เสียงเปิดและปิดประตูห้องทำให้คนที่นอนรออยู่บนเตียงกว้างสะดุ้ง ช่วงเวลาที่รอให้เขาเดินมาขึ้นเตียง ทำให้หัวใจคนรอเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆ กระทั่งรับรู้ได้ว่าเขานั่งลงบนเตียง ใจสาวยิ่งเต้นกระหน่ำระรัว พอเขาเอนกายนอนซ้อนหลังแล้วดึงเธอไปกอดแนบอกกว้าง เธอก็กำผ้าห่มที่ห่มคลุมไว้แค่อกแน่น
เธอยินยอมพร้อมใจ เธอจะไม่โวยวาย จะไม่ขัดขืน คนเป็นแฟนกัน...เขาก็ทำแบบนี้ทั้งนั้นแหละ
แต้มรักย้ำบอกตัวเองในใจเป็นครั้งที่ร้อย
แม้จะผ่านการไตร่ตรองมาราวสองสัปดาห์ก่อนตัดสินใจยินยอม ทว่าพอถึงเวลาเอาจริง แต้มรักกลับตัวสั่นและไม่แน่ใจเอาเสียเลย แม้ก่อนหน้านี้เธอจะดื่มแอลกอฮอล์ย้อมใจพอประมาณ แต่ดูเหมือนว่ามันไม่ช่วยอะไรเลย เธอยังประหม่าอยู่ดี
นี่คือการมีเซ็กซ์ครั้งแรกของเธอ เธอเลือกให้ครั้งแรกกับคนที่ได้ขึ้นชื่อว่าเป็นแฟน เธอกับเขาคบกันมาหกเดือนแล้ว ที่ผ่านมามีเพียงแค่จับมือ กอด หอมแก้ม มากสุดก็แค่จุ๊บปากผิวเผิน แต่วันนี้เขาอยากได้มากกว่านั้น เขาอยากได้ตัวเธอเป็นของขวัญวันเกิดสำหรับเขา
วันนี้เป็นวันเกิดครบยี่สิบแปดปีของเขา เขาจัดปาร์ตี้ฉลองที่คอนโด งานนี้มีกลุ่มเพื่อนสนิทของเขาและเธอมาร่วมฉลองด้วยกัน หลังงานปาร์ตี้จบลง เพื่อน ๆ ก็เริ่มทยอยกลับ ในขณะที่เจ้าของวันเกิดรอส่งเพื่อน ๆ อยู่ข้างนอก เธอเลี่ยงเข้ามาอาบน้ำรอเขาในห้องนอนตามที่ได้นัดแนะกับเขาไว้แล้ว
แต้มรักสูดลมหายใจลึก เธอย้ำกับตัวเองครั้งที่หนึ่งร้อยหนึ่งว่า เธออายุยี่สิบสี่ปีแล้ว บรรลุนิติภาวะแล้ว จบปริญญาตรีแล้ว และเธอมีการมีงานทำมั่นคง ดูแลตัวเองได้แล้ว เรื่องเซ็กซ์เป็นเรื่องธรรมชาติ การมีเซ็กซ์กับแฟนเป็นเรื่องปกติ
...แต่ตอนนี้หัวใจเธอเริ่มเต้นไม่ปกติแล้ว
“อ๊ะ !” แต้มรักตกใจเมื่อผ้าห่มที่ปกปิดเรือนกายถูกกระชากออกไป แล้วร่างสูงใหญ่ก็ทาบทับทิ้งน้ำหนักลงมาบนตัวเธอ ผิวเนื้อแท้แนบสนิทแทบทุกสัดส่วน เพราะเธอนอนเปลือยเตรียมพร้อมรอเขา ส่วนเขาถอดเสื้อผ้าออกตอนไหน เธอไม่รู้ และเธอก็ไม่มีกะจิตกะใจจะหาคำตอบตรงจุดนี้ เพราะตอนนี้นอกจากหัวใจจะเต้นแรงแล้ว เธอยังสั่นไปทั้งตัวด้วย
แต้มรักปิดไฟทุกดวงในห้องก่อนที่เขาจะเข้ามา เพราะแม้จะมีแอลกอฮอล์ย้อมใจอยู่ในกระแสเลือด แต่นี่เป็นครั้งแรก เธอจึงกระดากอาย ไม่อยากให้เขามอง ดังนั้น ตอนนี้เธอจึงเห็นหน้าเขาไม่ชัด เรียกว่ามองไม่เห็นเลยก็ว่าได้ พอเขาโน้มหน้าลงมาใกล้ เธอจึงสัมผัสได้เพียงลมหายใจอุ่นร้อนที่เป่ารดใบหน้า ลมหายใจของเขามีกลิ่นแอลกอฮอล์เจือด้วยกลิ่นบุหรี่เบาบาง และมีกลิ่นหอมแบบผู้ชายชวนใจสั่น ทั้งยังเร่งเร้าสัญชาตญาณบางอย่างในตัวเธอด้วย
“อืม…” ปากอุ่นร้อนที่แนบประกบปากอิ่มทำให้แต้มรักครางในลำคอ หญิงสาวเผยอปากรับจูบจากเขาด้วยความเต็มใจ เมื่อเขาสอดแขนลงใต้แผ่นหลังโอบกอดเธอไว้ เธอก็โอบกอดเขาไว้เต็มวงแขนเช่นกัน แต้มรักจูบตอบเขาอย่างไม่ประสาเท่าไรนัก เพราะนี่คือจูบแลกลิ้นดูดดื่มครั้งแรกในชีวิตเธอ
