Home / LGBTQ+ / ดวงใจศิวกร / ตอนที่ 7 อยากดูแล

Share

ตอนที่ 7 อยากดูแล

last update Last Updated: 2025-10-24 15:40:55

ตอนที่ 7 อยากดูแล

หลังจากศิวกรขับรถมาส่งภาคินที่คอนโดเสร็จเรียบร้อยแล้ว เขาก็ไม่ได้รีบร้อนกลับ ทำให้ภาคินเอ่ยถามเขาด้วยความสงสัย

"ถึงห้องของผมแล้ว คุณกลับไปได้แล้ว ขอบคุณที่มาส่ง" เมื่อศิวกรพาภาคินมาส่งถึงหน้าห้อง ภาคินก็ไล่ศิวกรกลับในทันที

"ไม่เป็นไรวันนี้ฉันว่าง งั้นให้ฉันอยู่เป็นเพื่อนนายไหม เผื่อนายไม่สะดวกหยิบจับอะไร ฉันจะได้ช่วยนายไง" ศิวกรพูดขึ้นมาลอยๆ

"เฮ้ย.. ไม่ต้อง ผมอยู่คนเดียวได้ คุณกลับไปเถอะ" ภาคินรีบปฏิเสธศิวกรทันที เขาไม่อยากให้ศิวกรเข้ามายุ่งเกี่ยวกับเขาอีกต่อไปแล้ว

"ก็ได้ งั้นถ้านายมีอะไรที่อยากให้ฉันช่วยก็โทรมาหาฉันได้นะ" ศิวกรพูดก่อนจะล้วงโทรศัพท์ของภาคินที่หล่นอยู่ข้างเตียงเมื่อคืนนี้มาส่งคืนให้ภาคิน

"เอ๊ะ.. นี่โทรศัพท์ของผมนี่" ภาคินมองโทรศัพท์ของตนเองที่อยู่ในมือของศิวกร เขาลืมเรื่องนี้ไปเสียสนิทเลย

ภาคินเพิ่งจะนึกขึ้นได้ว่าเขาทำมันหล่นตอนที่ถูกศิวกรผลักตัวเขาลงไปบนเตียงเมื่อคืนนี้ เมื่อคิดมาถึงตรงนี้ภาพเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนก็ผุดขึ้นมา ทำให้ภาคินเกิดความอายต่อหน้าศิวกรในทันที เขาจึงไม่กล้าหันไปมองศิวกร ภาคินรู้สึกว่าใบหน้าของตนเองร้อนผ่าวจึงรีบเดินเข้าห้องก่อนจะปิดประตูลงอย่างรวดเร็ว

"หึ.. หึ.. " ศิวกรเห็นภาคินรีบเดินหนีเข้าห้องด้วยใบหน้าที่แดงระเรื่อเขาก็รู้สึกพึงพอใจที่เห็นปฏิกิริยาของภาคินมีต่อเขา ศิวกรหัวเราะเบาๆ ก่อนจะหมุนตัวกลับไป

เมื่อภาคินเดินกลับเข้าห้องไปก็รีบเปิดโทรศัพท์มือถือขึ้นมาในทันที เสียงข้อความเด้งขึ้นมาไม่หยุด ภาคินเปิดดูจึงรู้ว่าเป็นข้อความของต้อย พี่ชาย และพี่สาวที่พยายามโทรติดต่อเขา เขาจึงรีบกดโทรไปหาพี่สาวอย่างรวดเร็ว

เสียงโทรศัพท์ดังขึ้นมาทำให้ภาสินีเห็นชื่อของปลายสายที่โทรกลับมา เธอก็รีบรับสายด้วยความเป็นห่วงน้องชายในทันที

"คิน เป็นอะไรรึเปล่า พี่โทรหาคินตั้งแต่เช้าแล้วแต่ติดต่อไม่ได้เลย โทรหาต้อย ต้อยก็บอกไม่เจอคินตั้งแต่เมื่อคืนเหมือนกัน"

