ตอนที่ 5 ผิดแผน #2
หลังจากภาคินถูกศิวกรจับมัดข้อมือทั้งสองข้าง เขาก็ได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างหนาของศิวกร ศิวกรลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของภาคินอย่างเชื่องช้า พลางสำรวจใบหน้าที่กำลังแดงก่ำไปด้วยความโกรธ
เมื่อเขาปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตจนหมด ผิวขาวนวลของภาคินก็เผยออกมาสู่สายตาของศิวกร ด้วยภาคินนั้นมีเชื้อสายจีนทำให้ผิวพรรณของภาคินขาวนวลเนียนเนื้อละเอียดและผุดผ่อง
ศิวกรชอบคนผิวขาวเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงลูบไล้แผงอกของภาคินอย่างเบามือ เขาลูบไล้เรื่อยลงมาจนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคิน ทำให้ภาคินตะโกนด่าศิวกรไม่หยุดหย่อน แต่ศิวกรก็ไม่สนใจ เขายังคงหยอกล้อร่างบางของภาคินโดยการลูบไล้ผ่านหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคินต่ำลงไปจนกระทั่งถึงเอวบางของคนที่กำลังนอนดิ้นอยู่ใต้ร่างของเขา แล้วจึงปลดกระดุมกางเกงยีนของภาคินออกอย่างช้าๆ
"ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันเป็นผู้ชายนะโว้ย ปล่อยสิวะ" ภาคินยังคงตะโกนด่าศิวกรอย่างไม่ลดละ
ศิวกรยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นไปบดจูบภาคินอย่างดุดันเพื่อปิดเสียงก่นด่าของภาคินอีกครั้ง เขาสอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นบางของภาคินและดูดดึงอย่างแรง ทำให้ภาคินเริ่มหายใจติดขัด เมื่อศิวกรผละออกจากริมฝีปากบางเขาก็เห็นภาคินหอบหายใจอย่างแรงด้วยใบหน้าขึ้งโกรธ
ศิวกรหัวเราะในลำคออย่างขบขัน เขาก้มลงลากลิ้นร้อนไล้เลียซอกคอขาวของภาคินก่อนจะลากลงมายังเม็ดองุ่นเล็กๆ ทั้งสองข้างแล้วดูดกลืนมันลงไปด้วยความอยากลิ้มลอง
ภาคินที่ดิ้นรนจนเริ่มหมดแรงกลับส่งเสียงร้องครางออกมาด้วยความเสียวซ่าน เมื่อถูกศิวกรดูดดึงเม็ดองุ่นทั้งสองข้างของเขาอย่างเอร็ดอร่อยจนเกิดเสียงน่าอายดังขึ้น
"อื๊อ.. อ่า คุณศิวกร พอเถอะ ผมไม่ไหวแล้ว ผมผิดเองคุณปล่อยผมเถอะ" ภาคินในที่สุดก็ยอมอ่อนลงและยอมรับผิดต่อศิวกร หากแต่ศิวกรกำลังมีอารมณ์ที่เริ่มร้อนแรงขึ้นจากการถูกกระตุ้น เขาจึงไม่สามารถหยุดได้
"มันสายไปแล้วภาคิน ตอนนี้ฉันไม่สามารถหยุดได้แล้ว" ศิวกรผละจากแผงอกของภาคิน ก่อนจะโน้มใบหน้าคมเข้มของเขาเข้าไปใกล้ๆ ภาคิน
ภาคินสัมผัสได้ถึงลมหายใจอุ่นร้อนของศิวกร ทำให้ใบหน้าของภาคินร้อนผ่าวและขึ้นสี ทางด้านศิวกรนั้นเม็ดเหงื่อของเขาก็เริ่มผุดขึ้นมาเต็มกรอบหน้าคมเข้มอีกครั้ง แม้ภาคินพยายามพูดจาหว่านล้อมศิวกรให้ปล่อยตนเอง
"คุณใจเย็นๆ ก่อน ผมจะหาทางช่วยคุณเอง คุณปล่อยผมก่อนนะ" ภาคินเอ่ยเสียงอ่อน ความรู้สึกผิดเริ่มแล่นเข้ามาในหัวสมองของเขา
ศิวกรไม่เอ่ยอะไร เขาเอาแต่จดจ้องใบหน้าที่สำนึกผิดของภาคินด้วยสายตานุ่มลึก นั่นจึงยิ่งทำให้ใบหน้าของภาคินร้อนผ่าวด้วยความอายจนแทบจะไหม้ เมื่อถูกสายตาคมเข้มของศิวกรจ้องมองอย่างไม่ลดละ
