ณ บ้านหลังใหญ่ริมแม่น้ำเจ้าพระยาของเจ้าพ่ออสังหาริมทรัพย์รายใหญ่ของประประเทศ กำลังจัดปาร์ตี้กับสาวพริตตี้นับสิบคนริมสระว่ายน้ำส่วนตัวภายในบ้าน เพื่อรอลูกสาวคนเดียวของเขากลับมา
“ท่านคะ เดี๋ยวหนูนวดให้นะคะ สบายไหมคะ” พริตตี้สาวเอ่ยถามหนุ่มใหญ่แล้วนวดที่ขาของเขาไป แล้วก็ลูบไล้ยั่วๆไปพร้อมกับสายตาอ่อยๆ
“สบายสิจ้ะหนู นวดแรงๆเลย ถ้านวดๆเดี๋ยวฉันให้รางวัลเยอะๆเลย” อนุวัตรเอ่ยบอกไปแล้วยิ้มแบบชอบใจ ก่อนจะกอดเอวพริตตี้สาวไว้
“งั้นหนูนวดด้วยค่ะท่าน” พริตตี้อีกสองสามคนก็กู่กันเข้ามาดูแลท่านอนุวัตร ที่ลงทุนจ่ายหนักให้กับพวกเธอเพื่อนมาปาร์ตี้ให้กับท่านและลูกชาย
“คุณพ่อคะ นี่มันอะไรกันคะ พี่ใหญ่กำลังจะมาแล้วนะคะ” ปณิตาเดินเข้ามาถามผู้เป็นพ่อที่กำลังนัวเนียอยู่กับสาวพริตตี้ที่นุ่งบิกินี่เดินไปมา
“แล้วไง ก็พ่อเตรียมสาวๆมาให้เจ้าใหญ่มันโดยเฉพาะเลยนะ มันไปอยู่เกาะมานานเจอของสวยๆงามๆแบบนี้มันคงจะกระโดดเข้าใส่เลยล่ะ ฮ่าๆ ยังไงเสือมันก็ไม่ทิ้งลายแน่ๆ” อนุวัตรเอ่ยบอกลูกสาวไปแบบขำๆ
“คุณพ่อคะ แต่ตอนนี้พี่ใหญ่ไม่ได้เหมือนเมื่อก่อนแล้วนะคะ” ปณิตาเถียงออกไปอย่างอดไม่ได้ ตอนนี้พี่ชายเธอมันสนใจผู้หญิงที่ไหนกันเล่า เธอเห็นเขาสนใจอย่างเดียวก็คือเกาะรายาเท่านั้นแหละ
“เออน่า เหมือนไม่เหมือนมันก็เป็นผู้ชาย มันก็ต้องสนใจบ้างแหละน่า เราไปช่วยน้าเราทำอาหารไป ไม่รู้ว่าวันนี้จะทำอะไรบ้าง เดี๋ยวตาใหญ่มาพ่อจัดการเอง ไปๆ พ่อจะอยู่กับสาวๆ” อนุวัตรพูดบอกไปก็ไล่ลูกสาวไปหาพิชามลที่บ้านเล็กทันที เพราะขืนอยู่ตรงนี้เขาก็เล่นกับสาวน้อยพวกนี้ได้ไม่เต็มที่น่ะสิ
ด้านชาลิตพอมาถึงบ้านเขาก็ลงมาจากรถแล้วก็ได้ยินเสียงเพลงดังมาแต่ไกลจากทางสระว่ายน้ำ เขาก็ทำหน้าขมวดคิ้วแบบสงสัย ก่อนจะเอ่ยถามคนใช้ที่มารอยืนต้อนรับเขาทันที
“นั่นเสียงใครเปิดเพลงคึกครื้นขนาดนี้” ชาลิตถามออกไปแล้วมองหน้าละม่อน คนใช้ที่คอยรับใช้บ้านเขามานานแล้ว
“อ่อ คุณท่านค่ะคุณใหญ่ คุณใหญ่ไปดูเองเถอะค่ะ ” ละม่อนเอ่ยบอกไปแบบเกร็งๆ เพราะนานๆชาลิตจจะกลับมาแล้วนี่นายท่านก็โกหกเอาไว้อีก เธอจึงกลัวว่าชาลิตจะโกรธ