"พี่หมวยใหญ่ใจเย็นๆ ครับ คือเมื่อคืนคินรู้สึกปวดหัวมากจึงกินยาแล้วหลับไปน่ะครับ คินลืมโทรบอกต้อย มันเลยไม่รู้ว่าคินกลับมาก่อน อีกอย่างแบตโทรศัพท์คงจะหมดน่ะครับ คินลืมชาร์จไว้" ภาคินรีบโกหกคำโตกับพี่สาว

"เฮ้อ.. แล้วไป พี่ก็เป็นห่วงคินมากเลยนะรู้ไหม เพราะขนาดต้อยที่ติดตามคินยังไม่รู้เรื่อง แล้วพี่จะไปถามใครได้อีก พี่โทรเข้าไปที่ห้องของคินก็ไม่มีใครรับสาย พี่ก็เลยเป็นห่วง ป๊าถามหาคินใหญ่เลยนะที่วันนี้ไม่เข้ามาที่โรงแรม"

"พี่หมวยใหญ่ครับ คินไม่สบายจริงๆ คินขอลาหยุดสักสองสามวันนะครับ งานที่ผับก็คงต้องให้ต้อยดูแลไปก่อนด้วยเหมือนกัน" ภาคินรีบขอลาหยุดกับพี่สาวในทันที ช่วงสองสามวันนี้เขาคงไม่สามารถไปทำงานในสภาพนี้ได้แน่ๆ

"ได้ พี่จะบอกป๊ากับพงษ์ให้ แล้วกินข้าวกินยารึยัง ให้พี่ส่งข้าวกับยาไปให้ไหม ไหวรึเปล่า รึจะไปโรงพยาบาลดี บ่ายนี้พี่ว่างพี่จะพาไป" ภาสินีเอ่ยถามน้องชายรัวๆ ด้วยความเป็นห่วง

"ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวผมกินยาและนอนพักต่ออีกสักหน่อยก็คงจะดีขึ้นครับ" ภาคินรีบปฏิเสธความหวังดีของพี่สาวในทันที ขืนมาเจอเขาในสภาพนี้คงจะต้องเค้นถามเขายาวแน่ๆ

"ก็ได้จ้ะ งั้นถ้าไม่ไหวจริงๆ บอกพี่นะ พี่จะพาไปโรงพยาบาล" ภาสินีบอกน้องชายด้วยความเป็นห่วง

"ครับ ขอบคุณครับพี่หมวยใหญ่" ภาคินเอ่ยขอบคุณพี่สาวก่อนจะคุยต่ออีกสองสามคำและวางสายไป

หลังจากภาคินวางสายของภาสินีแล้ว เขาก็กดโทรหาต้อยต่อ แต่เมื่อเห็นว่าต้อยเป็นคนที่โทรเข้ามาเมื่อคืนนี้ ทำให้เขาถูกศิวกรจับได้จึงนึกโมโหและคาดโทษต้อยเอาไว้ในใจ ทิ้งเขาให้เป็นห่วงไม่พอ ยังจะทำให้เขาถูกศิวกร....

ฮึ.. ยิ่งนึกยิ่งโมโห เขาจึงเปลี่ยนจากโทรเป็นส่งข้อความไปบอกต้อยแทน หลังจากจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วภาคินก็เดินกะเผลกๆ อย่างยากลำบากไปอาบน้ำ

เมื่อภาคินมองตัวเองในกระจกบานใหญ่ตรงหน้าด้วยร่างกายที่เปลือยเปล่า ใบหน้าของเขาก็นึกกรุ่นโกรธศิวกรขึ้นมา เนื้อตัวของเขามีแต่รอยช้ำสีกุหลาบจนแทบจะหาที่ว่างเว้นไม่ได้ ไม่คาดคิดเลยว่าคนอย่างศิวกรจะดุดันถึงเพียงนี้

