เพียงเพราะคำว่าบุญคุณ ทำให้เธอต้องยอมทำทุกอย่างเพื่อตอบแทนผู้เป็นป้า จนกระทั่งวันหนึ่งเธอไปพลาดท่าเสียทีให้กับชายคนหนึ่งเข้าจนคนเขานินทาไปทั่ว เธอจึงยอมเสียสละด้วยการยอมแต่งงานกับชายแปลกหน้าที่เธอไม่เคยรู้จักเป็นการรักษาหน้าตาของผู้เป็นป้าเอาไว้ แต่แล้วสวรรค์ก็เล่นตลกกับเธอซะจริงๆ ที่ทำให้เธอกลับมาเจอเขาอีกครั้งในฐานะแม่เลี้ยงกับลูกเลี้ยง แล้วเธอจะทำอย่างไร เมื่อเขาไม่ยอมอยู่เพียงแค่สถานะลูกเลี้ยงเท่านั้น “คิดจะเอาทั้งพ่อทั้งลูก มันไม่มักมากไปหน่อยเหรอลลิสา เธอต้องการเท่าไหร่ฉันจะจ่ายให้เอง แลกกับการที่เธอไม่แต่งงานกับพ่อของฉัน” “ถ้าคุณเสนอให้ฉันเร็วกว่านี้ ฉันอาจจะรับไว้ก็ได้ แต่ตอนนี้มันสายไปแล้วค่ะ ฉันจดทะเบียนสมรสกับคุณลุงแบบถูกต้องตามกฏหมายเรียบร้อยแล้ว ตอนนี้ฉันคือแม่เลี้ยงของคุณ คุณชาลิต” “เธอไม่ใช่แม่เลี้ยงฉันลลิสา ในเมื่อห้ามแล้วไม่ฟัง ก็พากันลงนรกไปพร้อมกันนี่แหละ”
もっと見るณ เกาะรายา
ร่างสูงใหญ่ผิวสีแทนคมเข้มแบบฉบับหนุ่มไทยของนายหัวชาลิต คุณากรดำรง กำลังถอดเสื้อยืนคุมงานก่อสร้างให้กับชาวบ้านบนเกาะอยู่ริมทะเล เพราะตอนนี้เขากำลังจะพัฒนาเกาะเขาให้เป็นสถานที่ท่องเที่ยว หลังจากที่ปิดเป็นเกาะส่วนตัวมานานนับหกปี เพื่อฟื้นฟูธรรมชาติที่นี่ให้กลับคืนมาสวยงามดังเดิม
“นายหัวจ๋า น้ำเย็นๆจ้ะ ดื่มให้ชื่นใจเลยนะจ้ะ ชบาตั้งใจเอามาให้นายหัวเลยจ้ะ” ชบาสาวชาวเกาะที่คอยรับใช้บ้านของชาลิตพูดออกมา พร้อมกับยื่นขวดน้ำเย็นๆให้กับนายหัวสุดหล่อของเธอไป
“ขอบใจชบา ฉันกำลังหิวน้ำพอดี” ชาลิตรับไปแล้วดื่มแบบหิวกระหาย ก่อนจะเอาน้ำเย็นๆมาชโลมที่หน้าของตัวเอง แล้วรินรดลงไปที่หัวต่อให้มันช่วยคลายร้อนให้กับเขา จนชบาที่มองอยู่ถึงกับกลืนน้ำลายลงคออย่างชอบใจ
“หืม แม้เจ้าโว๊ย นายหัวจ๋า หุ่นดีอะไรอย่างนี้เนี่ย ตกถึงปากอีชบาเมื่อไหร่จะกินไม่ให้เหลือซากเลย” ชบาคิดในใจไปก็มองกล้ามหน้าท้องของนายหัวอย่างไม่ละสายตา จนไข่นุ้ยที่มองอยู่ถึงกับท้วงชบาอย่างอดไม่ได้
“นังชบา แกจะมองให้ทะลุนายหัวเลยหรือไงวะ เอาน้ำมาให้เสร็จแล้วก็ไปสิวะหรืออยากให้ข้าฟ้องพ่อเอง” ไข่นุ้ยพูดต่อว่าชบาออกไปแบบอดไมได้ เพราะเขาก็แอบชอบชบาอยู่นั่นเอง