ชาลิตจึงรีบเดินไปดูทันทีแล้วเดินไปที่สระว่ายน้ำข้างบ้านทันที พอเข้ามาถึงก็เจอปาร์ตี้ริมสระ พร้อมกับมีสาวพริตตี้นับสิบคนกำลังใส่บิกินี่เดินไปมาแล้วก็เล่นน้ำในสระอีก ส่วนพ่อของเขาก็นั่งให้พริตตี้นวดขาอยู่ตรงนั้น พร้อมกับมีพริตตี้อีกคนป้อนองุ่นให้ทานแบบสบายใจ จนไม่เหลือเค้าคนป่วยหนักแบบที่น้องสาวของเขาโทรมาบอกเลยสักนิด
“พ่อ” ชาลิตพูดเสียงรอดไรฟันออกมา แล้วเดินไปหาพ่อตัวเองอย่างเดือดดาด ที่เขารีบมาเพราะเป็นห่วงท่านขนาดไหน แต่กลับมาเจอท่านกำลังสนุกกับสาวๆเนี่ยนะ มันน่าโมโหไหมล่ะ
“อ่าว มาแล้วเหรอเจ้าใหญ่ ทำไมปล่อยตัวโทรมแบบนี้ล่ะ ดูแลตัวเองหน่อยสิวะ” อนุวัตรหันไปหาลูกสาวแล้วลุกขึ้นเดินไปหาพร้อมกับเอ่ยพูดไปแล้วเอามาจับแขนของลูกสาวแบบสำรวจอย่างเป็นห่วง
“ไหนยัยเล็กบอกว่าพ่อป่วยหนักไง นี่พ่อให้ยัยเล็กโกหกผมใช่ไหม รู้ไหมว่าผมเป็นห่วงพ่อขนาดไหน” ชาลิตพูดเสียงเข้มออกไปอย่างโมโหที่ถูกพ่อของตัวเองหลอกแบบนี้
“เออ พ่อขอโทษ พ่อก็แค่อยากให้แกกลับบ้านบ้างก็เท่านั้น พ่อคิดถึงแกนะเจ้าใหญ่” อนุวัตรพูดก็เข้าไปกอดลูกชายอย่างคิดถึง จนชาลิตอึ้งจนพูดไม่ออกเมื่อเจอมุกนี้ของพ่อเข้าไป
“พ่อ ผมไม่ใช่เด็กแล้วนะมากอดอะไรเล่าคิดถึงก็บอกผมดีๆสิ ไม่ใช่มาแช่งตัวเองให้ป่วยแบบนี้” ชาลิตเอามือถอนยันอกพ่อถอนกอดออกเบาๆ แล้วพูดบอกไป
“พ่อบอกแกให้กลับบ้านทุกเดือนแล้วเป็นไงล่ะ นี่หกเดือนแล้วที่พ่อไม่ได้เห็นหน้าแกน่ะ พ่อก็ต้องทำแบบนี้ล่ะ แกดูสิแกกลับมาทั้งที พ่อจัดชุดใหญ่ไว้ให้แกเลยนะ ไปติดเกาะมานานมาเจออะไรสวยๆงามๆดีกว่า” อนุวัตรพูดไปก็ยิ้มหรี่ตาใส่ลูกชายแล้วยักคิ้วให้ไป
“อือ ไม่เอาพ่อ ผมเบื่อแล้ว พ่อสนุกไปคนเดียวเถอะ” ชาลิตพูดไปแล้วมองไปที่สาวๆพริตตี้ด้านหลัง ก่อนจะทำหน้าเบื่อหน่าย
“เบื่ออะไรกัน สาวๆที่เกาะจะไปสู้โคนมแบบนี้ได้ยังไงวะ อย่ามาเล่นตัวหน่อยเลยน่า พ่อรู้ว่าแกน่ะเป็นกระทิงเปลี่ยว” อนุวัตรพูดไปแบบแซวๆลูกชาย
“ถ้าพ่อไม่อยากให้ผมรีบกลับไปเกาะ ก็อย่าเอาผมไปเกี่ยว สนุกไปคนเดียวเถอะ” ชาลิตพูดจบก็เดินหนีออกไปทันที จนอนุวัตรมองตามแบบขัดใจที่สาวๆพวกนี้โน้มน้าวใจลูกชายไม่ได้
“มันไปตายด้านจากไหนมาวะ ยกมาทั้งฟาร์มโคนมแล้วยังเมินอีก ” อนุวัตรพูดไปแบบอดไม่ได้ แล้วเริ่มคิดแล้วว่าเขาควรจะหาสาวๆมาเป็นเมียลูกชายได้แล้ว ไม่งั้นตระกูลเขาน่ะสูญพันธ์เพราะเจ้าใหญ่แน่ๆ
