"พ่อทำไมพ่อพูดอย่างนั้นล่ะ พาแม่ไปหาหมอที่ตัวเมืองสิจ๊ะ ฮื่ิอ" อัญชันร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหน้าเขียวหน้าแดง ผู้เป็นแม่น้ำลายฟูมปากและค่อย ๆ จากไปอย่างสงบจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย
"แม่...!!!! ฮึก ฮื่อ แม่ แม่อย่าทิ้งอัญชันแบบนี้สิจ๊ะอัญชันจะอยู่ยังไง ถ้าอัญชันไม่มีแม่"อัญชันร้องไห้ฟูมฟายกอดศพของมารดาไม่ยอมปล่อย ไอ้ทองอินที่เห็นว่านางนวลสิ้นใจเสียแล้วแทนที่มันจะฝังศพเมียให้ดี มันกลับปล่อยทิ้งศพของอีนวลไว้ที่ป่าโดยไม่แยแส และรากอัญชันที่มีไข้ขึ้นสูงเดินทางต่อทันที "พ่อปล่อยข้านะ ข้าจะอยู่กับแม่ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าไม่ไปไหนกับพ่อทั้งนั้น"อัญชันโวยวายทำตัวดื้อดึงไม่ยอมเดินไปกับไอ้ทองอินทร์แม้แต่ก้าวเดียว ไปทองอินขี้โมโหจนเลือดขึ้นหน้า ตบเข้าไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางอัญชันจนเลือดซิบพร้อมกับชี้หน้ากรนด่าต่างๆนานา "มึงฟังกูนะอีอัญชัน แม่มึงอีนวลมันตายห่าไปแล้วแต่กูนี่พ่อมึง ยังมีชีวิตอยู่ มึงจะให้ไอ้พวกเวรนั่นมากระทืบกูหรือยังไง..!" "ถ้ามึงยังดื้อดึงไม่ไป กูจะมัดมึงไว้กับศพแม่มึงที่นี่แหละ ให้เสือคาบไปแดกเลย อีลูกเวร"ไอ้ทองอินที่ไม่มีแม้แต่พ่อ ความหลงเหลือความเป็นคนความเป็นผัวเมตตาอารีแม้แต่ศพของเมียอย่างนางนวลที่รักมันมาตลอดทั้งชีวิตมันก็ทิ้งขว้าง "แม่จ๊ะลูกลาก่อนนะจ๊ะ ชาติหน้าฉันใดขอให้เราได้เกิดมาเป็นลูกแม่กันอีก ข้าจะดูแลแม่เองทั้งหมดมันเป็นเพราะอัญชัน"อัญชันที่พร่ำเพ้อ ก้มกอดศพแม่ต้องจำใจลุกจากลาด้วยความไม่เต็มใจ "เออให้มันพูดง่าย ๆ อย่างนี้สิวะอีอัญชันกูจะได้เลี้ยงมึงได้"ไอ้ทองอิมยังไม่รู้ว่าที่ตัวของอัญชันนั้นยังมีเงินค่าขนมที่ไปเก็บมามากอยู่ เพราะมีเงินที่ร้านขนมนั้นเชื่อหลายเจ้าเอาไว้ด้วย อัญชันเดินร้องไห้สะอึกสะอื้นตลอดทางจนดวงตาสวยแดงกล่ำใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาจนดูไม่น่ามอง "อีอัญชันมึงเมื่อไหร่จะหยุดร้องไห้ มึงจะร้องให้จนตายห่าตามแม่มึงไปเลยหรือไง"ไอ้ทองอินที่ไม่มีความรักใคร่ลูกสาวคนนี้อยู่แล้ว จึงมักจะใช้คำพูดและวาจาที่ไม่ดีอยู่เสมอ "พ่อไม่รักแม่เลยหรือจ๊ะ แม่นวลรักพ่อมากนะ ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรไม่ดี แม่นวลก็มักจะบอกให้ข้ารักและเคารพพ่อ"อัญชันรวบรวมความกล้าที่จะพูดกับผู้เป็นพ่อของตัวเอง "ตอนนี้แม่มึงไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วอีอัญชันมึงก็เลิกพร่ำพรรณนาถึงมันได้แล้ว" ผ่านไปไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงหมู่บ้านแห่งเมืองโคราชที่มีนายเหนือหัวเป็นใหญ่คือพ่อคุ้มอินทรีย์ ไอ้ทองอินที่เดินทางมาหาผู้เป็นญาติคนสุดท้าย "ลุงเขียว ลุงเขียวอยู่ไหม"ไอ้ทองอินตะโกนเรียกคนบนเรือนแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ "พ่อมาถูกแน่นะจ๊ะ"อัญชันเอ่ยปากถามด้วยสภาพที่แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วเพราะพิษไข้ "เออกูมาถูกแต่แค่คงไม่มีใครอยู่"พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีคนเดินผ่านมาพอดี "เอาพ่อหนุ่มมาจากบ้านไหนล่ะ มาทำอะไรที่นี่"ชาวบ้านที่เดินผ่านมาหันไปถามไอ้ทองอิน "ข้าเป็นหลานของลุงเขียวน่ะ พอดีว่าจะแวะมาเที่ยวหาแกสักหน่อย แกไปไหนป้าพอจะรู้ไหม" "ตาเขียวมันไปวัด วันนี้มันไปทำบุญใส่บาตรอีกสักพักก็คงกลับล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปวัดพอดีเดี๋ยวข้าจะบอกให้นะ" "ขอบใจป้ามากนะจ๊ะ ถ้าเจอลุงเขียวบอกลุงเขียวว่าไอ้ทองอินมาหา" "ได้จ้ะพ่อหนุ่มเดี๋ยวป้าจะบอกให้" ไอ้ทองอินที่นั่งรออยู่ตรงใต้ถุนเรือนพร้อมกับอัญชันที่มีสภาพอิดโรยดูร่อแร่จนจะไม่ไหว "พ่อจ๋าข้าอยากกินน้ำ อยากล้างหน้าล้างตาสักหน่อยจะได้ไหมจ๊ะพ่อ" "มึงนี่เรื่องมากเหมือนแม่มึงจริง ๆ เลยนะแล้วดูสภาพอย่างกับศพเดินได้"ไอ้ทองอินพูดจบก็เดินไปหาน้ำข้างบนเรือนก็ถูกล็อคเอาไว้ มีเพียงน้ำที่เอาไว้ต้อนรับแขกก็ตักลงมาให้นางอัญชันหนึ่งถ้วย "เอารีบ ๆ กินเข้าไปวุ่นวายชิบหาย"ไอ้ทองอินทำหน้าไม่สบอารมณ์กับอัญชัน อัญชันที่ได้น้ำก็กระดกทีเดียวจนหมดถ้วย อัญชันค่อย ๆ หยิบยาฟ้าทะลายโจรสมุนไพรที่แม่ตั้งใจขุดเอามาให้เพื่อดับพิษไข้ อัญชันตัดสินใจบดยาทีละเล็กน้อยแม้จะขมมากก็ต้องจำใจกิน "พ่อข้าอยากจะนอนสักหน่อยได้ไหมจ๊ะ ข้าไม่ไหวจริงๆข้ารู้สึกหนาวสั่นจนแทบจะเป็นลมล้มพับ" "เออมึงนอนนอนไปเถอะจะทำอะไรก็ทำ" "จ้ะพ่อ" ลุงเขียวลุงแท้ ๆ ของไอ้ทองอิน ที่ผ่านมาหลายปีไอ้ทองอินไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียน แต่วันนี้ดันกลับมาหาเขาลุงเขียว ตาเขียวที่ได้ข่าวจากป้าสมใจจึงรีบเดินทางกลับมาที่เรือนทันที "อ้าวไอ้ทองอินลมอะไรพัดพาเอ็งมาถึงโคราชได้วะหายไปตั้งหลายปี ไม่เคยติดต่อข้ามาเลย'ลุงเขียวพูดอย่างน้อยใจ ที่หลานชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างไอ้ ทองอิน ตั้งแต่แม่มันเสียมันก็ไม่เคยติดต่อเขากลับมาอีกเลย "พอดีฉันจะขอมาอยู่กับลุงเขียวสักพักนะจ๊ะ ฉันมีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย"ไอ้ทองอินไม่ยอมเปิดปากเล่าความจริงให้กับลุงเขียวฟัง "ได้สิวะเองมาทั้งทีเดี๋ยวข้าจะเลี้ยงข้าวเลี้ยงปลาเองให้อิ่มหนำสำราญ และไหนลูกกับเมียเอ็งล่ะ"ลุงเขียวที่ถามหานางนวลและลูกสาวของไอ้ทองอิน "ข้ามาแต่กับลูกสาวของข้าสองคน ส่วนนางนวลมันอยู่บ้านทางโน้น ดูแลบ้านช่อง"ไอ้ทองอินพูดตัดบทคำโต เพราะไม่อยากให้ใครรู้ถึงความชั่วช้าของมันที่ทิ้งร่างเมียไว้กลางป่า "เออไม่เป็นไรเอ็งมาข้าก็ดีใจจะแย่แล้วไปขึ้นเรือนก่อนเถอะ" "เออเดี๋ยวฉันตามนางอัญชันแป๊บนึงนะลุงมันนอนอยู่ใต้แคร่ตรงใต้ถุนเรือนนะจ๊ะ" "ลุงเขียวเดินไปดูสภาพของหลานสาวที่ดูอิดโปรยจนดูผิดสังเกต "เอ้ย..! ทำไมสภาพมันถึงเป็นอย่างนี้หรอวะ"ลุงเขียวยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเขาจึงรู้ทันทีว่าหลานสาวสุดที่รักตัวร้อนจี๋ "ทำไมมึงถึงปล่อยให้มันได้ไข้ขนาดนี้วะไอ้ทองอิน"ลุงเขียวหันขวับไปถามผู้เป็นหลานชาย "พอดีระหว่างทางมันตากน้ำค้างโดนฝนมามันก็เลยได้ไข้นะจ๊ะลุงเขียว ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะกระหม่อมบางขนาดนี้"ไอ้ทองอินที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนก็ตอบไปแบบส่งๆ "อัญชัน อัญชันลูก"ลุงเขียวที่เคยเห็นอัญชันตอนอายุขวบสองขวบ ตาเขียวรักและเมตตาเอ็นดูอัญชันเป็นพิเศษ อัญชันที่ได้ยินเสียงบุรุษที่ตัวเองไม่เคยได้อยู่ในความทรงจำ ก็ลืมตาตื่นขึ้นภาพพร่ามัวค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นบุรุษผิวสองสี ดูท้วมใหญ่หน้าตาดูใจดี อัญชันลุกขึ้นทันที "สวัสดีจ๊ะลุงหนูชื่ออัญชัน เป็นลูกของแม่นางนวลกับพ่อทองอินจ้ะ"อัญชันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม "โอ้โห..!ใบหน้าหลานสาวข้ าดูซิขนาดได้ไข้ยังสวยขนาดนี้ เอ็งนี่มันช้างเผือกจริงๆนะอัญชันเอ้ยสวยเหมือนแม่เอ็งเลย"ตาเขียวที่เห็นใบหน้าหลานสาวก็กล่าวชมแม้จะอยู่ในสภาพมอมแมมและอิดโรย "แม่ของข้า,..,.."