ภาคินวางแผนจัดฉากเพื่อให้ศิวกรต้องขายหน้า แต่เขาเกิดพลาดขึ้นมา เขาจึงได้เข้าไปอยู่ในฉากที่เขาเป็นคนจัดขึ้นมาเสียเอง งานนี้ภาคินจะหาทางแก้ไขอย่างไร เพื่อให้เขาออกมาจากฉากนั้นได้โดยไม่ต้องขายหน้า
View Moreตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา
ณ แอลฟาผับ
"ทำไมวันนี้คนน้อยจังเลยวะ.. ไอ้ต้อย" ภาคินเจ้าของแอลฟาผับวัยยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาพลางหันไปถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังเดินตามหลังเขามาไม่ห่าง
"นั่นสิครับลูกพี่ ปกติคืนวันศุกร์ผับของเราคนเยอะจนโต๊ะไม่พอนั่งเลยนะครับ" ต้อยตอบเจ้านายพลางส่งสายตามองรอบๆ ผับ ซึ่งมีแขกนั่งไม่กี่โต๊ะจนดูแทบจะบางตา
"เฮ้ย.. ไอ้สิน ทำไมวันนี้คนน้อยจังวะ" เมื่อภาคินและต้อยเดินมาถึงเคาน์เตอร์บัญชี ภาคินจึงเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทอีกคนซึ่งมีหน้าที่ดูแลบัญชีอยู่ในเคาน์เตอร์
"ก็ไนต์คลับที่เปิดใหม่ฝั่งตรงข้ามน่ะสิลูกพี่ วันนี้เขาเอาวงดนตรีที่กำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นคืนนี้ ลูกค้าก็พากันแห่ไปร้านนู้นหมดเลย ที่เหลือนั่งอยู่ในร้านก็เป็นลูกค้าประจำของร้านเราทั้งนั้นครับ" สินเอ่ยตอบพลางมองไปรอบๆ ร้าน ซึ่งมีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ
"ไนต์คลับที่ว่า ใช่ไดมอนด์ไนต์คลับฝั่งตรงข้ามรึเปล่าวะ" ภาคินเอ่ยถามพลางครุ่นคิดถึงไนต์คลับที่เพิ่งจะเปิดใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผับของเขาพอดี
"ใช่แล้วลูกพี่" สินตอบพลางตรวจเช็กรายการบัญชีไปด้วย
"ตั้งแต่ไดมอนด์ไนต์คลับเปิดมาร่วมเดือน บัญชีที่ร้านของเราลงลดลงมากเลย ลูกพี่ดูสิครับ" สินพูดขึ้นมาก่อนจะส่งสมุดบัญชีให้ภาคินตรวจ เมื่อภาคินเห็นตัวเลขที่ลดลงไปอย่างเห็นได้ชัดเขาก็ทุบโต๊ะด้วยความโมโห ปัง!
"เฮ้ยไอ้ต้อย ไหน ๆ คืนนี้พวกเราก็ว่างแล้ว ไปเที่ยวเปิดหูเปิดตาฝั่งนู้นบ้างดีไหมวะ" ภาคินกัดฟันเอ่ยด้วยความโกรธ เขาอยากจะไปดูไนต์คลับฝั่งตรงข้ามว่ามันจะดีขนาดไหนถึงขั้นแย่งลูกค้าในคืนวันศุกร์ของเขาไปได้
"ดีสิครับลูกพี่" ต้อยเห็นด้วยในทันที
ภาคินและต้อยจึงพากันเดินออกมาจากผับของตน ขณะที่ทั้งสองคนกำลังยืนอยู่หน้าร้านก็มีรถสปอร์ตสีดำยี่ห้อดังมาจอดหน้าไนต์คลับพอดี
ศิวกรกำลังลงจากรถสปอร์ตสีดำคันหรูด้วยชุดสูทสีดำสนิท และรองเท้าหนังสีดำขลับ เขาหยุดยืนขยับชุดสูทเล็กน้อยก่อนจะส่งกุญแจรถของเขาให้เด็กรับรถที่ยืนอยู่หน้าร้าน
"สวัสดีครับคุณกร" เด็กรับรถยกมือไหว้เจ้านายแล้วจึงรับกุญแจรถมาจากเขา ศิวกรพยักหน้าเล็กน้อยแล้วจึงเดินเข้าไปในไนต์คลับด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม
"นั่นคุณศิวกร เจ้าของไดมอนด์ไนต์คลับครับลูกพี่" ต้อยเคยเห็นศิวกรมาที่ไนต์คลับราวๆ สองสามครั้ง จากการที่สอบถามเด็กหน้าร้านจึงทำให้ต้อยรู้มาว่าเขาคือเจ้าของไดมอนด์ไนต์คลับ