ด้านชาลิตที่หนีพ่อเขาออกมา เขาก็เดินเข้าไปในบ้านแล้วรีบขึ้นไปชั้นบนทันที พอเข้ามาในห้องนอนของตัวเองแล้ว เขาก็กระโดดนอนบนเตียงแบบเหนื่อย แล้วคิดในใจแบบกังวล
“ผมไม่อยากจะเจอคุณเลยโย” ชาลิตพูดออกไปแล้วก็หลับตา เมื่อเขารู้ว่ายังไงวันนี้เขาก็ต้องเจอกับโยธกา ผู้หญิงคนเดียวที่เขารักสุดหัวใจ แต่มันก็กลับกลายเป็นเพียงแค่ความฝัน เมื่อเธอแต่งงานไปมีครอบครัวกับลูกพี่ลูกน้องของเขาแล้ว
“ก๊อกๆ ตาใหญ่ เปิดประตูให้น้าหน่อยลูก ” พิชามลเดินขึ้นมาตามหลานชายด้วยตัวเอง เมื่อรู้ว่าชาลิตเจอพ่อของเขาเอาสาวๆมาล่อ จนชาลิตหนีขึ้นมาข้างบน
“ครับน้ามล” ชาลิตลุกขึ้นมาแล้วเดินไปเปิดประตู แล้วก็เจอน้าของเขากำลังยืนยิ้มอยู่หน้าประตู
“ตาใหญ่ ทำไมปล่อยตัวโทรมแบบนี้ห้ะ ดูสิ หนวดเคราก็ไม่โกนผมก็ไว้ยาว ไม่ได้นะแบบนี้ เดี๋ยวน้าจะให้ช่างทำผมที่ร้านมาตัดให้ เรานี่นะ ไม่ดูแลตัวเองเลย” พิชามลที่กำลังจะเข้าไปกอดหลานถึงกับชะงักที่หลานชายไว้หนวดรุงรังผมก็ไม่ตัด เธอจึงจะให้ช่างทำผมที่ร้านของเธอมาตัดผมให้หลานชาย
“เห้อ แล้วแต่อามลเลยก็แล้วกันครับ กอดหน่อย คิดถึงจังเลย” ชาลิตพูดบอกไปแล้วเข้าไปกอดผู้เป็นน้าสาว ซึ่งเป็นคนเลี้ยงดูเธอมาตั้งแต่ที่แม่ของเขาตายไป
“น้าก็คิดถึงเราเหมือนกัน กลับมาบ้านเราสักทีนะ รอบนี้อยู่นานๆนะ น้าขอร้อง” พิชามลพูดบอกไปแล้วก็กอดหลานชายไปด้วย ก่อนจะถอนกอดออมากแล้วเอามือไปตีไหล่ของหลานชายเบาๆ
“ครับน้ามล ผมจะอยู่ให้นานที่สุดเท่าที่ผมทำได้ครับ” ชาลิตบอกไปแล้วก็ยิ้มให้ เพราะเขาเองก็ไม่ได้กลับบ้านนานจริงๆนั่นแหละ
“โอเค งั้นเราพักผ่อนเถอะ เดี่ยวน้าจะไปเรียกช่างทำผมก่อน แล้วเราก็ค่อยทานอาเย็นกัน วันนี้น้ากับหนูโยลงมือทำอาหารเองเลยนะ รับรองว่าอร่อยแน่ๆ น้าไปก่อนนะลูก” พิชามลพูดบอกไปแล้วยิ้ม
“ครับน้ามล” ชาลิตได้ยินแบบนั้นก็เพียงแค่ยิ้มและพูดตอบไปแบบนิ่มๆ เพราะตอนนี้เขาพยายามจะเฉยๆกับเรื่องของโยธกาแล้ว
หลังจากนั้นไม่นาน อนุวัตรก็หมดอารมณ์สนุกกับสาวๆพริตตี้ที่เขาจ้างมา เขาก็เลยสั่งสาวๆกลับไปแล้วเขาก็เดินเข้าไปในบ้านเพื่อคุยกับลูกชาย แต่มันกลับหนีขึ้นไปนอนบนห้องซะงั้น