ยังไม่ทันที่อัญชันจะได้พูดจบไอ้ทองอินก็พูดแทรกขึ้นมาทันที "อัญชันเอ็งเพิ่งฟื้นจากไข้ ขึ้นเรือนไปเถอะ เดี๋ยวลุงขึ้นไปรอข้าบนเรือนเสียก่อนนะเดี๋ยวข้าขอคุยธุระกับลูกสาวข้าสักประเดี๋ยวไป"ไอ้ทองอินหันไปพูดกับผู้เป็นลุง "เออได้ ๆ เดี๋ยวข้าจะขึ้นไปรอเอ็งสองคนบนเรือนเดี๋ยวข้าจะได้ให้คนเตรียมเสื้อผ้าให้เอ็ง"พูดจบลุงเขียวก็เดินกลับขึ้นไปบนเรือนปล่อยให้สองพ่อลูกได้พูดคุยกันตามประสา "นางอัญชันเอ็งอย่าได้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้านของเราให้ลุงเขียวได้รู้เป็นอันขาดแม้กระทั่งเรื่องแม่ของเองก็ตาม........" อัญชันถึงกับหน้าถอดสีไม่คิดว่าผู้เป็นพ่อจะใจไม้ไส้ระกำแม้กระทั่งเรื่องของแม่ที่ถูกทิ้งศพไว้กลางป่าก็ต้องถูกเก็บไว้เป็นความลับจนวันตาย...อัญชันที่นั่งดูการฝึกอาวุธอยู่ด้านหลังของอินทรีย์ วันนั้นทั้งวันตลอดบ่าย เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างพากันยิ้มกริ่ม อย่างมีกำลังใจเพราะไม่ได้เห็นแต่ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของอินทรีย์แต่กลับเห็นใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่ส่งยิ้มให้กับอินทรีย์ทำให้พวกเขาที่ฝึกอาวุธอยู่ก็ยิ้มตามไปด้วย"พวกมึงยิ้มห่าอะไรกัน..! ฝึกกันไปสิวะ..!!"อินทรีย์ยืนเอามือไพล่หลัง เดินวนไปวนมาจ้องเราลูกสมุนตาเขม็งอินทรีย์รู้สึกทนไม่ไหวจึงบอกให้ไอ้สนมาคุมการฝึกแทนเขา เพื่อจะพาอัญชันกับเรือนเขารู้สึกรำคาญสายตาทุกคู่ที่จ้องมองอัญชันอย่างไม่วางตาก่อนที่เขาจะควบคุมอารมณ์เอาไว้"ไอ้สน มึงคุมการฝึกให้ดี ฝึกพวกมันให้หนักโทษฐานที่มองอัญชันของกู"อินทรีย์หันไปพูดกับไอ้สน"ฉิบหาย งานหยาบแล้วพวกมึง เหนื่อยเอวเคล็ดแน่!"ไอ้บุญมาลูกน้องลูกกระจ๊อกที่รองมือรองเท้าของไอ้สนและไอ้กล้าเอ่ยขึ้นเสียงดัง"แน่นอนพี่อินทรีย์ เดี๋ยวข้าจะคุมการฝึกให้พี่เอง พี่พาคุณหนูอัญชันกับเรือนไปเถอะไ"อ้สนที่รู้ใจผู้เป็นลูกพี่ยิ่งกว่าใครอัญชันที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนมิรู้หนาว อยู่บนแคร่เห็นหน้าบึ้งตึงของพ่อคุ้มอินทรีย์ก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามประสา"ไป
ไอ้ทองอินเดินโซซัดโซเซ ตั้งใจจะเอาชีวิตไปตายเอาดาบหน้า ไอ้ทองอินเหลือแต่ชีวิตของมัน และไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือเมียและญาติคนสุดท้ายมันรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก จึงเดินตุ้มปัดตุ้มเป๋ไปในป่าโดยไร้จุดหมาย"อย่าให้กูฟื้นตัวมาได้นะ..!