รสชาติจูบขมปร่าในคราแรก หากพอเขาบดปากแนบสนิท แล้วดูดลิ้นเล็กของเธอไว้แน่น ก่อนจะปล่อยแล้วกวาดลิ้นทั่วโพรงปากนุ่ม ทั้งมือไม้ของเขาก็เริ่มลูบไล้สำรวจทั่วเนื้อตัวของเธอ แต้มรักจึงได้เรียนรู้ว่า จูบแลกลิ้นหวานดูดดื่ม และกระตุ้นอารมณ์หวาม ทำให้เธอกระตือรือร้นที่จะตอบสนองเขาอย่างเต็มใจ
“อืม...พี่ธนา” แต้มรักครางเรียกแฟนหนุ่ม เมื่อเขาถอนจูบแล้วเคลื่อนใบหน้าลงไปไซ้ซอกคอระหง เธอแหงนเงยหน้าให้เขาได้สูดดมและปาดลิ้นเลีย
“พี่ธนา...อ๊ะ !” เมื่อเธอเรียกเขาซ้ำอีกครั้ง เขาก็ดูดและเม้มเนื้อนุ่มตรงลำคอจนเธอเจ็บจี๊ด แต้มรักจึงสอดนิ้วเข้าไปในกลุ่มผมลื่นมือ เธอขยุ้มและกระตุกแรง ๆ เพื่อให้เขาปล่อย เขายอมปล่อย พร้อมกับเสียงคำรามในลำคอคล้ายไม่พอใจ ก่อนจะเลื่อนใบหน้าลงไปคลุกเคล้ากับเต้านมอวบใหญ่เกินตัวของเธอ
แต้มรักสูงแค่หนึ่งร้อยห้าสิบแปดเซนติเมตร รูปร่างอวบอัดไปทุกสัดส่วน เต้าคัพดีก็ใหญ่เกินตัวสำหรับสาวไซซ์เล็กอย่างเธอ แต่ดูเหมือนว่าเขาจะชอบ
เขาดูดดึงเต้าอวบข้างซ้ายเต็มปาก ตวัดลิ้นพลิกพลิ้วหยอกล้อกับเม็ดเนื้อนุ่มบนยอดทรวง อกอวบอีกข้างถูกเขาบีบขยำเคล้นคลึง แต้มรักขยุ้มเส้นผมเขาไว้เต็มสองมือ เธอบิดส่ายและแอ่นแผ่นหลังโค้งเหนือที่นอน ความเสียวสยิวค่อย ๆ ก่อตัวขึ้นทีละน้อยแล้วแล่นปราดไปกระจุกตัวอยู่กลางซอกขา ร่องรักบีบรัดคัดหลั่งน้ำหวานใส เอ่อซึมอาบไล้เนื้อนวลสาวที่ยังประกบกลีบแนบสนิท
“พี่ธนา...อื๊อ !” แต้มรักครางเรียกเสียงสั่น ในตอนที่แฟนหนุ่มผละจากเต้าอวบ แล้วเลื่อนใบหน้าลงไปหยอกล้อกับสะดือบุ๋ม เขาตวัดปลายลิ้นฉกระรัวจนเธอสะท้านสั่นไปทั้งตัว เสียวจนขนลุกซู่ จนเมื่อพอใจแล้ว เขาจึงเลื่อนใบหน้าลงไปยังเนินเนื้อสาว
“อ๊า !” แต้มรักขยุ้มเส้นผมในมือแรงขึ้นทันที เมื่อเขาแนบปากกับสัดส่วนอ่อนไหว เขาลากลิ้นเลียผ่ากลีบเนื้อนุ่ม ปลายลิ้นแยกแย้มฉกชิมรสน้ำหวานสาว เธอกระตุกผมเขาสุดแรงเพื่อหวังจะดึงเขาให้เงยหน้าขึ้นมาจากจุดนั้น เพราะเพียงแค่เขาลงลิ้นชำแรกกลีบอวบอูม เธอก็เสียวสะท้านจนสั่นไปทั้งตัว
...แต่ดูเหมือนเขาจะไม่ตามใจเธอเท่าไร
“พี่ธนา พะ...พอก่อนได้ไหมคะ ตะ...แต้ม...อื๊อ !” แต้มรักครางเสียงสั่น เธอบิดส่ายบั้นท้ายหนีปากร้อนผะผ่าว แต่ยิ่งหนี เขาก็ยิ่งดูดดื่มกับสัดส่วนอ่อนไหวของเธอ และพอเธอบิดส่ายดิ้นไม่หยุด เขาก็จับหัวเข่าสองข้างของเธอแยกกว้างแล้วกดลงกับที่นอน เปิดเปลือยเนื้อนวลสาวชุ่มฉ่ำให้เขาได้สำรวจด้วยปากและลิ้นทุกซอกมุมเสียว...เธอรู้สึกถึงแต่ความเสียว เขาจัดการเธออย่างดุดันช่ำชอง เขากระตุ้นปลุกเร้าอารมณ์สาวให้หลงระเริงไปกับความเสียดเสียว เสียงดูดดึงและปาดเลียดังหยาบโลน กระตุ้นให้เธอเสียวสุดจนพุ่งทะยานไปสู่ปลายทางสุขสมแต้มรักหวีดร้องพร้อมกับกระดกบั้นท้ายขึ้นเหนือที่นอน สัดส่วนความสาวถูกปาดเลียอย่างบ้าคลั่ง น้ำสวาทที่ซ่านกระเซ็นออกมาคราแรกเปรอะเปื้อนใบหน้าที่ซุกซบอยู่กลางหว่างขา ส่วนที่ไหลถะถั่งตามออกมาถูกเขาดูดกลืนลงท้องจนหมดสิ้นแต้มรักอ่อนเปลี้ยไปทั้งตัว เธอยังคงหอบหายใจแรงอยู่ในตอนที่ร่างสูงใหญ่ขยับขึ้นทาบทับตัวเธอไว้อีกครั้ง คราวนี้เขาใช้หัวเข่าแทรกกลางหว่างขา แยกสองขาเรียวออกกว้าง แล้วนาบความแข็งแกร่งร้อนผะผ่าวขยับเสียดสีกลางกลีบเนื้อชุ่มฉ่ำ“อื๊อ ! พี่ธนา...แต้มขอเวลาหายใจอีกนิดนะคะ” แต้มรักบอกเสี