“อ่าวคุณพี่ ไม่สนุกแล้วเหรอคะ ไหนบอกจะจัดปาร์ตี้ให้ตาใหญ่ไง” พิชามลเดินพาช่างทำผมเข้ามาในบ้านแล้วเอ่ยถามพี่เขยไปแบบขำๆ
“จะสนุกได้ยังไงก็เจ้าใหญ่มันเล่นด้วยที่ไหนกัน มันหนีขึ้นห้องไปแล้วน่ะสิ แล้วนี่พาคนมาทำอะไรเยอะแยะเนี่ย” อนุวัตรถามออกไปแล้วมองคนที่มากับพิชามล
“ก็มาตัดผมให้เจ้าใหญ่น่ะสิคะ ไปอยู่เกาะแล้วไม่ดูแลตัวเองเลย ทำตัวอย่างกับโจรไปทุกวัน น้องก็เลยต้องให้เด็กที่ร้านมาแปลงโฉมให้กับมาหล่อๆน่ะสิคะ” พิชามลพูดบอกไป เพราะจริงๆแล้วชาลิตนั้นหน้าตาดีมากทีเดียว
“เออดีๆ มันจะได้เหมือนคนขึ้นมาบ้าง ไปเถอะ” อนุวัตรบอกน้องเมียไปแล้วก็เดินออกไป เพราะเขาก็ต้องไปเปลี่ยนชุด ส่วนพิชามลก็ช่างทำผมไปจัดการกับหลานชายตัวดีของเธอ
“ใจเย็นจ้ะคุณนายมันยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่าพึ่งอารมณ์เสียเลยจ้ะ ใจเย็นๆจ้ะ” ชบาพูดบอกไปก็ยิ้มแห้งๆบอกไป แล้วก็คิดในใจว่าคุณนายนี่ก็ขี้หึงนายหัวเหมือนกันนะเนี่ย แบบนี้ค่อยเป็นมวยถูกคู่หน่อย ถ้าได้เจอยัยลูกค้ารังนกนั่น ยัยนั่นคงจะเงิบหน้าดูถ้าได้รู้ว่าตอนนี้นายหัวของเธอแต่งงานมีเมียไปแล้ว ชบาคิดในใจ“ฉันไม่ยอมเสียเขาให้ใครหรอกชบา เธอคอยดูเถอะ” ลลิสาพูดเสียงเข้มออกไปแบบมาดมั่น“ดีจ้ะคุณนาย ร้อยแปดกระบวนท่ามีเท่าไหร่เอาออกมาใช้ให้หมดเลยจ้า เอาให้นายหัวรักนายหัวหลงเลยนะจ้ะ” ชบาพูดแล้วก็ยิ้มแบบชอบใจ เพราะเธออยากให้คุณนายคนนี้อยู่กับนายหัวของเธอไปนานๆ เพราะลลิสานั้นดีมากจริงๆจนเธอ“งั้นเธอกลับบ้านไปก่อนชบา ฉันขอทำหน้าที่เมียหน่อยละกัน พูดมาขนาดนี้ละ ฮ่าๆ บอกไข่นุ้ยนะว่าวันนี้นายหัวจะไปทำงานตอนบ่าย ตอนเช้านายหัวติดธุระยาว” ลิสาพูดบอกไปแบบไม่อาย เพราะมันไม่มีอะไรให้อายมาตั้งแต่ที่ชาลิตเอากับเธอทุกเช้าตอนสองแม่ลูกคู่นี้มาทำงานบ้านแล้ว“ได้จ้ะคุณนาย เต็มที่นะจ้ะฮ่าๆ” ชบาพูดแล้วก็เดินออไปแบบขำๆ ก่อนจะปิดประตูบ้านให้ทั้งสองด้านลลิสาพอชบาออกไปแล้วเธอก็เดินออกไปเปิดประตูระเบียงบ้าน แล้วก็มองชาลิตกำลังโ
“ผมไม่เคยมีอะไรกับหลานสาวของคุณนะคุณอร จะฟันแล้วทิ้งได้ยังไงล่ะ แต่คนที่ฟันหลานสาวคุณน่ะคือลูกชายของผมเอง พวกเขาแอบได้เสียกันโดยที่คิดว่าคนอื่นไม่รู้ ผมก็เลยลองส่งให้หนูน้ำผึ้งไปอยู่กับลูกชายของผมที่เกาะดู ว่าพวกเขาจะไปกันได้ไหม แล้วก็ดูเหมือนว่าหลานสาวของคุณจะทำได้ดีทีเดียว” อนุวัตรพูดบอกไป จนอภิรดีอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน หลานสาวของเธอเนี่ยนะจะกล้ามีอะไรกับลูกชายของเขา“มันเกิดอะไรขึ้น บอกฉันได้ไหมคุณอนุวัตร ฉันงงไปหมดแล้ว” อภิรดีถามออกไปอย่างงๆ ไหนบอกให้หลานสาวเธอไปอยู่เกาะเพื่อแก้เคล็ดไง แล้วทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้“หึ ได้ ฟังแล้วอย่าตกใจก็แล้วกันคุณอร” อนุวัตรพูดเล่าเรื่องของชาลิตและลลิสาตั้งแต่ตั้นให้อภิรดีรับรู้ว่าทั้งสองทำอะไรไว้บ้าง แบบระเอียดยิบเพื่อจะได้ไม่ต้องมาแคลงใจกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายในอนาคต เนื่องจากเขาก็เคยจดทะเบียนกับลลิสามาแล้ว เขาจึงต้องเคลียยร์และเล่าทุกอย่างให้อภิรดีฟัง“คุณเล่นเกมอะไรของคุณคุณอนุวัตร หลานฉันไม่ใช่ผักใช่ปลานะที่จะแต่งกับคนนั้นทีคนนี้ทีน่ะ” อภิรดีพูดบอกไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก“ใจเย็นๆก่อนสิคุณอร ผมก็ไม่ได้จะให้ลูกชายผมเขาทิ้งหลานสาวคุณ อ่ะ น
ชาลิตจึงถอนปากออกมาแล้วใช้นิ้วบี้คลึงร่องสาวของเธอไปด้วยแบบเมามันส์ จนลลิสาหย่อนหน้าลงมาแบบทรมานจนหน้าของเขาเลอะไปด้วยน้ำหวานของเธอ“อ้ะ เลียอีกค่ะ เลียแรงๆ สอดลิ้นเข้ามาลึกๆ อ่าส์ ซี๊ด น้ำผึ้งขอสองนิ้วได้ไหมคะ นิ้วเดียวมันไม่มันส์ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ ขอสองนิ้วนะคะ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งเสียว ซี๊ด” ลลิสาร้องไปแล้วก็ร้องของให้ชาลิตสอดนิ้วเข้ามาสองนิ้ว เพราแค่นิ้วเดียวสำหรับเธอตอนนี้มันไม่สนุกแล้ว“จิ๋มขยายแล้วสิ โดนเล็กเข้าหน่อยทำเป็นขอสองเลยนะ เดี๋ยวจะให้เก้านิ้วเลยเมียจ๋า ไม่ต้องขอแค่สองนิ้วหรอก” ชาลิตพูดแล้วก็ยิ้มขำๆออกไป จึงสอดนิ้วเพิ่มให้เธอเป็นสองนิ้วรัวๆ จนลลิสาร้องออกมาแบบพอใจ“ดีค่ะ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งไม่ไหวแล้ว อย่าหยุดนะคะ อย่า อ้ะ อ้ะ” ลลิสาร้องไปจนกระทั่งเธอเกร็งกระตุกออกมา แล้วก็พ่นน้ำรักใส่หน้าของชาลิตแบบสุขสม