"นายจะช่วยฉันยังไง ฮึ.. ภาคิน" ศิวกรเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เริ่มแหบพร่า
ภาคินได้แต่นิ่งค้างอยู่อย่างนั้น เขากำลังใช้หัวสมองเค้นหาวิธีช่วย นั่นสิ.. เขาจะช่วยศิวกรได้ยังไง ขณะที่ภาคินกำลังนิ่งคิดอยู่นั้น ศิวกรก็ไม่รอช้าด้วยอุณหภูมิที่ร้อนของร่างกายกำลังปะทุขึ้นมาเขาจึงก้มหน้าลงไปซุกไซ้ซอกคอขาวของภาคินอีกครั้ง ทำให้เกิดรอยช้ำสีกุหลาบเพิ่มขึ้นเต็มซอกคอขาว ความเสียวซาบซ่านทำให้ภาคินหลุดออกมาจากความคิด เขาไม่สามารถหยุดศิวกรได้แล้วในตอนนี้
ศิวกรเพิ่มความแรงในการขบเม้มซอกคอขาวของภาคินนั้นยิ่งกระตุ้นให้ภาคินกระสันเสียวขึ้นมา จึงเผลอครางเสียงดังออกมาด้วยความเสียวซ่านที่เริ่มก่อตัวขึ้นมา
เขาได้ยินเสียงหวานของภาคินดังขึ้นมาเรื่อยๆ จึงไล้ลิ้นร้อนลามเลียลงมายังกระดูกไหปลาร้า ก่อนจะไปหยุดที่หัวไหล่ขาวกลมมนของภาคินและกัดเบาๆ
ภาคินที่เคยดิ้นรนขัดขืน เมื่อถูกปลุกเร้าอารมณ์ด้วยความรุนแรงจากการขบเม้นและขบกัดเบาๆ ของศิวกร เขาก็เริ่มบิดกายด้วยความเสียวซาบซ่าน
เมื่อศิวกรไล้ลิ้นร้อนเลื่อนต่ำลงมายังแผงอกขาวนวลของภาคิน ภาคินก็ไม่รอช้ารีบบดเบียดแผงอกบางเข้าหาริมฝีปากหนา ด้วยความต้องการที่กำลังก่อตัวเพิ่มขึ้นมาทีละนิดๆ อย่างไม่รู้ตัว
ศิวกรจึงเพิ่มแรงดูดดึงเม็ดองุ่นสีชมพูของภาคิน ก่อนจะลากลิ้นร้อนโลมเลียลามลงต่ำมาจนกระทั่งถึงหน้าท้องที่แบนราบเรียบ ก่อนจะขยับมือหนาขึ้นมาแกะกระดุมกางเกงยีนเม็ดที่เหลือจากเมื่อครู่ด้วยความเร่งรีบแล้วถอดรูดกางเกงยีนออกแล้วขว้างทิ้งไปยังข้างเตียงรวดเร็ว
ภาคินในเวลานี้เกือบจะเปลือยเปล่าในสายตาของศิวกร เขาไม่รอช้าก่อนที่ภาคินจะเริ่มทักท้วงขึ้นมาจึงรีบถอดกางเกงในสีขาวสะอาดตาซึ่งเป็นแบรนด์ดังออกอย่างรวดเร็ว และขว้างลงไปกองกับพื้นเช่นเดียวกับกางเกงยีนตัวเมื่อครู่
เมื่อภาคินรู้สึกถึงความเย็นของช่วงล่าง เขาจึงเริ่มรู้สึกตัวแต่ยังไม่ทันจะเอ่ยปากออกมา เขาก็ถูกศิวกรจับแก่นกลางกายของเขารูดรั้งขึ้นลงอย่างนิ่มนวลและเบามือ ทำให้ภาคินเคลิบเคลิ้มจากการสัมผัสของศิวกรด้วยความกระสันเสียว เขาจึงเผลอส่งเสียงครางออกมาเบาๆ
ศิวกรรู้สึกพึงพอใจมากแต่ก็อยากกลั่นแกล้งภาคินไปในที เขาจึงเร่งมือในการรูดรั้งแก่นกลางกายที่กำลังขยายใหญ่ในมือหนาของเขา ก่อนจะหยุดไปเสียดื้อๆ ทำให้ภาคินที่เกือบถึงฝั่งฝันต้องหยุดชะงักและค้างเติ่งอยู่อย่างนั้น
"คุณ.. คุณ" ภาคินเขินอายเกินกว่าจะบอกให้เขาลงมือต่อ จึงได้พูดค้างอยู่แค่นั้น ส่วนศิวกรก็รู้สึกพึงพอใจเป็นอย่างมากที่เห็นภาคินเขินอายจนหน้าแดงและลามไปจนถึงใบหู กลีบปากบางอ้าๆ หุบๆ ยิ่งทำให้เขามีความสุขที่ได้กลั่นแกล้ง
"นาย.. ขอร้องฉันสิ ภาคิน" ศิวกรกระซิบเอ่ยด้วยน้ำเสียงแหบพร่าริมใบหูที่กำลังเห่อร้อนของภาคิน เขาเลียใบหูที่กำลังขึ้นสีอย่างช้าๆ ความรู้สึกเสียวซาบซ่านแล่นขึ้นมาถึงท้องน้อยของภาคิน ยิ่งก่อให้เกิดความต้องการมากยิ่งขึ้น
