“หนูเพิ่งไปทำนมมาใหม่ พอมันเข้าที่เข้าทางก็มาให้พี่จับเป็นคนแรกเลย” สาวหน้าใสในชุดนักศึกษาค่อย ๆ ปลดกระดุมเสื้อออกทีละเม็ดในท่วงท่ายั่วยวน และโนมเนื้อเต่งตึงขาวผุดผ่องเป็นยองใยก็เด้งออกมาท้าทายหนุ่มหล่อตรงหน้าที่จ้องมองมันแล้วกะพริบตาช้าๆ
น้องนุชชี่พริตตี้ตัวท็อป ขวัญใจป๋าสายเปย์ที่ผ่านสนามเซ็กซ์มาอย่างโชกโชน และเธอก็รู้ดีว่าไม่มีใครที่จะแซ่บเท่า ‘พี่ภาคย์’ เจ้าของผับเลาจน์และบาร์โฮสคนดังคนนี้อีกแล้ว
“ทำไมพี่ภาคย์ทำหน้าแบบนั้นล่ะคะ” คนนมโตเริ่มออกอาการสูญเสียความมั่นใจ เมื่อเห็นว่าสายตาของอีกฝ่ายไม่ได้มองว่ามันเร้าอารมณ์หรือชวนเชิญให้เขาสัมผัสเลยแม้แต่น้อย
“เอ่อ นม…นมของนุชชี่มันเล็กไปเหรอคะ นุชชี่หมดเป็นแสน แถมต้องรอคิวคุณหมอตั้งนาน” คนตัวเล็กนมโตที่นั่งอยู่บนเตียงในห้องสวีทหรูหรารีบปลดตะขอบราออกอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็ใช้สองมือบีบเคล้นเต้านมไซส์ใหม่พร้อมกัดปากยั่วให้เขาเอา
“ยั่วขนาดนี้ยังยืนเฉย เอ…หรือว่า…หรือว่าพี่ภาคย์จะเซ็กซ์เสื่อมซะแล้ว” น้องนุชชี่ที่คิดถึงลีลาการขยับโยกเอวอันเผ็ดร้อนของอีกฝ่ายเปล่งเสียงสูง “นี่พี่ภาคย์เสื่อมสมรรถภาพทางเพศไปแล้วงั้นเหรอคะ” เจ้าหล่อนมั่นใจในความสาวความสวยของตัวเองเหนือสิ่งอื่นใด หากยั่วถึงขนาดนี้แล้วผู้ชายยังไม่พุ่งตัวเข้ามาหานั่นก็แปลว่าผู้ชายคนนั้นคงจะเซ็กซ์เสื่อมหรือไม่ก็เป็นเกย์
ภาคย์ได้แต่ยืนนิ่ง ชายหนุ่มรู้สึกว่าอารมณ์และความต้องการทางเพศของตัวเองเปลี่ยนแปลงไป ภาคย์เริ่มเบื่อผู้หญิง เริ่มอยากเข้านอนตอนหัวค่ำมากกว่ามีเซ็กซ์ เหมือนท่องยุทธภพและฝึกวิทยายุทธมาจนโชกโชนเลยอยากอยู่นิ่ง ๆ ถือศีลสงบ ๆ
“พี่ว่า เราห่างกันสักพักก่อนนะนุชชี่ คืนนี้พี่ไม่มีอารมณ์” น้ำเสียงของเขาเรียบนิ่ง ทว่าสายตายังคงดูดุดันลุ่มลึกเหมือนเช่นเคย
“พี่ภาคย์ พี่ภาคย์!!” ทันทีที่อีกฝ่ายหันหลังหมุนตัวก้าวออกไปยังประตู เสียงแหลมเล็กก็ร้องเรียกเขาในทันที “พี่ขอโทษก็แล้วกัน แล้วก็…ขอบคุณนะที่มาให้พี่ดูนมเป็นคนแรก”
หนุ่มใหญ่ใจนักเลงลงลิฟท์มาสูดอากาศ มือใหญ่ล้วงไฟแช็กขึ้นมาจุดตรงปลายมวนบุหรี่ที่คาบคาเอาไว้ในปากก่อนจะสูดสารนิโคตินเข้ม ๆ เข้าปอดแล้วพ่นให้ควันสีเทาพวยพุ่งออกมา “หรือว่ากูจะเซ็กซ์เสื่อมเหมือนที่นุชชี่ว่าจริงๆ วะ” คิดพลางนึกขำตัวเอง ในขณะที่เพื่อนสนิทต่างทยอยแต่งงานมีครอบครัวกันไปเกือบหมด เขากลับเริ่มรู้สึกเบื่อโลกขึ้นมาเสียอย่างกระทันหัน!