แต่เมื่อคิดถึงรสสัมผัสของศิวกรขึ้นมา ใบหน้าของภาคินก็ร้อนผ่าวและหัวใจเต้นระรัว เขาไม่เคยถูกผู้ชายด้วยกันสัมผัสถึงเนื้อถึงตัวขนาดนี้มาก่อน ทำให้เขาไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่นึกรังเกียจศิวกรเลยแม้แต่น้อย กลับกันหากเป็นต้อยหรือเพื่อนผู้ชายคนอื่นเขากลับนึกขยะแขยงและขนลุกขึ้นมาในทันที

หลังจากภาคินอาบน้ำเสร็จเรียบร้อย เขาก็เข้าไปนอนในห้อง จนเวลาผ่านไปอย่างรวดเร็ว เขารู้สึกตัวตื่นขึ้นมาอีกทีราวๆ หกโมงครึ่งจากเสียงโทรศัพท์มือถือที่ถูกวางทิ้งไว้ยังหัวเตียง

"ฮัลโหล" เขากดรับสายด้วยอาการงัวเงียเพราะยังไม่ตื่นเต็มตา

"นายออกมาเปิดประตูหน่อย ฉันอยู่หน้าห้องของนายนานแล้วนะ" ศิวกรบอกปลายสาย ทำให้ภาคินสะดุ้งตกใจตื่นและมีสติขึ้นมาในทันที

เขาก้มมองมือถือและเห็นชื่อคนที่โทรเข้ามา จะเป็นไปได้ยังไงก็เขาไม่เคยมีเบอร์โทรของศิวกรมาก่อน ใครเป็นคนบันทึกชื่อของศิวกรในมือถือของเขา ภาคินนึกด้วยความสงสัย

"เร็วๆ หน่อย ฉันหนัก" เสียงบ่นของศิวกรดังเข้ามาในโสตประสาทของภาคิน ทำให้เขาได้สติจึงรีบลุกจากเตียงไปเปิดประตูให้ ศิวกรอย่างทุลักทุเล

"นายมาทำไม" ทันทีที่เปิดประตูเจอหน้าศิวกร ภาคินก็เอ่ยถามเขาด้วยความไม่พอใจ เขาไม่อยากให้ศิวกรมายุ่งวุ่นวายกับเขาอีกแล้ว

"เดี๋ยวค่อยคุยกัน ขอฉันเข้าไปก่อน" ศิวกรไม่สนใจใบหน้าที่บึ้งตึงของภาคิน จึงใช้ไหล่ดันประตูที่ถูกเปิดแง้มไว้เพื่อเดินเข้าไปในห้อง ภาคินได้แต่มองตามศิวกรที่เดินผ่านเขาเข้าไปในห้องโดยไม่สนใจตอบคำถามของเขา

เมื่อวางของลงบนโต๊ะเสร็จเรียบร้อยแล้ว ศิวกรก็จัดแจงเทบะหมี่เกี๊ยวร้อนๆ ใส่ชามให้ภาคิน ก่อนจะเรียกภาคินมานั่งทานอาหาร ภาคินมองศิวกรอย่างจนใจก่อนจะเดินกะเผลกๆ ไปนั่งลงบนเก้าอี้อย่างช้าๆ

"นายกินแล้วจะได้กินยา ฉันอุตส่าห์ไปยืนรอตั้งนานนะ บะหมี่เกี๊ยวเจ้านี้อร่อยมาก" ศิวกรเอ่ยพลางขยับถ้วยบะหมี่ไปตรงหน้าภาคิน ทำให้ภาคินเงยหน้าขึ้นมองศิวกรที่กำลังง่วนอยู่กับการเทน้ำใส่แก้วให้เขา

"คุณยังไม่ได้ตอบผมเลยนะ ว่าคุณมาทำไม วันนี้คุณไม่ไปไนต์คลับเหรอ" ภาคินยังคงไม่ได้แตะชามบะหมี่ตรงหน้า เขาเอาแต่จ้องศิวกรด้วยความไม่เข้าใจ

"เมื่อเช้าฉันก็บอกนายแล้วว่าวันนี้ฉันว่าง อีกอย่างฉันก็เป็นห่วงนายไงถึงได้มาดูนายที่นี่ ไหนดูหน่อย.. ดีขึ้นรึยัง" ศิวกรเอ่ยด้วยน้ำเสียงอ่อนโยน ก่อนจะยกมือหนาแตะหน้าผากขาวนุ่มของภาคิน

ภาคินนั้นเงยหน้ามองศิวกรอยู่ก่อนแล้ว เมื่อศิวกรยกมือมาสัมผัสที่หน้าผากกลมมนของเขาก็ทำให้ทั้งสองประสานสายตากันด้วยความชิดใกล้

สายตานุ่มลึกของศิวกรที่จดจ้องภาคินอย่างไม่วางตา ทำให้ภาคินรู้สึกเขินอายจนใบหน้าเริ่มแดงระเรื่อ และหัวใจเต้นครึกโครมเสียงดังราวกับจะทะลุออกมา เขาจึงรีบละสายตาจากศิวกรเสลงมองชามบะหมี่เกี๊ยวตรงหน้า

"ทำไมนายตัวรุมๆ ล่ะ นายไปทำอะไรมาถึงได้มีไข้" น้ำเสียงอ่อนโยนของศิวกรทำให้ภาคินได้สติ เขารีบสะบัดหน้าออกเพื่อให้มือหนาของศิวกรหลุดออกจากหน้าผากของเขา

"เปล่าสักหน่อย" ภาคินเอ่ยอย่างไม่ชอบใจมากนักที่ศิวกรเริ่มมาวุ่นวายกับตนเอง

"ฉันว่านายรีบกินบะหมี่ก่อนเถอะ จะได้กินยา" ศิวกรพูดขึ้นมา ก่อนเขาจะทำจมูกฟุดฟิดเพราะได้กลิ่นหอมอ่อนๆ ลอยมาแตะจมูกของเขาจึงรู้ได้ทันทีว่าภาคินนั้นอาบน้ำมา

"นายอาบน้ำรึเปล่าถึงได้ทำให้มีไข้ ฉันว่านายควรจะเช็ดตัวดีกว่านะ เอาไว้เริ่มดีขึ้นค่อยอาบก็ได้ ฉันว่างนะให้ฉันช่วยเช็ดตัวไหม" คำพูดของศิวกรในตอนแรกคล้ายจะเป็นห่วงเขา แต่ตอนท้ายประโยคทำไมฟังเหมือนหยอกเย้าเขาล่ะ

"ไม่ต้อง ผมทำเองได้" ภาคินเอ่ยด้วยน้ำเสียงเคืองๆ ก่อนจะรีบก้มลงตักกินบะหมี่ตรงหน้าโดยไม่พูดจากับคนที่กำลังนั่งมองตนอยู่

"คุณกลับไปเถอะ ผมอยากอยู่คนเดียว" ภาคินรู้สึกรำคาญสายตาของศิวกรที่เอาแต่นั่งมองตนจึงรีบไล่ศิวกรให้กลับไป

หากแต่ศิวกรทำเป็นไม่สนใจใบหน้าที่บิดเบี้ยวด้วยความไม่พอใจของภาคิน เขาแกล้งเท้าคางและมองภาคินกินบะหมี่ก่อนจะยกยิ้มด้วยความชอบใจ

"ผมอิ่มแล้ว คุณกลับไปได้แล้ว และไม่ต้องมาอีกนะ ผมไม่อยากเจอคุณ" ภาคินเอ่ยบอกศิวกรหลังจากเขาวางตะเกียบลงบนถ้วยบะหมี่ที่เขากินไปได้แค่เพียงครึ่งถ้วย

"ฉันรู้อยู่แล้วว่านายจะไล่ฉันกลับ ฉันเลยเตรียมอาหาร ผลไม้ และนมให้นายอยู่ในตู้เย็น ถ้าเกิดนายหิวขึ้นมาก็อย่าลืมกินเสียล่ะ อย่าปล่อยให้ท้องร้องเดี๋ยวนายจะไม่หายสักที" ศิวกรพูดพลางอธิบายถึงข้าวของที่เขาซื้อมาเก็บไว้ให้ภาคิน

เขารู้ว่าช่วงนี้ภาคินคงจะออกไปหาอะไรกินเองไม่ได้ และภาคินคงจะไม่รบกวนคนอื่นให้เอากับข้าวมาส่งให้แน่ๆ เพราะกลัวความแตกเรื่องระหว่างเขาและภาคิน

"อ้อ.. นี่ยา ฉันเตรียมให้นายแล้ว อย่าลืมกินจนหมดล่ะ" เขาพูดก่อนจะวางถุงยาลงบนโต๊ะ และยกถ้วยบะหมี่ไปล้างให้ภาคินจนเสร็จเรียบร้อย

หลังจากศิวกรเห็นภาคินกินยาเรียบร้อยแล้ว เขาจึงหยิบเสื้อสูทที่ถอดวางทิ้งไว้บนเก้าอี้ก่อนหน้านี้ขึ้นมาพาดแขนของเขา

"งั้นฉันกลับก่อนนะ นายจะได้พักผ่อน" เมื่อพูดจบเขาก็เดินไปยังประตูห้องแต่ก็ถูกภาคินเรียกไว้ก่อนจึงได้หันกลับมา

"ขอบคุณนะ... คุณศิวกร" ภาคินพูดด้วยใบหน้าจริงจัง

"ไม่เป็นไร" ศิวกรพูดก่อนจะยกยิ้มมุมปากแล้วหันตัวกลับออกไป

เมื่อประตูถูกปิดลงภาคินกลับรู้สึกวูบโหวงภายในใจ เขาได้แต่มองตามแผ่นหลังหนาของศิวกรที่เพิ่งจะหันหลังเดินจากไป ทำไมเขาถึงได้รู้สึกโดดเดี่ยวอย่างนี้นะ ความรู้สึกนี้กลับมาอีกครั้งหลังจากห่างหายไปนาน เพราะภาคินเป็นคนขี้เหงา

แต่หลังจากต้อยมาช่วยงานเขาทั้งเวลากลางวันและกลางคืน ด้วยนิสัยพูดมากของต้อยและคอยตามติดเขาตลอดเวลา ทำให้ภาคินไม่ได้กลับมารู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวอีก วันนี้หลังจากเขาถูกศิวกรดูลอย่างดี เมื่อศิวกรกลับไปแล้ว ทำไมความรู้สึกนี้ถึงกลับมาเป็นอีกครั้งกันนะ...

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #4 THE END

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #4 THE ENDรุ่งเช้าภาคินและศิวกรแต่งกายด้วยชุดยูกาตะแล้วจึงพากันเดินเที่ยวตามแผนที่ภาคินวางไว้ในทริปการเดินทางนี้ ทั้งสองคนเดินชมดอกซากุระที่กำลังบานสะพรั่งรอบๆ หมู่บ้านซึ่งที่หมู่บ้านนี้มีนักท่องเที่ยวมาชมดอกซากุระและแช่น้ำร้อนกันค่อนข้างมากทั้งคู่รัก เพื่อนและครอบครัว ผู้คนก็สวมใส่ชุดยูกาตะเดินท่องเที่ยวตามสถานที่ต่างๆ จึงเข้ากับบรรยากาศในหมู่บ้านแห่งนี้ และนักท่องเที่ยวบางคนก็สวมใส่รองเท้าเกี๊ยะที่ทำขึ้นจากไม้ เวลาเดินจึงเสียงรองเท้ากระทบกับพื้นถนนช่างแปลกหูดีสำหรับภาคิน แต่เขาและศิวกรเลือกไม่สวมรองเท้าเกี๊ยะเพราะเดินไม่ถนัดระหว่างทางที่เดินชมดอกซากุระรอบหมู่บ้านก็จะพบกับร้านค้ามากมายไม่ว่าจะร้านขายของที่ระลึก ร้านอาหาร ร้านขายขนม ร้านถ่ายภาพสำหรับเก็บเป็นที่ระลึก และบ่อน้ำร้อนสาธารณะ ซึ่งมีบริการสำหรับนักท่องเที่ยวจำนวนหลายบ่ออยู่ห่างกันกระจัดกระจายกันออกไป ทั้งคู่จึงพากันไปนั่งแช่เท้าในบ่อน้ำร้อนที่ค่อนข้างห่างไกลกลุ่มนักท่องเที่ยวกลุ่มอื่นๆ"สนุกไหมคิน" ศิวกรเอ่ยถามภาคินที่ดูกำลังสนุกและสนใจทุกสิ่งรอบกายด้วยความสนใจ"สนุกครับ แต่คินมีคว