...บนเตียงนี้มีแค่เธอกับเขา !เมื่อแต้มรักยกแขนขึ้นโอบกอด กระดกบั้นท้ายรับลำกายแกร่งด้วยความอยากกระสัน เขาจึงกอดรัดร่างนุ่มเต็มอก ขยับบั้นเอวเร็วขึ้นเรื่อย ๆ สอดใส่เต็มแรง กระแทกจนคนใต้ร่างแทบจมไปกับที่นอนแม้รู้ว่านี่เป็นครั้งแรกของเธอ เขาควรใจเย็น แต่เพราะเธอคับแน่นเร้าใจ ทั้งยังบีบรัดเขาไปทั้งลำ เขาจึงโยนความอ่อนโยนที่ตั้งใจไว้ในตอนแรกทิ้งไป แล้วกระหน่ำแก่นกายโถมถั่งเข้าหา ฉุดกระชากเธอให้กระโจนสู่ห้วงกามเร่าร้อนอย่างดุดัน ทั้งกระซิบสั่งเธอว่า“ครางชื่อผม” เขาบอกแล้วกระแทกตัวตนเต็มแรง“อ๊ะ !” แต้มรักหลุดคราง เธอกัดฟันแน่น ส่ายหน้าไปมา เธอไม่ยอมเรียกเขาตามที่เขาต้องการ“ฮันเตอร์...เรียก !” เขาสั่งเสียงเข้มดุเอาแต่ใจ ทั้งยังซอยบั้นเอวกระหน่ำสอดใส่ลำกายในร่องเนื้ออย่างไร้ความปรานี พอเธอไม่ยอมเรียก เขาก็บดปากจูบดุดันราวกับต้องการลงโทษแต้มรักโยกคลอนไปตามแรงโจนจ้วง อกอวบเสียดสีไปกับแผ่นอกกว้าง ปากอิ่มถูกบดจูบแทบไม่ว่างเว้น โพรงปากนุ่มถูกเขากวาดลิ้นสำรวจจนทั่ว ร่างกายถูกเขาลูบไล้สัมผัสทุกส่วน ร่องรักสาวถูกกระหน่ำสอดใส่ไม่เว้นพัก บทรักดุดันเร่าร้อนทำให้เธอพ่ายแพ้ แต้มรักปล่อยกายปล่อยใจ ยอม
“ครับ” เจ้าของชื่อขานรับยิ้ม ๆ เขาลุกขึ้นนั่งทั้งที่ไม่มีเสื้อผ้าติดตัวสักชิ้น และเขาก็ไม่สนใจที่จะดึงผ้าห่มหรือหาอะไรมาปิดบังเรือนกาย คนที่จ้องเขาอยู่ต้องเป็นฝ่ายเบือนหน้าหนีเสียเอง“ออกไป” แต้มรักบอกเสียงสั่นโดยไม่หันไปมองหน้าเขา นี่เป็นเช้าที่เลวร้ายที่สุดในชีวิตเธอ เมื่อต้องตื่นมาพบว่า เธอมีอะไรกับเพื่อนของแฟน และที่สำคัญ เขาเป็นบอสของเธอด้วย“ไม่เอาน่าทูนหัว” พุฒขยับตัวอย่างรวดเร็ว เขากระชากผ้าห่มออกจากมือหญิงสาว แล้วคว้าเอาเธอมานั่งบนตัก กักกอดเธอเอาไว้แน่นหนา“อ๊ะ ! ปล่อยนะ !” แต้มรักตกใจที่ถูกเขาดึงไปกอด เธออยู่ในท่านั่งคร่อมตักน่าหวาดเสียว เนื้อตัวเปลือยเปล่าเสียดสีสัมผัสกันทำให้เธอขนลุกซู่“ชู่ว์ ! อย่าเสียงดังสิครับ เดี๋ยวแฟนแต้มก็ได้ยินหรอก มันนอนอยู่ที่โซฟานอกห้องนี่เองนะครับ” พุฒกระซิบบอกเสียงแตกพร่า เนื้อตัวนุ่มเนียนกับไออุ่นจากเรือนกายสาวทำให้เขาอยากทำรักกับเธออีกแล้ว และเขาไม่ได้แค่คิด ชายหนุ่มสอดนิ้วซุกกลางหว่างขาขาว เขาใช้นิ้วกลางบี้คลึงติ่งเนื้อเบา ๆ “คุณพุฒ ! ยะ...อย่า” แต้มรักจับข้อมือเขาไว้แน่นด้วยสองมือ เธอเงยหน้ามองสบตาเขาด้วยสายตาอ้อนวอน เธอไม่อยากทำแบบนั้นอ
“แต้ม” เสียงเรียกของพรีมทำให้แต้มรักสะดุ้งและหลุดจากภวังค์ หญิงสาวรีบลุกขึ้น สูดลมหายใจลึก แล้วเปิดประตูออกไปหา“แต้ม...แกทำอะไรอยู่ บอสเรียกประชุมฝ่ายก่อนเริ่มงาน”“เรียกประชุมเช้าเหรอ”“อืม...แกเสร็จยังเนี่ย”“เสร็จแล้ว ๆ”แต้มรักพูดพลางหันไปเปิดก๊อกน้ำล้างมือ...