ครืด~ เสียงโทรศัพท์ในกระเป๋าดึงเขาออกจากภวังค์ “แม่โทรมา” เมื่อเห็นว่าคนโทรมาคือคุณหญิงพลอยไพลินผู้เป็นแม่ภาคย์ก็ส่ายหน้าเบาๆ
คุณหญิงพลอยไพลินรบเร้าให้เขาแต่งงานมีลูกเมียอยู่นานหลายปี เจอกันกี่ทีก็ถามว่าเมื่อไหร่จะแต่งงาน ทว่าจนแล้วจนรอดก็ยังไม่มีวี่แวว จนกระทั่งเช้าวันนี้คุณหญิงก็เอาวันเดือนปีเกิดของภาคย์ไปให้พระอาจารย์ชื่อดังลองทำนายดวงดูว่า เมื่อไหร่ลูกชายคนเดียวของเธอจะได้เจอเนื้อคู่…จะได้เป็นฝั่งเป็นฝา มีเมียเป็นตัวเป็นตน มีหลานน่ารัก ๆ มาให้คนเป็นย่าได้อุ้มชูดูแลให้กระชุ่มกระชวยหัวใจบ้าง
“สวัสดีครับแม่” ชายหนุ่มรับโทรศัพท์ด้วยโทนเสียงเรียบนิ่ง
[ ภาคย์ พรุ่งนี้เช้าแกมาหาแม่หน่อย แม่มีเรื่องสำคัญมากจะคุยด้วย]
ปากหยักกระตุกยิ้มเบื่อหน่ายพร้อมกับดูดควันจากมวนบุหรี่เข้าปอดอีกครั้ง “พรุ่งนี้ผมไม่ว่าง”
[ดี งั้นแกก็เข้ามาคืนนี้เลย]
“แม่!” ภาคย์ตะเบ็งเสียงเข้มใส่โทรศัพท์ ก่อนจะดับบุหรี่แล้วเดินไปยังเอสยูวีคันสีดำที่จอดอยู่ไม่ไกล
โรคประจำตัวของแม่มีทั้งเบาหวานและความดัน คุณหมอก็สั่งเอาไว้ว่าช่วงนี้ห้ามเครียด ชายหนุ่มจึงไม่มีทางเลือก
ก็ได้! งั้นขับรถไปฟังแม่บ่นให้จบแล้วค่อยกลับไปนอนก็แล้วกัน
“อะไรนะแม่ บวช!! แม่จะให้ผมไปบวช เดี๋ยวก่อนแม่! ไปบวชแล้วจะเจอเนื้อคู่เนี่ยนะ บ้ากันไปใหญ่แล้ว”
ภาคย์วางถ้วยชาลงบนโต๊ะเสียงดัง จากนั้นก็ยืนตัวตรง ยกสองมือขึ้นเท้าเอว ก่อนจะนึกได้ว่าคนตรงหน้าคือแม่บังเกิดเกล้า และแม่ก็คงอยากจะเห็นเขาเป็นฝั่งเป็นฝาจริงๆ เสียที
“ก็แม่….แม่อยากอุ้มหลาน อยากให้ลูกชายวัยเข้าเลขสี่ได้เจอเนื้อคู่ แม่อยากจัดขบวนขันหมาก อยากหอบเงินหอบทองยกพานสินสอดไปสู่ขอเมียให้ลูก สินสอดแม่ทุ่มไม่อั้น แม่ขอบอกเอาไว้ตรงนี้เลย” คุณหญิงพลอยไพลินเอ่ยเสียงอ่อน แววตาวูบไหวราวกับจะร้องไห้ออกมา
ภาคย์ได้แต่หัวเราะลั่นในใจ หึ! ไปบวชเป็นพระแล้วจะเจอเนื้อคู่ นี่มันเรื่องไร้สาระชัด ๆ
