกด้วย ไม่สบายหรือเปล่า” พรีมแตะหลังมือที่หน้าผากเพื่อน “ตัวก็ไม่ร้อนนี่นา”
“ก็บอกแล้วว่าไม่ได้เป็นอะไร ไปรอลิฟต์กันเถอะน่า เดี๋ยวก็เข้างานสายหรอก” แต้มรักจับมือเพื่อนออกจากหน้าผาก แล้วดึงพรีมให้เดินตามไปยังลิฟต์ที่อยู่ด้านในตึก เพื่อจะขึ้นไปยังชั้นสามสิบแปด ซึ่งเป็นชั้นของฝ่ายบริหารการลงทุนที่พวกเธอทำงานอยู่
แต้มรักกับพรีมเป็นเพื่อนกันมาตั้งสมัยเรียนมหาวิทยาลัย พอเรียนจบ ทั้งสองได้เข้ามาทำงานที่บริษัทบริหารสินทรัพย์แห่งนี้พร้อมกัน และอยู่ทำแผนกเดียวกันด้วย เป็นโชคดีของสองสาวที่ได้ทำงานในฝ่ายที่มีผู้จัดการฝ่ายจบปริญญาตรีจากมหาวิทยาลัยเดียวกัน แม้เขาจะจบปริญญาโทจากประเทศอเมริกา ถึงยังไงก็ยังนับว่าเป็นรุ่นพี่รุ่นน้องสถาบันเดียวกันได้ และพี่ธนา...แฟนของแต้มรักก็เป็นผู้จัดการฝ่ายการตลาดบริษัทนี้ด้วย ทั้งเขายังเป็นเพื่อนกับบอสของสองสาวอีกต่างหาก ที่ผ่านมาการทำงานที่นี่จึงราบรื่นและมีความสุขดี
“แต้ม...แกจะไปไหน” พรีมรีบจับต้นแขนเพื่อนที่เดินออกมาจากลิฟต์พร้อมกันไว้ได้ทัน ก่อนที่แต้มรักจะเดินเลี่ยงไปทางอื่น แทนที่จะเดินเข้าออฟฟิศพร้อมกัน
“ฉะ...ฉันจะไปห้องน้ำ” แต้มรักตอบเสียงตะกุกตะกัก พอมายืนอยู่ตรงนี้ ตรงที่ใกล้กับเขาอย่างเลี่ยงไม่ได้ หัวใจก็เต้นแรงขึ้น
“งั้นฉันเข้าไปก่อนนะ”
“อือ…” แต้มรักยิ้มให้เพื่อน ก่อนจะเดินเข้าห้องน้ำไปด้วยขาสั่นเทา
“คุณพุฒ !” แต้มรักกำผ้าห่มไว้แนบอกเพื่อปกปิดเรือนกายเปลือยเปล่า หญิงสาวกระถดบั้นท้ายหนีไปจนชิดหัวเตียง ตาคู่งามเบิกกว้าง เธอตื่นตระหนกสุดขีด เมื่อเห็นหน้าคนที่พร่าพรหมจรรย์ของเธอไป และเขายังนอนกกกอดเธอมาทั้งคืนด้วย
“อ๊ะ ! คุณชิณณ์...พรีมอยากดูบ้านก่อนค่ะ” พรีมจับมือที่ยุ่มย่ามกับเสื้อผ้าของเธอไว้ แต่ก็ไม่อาจทัดทานห้ามปรามเขาได้ สามีของเธอมุ่งมั่นกับการถอดจนเธอไม่อาจหยุดยั้งเขาได้“เมื่อกี้พาเดินดูแล้ว”“แต่พรีมยังไม่เห็นอะไรเลยนี่คะ”“ดูผัวก่อน แล้วค่อยไปดูบ้านก็ได้ มันไม่มีขาหนีไปไหนหรอกน่า”คนเอาแต่ใจ ! คนหื่น ! พอคึกขึ้นมาอะไรก็ฉุดรั้งไว้ไม่อยู่ แล้วดูสิ แป๊บเดียวเธอก็เปลือยล่อนจ้อนไม่ต่างจากเขาแล้ว“อื๊อ !” พรีมตั้งรับจูบดุดันแทบไม่ทัน เมื่อปากอุ่นแนบสนิท เธอทอดถอนใจแล้วเผยอปากรับจูบจากเขา สองแขนเรียวคล้องลำคอแกร่งไว้ สองขาแยกแย้มแล้วตวัดรัดเอวสอบ เธอกระดกบั้นท้ายแอ่นอ้านวลเนื้อ เพื่อให้เขานาบตัวตนแข็งกร้าวกลางกลีบชุ่มชื้นอย่างรู้ใจ“พรีมจ๋า…” ชิณณ์ถอนจูบ เขาลากปลายจมูกลงมาตามลำคอระหง พร้อมกับจับสองขาเรียวออกจากเอว แล้วดันต้นขาสองข้างให้แยกกว้าง ร่างสูงเลื่อนตัวลงต่ำเรื่อย ๆ เขาแวะดื่มด่ำกับเต้านมอวบใหญ่อยู่ครู่เดียว ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงสู่นวลเนื้อหวานฉ่ำ“อื๊อ !” พรีมขยุ้มเส้นผมสามีไว้เต็มสองมือ เธอกระดกบั้นท้ายลอยเหนือที่นอนทันทีที่ปากของเ
ตอนที่ชิณณ์ลงมาจากห้อง ทุกคนในบ้านเตรียมตัวพร้อมสำหรับการเดินทางแล้ว พอเห็นปะป๊าเดินมาใกล้ เจ้าตัวเล็กที่นั่งอยู่บนตักคุณปู่ก็ยื่นสองมือออกไปหาปะป๊าทันที แถมยังส่งเสียงเรียกน่าเอ็นดู“ปะปะ ปะปะ”“ห่างนิดห่างหน่อยไม่ได้ เจ้าตัวขี้อ้อน !” คุณย่าพุดซ้อนว่าพลางยิ้มเอ็นดูหลานสาว“ไป ๆ ไปหาปะป๊านะลูก”คุณปู่โชครีบส่งเจ้าตัวน้อยให้ปะป๊ารับไปโอบอุ้มเต็มอ้อมแขน พอได้อยู่กับอกปะป๊า เด็กหญิงตัวเล็กก็กอดคอปะป๊าไว้แน่น แล้วซบหน้าอิงแก้มยุ้ยกับบ่าอบอุ่นอย่างคุ้นเคย“ไปกันเถอะครับ” ชิณณ์เอ่ยปากชวนทุกคนพอคุณพ่อโชคประคองคุณแม่พุดซ้อนเดินออกไปก่อน เขาก็อุ้มลูกสาวไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่ง แล้วยื่นมืออีกข้างไปตรงหน้าภรรยาพรีมมองสบตาเขาแล้วยิ้มอ่อนหวาน เธอวางมือนุ่มลงบนฝ่ามือของเขา ชิณณ์กระชับมือเธอไว้ในมืออบอุ่น ก่อนจะพาเดินตามคุณพ่อคุณแม่ไปยังรถตู้ที่จอดรออยู่หน้าบ้านตลอดการเดินทาง ชีต้าเกาะติดปะป๊าตลอด กระทั่งผล็อยหลับไปสองแขนก็ยังโอบกอดลำคอปะป๊าเอาไว้ไม่ยอมปล่อย ชิณณ์โอบกอดลูกสาวไว้ด้วยวงแขนข้างหนึ่งอย่างมั่นคง
มือป้อม ๆ ที่ตีแปะ ๆ อยู่บนใบหน้าทำให้คนที่กำลังหลับอยู่บนเตียงงัวเงียลืมตาตื่น พอเห็นว่าเป็นใคร ริมฝีปากหยักก็คลี่ยิ้มกว้าง ร่างสูงพลิกตัวกดเจ้าตัวจ้ำม่ำนอนหงาย แล้วก้มฟัดพุงอวบ ๆ อย่างมันเขี้ยวเสียงหัวเราะเอิ๊กอ๊าก และอาการตีแขนขาอย่างพออกพอใจของลูกสาววัยเก้าเดือน