“รอยกระสุน... อ๊ายยยยย! จอดรถเดี๋ยวนี้นะ! จอดรถเดี๋ยวนี้! จอด!”
เนตรชนกกรีดร้องตบเบาะปากก็ตะโกนให้เขาจอดรถ หล่อนทนอยู่ร่วมรถกับผู้ชายคนนี้ไม่ไหวแล้ว มาวันแรกก็เสี่ยงตาย แล้วยังไม่รู้เลยว่าจะกลับถึงบ้านหรือเปล่า
“นี่คุณ! อะไร! จะบ้าหรือไง!”
“นายนั่นแหละบ้า ฉันบอกให้จอดรถ! จอด! ไม่จอดใช่ไหม...”
ฝ่ามือเคลื่อนจากเบาะก่อนจะกระชากแขนคนขับรถอย่างแรง แต่เขากลับเบรกเอี๊ยดจนหน้าหล่อนคะมำถลาขึ้นไปเกยอยู่ที่อกเขา ขาก็ชี้โด่เพราะสะโพกเข้าไปติดระหว่างเบาะ
“ว้าย! ไอ้บ้า! ว้าย! ว้าย!”
“นี่คุณ! คุณ! หยุดโวยวายสักที หยุด!”
“ไอ้บ้า! ปล่อยฉันนะ ปล่อยฉัน! ฉันไม่ไปตายกับนายแน่ ฉันจะกลับบ้าน ปล่อยสิ! ขยับไป!”
“คุณ! แหกตาดูสิ คุณเองที่เกยมาอยู่บนอกผม ผมไปจับคุณเมื่อไร!”
“นาย... ก็นาย ไอ้บ้า!”
เนตรชนกขยับสะโพกให้ก้นถอยไปที่เบาะและค่อยๆ ยันตัวเองให้ออกห่างจากเขา แต่ยิ่งดิ้นทั้งหน้าตัวและหน้าอกก็ยิ่งเสียดสีให้หล่อนดิ้นไปกรี๊ดไป กว่าจะกลับมานั่งที่เบาะได้ก็ทุลักทุเล
“ฉันจะบอกพ่อให้ไล่นายออก เพราะนายทำให้ฉันเกือบตายไปกับนายด้วย พ่อไม่น่าใช้คนอย่างนายมารับฉันเลย ถ้าพ่อฉันรู้ว่านายถูกคู่อริตามฆ่าจนฉันเกือบจะถูกลูก...”
บางคำที่ค้างอยู่ริมฝีปากยากจะเอ่ยออกไป เพราะนี่คือสิ่งที่พ่อกลัวและแค่วันแรกที่หล่อนมาเยือนเมืองไทย หล่อนก็เกือบไปแล้ว แต่มันจะไม่มีวันเกิดขึ้นอีกแน่ถ้าทุกคนจะรอบคอบ
“นายทำให้ฉันเกือบต้องตาย พ่อไม่เอานายไว้แน่... ยิ้มอะไร!”
คนขับรถที่แค่นยิ้มมุมปากทำให้เนตรชนกปรี๊ดแตก แต่ไม่ว่าหล่อนจะปรี๊ดอย่างไร คนขับหน้านิ่งก็ไม่ปริปากแต่กลับเคลื่อนรถออก แต่มีหรือว่าคนอย่างหล่อนจะยอม มือจับประตูด้านในคลำหาปุ่มปลดล็อก แต่ยังไม่ทันได้เปิด สัญญาณไฟเลี้ยวขวาก็สว่างวาบ และนั่นก็ทำให้เนตรชนกสบถออกมาอย่างหัวเสียเพราะ... ถึงบ้านหล่อนแล้ว
“ฉันจะบอกพ่อให้ไล่นายออกแน่ นายทำให้ฉันเสี่ยงตาย”
“งั้นคุณหนูโปรดแหกตาดูชัดๆ ด้วยนะครับ ว่าไอ้กระสุนน่ะ มันจงใจฆ่าใคร”
“นาย...” ดวงตาวาววับกวาดมองกระจกรอบด้านอีกครั้ง และไฟสว่างจากหน้าคฤหาสน์ก็ทำให้รู้ว่าร่องรอยของกระสุนนั้นมากสุดที่ตำแหน่งกระจกหลังคนขับ นั่นก็เท่ากับว่า...
“ถึงยังไงพ่อก็ต้องไล่นายออก เพราะนายแข็งกระด้างกับฉัน”
“จะรอ”
“นาย!”