ภาคย์คว่ำหวอดอยู่ในวงการธุรกิจสีเทามานานเกินไป เห็นเรื่องราวคาวโลกีย์มามากมายนับไม่ถ้วน มีผู้หญิงเข้ามาในชีวิตมากหน้าหลายตา ทว่าเขาไม่รู้สึกอยากแต่งงานกับสาวๆ พวกนั้น ไม่แม้เพียงจะคิด พวกเธอก็แค่ลุ่มหลงในสังคมวัตถุนิยม คบกับเขาเพื่อเงิน บางคนก็มานอนกับเขาแล้วรับเงินจากเขาเพื่อไปเปย์ให้หนุ่ม ๆ อีกทอดหนึ่งก็มี
หนุ่มใหญ่หัวใจไร้รักคนนี้ก็เลยยังโสดจนพ่อกับแม่ที่แก่ตัวลงทุกวันเป็นห่วงหนักขึ้นเรื่อยๆ
รอยสักแบบนี้เธอจำได้ดี มันไม่เหมือนใครและไม่มีใครเหมือน และเธอก็ชอบมันมาก ลวดลายมันยังคงติดตาเธอมาถึงตอนนี้“เอ่อ รอยสักของพี่ลายนี้ สวยจังเลยนะคะ” หญิงสาวเริ่มตะกุกตะกักเมื่อพบว่าเธอเคยเห็นรอยสักลวดลายแบบนี้มาก่อน“อืม พี่ออกแบบคิดค้นขึ้นมาเอง มีที่เดียวในโลก หนูไม่มีทางไปเจอมันบนตัวของผู้ชายคนไหนอีกอย่างแน่นอน” ภาคย์อมยิ้ม เขาอ่านประกายสายตาของเธอออก ต้องมนตร์ดูตกใจ เหมือนกำลังนึกบางอย่างขึ้นมาได้“ใช่…ใช่คนเดียวกันแน่ๆ” ทั้งดวงตาและใบหน้าที่เธอเคยประทับใจ ทั้งน้ำเสียงนุ่มๆ ทั้งความรู้สึกคุ้นเคยตอนเจอกันต้องมนตร์อยากจะเขกหัวตัวเองหนัก ๆ อีกรอบก็แล้วใครมันจะไปคาดคิดกันละว่าจะเป็นเขาคนนั้น ตอนที่เจอกันครั้งแรกเขาเป็นพระ ส่วนครั้งต่อมาเขาดันไปปรากฏตัวบนเวทีในบาร์โฮส“หลวงพี่ แล้วทำไมหลวงพี่ถึง…”“พี่ไม่ได้เป็นพระแล้ว เรียกพี่ภาคย์ก็พอ”เธอจ้องหน้าเขาแล้วยิ้มกว้าง รู้สึกดีใจเหลือเกินที่ตอนนี้เขาไม่ได้เป็นพระเหมือนกับตอนนั้น ความอบอุ่นวาบหวามแผ่ซ่านขึ้นมาอย่างประหลาด“หลวงพี่เคยบอกหนูว่า…คนเราพอมีรักก็ย่อมมีทุกข์ แต่ว่าตอนนี้หนูมีความรักอีกแล้ว…. หนูควรจะทำตามหัวใจของตัวเองใช่ไหมคะ หลว