“เออ ไปแล้วไงวะ ไปนะจ้ะนายหัว อยากได้อะไรก็เรียกชบาได้ตลอดเลยนะจ้ะ” ชบาพูดใส่ไข่นุ้ยเสียงดัง แต่หันไปบอกกับนายหัวด้วยเสียงอ่อนไป
“อืม” ชาลิตก็พยักหน้าตอบไป เพราะเขาไม่ได้สนใจผู้หญิงมานานแล้ว นับตั้งแต่ที่เขาโง่ปล่อยให้คนที่เขารักที่สุดหลุดมือไปแต่งงานกับคนอื่น ถึงมันจะนามาแล้วถึงหกปีแต่เขาก็ยังไม่เคยลืมเธอได้เลย เพราะเธอยังคงวนเวียนอยู่ในชีวิตของเขาในฐานะน้องสะใภ้ที่เขาอยากจะยอมรับได้
“นายหัวครับ คุณหนูเล็กโทรมาหาครับ บอกว่ามีเรื่องด่วนครับ” มิ่งพ่อของชบาวิ่งเขามาพร้อมกับโทรศัพท์ แล้วรีบส่งให้กับนายหัวของตัวเองไปทันที
“ว่าไงยัยเล็ก มีอะไรรึเปล่า” ชาลิตถามไปแล้วก็รอฟังน้องสาวพูด เพราะปกติปณิตาไม่ค่อยจะโทรมาหาเขาเท่าไหร่ นอกจากจะมีเรื่องอะไรสำคัญๆเท่านั้น
“พี่ใหญ่คะ คุณพ่อค่ะ คุณพ่อป่วยหนักมาก พี่ใหญ่ขึ้นมาดูคุณพ่อหน่อยนะคะ ท่านจะไม่ไหวแล้ว” เล็ก ปณิตา น้องสาวคนเล็กของบ้านพูดบอกพี่ชายคนโตของเธอไปด้วยเสียงสั่น เมื่อพี่ชายพูดตอบเธอมาแล้ว
“อะไรนะ ใจเย็นๆนะเล็ก เดี๋ยวพี่จะรีบกลับกรุงเทพตอนนี้เลย เราดูแลพ่อไปก่อนนะ พี่จะรีบไป” ชาลิตพูดบอกน้องสาวคนเดียวของเขาไอย่างรนๆที่ได้รู้ข่าวว่าพ่อของเขาป่วยหนัก จนเขาต้องรีบกลับไปกรุงเทพด่วน
“ค่ะพี่ใหญ่ รีบมานะคะ คุณพ่อท่านรอพี่อยู่ เดินทางปลอดภัยนะคะพี่ใหญ่” ปณิตาบอกไปแล้วก็รอคำตอบจากพี่ชาย
“โอเค แค่นี้นะเล็ก พี่จะไปแล้ว” ชาลิตกดวางสายไปทันที ก่อนจะหันไปบอกมิ่งและไข่นุ้ยทันที
“ลุงมิ่งผมฝากดูแลเกาะกับเรื่องก่อสร้างพวกนี้ด้วยนะ ผมต้องขึ้นกรุงเทพน่ะ ส่วนขานุ้ยนายไปเตรียมเรือรอฉัน อีกสิบห้านาทีฉันจะไปหาที่ท่าเรือ” ชาลิตพูดจบก็รีบเดินกลับไปที่บ้านพักของเขาที่อยู่ไม่ไกลจากชายหาดเท่าไหร่ แล้วรีบอาบน้ำแบบเร่งรีบก่อนจะเปลี่ยนชุดแล้วรีบออกมาขึ้นเรือในเวลาต่อมา
ด้านปณิตาที่โกหกพี่ชายสำเร็จก็ถอนหายใจแรงๆออกไปอย่างอดไม่ได้ แล้วเธอก็เงยหน้าขึ้นมามองผู้เป็นพ่อของตัวเอง ที่บังคับให้เธอต้องโกหกแบบนี้เพื่อล่อให้พี่ชายของเธอออกจากเกาะแล้วกลับมากรุงเทพ