ไอ้อินทรีย์ ตาเขียว กูจะมาเอาคืนให้หมดทุกคนเลย ที่ทิ้งกู"ไอ้ทองอินกับเคียดแค้นให้กับลุงแท้ ๆ อย่างตาเขียวที่ไล่ตะเพิดมันออกจากบ้านและคนที่ซื้อลูกสาวมันไปอย่างพ่อคุ้มอินทรีย์ก็ยังจะมาซ้ำมันให้ออกจากหมู่บ้านอีกนับจากวันนั้นเป็นต้นมา วันแล้ววันเล่าชีวิตของอัญชันดูราบรื่นและสวยงาม อัญชันบัดนี้อายุเข้า 17 ปีดูสวยงามสง่า ความเป็นกุลสตรีที่อ่อนโยนยิ่งผูกมัดใจของอินทรีย์เข้าไปทุกวัน"ยายปริกจ๋า วันนี้อัญชันขอไปลานฝึกอาวุธได้ไหมจ๊ะอยากจะเอาปลาสามรสไปฝากพ่อคุ้ม"อัญชันที่ยิ้ม หวานขอยายปริกให้ใจอ่อน"ก็ได้คุณหนูอัญชัน ยายให้ไปแต่คุณหนูอัญชันจะต้องไม่ไปก่อความวุ่นวายให้กับพ่อคุ้ม ต้องลำบากใจรู้หรือไม่"ยายปริกรู้ว่าอัญชันเองก็เป็นเด็กดีน่ารักแต่ก็มีความแสบอยู่ไม่น้อย"อัญชันสัญญากับยายปริกว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายเด็ดขาด อัญชันจะรีบไปรีบกลับ ขอเอาข้าวไปส่งให้กับ
อีจวงที่วิ่งหน้าตั้งไปตามไอ้สนและไอ้กล้าที่อยู่ร้าน น้ำชาข้างตลาด ไม่ไกลจากบ้านของพ่อคุ้มอินทรีย์มากนัก เมื่อมาถึงอีจวงจึงรีบตะโกนเรียกคนทั้งสอง"พี่สน พี่กล้า พ่อคุ้มหัวอินทรีย์เรียกหาที่เรือนมีเรื่องรีบกลับไปที่เรือนทันที"อีจวงที่ยืนหอบแฮ่กๆแต่ก็ยังบอกทุกความของพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่มีตกหล่น"เกิดเรื่องอะไรวะ"ไอ้สนและไอ้ต้นกล้าหันไปพูดกับ อีจวงพร้อมกัน"ก็พ่ออีนางเด็กอัญชันน่ะ มันมาอาละวาดที่เรือนจะเอาอีอัญชันกลับ"อีจวงที่ไม่ชอบอัญชันก็เรียกจิกหัว ทันทีสองคนที่ได้ยินดังนั้น"นังจวงพูดจาอะไรให้มันดี ๆ หน่อยเถอะ แม่อัญชันก็เป็นคนสำคัญของที่เรือนของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้สนหันไปเอ็ดอีจวง"ช่างมันเถอะพวกพี่รีบไปเที่ยวเรือนก่อน"อีจวงที่ไม่สนใจเสียงบ่นกรนด่าของไอ้สนไอ้ทองอินที่อยู่ใต้ถุนเรือน ก็ยังคงโวยวายลั่นทำ ท่าทางจะขึ้นมาบนเรือนของอินทรีย์ให้ได้ แต่อินทรีย์ยืนขวางแม้แต่บันไดขั้นเดียวก็ไม่ให้ขึ้นเหยียบ"เอ็งมาทำแบบนี้ได้ยังไงวะ ข้าอยากจะเอาลูกสาวข้าคืน เอ็งก็คืนมาสิ ข้าเป็นพ่อของมันนะ"ไอ้ทองอินทำเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งที่รับเ
สภาพของไอ้ทองอิน ที่โดนซ้อมจนใบหน้าปูดบวมบิดเบี้ยว กว่ามันจะลุกขึ้นมาได้ก็เล่นเอาช้ำใน เจ็บตัวไป 3-4 วัน เงินที่เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาทบาทสุดท้ายในสมัยนั้นเป็นเงินที่มากอยู่พอจะให้ตั้งตัวได้เลยแต่สุดท้ายไอ้ทองอินก็ยังหอบสภาพสังขารด้วยใบหน้าที่ปูดบวมไปเล่นการพนันในบ่อนท้ายหมู่บ้านจนสิ้นเนื้อประดาตัวไอ้อินที่โดนเอามาทิ้งใกล้ ๆ กับโรงหมอ ก็ได้หมอใจดีช่วยรักษาจนหาย แต่คนอย่างไอ้ทองอินก็เปรียบเสมือนงูพิษมันพร้อมจะชกกัดกับทุกคน"หมอข้าขอยาแก้ปวดหน่อยสิ ข้าปวดเนื้อปวดตัวไปหมด"ใบหน้าที่ปูดบวมเขียวช้ำ ของไอ้ทองอินก็ยังไม่ดีขึ้น มันก็เริ่มจะแผลงฤทธิ์ได้อีกแล้ว"ข้าก็เพิ่งจะให้เอ็งกินไปไม่ถึงชั่วยาม เอ็งก็ต้องรอหน่อยสิวะ มันก็ต้องปวดเป็นธรรมดาสมุนไพรยังไม่ออกฤทธิ์"คนเป็นหมอถึงกับส่ายหัว กับคนไข้อย่าง ไอ้ทองอิน แม้แต่เงินสตางค์แดงเดียวไอ้ทองอินก็ไม่จ่าย"โธ่เว้ย..! ทำไมข้าต้องมาทนเจ็บปวดด้วยวะ หมอยังเองนี่มันไม่ได้เรื่อง"ไอ้ทองอินลุกขึ้น โซซัดโซเซ สีหน้าชี้หนาด่าทอหมอที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้"ถ้าเอ็งพูดอย่างนี้ เอ็งก็ออกไปจากโรงหมอของข้าเสีย แล้วอย่าย้อนกลับมาอีก"คนเป็นหมอถึงกับโมโหเลือดขึ้นหน
ไอ้กล้ากับไอ้สนถือวิสาสะพาตาเขียวเดินขึ้นไปบนเรือนของอินทรีย์ เพื่อไปพบกับอินทรีย์ที่นั่งอยู่กลางเรือน นั่งดูอัญชันฝึกร้อยมาลัยอยู่กับยายปริกที่พื้นด้านล่างตรงหน้าของเขา"พ่อคุ้มอินทรีย์ ดูสิจ๊ะ มาลัยของอัญชันบูดเบี้ยวไม่สวยเหมือนของยายปริกเลย"อัญชันทำหน้างอเป็นม้าหมากรุกรู้สึกน้อยใจในฝีมือของตัวเองยายปริกจึงพูดปลอบใจอัญชันว่า "ตอนที่ยายฝึกทำครั้งแรกโย้เย้กว่าของเอ็งเยอะเลย อัญชันเนี่ยถือว่าเก่งแล้ว เอ็งต้องฝึกฝีมือมาก ๆ นะ'ยายปริกเอ่ยบอกให้อัญชันได้รู้สึกดีขึ้น"จริงหรอจ๊ะ"อัญชันหันไปถามยายปริกพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ"จริงสิ ยายจะหลอกเอ็งทำไมล่ะ กว่ายายร้อยมาลัยเก่ง สวยขนาดนี้ ยายก็ฝึกจนเข็มแทงนิ้วไม่รู้กี่พันรอบ"ยายปริกรู้สึกเหมือนมีหลานสาวตัวเล็ก ๆ ทำให้เรือนนี้ดูมีชีวิตชีวาตาเขียวที่ยืนมองดูหลานสาว อยู่ตรงหัวกระได รู้สึกมีความสุขที่ เห็นหลานสาวมีรอยยิ้มและดูหน้าตาสดใสเพียงแค่เวลาวันสองวันเท่านั้นเอง แต่ตาเขียวก็อยากจะไปคุยกับพ่อคุ้มอินทรีย์ให้รู้เรื่องเพื่อความปลอดภัยของหลานอินทรีย์หันไปตามเสียงก๊อกแก๊กที่ตรงหัวบันไดบ้านก็รู้สึกแปลกใจที่ไอ้สนกับไอ้กล้า จูงใครคนนึงมาบนบ้านของเขาโ
ไอ้ทองอินที่ได้เงินสามร้อยห้าสิบบาทเป็นเงินที่ขายลูกสาวกิน มันเอาไปถลุงในบ่อนพนันเพียงคืนเดียวก็เหลือติดตัวเพียงยี่สิบบาท มันจึงรีบล่าถอยกลับไปหาลุงของมันที่เรือน"ลุงเขียวจ๊ะ ข้าขอโทษจ้ะ"ไอ้ทองอินก้มลงไปกราบ ลุงเขียว เพื่อขอขมาลาโทษ ที่ทำให้ลุงได้รับบาดเจ็บตาเขียวที่เห็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนมาทำท่าทางขอขมาลาโทษก็รู้สึกใจอ่อน แต่ก็ไม่ได้รับคำขอโทษแต่อย่างใด"แล้วหลานสาวกูอยู่ที่ไหน