“ใจเย็นก่อนหนู” ภาคย์เอ่ยพลางอมยิ้ม เมื่อคนตัวเล็กเข้ามานั่งข้าง ๆ ในรถแล้วสวมกอดเขาในทันที….ใครจะไปใจเย็นไหว คิดถึงจะแย่แล้วเนี่ย ต้องมนตร์เพียงแค่คิดแต่ไม่ได้พูด เธอยื่นสองมือไปโอบประคองสองข้างแก้มของเขาในท่วงท่ามันเขี้ยว ก่อนจะขยับใบหน้าเข้าไปใกล้ ๆ แล้วเอ่ยด้วยน้ำเสียงออดอ้อนว่า “จูบหนูหน่อย จูบหนูหน่อยนะคะ…นะคะ”ต้องมนตร์นอนไม่หลับมาตั้งสามคืนเพราะเขา และเขาก็ต้องรับผิดชอบ“อื้อ” คนจูบเก่งรีบจัดให้โดยไม่อิดออด ทั้งขยับดูดเน้นย้ำ ๆ ทั้งสอดใส่ปลายลิ้นเข้าไปปั่นป่วนในโพรงปากเธออย่างซุกซน“หนูคิดถึงพี่มาก ๆ เลย” หญิงสาวรีบสารภาพ“แล้วพี่ล่ะ คิดถึงหนูบ้างไหมคะ” เมื่อเห็นอีกฝ่ายยังเงียบอยู่ต้องมนตร์ก็ยิงคำถามต่อไปใส่ทันที“คืนนี้ให้พี่ดูแลหนูอีกนะ” สำหรับต้องมนตร์แล้วทั้งน้ำเสียงออดอ้อนและสายตาที่ดูโหยหาเธอนั้นใช้แทนคำตอบได้เป็นอย่างดี “ไปบ้านพี่ไหม….”“ไปค่ะ…ถ้า….” แววตาของเธอมีความลังเลปะปนอยู่ในนั้น “ถ้าอะไร”“ถ้าพี่ยังโสด…”ภาคย์คลี่ยิ้มลุ่มลึกก่อนจะออกรถ ในขณะที่หญิงสาวก็คิดว่าความลึกลับที่ซุกซ่อนอยู่ในความเปิดเผยจริงใจของเขานี่แหละคือเสน่ห์เฉพาะตัวของชายหนุ่ม “หนูชอบพี่ สองสามวั
ตัดภาพไปที่ต้องมนตร์ เธอโมโหตัวเองจริงๆ เธอบอกหมายเลขห้องให้เขาไปอย่างละเอียด แต่ดันไม่ขอเบอร์ติดต่อของเขาหรือแลกไลน์กันเนี่ยนะ! จะบ้าตาย!เอาน่า…. ถึงยังไงก็ต้องทำใจ มันก็แค่การอ๊อฟหนุ่มโฮสมาเดทแค่ชั่วคราว ถึงแม้ว่าเขาจะไม่คิดค่าตัวแล้วก็ออกเงินเลี้ยงเธอทุกอย่างก็ตามเถอะ!พรุ่งนี้พอตื่นเช้ามาทุกอย่างก็กลับสู่โลกของความเป็นจริงแล้ว หากวันหลังเกิดเหงาขึ้นมาก็ค่อยไปเที่ยวที่บาร์โฮสแห่งนั้นอีกครั้งก็ได้คิดแล้วเธอก็อาบน้ำนอน กอดหมอนข้างฝันหวานถึงรสจูบอันหวานซึ้งของเขาอย่างพร่ำเพ้อ…งือ….