LOGINอรนิชาถูกหลอกให้มาเป็นเมียขัดดอกให้เจ้าของกาสิโนอย่างมาร์ค หลังจากที่ได้อยู่กินกันฉันท์สามีภรรยาทำให้ทั้งคู่เกิดตกหลุมรักซึ่งกันและกัน แต่ความรักครั้งนี้มันไม่ง่ายเลยเพราะมีอุปสรรคมากมายมาขวางกั้น สองหนุ่มสาวจึงต้องจับมือกันฟันฝ่าอุปสรรคต่างๆไปให้ได้
View More" นายครับ คุณชัชพลให้เรียนว่าพาผู้หญิงมาขัดดอกครับ "
มาร์คนั่งฟังรายงานจากลูกน้องคนสนิทด้วยแววตาที่เต็มไปด้วยความโกรธ สีหน้าของเขาตอนนี้บ่งบอกว่าไม่สบอารมณ์อย่างแรง ครั้งนี้นับเป็นครั้งที่หกแล้วที่เขาเก็บดอกเบี้ยจากลูกหนี้คนนี้ไม่ได้ โดยทั่วไปถ้าเป็นลูกหนี้รายอื่นๆ ป่านนี้เขาคงจัดการยึดทรัพย์สินและของมีค่ามาแทนแล้ว แต่กับชัชพลหรือที่คนในกาสิโนเรียกกันติดปากว่า คุณแชมป์ มาร์คไม่สามารถทำเช่นนั้นได้ เพราะติดตรงที่ชัชพลเป็นลูกพี่ลูกน้องกับเพื่อนรุ่นพี่ที่มาร์คเคารพนับถือ เขาเลยเป็นข้อยกเว้นไม่ว่าจะกรณีใดๆ " ให้เข้ามา " มาร์คตอบกลับเสียงเรียบพยายามเก็บซ่อนโทสะที่พร้อมจะปะทุออกมาเอาไว้ในใจ แล้วทำทุกอย่างให้เป็นปกติที่สุด " ไม่เจอกันนานเลยนะครับคุณแชมป์ " มาร์คทักทายอีกคนตามมารยาท ถึงแม้ตอนนี้เขาจะอยากสั่งสอนหมอนั่นด้วยลูกตะกั่วที่อยู่ในปืนพกข้างเอวก็ตาม " คุณมาร์คคงจะทราบแล้ว ว่าผมพาภรรยามาขัดดอก " นอกจากไม่มีทีท่าว่าจะสำนึกผิดที่ไม่มีเงินมาจ่ายหนี้ ชัชพลยังดูไม่เดือดเนื้อร้อนใจอะไรเอ่ยจุดประสงค์ชั่วช้าของตัวเองออกมาอย่างหน้าตาเฉย ตอนนี้มาร์คถึงกับต้องข่มใจนับหนึ่งให้มันถึงสิบ เพราะอีกคนดูเหมือนจะเลวจนกู่ไม่กลับแล้ว ขนาดเมียตัวเองยังกล้าเอามาขัดดอก " หึ ผู้หญิงจะมีราคากี่บาทกันคุณแชมป์ " มาร์คไม่เพียงแต่ยิ้มเยาะ เขายังตอกหน้าชัชพลกลับไปด้วยความจริง เพื่อให้อีกคนรู้ว่าเงินที่เขาเป็นหนี้อยู่มันมากกว่าราคาของที่จะเอามาขัดดอก " แต่ผู้หญิงคนนี้ยังบริสุทธิ์อยู่นะครับ ถึงผมจะคบกับเธอมาสองปีแล้ว แต่ผมไม่เคยล่วงเกินเธอเลยแม้แต่ครั้งเดียว " ชัชพลรีบเอาเรื่องความบริสุทธิ์ของอรนิชาภรรยาหมาดๆ มาเป็นเครื่องต่อรอง