มึงเอาแม่อัญชันไปขัดดอกจริงๆ ใช่ไหม"ตาเขียวเค้นถามหลานชายหัวแก้ว หัวแหวน ตาเขียวถามหาหลานสาวสุดที่รักอย่างอัญชันเมื่อวานแกพยายามจะวิ่งตามแต่ด้วยความบาดเจ็บของคนแก่จึงทำอะไรไม่ได้"ฉันขายนางอัญชันให้กับผู้ชายคนนึงไปแล้วฉันได้เงินมานิดหน่อย แต่ตอนนี้ เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาท" ตาเขียวโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ที่ไอ้ทองอินขายลูกกินอย่างไม่รู้สึกผิด แกจึงใช้ไม้ตะพดฟาดไปที่หัวของ ไอ้ทองอินจนแตก พร้อมกับตวาดลั่นบ้าน แกเอ่ยไล่ไอ้ทองอินทร์ให้ออกจากบ้านไป"มึงนี่มันไม่ใช่คนจริง ๆ ขนาดลูกหมาลูกแมว มันยังรักลูกของตัวเอง แต่นั่นลูกสาวมึงแท้ ๆ มึงยังกล้าขายให้กับคนที่มึงไม่รู้จัก มึงใช้สมองหรือหัวแม่โป้งตีนคิดไว่ะ..?"
วันนี้เป็นวันแรก ที่อัญชันได้ใช้ชีวิตในแบบที่ควรเป็นเย็นวันนี้อัญชันที่ฝึกทำปลาสามรสกับยายปริกและน้ำพริกกะปิผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์เป็นครั้งแรกอัญชันรีบช่วยยายปริกยกข้าวเย็นขึ้นมาบนเรือน"เอ็งทำอันใดให้ข้ากินหรืออัญชัน"พ่อคุ้มอินทรีย์ที่พึ่งอาบน้ำผัดเสื้อผ้าก็เดินออกมา"อัญชันทำเมนูปลาสามรส น้ำพริกกะปิแล้วก็ผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์ ลองกินดูจ๊ะ"อัญชันยิ้มหวานเนื้อตัวยังมีแต่กลิ่นกับข้าวพ่อคุ้มอินทรีย์เดินเข้าไปหาอัญชัน โอบกอดร่างเล็ก ๆ พร้อมกับหอมแก้มเบาๆ ดังฟอด..!"พ่อคุ้ม...!!!"อัญชันเรียกอินทรีย์เสียงดังเพราะแอบตกใจที่อยู่ดีๆก็โดนขโมยหอมแก้ม"ทำไม มึงเป็นคนของกูแล้ว กูบอกมึงแล้วไง ไม่ต้องตกใจหรอก ต่อไปนี้ทุกอย่างบนตัวมึงเป็นของกูแต่เพียงผู้เดียว"อินทรีย์พูดไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งนั้น"อัญชันแม้จะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแบบที่พ่อคุ้มทำ ก็ยิ่งรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยเพราะพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของตน"ขอบใจเอ็งมาก เอ็งก็มากินข้าวพร้อมข้าเลยแล้วกัน"อินทรีย์ที่จุงมือเล็ก ๆ ให้เดินตามมาด้วยอีจวงที่เดินขึ้นมาพร้อมกับโถข้าว แทบจะทำโถข้าวหลุดมือ เมื่อเห็นภาพพ่อคุ้มอินทรีย์