ถ้ามีเขาคอยนอนกอดทั้งคืนก็คงจะดีหลังจากสองคืนที่เธอคิดถึงเขาแทบบ้าผ่านพ้นไป ต้องมนตร์ก็พบว่าตัวเองมายืนอยู่ตรงหน้าบาร์โฮสแห่งนี้อีกครั้ง และครั้งนี้เธอก็มาคนเดียวหัวใจดวงน้อยเรียกร้องให้หญิงสาวก้าวเท้าเข้าไปข้างใน และถึงแม้ว่าจะมีหนุ่มหล่อเดินผ่านตาไปมา ทว่าหญิงสาวก็ไม่ว่อกแว่ก เพราะคนที่เธอต้องการมาพบในคืนนี้นั้นคือเขาแค่คนเดียว“วันนี้จะรับกี่ดื่มดีครับ” เสียงทุ้มนุ่มของพีอาร์หนุ่มลอยมาเข้าหูหญิงสาวทันทีที่เธอหย่อนตัวลงนั่งบนโซฟา ทว่าแววตาของเธอกลับล่องลอยเหม่อมองไปบนเวทีพี่เขาไม่อยู่ที่นั่น ไม่มีแม้แ
บนที่นั่งที่ดีที่สุดในโรงภาพยนตร์วีไอพี หนังรอบดึกเริ่มฉาย และหลายคู่รักก็เริ่มพลอดรักกันอย่างสวีทหวานชื่น บางคู่ก็เริ่มลูบหัวกันอย่างรักใคร่เอ็นดู บางคู่ก็เริ่มล้วงควักกอดจูบกันนัวเนียต้องมนตร์เองก็เริ่มเอนกายซบหนุ่มโฮสต์รุ่นใหญ่ที่ตัวเองอ๊อฟมา หญิงสาวเลือกดูหนังรักโรแมนติกที่มีฉากเลิฟซีนค่อนข้างเยอะ และวินาทีนี้….สำหรับต้องมนตร์แล้ว พระเอกฮอลลีวูดรุ่นใหญ่ขวัญใจสาว ๆ ทั่วโลกที่กำลังยิ้มกว้างอยู่บนจอก็ไม่น่าดึงดูดใจเท่ากับเจ้าของบ่าอุ่นที่นั่งอยู่ข้าง ๆ“ชอบรุ่นใหญ่เหรอเราน่ะ” ภาคย์เหลือบมองคนตัวเล็กที่ยิ้มพริ้มซบบ่าเขาอยู่ เธอดื่มไวน์จนพวงแก้มกลายเป็นสีชมพูระเรื่อ แถมยังหาวยาว ๆ เพราะง่วงนอน พอมองไปมองมาภาพที่เธอเคยนอนหมดเรี่ยวหมดแรงอยู่ในศาลาวัดก็ย้อนกลับเข้ามาในหัวจนเขาต้องกลั้นขำ“จะรุ่นเล็กหรือรุ่นใหญ่ อายุก็เป็นเพียงตัวเลขทั้งนั้นแหละค่ะ” ต้องมนตร์เอ่ยพร้อมกับช้อนสายตาหวานเยิ้มขึ้นมองเขา“ไหนบอกจะดูหนัง แล้วทำไมถึงเอาแต่จ้องหน้าพี่” ภาคย์ดูหนังไม่รู้เรื่อง เพราะหน้าหล่อ ๆ โดนสาวสวยที่ควงมาจ้องเอา ๆ“เอ่อ….” ต้องมนตร์ที่รู้สึกว่าตัวเองกำลังตกหลุมรัก พยายามดึงตัวเองให้หลุดออกมาจา
“พอ ๆ พอได้แล้ว รีบไปกันเถอะ” ภาคย์ตัดสินใจดับบุหรี่ ส่วนต้องมนตร์ก็ควงแขนเขาเดินไปยังรถยนต์คันเล็กๆ ของเธอ และพอไปถึงภาคย์ก็ดึงกุญแจรถจากมือเธอมาไว้ในมือตัวเองทันที“เดี๋ยวพี่ขับให้เอง หนูกินเหล้าไปตั้งขนาดนั้น นั่งฟังเพลงในรถเฉย ๆ ก็พอ จะเริ่มจากชอปปิง