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #3

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #3หลังจากภาคินมาถึงที่ทำงาน สายตาของเขาก็สอดส่ายหาลูกน้องคนสนิทที่หายหน้าหายตาไปถึงสี่วันเต็มๆ เมื่อเขามองไม่เห็นต้อยจึงได้สั่งนุชนารถผู้ช่วยคนเก่งของเขาให้บอกต้อยไปพบเขาที่ห้องทำงานด้วยถ้ามาถึงแล้ว ราว ๆ ครึ่งชั่วโมงต้อยก็มาพบเขาด้วยใบหน้าที่ยิ้มแย้มอย่างคนอารมณ์ดี"ลูกพี่มีอะไรให้กระผมรับใช้ขอรับ" น้ำเสียงที่ร่าเริงของต้อยทำให้ภาคินต้องหันมามองต้อยด้วยความแปลกใจ เมื่อวานที่เขาเจอต้อยในลิฟต์ยังดูท่าทางเหมือนคนหมดอาลัยตายอยากอยู่เลย ทำไมวันนี้ถึงได้ร่าเริงเหมือนปลากระดี่ได้น้ำ ฮึ... คงจะได้น้ำดีมาแน่ ๆ ถึงได้กระดี้กระด๊าจนน่าหมั่นไส้"หน้าแบบนี้แปลว่าหายดีแล้วสิ สรุปว่าใคร?" ภาคินถามออกไปตรงๆ ทำเอาต้อยที่ไม่ทันตั้งตัวชะงักไปในทันทีด้วยความตกใจ"อะ...อะไร ใคร...หมายความว่ายังไง ผมไม่เข้าใจ" ต้อยรีบพูดกลบเกลื่อนภาคินอย่างรวดเร็วหลังจากได้สติ"หึ... หึ... ไอ้ต้อย กูเป็นพี่มึงนะโว้ย มึงคิดว่ากูจะไม่รู้หรือยังไง มึงอาบน้ำแต่งตัวมาทำงาน มึงไม่เห็นรอยแดงที่คอมึงบ้างรึไง" ภาคินพูดพลางชี้ไปที่คอปกเสื้อของตนเอง ทำให้ต้อยตกใจรีบดึงปกเสื้อเชิ้ตมาปิดลำคอใน

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #2

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #2หลังจากต้อยลาป่วยไปสามวันก็กลับมาทำงานตามปกติ ต้อยพยายามเดินให้เหมือนเดิมมากที่สุด คืนนั้นเขาถูกอิฐจัดหนักจัดเต็มจนครบหลักสูตร ต้อยจึงไม่สามารถลุกเดินได้เหมือนปกติมากนัก แม้ตอนนี้เขาจะดีขึ้นมากแล้วแต่ก็ยังคงรู้สึกขัดๆ อยู่บ้างเวลาเดินเร็วๆ“ไอ้ต้อย...” หลังจากศิวกรขับรถมาส่งภาคินที่โรงแรม ภาคินเห็นหลังต้อยไวไวกำลังจะเดินขึ้นลิฟต์ เขาจึงรีบวิ่งตามต้อยเข้ามาในลิฟต์อย่างรวดเร็วต้อยสะดุ้งตกใจจนตัวโยนเมื่อได้ยินเสียงของภาคินเรียกอยู่ทางด้านหลัง เขาจึงชะงักค้างและยืนยิ่งไปทันที เพราะกลัวว่าภาคินจะจับผิดสังเกตเขาได้"อะ...อะ เอ่อ ลูกพี่" น้ำเสียงของต้อยติดอ่างขึ้นมาทันทีที่เห็นหน้าของภาคินกำลังมองมาทางเขาด้วยความเป็นห่วงตนเอง"ไง...มึงหายดีแล้วเหรอ ร้อยวันพันปีไม่เคยเห็นมึงจะลาป่วยเลยสักครั้ง กูจะไปเยี่ยมมึงก็ไม่ให้ไป" ภาคินพูดพลางตบไหล่หนาของต้อย ทำให้เขาเห็นรอยแดงจางๆ บริเวณลำคอหนาของต้อยภาคินตกตะลึงและนิ่งค้างไปครู่หนึ่ง ก่อนจะหันมามองใบหน้าของต้อยที่เริ่มแดงระเรื่อขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว ต้อยเมื่อรู้สึกถูกภาคินจ้องใบหน้าจึงเกิดอาการประหม่า ยิ่งเ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #1