ทำให้คุณแม่ที่ยืนมองอยู่ข้างเตียงอมยิ้ม เธอเป็นคนปล่อยคุณลูกขึ้นไปปลุกปะป๊าเอง“ลุกไปอาบน้ำได้แล้วค่ะ” เสียงดุ ๆ ของคุณภรรยาทำให้ชิณณ์หันไปยิ้มให้เธอ ก่อนจะหันกลับมาจูบและหอมลูกสาวสุดรักสุดดวงใจไปทั้งตัว ไม่เว้นแม้กระทั่งฝ่าเท้าน้อย ๆ สองข้าง“ปะป๊ากำลังจะทำให้เราสองคนผิดนัดกับคุณปู่คุณย่านะคะ” พรีมกอดอกจิกตามองคนที่มัวโอ้เอ้เล่นกับลูกโดยไม่สนใจที่เธอบอกชิณณ์ปรายตามองภรรยา ขณะที่ปากของเขาประทับอยู่บนฝ่าเท้าของลูก เขาพูดอู้อี้กับฝ่าเท้าป้อม ๆ นุ่ม ๆ ว่า“ดุยังกับแม่เสือ”“คุณชิณณ์” พรีมใช้โทรเสียงราบเรียบเพราะเธอกลัวลูกสาวตกใจ ทว่าสายที่มองสามีนั้นดุยังกับแม่เสืออย่างที่เขาว่า“เฮ้อ ! ชีต้าครับ ปะป๊าขอเวลานอกไปอาบน้ำก่อนนะครับ มีคนดุ ปะป๊ากลัวโดนดูดหัว เอ
ความหวามหวานแสนเสียวที่เขาปรนเปรอให้จนสุดปลายทางเมื่อครู่ทำให้พรีมอ่อนเปลี้ย แต่พอเขาลุกขึ้นยืนแล้วอุ้มเธอขึ้นนั่งบนเคาน์เตอร์ พรีมก็ให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี หญิงสาวรอคอยในขณะที่เขาดึงกางเกงนอนลงไปกองที่เท้าแล้วสะบัดออก ลำกายอวบยาวเด้งออกมาโชว์ต่อหน้าต่อตาทำให้เธอกลืนน้ำลายอึกใหญ่ พอเขาขยับเข้ามาใกล้ พรีมก็ใช้สองขารัดเอวสอบ และโอบกอดลำคอแกร่งไว้“พรีม...มันคิดถึงคุณมากแค่ไหน คุณเห็นหรือเปล่า” ชิณณ์กระซิบเสียงสั่นพร่า เขาสบตาเธออย่างเชิญชวน พอเขาหลุบตามองตรงกลางระหว่างเขากับเธอ พรีมก็ก้มมองตามชิณณ์จับส่วนหัวมนทู่ลากไล้ขึ้นลงช้า ๆ เสียงเนื้อน้ำเสียดสีกันดังหยาบโลน มันกระตุ้นอารมณ์ร้อนรักของหนุ่มสาวให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ ยิ่งได้เห็นด้วยตา ได้ยินเสียง และสัมผัสมันด้วยสัดส่วนที่ไวต่อความรู้สึก หัวอกหัวใจก็หวามไหว กระสันอยากอย่างแรงกล้าพรีมเฝ้ามองสิ่งที่เขากระทำต่อเธอด้วยใจเต้นระรัวแรง พอเขาจับส่วนหัวกดเข้าสู่ร่องรักชุ่มฉ่ำ พรีมก็กรีดเล็บลงบนลำคอแกร่งเพื่อระบายความเสียวซ่าน เธอแอ่นเนินเนื้อรองรับเขาด้วยความเต็มใจเมื่อส่งส่วนหัวเข้าสู่ปากทางร่องรักแล้ว ชิณณ์