มือที่เย็นเฉียบ เธอหันไปดึงกระดาษเช็ดมือออกมาเช็ดด้วยมือที่สั่นน้อย ๆ“เสร็จแล้วก็ไปสิ เร็ว”พรีมจับข้อมือเพื่อนพาเดินเร็วออกมาจากห้องน้ำ โดยเดินตรงไปยังห้องประชุมใหญ่เลย คนที่ก้าวขาเดินตามหลังเพื่อนไปเม้มปากแน่นตลอดทางเดิน หัวใจดวงน้อยเต้นแรงขึ้นเรื่อย ๆเมื่อพรีมผลักประตูห้องประชุมเปิดออก แต้มรักก็เอาแต่ก้มหน้า เธอเดินตามเพื่อนไปนั่งลงที่เก้าอี้ซึ่งตั้งอยู่เกือบริมสุด อยู่ทางซ้ายมือของหัวโต๊ะตัวยูแต้มรักได้ยินเสียงเพื่อนพนักงานคุยกันเบา ๆ อยู่ครู่หนึ่ง ก่อนที่ทุกคนจะเงียบเสียงลง เธอพอเดาได้โดยที่ไม่ต้องเงยหน้าขึ้นมามองว่า ที่ทุกคนเงียบเพราะบอสเดินเข้ามาในห้องประชุมแล้ว“สวัสดีครับ” เสียงนุ่มทุ้มเอ่ยทักทายตามปกติ แต่หัวใจของคนที่นั่งก้มหน้าอยู่เริ่มเต้นไม่เป็นปกติพรีมสังเกตเห็นเพื่อนเอาแต่นั่งก้มหน้า ทั้งยังมีเหงื่อซึมข้า
พุฒถามยิ้ม ๆ ถามอย่างคนไม่อนาทรร้อนใจกับเรื่องลับ ๆ ที่เขาทำกับเธอ ชายหนุ่มยืดตัวขึ้นเต็มความสูง และขณะรอคำตอบจากแต้มรัก เขาก็ทำตัวเป็นคนดีช่วยจัดการเสื้อผ้าของเธอให้เรียบร้อยดังเดิม“ว่าไงครับ” พุฒเลิกคิ้วสูง เขาก้มสบตาคนที่สูงแค่อกเขาแล้วยิ้มมุมปาก“คนเลว…”“ผมไม่เคยบอกใครว่าผมเป็นคนดีสักหน่อย รีบตัดสินใจเร็ว ๆ คนสวย หรือคุณอยากให้คนอื่นรู้ว่าเล่นชู้กับเจ้านาย”แต้มรักมองเขาผ่านม่านน้ำตา เธอเจ็บใจที่ทำอะไรเขาไม่ได้เลย เธอหวาดกลัวไปทุกอย่าง เธอสับสน ไม่รู้จะหาทางออกเรื่องนี้อย่างไร ที่สำคัญเธอสงสารแฟนหนุ่มแสนดีที่ถูกเธอสวมเขาให้“ไม่...อย่าให้ใครรู้นะคะ”“ผมรู้...ผมเป็นชู้ สถานะชู้จะให้คนอื่นรู้ได้ยังไงล่ะ และแต้มก็คงไม่อยากให้ใครรู้ว่ามีชู้ใช่ไหม...งั้นคืนนี้ไปนอนกับผมนะครับ” พุฒโอบเอวบางดึงหญิงสาวมากอดไว้แน่นแต้มรักจำยอมพยักหน้ารับปากเขาคนที่บังคับเธอได้ดั่งใจยิ้มพอใจ เขากระซิบบอกเธอว่า“คืนนี้เจอกันนะครับ ที่รัก”...ชู้รักของเธอออกจากห้องพยาบาลไปแล้ว แต้มรักจึงถอยกลับไปนั่งที่เตียง เธอมองประตูห้องอย่างหวาดหว
พี่ธนาเป็นคนดี เขาเป็นสุภาพบุรุษและให้เกียรติเธอเสมอมา เธอควรระวังตัวและถนอมตัวไว้เพื่อเขา แต่กลับกลายเป็นว่า เธอเสียตัวให้เพื่อนของเขาบนเตียงของเขา เธอเลวยิ่งกว่าเลว สองวันที่อยู่คนเดียวและคิดไตร่ตรองเรื่องเลวร้ายที่เกิดขึ้น ทางออกหนึ่งที่เธอคิดไว้คือ เธอจะบอกเลิกและถอยห่างมาจากเขา เธออยากให้เขาได้พบคนที่ดีกว่า คนที่คู่ควรและเหมาะสมกับคนดีอย่างเขา ที่ไม่ใช่ผู้หญิงสกปรกอย่างเธอ"ซื้ออะไรมาเยอะแยะคะ แต้มกินไม่หมดแน่ ๆ"แต้มรักขมวดคิ้วเรียว และกวาดสายตามองบนโต๊ะรับประทานอาหาร เขาเตรียมอาหารไว้รอเธอหลายอย่างเลย"เยอะแยะที่ไหนกันครับ นิดเดียวเอง แต้มต้องกินเยอะ ๆ นะครับจะได้มีแรงทำงาน มีน้ำส้มคั้นสดด้วย พี่ไปยืนต่อคิวตั้งนานกว่าจะได้มา ร้านนี้คนต่อคิวเยอะมาก พี่อยากให้แต้มดื่ม จะได้สดชื่น"ธนาว่าพลางจัดช้อนส้อมใส่จาน แล้ววางจานลงตรงหน้าหญิงสาว เขาเลื่อนแก้วน้ำส้มไปใกล้ ๆ เธอด้วย"ขอบคุณค่ะ" ยิ่งเขาแสนดี ยิ่งเขาดูแลเธอแบบนี้ แต้มรักก็ยิ่งรู้สึกผิด แต่เธอไม่อยากทำให้เขาไม่สบายใจ หญิงสาวจึงฝืนยิ้มสดใสให้เขา และชักชวนเขารับปร