"คุณศิวกร ได้.. โปรด.. ช่วย... " ภาคินเอ่ยเสียงเบาด้วยความเขินอาย ตอนนี้เขาเริ่มมีอารมณ์และความต้องการอย่างบอกไม่ถูก และเขายิ่งไม่เข้าใจว่าทำไมเขาถึงไม่ได้รังเกียจการสัมผัสจากศิวกรเลยสักนิด
"นายพูดขอร้องให้มันดีๆ หน่อยสิ.. ภาคิน นายพูดตะกุกตะกักแบบนี้ ฉันได้ยินไม่ถนัดเลย" ศิวกรผละจากใบหูของภาคินที่เริ่มเปียกชื้นจากน้ำลายของเขามากระซิบอย่างแผ่วเบาที่ริมหูของภาคิน
แม้ว่าตอนนี้แก่นกลางกายภายใต้ผ้าเช็ดตัวผืนสีดำของศิวกรจะมีความต้องการอย่างมากไม่ต่างจากภาคิน แต่เขาก็พยายามอดทนและอดกลั้นอย่างใจเย็น เพราะครั้งนี้ก็เป็นครั้งแรกของเขาเช่นเดียวกันกับภาคิน เขาจึงอยากให้ภาคินสมัครใจด้วยเช่นกัน เขานึกแปลกใจตัวเองอยู่มากนักที่เขาชอบลูบไล้และสัมผัสผิวกายที่เนียนนุ่มของภาคิน
ดังนั้นศิวกรจึงแสร้งเลื่อนมือหนามาลูบไล้แผงอกขาวนวลของภาคินอย่างจงใจ และเลื่อนต่ำลงไปยังหน้าท้องที่แบนราบของภาคินอย่างช้าๆ
เขาลูบไล้วนหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคินอย่างเบามือ ทำให้ภาคินเสียววาบตรงท้องน้อยขึ้นมา แก่นกายกลางลำตัวยิ่งแข็งขืนขึ้น จึงทำให้ภาคินที่มือถูกมัดอยู่บนเหนือหัวดิ้นรนเข้าหาฝ่ามือหนาของศิวกรซึ่งกำลังหยอกล้ออยู่บนหน้าท้องที่แบนราบของเขา
"หึหึหึ.. นายขอร้องฉันดีๆ สิภาคิน" ศิวกรเลื่อนมือต่ำลงไปลูบไล้ต้นขาขาวเนียนของภาคิน ทำให้ภาคินยิ่งเสียวจนขนลุกขนชัน
"คุณศิวกร ได้โปรดช่วยผมด้วย อ่าา.. " ภาคินแม้จะเอ่ยออกมาด้วยความอาย แต่ความต้องการของเขากลับมีมากกว่า ในที่สุดภาคินจึงกล้ำกลืนความอายลงท้องไป ก่อนจะเอ่ยขอร้องศิวกร
"หึหึหึ.. ได้ครั้งนี้ฉันจะช่วยนายเอง แล้วนายอย่าบอกให้ฉันหยุดนะ เพราะฉันจะไม่ยอมหยุดตามคำขอของนายอย่างแน่นอน" ศิวกรยกยิ้มมุมปาก ก่อนจะเลื่อนมือหนาไปกอบกุมแก่นกลางกายของภาคินที่ขยายใหญ่อย่างเต็มที่ เขารูดรั้งขึ้นลงอย่างช้าๆ จนกระทั่งภาคินซึ่งอยู่ภายใต้ร่างของเขาบิดเร่าด้วยความเสียวซ่าน
"เร็วขึ้นอีก คุณศิวกร อ๊ะ.. อ่า ซี้ดด" ภาคินเริ่มส่งเสียงครางดังขึ้นๆ ตามอารมณ์ที่พุ่งขึ้นจนใกล้ถึงขีดสุด
ศิวกรไม่รอช้า เขาเพิ่มน้ำหนักมือและชักรูดเร็วขึ้นจนกระทั่งภาคินร้องออกมาเสียงดังลั่นห้อง เมื่อเขาไปถึงจุดสูงสุดที่เขาต้องการ
"อ๊า... อ่าส์" ภาคินนิ่งค้างก่อนจะปลดปล่อยน้ำกามสีขาวขุ่นเลอะเต็มมือหนาของศิวกร
แต่ศิวกรก็ไม่ได้นึกรังเกียจ กลับกันเขากลับเอื้อมมือหนามาจับขาขาวนวลของภาคินแยกออกจากกันก่อนจะสอดใส่นิ้วมือแกร่งเข้าไปในช่องทางรักของภาคิน
ภาคินสะดุ้งเพราะความเจ็บ แม้จะเป็นเพียงนิ้วเดียวแต่เขาไม่เคยถูกรุกรานมาก่อนจึงรู้สึกเจ็บขึ้นมา ทางด้านศิวกรก็ไม่ได้เร่งรีบ เขาค่อยๆ ชักรูดนิ้วมือเข้าออกอย่างช้าๆ ก่อนจะเพิ่มนิ้วมือที่สองเข้าไป