ผู้ชายบ้าๆ นั่นจอดรถหน้าบันได ลงจากรถและโยนกุญแจให้กับชายร่างสูงอีกคนที่ก้าวออกมาจากตึกในทันทีที่เห็นรถเลี้ยวผ่านประตูรั้วอัลลอยด์เข้ามา
“เอารถเข้าศูนย์ด้วย”
“นี่นาย! นาย! ไอ้บ้า!”
เนตรชนกลงจากรถหวีดร้องพร้อมตะโกนด่า แต่ผู้ชายคนนั้นกลับเดินเยื้องไปด้านหลังไม่มีสักนิดจะเอี้ยวหน้ากลับมามอง
“อึ๊ยยยยย... พ่อฉันอยู่ไหน”
“ท่านรออยู่ครับคุณเนเน่”
น้ำเสียงสุภาพและท่าทีนอบน้อมของคนตรงหน้ายิ่งทำให้เนตรชนกฉุนเฉียวแต่ไม่ใช่กับเขาคนนี้เป็นอีกคนที่เดินลับไปอย่างไม่สนใจหล่อนต่างหาก
.
.
“เนเน่ไม่ยอม คุณพ่อต้องจัดการให้เนเน่”
“แล้วจะให้พ่อจัดการยังไง เนเน่ก็เห็นว่ามันเป็นไปตามที่พ่อบอก เนเน่ไม่ควรกลับมาเมืองไทยตอนนี้”
“อ้าว! แล้วคุณพ่อจะมาโทษเนเน่ได้ยังไงคะ คุณพ่อรู้ได้ยังไงว่าไอ้มือปืนนั่นมันตั้งใจจะยิงเนเน่ เนเน่ไม่รู้จักใครที่นี่นะคะ จู่ๆ มันจะมายิงเนเน่ได้ยังไง ใครกันแน่คะที่มันอยากยิงให้ตายอะ แถมยังพาความซวยมาหาเนเน่อีก คุณพ่อนั่นแหละไม่ควรให้นายนั่นเป็นคนไปรับเนเน่เลย ถ้าเนเน่ตายไป คุณพ่อจะว่ายังไง”
เนตรชนกพูดฉอดๆ แม้หลักฐานกระสุนที่เจาะกระจกจะมากสุดที่ด้านหลังฝั่งคนขับ แต่หล่อนก็ยังเชื่อว่าเป้าหมายไม่ใช่หล่อน เพราะไม่มีเหตุผลเลยที่ใครจะต้องการฆ่าหล่อนให้ตาย หล่อนไม่รู้จักใคร และที่สำคัญหากมีคนอยากให้หล่อนตายจริงๆ ก็ต้องเป็นคนใกล้ตัวที่รู้ว่าหล่อนจะกลับมาเมืองไทยวันนี้ ซึ่งนั่นก็มีแค่พ่อของหล่อนคนเดียว เพราะหล่อนไม่มีใคร พ่อไม่เคยแนะนำให้หล่อนรู้จักญาติทางเมืองไทยเลยสักคน
“เฮ้อ! เอาล่ะเอาล่ะ เดี๋ยวพ่อจะจัดการให้ เนเน่มาเหนื่อยๆ ขึ้นไปพักผ่อนก่อนเถอะ เดี๋ยวพรุ่งนี้ค่อยว่ากัน”
ท่าทางเหนื่อยใจทำให้หล่อนยิ่งเดือด พ่อควรรับฟังและปกป้องหล่อน ไม่ใช่แสดงท่าทางหนักใจแบบนี้
“ไม่ค่ะ เนเน่ต้องการคำตอบวันนี้และก็เดี๋ยวนี้ด้วยว่าคุณพ่อจะไล่นายนั่นออกหรือเปล่า คุณพ่อคะ!”