พุฒเหลือบตามองมือของเพื่อนที่แตะอยู่เหนือสะโพกมนแวบหนึ่ง ก่อนจะเลื่อนสายตาขึ้นมองหน้าเพื่อน เขายักไหล่ ทำหน้าคล้ายเหม็นเบื่อ“แฟนมึง แต่ลูกน้องกู และตอนนี้กูก็มีงานให้ลูกน้องทำด้วย”“แต่นี่เวลาพัก” ธนาแย้ง เขาไม่ยอมปล่อยแขนออกจากหญิงสาว“แล้วไง ก็กูมีงานด่วนให้ทำ”“มึง…” ธนาชี้หน้าเพื่อน แต่ก็เถียงไม่ออก เพราะแต้มรักเป็นลูกน้องมันพุฒไม่สนใจท่าทีเดือดเนื้อร้อนใจของธนา เขาหันไปสั่งลูกน้องเขาว่า“แต้ม...ไปพบผมที่ห้องด้วย ผมมีงานให้คุณทำ”“ค่ะ...บอส” แต้มรักรับคำแล้วก้มหน้าหลบตาคมปลาบ“ไอ้บอสโหด เวลาพักก็ไม่ให้พัก” ธนายังไม่วายชี้หน้าต่อว่าเพื่อนพุฒไม่ตอบโต้ เขายักคิ้วกวนโมโหเพื่อน แล้วเดินออกจากห้องแคนทีนไป แต่ก่อนจะประตูจะปิดลง ก็ยังไม่วายได้ยินเสียงธนาตะโกนว่าไล่หลังมา“ไอ้ฮันเตอร์ ไอ้บอสเลว”คนถูกเพื่อนว่ายิ้มมุมปาก ตาคมเป็นประกายวาววับ เขาไม่สนใจคำที่เพื่อนต่อว่า ที่เขาสนใจอยู่ตอนนี้คือผู้หญิงคนนั้น เธอเป็นของเขาแล้ว แต่ยังมีหน้าไปยืนให้เพื่อนเขากอดอยู่ได้ บางทีเขาอาจจะต้องสั่งสอนให้เธอหลาบจำว่า คนที่มีส
“อย่าบอกพี่ธนานะคะ” แค่เขาขู่ เธอก็ใจสั่น เธอไม่อยากให้พี่ธนาเสียใจ ไม่อยากให้เขารู้ว่าเธอกับเพื่อนของเขาสวมเขาให้ เธอเองไม่คิดจะดึงรั้งพี่ธนาไว้ เพียงแต่เธออยากขอเวลาทำใจก่อน ทำใจก่อนจะเดินออกมาจากชีวิตคนดี ๆ อย่างเขาพุฒก้มลงหมายจะหอมแก้มนวล แต่แต้มรักสะบัดหน้าหนี เขาจึงก้มลงอีกนิดแล้วจูบลำคอเธอเบา ๆ“อ๊ะ !” แค่ปากอุ่นร้อนประทับบนผิวเนื้อ ขนกายสาวก็ลุกชัน แต้มรักกัดฟันแน่น เธอรอกระทั่งเขาเงยหน้าขึ้นมาจากซอกคอ เธอจึงสบตาเขา“แต้มไม่ให้พี่ธนาแตะต้องแน่นอนค่ะ ไม่ใช่เพราะบอสสั่ง แต่เพราะว่าพี่ธนาเป็นคนดี เขาดีเกินกว่าที่แต้มจะให้เขามาแปดเปื้อนคนสกปรกอย่างแต้ม”พุฒยิ้มมุมปาก เขากอดรัดหญิงสาวแน่นขึ้น“ถ้าอย่างนั้น ก็เลิกกับมันสิ แล้วมาเป็นแฟนผม”“แต้มจะบอกเลิกพี่ธนาแน่นอน แต่แต้มจะไม่มีวันทำให้พี่ธนาเสียใจ ด้วยการเลิกกับคนดีแล้วมาคบกับเพื่อนเลวที่หักหลังเขาหรอกค่ะ”“หักหลังอะไรกัน...ผมก็แค่ช่วยเพื่อนสร้างความสุขให้แฟนเท่านั้นเอง คืนนั้นแต้มก็มีความสุขสุดยอดไปตั้งหลายครั้งไม่ใช่เหรอ”“คนเลว…”“เคยบอกแล้วว่า ผมไม่ใช่คนดี”
“ไปรอผมในห้อง” ชิณณ์บอกคนที่เกาะแขนเขาไม่ห่าง“พรีมไปกับคุณไม่ได้หรือคะ” พรีมเงยหน้ามองเขาด้วยสายตาออดอ้อนอย่างลืมตัว ก็อยู่ใกล้เขาเธออุ่นใจที่สุด เธอจึงไม่อยากไปรอในห้องคนเดียว“ผมจะไปคุยกับแขกวีไอพี”“พรีมจะนั่งรอเงียบ ๆ จะไม่รบกวนคุณ คุณจะคุยก็คุยไป” พรีมดื้อดึง และไม่ยอมปล่อยแขนแกร่ง“แน่ใจนะ” ชิณณ์หลุบตามองสบตาเธอพรีมรีบพยักหน้าเร็ว ๆ พอเขาไม่ว่าอะไรและเริ่มออกเดินอีกครั้ง เธอก็รีบก้าวเดินตาม กระทั่งเขาพาเธอเดินมาใกล้ถึงห้องวีไอพี ก็มีผู้หญิงในชุดสุดแสนเย้ายวนสองคนเดินเข้ามาหา“คุณชิณณ์ขา คืนนี้ให้พวกเราไปรอที่ห้องไหนดีคะ” สาวนางหนึ่งถามพร้อมกับส่งสายตาหวานหยาดเยิ้มให้เขาพรีมขมวดคิ้วมองดูสองสาวแวบหนึ่ง ก่อนจะเงยหน้ามองคนที่ยืนข้างเธอ เขามองสองสาวด้วยสายตาเรียบเฉย และไม่ได้พูดอะไรออกมา ครู่เดียวลูกน้องของเขาก็รีบมากันสองสาวนั้นออกไป แม้ว่าพวกเธอจะไม่ค่อยเต็มใจที่จะถอยออกไปเท่าไร แต่ก็ไม่กล้าขัดขืน“พรีมไปรอที่ห้องก็ได้ค่ะ” พรีมปล่อยมือจากต้นแขนแกร่ง เธอขยับออกห่างเขาเล็กน้อยชิณณ์เลิกคิวเข้มมองคนที่ถอยห่างเขาไปด้วย