“เราโกหกพี่ใหญ่แบบนี้มันจะดีเหรอคะคุณพ่อ ถ้าพี่ใหญ่รู้ว่าคุณพ่อไม่ได้เป็นอะไร ต้องโกรธเล็กมากแน่ๆค่ะ” ปณิตาพูดไปอย่างกังวลใจที่โกหกพี่ชายตัวเอง
“มันโกรธเราได้นานที่ไหนกันล่ะ เราไม่ได้เห็นหน้าเจ้าใหญ่กันมาครึ่งปีแล้วนะยัยเล็ก ถ้าเราไม่โกหกมันจะยอมกลับมาบ้านไหมล่ะ ไม่รู้เกาะนั้นมีอะไรดีมันถึงไปจมปักอยู่ที่นั่น แทนที่มันจะมาดูแลธุรกิจของพ่อ ดูสิ เราเลยต้องรับภาระหนักไปกับเจ้ารองกันสองคน” อนุวัตรพูดบอกลูกสาวไป แล้วเอ่ยถึงรอง นั่นก็คือหลานชายของเขาที่ตอนนี้กำลังช่วยเขาดูแลกิจการอยู่
“คุณพ่ออยากรู้ก็ลองถามพี่ใหญ่เย็นนี้ก็แล้วกันค่ะ เล็กช่วยคุณพ่อแล้ว งั้นเล็กขอตัวไปทำงานก่อนนะคะ” ปณิตาพูดไปก็รีบหาข้ออ้างหนีจากการฟังพ่อของเธอบ่นเรื่องพี่ชายทันที
“เฮ้อ ยัยลูกคนนี้จะนิสัยแบบพี่มันไปทุกวันแล้วเนี่ย” อนุวัตรพูดบ่นไปก็มองตามลูกสาวที่เดินหนีออกไป ทั้งที่เขายังพูดเรื่องของชาลิตยังไม่ทันจบ
“คุณพี่ก็ไม่น่าให้หลานไปโกหกตาใหญ่แบบนั้นนะคะ บอกตาใหญ่ให้กลับบ้านดีๆก็ได้นิคะ” พิชามล น้องภรรยาของอนุวัตรเอ่ยพูดบอกพี่เขยของตัวเองไปอย่างอดไม่ได้ เพราะเธอเองก็เลี้ยงทั้งชาลิตและปณิตามาตั้งแต่เด็ก เธอรู้ดีว่าทั้งสองนั้นมีนิสัยอย่างไร
“พี่บอกมันกลับมามาตลอดหกเดือนแล้วนะมล แต่เราดูสิ มันโผล่หน้ามาให้พี่เห็นไหมล่ะ บอกให้มาประชุมก็ไม่มา บอกให้กลับบ้านก็ไม่กลับ มันไม่คิดถึงพี่บ้างเลยหรือไง ทุกวันนี้พี่ไม่รู้มันยังคิดว่าพี่เป็นพ่อมันอยู่หรือเปล่า” อนุวัตรบ่นไปแบบน้อยใจลูกชายคนโตอย่างสุด จนพิชามลยิ้มออกมาที่เห็นอาการพ่อแอบน้อยใจลูก
“คุณพี่ก็อย่าคิดมากเลยค่ะ เราก็รู้ๆกันอยู่นิคะว่าทำไม ถ้าไม่ใช่เพราะตากลาง ตาใหญ่อาจอยู่ที่นี่แล้วช่วยคุณพี่ทำงานก็ได้ค่ะ” พิชามลพูดออกมาแบบรู้สึกผิดที่ลูกชายของเธอไปแต่งงานกับคนรักเก่าของชาลิต โดยที่เธอไม่เคยรับรู้มาก่อน พอมารู้ชาลิตก็รับไม่ได้แล้วหนีไปอยู่บนเกาะไปแล้ว
“อย่าพูดเรื่องเก่าๆเลยน่า ยังไงเราก็ย้อนกลับไปไม่ได้แล้ว หนูโยแต่งงานกับตารองมีลูกมีเต้าไปแล้วมันยังคิดไม่ได้พี่ก็ไม่รู้จะว่ายังไงแล้ว” อนุวัตรพูดไปอย่างปลอบใจน้องเมียของตัวเองไปอย่างเข้าใจ
