Home / LGBTQ+ / ดวงใจศิวกร / ตอนที่ 6 ดูแล

Share

ตอนที่ 6 ดูแล

last update Last Updated: 2025-10-22 21:51:25

ตอนที่ 6 ดูแล

ภาคินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยงของวันใหม่ เขารู้สึกปวดเมื่อยและเจ็บช่องทางรักเป็นอย่างมาก จึงได้แต่นอนนิ่งๆ และคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างเหม่อลอย

"ตื่นแล้วเหรอ" ศิวกรหลังจากออกไปโทรศัพท์สั่งงานเลขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งทำงานต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงคนในห้องจึงเดินเข้ามาดู

ภาคินหันไปมองเจ้าของเสียง แล้วลอบมองสำรวจศิวกรตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ศิวกรจะสวมชุดลำลองเพียงแค่เสื้อยืดคอปกปลดกระดุมเม็ดบนสุดหนึ่งเม็ด จึงเผยให้เห็นรอยแดงจากฝีมือของเขาที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา ทำให้ใบหน้าของภาคินเริ่มขึ้นสี เขาเลยเสสายตาลงมามองกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ ที่ศิวกรสวมใส่ แม้จะเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ แต่ศิวกรก็ยังคงความเข้มและหล่อเหลาอยู่มาก

"มองอะไรของนาย หรือว่านาย..." ศิวกรเอ่ยเย้าแหย่ภาคินที่กำลังมองสำรวจตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า

"เปล่าสักหน่อย ผมจะกลับแล้ว" ภาคินเอ่ยพลางขยับตัวเพื่อจะลุกออกจากที่นอน แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีที่เขาขยับ

"อ๊ะ... โอ๊ย" ภาคินจำต้องหยุดชะงักด้วยความเจ็บ

"นายเป็นอะไรมากรึเปล่า" ศิวกรรีบขยับตัวเข้ามาประคองภาคินทันทีที่ได้ยินเสียงร้องของเขา

"คุณไม่โดนอย่างผมคุณไม่รู้หรอก" ภาคินพูดก่อนจะเงยหน้าขึ้นมามองศิวกรด้วยอาการเคืองๆ

"ถ้าอย่างนั้นนายอย่าเพิ่งรีบร้อนลุกเลย นายกินอะไรรองท้องสักหน่อยแล้วค่อยกินยาก่อนไม่ดีกว่าเหรอ ฉันเตรียมให้นายหมดแล้ว" ศิวกรเห็นสายตาเคืองๆ ของภาคินกำลังมองมาที่ตนก็รีบพูดขึ้นมาด้วยความเป็นห่วง

"ไม่ ผมจะกลับ" ภาคินยังคงพูดเอาแต่ใจ เขาอยากจะกลับไปพักที่คอนโดของเขามากกว่าอยู่กับศิวกรที่นี่

"ได้ๆ งั้นเดี๋ยวฉันจะไปส่งนายเอง แต่ฉันคิดว่าตอนนี้นายต้องกินยาก่อน แล้วท้องของนายก็ยังว่างอยู่ ฉันจะไปเอาข้าวต้มมาให้รอแป๊บ" ศิวกรยังคงไม่สนใจภาคินที่เรียกร้องแต่จะกลับบ้านจึงพูดตัดบทขึ้นมา

"ผมจะกลับเอง คุณไม่ต้องมายุ่งกับผม" ภาคินยังคงดื้อดึงและเอาแต่ใจอย่างไม่ลดละ เพราะเขาไม่อยากให้ศิวกรมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกจึงรีบพูดขึ้นมาก่อน

ศิวกรกำลังจะลุกขึ้นจากเตียงนอนจึงหันกลับมามองภาคินอีกครั้ง หลังจากได้ยินภาคินพูดเอาแต่ใจ เขาจึงตั้งใจยกยิ้มและพูดยั่วโมโหภาคินไป

"นายจะกลับยังไง จะเดินกะเผลกๆ ข้ามถนนไปฝั่งนู้นแล้วขับรถกลับ หรือจะให้เด็กในร้านไปส่งนายที่บ้าน แต่พวกเขาจะไม่สงสัยหรอกเหรอว่านายมาทำอะไรที่ไนต์คลับของฉันในเวลานี้ อีกอย่างท่าเดินที่น่าสงสัยของนาย...." ศิวกรพูดพลางมองไปยังช่วงล่างของภาคินซึ่งยังอยู่ใต้ผ้าห่มหนาผืนนั้น ทำให้ภาคินคิดตามและเกิดความอับอายขึ้นมา