กินข้าวแล้วก็ดูหนังรอบดึกใช่ไหม”“ค่ะ” ต้องมนตร์อมยิ้มพร้อมพยักหน้าหงึกหงัก พอภาคย์เปิดประตูรถให้เธอก็รีบเข้าไปนั่งพร้อมรัดเข็มขัดนิรภัยอย่างรวดเร็ว หลังจากขยับเลื่อนเบาะตรงที่นั่งคนขับให้พอดีตัวแล้ว ภาคย์ก็ออกรถอย่างช้าๆ ไม่ลืมดึงมือเธอมากุมไว้ในแบบที่หนุ่มโฮสเขาชอบทำกันต้องมนตร์รู้สึกอบอุ่นหัวใจจนหน้าแดง พอนึกแล้วก็อยากจะรวยมากๆ เพราะหากซื้อตัวเขามาเป็นเพื่อนเที่ยวได้ทุกคืนแบบนี้ก็คงจะดภาคย์ขับรถไปยังห้างหรูที่มีทำเลตั้งอยู่ใกล้บาร์โฮสของเขามากที่สุด เพราะจะได้ชอปปิง กินข้าวและดูหนังเสร็จสรรพจบครบในที่เดียวต้องมนตร์ควงแขนภาคย์เดินเล่นในห้าง และอาการเมาไม่สร่างก็ทำให้หญิงสาวอารมณ์ดีและกล้าหาญชาญชัยในการเต๊าะผู้ชาย พอเห็นเงาสะท้อนจากบานกระจกหญิงสาวก็นึกขำ ผู้ชายที่เธอออฟมาดูไม่เหมือนหนุ่มโฮสเลยสักนิด เขาดูรวย ดูเหมือนกับป๋า ที่ควงเ
“เอา!!! คืนนี้ฉันจะออฟด้วย แกก็ไปหาผู้ชายของแก ส่วนฉันก็ไปหาผู้ชายของฉัน พอได้ผู้ชายแล้วก็แยกย้ายเลยละกัน” ต้องมนตร์หันไปกระซิบเพื่อน ในขณะที่สายตายังคงวนเวียนอยู่ที่หนุ่มใหญ่บนเวทีนี่เธอก็เข้าใจผิดมาตลอดว่างานนี้เขาจำกัดอายุ ไม่นึกเลยว่าเขาจะรับทุกรุ่น แล้วเธอก็ดันชอบรุ่นใหญ่เนี่ยนะ…“ถูกใจคนไหนก็รีบเลยนะแก ก่อนที่จะโดนแย่ง” เพื่อนรีบเอียงคอมากระซิบบอก“เอา…เอาคนนี้แหละ” ต้องมนตร์ยิ้มเขิน ชูมือขึ้นทำเป็นปืนแล้วเล็งไปทางเขา จากนั้นก็ยกแก้วเหล้าขึ้นซดอย่างครึกครื้น“ไหน…ไหนแกเล็งคนไหนเอาไว้”“ก็คนนั้นไง คนแก่ ๆ นั่นน่ะ” ดูเหมือนว่าคนที่อยู่บนเวทีนั้นจะยังไม่รู้ตัว ว่ามีสาวน้อยน่ารักหมายตาอยากได้เขามาเอาอกเอาใจตัวเองในคืนนี้ภาคย์ที่ตอนแรกกะจะมาตรวจงาน ตอนนี้กลับแฝงตัวเป็นหนุ่มโฮสรุ่นใหญ่ที่เต้นอย่างสนุกสนานอยู่บนเวที พอมาเห็นบรรยากาศแล้วก็พอใจ เดี๋ยวพอลงจากเวทีแล้วกะว่าจะไปนั่งจิบไวน์ชิลล์ ๆ ที่ผับอีกแห่งต่อ….แต่ทว่า พอลงจากเวทีก็มีสาวตัวเล็ก ๆ หน้าตาน่ารักมายืนดักทางเอาไว้ในทันที“คืนนี้หนูออฟพี่นะคะ”ภาคย์ตกใจ ใบหน้าคมคายชะงักงันไปชั่วครู่ วินาทีแรกก็ตกใจด้วยไม่นึกว่าจะมีสาวน้อยมาสน