“พ่อคงทำแบบนั้นไม่ได้หรอกเนเน่”
“ทำไมล่ะคะ นี่คุณพ่อเห็นนายบอดี้การ์ดนั่นสำคัญกว่าเนเน่ที่เป็นลูกสาวเหรอคะ”
“ไม่ใช่เนเน่ ไม่ใช่ว่าพ่อเห็นนิรยะดีกว่าลูก”
“อ๋อ... นายนั่นชื่อ ‘นิรยะ’ เหรอคะ นรกจริงๆ”
นารถมองลูกที่เติบโตเป็นสาวสวยสะพรั่ง ที่เขายอมให้ลูกกลับมาก็เพราะคิดว่าเนตรชนกเติบโตเป็นผู้ใหญ่แล้ว และการกลับมาอยู่ในหูในตาย่อมดีกว่าห้ามแล้วเนตรชนกเข้ามาเมืองไทยโดยที่เขาไม่รู้
“เพราะเนเน่ทำให้พี่เปลี่ยนใจ พี่ยังยืนคำเดิมว่าพี่ทำทุกอย่างเพื่อเรา พี่ถึงให้ทางเลือกเขา แต่ถึงเขาไม่รับ พี่ก็ไม่คิดจะเอาชีวิต เพราะพี่รู้แล้วว่าคนที่สูญเสียไม่ได้มีแค่พี่ พ่อ และพี่อร แต่ยังมีเนเน่ด้วย พี่เลยส่งหลักฐานทุกอย่างไปให้เจ้าหน้าที่ ให้กฎหมายจัดการเขา เพราะพี่รู้ว่าคนอย่างเขาหากหมดอำนาจก็ไม่ต่างจากตายทั้งเป็น นั่นคือการแก้แค้นที่ยุติธรรมที่สุดสำหรับพี่แล้ว”ดวงตาคมเข้มฉายแววรักและเข้าใจทอดมองเนตรชนกที่หลับตาพิงศีรษะกับเสาศาลาริมทะเล ปลดปล่อยหยาดน้ำตาหลั่งไหลลงมาเป็นสาย นรกานต์ขยับเข้าใกล้กระชับฝ่ามือที่กอบกุมกระโปรงตนเองแน่นให้คลายออก เขาลูบไล้ปลอบประโลมเจ้าของฝ่ามือนั้นอย่างอ่อนโยน“พี่เคยคิดว่า... หากหัวใจไม่มีความแค้น พี่ก็คงมีชีวิตอยู่ต่อไปไม่ได้ ถึงตอนนี้พี่ก็ยังคงคิดแบบนั้น... พี่อยากให้เนเน่ชดใช้”เนตรชนกลืมตามองผู้ชายที่อยู่ตรงหน้า หล่อนมองลึกเข้าไปในดวงตาเขา เพราะคำพูดกับน้ำเสียงและสัมผัสจากเขาช่างสวนทาง“หมายความว่ายังไง”“พี่ลืมสิ่งที่พ่อของเนเน่ทำกับครอบครัวพี่ไม่ได้หรอก และพี่ก็แน่ใจว่า เนเน่เองก็ลืมเรื่องพ่อแม่ไม่ได้เหมือนกัน พี่ไม่ได้ขอให้เนเน่ให
“ไม่มีเรื่องอะไรที่ต้องคุยกันหรอก คุณพ่อก็ตายไปแล้ว เรื่องที่ผ่านมาฉันต้องขอโทษแทนคุณพ่อ ขอโทษที่สุด ฉันจะเคลียร์ทุกอย่างให้เรียบร้อยแล้วจะกลับไปอยู่เมืองนอก จะไม่กลับมาที่นี่อีก เรื่องที่เกิดขึ้นฉันขอให้เลิกแล้วต่อกันได้ไหม”หัวใจของนรกานต์ไหวยวบเพราะเสียงหวานปนเศร้าไม่เหลือเค้าคุณหนูเนตรชนกช่างเอาแต่ใจ เกือบเดือนที่เขาเฝ้าดูแลตั้งแต่วันที่หล่อนได้รับบาดเจ็บ เขาแทบไม่ปล่อยให้หล่อนคาดสายตา แม้แต่เมื่อเช้าที่หล่อนออกจากโรงพยาบาล เขาก็ได้แต่เฝ้ามองด้วยความห่วงใย เพราะกลัวหล่อนจะรับกับความจริงที่โหดร้ายไม่ได้เหตุการณ์ในอดีตนั้นนารถผิดเต็มๆ แต่เหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านไป เขาก็ส่วนผิดอยู่มาก เขาไม่ควรลากหล่อนมาอยู่ในวังวนความแค้น เพราะถ้าไม่นับว่านารถเป็นพ่อ เนตรชนกเองก็เป็นเด็กที่แม่ตายจากเหตุการณ์ความโลภของนารถเช่นกันแต่เพราะ ‘หัวใจ’ มันห้ามได้ยากแม้จะบอกตัวเองว่าหล่อนเสนอเขาก็แค่สนอง และนั่นจะเป็นแผนสำรองหากนารถไม่เดินตามเกมที่เขาขีดไว้ แต่เมื่อความสัมพันธ์เกิดขึ้นแล้ว เขาจึงได้รู้ว่า... เขาพ่ายแพ้ เพราะความรักของเนตรชนกบริสุทธิ์นัก บริสุทธิ์ทั้งร่างกายและจิตใจ จนเขาละอายใจ“เล