"ฮึ.. น่าหมั่นไส้ ไอ้ขี้เก๊กเอ๊ย.. ปะไอ้ต้อย ไปดูมันให้ถนัดตาหน่อยสิ" ภาคินเห็นศิวกรครั้งแรกก็เกิดอาการไม่ชอบขี้หน้า เขารู้สึกหมั่นไส้ศิวกรขึ้นมาในทันที
"ครับลูกพี่" ต้อยรับคำก่อนจะวิ่งตามภาคินข้ามถนนเข้าไปในไนต์คลับ
ณ ไดมอนด์ ไนต์คลับ
เมื่อภาคินและต้อยเข้ามาในร้านก็พบว่าที่นั่งภายในร้านมีลูกค้านั่งเต็มทุกโต๊ะ ภาคินจึงกวาดตามองภายในไนต์คลับ ความหรูหราและการตกแต่งของไนต์คลับนั้นบ่งบอกถึงรสนิยมของเจ้าของร้านอย่างศิวกรเป็นอย่างดี ยิ่งทำให้เขาเกิดอาการหมั่นไส้ ศิวกรมากยิ่งขึ้นไปอีก
ศิวกรยืนอยู่ในห้องทำงานชั้นสาม เขามองผ่านกระจกใสเพื่อสอดส่องบรรยากาศภายในร้าน เขาเห็นภาคินซึ่งสวมเสื้อเชิ้ตสีดำแบรนด์หรูปลดกระดุมสองเม็ดบนเผยให้เห็นแผงอกขาว ยิ่งภาคินสวมสร้อยเลสสีเงินยิ่งขับเน้นผิวพรรณขาวนวลเนียนของภาคินอย่างเห็นได้ชัด
เขามองภาคินที่ยืนอยู่เบื้องล่างด้วยความสนใจ เขาไม่เคยเห็นผู้ชายคนไหนที่มีแผงอกขาวนวลถึงขนาดนี้มาก่อน เมื่อเขาแน่ใจแล้วว่าภาคินกำลังมองหาโต๊ะนั่ง เขาจึงเรียกลูกน้องให้ไปจัดโต๊ะให้ภาคินในทันที
"แต่คุณกรครับ โต๊ะนั้นไม่ใช่ว่าคุณเชอรี่จองไว้หรือครับ" อิฐลูกน้องคนสนิทเอ่ยถามเจ้านายของเขาด้วยความสงสัย
"นายไปจัดการตามที่ฉันสั่ง เรื่องเชอรี่ฉันจะจัดการเอง" เขาเอ่ยย้ำอิฐอีกครั้งก่อนจะหันไปมองภาคินด้วยความสนใจ
"เดี๋ยวอิฐ" ศิวกรเรียกลูกน้องที่กำลังจะเดินออกไปจากห้องทำงานของเขา
"ครับ" อิฐจึงหันมาหาศิวกรเพื่อรอรับคำสั่ง
"นั่น นายภาคินเจ้าของแอลฟาผับรึเปล่า" เขาเคยเห็นภาคินยืนอยู่หน้าผับครั้งหนึ่ง เด็กรับรถหน้าร้านเคยชี้ให้เขาดูซึ่งเขาไม่ค่อยแน่ใจมากนัก จากระยะห่างที่เขามองในคืนนั้น แต่เขาจำแผงอกขาวกับสร้อยเลสสีเงินที่ดึงดูดสายตานั้นได้
"ครับ.. น่าจะใช่แล้วนะครับ ผมเคยเห็นเขาแค่ไม่กี่ครั้ง งั้นเดี๋ยวผมจะไปสืบให้ครับคุณกร" อิฐเคยเห็นภาคินไม่กี่ครั้ง แต่เขาไม่ค่อยสนใจมากนักเพราะต่างคนก็ต่างทำงาน ไนต์คลับกับผับของภาคินลูกค้าส่วนใหญ่ก็คนละกลุ่มกันอยู่แล้ว
ศิวกรไม่เอ่ยอะไร เขายังคงยืนมองภาคินด้วยความสนใจและสงสัยว่าภาคินมาทำอะไรที่นี่ จนกระทั่งอิฐพาภาคินไปนั่งที่โต๊ะเขาจึงละสายตาออกไปมองลูกค้าโต๊ะอื่นๆ ภายในร้านแทน
ณ โต๊ะของภาคินบนชั้นสองซึ่งอยู่ติดระเบียง ทำให้เขามองเห็นโต๊ะด้านล่างเป็นอย่างดี
"ลูกพี่ โชคดีจริงๆ เลยนะที่เราได้โต๊ะนี้ มองเห็นข้างล่างได้หมดเลย" ต้อยเอ่ยขึ้นมาขณะที่สายตาของเขาก็มองสำรวจรอบๆ ร้านไปด้วย
"อืม.. " ภาคินเอ่ยเบาๆ พลางมองสำรวจรอบๆ ไนต์คลับ พลันสายตาของเขาก็บังเอิญไปสบสายตาของศิวกรเข้า ซึ่งศิวกรกำลังยืนมองพวกเขาลงมาจากกระจกใสที่ห้องทำงานบนชั้นสาม และอยู่ตรงข้ามกับโต๊ะของภาคินพอดี ทั้งสองคนต่างก็สบตากันอยู่เนิ่นนานก่อนที่ศิวกรจะยกยิ้มมุมปาก แล้วหมุนตัวเดินออกจากห้องทำงาน