อินทรีย์จ้องมองลูกน้องทั้งสองตาเขม็งด้วยความไม่พอใจที่สอดรู้สอดเห็น เรื่องของเขาไปเสียทุกเรื่อง ถึงแม้พวกมันจะดูทะเล้นตึงตังไปบ้าง แต่ยามที่สู้รบปรบมือ พวกมันก็ไม่เคยถอยและไม่เคยทิ้งอินทรีย์เลยแม้แต่ครั้งเดียวเป็นตายแทนเขาได้เสมอ"ช่างสอดรู้สอดเห็นเสียจริงพวกมึง อัญชันเป็นคนของกู นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผู้ใดก็ห้ามแตะต้อง"อินทรีย์ใช้น้ำเสียงที่ดูอ่อยโยนทำให้อัญชันไม่รู้สึกกลัว"แม่อัญชันจ๊ะฉันชื่อไอ้กล้า ส่วนเนี่ยไอ้สน แม่อัญชันอย่าได้กลัวฉันสองคนเลยนะ ฉันเป็นลูกน้องของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้กล้าที่มันก็กล้าสมชื่อได้พูดขึ้นไอ้สนใช้มือตบไปที่เพื่อนเบา ๆ ให้หยุดพูดเสียทีเดี๋ยวจะปากพาซวยกันทั้งคู่แต่ไอ้กล้าก็ไม่ได้ฟังอัญชันหันมองคนทั้งสองพร้อมกับผงกหัวรับอย่างว่าง่าย คนตัวเล็กอย่างอัญชันทำอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมดในสายตาของอินทรีย์ อินทรีย์ค่อย ๆ อุ้มอัญชันออกจากตัก ให้นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับใช้วงแขนแกร่งโอบกอดเอาไว้"ไหน ไหน ก็ไหน ไหนแล้ว ทำความรู้จักไว้เสียสิอัญชัน อันนั้นไอ้สนหน้าตามันจะดูรูปทั่วตัวดำแต่มันเป็นคนจิตใจดี""ส่วนคนนั้นไอ้กล้าปากหมาพาซวยถึงแม้มันจะดีดดิ้งไปบ้างไม่ค่อยเชื่อฟังคำ
อินทรีย์ที่อุ้มอัญชันขึ้นมากอดกระชับไว้แน่นพร้อมหอมใบบนหน้าผากมนด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของอัญชัน ทำให้อินทรีย์อดใจไม่ไหวจึงแกล้งหยอกล้ออัญชันจนมันหัวเราะร่วน"ฮ่า ฮ่า พ่อคุ้ม อัญชันจั๊กจี้จ้ะ ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นแล้ว"อัญชันที่โดนพ่อคุ้มกลั่นแกล้งนั่งหัวเราะร่วนอยู่บนตักแกร่ง"กูไม่แกล้งมึงแล้วก็ได้อัญชัน แต่ต่อไปนี้เอ็งจะต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังทุกเรื่องที่ข้าพูดเข้าใจไหมพ่อคุ้มอินทรีย์บอกกับอัญชันอย่างจริงจัง"อัญชันสัญญาจ้ะ อัญชันจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังที่ พ่อคุ้มบอกทุกเรื่องเลยจ้ะ อัญชันอยากจะเรียนทำอาหารเพิ่มได้ไหมจ๊ะ""เมื่อก่อนแม่ของอัญชัน มักจะสอนอัญชันทำขนมแล้วก็อาหารมากมาย อัญชันอยากรู้ว่าพ่อคุ้มชอบกินอะไรอัญ ชันจะได้ทำให้พ่อคุ้มกินทุกวันเลย"อัญชันที่พูดเอาอกเอาใจพ่อคุ้มอินทรีย์ด้วยความไร้เดียงสาอัญชันรู้สึกรักและผูกพันกับพ่อคุ้มอย่างบอกไม่ถูก"มึงเป็นเด็กที่น่ารัก และรู้จักเอาอกเอาใจเสียจริงนะไม่เสียแรงที่กูช่วยมึงมา"พ่อคุ้มพูดคุยกับอัญชันอยู่นานสองนานอย่างไม่รู้สึกเบื่อทางด้านไอ้ต้นกล้าและไอ้สนที่เดินดั้นด้นจากลานฝึกมาจนถึงเรือนของพ่อคุ้ม มันแอบดูอยู่ตรงชายบันไดเรือน ก็ถึงก