"อ๊ะ.. เจ็บ ผมเจ็บนะคุณกร" ภาคินร้องออกมาเสียงดังเมื่อเขารู้สึกถึงความเจ็บจากการสอดนิ้วของศิวกรเข้ามาในช่องทางรักของเขา
ศิวกรรู้สึกถึงความฝืดของนิ้วมือหนาเขาจึงป้ายน้ำกามสีขาวขุ่นของภาคินมาใส่ในช่องทางรักของภาคิน ก่อนจะสอดนิ้วมือที่สามเข้าไปในช่องทางรักอีกครั้ง
ภาคินทั้งเจ็บทั้งจุกจึงพยายามถอยหนีนิ้วมือแกร่งของศิวกร แต่ศิวกรก็ใช้มือหนาอีกข้างจับยึดสะโพกขาวนวลของภาคินไว้ก่อนจะเร่งชักมือเข้าออกอย่างรวดเร็ว ทำให้ภาคินซึ่งมีความรู้สึกเจ็บและจุกในทีแรกเริ่มเสียวท้องน้อยขึ้นมา แก่นกลางกายของภาคินที่เพิ่งจะปลดปล่อยออกไปเมื่อสักครู่กลับมาแข็งขืนขึ้นอีกครั้ง
ศิวกรเห็นภาคินไม่ร้องเจ็บเหมือนในคราแรก เขาก็รีบปลดผ้าเช็ดตัวออกก่อนจะจับขาของภาคินให้แยกออกกว้างขึ้น แล้วจึงชักมือของเขาออกมาก่อนจะสอดใส่แก่นกลางกายของเขาที่ขยายใหญ่อย่างเต็มที่เข้าไปแทนอย่างช้าๆ
ภาคินสัมผัสถึงสิ่งที่ใหญ่โต นุ่มนิ่ม และแข็งขืนกำลังสอดเข้ามาในช่องทางรักของเขา ซึ่งเขาทั้งเจ็บทั้งจุกต่างจากนิ้วมือของศิวกรในตอนแรกเขาก็รับรู้ได้ในทันทีว่าสิ่งนั้นคืออะไร
เขาก่อเกิดความรู้สึกหลากหลายขึ้นมาตีกันจนใบหน้าของเขาบิดเบี้ยว เขานิ่งค้างและช็อกไปเพียงครู่เดียว หลังจากศิวกรดันแก่นกลางกายของเขาเข้าไปจนสุด ภาคินจึงได้รู้สึกตัวขึ้นมาและบัดนี้ทั้งสองคนแนบชิดและเป็นหนึ่งเดียวกัน
ศิวกรจับยึดสะโพกของภาคินไว้แน่นก่อนจะค่อยๆ เริ่มขยับอย่างช้าๆ
"อ๊ะ.. คุณกร ช้าหน่อย ผมเจ็บ ซี้ด" ภาคินร้องขึ้นด้วยความเจ็บและจุก
"อื๊มม.. ซี้ด ฉันเริ่มจะไม่ไหวแล้ว ภาคิน..." ศิวกรเริ่มเร่งจังหวะโยกขยับเร็วขึ้นๆ ทำให้เกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อดังลั่นห้อง ปั๊บ...ปั๊บ..ปั๊บ
"อะ.. อ๊ะ อ่า คุณกร ซี้ด" ภาคินเมื่อถูกกระแทกตรงจุดความเสียวก็ครางออกมาโดยไม่รู้ตัว ทำให้ศิวกรเร่งกระแทกกระทั้นอย่างรัวเร็ว เตียงใหญ่จึงขยับโยกจนเกิดเสียงดังลั่น เอี๊ยด.. เอี๊ยด.. เอี๊ยด สลับกับเสียงเนื้อกระทบเนื้อ ปั๊บ..ปั๊บ..ปั๊บ
"อ่าส์..." ในที่สุดภาคินและศิวกรก็ไปถึงจุดหมายพร้อมกัน ทุกอย่างจึงหยุดอยู่ภายใต้ความเงียบ มีเพียงลมหายใจของทั้งสองคนที่ยังคงดังต่อเนื่องและสอดประสานกัน แฮ่ก..แฮ่ก..แฮ่ก
หน้าท้องของศิวกรที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามเลอะน้ำกามสีขาวขุ่นของภาคิน เขาไม่เคยถึงจุดสุดยอดขนาดนี้มาก่อน ในขณะที่ช่องทางรักของภาคินทั้งคับแน่นและอบอุ่นทำให้เขาได้ปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปจนเต็มและล้นทะลักออกมา
ศิวกรก้มลงมองใบหน้าที่แดงซ่านของภาคินก่อนจะเอนลงไปใกล้ชิดกับใบหน้าภาคิน ตอนนี้ลมหายใจของเขาและภาคินอยู่ใกล้กันจนสัมผัสได้
เขากำลังหยอกล้อกลีบปากบางของภาคินโดยการขบเม้ม แม้ภาคินจะไม่โต้ตอบแต่ศิวกรก็ไม่ยอมลดละ เขาเลื่อนมือหนามาจับปลายคางของภาคินไว้เพื่อไม่ให้ภาคินเบือนหน้าหนีเขา ก่อนจะจูบภาคินเบาๆ อย่างเอาใจ