“ค่ะคุณพี่ แล้วนี่คุณพี่จะออกไปไหนคะ ไม่รอตาใหญ่กลับมาเหรอคะ” พิชามลถามออกไปแบบสงสัย เมื่อเธอพึ่งสังเกตเห็นการแต่งตัวของอนุวัตร
“อ่อ พอดีพี่มีนัดน่ะ ไปแค่แปปเดียวเท่านั้นแหละ เดี๋ยวพี่ก็จะกลับมารอต้อนรับลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพี่แล้วล่ะ” อนุวัตรพูดออกไปแล้วยิ้มมุมปากแบบเจ้าเล่ห์
“งั้นน้องก็จะกลับแล้วเหมือนกันค่ะ เดี๋ยวจะไปดูหลานต่อ แล้วเย็นๆค่อยมาหาตาใหญ่อีกที” พิชามลพูดบอกไป เพราะบ้านของเธอกับบ้านของอนุวัตรนั้นอยู่ในรั้วเดียวกัน แต่ก็ห่างกันพอสมควรที่จะใช้ชีวิตบ้านใครบ้านมัน
“อืม งั้นเจอกันตอนเย็นละกันนะ พี่ไปล่ะ” อนุวัตรพูดบอกไปก็เดินออกไปแบบชิวๆ จนพิชามลมองตามอย่างหนักใจกับพี่เขยตัวดีของเธอ เพราะตั้งแต่พี่สาวเธอตายไปเมื่อสิบห้าปีก่อน พี่เขยของเธอก็ออกลายเจ้าชู้ไปทั่วตามประสาพ่อหม้ายสายเปย์
“ใจเย็นจ้ะคุณนายมันยังไม่ใช่ตอนนี้ อย่าพึ่งอารมณ์เสียเลยจ้ะ ใจเย็นๆจ้ะ” ชบาพูดบอกไปก็ยิ้มแห้งๆบอกไป แล้วก็คิดในใจว่าคุณนายนี่ก็ขี้หึงนายหัวเหมือนกันนะเนี่ย แบบนี้ค่อยเป็นมวยถูกคู่หน่อย ถ้าได้เจอยัยลูกค้ารังนกนั่น ยัยนั่นคงจะเงิบหน้าดูถ้าได้รู้ว่าตอนนี้นายหัวของเธอแต่งงานมีเมียไปแล้ว ชบาคิดในใจ“ฉันไม่ยอมเสียเขาให้ใครหรอกชบา เธอคอยดูเถอะ” ลลิสาพูดเสียงเข้มออกไปแบบมาดมั่น“ดีจ้ะคุณนาย ร้อยแปดกระบวนท่ามีเท่าไหร่เอาออกมาใช้ให้หมดเลยจ้า เอาให้นายหัวรักนายหัวหลงเลยนะจ้ะ” ชบาพูดแล้วก็ยิ้มแบบชอบใจ เพราะเธออยากให้คุณนายคนนี้อยู่กับนายหัวของเธอไปนานๆ เพราะลลิสานั้นดีมากจริงๆจนเธอ“งั้นเธอกลับบ้านไปก่อนชบา ฉันขอทำหน้าที่เมียหน่อยละกัน พูดมาขนาดนี้ละ ฮ่าๆ บอกไข่นุ้ยนะว่าวันนี้นายหัวจะไปทำงานตอนบ่าย ตอนเช้านายหัวติดธุระยาว” ลิสาพูดบอกไปแบบไม่อาย เพราะมันไม่มีอะไรให้อายมาตั้งแต่ที่ชาลิตเอากับเธอทุกเช้าตอนสองแม่ลูกคู่นี้มาทำงานบ้านแล้ว“ได้จ้ะคุณนาย เต็มที่นะจ้ะฮ่าๆ” ชบาพูดแล้วก็เดินออไปแบบขำๆ ก่อนจะปิดประตูบ้านให้ทั้งสองด้านลลิสาพอชบาออกไปแล้วเธอก็เดินออกไปเปิดประตูระเบียงบ้าน แล้วก็มองชาลิตกำลังโ