"ลูกพี่มองอะไรอยู่ ดูนั่นวงดนตรีขึ้นแล้ว ตอนนี้วงนี้ดังมากเลยนะลูกพี่ โอ้โฮ.. วงนี้แฟนคลับเยอะจริงๆ" ต้อยเอ่ยก่อนจะหันไปมองตามสายตาของภาคิน แต่ก็พบความว่างเปล่า เขาเลยสงสัยว่าภาคินกำลังมองใครอยู่
เมื่อวงดนตรีขึ้นร้องภายในไนต์คลับก็ครึกครื้นขึ้นมาในทันที บรรยากาศภายในร้านเต็มไปด้วยความสนุกสนาน จากฟลอร์เต้นรำที่เคยว่างเปล่าก็มีผู้คนไปยืนกันหนาแน่นเพื่อเต้นกันไปตามจังหวะเพลงที่กำลังเล่น
ปกติไนต์คลับจะมีบูธดีเจประจำอยู่แล้ว ยกเว้นทุกคืนวันศุกร์ที่ทางไนต์คลับจะจ้างวงดนตรีซึ่งกำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นสดเพื่อโปรโมตไนต์คลับอีกทาง
"สวัสดีครับคุณภาคิน ไม่ทราบว่าคืนนี้คุณว่างหรือครับถึงมาเที่ยวไนต์คลับของผมได้" ศิวกรเดินเข้ามาทักทายภาคินที่กำลังยกบรั่นดีขึ้นดื่ม
"ปกติผมก็ไม่ค่อยว่างหรอกครับ แต่วันนี้ผมอยากมาเปิดหูเปิดตาดูบ้างน่ะครับ ว่าไนต์คลับที่หรูหราของคุณจะต่างจากผับของผมหรือเปล่า" ภาคินเอ่ยตอบเขาด้วยน้ำเสียงประชดประชันกึ่งหมั่นไส้
"แล้วไนต์คลับของผมเป็นยังไงบ้างครับ" ศิวกรเอ่ยถามเขาด้วยน้ำเสียงอยากรู้ระคนสงสัยก่อนจะยกยิ้มมุมปาก
เมื่อภาคินเห็นเข้าก็ยิ่งรู้สึกหมั่นไส้ศิวกรมากยิ่งขึ้น
"ผมว่าก็งั้นๆ แหละ ผมหมดสนุกละขอตัวก่อนนะครับ เฮ้ยต้อยกลับ" ภาคินพูดด้วยน้ำเสียงไม่ค่อยชอบใจก่อนจะเรียกต้อยให้กลับไปด้วยกัน ต้อยรีบเดินตามภาคินไปด้วยความงุนงงเพราะพวกเขาเพิ่งจะนั่งกันได้เพียงครู่เดียวเอง
ศิวกรเหลียวมองตามแผ่นหลังของภาคินที่กำลังเดินออกจากร้านไปอย่างหัวเสีย เขาก็หัวเราะในลำคอด้วยความชอบใจ
"คุณกรครับ หรือคุณภาคินมาจะสืบไนต์คลับของเราครับ" อิฐที่ยืนอยู่ข้างหลังเอ่ยถามเจ้านายด้วยความสงสัย
"หึ.. หึ.. ถ้านายภาคินจะมาสืบจริงๆ คงให้ลูกน้องมาสืบ ฉันว่าที่เขามาเองคงอยากจะมาดูให้เห็นกับตามากกว่า แล้วทางผับของเขาเป็นยังไงบ้างล่ะ" ศิวกรเอ่ยถามอิฐด้วยความสนใจและอยากรู้
"ช่วงนี้ก็ปกติดีครับ แต่คืนวันศุกร์ที่เราจ้างนักร้องวงดังๆ มาเล่นทางฝั่งนู้นก็จะเงียบๆ หน่อยครับ" อิฐตอบเจ้านายด้วยความภูมิใจ
ศิวกรยกยิ้มมุมปากก่อนจะเดินกลับไปยังห้องทำงานของเขา ตอนนี้เขาหายสงสัยแล้วว่าภาคินมาที่ไนต์คลับของเขาทำไม
ณ แอลฟาผับ
ปัง! เสียงทุบโต๊ะดังขึ้นหลังจากภาคินกลับมาถึงผับของเขา ยิ่งคิดถึงใบหน้าคมเข้มที่เอาแต่ยกยิ้มมุมปาก ภาคินก็ยิ่งรู้สึกโมโหขึ้นไปอีก
"ไอ้มิ่ง เอาบรั่นดีมาแก้วสิวะ" ภาคินสั่งลูกน้องที่ยืนอยู่ตรงเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เมื่อมิ่งได้ยินคำสั่งของลูกพี่เขาก็รีบรินบรั่นดีใส่แก้ว ส่งให้ภาคินในทันที
ภาคินซึ่งนั่งอยู่บนเก้าอี้หน้าเคาน์เตอร์เครื่องดื่ม เมื่อเห็นแก้วบรั่นดีตรงหน้าเขาก็ยกขึ้นดื่มพรวดเดียวหมดแก้ว ก่อนจะวางแก้วลง แล้วให้มิ่งรินบรั่นดีให้เขาใหม่อีกแก้ว.. อีกแก้ว แลอีกแก้ว