จนหน้าของชาลิตเปียกไปหมดเพราะน้ำรักของเธอ“น้ำแตกขนาดนี้เลยเหรอคุณ อ่าส์ เยอะชะมัดเลย” ชาลิตบอกไปแล้วก็เอามือลูบหน้าที่เปียกน้ำรักของลลิสาไป ก่อนจะมาจับลลิสานอนลงไปบนโต๊ะทำงานของเขา“อ่าส์ คุณใหญ่ ฉันอยากโดนเก้านิ้วแล้วอ่ะ รีบๆใส่เข้ามาสิคะ” ลลิสาบอกไปแล้วก็อ้าขาร
“ใช่ ผมกับโยเราเคยคบกันมาก่อน ผมคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ผมเลือกจะมาเป็นคู่ชีวิต ผมตัดสินใจจะขอเขาแต่งงานในวันครบรอบสามปีที่คบกัน แต่เพราะความเจ้าชู้ของผมเองแหละที่ไม่รู้จักพอ นอนกับผู้หญฺงไปทั่ว โยเขาก็เลยทนไม่ไหว ขอเลิกกับผม” ชาลิตพูดออกไปแล้วก็มองหน้าลลิสาแบบจริงจัง“แล้วไปแต่งงานกับคุณกลาง ลูกพี่ลูกน้องของคุณเนี่ยนะ” ลลิสาถามแบบอึ้งๆ เพราะถ้าเป็นเธอก็คงจะจุกอ่ะ ที่อยู่ๆ แฟนตัวเองกลายเป็นเมียของน้องชายแบบนั้น แถมยังต้องเจอหน้ากันทุกวัน ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะรับไม่ได้แล้วหนีมาอยู่เกาะอย่างนี้“อืม กลางมันคอยดูแลรับฟังโยเขามาตลอด พอสองคนนั้นตกลงที่จะแต่งงานกัน ผมที่ยังลืมโยเขาไม่ได้ก็เลยมาอยู่เกาะอย่างนี้แหละ นานๆจะกลับไปกรุงเทพ แต่มันก็ผ่านมาหกปีแล้วนะ ตอนนี้ผมเฉยๆแล้วล่ะ ผมมีเมียแล้วจะคิดถึงผู้หญิงคนอื่นได้ยังไงล่ะ คุณนั่นแหละโอเคไหมกับเรื่องนี้ ” ชาลิตพูดบอกไปตามตรง เพราะตอนนี้เขาคิดว่าในใจของเขาเกี่ยวกับโยธกามันเริ่มจืดจางลงไปทุกที แต่มันกับ “ฉันโอเคสิคุณ แต่คุณน่ะเฉยๆแน่เหรอ ฉันยังเห็นคุณเก็บรูปเขาไว้อยู่เลย แต่ถ้าคุณลืมเขาไม่ได้ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ยังไงมันก็เป็นแค่อดีตของคุณ” ล
“คิดมากไปละน้ำผึ้ง นั่นมันอดีตของเขาไหมล่ะ น้ำผึ้งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้องชายเขาไม่ใช่เหรอ จะเอามาใส่ใจทำไม แล้วใครบอกว่าน้ำผึ้งไม่สวย น้ำผึ้งเองก็สวยมากไม่รู้ตัวเลยหรือไงล่ะ ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ต้องชอบทั้งทั้งนั้นแหละ อย่าดูถูกตัวเองอย่างนั้นเลย แล้วอย่างไอ้คุณใหญ่อะไรนี่ มันจับน้ำผึ้งไปทำเมียขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องมีชอบบ้างแหละ ไม่งั้นมันไม่กล้างัดข้อกับพ่อเอาน้ำผึ้งไปเป็นเมียหรอก” ภูวนาทพูดบอกไปแบบอดไม่ได้ เพราะเขาเองก็เป็นผู้ชาย เขาคิดว่าอย่างชาลิตอะไรนี่ต้องชอบเพื่อนของเขาแน่ๆ ไม่งั้นคนดีๆที่ไหนจะมาเอาแม่เลี้ยงตัวเองไปทำเมียกันล่ะ“เออจริง แกฉลาดมาทุกเรื่องนะน้ำผึ้ง แกจะมาโง่เรื่องนี้ไมได้ คิดจ้ะเพื่อนคิดดีๆ แกจะยอมถอยให้ผู้หญิงที่เขามีผัวไปแล้วทำไมห้ะ ตอนนี้แกเป็นเมียคุณใหญ่แล้วนะ แกควรจะไปต่อกับเขา ไม่ใช่มาคิดท้อใจอย่างนี้ แล้วแกก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้นหรอก อดีตก็คืออดีตเขาคงไม่กลับไปเอาเมียของน้องชายหรอกแก” มัทนาพูดบอกไปแบบให้เพื่อนสาวได้สติ“ก็จริงอ่ะแก ฉันคงจะคิดมากไป หรือว่าฉันจะเริ่มชอบเขาแล้วอ่ะ” ลลิสาพูดบอกไปแบบเริ่มรู้ใจตัวเองว่าเริ่มจะชอบชาลิตแล้ว เพราะเธอมีอาการหึ
ผ่านไปสองอาทิตย์ชาลิตและลลิสาก็ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันอยู่ภายในเกาะรายา ทั้งสองก็พยายามปรับตัวเข้าหากันได้แบบสนิทสนมมากกว่าเดิม แถมลลิสายังเข้ามาช่วยงานชาลิตแบบเต็มตัวเพราะเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ เธอจึงไปช่วยชาวบ้านออกแบบร้านขายของตามชายหาดภายในเกาะ รวมไปถึงที่พักแบบโอมเตย์ของชาวบ้านอีกด้วย จนชาวบ้านที่นี่ชื่นชมและชอบลลิสามาก รวมไปถึงชาลิตด้วยที่ได้เห็นลลิสาในอีกด้านหนึ่งของเธอ“คุณใหญ่ฉันทำแพลนร้านค้าของชาวบ้านเสร็จแล้ว คุณจะดูเลยไหมคะ” ลลิสาถามออกไป เพราะเห็นว่าเขากำลังทำหน้าเครียดอยู่กับผู้รับเหมา ไข่นุ้ยและลุงมิ่งพ่อของชบาอยู่“เอาไปไว้ในห้องทำงานของผมก็ได้ เสร็จธุระตรงนี้แล้วผมจะไปดู อ่อ เดี๋ยวผมวานคุณหยิบเอกสารส่งของซองสีเหลืองในลิ้นชักฝั่งขวามือให้ผมด้วยนะ” ชาลิตเอ่ยบอกไปก็หันมาคุยงานต่อ เพราะตอนนี้มันก็ใกล้เวลาที่รีสอร์ทจะเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่ตกแต่งเท่านั้น“ค่ะ เดี๋ยวน้ำผึ้งเอามาให้นะคะ” ลลิสาพูดบอกไปก็เดินไปที่ห้องทำงานของเขาที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งมันจะมีวิวทะเลให้ดูแบบสบายตาพอถึงห้องทำงานของชาลิตแล้วเธอก็เอางานของเธอไปวางบนโต๊ะของเขา ก่อนจะหาซองสีเหลืองที่เขาบอกทั