    ตอนพิเศษ ดื่มน้ำผึ้งพระจันทร์ชมดอกซากุระ #1ณ ห้องทำงานของภาคินขณะที่ภาคินกำลังนั่งมองแหวนแต่งงานซึ่งศิวกรสวมให้เขาที่นิ้วนางข้างซ้ายอย่างเหม่อลอยนั้น ต้อยก็ได้เดินผ่านประตูห้องทำงานมาพอดี เขาเห็นภาคินกำลังนั่งใจลอยอยู่จึงอดที่จะเดินเข้ามาสอบถามไม่ได้"ลูกพี่.. ลูกพี่เป็นอะไร ผมเห็นลูกพี่นั่งมองแหวนแต่งงานมาพักหนึ่งละ" ต้อยเอ่ยถามขณะนั่งลงตรงเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามของภาคินด้วยความสงสัยภาคินได้ยินเสียงของต้อยเอ่ยถาม เขาจึงได้สติแล้วจึงเงยหน้าขึ้นมามองต้อยอย่างครุ่นคิด"อย่าบอกนะว่าลูกพี่ทะเลาะกับคุณกร" ต้อยถามด้วยน้ำเสียงกึ่งตกใจ ขณะที่เขากำลังคาดเดาใบหน้าที่กำลังตึงเครียดของภาคิน"บ้าแล้วไอ้ต้อย พี่กรดีกับกูจะตาย กูจะไปทะเลาะกับเขาทำไม" ภาคินตอบกลับต้อยด้วยน้ำเสียงกึ่งดุนิดๆ ศิวกรไม่เคยขัดใจเขาเลยสักครั้ง แล้วเขาจะไปมีปัญหากับศิวกรได้อย่างไร"อ้าว.. ก็ผมเห็นลูกพี่เอาแต่จ้องแหวนแต่งงาน แล้วก็ทำท่าทางเหมือนคนกำลังกลุ้มใจ ผมก็เลยเข้าใจผิดคิดว่าลูกพี่มีปัญหากับคุณกรเสียอีก" ต้อยตอบเสียงอ่อนลง"เฮ้อ.. แล้วกูจะปรึกษากับมึงได้ไหมเนี่ย" ภาคินพูดพลางถอนหายใจ คราวก่อนก็เพราะปรึกษาต้อยทำให้ศิวกรลงโ

