ด้านอภิรดีก็รอลูกสาวของเธอกลับบ้านแบบใจจดใจจ่อ เพราะข้อเสนอของอนุวัตรที่ให้กับเธอนั้นมันน่าสนใจมาก พอลูกสาวเธอเดินเข้ามาในบ้าน เธอก็พูดกับลูกสาวทันที
“ยัยเม แม่มีเรื่องสำคัญจะคุยด้วย อยู่คุยกับแม่ก่อน อย่าพึ่งขึ้นข้างบน มาๆ” อภิรดีพูดออกไปแล้วเข้าไปจับแขนของลูกสาวมานั่งที่ห้องนั่งเล่น
“มีอะไรคะคุณแม่ เมเหนื่อยจะตายอยู่แล้ว คุยพรุ่งนี้ไม่ได้เหรอคะ” เมธาวีพูดออกไปแบบหงุดหงิด เพราะเธออารมณ์ไม่ดีมาตั้งแต่เจอไอ้ลูกค้านั่นแล้ว
“ไม่ได้ เรื่องนี้มันสำคัญ แม่อยากจะให้ลูกเอาไปคิด” อภิรดีพูดไป เมธาวีก็หันมามองผู้เป็นแม่แบบสงสัยว่ามีเรื่องอะไร
“งั้นก็รีบๆพูดมาค่ะแม่ มีเรื่องอะไร” เมธาวีถามไปก็รอคำตอบจากแม่ของเธอ
“คือ คุณอนุวัตรเจ้าหนี้ของเราน่ะ เขาบอกกับแม่ว่า ถ้าหนูยอมแต่งงานจดทะเบียนสมรสกับเขา เขาจะยอมยกหนี้ทั้งหมดให้เรา พร้อมกับจะให้เงินค่าสินสอดเราอีกห้าล้านถ้าลูกยอมแต่ง บ้านเราก็จะปลดหนี้ที่ติดคนอื่นไว้แล้วนะยัยเม” อภิรดีพูดอธิบายบอกไปแบบนุ่นนวล ต่างจากเมธาวีที่ได้ยินถึงกับกัดฟันแบบเจ็บใจที่ถูกตาเฒ่าหัวหวังจะเอาเธอไปทำเมีย
“เมไม่แต่งกับคนแก่คราวพ่อแบบนั้นหรอกค่ะ หนี้ก็ส่วนหนี้สิคะ ทำไมต้องให้เมไปแต่งงานด้วย ชีวิตเมไม่จมปลักกับคนแก่ๆหรอกค่ะ แม่ไม่ต้องมาถามเมเรื่องนี้อีกนะคะ เพราะยังไงเมก็ไม่แต่ง” เมธาวีพูดออกไปแบบจริงจัง เธอจะไม่เอาชีวิตของเธอทั้งชีวิต ไปคอยดูแลผู้ชายแก่เด็ดขาด
“แต่บ้านเราไม่มีทางเลือกแล้วนะยัยเม ลูกก็รู้ว่าเราไม่ได้ร่ำรวยแบบเมื่อก่อนแล้ว ลำพังเงินที่เราและของยุ แล้วก็ยัยน้ำผึ้งที่หามา มันก็แทบจะไม่พอค่าใช้จ่ายในบ้านแล้ว แม่ว่าลูกยอมแต่งงานดีกว่าไหม ถ้าเราไม่มีเงินใช้หนี้คุณอนุวัตรเขา แม่ก็คงต้องขายบ้านหลังนี้ แล้วพวกเราก็ไปหาที่อยู่ใหม่” อภิรดีพูดบอกไปแบบตัดใจ เพราะถ้าลูกสาวของเธอไม่แต่งงาน
“ไม่นะคะ แม่จะขายบ้านนี้ไม่ได้ ยังไงพวกเราก็ต้องอยู่ที่นี่ต่อ ยัยน้ำผึ้งหลานรักคุณแม่ ทำไมไม่ให้มันแต่งล่ะคะ คุณแม่จะให้มันนอนสบายที่บ้านนี้แล้วจะให้หนูไปตกนรกกับคนแก่ๆงั้นเหรอคะ” เมธาวีพูดออกไปเมื่อนึกถึงลลิสา ลูกพี่ลูกน้องของเธอที่แม่เธอเลี้ยงดูมาตั้งแต่เด็กๆ