“ผมไม่เคยมีอะไรกับหลานสาวของคุณนะคุณอร จะฟันแล้วทิ้งได้ยังไงล่ะ แต่คนที่ฟันหลานสาวคุณน่ะคือลูกชายของผมเอง พวกเขาแอบได้เสียกันโดยที่คิดว่าคนอื่นไม่รู้ ผมก็เลยลองส่งให้หนูน้ำผึ้งไปอยู่กับลูกชายของผมที่เกาะดู ว่าพวกเขาจะไปกันได้ไหม แล้วก็ดูเหมือนว่าหลานสาวของคุณจะทำได้ดีทีเดียว” อนุวัตรพูดบอกไป จนอภิรดีอึ้งกับสิ่งที่ได้ยิน หลานสาวของเธอเนี่ยนะจะกล้ามีอะไรกับลูกชายของเขา“มันเกิดอะไรขึ้น บอกฉันได้ไหมคุณอนุวัตร ฉันงงไปหมดแล้ว” อภิรดีถามออกไปอย่างงๆ ไหนบอกให้หลานสาวเธอไปอยู่เกาะเพื่อแก้เคล็ดไง แล้วทำไมกลายเป็นแบบนี้ไปได้“หึ ได้ ฟังแล้วอย่าตกใจก็แล้วกันคุณอร” อนุวัตรพูดเล่าเรื่องของชาลิตและลลิสาตั้งแต่ตั้นให้อภิรดีรับรู้ว่าทั้งสองทำอะไรไว้บ้าง แบบระเอียดยิบเพื่อจะได้ไม่ต้องมาแคลงใจกันของผู้ใหญ่ทั้งสองฝ่ายในอนาคต เนื่องจากเขาก็เคยจดทะเบียนกับลลิสามาแล้ว เขาจึงต้องเคลียยร์และเล่าทุกอย่างให้อภิรดีฟัง“คุณเล่นเกมอะไรของคุณคุณอนุวัตร หลานฉันไม่ใช่ผักใช่ปลานะที่จะแต่งกับคนนั้นทีคนนี้ทีน่ะ” อภิรดีพูดบอกไปด้วยความไม่พอใจเป็นอย่างมาก“ใจเย็นๆก่อนสิคุณอร ผมก็ไม่ได้จะให้ลูกชายผมเขาทิ้งหลานสาวคุณ อ่ะ น
ชาลิตจึงถอนปากออกมาแล้วใช้นิ้วบี้คลึงร่องสาวของเธอไปด้วยแบบเมามันส์ จนลลิสาหย่อนหน้าลงมาแบบทรมานจนหน้าของเขาเลอะไปด้วยน้ำหวานของเธอ“อ้ะ เลียอีกค่ะ เลียแรงๆ สอดลิ้นเข้ามาลึกๆ อ่าส์ ซี๊ด น้ำผึ้งขอสองนิ้วได้ไหมคะ นิ้วเดียวมันไม่มันส์ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ ขอสองนิ้วนะคะ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งเสียว ซี๊ด” ลลิสาร้องไปแล้วก็ร้องของให้ชาลิตสอดนิ้วเข้ามาสองนิ้ว เพราแค่นิ้วเดียวสำหรับเธอตอนนี้มันไม่สนุกแล้ว“จิ๋มขยายแล้วสิ โดนเล็กเข้าหน่อยทำเป็นขอสองเลยนะ เดี๋ยวจะให้เก้านิ้วเลยเมียจ๋า ไม่ต้องขอแค่สองนิ้วหรอก” ชาลิตพูดแล้วก็ยิ้มขำๆออกไป จึงสอดนิ้วเพิ่มให้เธอเป็นสองนิ้วรัวๆ จนลลิสาร้องออกมาแบบพอใจ“ดีค่ะ อ้ะ อ้ะ คุณใหญ่ อ้ะ อ้ะ น้ำผึ้งไม่ไหวแล้ว อย่าหยุดนะคะ อย่า อ้ะ อ้ะ” ลลิสาร้องไปจนกระทั่งเธอเกร็งกระตุกออกมา แล้วก็พ่นน้ำรักใส่หน้าของชาลิตแบบสุขสม จนหน้าของชาลิตเปียกไปหมดเพราะน้ำรักของเธอ“น้ำแตกขนาดนี้เลยเหรอคุณ อ่าส์ เยอะชะมัดเลย” ชาลิตบอกไปแล้วก็เอามือลูบหน้าที่เปียกน้ำรักของลลิสาไป ก่อนจะมาจับลลิสานอนลงไปบนโต๊ะทำงานของเขา“อ่าส์ คุณใหญ่ ฉันอยากโดนเก้านิ้วแล้วอ่ะ รีบๆใส่เข้ามาสิคะ” ลลิสาบอกไปแล้วก็อ้าขาร
“ใช่ ผมกับโยเราเคยคบกันมาก่อน ผมคิดว่าเขาเป็นผู้หญิงที่ผมเลือกจะมาเป็นคู่ชีวิต ผมตัดสินใจจะขอเขาแต่งงานในวันครบรอบสามปีที่คบกัน แต่เพราะความเจ้าชู้ของผมเองแหละที่ไม่รู้จักพอ นอนกับผู้หญฺงไปทั่ว โยเขาก็เลยทนไม่ไหว ขอเลิกกับผม” ชาลิตพูดออกไปแล้วก็มองหน้าลลิสาแบบจริงจัง“แล้วไปแต่งงานกับคุณกลาง ลูกพี่ลูกน้องของคุณเนี่ยนะ” ลลิสาถามแบบอึ้งๆ เพราะถ้าเป็นเธอก็คงจะจุกอ่ะ ที่อยู่ๆ แฟนตัวเองกลายเป็นเมียของน้องชายแบบนั้น แถมยังต้องเจอหน้ากันทุกวัน ก็ไม่แปลกหรอกที่เขาจะรับไม่ได้แล้วหนีมาอยู่เกาะอย่างนี้“อืม กลางมันคอยดูแลรับฟังโยเขามาตลอด พอสองคนนั้นตกลงที่จะแต่งงานกัน ผมที่ยังลืมโยเขาไม่ได้ก็เลยมาอยู่เกาะอย่างนี้แหละ นานๆจะกลับไปกรุงเทพ แต่มันก็ผ่านมาหกปีแล้วนะ ตอนนี้ผมเฉยๆแล้วล่ะ ผมมีเมียแล้วจะคิดถึงผู้หญิงคนอื่นได้ยังไงล่ะ คุณนั่นแหละโอเคไหมกับเรื่องนี้ ” ชาลิตพูดบอกไปตามตรง เพราะตอนนี้เขาคิดว่าในใจของเขาเกี่ยวกับโยธกามันเริ่มจืดจางลงไปทุกที แต่มันกับ “ฉันโอเคสิคุณ แต่คุณน่ะเฉยๆแน่เหรอ ฉันยังเห็นคุณเก็บรูปเขาไว้อยู่เลย แต่ถ้าคุณลืมเขาไม่ได้ ฉันก็ไม่ได้ว่าอะไรนะ ยังไงมันก็เป็นแค่อดีตของคุณ” ล
“คิดมากไปละน้ำผึ้ง นั่นมันอดีตของเขาไหมล่ะ น้ำผึ้งบอกว่าผู้หญิงคนนั้นเป็นเมียน้องชายเขาไม่ใช่เหรอ จะเอามาใส่ใจทำไม แล้วใครบอกว่าน้ำผึ้งไม่สวย น้ำผึ้งเองก็สวยมากไม่รู้ตัวเลยหรือไงล่ะ ผู้ชายที่ไหนเห็นก็ต้องชอบทั้งทั้งนั้นแหละ อย่าดูถูกตัวเองอย่างนั้นเลย แล้วอย่างไอ้คุณใหญ่อะไรนี่ มันจับน้ำผึ้งไปทำเมียขนาดนี้แล้ว