ในวันนี้เนตรชนกเพิ่งรู้ว่าสิ่งที่พ่อเพียรสร้างมากับมือมันคือความสูญเปล่า เพราะหากมือของเรานั้นเปื้อนไปด้วยเลือดและหยาดน้ำตาของใครคนอื่น อยากได้อยากมีจนต้องฉกฉวย เอารัดเอาเปรียบ โกงกิน ยักยอก และสารพัดที่จะทำให้ตนเองอยู่จุดสูงสุดของห่วงโซ่อาหารในยามละจากโลกนี้ไป แม้มิตรสักคนที่จะร้องไห้คร่ำครวญแสดงความเสียใจให้ก็ไม่มี ทั้งยังเอาสิ่งใดไปไม่ได้เลย ส่วนสิ่งที่ทิ้งไว้นั้นก็ไม่ใช่คำเยินยอสรรเสริญ หากแต่เป็นเสียงกร่นด่าและคำสาปแช่ง ให้ตกนรกมอดไหม้‘ตายเสียได้ก็ดี ไอ้คนหนักแผ่นดิน’‘ไอ้เราก็หลงนับถือมัน คิดว่าจะเป็นคนดี ที่ไหนได้เลวสุดๆ’‘ก็ใครจะไปรู้ว่ามันนี่แหละเป็นเจ้าพ่อค้ายาตัวเบ้ง แล้วที่ดินที่เราจำนองมันไว้ เราจะได้คืนไหม’‘ไอ้คนกินถนน ไอ้คนกินบ้านกินเมือง มันคงตกนรกไม่ได้ผุดได้เกิดแน่ ดูสิ มันตายไป เส้นผมสักเส้นก็เอาไปไม่ได้’เสียงผู้คนในวัดพูดคุยกันขณะที่หล่อนเข้าไปขออัฐิของพ่อยังก้องอยู่ในหัว นั่นยิ่งทำให้เนตรชนกสั่นสะอื้นอย่างหยุดไม่ได้ หล่อนกอดรัดห่อผ้าขาวแน่น หวังว่าความรักของหล่อนจะส่งผ่านไปถึงพ่อ เพราะแม้พ่อจะทำสิ่งเหล่านั้นและทำให้แม่ต้องตายจากหล่อนไป แต่หล่อนก็ตัดข
นรกานต์แตะปลายนิ้วกับฝ่ามือบอบบาง ค่อยๆ สอดฝ่ามือเข้าไปกระชับ ทรุดร่างลงนั่งคุกเข่าแนบแก้มสากที่มีไรเคราเขียวครึ้มกับฝ่ามือนั้น “เนเน่ฟื้นขึ้นมาสักทีสิครับ ฟื้นขึ้นมาฟังผมอธิบายทุกอย่าง ผมอยากบอกคุณด้วยตัวของผมเอง คุณจะโกรธจะเกลียดผมก็ได้ ขอให้คุณฟื้นขึ้นมาเท่านั้น อย่าเอาแต่หลับอยู่แบบนี้เลยนะ มันไม่ต่างจากการทรมานผมเลย ยี่สิบปีที่ผ่านมานี้ผมมีแต่ความแค้นหล่อเลี้ยงหัวใจ แต่นับจากนี้ผมจะอยู่เพื่อความรัก เนเน่ตื่นขึ้นมาฟังผมอธิบายก่อนนะครับ ไม่เอาหลับอยู่แบบนี้นะ ตื่นนะครับ”และเสียงเคาะกระจกที่ดังขึ้นก็ทำให้นรกานต์หันมองคนที่ยืนอยู่ด้านนอก รอยยิ้มแห้งแล้งส่งให้กันก่อนที่เขาจะกระชับฝ่ามือนุ่มอีกครั้ง จูบเบาๆ ที่ปลายนิ้ว อยากให้หล่อนซึมซับความรู้สึกของเขาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ “รีบตื่นขึ้นมาเร็วๆ นะครับเนเน่ มีหลายอย่างที่รอให้คุณไปจัดการ”นรกานต์ที่เปลี่ยนเสื้อผ้าเรียบร้อยแล้วเดินออกมาหาอรนุชที่ยืนรออยู่ด้านนอกห้องปลอดเชื้อ สายตาของพี่สาวยังคงมองเข้าไปด้านใน“หมอเขาว่ายังไงบ้างละกานต์” หล่อนหันมาถามในทันทีเมื่อนรกานต์เดินมาถึง“พ้นขีดอันตรายแล้วครับพี่อร แค่รอเธอฟื้นเท่านั้น”“แ