ต้องมนตร์นั่งจิบกาแฟยามบ่ายอยู่ที่ร้านกาแฟของเพื่อนสนิท เพื่อนเปิดร้านกาแฟข้างทางชื่อร้านว่า ‘พ่อไม่รู้ว่าหนูเป็นตุ๊ด’ และตอนนี้สภาพจิตใจของคนเคยอกหักก็ดีขึ้นมาก มากจนเรียกว่าหายเป็นปกติแล้วก็ว่าได้“คืนนี้ว่างไหม ไปกินเหล้ากัน” หญิงสาวเอ่ยเจื้อยแจ้ว ตั้งแต่เมาแล้วเลี้ยวรถเข้าวัดในวันนั้น ต้องมนตร์ก็ไม่ได้แตะเหล้าอีกเลย “แล้วทำไมจู่ ๆ ถึงนึกอยากกินเหล้า” เพื่อนสาวสองที่ชงกาแฟให้ลูกค้าหนุ่มหล่ออยู่หันมาถาม “ก็ฉลองที่ตัดใจได้ ไม่เหลือความเศร้าอะไรแล้วไง” ดวงตาทอประกายมีความสุขก่อนจะพุ่งเข้าไปกอดเพื่อนแล้วบอกว่า “นะ นะ แกคืนนี้พาไปเที่ยวหน่อย”“ไม่ว่าง นัดผู้ชายเอาไว้”“หูย! ทำไมตอบกันแบบไม่มีเยื่อใยอย่างนี้” หญิงสาวย่นจมูกให้เพื่อน ก่อนจะพุ่งเข้าไปโอบกอดเขาอย่างออดอ้อนอีกครั้ง “ไปด้วยกันนะแก ถ้าฉันเมาแล้วใครจะดูแล”“หล่อนน่ะกระเป๋าหนักหรือเปล่า”“ถ้าหมายถึงมีเงินเยอะไหมล่ะก็…เยอะมาก นี่แหละสวยและรวยมากของแท้” ฐานะทางการเงินของต้องมนตร์จัดได้ว่าอยู่ในระดับมหาเศรษฐี ครอบครัวของหญิงสาวเป็นเจ้าของธุรกิจร้านอาหารญี่ปุ่นสไตล์โอมากาเสะ หญิงสาวเป็นลูกคนเล็กของบ้าน มีนิสัยไม่ชอบอยู่ในกรอบ แตกต่า
“เดี๋ยวนี้หนุ่ม ๆ ไม่ค่อยมาบวชกันหรอก หลวงพี่นี่แหละเป็นพระที่อายุน้อยที่สุดในวัด ที่เหลือก็หลวงตาอีกสี่ห้ารูป” พระหนุ่มใหญ่ใจนักเลงหันไปพูดเสียงเข้ม ส่วนหญิงสาวที่กำลังยืนกวาดใบไม้อยู่ห่างๆ ก็คลี่ยิ้มน้อยๆ“หลวงพี่มาบวชนานเหรอยังคะ อกหักเหมือนหนูแล้วมาบวชหรือเปล่า” คนตัวเล็กหันมาส่งเสียงเจื้อยแจ้วถามด้วยความสงสัย “หึ!” พระภาคย์เอาแต่อมยิ้ม หากจะให้บอกไปว่าแม่สั่งให้มาบวชเพราะพระอาจารย์ทักว่าถ้าบวชแล้วจะเจอเนื้อคู่ก็กลัวว่าเธอจะมองเป็นเรื่องไร้สาระ“อาตมาไม่ได้อกหัก อาตมามาบวชเพราะอยากจะอยู่แบบสงบ ๆ สักพัก ส่วนโยมก็….