“ไม่ใช่นะลูก คุณอนุวัตรเขาชอบลูกเขาอยากแต่งงานกับลูก ไม่ใช่กับน้อง” อภิรดีพูดตอบไป เพราะเธอก็รักลิลสาพอๆกับลูกๆของเธอนั่นแหละ เธอก็ไม่ได้อยากให้ใครคนไหนแต่งงานกับคนแก่คราวพ่อหรอก
“ก็เพราะเมสวยน่ะสิคะ แต่คนแก่อย่างนั้นอย่าหวังว่าจะได้แตะตัวเมเลย เครื่องเพชรคุณแม่มีไม่รู้เท่าไหร่ก็เอาไปขายมาใช้หนี้เขาก่อนสิคะ แล้วเดี๋ยวเมจะรีบหาเงินมาช่วยด้วย เมขอตัวนะคะ เมเหนื่อยมามากแล้ววันนี้” เมธาวีพูดจบก็เดินหนีออกไปทันที จนอภิรดีมองตามแบบเหนื่อยใจกับความเอาแต่ใจของลูกสาวของเธอ
“เห้อ ยัยเม เครื่องเพชรที่แม่มี แม่ก็เอาไปขายมาใช้หนี้เขาหมดแล้ว แล้วแม่จะไปเอาที่ไหนมาขายอีก” อภิรดีพูดออกมาแบบท้อใจเพราะลูกสาวของเธอไม่ยอมแต่งงานกับอนุวัตรแบบนี้แล้ว เธอเองก็จนปัญญาที่หว่านล้อมลูกสาวแล้ว
พอชาลิตถูกน้าเขาจับตัดผมโกนหนวดแล้วก็ไปอาบน้ำแต่งตัวใหม่แบบดูดีลงมาด้านล่าง แล้วก็เจอทุกคนกำลังนั่งรอที่โต๊ะอาหารกันแบบพร้อมหน้า โดยเฉพาะโยธกาที่นั่งยิ้มให้เขาพร้อมกับมีลูกสาวตัวน้อยสุดแสนจะน่ารักของเธอนั่งด้านข้าง
“หล่อมาเลยนะคะพี่ใหญ่ แบบนี้สาวๆคนติดตรึมแล้วแหละ” ปณิตาแซวพี่ชายออกไปแบบขำๆ เพราะเห็นน้าเธอบอกว่าพี่ชายของเธอกำลังถูกแปลงโฉมอยู่
“ไม่ต้องเลย เรานี่มันร้ายนะยัยเล็ก ช่วยพ่อโกหกพี่แบบนี้ได้ยังไงหึ” ชาลิตพูดไปแล้วก็เดินไปขยี้ผมน้องสาวแบบเอาคืนอย่างขำๆ
“อื้อ พี่ใหญ่ปล่อยเล็กเลยนะ คุณพ่อคะ น้ามล พี่รอง ช่วยเล็กด้วยค่ะ” ปณิตาพูดร้องขอออกไปทันที เมื่อถูกพี่ชายแกล้ง
“เราโกหกพี่ใหญ่เองช่วยไม่ได้ยัยเล็ก ฮ่าๆ เอาเลยพี่ใหญ่” ภาสวรพูดไปแบบขำๆ แล้วมองดูสองพี่น้องแกล้งกันอย่างน่ารัก
“พอแล้วตาใหญ่ จะแกล้งน้องอะไรหนักหนาล่ะ มาๆมานั่งทานข้าวเร็ว น้าแกกับหนูโยเขาทำอาหารอร่อยๆมาทั้งนั้น” อนุวัตรเอ่ยพูดบอกไปแบบห้ามปราม โตจนป่านี้แล้วยังแกล้งกันเป็นเด็กๆไปได้
“สบายดีนะคะพี่ใหญ่” โยธกาเอ่ยทักทายไปแบบเป็นกันเองแล้วก็ยิ้ม จนชาลิตชะงักไปแล้วก็ยิ้มตอบกลับมา
“พี่ก็เรื่อยๆแหละ ดีบ้างไม่ดีบ้าง ไหนดูดูสิว่าวันนี้มีอะไรทานบ้าง ขอโปรดผมทั้งนั้นเลย” ชาลิตตอบโยธกาไปแล้วก็หันไปสนใจอาหาร แล้วก็นั่งลงตรงข้ามกับน้าของเขา จนโยธกายิ้มอ่อนๆออกมาแบบเข้าใจที่เขาไม่ค่อยอยากจะคุยกับเธอต่อหน้าทุกคน
“ก็แน่น่ะสิน้าแกน่ะ พอรู้ว่าแกจะมาก็จัดมาซะชุดใหญ่เลย เอาๆ ทานข้าวกันเถอะ” อนุวัตรพูดบอกไปแล้วก็ยิ้ม จากนั้นทุกคนก็นั่งทานข้าวกับแบบเอร็ดอร่อย
“เออเจ้าใหญ่ แกก็อายุเยอะแล้ว พ่อว่าแกควรจะแต่งงานได้แล้วนะ หรือถ้าแกยังไม่เจอคนที่ถูกใจพ่อจะหาให้เอาไหม ฉันอยากอุ้มหลานจากแกบ้าง” อนุวัตรพูดบอกไป แล้วคิดไปถึงเรื่องของลูกสาวอภิรดีที่เขาไปขอมาทำเมีย ถ้าลูกชายเขาตกลงให้เขาหาให้ล่ะก็ เขาจะยอมยกให้เลย
“ไม่ต้อง ผมอยากอยู่คนเดียว พ่ออยากแต่งก็แต่งเองสิ ถ้าอยากอุ้มหลานก็หนูแยมนี่ไง พ่อก็อุ้มไปสิ ไม่ต้องรอจากผมหรอก เพราะผมจะไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น” ชาลิตตอบมาแบบกวนๆ จนอนุวัตรมองแล้วยิ้มใส่ลูกชายแบบยอมใจ
โยธกาได้ยินแบบนั้นก็แอบรู้สึกผิดที่เลอกกับเขามาคบกับน้องชายของเขาแทน แต่มันก็ผ่านมานานแล้ว เธอไม่คิดว่าเขาจะฝังใจจนไม่คบกับใครแบบนี้ ภาสวรที่เห็นภรรยาทำหน้ากังวลก็จับมือของโยธกาไว้แล้วหันมายิ้มให้กันและกัน
“เออ ไม่เอาก็ไม่เอาสิวะ ฉันอุ้มหลานจากเจ้ารองมันก็ได้ ตอนนี้มันกำลังจะมีคนที่สองแล้วนะเจ้าใหญ่ แกรู้ไหม เตรียมของรับขวัญหลานไว้ได้เลย” อนุวัตรพูดตอกย้ำลูกชายไปแบบรู้ว่า ที่ลูกชายไม่ยอมเปิดใจให้ใครก็เพราะว่ายังรักโยธกาอยู่
“ดีใจด้วยนะ แล้วกี่เดือนแล้วล่ะ” ชาลิตพูดบอกไปแล้วยิ้ม ทั้งที่ในใจของเขามันชาไปหมดแล้ว
“ตอนนี้สามเดือนกว่าแล้วครับพี่ใหญ่ เดือนหน้าก็คงจะรู้เพศแล้วล่ะ ผมกับโยอยากได้อยู่ชาย โตไปจะได้ดูแลพี่สาวได้ ผมอยากให้พวกเขารักและดูแลกันแบบพวกเราสามคน” ภาสวรพูดบอกไปแบบมีความสุข ที่เขากำลังจะมีพยานรักคนที่สองแล้ว
“พี่เชื่อว่าแกสอนลูกแกได้รอง ขอให้แกได้ลูกชายละกัน” ชาลิตบอกไปก็ยิ้ม แล้วมองโยธกากับน้องชายสลับกัน พร้อมกับเห็นทั้งสองจับมือกุมกันไม่ปล่อยเลย จนเขามองแล้วก็แอบอิจฉาในใจ
จากนั้นทุกคนก็พูดคุยกันต่อแบบสนุกสนาน ชาลิตก็พยายามเก็บความช้ำใจเอาไว้จนกระทั่งทานอาหารเสร็จ ทุกคนก็แยกย้ายกลับ เขาก็มองน้องชายอุ้มลูกสาวแล้วเดินจับมือกับโยธกากลับบ้านไปด้วยสายตาล่ะห้อย