เพราะใครๆในกาสิโนนี้รู้ดีว่ามาร์คเป็นพวกมีรสนิยมชอบสาวพรหมจรรย์ ซึ่งมันก็เป็นจริงดังคาดนอกจากเขาจะไม่ปฏิเสธอะไรแล้ว มาร์คยังดูพอใจในข้อเสนออยู่ไม่น้อย " แล้วถ้าคุณโกหกล่ะ " มาร์คเลิกคิ้วถามอีกคนเป็นการบอกกลายๆ ว่าถ้าชัชพลเล่นไม่ซื่อเรื่องนี้คงจะจบไม่สวยแน่ " ผมรับประกันด้วยชีวิต ว่าเธอยังบริสุทธิ์อยู่แน่นอน " ชัชพลย้ำด้วยน้ำเสียงหนักแน่น คบกันมาสองปีไม่เคยทำอะไรกันนอกจากกอดและหอมแก้มกันแบบธรรมดา ถึงแม้จะเสียดายความสาวของอรนิชาเพราะเขายังไม่เคยได้ลิ้มลอง แต่ถ้าเทียบกับการจ่ายเธอแทนดอกเบี้ยจำนวนมาก มันก็คุ้มอยู่เห็นๆ " ถ้าอย่างนั้นคุณกลับไปรอที่ห้องรับรองก่อน ผมต้องตรวจสอบคนของคุณจนแน่ใจว่าเธอบริสุทธิ์จริง " มาร์คไม่ใช่คนไม่รอบคอบ เขาไม่มีวันเชื่อคำพูดใคร ถ้าไม่ได้พิสูจน์ข้อเท็จจริงด้วยตัวเอง " เออ แล้วมีอีกเรื่องเดือนหน้าผมหวังเป็นอย่างยิ่งว่าจะได้เงินดอกครบตามจำนวนนะ คุณแชมป์ " มาร์คจงใจเน้นเสียงที่ชื่อของอีกฝ่าย เพราะเขาเบื่อที่จะต้องมานั่งทวงหนี้ด้วยวิธีประณีประนอมแบบนี้ ถ้าเป็นรายอื่นๆเขาคงจัดการเรียบร้อยไปแล้วไม่ปล่อยให้มาลอยหน้าลอยตาแบบนี้ได้หรอก " ครับ " ชัชพลรีบพยักหน้าตอบรับถึงแม้ไม่รู้ว่าเดือนหน้าจะมีเงินมาจ่ายหนี้ไหม เขาต้องทำทีเป็นยินยอมไปก่อน เพราะถ้าขัดขืนมีหวังต้องกลายเป็นผีเฝ้ากาสิโนแน่ๆ " ดิว ไปพาผู้หญิงมาหาฉันเดี๋ยวนี้ " นานแค่ไหนแล้วที่เขาไม่ได้ลิ้มรสสาวบริสุทธิ์ เพราะคู่ขาเขาแต่ละคน มีแต่พวกช่ำชองสนามรบแล้วทั้งนั้น อย่างน้อยวันนี้เขาก็จะได้ปลดปล่อยหลังจากเจอแต่เรื่องที่ทำให้หัวเสียมาทั้งวัน มาร์คเตรียมความพร้อมด้วยการอาบน้ำชำระล้างร่างกายให้สะอาด แล้วมานั่งจิบไวน์ในห้องรอเวลาไปพลางๆ ห้องนอนนี้เขาต่อเติมเอาไว้ให้อยู่ภายในห้องทำงาน เขาใช้ที่นี่เป็นที่พักผ่อนแทนที่จะไปนอนโรงแรมในกาสิโน รวมทั้งทำกิจกรรมอย่างว่าด้วย ทางฝั่งของอรนิชา หญิงสาวผู้เคราะห์ร้าย หารู้ไม่ว่าตอนนี้ตัวเองมีสถานะเป็นของขัดดอก ที่ชัชพลสามีในทะเบียนสมรสของเธอ เอามาเป็นข้อแลกเปลี่ยนในการจ่ายหนี้ เธอนั่งชื่นชมใบทะเบียนสมรส