เนตรชนกสั่นสะอื้น ดวงตาฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำมองพ่ออย่างไม่อยากจะเชื่อ แต่คำพูดและการกระทำของพ่อคือคำตอบที่จริงสุด แต่ถึงอย่างนั้นหล่อนก็ไม่อยากยอมรับความจริงที่โหดร้ายนี้ “คุณพ่อ... คุณพ่อบอกเนเน่ว่าคุณแม่ถูกลูกหลงเพราะไปหาเพื่อน ในวันที่บ้านเพื่อนโดนคนร้ายเข้ามาปล้นแล้วคุณแม่อยู่ด้วยพอดี คุณแม่ก็เลยโดนคนร้ายมันฆ่า คุณพ่อ... เป็นอย่างนั้นใช่ไหมคะ”“ที่พ่อคุณบอกน่ะจริง แต่ที่บอกไม่หมดก็คือ ไอ้คนร้ายนั่นมันไม่ได้เข้ามาปล้น แต่มันคือคนที่พ่อคุณจ้างมาฆ่าพ่อแม่ผม และแม่ของคุณท่านรู้แผนการ ท่านก็เลยรีบมาบอกให้พ่อแม่ผมหนี แต่มันยังช้าไปพ่อคุณ... แม้จะรู้ว่าแม่ของคุณอยู่ที่นี่ด้วย แต่ความชั่วมันบดบังใจ ความโลภที่อยากได้เงินมันมีมากกว่าความรักและความถูกต้องให้กับเพื่อนกับเมียยังไงล่ะ แทนที่พ่อคุณจะสั่งระงับ เขากลับเฉย ปล่อยให้เมียตายแลกกับเงินค่านายหน้าหนึ่งร้อยล้านแล้วคุณรู้ไหมว่าทำไมพ่อคุณต้องส่งคุณไปเมืองนอกทันที ไม่ใช่เพราะกลัวว่าคุณจะถูกทำร้าย หรือกลัวคุณจะตายเหมือนแม่ แต่เป็นเพราะเขากลัวว่าคุณจะรู้ความจริงไง ความจริงที่ว่าพ่อของคุณเป็นคนสั่งฆ่าแม่ของคุณด้วยตัวเองในวันนั้น ไม่ได้มีแค่พ่อแม
“มึงไม่ต้องมาพูดมากอีนุช! มึงไม่เกี่ยวข้องอะไรด้วยเลย สาระแนมามีส่วนร่วม หรือมึงเป็นเมียไอ้นิมัน มึงถึงได้ช่วยมันทุกอย่าง แล้วมึง ไอ้นิรยะ กูเห็นไอ้เด็กนั่นมันตายกับตากูเอง มันไม่มีทางเป็นมึงไปได้ พวกมึงรวมหัวกันแบล็กเมล์กูใช่ไหม มึงไม่ใช่ไอ้เด็กนั่น เพราะถ้ามึงยืนอยู่นี่ แล้วไอ้เด็กเปรตนั่นเป็นใคร!”“ก็น้องชายของนุชไงคะ!”เสียงแหลมกราดเกรี้ยวบ่งบอกถึงความแรงในอารมณ์ทำให้ทุกคนชะงัก นารถตะลึงมองอรนุช นิรยะแค่นยิ้มแต่ดวงตาฉายแววเจ็บปวด และเนตรชนกที่ร้องไห้โฮ“น่าสงสารนิรยะนะคะ ต้องมาถูกคนชั่วฆ่าตายตั้งแต่อายุ 10 ขวบ ไม่มีโอกาสจะเติบโตด้วยซ้ำ ท่านรู้ไหมคะ นิเขาอยากเป็นตำรวจเหมือนพ่อค่ะ แต่เขาไม่มีโอกาส แต่นุชกับพ่อให้โอกาสนรกานต์ได้! เพื่อวันนี้ไงคะ โอกาสที่นุชกับพ่อรอคอย แต่พ่อไปสวรรค์ก่อนก็เลยไม่ทันได้เห็นจุดจบของท่านในวันนี้ และนุชกับนรกานต์ก็โชคดีค่ะ ที่มีเพื่อนของพ่อคอยช่วยเหลืออีกแรง”“ใครอีก พวกมึงมีใครช่วยอีก!”และผู้กำกับบัญชาที่เดินออกมาจากด้านในของบ้านก็ทำให้นารถโกรธจนตัวสั่น เพราะผู้กำกับบัญชาเป็นคนช่วยเขาวิ่งเต้นเรื่องคดีความของนิรยะ ทั้งยังเป็นคนตรวจสอบประวัติของนิรยะด้วยตั