"นายควรจะเป็นเด็กดีและเชื่อฟังฉันดีกว่านะ เดี๋ยวพอนายกินข้าวกินยาเสร็จเรียบร้อยแล้วฉันจะพานายไปส่งเอง รับรองว่าไม่มีใครเห็นนายแน่นอน" ศิวกรเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันแกมบังคับ ทำให้ภาคินหันมามองเขาอย่างจนใจ

เมื่อศิวกรเห็นภาคินมีท่าทีอ่อนลงเขาก็เดินออกจากห้องไป แต่ยังไม่ทันจะปิดประตูเขาก็นึกบางอย่างขึ้นมาได้จึงหันหลังกลับมา

"นายจะไม่อาบน้ำก็ได้นะ ฉันเช็ดตัวให้นายตั้งแต่เมื่อคืนแล้ว และชุดของนายมันก็รัดแน่นจนเกินไปซึ่งอาจจะทำให้นายอึดอัดขึ้นมา ฉันเลยเตรียมชุดให้นายแล้ว วางอยู่ตรงนั้น นายน่าจะใส่ได้นะ นั่นตัวเล็กสุดแล้ว" ศิวกรหันมาตะโกนบอกภาคินที่ยังคงนั่งเปลือยเปล่าอยู่บนเตียง แล้วจึงปิดประตูและเดินจากไป

ภาคินได้แต่มองตามหลังศิวกรด้วยความโมโห ก่อนจะค่อยๆ ลุกลงเตียงอย่างยากลำบาก เพื่อรีบแต่งตัวให้เสร็จเรียบร้อยก่อนที่ศิวกรจะกลับเข้ามาในห้องอีกครั้ง

เมื่อศิวกรเดินกลับเข้ามาในห้องพร้อมถาดข้าวต้มและยา เขาก็พบว่าภาคินแต่งตัวเสร็จเรียบร้อยแล้ว และกำลังนั่งรอเขาอยู่ที่ปลายเตียง

"นายใส่เสื้อเชิ้ตของฉันแล้วยังหลวมอยู่มากเลยนะ แต่นายวางใจได้ เสื้อตัวนี้ฉันซื้อมายังไม่เคยใส่เพราะฉันซื้อมาผิดไซซ์ มันเล็กไปไซซ์หนึ่งเลยใส่ไม่ได้" ศิวกรเอ่ยพลางมองสำรวจภาคินที่สวมเสื้อเชิ้ตสีขาวของเขาแล้วยังหลวมอยู่มาก

เขาไล่สายตาสำรวจตั้งแต่ต้นคอขาวของภาคินซึ่งมีแต่รอยช้ำสีกุหลาบจากฝีมือของเขา ก่อนจะไล่สายตาต่ำลงมาจนกระทั่งถึงแผงอกขาวซึ่งโผล่พ้นคอเสื้อออกมาให้เห็นอย่างเด่นชัด เมื่อเขาเห็นรอยขบเม้มของตัวเองก็ทำให้ศิวกรนึกถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืน เขาจึงลอบกลืนน้ำลายลงคออย่างยากลำบาก

"นี่คุณจะจ้องผมอีกนานไหม ผมอยากกลับบ้านแล้ว" น้ำเสียงของภาคินทำให้ศิวกรได้สติขึ้นมา

ศิวกรจึงวางถาดข้าวต้มลงบนโต๊ะก่อนจะรีบเดินเข้ามาช่วยพยุงภาคินไปนั่งที่โซฟา ภาคินยอมเดินตามศิวกรไปแต่โดยดี เขาค่อยๆ นั่งลงบนโซฟาอย่างช้าๆ เมื่อภาคินนั่งเสร็จเรียบร้อย

ศิวกรก็ยกถ้วยข้าวต้มมาให้ เขาเห็นว่าข้าวต้มยังคงร้อนอยู่จึงช่วยเป่าเพื่อให้มันเย็นลง

ภาคินเห็นศิวกรกำลังนั่งเป่าข้าวต้มร้อนๆ ให้ตนเอง เขาก็ได้แต่นั่งมองการกระทำของศิวกรด้วยความไม่เข้าใจ