“พี่ใหญ่คะ เรื่องพี่กับพี่โยมันนานมาแล้วนะคะ เล็กว่าพี่ใหญ่ลองเปิดใจคบกับคนอื่นดูดีไหมคะ” ปณิตาเดินมาด้านหลังแล้วเอ่ยพูดออกไป
“อะไรยัยเล็ก พี่ไม่ได้คิดอะไรกับโยเขาแล้ว ตอนนี้โดยเขาเป็นน้องสะใภ้พี่นะ พี่จะคิดแบบนั้นได้ยังไง เฮ้อ เรานี่ชอบโมเมไปเอง พี่ไปดีกว่า วันนี้มีนัดกับเพื่อน” ชาลิตพูดกลบเกลื่อนไปแล้วก็เดินหนีน้องสาวออกไปทันที จนปณิตามองแล้วส่ายหัว
“พูดอย่างใจอย่างจริงๆพี่ใหญ่ เล็กรู้ว่าพี่ใหญ่ยังลืมพี่โยไม่ได้” ปณิตาพูดออกมาแล้วมองตามพี่ชายของตัวเองไปแบบกังวล แล้วได้แต่หวังในใจว่าพี่ชายของเธอจะไม่อยู่แบบโสดๆแบบนี้ต่อไป
“ใจเย็นจ้ะคุณนายมันยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่าพึ่งอารมณ์เสียเลยจ้ะ ใจเย็นๆจ้ะ” ชบาพูดบอกไปก็ยิ้มแห้งๆบอกไป แล้วก็คิดในใจว่าคุณนายนี่ก็ขี้หึงนายหัวเหมือนกันนะเนี่ย แบบนี้ค่อยเป็นมวยถูกคู่หน่อย ถ้าได้เจอยัยลูกค้ารังนกนั่น ยัยนั่นคงจะเงิบหน้าดูถ้าได้รู้ว่าตอนนี้นายหัวของเธอแต่งงานมีเมียไปแล้ว ชบาคิดในใจ“ฉันไม่ยอมเสียเขาให้ใครหรอกชบา เธอคอยดูเถอะ” ลลิสาพูดเสียงเข้มออกไปแบบมาดมั่น“ดีจ้ะคุณนาย ร้อยแปดกระบวนท่ามีเท่าไหร่เอาออกมาใช้ให้หมดเลยจ้า เอาให้นายหัวรักนายหัวหลงเลยนะจ้ะ” ชบาพูดแล้วก็ยิ้มแบบชอบใจ เพราะเธออยากให้คุณนายคนนี้อยู่กับนายหัวของเธอไปนานๆ เพราะลลิสานั้นดีมากจริงๆจนเธอ“งั้นเธอกลับบ้านไปก่อนชบา ฉันขอทำหน้าที่เมียหน่อยละกัน พูดมาขนาดนี้ละ ฮ่าๆ บอกไข่นุ้ยนะว่าวันนี้นายหัวจะไปทำงานตอนบ่าย ตอนเช้านายหัวติดธุระยาว” ลิสาพูดบอกไปแบบไม่อาย เพราะมันไม่มีอะไรให้อายมาตั้งแต่ที่ชาลิตเอากับเธอทุกเช้าตอนสองแม่ลูกคู่นี้มาทำงานบ้านแล้ว“ได้จ้ะคุณนาย เต็มที่นะจ้ะฮ่าๆ” ชบาพูดแล้วก็เดินออไปแบบขำๆ ก่อนจะปิดประตูบ้านให้ทั้งสองด้านลลิสาพอชบาออกไปแล้วเธอก็เดินออกไปเปิดประตูระเบียงบ้าน แล้วก็มองชาลิตกำลังโ