พรีมปิดกั้นการติดต่อกับคุณลุงคุณป้า ไม่รับสาย ไม่โทรหา และไม่สนใจว่าคนพวกนั้นจะเป็นตายร้ายดีอย่างไร บุญคุณที่เลี้ยงเธอมา เธอถือว่าเธอชดเชยให้ด้วยเงินที่ส่งให้ทุกเดือนก่อนหน้านี้ และอิสรภาพของเธออีกหนึ่งปีนับจากนี้ที่เธอใช้มันแลกกับหนี้ก้อนโตที่พวกเขาสร้างไว้ เธออยู่ภายใต้คำว่าบุญคุณมานานแล้ว หลังจากหมดพันธสัญญาการเป็นผู้หญิงของชิณณ์ เธอจะตั้งใจทำงานเก็บเงิน เพื่อสร้างบ้านบนที่ดินผืนนั้น เธอจะกลับไปใช้ชีวิตเรียบง่ายที่นั่น “มีอะไรกันหรือคะ” พรีมถามแล้วขมวดคิ้วเรียวด้วยความสงสัย ก็พอเธอเดินออกจากลิฟต์มา คนของชิณณ์ที่ปกติจะเฝ้าอยู่หน้าห้องแค่สองคน แต่วันนี้กลับมีถึงสี่คน แล้วแถมทั้งสี่คนก็ยังมีสีหน้าเคร่งเครียดอีกด้วยทั้งหมดหันมามองเธอพร้อมกัน พอเห็นหน้าเธอ สีหน้าของพวกเขาก็ดีขึ้นทันใด พวกเขาโค้งคำนับให้เธอเล็กน้อย ก่อนที่คนหนึ่งจะบอกเล่าถึงสาเหตุที่ทำให้พวกเขามีสีหน้ากังวลใจ...พรีมยืนฟังคนของชิณณ์เล่าสถานการณ์ในห้องอยู่ครู่หนึ่ง พอรู้และรับทราบถึงอารมณ์คนในห้องตอนนี้ หญิงสาวก็ถอนหายใจออกมาพรืดใหญ่“พี่สองคนลงไปรอ
“พรีม !” เสียงเรียกของคนที่ชะโงกหน้าข้ามฉากกั้นมาจากโต๊ะตรงหน้าทำให้พรีมสะดุ้ง หญิงสาวรีบปิดกระเป๋าถือแล้ววางลงบนพื้นข้างโต๊ะ“พี่รัตนามีอะไรหรือคะ” พรีมถามด้วยใบหน้าเลิ่กลั่ก“พี่แค่อยากถามว่า กลับบ้านตั้งหลายวัน แอบไปแต่งงานหรือเปล่าคะ” ผู้ตั้งมั่นในการเป็นจิตอาสาสอดรู้สอดเห็นเรื่องชาวบ้านถามแล้วมองอย่างจับผิด“พรีมกลับไปเยี่ยมบ้านเฉย ๆ ค่ะ” พรีมตอบแล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้กลับไปแต่ง แต่กลับไปหมั้นใช่ไหมคะ” สายสมรที่นั่งอยู่โต๊ะถัดไปจากรัตนารีบลุกขึ้นมาถามต่อจากเพื่อนพรีมมองหน้าสองสาวใหญ่จอมสู่รู้แล้วถอนหายใจแรง“ไม่ได้แต่ง ไม่ได้หมั้นค่ะ พรีมยังไม่มีแฟน ไม่มีผัว พรีมยังโสดค่ะ”“โสดสนิทหรือเปล่าน้อ” รัตนายังมิวายพูดล้อเลียน“โสดสนิทค่ะ และทำให้คนพูดมากหุบปากสนิทได้ด้วย” พรีมว่าพลางชูกำปั้นขึ้นมาตรงหน้า กับบางคนพูดดี ๆ ด้วยแล้วลามปาม ถึงแม้จะอายุมากกว่า เธอก็ไม่คิดจะไว้หน้าหรือเกรงใจหรอกนะ สู่รู้เรื่องของคนอื่นดีนัก ก็ต้องโดนตอกกลับบ้างพอถูกขู่ สองสาวรุ่นใหญ่ยิ้มแหยแล้วรีบนั่งลงทำงานต่อ พรีมถอนหายใจแรงอีกครั้ง เธอหันไปม
“ขออีกครั้ง” เสียงของเขาสั่นพร่า และพอเขาพูดจบ ใบหน้าหล่อเหลาก็ก้มลงซุกไซ้ซอกคอนุ่ม เรือนกายเปลือยเปล่าของสองหนุ่มสาวเสียดสีสัมผัสกันแนบชิด“อื๊อ ! ไม่ได้นะคะ เดี๋ยวพรีมไปทำงานสาย”“เดี๋ยวให้คนไปส่ง”“มะ...ไม่ค่ะ อ๊ะ ! คุณชิณณ์อย่า…” เสียงห้ามปรามของพรีมถูกดูดกลืนด้วยจูบเรียกร้องเอาแต่ใจ มือไม้ซุกซนของเขาลูบไล้ไปทั่วเนื้อตัวสาว ขณะที่หัวเข่าแกร่งกดลงกลางหว่างขาแยกแย้มเนื้อนวล เขานาบความเป็นชายร้อนผะผ่าวกลางกลีบสาว แล้วขยับสะโพกถูไถตัวตนของเขากับกลีบชุ่มชื้นของเธอ“คุณชิณณ์...