หลังจากศิวกรเป่าข้าวต้มเสร็จแล้วก็วางลงตรงหน้าของภาคิน แต่ภาคินยังคงนั่งมองศิวกรด้วยอาการเหม่อลอยและครุ่นคิด จึงไม่รู้ว่าข้าวต้มถ้วยนั้นถูกวางลงตรงหน้าของตนแล้ว

"ทำไมนายยังไม่รีบกิน หรือว่านายอยากให้ฉันป้อน?" คำถามของศิวกรทำให้ภาคินหลุดออกจากความคิด เขาจึงรีบตักข้าวต้มกินจนเกิดอาการสำลัก

"แค่ก.. แค่ก" เมื่อศิวกรเห็นภาคินสำลัก เขาก็รีบขยับเข้ามานั่งข้างๆ ภาคินก่อนจะยกแก้วน้ำส่งให้ภาคินพลางลูบหลังให้อย่างเบามือ

"กินช้าๆ ก็ได้ ฉันไม่แย่งนายกินหรอกน่า" ศิวกรแสร้งพูดแหย่ ทำให้ภาคินหันมามองเขาก่อนจะค้อนขวับให้เขาไปทีหนึ่ง

"เอ.. หรือว่าจริงๆ แล้วนายอยากให้ฉันป้อนนายใช่รึเปล่า" ศิวกรเอ่ยทีเล่นทีจริง เขาค่อยๆ ขยับใบหน้าไปใกล้ๆ พอภาคินหันหน้ามาหาเขา แก้มของภาคินก็ชนเข้ากับปากของเขาทันที

"เฮ้ย.. คุณจะขยับมาใกล้ผมทำไมเนี่ย ขยับออกไปห่างๆ เลยนะ คุณศิวกร" ภาคินเอะอะโวยวายด้วยความเขินอาย ก่อนจะก้มลงไปตักข้าวต้มกินอย่างรวดเร็ว

"หึหึหึ" ศิวกรหัวเราะเบาๆ ในลำคอ แต่ภาคินก็ได้ยินอย่างชัดเจน ทำให้ภาคินหันมามองค้อนเขาด้วยความไม่พอใจ และรีบตักข้าวต้มกินจนหมด

"ไหนละยา? ผมกินข้าวหมดแล้ว" ภาคินหันมาถามศิวกรด้วยน้ำเสียงขุ่นเคือง

ศิวกรยกยิ้มก่อนจะหยิบยาส่งให้ภาคิน ภาคินรับมาก็รีบใส่ปากและกลืนลงอย่างรวดเร็ว

"ทีนี้คุณก็ไปส่งผมได้แล้ว" เมื่อภาคินดื่มน้ำเสร็จเรียบร้อยจึงหันมาบอกศิวกร

ศิวกรได้แต่ยกยิ้มน้อยๆ ให้แก่ภาคินที่ยังคงเอาแต่ใจ

"ได้.. เชิญคุณภาคินครับ" เขาลุกขึ้นยืนก่อนจะผายมือเชิญ เพื่อให้ภาคินลุกขึ้นเพื่อเดินนำออกไปก่อน ด้วยความรีบร้อนภาคินจึงลุกขึ้นโดยไม่ทันระมัดระวังทำให้ความเจ็บปวดเข้าโจมตีเขาอีกครั้งหนึ่ง

"อ๊ะ..." ภาคินอุทานออกมาด้วยความเจ็บ

"นายยังเจ็บอยู่ ให้ฉันช่วยไหม" ศิวกรรีบขยับเข้ามาใกล้เพื่อจะช่วยพยุงภาคิน แต่ภาคินตกใจจึงปัดมือของศิวกรออกอย่างไม่รู้ตัว

"เอ่อ..." ภาคินไม่รู้จะพูดอะไรจึงได้แต่ยืนอ้ำอึ้ง

"นายอย่าลืมนะ ว่าห้องของฉันอยู่บนชั้นสาม ขืนนายเดินกะเผลกๆ ลงไปชั้นล่างไม่เดินลงไปถึงตอนเย็นเลยเหรอ หรือนายอยากให้เด็กในร้านของฉันมาเห็นนายอยู่กับฉันที่นี่กันแน่.. ภาคิน" ศิวกรกอดอกมองภาคินเพื่อรอคำตอบ ก่อนจะเอ่ยด้วยน้ำเสียงดุดันกึ่งประชดประชัน ทำให้ภาคินที่ยืนอ้ำอึ้งอยู่ไม่รู้จะพูดอะไรดี