“ผมไม่เคยมีอะไรกับหลานสาวของคุณนะคุณอร จะฟันแล้วทิ้งได้ยังไงล่ะ แต่คนที่ฟันหลานสาวคุณน่ะคือลูกชายของผมเอง พวกเขาแอบได้เสียกันโดยที่คิดว่าคนอื่นไม่รู้ ผมก็เลยลองส่งให้หนูน้ำผึ้งไปอยู่กับลูกชายของผมที่เกาะดู ว่าพวกเขาจะไปกันได้ไหม แล้วก็ดูเหมือนว่าหลานสาวของคุณจะทำได้ดีทีเดียว” อนุวัตรพูดบอกไป จนอภิรดีอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน หลานสาวของเธอเนี่ยนะจะกล้ามีอะไรกับลูกชายของเขา“มันเกิดอะไรขึ้น บอกฉันได้ไหมคุณอนุวัตร ฉันงงไปหมดแล้ว” อภิรดีถามออกไปอย่างงๆ ไหนบอกให้หลานสาวเธอไปอยู่เกาะเพื่อแก้เคล็ดไง แล้วทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้“หึ ได้ ฟังแล้วอย่าตกใจก็แล้วกันคุณอร” อนุวัตรพูดเล่าเรื่องของชาลิตและลลิสาตั้งแต่ตั้นให้อภิรดีรับรู้ว่าทั้งสองทำอะไรไว้บ้าง แบบระเอียดยิบเพื่อจะได้ไม่ต้องมาแคลงใจกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายในอนาคต เนื่องจากเขาก็เคยจดทะเบียนกับลลิสามาแล้ว เขาจึงต้องเคลียยร์และเล่าทุกอย่างให้อภิรดีฟัง“คุณเล่นเกมอะไรของคุณคุณอนุวัตร หลานฉันไม่ใช่ผักใช่ปลานะที่จะแต่งกับคนนั้นทีคนนี้ทีน่ะ” อภิรดีพูดบอกไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก“ใจเย็นๆก่อนสิคุณอร ผมก็ไม่ได้จะให้ลูกชายผมเขาทิ้งหลานสาวคุณ อ่ะ น
ชาลิตจึงถอนปากออกมาแล้วใช้นิ้วบี้คลึงร่องสาวของเธอไปด้วยแบบเมามันส์ จนลลิสาหย่อนหน้าลงมาแบบทรมานจนหน้าของเขาเลอะไปด้วยน้ำหวานของเธอ“อ้ะ เลียอีกค่ะ เลียแรงๆ สอดลิ้นเข้ามาลึกๆ อ่าส์ ซี๊ด น้ำผึ้งขอสองนิ้วได้ไหมคะ นิ้วเดียวมันไม่มันส์ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ ขอสองนิ้วนะคะ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งเสียว ซี๊ด” ลลิสาร้องไปแล้วก็ร้องของให้ชาลิตสอดนิ้วเข้ามาสองนิ้ว เพราแค่นิ้วเดียวสำหรับเธอตอนนี้มันไม่สนุกแล้ว“จิ๋มขยายแล้วสิ โดนเล็กเข้าหน่อยทำเป็นขอสองเลยนะ เดี๋ยวจะให้เก้านิ้วเลยเมียจ๋า ไม่ต้องขอแค่สองนิ้วหรอก” ชาลิตพูดแล้วก็ยิ้มขำๆออกไป จึงสอดนิ้วเพิ่มให้เธอเป็นสองนิ้วรัวๆ จนลลิสาร้องออกมาแบบพอใจ“ดีค่ะ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งไม่ไหวแล้ว อย่าหยุดนะคะ อย่า อ้ะ อ้ะ” ลลิสาร้องไปจนกระทั่งเธอเกร็งกระตุกออกมา แล้วก็พ่นน้ำรักใส่หน้าของชาลิตแบบสุขสม จนหน้าของชาลิตเปียกไปหมดเพราะน้ำรักของเธอ“น้ำแตกขนาดนี้เลยเหรอคุณ อ่าส์ เยอะชะมัดเลย” ชาลิตบอกไปแล้วก็เอามือลูบหน้าที่เปียกน้ำรักของลลิสาไป ก่อนจะมาจับลลิสานอนลงไปบนโต๊ะทำงานของเขา“อ่าส์ คุณใหญ่ ฉันอยากโดนเก้านิ้วแล้วอ่ะ รีบๆใส่เข้ามาสิคะ” ลลิสาบอกไปแล้วก็อ้าขาร