มันก็ต้องมีชอบบ้างแหละ ไม่งั้นมันไม่กล้างัดข้อกับพ่อเอาน้ำผึ้งไปเป็นเมียหรอก” ภูวนาทพูดบอกไปแบบอดไม่ได้ เพราะเขาเองก็เป็นผู้ชาย เขาคิดว่าอย่างชาลิตอะไรนี่ต้องชอบเพื่อนของเขาแน่ๆ ไม่งั้นคนดีๆที่ไหนจะมาเอาแม่เลี้ยงตัวเองไปทำเมียกันล่ะ“เออจริง แกฉลาดมาทุกเรื่องนะน้ำผึ้ง แกจะมาโง่เรื่องนี้ไมได้ คิดจ้ะเพื่อนคิดดีๆ แกจะยอมถอยให้ผู้หญิงที่เขามีผัวไปแล้วทำไมห้ะ ตอนนี้แกเป็นเมียคุณใหญ่แล้วนะ แกควรจะไปต่อกับเขา ไม่ใช่มาคิดท้อใจอย่างนี้ แล้วแกก็ไม่ต้องคิดมากเรื่องนั้นหรอก อดีตก็คืออดีตเขาคงไม่กลับไปเอาเมียของน้องชายหรอกแก” มัทนาพูดบอกไปแบบให้เพื่อนสาวได้สติ“ก็จริงอ่ะแก ฉันคงจะคิดมากไป หรือว่าฉันจะเริ่มชอบเขาแล้วอ่ะ” ลลิสาพูดบอกไปแบบเริ่มรู้ใจตัวเองว่าเริ่มจะชอบชาลิตแล้ว เพราะเธอมีอาการหึ
ผ่านไปสองอาทิตย์ชาลิตและลลิสาก็ใช้ชีวิตแบบสามีภรรยากันอยู่ภายในเกาะรายา ทั้งสองก็พยายามปรับตัวเข้าหากันได้แบบสนิทสนมมากกว่าเดิม แถมลลิสายังเข้ามาช่วยงานชาลิตแบบเต็มตัวเพราะเบื่อหน่ายที่ต้องอยู่บ้านเฉยๆ เธอจึงไปช่วยชาวบ้านออกแบบร้านขายของตามชายหาดภายในเกาะ รวมไปถึงที่พักแบบโอมเตย์ของชาวบ้านอีกด้วย จนชาวบ้านที่นี่ชื่นชมและชอบลลิสามาก รวมไปถึงชาลิตด้วยที่ได้เห็นลลิสาในอีกด้านหนึ่งของเธอ“คุณใหญ่ฉันทำแพลนร้านค้าของชาวบ้านเสร็จแล้ว คุณจะดูเลยไหมคะ” ลลิสาถามออกไป เพราะเห็นว่าเขากำลังทำหน้าเครียดอยู่กับผู้รับเหมา ไข่นุ้ยและลุงมิ่งพ่อของชบาอยู่“เอาไปไว้ในห้องทำงานของผมก็ได้ เสร็จธุระตรงนี้แล้วผมจะไปดู อ่อ เดี๋ยวผมวานคุณหยิบเอกสารส่งของซองสีเหลืองในลิ้นชักฝั่งขวามือให้ผมด้วยนะ” ชาลิตเอ่ยบอกไปก็หันมาคุยงานต่อ เพราะตอนนี้มันก็ใกล้เวลาที่รีสอร์ทจะเสร็จสิ้นแล้ว เหลือแค่ตกแต่งเท่านั้น“ค่ะ เดี๋ยวน้ำผึ้งเอามาให้นะคะ” ลลิสาพูดบอกไปก็เดินไปที่ห้องทำงานของเขาที่อยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งมันจะมีวิวทะเลให้ดูแบบสบายตาพอถึงห้องทำงานของชาลิตแล้วเธอก็เอางานของเธอไปวางบนโต๊ะของเขา ก่อนจะหาซองสีเหลืองที่เขาบอกทั
コメント