ตอนที่ 6 ดูแลภาคินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยงของวันใหม่ เขารู้สึกปวดเมื่อยและเจ็บช่องทางรักเป็นอย่างมาก จึงได้แต่นอนนิ่งๆ และคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างเหม่อลอย"ตื่นแล้วเหรอ" ศิวกรหลังจากออกไปโทรศัพท์สั่งงานเลขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งทำงานต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงคนในห้องจึงเดินเข้ามาดูภาคินหันไปมองเจ้าของเสียง แล้วลอบมองสำรวจศิวกรตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ศิวกรจะสวมชุดลำลองเพียงแค่เสื้อยืดคอปกปลดกระดุมเม็ดบนสุดหนึ่งเม็ด จึงเผยให้เห็นรอยแดงจากฝีมือของเขาที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา ทำให้ใบหน้าของภาคินเริ่มขึ้นสี เขาเลยเสสายตาลงมามองกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ ที่ศิวกรสวมใส่ แม้จะเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ แต่ศิวกรก็ยังคงความเข้มและหล่อเหลาอยู่มาก"มองอะไรของนาย หรือว่านาย..." ศิวกรเอ่ยเย้าแหย่ภาคินที่กำลังมองสำรวจตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า"เปล่าสักหน่อย ผมจะกลับแล้ว" ภาคินเอ่ยพลางขยับตัวเพื่อจะลุกออกจากที่นอน แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีที่เขาขยับ"อ๊ะ... โอ๊ย" ภาคินจำต้องหยุดชะงักด้วยความเจ็บ"นายเป็นอะไรมากรึเปล่า" ศิวกรรีบขยับตัวเข้ามาประคองภาคินทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง
ตอนที่ 5 ผิดแผน #2หลังจากภาคินถูกศิวกรจับมัดข้อมือทั้งสองข้าง เขาก็ได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างหนาของศิวกร ศิวกรลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของภาคินอย่างเชื่องช้า พลางสำรวจใบหน้าที่กำลังแดงก่ำไปด้วยความโกรธเมื่อเขาปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตจนหมด ผิวขาวนวลของภาคินก็เผยออกมาสู่สายตาของศิวกร ด้วยภาคินนั้นมีเชื้อสายจีนทำให้ผิวพรรณของภาคินขาวนวลเนียนเนื้อละเอียดและผุดผ่องศิวกรชอบคนผิวขาวเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงลูบไล้แผงอกของภาคินอย่างเบามือ เขาลูบไล้เรื่อยลงมาจนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคิน ทำให้ภาคินตะโกนด่าศิวกรไม่หยุดหย่อน แต่ศิวกรก็ไม่สนใจ เขายังคงหยอกล้อร่างบางของภาคินโดยการลูบไล้ผ่านหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคินต่ำลงไปจนกระทั่งถึงเอวบางของคนที่กำลังนอนดิ้นอยู่ใต้ร่างของเขา แล้วจึงปลดกระดุมกางเกงยีนของภาคินออกอย่างช้าๆ"ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันเป็นผู้ชายนะโว้ย ปล่อยสิวะ" ภาคินยังคงตะโกนด่าศิวกรอย่างไม่ลดละศิวกรยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นไปบดจูบภาคินอย่างดุดันเพื่อปิดเสียงก่นด่าของภาคินอีกครั้ง เขาสอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นบางของภาคินและดูดดึงอ