รีบ ๆ ตัดใจแล้วหาแฟนใหม่ซะ” พระภาคย์ไม่ถนัดปลอบใจใคร ก็เลยแนะนำให้โยมสาวสวยมีรักใหม่ไปเสียให้มันจบๆ“จริงด้วยสิคะ! หนูคงต้องรีบหาแฟนใหม่ แต่หลวงพี่ก็พูดเหมือนกับว่ามันหาได้ง่าย ๆ อย่างนั้นแหละ”“แฟนใหม่หาไม่ยาก แต่ที่หายากคือแฟนดีต่างหากล่ะโยม”“แล้วหลวงพี่มีเพื่อนดี ๆ แนะนำให้หนูรู้จักมั้ยคะ แบบที่ไม่ได้เป็นพระเหมือนกับหลวงพี่น่ะค่ะ”พระภาคย์กระตุกยิ้ม รุ่นนี้แล้ว… ส่วนใหญ่ถ้าไม่แต่งงานมีลูกมีเมียกันไปหมดก็เป็นเกย์“แล้วแฟนเก่าเขาทำไว้กับโยมยังไงบ้างเหรอ” ที่ถามนั้นไม่ได
“หนูชื่อต้องมนตร์ค่ะหลวงพี่ เมื่อคืนนี้ถ้าไม่ได้หลวงพี่ช่วยไว้ล่ะก็หนูแย่เลย”ต้องมนตร์ในสภาพเมาค้างคลี่ยิ้มให้พระภาคย์พร้อมยกมือขึ้นพนมไหว้ ดวงตายังคงเยิ้มและฉ่ำปรือ เมื่อคืนเมาแล้วร้องไห้จนตาบวม แถมยังลุกขึ้นส่งเสียงโหวกเหวกโวยวายจนทางร้านรีบไล่ให้กลับเพราะรบกวนลูกค้าคนอื่น“ไม่เป็นไรหรอกโยม แล้วเมื่อคืนโยมนอนที่ศาลาวัดหลับสบายดีไหม”“ก็…มีตื่นขึ้นมาแล้วปวดหลังนิดนึงค่ะหลวงพี่”เมื่อคืนนี้พระภาคย์บอกให้เด็กวัดเอาหมอน เสื่อและผ้าห่มมาให้ต้องมนตร์ที่ศาลาวัด ตามด้วยพัดลมกับยากันยุง“เมื่อคืนนี้โยมเมามาก อาตมาเห็นโยมทะเลาะอยู่กับหมาวัดตั้งนานกว่าจะนอน โยมส่งเสียงดังโวยวาย อาตมาคิดว่าโยมน่าจะโกรธแค้นใครมาสักคนแล้วเอาอารมณ์มาลงที่หมาวัดของอาตมา”พระภาคย์กลั้นขำตอนพูด ส่วนอีกฝ่ายได้แต่ทำหน้าตาเลิ่กลั่ก“เอ่อ…” ต้องมนตร์พูดอะไรไม่ออก ได้แต่คิดว่าเมื่อคืนไม่น่ากินเหล้าเข้าไปมากขนาดนั้นเลย“ว่าแต่ชื่อเพราะดีนะโยม ต้องมนตร์หรือว่าต้องคุณไสยกันแน่” พระหนุ่มอมยิ้ม ก่อนจะพยายามปั้นสายตาเปี่ยมเมตตามองหญิงสาว“ต้องมนตร์สิคะ ต้องคุณไสยอะไรกันคะหลวงพี่!” ต้องมนตร์ไม่อยากต่อปากต่อคำกับพระ เลยเบนสายตาไป