ทำเร็ว ๆ นะคะ พรีมจะรีบไปทำงาน” เมื่อไม่อาจขัดขืนเขาได้ และร่างกายของเธอก็ตอบสนองการปลุกเร้าแล้ว พรีมจึงเร่งให้เขาทำเวลา“สั่งจริง อยากเร็วก็มาทำเอง” ชิณณ์ว่าแล้วยิ้มเจ้าเล่ห์ เขาพลิกตัวลงไปนอนหงาย แล้วดันหญิงสาวลุกขึ้นคร่อมหน้าท้องแกร่ง คนช่ำชองส่ายสะโพกขยับเล็กน้อย หัวมนทู่ก็สอดเข้าสู่ร่องรักอุ่นอ้าว เขาจับเอวคอดไว้แน่นด้วยสองมือ แล้วดึงให้เธอกระแทกลงมา ขณะที่เขากระเด้งสวนขึ้นไป เสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง“คุณชิณณ์ !” พรีมหวีดร้องเรียกเขาเสียงหลง เธอเจ็บและจุกเต็ม
“ที่ดินผืนนั้นจะโอนเป็นของคุณทันที ถ้าคุณตกลงรับข้อเสนอของผม”คิ้วเรียวขมวดมุ่น พรีมมองหน้าคนพูดอย่างไม่เข้าใจ“มาเป็นผู้หญิงของผม แล้วคุณจะได้ที่ดินของคุณคืน”“นานแค่ไหนคะ” เธอไม่ใช่คนที่เข้าใจอะไรยากนักหรอก เธอยอมรับว่าสนใจข้อเสนอของเขา ใครจะมองว่าเธอใช้ร่างกายเข้าแลกก็ช่าง ในเมื่อที่ดินผืนนั้นคือความสุขทางใจสิ่งเดียวของเธอ หากหนทางที่จะทำให้ได้มันมาไม่ได้ทำให้ใครเสียใจ ไม่ได้ลักลอบเป็นชู้กับคนที่มีครอบครัวแล้ว มันเป็นข้อเสนอที่ของคนไร้พันธะ และเธอก็ไม่มีใคร เธอจึงถือว่านี่เป็นการแลกเปลี่ยนที่ต่างฝ่ายต่างพึงพอใจ แต่สิ่งเดียวที่เธอต้องรู้ก่อนตัดสินใจรับข้อเสนอของเขาคือ เธอต้องเป็นผู้หญิงของเขานานแค่ไหน“หนึ่งปี...ภายในหนึ่งปีนี้ คุณต้องพร้อมเสมอ หากผมต้องการ”“พรีมต้องย้ายมาอยู่กับคุณไหมคะ”“ต้องเป็นแบบนั้นอยู่แล้วล่ะ”“พรีมไปทำงานได้ไหมคะ”“ได้สิ”พรีมสูดลมหายใจลึก หญิงสาวมองสบสายตาคมแน่วแน่“ค่ะ...พรีมตกลงรับข้อเสนอของคุณ พรุ่งนี้เราไปโอนที่กันเลยนะคะ” เธอไม่ได้เขี้ยว แต่เธอต้องการหลักประกันว่า อิสรภาพส่วนหนึ่ง
“พรีมไม่มีเงินจ่ายให้คุณหรอกค่ะ ลำพังหนี้สินเดิมก็ยังชดใช้ไม่หมด ถ้าไม่อยากบอกก็ไม่ต้องบอกค่ะ” พรีมเลิกผ้าห่มออกจากตัวแล้วขยับจะคลานลงจากเตียง แต่กลับถูกเขารวบกอดเอวคอดแล้วดึงเธอขึ้นไปนั่งบนตักอย่างง่ายดาย หญิงสาวหันไปขึงตาใส่เขา“อาบน้ำให้หน่อยสิ เดี๋ยวจะเล่าให้ฟัง”พรีมจ้องหน้าคนที่เรียกร้องค่าเปิดปากด้วยการอาบน้ำ“อาบเองไม่เป็นหรือไงคะ ทำไมถึงชอบเรียกร้องให้คนอื่นอาบน้ำให้”“อาบเองเป็น แต่ชอบให้คนอื่นอาบให้มากกว่า มันเสียวดี”พรีมถอนหายใจแรง เธอหงุดหงิดที่ต้องตกเป็นฝ่ายเสียเปรียบเขาตลอด กระนั้นหญิงสาวก็รู้ตัวดีว่า เธอไม่มีสิทธิ์ต่อรองอะไรกับเขามากนัก“ก็ได้ค่ะ คุณเล่ามาก่อน แล้วพรีมถึงจะอาบน้ำให้”“ไปเล่าในห้องน้ำเลยดีกว่า จะได้ไม่เสียเวลา ผมเตรียมน้ำอุ่นใส่อ่างไว้แล้ว” ชิณณ์ว่าพลางขยับตัวลงจากเตียง โดยอุ้มคนที่รับปากว่าจะอาบน้ำให้เขาขึ้นกระเตงไว้ด้านหน้าพรีมรีบกอดลำคอแกร่งไว้ทันทีที่เขาลุกขึ้นจากเตียง สองขาเรียวก็ตวัดรัดเอวสอบอัตโนมัติเพราะกลัวตก“คุณมันคนเจ้าเล่ห์”“ไม่อยากรู้เหรอ” ชิณณ์หยุดเดิน เขามองสบตาเธ