ของเธอกับชัชพลด้วยแววตาเป็นประกาย อรนิชายิ้มออกมาอย่างมีความสุข แถมในใจยังยกให้ชัชพลเป็นพระเอกในชีวิตจริงที่เธอเฝ้าตามหา เพราะนอกจากเขาจะให้เกียรติเธอด้วยการไม่ล่วงเกินเธอแล้ว เขายังชวนเธอมาจดทะเบียนสมรสให้ถูกต้องตามกฎหมาย แถมยังรับปากกับเธออีกว่าพอกลับไปกรุงเทพฯ เขาจะรีบจัดงานแต่งงานให้เร็วที่สุด ก๊อก ก๊อก ก๊อก ! เสียงเคาะประตูดังขึ้น อรนิชารีบเดินไปส่องที่ตาแมว เห็นผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเธอจำได้ว่าเคยเจอเขาแล้วพร้อมกับชัชพล ลังเลอยู่สักพักเธอจึงเปิดประตูออกไปแล้วเอ่ยถามขึ้นก่อน " มาหาฉันหรอคะ " " คุณอรนิชา ทรัพย์มั่งมี ใช่ไหมครับ " ดิว เอ่ยชื่อจริงและนามสกุลจริงของหญิงสาวออกมาทำให้อรนิชาแปลกใจเล็กน้อยว่าทำไมจู่ๆ ชายคนนี้ถึงรู้จักชื่อจริงนามสกุลจริงของเธอได้ " ใช่ค่ะ " " กรุณามากับผมด้วยครับ " " ไปไหนคะ " " คุณชัชพล แฟนของคุณให้ผมมารับคุณไปพบเขาครับ " พอดิวอ้างชื่อของชัชพล ดูเหมือนว่าอรนิชาจะหมดข้อสงสัยไปในทันที " งั้นฉันขอไปหยิบกระเป๋า ก่อนนะคะ " อรนิชาเก็บของสำคัญใส่กระเป๋าแล้วเดินตามดิวไปอย่างว่าง่าย โดยที่เธอเองก็ไม่ได้ถามสักคำว่าเขาจะพาเธอไปที่ไหน จนกระทั่งดิวเดินมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องๆหนึ่ง แล้วหันมาบอกกับอรนิชาให้เข้าไปนั่งรออยู่ด้านใน ทีแรกอรนิชาก็มีท่าทีกล้าๆกลัวๆ แต่ก็ยอมเดินเข้าไปด้านในห้องแต่โดยดี " คุณอรนิชา รออยู่ที่นี่ก่อนนะครับ " ดิวหันมาสั่งทิ้งท้ายก่อนที่ตัวเขาเองจะเดินไปที่ประตูของอีกห้องที่อยู่ด้านในถัดเข้าไป " นายครับ คุณอรนิชามาแล้วครับ " " ให้เข้ามาได้ " มีเสียงผู้ชายเล็ดลอดออกมาจากห้องปริศนาห้องนั้น อรนิชาหันรีหันขวางเพราะเริ่มรู้สึกว่าที่นี่ไม่ปลอดภัยเสียแล้ว ทำท่าจะลุกเดินหนีแต่ถูกดิวร้องทักไว้ก่อน " จะไปไหนครับ เชิญเข้าไปรอในนั้นจะดีกว่า " ดิวไม่เพียงแต่พูดปากเปล่า เขาเปิดชายเสื้อขึ้นโชว์ปืนพกที่อยู่ข้างเอว เป็นการข่มขู่ให้อรนิชาทำตามคำสั่ง " ปัง " เสียงประตูปิดลงด้วยสัญชาตญาณอรนิชารีบหมุนลูกบิดดูว่าสามารถเปิดประตูได้หรือไม่แต่ปรากฏว่าประตูมันถูกล็อกจากด้านนอกไปแล้ว " มาแล้วหรอ " " เธอชื่ออะไรนะ อรนิชาใช่ไหม " อรนิชาสะดุ้งตกใจ หันไปมองที่มาของเสียงเห็นผู้ชายคนหนึ่งนุ่งผ้าเช็ดตัวแค่ผืนเดียว แต่ดันไปสะดุดกับเบ้าหน้าฟ้าประทานของเขาเข้าอย่างจัง ' โอ้แม่เจ้า คนอะไรโคตรหล่อเลย หล่อเหมือนไม่มีอยู่จริง เหมือนพระเอกหลุดออกจากในละคร หุ่นก็แซ่บเกิน กล้ามท้องเป็นมัดๆ เชียว ' ทางด้านมาร์คเหลือบสายตาสำรวจรูปร่างหน้าตาของคนที่ยืนตรงหน้าเหมือนกัน ' ปากนิด จมูกหน่อย ถึงไม่สวยจนผู้ชายต้องมองแบบเหลียวหลัง แต่โดยรวมแล้วถือว่าโอเคใช้ได้ ' ' แต่การแต่งตัวนี่สิไม่ไหว ใส่ชุดเหมือนเด็กมัธยมปลาย ' ' เขาไม่ชอบแบบน่ารักใสๆ เขาชอบให้เปิดตรงนั้นนิด เว้าตรงนี้หน่อยแบบเซ็กซี่ น่าค้นหามากกว่า ' เมื่อเห็นว่าอีกฝ่ายจ้องเธอเหมือนมีเลศนัย อรนิชาเลยรีบเอ่ยบทสนทนาขึ้นมาแทนเพราะรู้สึกอึดอัดกับสายตาที่ไม่น่าไว้วางใจแบบนี้ " คุณเป็นใครคะ ทำไมฉันถึงต้องมาพบคุณ " " แล้วแฟนฉันอยู่ไหน " " นี่ไอ้แชมป์มันไม่ได้บอกเธอเลยเหรอ ว่าจะพามาขัดดอก " " ขะ ขัดดอก!!! " อรนิชาอุทานด้วยความตกใจ นี่มันเกิดเรื่องบ้าอะไรขึ้นกับเธอเนี่ย ขัดดอกบ้าบออะไรกันยุคสมัยนี้ยังมีเรื่องแบบนี้อยู่อีกเหรอ แล้วชัชพลไปไหนทำไมถึงปล่อยเธอไว้ที่นี่คนเดียว คำถามร้อยแปดผุดขึ้นมาในหัว ความหวั่นไหวปรากฏออกมาทางแววตาอย่างชัดเจนหนึ่งปีผ่านไปอรนิชาและมาร์คเลือกจัดงานแต่งงานที่ไร่ เพราะหลงเสน่ห์อากาศที่บริสุทธิ์และบรรยากาศที่เต็มไปด้วยพืชผักและผลไม้ ทั้งคู่เชิญแต่เพื่อนสนิทมาร่วมงาน และมีญาติผู้ใหญ่ของพ่อกับแม่มาร์คอีกสี่ห้าคน แขกที่มาร่วมงานส่วนใหญ่ก็จะเป็นคนงานในไร่และเพื่อนบ้านไร่ติดกันเสียมากกว่าดวงดาวอุ้มลูกสาววัยสามเดือนเศษมาร่วมรดน้ำสังข์อวยพรให้บ่าวสาว และถือโอกาสขอโทษอรนิชากับมาร์คอย่างเป็นทางการด้วย เพราะที่ผ่านมาเธอไปอาศัยอยู่ที่บ้านสามีในตัวเมืองไม่เคยได้กลับมาที่ไร่เลยทำให้ไม่มีโอกาสได้พูดคุยกับทั้งสอง" ขอให้มีความสุขรักกันไปจนแก่เฒ่านะ แล้วฉันก็ขอโทษด้วยสำหรับทุกอย่างที่ทำลงไป " อรนิชามองหน้าดวงดาวน้ำตาคอ ดวงดาวถือว่าเป็นพี่น้องคนเดียวที่อรนิชามี วันนี้ดวงดาวเปลี่ยนไปแทบจะเป็นคนละคนจากเมื่อก่อน ทั้งการพูดจาและการวางตัวดูสำรวมมากขึ้น แถมยังดูเป็นคนใจเย็นขึ้นอีกด้วย" ออมไม่เคยถือโทษโกรธพี่ดาวเลยจ้ะ พี่ดาวเป็นพี่คนเดียวที่ออมมี ออมยังรักและเคารพพี่ดาวเหมือนเดิม " ดวงดาวก็น้ำตาคลอเช่นกัน ซึ้งใจกับความรักที่อรนิชามีให้เธอตั้งแต่เล็กจนโต ยิ่งรู้สึกผิดที่เคยคิดทำลายครอบครัวของน้อง" ฉันขอโทษนะคุณม
อรนิชาจงใจพูดว่าตัวเองควบคุมการเงินของมาร์ค เพื่อให้เดียน่าเข้าใจว่าตอนนี้ใครกันแน่ที่มีอำนาจเหนือกว่าเดียน่าได้แต่อิจฉาตาร้อนอยู่ในอก ไม่คิดว่าไก่อ่อนอย่างอรนิชาจะตอบโต้เธอได้นิ่มนวลแต่เจ็บแสบแบบนี้ เห็นทีว่าไม้เด็ดที่เตรียมไว้ต้องรีบงัดออกมาใช้เสียแล้ว ขืนชักช้าอาจจะไม่ทันกาลได้เดียน่าแสร้งชวนมาร์คดื่มไวน์เพื่อฉลองวันเกิด เธอรินไวน์ให้มาร์คไม่หยุด แถมยังชวนคุยแต่เรื่องความหลัง จนอรนิชาทนนั่งฟังไม่ไหวเลยขอตัวไปอาบน้ำเข้านอนเสียก่อน รอเวลาจนสี่ทุ่มก็ไม่มีวี่แววว่าสามีจะกลับเข้าห้องมาเลย ไม่รู้ว่ารำลึกความหลังกันไปถึงไหน อรนิชาตัดสินใจเดินลงไปแอบดูว่าทั้งสองคนทำอะไรกันบ้างมาร์คดื่มไปเยอะก็จริงแต่เขายังคงมีสติรู้ตัวอยู่ตลอดเวลา " สี่ทุ่มแล้ว ไปเถอะเราจะไปส่งที่โรงแรม " " เดียน่าค้างที่นี่ไม่ได้เหรอคะ บ้านมาร์คไม่มีห้องว่างเลยเหรอ " เดียน่าเริ่มปฏิบัติการยั่วยวนมาร์ค เธอลูบไล้แผงอกของมาร์ค ปากก็ซุกไซร้ซอกคอของเขาไม่หยุด มาร์คพยายามปัดมือเธอออกแต่ก็ไม่ทันความไวที่เดียน่ามี สุดท้ายเธอจงใจใช้มือเข้าเกาะกุมพร้อมนวดวนเจ้ามังกรที่นอนหลับอยู่ภายใต้กางเกงทำงาน จนมันเกิดอาการตื่นตัวขึ้นมา พ
มาร์คและอรนิชาเลือกใช้ชีวิตอยู่ที่ไร่เป็นหลัก แต่จะกลับมาอยู่กรุงเทพฯเดือนละสองครั้ง โดยเอาวันที่อรนิชาต้องเข้าบริษัทเป็นที่ตั้ง " คุณดูนี่สิคะ คุณแม่ส่งรูปตอนขึ้นฝั่งที่อิตาลีมาให้ดู " อรนิชายื่นโทรศัพท์มือถือให้สามีดู" มีความสุขกันจริง คนที่ไม่ต้องทำงานเนี่ย " มาร์คไม่วายแซะแม่กับพ่อตัวเอง แต่ดูจากรูปที่ถ่ายพ่อกับแม่คงมีความสุขมาก สีหน้าไม่เคร่งเครียดเหมือนตอนที่ยังทำธุรกิจอยู่" นายครับวันนี้นายจะเข้าโรงแรมไหมครับ " ดิวได้กลับมารับใช้มาร์คตามเดิมและได้ย้ายไปอยู่กับมาร์คที่ไร่ด้วย ส่วนสีนวลและเอกก็ยังคงทำหน้าที่ดูแลบ้านที่กรุงเทพฯให้มาร์ค และเอกยังทำหน้าที่ขับรถให้อรนิชานั่งตอนอยู่ที่กรุงเทพฯเหมือนเดิม" เธอจะไปกับฉันไหม " " ไม่ดีกว่าค่ะ ฉันจะแวะไปหายัยมินหน่อย ช่วงนี้ไม่ค่อยได้คุยกันเลย " มินตราต้องไปทำงานในบริษัทของพ่อเธอแถมร้านขายเสื้อผ้าก็ยังต้องดูแล เลยทำให้สองสาวเพื่อนซี้ ไม่ค่อยมีเวลาได้เมาส์มอยกันสักเท่าไหร่นัก" งั้นฉันไปก่อนนะ " " ฟอด " มาร์คหอมแก้มอรนิชา เดี๋ยวนี้เขาแสดงความรักกับเธอต่อหน้าลูกน้องมากขึ้น ทำไงได้คนมันคลั่งรักเมียเอะอะก็ต้องกอดต้องหอมเป็นธรรมดาอยู่แล้
" เถ้าแก่ครับ เถ้าแก่ " คำหล้าวิ่งกระหืดกระหอบมาหามาร์คที่บ้านพัก " มีอะไรเหรอพี่คำหล้า " " มีคนมาหาเถ้าแก่ครับ ตอนนี้อยู่ที่บ้านของเจ้เดือน " มาร์คนิ่วหน้า ใครกันนะที่มาหาเขาหรือจะเป็นแทนคุณ แต่ถ้าเป็นแทนคุณทำไมไม่โทรมาบอกเขาก่อนว่าจะมา หรือจะเซอร์ไพรส์เขาถ้าเป็นแทนคุณจริงๆนะเขาจะเตะให้หงายเลยคอยดูมาร์คเดินมาที่บ้านของดวงเดือน จากที่ตอนแรกอารมณ์ดีๆกลับกลายเป็นต้องอารมณ์เสียซะอย่างนั้น เพราะคนที่มาหาเขาไม่ใช่แทนคุณ แต่เป็นเมทินีแม่ของเขาต่างหาก แถมไม่ได้มาแค่คนเดียวด้วยยังยกโขยงกันมาทั้งผกาและอัญชัน" มาอยู่ที่ไร่ไม่เท่าไหร่ มือไม้แข็งเลยหรือไงตามาร์ค " เมทินีตำหนิลูกชายที่ไม่ยกมือไหว้ทักทายตนและผกา มาร์คผิวคล้ำลงเล็กน้อยคงเป็นเพราะตากแดดทำงานในไร่ แต่สีหน้าของเขาไม่ได้บ่งบอกเลยว่าเขากำลังเป็นทุกข์ หรือลูกชายเขาจะชอบชีวิตชาวไร่เข้าแล้วจริงๆ" สวัสดีครับ " มาร์คทำแบบขอไปที เมทินีถึงกับส่ายหน้า ลูกคนนี้ไม่เคยมีมารยาทเอาเสียเลย" แม่มีธุระอะไรกับผมอีก " ไม่พูดพร่ำทำเพลง มาร์คเอ่ยถามถึงจุดประสงค์ของการมาที่นี่ของแม่ทันที ไม่ต้องบอกก็รู้ว่าทำไมแม่เขาถึงรู้ว่าเขาอยู่ที่นี่ มันเดาได้ไม