  • ดวงใจศิวกร   ตอนพิเศษ สวัสดีวันเด็ก

    ตอนพิเศษ สวัสดีวันเด็ก"คุณคินคะ มีคนส่งของมาให้ค่ะ" แอร์พนักงานต้อนรับโรงแรมของภาคิน เดินนำถุงกระดาษสีขาวใบเล็กน่ารักมาให้ภาคินที่ห้องทำงาน แต่ระหว่างที่เธอเดินออกมาจากลิฟต์ ก็พบภาคินและต้อยซึ่งกำลังยืนคุยกันอยู่หน้าห้องทำงานพอดี เธอจึงรีบเดินนำเอาของมาให้ภาคิน"ของผมเหรอครับ คุณแอร์" ภาคินถามแอร์ด้วยความงุนงงระคนสงสัยว่าใครเป็นคนส่งของให้เขา และเนื่องในโอกาสอะไร จะว่าวันเกิดก็ไม่น่าจะใช่"ของคุณคินจริงๆ ค่ะ มีการ์ดแนบมาด้วยนะคะ นี่ค่ะ" แอร์ยืนยันพลางส่งการ์ดให้ภาคินทันที" สุขสันต์วันเด็กครับหนูคินขอให้หนูคินเป็นเด็กดีของพี่กรคนเดียวนะครับรักนะเด็กดี... พี่กร "ภาคินรับการ์ดที่ปิดผนึกซองอย่างดีมาแกะอ่านก่อนจะยกยิ้มอย่างมีความสุข ที่แท้ก็เป็นของศิวกรนี่เอง"ขอบใจนะ.. แอร์" ภาคินรับถุงกระดาษสีขาวมาจากแอร์ เขาแกะสติกเกอร์บนปากถุงกระดาษด้วยความระมัดระวัง เมื่อเขาอ้าปากถุงกระดาษออกจึงพบว่ามีกล่องของขวัญที่ห่อด้วยกระดาษสีทองอยู่ข้างในกล่องหนึ่ง"ยินดีค่ะ งั้นแอร์ขอตัวก่อนนะคะคุณคิน" แอร์ส่งของให้ภาคินเรียบร้อยแล้วก็ขอตัวกลับไปทำงานต่อภาคินยกยิ้มให้แอร์ก่อนจะล้วงเอากล่องของขวัญขนาดเล็กข

  • ดวงใจศิวกร   ตอนที่ 30 จบบริบูรณ์

    ตอนที่ 30 จบบริบูรณ์"พี่กรครับ ศุกร์หน้าคินต้องบินไปจัดการงานที่ภูเก็ตแทนพี่พงษ์ นัดของเราคงต้องเลื่อนไปก่อนนะครับ" ภาคินเอ่ยขึ้นมาหลังจากพวกเขากลับมาถึงเพนท์เฮ้าส์หลังใหม่ที่ศิวกรซื้อให้ภาคิน เมื่อพวกเขาตัดสินใจใช้ชีวิตร่วมกัน"งั้นเหรอ น่าเสียดายจริงๆ พี่อุตส่าห์จองห้องพักที่มีสระว่ายน้ำส่วนตัวด้วยนะ" ศิวกรพูดพลางเดินมาโอบกอดภาคินจากทางด้านหลัง ก่อนจะก้มลงไปกระซิบริมหูบางของภาคินแล้วจึงขยับใบหน้าซุกลงบนซอกคอขาว"คินก็เพิ่งรู้จากพี่พงษ์เมื่อกี้นี้เองครับ แขกเพิ่งจะติดต่อมาจัดงานแต่งงานที่นั่น มันกะทันหันเพราะพี่พงษ์ก็ต้องดูแลแขกที่มาจัดงานแต่งที่นี่พอดี คินเลยต้องไปแทนน่ะครับ" ภาคินหันมาบอกศิวกรที่กำลังซุกไซ้ซอกคอของเขาด้วยน้ำเสียงที่แผ่วเบา ศิวกรจึงเงยหน้าขึ้นมาส่งยิ้มให้ภาคิน"ขอโทษนะครับ" ภาคินเอ่ยด้วยความรู้สึกผิด เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าจะเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นมา ทั้งๆ ที่ก่อนหน้านี้เขาได้เอ่ยถามพี่ชายและพี่สาวแล้วว่าเขามีงานในวันศุกร์หน้าหรือเปล่า เพราะปกติเขาจะไม่รับนัดของศิวกรในวันศุกร์และเสาร์ เนื่องจากเป็นช่วงที่แขกเข้าพักมากกว่าปกติ ซึ่งพี่สาวและพี่ชายก็ได้รับปากแล้วว่าจะ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status