พรีมปิดก๊อกน้ำ และเช็ดมือกับผ้าที่แขวนที่อยู่ใกล้ ๆ เธอแตะมือลงบนลำแขนที่รัดเอวเธออยู่“หิวหรือยังคะ พรีมทำกับข้าวมาให้ตั้งหลายอย่าง ของโปรดคุณทั้งนั้นเลย”ชิณณ์ถอนหายใจแรงแนบเนื้อนุ่มตรงซอกคอสาว เขาเงยหน้าขึ้นมาแล้วจับเธอหมุนมาหา ตาคมจ้องมองดวงหน้านวลเป็นประกาย“หิวแล้ว” ชิณณ์ตอบยิ้ม ๆ และรอยยิ้มของเขาไม่น่าไว้ใจเอาเสียเลย“กินข้าวก่อนนะคะ”พรีมรู้ว่าเขาหมายถึงหิวอะไร แต่เธอก็หาทางหลบเลี่ยงชิณณ์หัวเราะในลำคอ เขาถอนหายใจแรง ก่อนจะก้มหอมแก้มนุ่มฟอดใหญ่“คิดถึง”ชิณณ์แตะมือบนแก้มสาว เขาใช้นิ้วโป้งไล้แก้มเธอเบา ๆ ตาคมหลุบมองปากอิ่มที่เขารู้ว่าหวานเย้ายวนขนาดไหน พรีมมองตามสายตาเขา เธอเม้มปากแล้วแลบลิ้นเลียปากโดยไม่รู้ตัว คนที่มองอยู่จึงไม่อาจหักห้ามใจได้ ชิณณ์กอดรัดเธอมาแนบชิดด้วยวงแขนข้างหนึ่ง เขาประคองท้ายทอยเธอไว้ในฝ่ามืออีกข้าง แล้วแนบปากลงบดจูบด้วยความโหยหาพรีมทอดถอนใจบางเบา เธอยกแขนขึ้นโอบลำคอแกร่ง เผยอปากรับจูบจากเขาด้วยความเต็มใจ ปากอิ่มถูกจูบเรียกร้อง ลิ้นเล็กถูกดูดดึงหยอกล้อ เขาจ้วงลิ้นควานทั่วโพรงปากนุ่มอุ่น ปรน
พอไม่ได้เห็นหน้าคนที่เธอเคยเห็นทุกวันก่อนหน้านี้ พรีมก็เป็นฝ่ายกระวนกระวายใจเสียเอง เขาไปนอนที่คอนโด หรือนอนที่ผับ แล้วถ้านอนที่ผับ เขานอนกับใคร จะนอนคนเดียวอย่างที่แม่พุดซ้อนบอกเธอหรือเปล่า คนหื่นอย่างเขา จะอดเรื่องแบบนั้นได้เหรอ“หนูพรีม เป็นอะไรลูก นั่งเหม่อเชียว” แม่พุดซ้อนทักเมื่อเห็นหญิงสาวเอาแต่นั่งเหม่อ ใบตองในมือนั้นก็ถือค้างนานแล้ว แต่เธอไม่ยอมหยิบก้อนแป้งขนมเทียนไปใส่สักที“เอ่อ...เปล่าค่ะคุณแม่”พรีมยิ้มเจื่อน หญิงสาวหยิบแป้งก้อนกลมมีไส้ข้างในมาใส่ในใบตองแล้วห่ออย่างรวดเร็วแม่พุดซ้อนมองอาการว่าที่ลูกสะใภ้แล้วยิ้มเอ็นดู ที่ยังเรียกว่าว่าที่ลูกสะใภ้ เพราะลูกชายของท่านยังไม่ปัญญาจีบเมียตัวเองติด ทั้งสองยังคงนอนคนละที่ ยังไม่ได้พูดคุยตกลงอะไรกันด้วยซ้ำหลังจากห่อขนมเทียนเสร็จ แม่พุดซ้อนจึงสั่งให้เด็กรับใช้มาเอาไปนึ่ง แล้วหันไปชวนพรีมไปคุยกันในห้องนั่งเล่น สองสัปดาห์ยังไม่นานเท่าไรก็จริง แต่ดูท่าทางแล้ว หากไม่มีใครเชื่อมช่องว่างระหว่างสองคนนี้ เห็นทีลูกชายของท่านอาจจะต้องรอนานจนใจขาดเลยก็ได้“มานั่งตรงนี้จ้ะ” แม่พุดซ้อนนั่งลงที่โซฟาต