ตอนที่ 4 ผิดแผน #1"สวัสดีครับคุณภาคิน" ศิวกรเอ่ยทักทายภาคินที่กำลังยกบรั่นดีขึ้นดื่ม ภาคินเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงก่อนจะมีท่าทีเฉยเมยและไม่สนใจเขาต้อยเห็นศิวกรก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที เขาไม่กล้าสบตามองศิวกรด้วยแผนการของภาคินทำให้ต้อยรู้สึกกลัวศิวกรขึ้นมา"ลูกพี่ คุณศิวกรเขากำลังทักทายลูกพี่อยู่นะครับ" ต้อยเอ่ยกระซิบเสียงเบาใกล้ๆ ภาคิน"ไง.. " ภาคินเงยหน้าขึ้นมาทักศิวกรที่กำลังยกยิ้มมุมปากมองมาทางเขา"พักนี้คุณภาคินว่างบ่อยจริงๆ ด้วยนะครับ แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์ ที่ไนต์คลับของเราเลยไม่มีวงดนตรีมาเล่นสด คุณคงไม่เบื่อไนต์คลับของผมนะครับ" ศิวกรเอ่ยอย่างอารมณ์ดีแต่คนฟังอย่างภาคินกลับโมโหที่ถูกศิวกรพูดกวนอารมณ์ของเขา เขายกบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมดแก้ว"ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะครับว่าที่ไนต์คลับของคุณจะมีเจ้าของอย่างคุณศิวกรมาคอยต้อนรับลูกค้าเหมือนร้านอาหารตามสั่ง ไหนๆ คุณก็มาแล้ว ผมขอสั่งบรั่นดีอีกสองแก้วก็แล้วกันครับ" ภาคินโต้กลับศิวกรด้วยความอารมณ์กรุ่นโกรธศิวกรได้แต่หัวเราะขบขันในท่าทางกวนอารมณ์ของภาคิน"ได้ครับ งั้นเชิญคุณภาคินตามสบายนะครับ" เขาเอ่ยก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้ย
ตอนที่ 3 วางแผนณ แอลฟาผับเมื่อภาคินเดินเข้ามาในผับเขาก็ตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มในทันที มิ่งไม่รอช้ารีบรินบรั่นดีส่งให้เจ้านายอย่างรวดเร็ว"ลูกพี่ อารมณ์ไม่ดีหรือครับ" ต้อยเดินเข้ามาในผับ เห็นภาคินดื่มบรั่นดีไปหลายแก้ว จึงรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"เออ กูอารมณ์ไม่ดีว่ะไอ้ต้อย เออมึงมาก็ดีแล้วกูมีเรื่องจะให้มึงไปจัดการหน่อย" ภาคินได้ยินเสียงต้อยทักขึ้นมาเขาจึงเรียกต้อยเข้ามาหา ก่อนจะกระซิบสั่งงานให้ต้อยไปทำ"ได้ ลูกพี่รอก่อนก็แล้วกัน ไม่เกินสองวันน่าจะรู้เรื่อง" ต้อยตอบรับก่อนจะออกไปจัดการงานที่ภาคินสั่งอย่างรวดเร็วภาคินมองตามหลังต้อยที่เดินหายออกจากร้านไปอย่างว่องไว เขาจึงยกยิ้มอย่างมีความสุข"หึ.. หึ.. ศิวกร แล้วเราจะได้เห็นดีกัน" ภาคินเอ่ยพลางยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดีสองวันผ่านไป ต้อยรีบเข้าไปรายงานภาคินในทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าผับมา"ลูกพี่ครับ" ต้อยรีบเรียกภาคินก่อนจะรายงานเรื่องที่ภาคินให้ต้อยไปสืบมา"ไปคุยกันในห้องกู" ภาคินเอ่ยแล้วเดินนำต้อยไปยังห้องทำงานบนชั้นสองของเขา"ลูกพี่ครับ โดยปกตินายศิวกรจะมาไนต์คลับทุกคืนนะครับ ยกเว้นวันที่เขามีงานเลี้ยงหรืองานประชุ
ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโหติ๊ด.. ติ๊ด.. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำให้ภาคินที่ดื่มมาอย่างหนักหน่วงเมื่อคืนนี้ เอื้อมมือออกมาจากผ้าห่มเพื่อควานหานาฬิกาที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่หยุดมาปิดเสียงที่น่ารำคาญ เขารู้สึกมึนหัวและปวดหัวเป็นอย่างมากจึงนอนลงเพื่อพักต่ออีกสักครู่กริ๊ง.. กริ๊ง.. กริ๊ง.. เสียงโทรศัพท์ในห้องพักของภาคินยังคงดังขึ้นมากวนเขาอีกครั้ง เขาจึงจำใจต้องลุกขึ้นมารับอย่างงัวเงีย"ฮัล.. โหล" ภาคินรับสายด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและงัวเงีย"คินยังไม่ตื่นอีกเหรอ นี่สายมากแล้วนะ อย่าลืมสิว่าเรามีประชุมตอนสิบโมง รีบๆ ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว แล้วโทรศัพท์มือถือของคินอยู่ที่ไหน พี่โทรไปก็ไม่ติด" เสียงปลายสายถามอย่างรัวเร็วเมื่อได้ยินเสียงที่แหบแห้งของน้องชาย"นี่กี่โมงแล้วครับพี่หมวยใหญ่" ภาคินยังคงถามพี่สาวคนโตด้วยอาการงัวเงียและสะลึมสะลือ เนื่องจากเมื่อคืนเขาดื่มหนักมาก"เก้าโมงครึ่งแล้ว รีบๆ ลุกไปอาบน้ำเลยก่อนป๊าจะเข้ามาร่วมประชุม แค่นี้นะ" ภาสินีหรือหมวยใหญ่ของน้องๆ รีบพูดก่อนจะวางสายลงไปอย่างรวดเร็วหากภาคินยังมาทำงานสายแบบนี้ถ้าพ่อของเธอรู้เข้า ภาคินมีหวังโดนสั่งให้ปิดผับแน่ๆ หลังจากวางสาย
ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา ณ แอลฟาผับ"ทำไมวันนี้คนน้อยจังเลยวะ.. ไอ้ต้อย" ภาคินเจ้าของแอลฟาผับวัยยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาพลางหันไปถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังเดินตามหลังเขามาไม่ห่าง"นั่นสิครับลูกพี่ ปกติคืนวันศุกร์ผับของเราคนเยอะจนโต๊ะไม่พอนั่งเลยนะครับ" ต้อยตอบเจ้านายพลางส่งสายตามองรอบๆ ผับ ซึ่งมีแขกนั่งไม่กี่โต๊ะจนดูแทบจะบางตา"เฮ้ย.. ไอ้สิน ทำไมวันนี้คนน้อยจังวะ" เมื่อภาคินและต้อยเดินมาถึงเคาน์เตอร์บัญชี ภาคินจึงเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทอีกคนซึ่งมีหน้าที่ดูแลบัญชีอยู่ในเคาน์เตอร์"ก็ไนต์คลับที่เปิดใหม่ฝั่งตรงข้ามน่ะสิลูกพี่ วันนี้เขาเอาวงดนตรีที่กำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นคืนนี้ ลูกค้าก็พากันแห่ไปร้านนู้นหมดเลย ที่เหลือนั่งอยู่ในร้านก็เป็นลูกค้าประจำของร้านเราทั้งนั้นครับ" สินเอ่ยตอบพลางมองไปรอบๆ ร้าน ซึ่งมีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ"ไนต์คลับที่ว่า ใช่ไดมอนด์ไนต์คลับฝั่งตรงข้ามรึเปล่าวะ" ภาคินเอ่ยถามพลางครุ่นคิดถึงไนต์คลับที่เพิ่งจะเปิดใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผับของเขาพอดี"ใช่แล้วลูกพี่" สินตอบพลางตรวจเช็กรายการบัญชีไปด้วย"ตั้งแต่ไดมอนด์ไนต์คลับเปิดมาร่วมเดือน บัญชีที่ร้านของเราลงลดลงมากเ
Comments