“ดึกแค่ไหนก็คุ้มนะ ถ้าเสี่ยจิ๋วเขายอมรับข้อเสนอของพรีม”“ค่ะ”พรีมพยักหน้าเห็นด้วยกับลุง หญิงสาวยกแก้วน้ำขึ้นจิบ เธอมองไปทางประตู แล้วหันมามองหน้าลุง ลุงมนตรียิ้มให้กำลังใจเธอ พรีมยิ้มตอบก่อนจะยกแก้วน้ำขึ้นดื่มจนเกือบหมดแก้ว…เสียงเปิดประตูทำให้มนตรีหันไปมอง พอเห็นว่าคนที่เดินเข้ามาคือเสี่ยจิ๋ว ผู้สูงวัยก็รีบยกมือไหว้ เสี่ยจิ๋วพยักหน้าเล็กน้อยแทนการรับไหว้ ร่างท้วมเดินเข้าไปยืนข้างมนตรี และมองไปยังร่างหญิงสาวที่นอนอยู่บนโซฟาตัวยาวด้วยสายตาที่พึงพอใจ“เสี่ยคงอยากตกลงกับหลานสาวผมเป็นการส่วนตัว”“อืม…” เสี่ยจิ๋วครางรับในลำคอ เขากวาดสายตามองหญิงสาวตั้งแต่หัวจรดเท้า พร้อมกับแลบลิ้นเลียปากแล้วกลืนน้ำลายอึกใหญ่“ตามที่ตกลงกันไว้นะครับเสี่ย ยกหนี้ให้ แล้วก็เอ่อ...ค่าสินสอดสองแสน”เสี่ยจิ๋วละสายตาจากเรือนร่างสาว เขาหันไปพยักหน้าให้ลูกน้องคนสนิทที่ยืนอยู่ใกล้ประตู“จัดการให้คุณมนตรีด้วย แล้วก็ไสหัวออกไปให้หมด คืนนี้กูจะเข้าหอกับหนูพรีมที่นี่...ทั้งคืน”“พวกมึงมัวทำเหี้ยอะไรอยู่ ปล่อยให้คลาดสายตาได
พอหลานไม่หือไม่อือ ป้าวัลภาก็รีบเสริมขึ้นว่า “เอ่อ...พรีมไม่ต้องกังวลนะ ลุงเขาจะขับรถไปส่ง แล้วก็อยู่เป็นเพื่อนด้วย”พรีมถอนหายใจบางเบา เธอรู้ว่าการไปพบเสี่ยจิ๋วตอนกลางคืนไม่น่าไว้ใจเท่าไร แต่ลุงมนตรีไปกับเธอด้วย คงไม่มีอะไรน่ากังวล อีกอย่างไปคุยกันในร้านอาหารซึ่งมีคนอื่นอยู่ด้วย หากเกิดอะไรขึ้น เธอก็น่าจะมีทางหนีทีไล่อยู่“พรีมขอเข้าห้องน้ำก่อนนะคะ เดี๋ยวพรีมลงไปค่ะ”ป้าวัลภาฉีกยิ้มกว้าง “จ้ะ...รีบ ๆ ตามลงมานะ ลุงเขารออยู่”“มีนกับหมอกสบายดีใช่ไหมคะคุณลุง” พอลุงขับรถพาเธอออกมาจากบ้านครู่หนึ่ง พรีมก็หันไปถามหาลูก ๆ ของลุง เธอทราบข่าวว่ามีนแต่งงานแล้ว และย้ายไปอยู่กับสามีในตัวจังหวัด ส่วนหมอกยังอาศัยอยู่ที่บ้าน เขาทำงานราชการในอำเภอ แต่กว่าจะกลับบ้านก็มืดค่ำ ไม่ใช่เพราะทำงานหนัก แต่เพราะมัวแต่เที่ยวเล่นสังสรรค์กับเพื่อน ซึ่งนั่นเป็นเหตุผลที่เธอยังไม่เจอหน้าเขา“ก็สบายดี” ลุงมนตรีตอบแล้วยิ้มเจื่อน ไม่ใช่ไม่รู้ตัวว่า สาเหตุที่ที่ดินของหลานกำลังจะถูกยึดเป็นเพราะเขาตามใจลูกมากเกินไป ลูกสาวคนโตและลูกชายอยากได้รถใหม่ ลำพังเง
“เรื่องที่ดินน่ะเหรอ” ชิณณ์นั่งลงบนเตียง เขารวบเอาคนที่นั่งหน้าหงิกอยู่มานั่งบนตัก เนื้อตัวนุ่มเนียนกับกลิ่นกายสาวทำให้เขาคึกคัก ทั้งที่ทำงานเหนื่อยมาทั้งคืน แต่พอได้อยู่ใกล้ชิดเธอ เขากลับตื่นตัว...อยากเก็บหนี้กับเธออีกแล้ว“ใช่ค่ะ คุณชิณณ์ให้พรีมกลับบ้านนะคะ พรีมไม่หนีคุณไปไหนแน่นอน”“ผมเชื่อใจคุณได้หรือพรีม”“แล้วพรีมต้องทำยังไงคุณถึงจะเชื่อ”“ขอเก็บดอกเบี้ยได้ไหม ค่าปล่อยตัวชั่วคราว” ชิณณ์ลากปลายจมูกคลอเคลียแก้มนุ่ม เขาค่อย ๆ เลื่อนปากเข้าใกล้มุมปากอิ่ม ทว่าเจ้าของปากน่าจูบกลับเบี่ยงหน้าหนี ก่อนจะหันกลับมาใหม่ แล้วเอามือดันอกกว้างไว้“พรีมยังเจ็บอยู่ค่ะ” พรีมก้มหน้า เธอหลุบตาลงมองฝ่ามือตัวเองที่วางอยู่บนอกกว้าง เขาสวมเสื้อเชิ้ตสีขาว แต่แกะกระดุมออกถึงสามเม็ด แล้วมือเธอก็วางแหมะลงตรงที่สาบเสื้อแยกออกพอดี“ผมเตือนคุณแล้วว่าจะเจ็บ แต่คุณดื้อรั้น...ไม่ฟังคำเตือน” ชิณณ์ยิ้มบาง เขาเชยคางเรียวขึ้นมา มองสบตาเธอด้วยสายตาพราวระยับ“ให้พรีมกลับบ้านนะคะ” พรีมกลั้นใจขอร้องเขาอีกครั้ง เธอมองหน้าเขาอย่างรอคอย“อาบน้ำให้ผมหน่อย แล้วผมจะยอมป