ศิวกรค่อยๆ ดุนดันลิ้นหนาของเขาเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นบางของภาคิน ซึ่งในทีแรกภาคินขยับหนีด้วยความขุ่นเคืองใจ แต่ศิวกรก็ไล่ดูดดึงลิ้นของภาคิน จนกระทั่งภาคินนึกโมโหจึงตอบโต้เกี่ยวลิ้นหนาของศิวกรและรัดจนแน่น กลับกลายเป็นว่าทั้งสองกลับบดจูบกันอย่างดุดันและรุนแรงจนน้ำลายใสไหลออกมาจากมุมปาก
เมื่อทั้งสองผละริมฝีปากออกมาจากกัน ศิวกรก็ยกมือหนาของเขาขึ้นมาเช็ดมุมปากของภาคินด้วยความพึงพอใจ ศิวกรเห็นข้อมือของภาคินแดงระเรื่อ เขาจึงเลื่อนมือหนาของเขาขึ้นไปปลดเนกไทที่รัดข้อมือของภาคินออก เมื่อภาคินเป็นอิสระก็ทุบตีศิวกรในทันที
เขายกยิ้มก่อนจะจับข้อมือของภาคินไว้ เมื่อเขาเห็นรอบๆ ข้อมือของภาคินเกิดรอยแดงๆ เขาก็นึกสงสารจึงยกข้อมือบางของภาคินขึ้นมาจูบ
ภาคินมองการกระทำของศิวกรอย่างไม่เข้าใจ แต่เขาก็เกิดอาการเขินอายและหัวใจเต้นแรง ทำให้ใบหน้าของเขาแดงราวกับลูกตำลึง
เมื่อศิวกรเห็นภาคินเขินอาย เขาก็ไล้ลิ้นร้อนเลียข้อมือขึ้นมาจนถึงข้อศอกก่อนจะจูบ ซึ่งมันยิ่งทำให้ภาคินใจเต้นแรงมากยิ่งขึ้น ทั้งสองสบตากันขณะที่ศิวกรยังคงไล้ลิ้นร้อนเรื่อยขึ้นมาจนกระทั่งถึงหัวไหล่กลมมนซึ่งมีรอยกัดแดงจางๆ จากฝีมือของศิวกร
ศิวกรจึงจูบหัวไหล่ของภาคินเบาๆ ภาคินรู้สึกถึงสายตาของ ศิวกรที่กำลังร้อนแรงและกำลังจ้องมองมาทางเขา หัวใจของภาคินก็เต้นแรงราวกับตีกลอง เขาเริ่มทำตัวไม่ถูกเมื่อศิวกรไล้ลิ้นร้อนเข้ามาใกล้ซอกคอ ลมหายใจอุ่นร้อนรดซอกคอของภาคินยิ่งก่อให้เกิดความเสียวซ่าน
ภาคินจึงเลื่อนมือมาจับท้ายทอยของศิวกรและรั้งใบหน้าเขาขึ้นมาจูบ ก่อนจะเลื่อนมือบางของตนมาลูบไล้แผ่นหลังหนาของศิวกร
ทางด้านศิวกรเมื่อเขาถูกภาคินรั้งใบหน้าขึ้นมาจูบ เขาก็บดเบียดริมฝีปากหนาจูบภาคินด้วยความต้องการอีกครั้ง แก่นกลางกายของเขาที่ยังคงค้างคาอยู่ในช่องทางรักของภาคินก็เริ่มขยายใหญ่และแข็งขืนขึ้นมาอีกครั้ง
ภาคินรับรู้ถึงสิ่งที่กำลังขยายใหญ่ในช่องทางรักของเขาเพราะเขาเองก็รู้สึกเช่นเดียวกันกับศิวกร ดังนั้นภาคินจึงพลิกกายขึ้นไปคร่อมบนตัวของศิวกร ก่อนจะถอนจูบออกมาอย่างช้าๆ ศิวกรรู้ว่าภาคินจะทำอะไร เขาจึงดันตัวเองลุกขึ้นมานั่ง และจับเอวบางของภาคินไว้แล้วจึงกระซิบด้วยน้ำเสียงที่แหบพร่าเต็มที
"นายอยากทำอะไรก็ทำเลย ภาคิน" เขาพูดจบก็ซุกไซ้ซอกคอซึ่งมีรอยซ้ำสีกุหลาบ ภาคินเลื่อนมือบางมาวางตรงไหล่หนาทั้งสองข้างของศิวกรก่อนจะเริ่มขยับอย่างช้าๆ
"อา.. อ่า ซี้ด" ภาคินครางออกมาเบาๆ ด้วยความเสียวซ่านที่เริ่มก่อขึ้นมาใหม่อีกครั้ง
ศิวกรเลื่อนมือหนาของเขามากอดภาคินไว้แน่น ก่อนจะครางเสียงต่ำด้วยความเสียวซาบซ่านเช่นกัน ทำให้ภาคินเร่งแรงโยกขยับเร็วขึ้นๆ ก่อให้เกิดเสียงเนื้อกระทบเนื้อสลับกับเสียงเตียงโยกขยับอย่างแรงจากการกระแทกของภาคิน ท่านี้ภาคินรู้สึกทั้งจุกและเสียวมาก เขาจึงครางออกมาเสียงดังด้วยความเสียวซาบซ่าน