ศิวกรไม่รอช้า เขารีบเดินเข้าไปใกล้ภาคินก่อนจะช้อนอุ้มภาคินขึ้นมาแนบอก

"เฮ้ย.. คุณ" ภาคินตกใจที่จู่ๆ ศิวกรก็เดินมาอุ้มเขา เขาจึงรีบกอดลำคอหนาของศิวกรไว้อย่างรวดเร็วเพราะกลัวตก

"นายน่ะอย่าดื่มแต่เหล้ามากนัก กินข้าวบ้างเถอะ ตัวเบามากจริงๆ ไม่หนักอย่างที่คิดไว้เลย" ศิวกรพูดกระซิบเสียงเบาออกมาใกล้ริมหูของภาคิน ทำให้ภาคินเกิดอาการเขินอาย

เขาจะดิ้นก็ไม่กล้าเพราะกลัวจะพากันตกบันได จึงได้แต่ซุกหน้าแนบอกของศิวกรด้วยความอับอาย เกิดมายังไม่เคยถูกใครอุ้มท่าเจ้าหญิงมาก่อน รู้ถึงไหนอายถึงนั้น ภาคินครุ่นคิดด้วยความอาย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 6 ดูแล

    ตอนที่ 6 ดูแลภาคินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยงของวันใหม่ เขารู้สึกปวดเมื่อยและเจ็บช่องทางรักเป็นอย่างมาก จึงได้แต่นอนนิ่งๆ และคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างเหม่อลอย"ตื่นแล้วเหรอ" ศิวกรหลังจากออกไปโทรศัพท์สั่งงานเลขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งทำงานต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงคนในห้องจึงเดินเข้ามาดูภาคินหันไปมองเจ้าของเสียง แล้วลอบมองสำรวจศิวกรตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ศิวกรจะสวมชุดลำลองเพียงแค่เสื้อยืดคอปกปลดกระดุมเม็ดบนสุดหนึ่งเม็ด จึงเผยให้เห็นรอยแดงจากฝีมือของเขาที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา ทำให้ใบหน้าของภาคินเริ่มขึ้นสี เขาเลยเสสายตาลงมามองกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ ที่ศิวกรสวมใส่ แม้จะเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ แต่ศิวกรก็ยังคงความเข้มและหล่อเหลาอยู่มาก"มองอะไรของนาย หรือว่านาย..." ศิวกรเอ่ยเย้าแหย่ภาคินที่กำลังมองสำรวจตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า"เปล่าสักหน่อย ผมจะกลับแล้ว" ภาคินเอ่ยพลางขยับตัวเพื่อจะลุกออกจากที่นอน แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีที่เขาขยับ"อ๊ะ... โอ๊ย" ภาคินจำต้องหยุดชะงักด้วยความเจ็บ"นายเป็นอะไรมากรึเปล่า" ศิวกรรีบขยับตัวเข้ามาประคองภาคินทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 5 ผิดแผน #2

    ตอนที่ 5 ผิดแผน #2หลังจากภาคินถูกศิวกรจับมัดข้อมือทั้งสองข้าง เขาก็ได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างหนาของศิวกร ศิวกรลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของภาคินอย่างเชื่องช้า พลางสำรวจใบหน้าที่กำลังแดงก่ำไปด้วยความโกรธเมื่อเขาปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตจนหมด ผิวขาวนวลของภาคินก็เผยออกมาสู่สายตาของศิวกร ด้วยภาคินนั้นมีเชื้อสายจีนทำให้ผิวพรรณของภาคินขาวนวลเนียนเนื้อละเอียดและผุดผ่องศิวกรชอบคนผิวขาวเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงลูบไล้แผงอกของภาคินอย่างเบามือ เขาลูบไล้เรื่อยลงมาจนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคิน ทำให้ภาคินตะโกนด่าศิวกรไม่หยุดหย่อน แต่ศิวกรก็ไม่สนใจ เขายังคงหยอกล้อร่างบางของภาคินโดยการลูบไล้ผ่านหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคินต่ำลงไปจนกระทั่งถึงเอวบางของคนที่กำลังนอนดิ้นอยู่ใต้ร่างของเขา แล้วจึงปลดกระดุมกางเกงยีนของภาคินออกอย่างช้าๆ"ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันเป็นผู้ชายนะโว้ย ปล่อยสิวะ" ภาคินยังคงตะโกนด่าศิวกรอย่างไม่ลดละศิวกรยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นไปบดจูบภาคินอย่างดุดันเพื่อปิดเสียงก่นด่าของภาคินอีกครั้ง เขาสอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นบางของภาคินและดูดดึงอ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 4 ผิดแผน #1