“ใช่ ผมกับโยเราเคยคบกันมาก่อน ผมคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ผมเลือกจะมาเป็นคู่ชีวิต ผมตัดสินใจจะขอเขาแต่งงานในวันครบรอบสามปีที่คบกัน แต่เพราะความเจ้าชู้ของผมเองแหละที่ไม่รู้จักพอ นอนกับผู้หญฺงไปทั่ว โยเขาก็เลยทนไม่ไหว ขอเลิกกับผม” ชาลิตพูดออกไปแล้วก็มองหน้าลลิสาแบบจริงจัง“แล้วไปแต่งงานกับคุณกลาง ลูกพี่ลูกน้องของคุณเนี่ยนะ” ลลิสาถามแบบอึ้งๆ เพราะถ้าเป็นเธอก็คงจะจุกอ่ะ ที่อยู่ๆ แฟนตัวเองกลายเป็นเมียของน้องชายแบบนั้น แถมยังต้องเจอหน้ากันทุกวัน ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะรับไม่ได้แล้วหนีมาอยู่เกาะอย่างนี้“อืม กลางมันคอยดูแลรับฟังโยเขามาตลอด พอสองคนนั้นตกลงที่จะแต่งงานกัน ผมที่ยังลืมโยเขาไม่ได้ก็เลยมาอยู่เกาะอย่างนี้แหละ นานๆจะกลับไปกรุงเทพ แต่มันก็ผ่านมาหกปีแล้วนะ ตอนนี้ผมเฉยๆแล้วล่ะ ผมมีเมียแล้วจะคิดถึงผู้หญิงคนอื่นได้ยังไงล่ะ คุณนั่นแหละโอเคไหมกับเรื่องนี้ ” ชาลิตพูดบอกไปตามตรง เพราะตอนนี้เขาคิดว่าในใจของเขาเกี่ยวกับโยธกามันเริ่มจืดจางลงไปทุกที แต่มันกับ “ฉันโอเคสิคุณ แต่คุณน่ะเฉยๆแน่เหรอ ฉันยังเห็นคุณเก็บรูปเขาไว้อยู่เลย แต่ถ้าคุณลืมเขาไม่ได้ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ยังไงมันก็เป็นแค่อดีตของคุณ” ล
“คิดมากไปละน้ำผึ้ง นั่นมันอดีตของเขาไหมล่ะ น้ำผึ้งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้องชายเขาไม่ใช่เหรอ จะเอามาใส่ใจทำไม แล้วใครบอกว่าน้ำผึ้งไม่สวย น้ำผึ้งเองก็สวยมากไม่รู้ตัวเลยหรือไงล่ะ ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ต้องชอบทั้งทั้งนั้นแหละ อย่าดูถูกตัวเองอย่างนั้นเลย แล้วอย่างไอ้คุณใหญ่อะไรนี่ มันจับน้ำผึ้งไปทำเมียขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องมีชอบบ้างแหละ ไม่งั้นมันไม่กล้างัดข้อกับพ่อเอาน้ำผึ้งไปเป็นเมียหรอก” ภูวนาทพูดบอกไปแบบอดไม่ได้ เพราะเขาเองก็เป็นผู้ชาย เขาคิดว่าอย่างชาลิตอะไรนี่ต้องชอบเพื่อนของเขาแน่ๆ ไม่งั้นคนดีๆที่ไหนจะมาเอาแม่เลี้ยงตัวเองไปทำเมียกันล่ะ“เออจริง แกฉลาดมาทุกเรื่องนะน้ำผึ้ง แกจะมาโง่เรื่องนี้ไมได้ คิดจ้ะเพื่อนคิดดีๆ แกจะยอมถอยให้ผู้หญิงที่เขามีผัวไปแล้วทำไมห้ะ ตอนนี้แกเป็นเมียคุณใหญ่แล้วนะ แกควรจะไปต่อกับเขา ไม่ใช่มาคิดท้อใจอย่างนี้ แล้วแกก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้นหรอก อดีตก็คืออดีตเขาคงไม่กลับไปเอาเมียของน้องชายหรอกแก” มัทนาพูดบอกไปแบบให้เพื่อนสาวได้สติ“ก็จริงอ่ะแก ฉันคงจะคิดมากไป หรือว่าฉันจะเริ่มชอบเขาแล้วอ่ะ” ลลิสาพูดบอกไปแบบเริ่มรู้ใจตัวเองว่าเริ่มจะชอบชาลิตแล้ว เพราะเธอมีอาการหึ
ผ่านไปสองอาทิตย์ชาลิตและลลิสาก็ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันอยู่ภายในเกาะรายา ทั้งสองก็พยายามปรับตัวเข้าหากันได้แบบสนิทสนมมากกว่าเดิม แถมลลิสายังเข้ามาช่วยงานชาลิตแบบเต็มตัวเพราะเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ เธอจึงไปช่วยชาวบ้านออกแบบร้านขายของตามชายหาดภายในเกาะ รวมไปถึงที่พักแบบโอมเตย์ของชาวบ้านอีกด้วย จนชาวบ้านที่นี่ชื่นชมและชอบลลิสามาก รวมไปถึงชาลิตด้วยที่ได้เห็นลลิสาในอีกด้านหนึ่งของเธอ“คุณใหญ่ฉันทำแพลนร้านค้าของชาวบ้านเสร็จแล้ว คุณจะดูเลยไหมคะ” ลลิสาถามออกไป เพราะเห็นว่าเขากำลังทำหน้าเครียดอยู่กับผู้รับเหมา ไข่นุ้ยและลุงมิ่งพ่อของชบาอยู่“เอาไปไว้ในห้องทำงานของผมก็ได้ เสร็จธุระตรงนี้แล้วผมจะไปดู อ่อ เดี๋ยวผมวานคุณหยิบเอกสารส่งของซองสีเหลืองในลิ้นชักฝั่งขวามือให้ผมด้วยนะ” ชาลิตเอ่ยบอกไปก็หันมาคุยงานต่อ เพราะตอนนี้มันก็ใกล้เวลาที่รีสอร์ทจะเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่ตกแต่งเท่านั้น“ค่ะ เดี๋ยวน้ำผึ้งเอามาให้นะคะ” ลลิสาพูดบอกไปก็เดินไปที่ห้องทำงานของเขาที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งมันจะมีวิวทะเลให้ดูแบบสบายตาพอถึงห้องทำงานของชาลิตแล้วเธอก็เอางานของเธอไปวางบนโต๊ะของเขา ก่อนจะหาซองสีเหลืองที่เขาบอกทั