จนกระทั่งศิวกรใกล้ถึงฝั่งฝัน ศิวกรจึงจับเอวบางของภาคินไว้แน่น ก่อนจะสวนกระแทกขึ้นมาอย่างแรงสองสามครั้ง ทำให้ภาคินร้องออกมาเสียงดังลั่นห้อง เมื่อเขาไปถึงจุดสุดยอดที่เขาเพิ่งจะได้รับเป็นครั้งแรกก่อนศิวกร
"อ่าส์" เมื่อภาคินปลดปล่อยน้ำรักพุ่งใส่กล้ามท้องของศิวกรจนเลอะเป็นครั้งที่สอง เขาก็เหนื่อยหอบและหมดแรงซบลงบนไหล่ของศิวกร
ทางด้านศิวกรซึ่งใกล้ถึงฝั่งฝัน แต่กลับถูกภาคินทิ้งไว้กลางทาง เขาจึงหมดหนทางนอกจากเอนกายของภาคินลงนอนบนเตียง ก่อนจะกระแทกภาคินสองสามครั้งจึงได้ปลดปล่อยน้ำรักเข้าไปในช่องทางรักของภาคิน น้ำกามสีขาวขุ่นถูกอัดแน่นเต็มช่องทางรักของภาคินจึงล้นทะลักและไหลออกมาจากรอยจีบสีชมพูของคนนอนหมดแรงและหลับไปด้วยความอ่อนเพลีย
เขาไม่เคยถึงจุดสุดยอดและมีความต้องการที่เพิ่มมากขึ้นเช่นนี้มาก่อน เขายังคงมีความต้องการอยู่มากซึ่งไม่รู้ว่าเป็นเพราะฤทธิ์ยาของภาคิน หรือเป็นเพราะร่างกายของภาคินกันแน่ ศิวกรก็ยังคงไม่เข้าใจในความต้องการของตนเอง
เมื่อศิวกรเห็นภาคินหลับสนิทไปด้วยความอ่อนเพลีย เขาจึงลุกขึ้นไปอาบน้ำเพื่อดับความกระหายอยากของตนเอง
ก่อนจะมาจัดการเช็ดเนื้อเช็ดตัวและทำความสะอาดให้ภาคิน หลังจากศิวกรจัดการทุกอย่างเรียบร้อยแล้วเขาก็ล้มลงไปนอนบนเตียง และดึงรั้งภาคินมากอดในอ้อมกอดแข็งแกร่งของเขา
ตอนที่ 6 ดูแลภาคินรู้สึกตัวตื่นขึ้นมาในตอนเที่ยงของวันใหม่ เขารู้สึกปวดเมื่อยและเจ็บช่องทางรักเป็นอย่างมาก จึงได้แต่นอนนิ่งๆ และคิดถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเมื่อคืนอย่างเหม่อลอย"ตื่นแล้วเหรอ" ศิวกรหลังจากออกไปโทรศัพท์สั่งงานเลขาเรียบร้อยแล้ว เขาก็นั่งทำงานต่ออีกครู่หนึ่ง ก่อนจะนึกถึงคนในห้องจึงเดินเข้ามาดูภาคินหันไปมองเจ้าของเสียง แล้วลอบมองสำรวจศิวกรตั้งแต่หัวจรดเท้า แม้ศิวกรจะสวมชุดลำลองเพียงแค่เสื้อยืดคอปกปลดกระดุมเม็ดบนสุดหนึ่งเม็ด จึงเผยให้เห็นรอยแดงจากฝีมือของเขาที่โผล่พ้นคอเสื้อออกมา ทำให้ใบหน้าของภาคินเริ่มขึ้นสี เขาเลยเสสายตาลงมามองกางเกงขาสั้นธรรมดาๆ ที่ศิวกรสวมใส่ แม้จะเป็นเสื้อผ้าที่สวมสบายๆ แต่ศิวกรก็ยังคงความเข้มและหล่อเหลาอยู่มาก"มองอะไรของนาย หรือว่านาย..." ศิวกรเอ่ยเย้าแหย่ภาคินที่กำลังมองสำรวจตนเองตั้งแต่หัวจรดเท้า"เปล่าสักหน่อย ผมจะกลับแล้ว" ภาคินเอ่ยพลางขยับตัวเพื่อจะลุกออกจากที่นอน แต่ทันใดนั้นความเจ็บปวดก็พุ่งเข้ามาโจมตีทันทีที่เขาขยับ"อ๊ะ... โอ๊ย" ภาคินจำต้องหยุดชะงักด้วยความเจ็บ"นายเป็นอะไรมากรึเปล่า" ศิวกรรีบขยับตัวเข้ามาประคองภาคินทันทีที่ได้ยินเสียงร้อง
ตอนที่ 5 ผิดแผน #2หลังจากภาคินถูกศิวกรจับมัดข้อมือทั้งสองข้าง เขาก็ได้แต่ดิ้นขลุกขลักอยู่ใต้ร่างหนาของศิวกร ศิวกรลงมือปลดกระดุมเสื้อเชิ้ตสีดำของภาคินอย่างเชื่องช้า พลางสำรวจใบหน้าที่กำลังแดงก่ำไปด้วยความโกรธเมื่อเขาปลดกระดุมบนเสื้อเชิ้ตจนหมด ผิวขาวนวลของภาคินก็เผยออกมาสู่สายตาของศิวกร ด้วยภาคินนั้นมีเชื้อสายจีนทำให้ผิวพรรณของภาคินขาวนวลเนียนเนื้อละเอียดและผุดผ่องศิวกรชอบคนผิวขาวเป็นทุนเดิมอยู่ก่อนแล้ว เขาจึงลูบไล้แผงอกของภาคินอย่างเบามือ เขาลูบไล้เรื่อยลงมาจนถึงกล้ามเนื้อหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคิน ทำให้ภาคินตะโกนด่าศิวกรไม่หยุดหย่อน แต่ศิวกรก็ไม่สนใจ เขายังคงหยอกล้อร่างบางของภาคินโดยการลูบไล้ผ่านหน้าท้องที่แบนราบเรียบของภาคินต่ำลงไปจนกระทั่งถึงเอวบางของคนที่กำลังนอนดิ้นอยู่ใต้ร่างของเขา แล้วจึงปลดกระดุมกางเกงยีนของภาคินออกอย่างช้าๆ"ปล่อยนะไอ้บ้า ไอ้โรคจิต ฉันเป็นผู้ชายนะโว้ย ปล่อยสิวะ" ภาคินยังคงตะโกนด่าศิวกรอย่างไม่ลดละศิวกรยกยิ้มมุมปากก่อนจะเลื่อนใบหน้าขึ้นไปบดจูบภาคินอย่างดุดันเพื่อปิดเสียงก่นด่าของภาคินอีกครั้ง เขาสอดลิ้นร้อนเข้าไปเกี่ยวกระหวัดกับลิ้นบางของภาคินและดูดดึงอ
ตอนที่ 4 ผิดแผน #1"สวัสดีครับคุณภาคิน" ศิวกรเอ่ยทักทายภาคินที่กำลังยกบรั่นดีขึ้นดื่ม ภาคินเงยหน้าขึ้นมามองตามเสียงก่อนจะมีท่าทีเฉยเมยและไม่สนใจเขาต้อยเห็นศิวกรก็รู้สึกประหม่าขึ้นมาในทันที เขาไม่กล้าสบตามองศิวกรด้วยแผนการของภาคินทำให้ต้อยรู้สึกกลัวศิวกรขึ้นมา"ลูกพี่ คุณศิวกรเขากำลังทักทายลูกพี่อยู่นะครับ" ต้อยเอ่ยกระซิบเสียงเบาใกล้ๆ ภาคิน"ไง.. " ภาคินเงยหน้าขึ้นมาทักศิวกรที่กำลังยกยิ้มมุมปากมองมาทางเขา"พักนี้คุณภาคินว่างบ่อยจริงๆ ด้วยนะครับ แต่น่าเสียดายที่วันนี้ไม่ใช่วันศุกร์ ที่ไนต์คลับของเราเลยไม่มีวงดนตรีมาเล่นสด คุณคงไม่เบื่อไนต์คลับของผมนะครับ" ศิวกรเอ่ยอย่างอารมณ์ดีแต่คนฟังอย่างภาคินกลับโมโหที่ถูกศิวกรพูดกวนอารมณ์ของเขา เขายกบรั่นดีขึ้นดื่มจนหมดแก้ว"ผมไม่รู้มาก่อนเลยนะครับว่าที่ไนต์คลับของคุณจะมีเจ้าของอย่างคุณศิวกรมาคอยต้อนรับลูกค้าเหมือนร้านอาหารตามสั่ง ไหนๆ คุณก็มาแล้ว ผมขอสั่งบรั่นดีอีกสองแก้วก็แล้วกันครับ" ภาคินโต้กลับศิวกรด้วยความอารมณ์กรุ่นโกรธศิวกรได้แต่หัวเราะขบขันในท่าทางกวนอารมณ์ของภาคิน"ได้ครับ งั้นเชิญคุณภาคินตามสบายนะครับ" เขาเอ่ยก่อนจะหันไปสั่งลูกน้องให้ย
ตอนที่ 3 วางแผนณ แอลฟาผับเมื่อภาคินเดินเข้ามาในผับเขาก็ตรงไปยังเคาน์เตอร์เครื่องดื่มในทันที มิ่งไม่รอช้ารีบรินบรั่นดีส่งให้เจ้านายอย่างรวดเร็ว"ลูกพี่ อารมณ์ไม่ดีหรือครับ" ต้อยเดินเข้ามาในผับ เห็นภาคินดื่มบรั่นดีไปหลายแก้ว จึงรีบเข้ามาถามด้วยความเป็นห่วง"เออ กูอารมณ์ไม่ดีว่ะไอ้ต้อย เออมึงมาก็ดีแล้วกูมีเรื่องจะให้มึงไปจัดการหน่อย" ภาคินได้ยินเสียงต้อยทักขึ้นมาเขาจึงเรียกต้อยเข้ามาหา ก่อนจะกระซิบสั่งงานให้ต้อยไปทำ"ได้ ลูกพี่รอก่อนก็แล้วกัน ไม่เกินสองวันน่าจะรู้เรื่อง" ต้อยตอบรับก่อนจะออกไปจัดการงานที่ภาคินสั่งอย่างรวดเร็วภาคินมองตามหลังต้อยที่เดินหายออกจากร้านไปอย่างว่องไว