    ตอนที่ 4 ผิดแผน #1"สวัสดีครับคุณภาคิน" ศิวกรเอ่ยทักทายภาคินที่กำลังยกบรั่นดีขึ้นดื่ม ภาคินเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงก่อนจะมีท่าทีเฉยเมยและไม่สนใจเขาต้อยเห็นศิวกรก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที เขาไม่กล้าสบตามองศิวกรด้วยแผนการของภาคินทำให้ต้อยรู้สึกกลัวศิวกรขึ้นมา"ลูกพี่ คุณศิวกรเขากำลังทักทายลูกพี่อยู่นะครับ" ต้อยเอ่ยกระซิบเสียงเบาใกล้ๆ ภาคิน"ไง.. " ภาคินเงยหน้าขึ้นมาทักศิวกรที่กำลังยกยิ้มมุมปากมองมาทางเขา"พักนี้คุณภาคินว่างบ่อยจริงๆ ด้วยนะครับ แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์ ที่ไนต์คลับของเราเลยไม่มีวงดนตรีมาเล่นสด คุณคงไม่เบื่อไนต์คลับของผมนะครับ" ศิวกรเอ่ยอย่างอารมณ์ดีแต่คนฟังอย่างภาคินกลับโมโหที่ถูกศิวกรพูดกวนอารมณ์ของเขา เขายกบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมดแก้ว"ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะครับว่าที่ไนต์คลับของคุณจะมีเจ้าของอย่างคุณศิวกรมาคอยต้อนรับลูกค้าเหมือนร้านอาหารตามสั่ง ไหนๆ คุณก็มาแล้ว ผมขอสั่งบรั่นดีอีกสองแก้วก็แล้วกันครับ" ภาคินโต้กลับศิวกรด้วยความอารมณ์กรุ่นโกรธศิวกรได้แต่หัวเราะขบขันในท่าทางกวนอารมณ์ของภาคิน"ได้ครับ งั้นเชิญคุณภาคินตามสบายนะครับ" เขาเอ่ยก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้ย

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 3 วางแผน

    ตอนที่ 3 วางแผนณ แอลฟาผับเมื่อภาคินเดินเข้ามาในผับเขาก็ตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มในทันที มิ่งไม่รอช้ารีบรินบรั่นดีส่งให้เจ้านายอย่างรวดเร็ว"ลูกพี่ อารมณ์ไม่ดีหรือครับ" ต้อยเดินเข้ามาในผับ เห็นภาคินดื่มบรั่นดีไปหลายแก้ว จึงรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"เออ กูอารมณ์ไม่ดีว่ะไอ้ต้อย เออมึงมาก็ดีแล้วกูมีเรื่องจะให้มึงไปจัดการหน่อย" ภาคินได้ยินเสียงต้อยทักขึ้นมาเขาจึงเรียกต้อยเข้ามาหา ก่อนจะกระซิบสั่งงานให้ต้อยไปทำ"ได้ ลูกพี่รอก่อนก็แล้วกัน ไม่เกินสองวันน่าจะรู้เรื่อง" ต้อยตอบรับก่อนจะออกไปจัดการงานที่ภาคินสั่งอย่างรวดเร็วภาคินมองตามหลังต้อยที่เดินหายออกจากร้านไปอย่างว่องไว เขาจึงยกยิ้มอย่างมีความสุข"หึ.. หึ.. ศิวกร แล้วเราจะได้เห็นดีกัน" ภาคินเอ่ยพลางยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดีสองวันผ่านไป ต้อยรีบเข้าไปรายงานภาคินในทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าผับมา"ลูกพี่ครับ" ต้อยรีบเรียกภาคินก่อนจะรายงานเรื่องที่ภาคินให้ต้อยไปสืบมา"ไปคุยกันในห้องกู" ภาคินเอ่ยแล้วเดินนำต้อยไปยังห้องทำงานบนชั้นสองของเขา"ลูกพี่ครับ โดยปกตินายศิวกรจะมาไนต์คลับทุกคืนนะครับ ยกเว้นวันที่เขามีงานเลี้ยงหรืองานประชุ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโห

    ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโหติ๊ด.. ติ๊ด.. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำให้ภาคินที่ดื่มมาอย่างหนักหน่วงเมื่อคืนนี้ เอื้อมมือออกมาจากผ้าห่มเพื่อควานหานาฬิกาที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่หยุดมาปิดเสียงที่น่ารำคาญ เขารู้สึกมึนหัวและปวดหัวเป็นอย่างมากจึงนอนลงเพื่อพักต่ออีกสักครู่กริ๊ง.. กริ๊ง.. กริ๊ง.. เสียงโทรศัพท์ในห้องพักของภาคินยังคงดังขึ้นมากวนเขาอีกครั้ง เขาจึงจำใจต้องลุกขึ้นมารับอย่างงัวเงีย"ฮัล.. โหล" ภาคินรับสายด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและงัวเงีย"คินยังไม่ตื่นอีกเหรอ นี่สายมากแล้วนะ อย่าลืมสิว่าเรามีประชุมตอนสิบโมง รีบๆ ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว แล้วโทรศัพท์มือถือของคินอยู่ที่ไหน พี่โทรไปก็ไม่ติด" เสียงปลายสายถามอย่างรัวเร็วเมื่อได้ยินเสียงที่แหบแห้งของน้องชาย"นี่กี่โมงแล้วครับพี่หมวยใหญ่" ภาคินยังคงถามพี่สาวคนโตด้วยอาการงัวเงียและสะลึมสะลือ เนื่องจากเมื่อคืนเขาดื่มหนักมาก"เก้าโมงครึ่งแล้ว รีบๆ ลุกไปอาบน้ำเลยก่อนป๊าจะเข้ามาร่วมประชุม แค่นี้นะ" ภาสินีหรือหมวยใหญ่ของน้องๆ รีบพูดก่อนจะวางสายลงไปอย่างรวดเร็วหากภาคินยังมาทำงานสายแบบนี้ถ้าพ่อของเธอรู้เข้า ภาคินมีหวังโดนสั่งให้ปิดผับแน่ๆ หลังจากวางสาย

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา

    ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา ณ แอลฟาผับ"ทำไมวันนี้คนน้อยจังเลยวะ.. ไอ้ต้อย" ภาคินเจ้าของแอลฟาผับวัยยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาพลางหันไปถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังเดินตามหลังเขามาไม่ห่าง"นั่นสิครับลูกพี่ ปกติคืนวันศุกร์ผับของเราคนเยอะจนโต๊ะไม่พอนั่งเลยนะครับ" ต้อยตอบเจ้านายพลางส่งสายตามองรอบๆ ผับ ซึ่งมีแขกนั่งไม่กี่โต๊ะจนดูแทบจะบางตา"เฮ้ย.. ไอ้สิน ทำไมวันนี้คนน้อยจังวะ" เมื่อภาคินและต้อยเดินมาถึงเคาน์เตอร์บัญชี ภาคินจึงเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทอีกคนซึ่งมีหน้าที่ดูแลบัญชีอยู่ในเคาน์เตอร์"ก็ไนต์คลับที่เปิดใหม่ฝั่งตรงข้ามน่ะสิลูกพี่ วันนี้เขาเอาวงดนตรีที่กำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นคืนนี้ ลูกค้าก็พากันแห่ไปร้านนู้นหมดเลย ที่เหลือนั่งอยู่ในร้านก็เป็นลูกค้าประจำของร้านเราทั้งนั้นครับ" สินเอ่ยตอบพลางมองไปรอบๆ ร้าน ซึ่งมีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ"ไนต์คลับที่ว่า ใช่ไดมอนด์ไนต์คลับฝั่งตรงข้ามรึเปล่าวะ" ภาคินเอ่ยถามพลางครุ่นคิดถึงไนต์คลับที่เพิ่งจะเปิดใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผับของเขาพอดี"ใช่แล้วลูกพี่" สินตอบพลางตรวจเช็กรายการบัญชีไปด้วย"ตั้งแต่ไดมอนด์ไนต์คลับเปิดมาร่วมเดือน บัญชีที่ร้านของเราลงลดลงมากเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status