เขาจึงยกยิ้มอย่างมีความสุข"หึ.. หึ.. ศิวกร แล้วเราจะได้เห็นดีกัน" ภาคินเอ่ยพลางยกแก้วบรั่นดีขึ้นดื่มอย่างอารมณ์ดีสองวันผ่านไป ต้อยรีบเข้าไปรายงานภาคินในทันทีที่เห็นเขาเดินเข้าผับมา"ลูกพี่ครับ" ต้อยรีบเรียกภาคินก่อนจะรายงานเรื่องที่ภาคินให้ต้อยไปสืบมา"ไปคุยกันในห้องกู" ภาคินเอ่ยแล้วเดินนำต้อยไปยังห้องทำงานบนชั้นสองของเขา"ลูกพี่ครับ โดยปกตินายศิวกรจะมาไนต์คลับทุกคืนนะครับ ยกเว้นวันที่เขามีงานเลี้ยงหรืองานประชุ
ตอนที่ 2 ยิ่งคิดยิ่งโมโหติ๊ด.. ติ๊ด.. เสียงนาฬิกาปลุกดังขึ้นทำให้ภาคินที่ดื่มมาอย่างหนักหน่วงเมื่อคืนนี้ เอื้อมมือออกมาจากผ้าห่มเพื่อควานหานาฬิกาที่ยังคงดังอย่างต่อเนื่องไม่หยุดมาปิดเสียงที่น่ารำคาญ เขารู้สึกมึนหัวและปวดหัวเป็นอย่างมากจึงนอนลงเพื่อพักต่ออีกสักครู่กริ๊ง.. กริ๊ง.. กริ๊ง.. เสียงโทรศัพท์ในห้องพักของภาคินยังคงดังขึ้นมากวนเขาอีกครั้ง เขาจึงจำใจต้องลุกขึ้นมารับอย่างงัวเงีย"ฮัล.. โหล" ภาคินรับสายด้วยน้ำเสียงที่แหบแห้งและงัวเงีย"คินยังไม่ตื่นอีกเหรอ นี่สายมากแล้วนะ อย่าลืมสิว่าเรามีประชุมตอนสิบโมง รีบๆ ลุกไปอาบน้ำได้แล้ว แล้วโทรศัพท์มือถือของคินอยู่ที่ไหน พี่โทรไปก็ไม่ติด" เสียงปลายสายถามอย่างรัวเร็วเมื่อได้ยินเสียงที่แหบแห้งของน้องชาย"นี่กี่โมงแล้วครับพี่หมวยใหญ่" ภาคินยังคงถามพี่สาวคนโตด้วยอาการงัวเงียและสะลึมสะลือ เนื่องจากเมื่อคืนเขาดื่มหนักมาก"เก้าโมงครึ่งแล้ว รีบๆ ลุกไปอาบน้ำเลยก่อนป๊าจะเข้ามาร่วมประชุม แค่นี้นะ" ภาสินีหรือหมวยใหญ่ของน้องๆ รีบพูดก่อนจะวางสายลงไปอย่างรวดเร็วหากภาคินยังมาทำงานสายแบบนี้ถ้าพ่อของเธอรู้เข้า ภาคินมีหวังโดนสั่งให้ปิดผับแน่ๆ หลังจากวางสาย
ตอนที่ 1 เปิดหูเปิดตา ณ แอลฟาผับ"ทำไมวันนี้คนน้อยจังเลยวะ.. ไอ้ต้อย" ภาคินเจ้าของแอลฟาผับวัยยี่สิบแปดปีเดินเข้ามาพลางหันไปถามลูกน้องคนสนิทที่กำลังเดินตามหลังเขามาไม่ห่าง"นั่นสิครับลูกพี่ ปกติคืนวันศุกร์ผับของเราคนเยอะจนโต๊ะไม่พอนั่งเลยนะครับ" ต้อยตอบเจ้านายพลางส่งสายตามองรอบๆ ผับ ซึ่งมีแขกนั่งไม่กี่โต๊ะจนดูแทบจะบางตา"เฮ้ย.. ไอ้สิน ทำไมวันนี้คนน้อยจังวะ" เมื่อภาคินและต้อยเดินมาถึงเคาน์เตอร์บัญชี ภาคินจึงเอ่ยถามลูกน้องคนสนิทอีกคนซึ่งมีหน้าที่ดูแลบัญชีอยู่ในเคาน์เตอร์"ก็ไนต์คลับที่เปิดใหม่ฝั่งตรงข้ามน่ะสิลูกพี่ วันนี้เขาเอาวงดนตรีที่กำลังดังและเป็นกระแสมาเล่นคืนนี้ ลูกค้าก็พากันแห่ไปร้านนู้นหมดเลย ที่เหลือนั่งอยู่ในร้านก็เป็นลูกค้าประจำของร้านเราทั้งนั้นครับ" สินเอ่ยตอบพลางมองไปรอบๆ ร้าน ซึ่งมีลูกค้านั่งอยู่ไม่กี่โต๊ะ"ไนต์คลับที่ว่า ใช่ไดมอนด์ไนต์คลับฝั่งตรงข้ามรึเปล่าวะ" ภาคินเอ่ยถามพลางครุ่นคิดถึงไนต์คลับที่เพิ่งจะเปิดใหม่ ซึ่งตั้งอยู่ฝั่งตรงข้ามกับผับของเขาพอดี"ใช่แล้วลูกพี่" สินตอบพลางตรวจเช็กรายการบัญชีไปด้วย"ตั้งแต่ไดมอนด์ไนต์คลับเปิดมาร่วมเดือน บัญชีที่ร้านของเราลงลดลงมากเ