"พ่อทำไมพ่อพูดอย่างนั้นล่ะ พาแม่ไปหาหมอที่ตัวเมืองสิจ๊ะ ฮื่ิอ" อัญชันร้องไห้สะอึกสะอื้นจนหน้าเขียวหน้าแดง ผู้เป็นแม่น้ำลายฟูมปากและค่อย ๆ จากไปอย่างสงบจนลมหายใจเฮือกสุดท้าย
"แม่...!!!! ฮึก ฮื่อ แม่ แม่อย่าทิ้งอัญชันแบบนี้สิจ๊ะอัญชันจะอยู่ยังไง ถ้าอัญชันไม่มีแม่"อัญชันร้องไห้ฟูมฟายกอดศพของมารดาไม่ยอมปล่อย ไอ้ทองอินที่เห็นว่านางนวลสิ้นใจเสียแล้วแทนที่มันจะฝังศพเมียให้ดี มันกลับปล่อยทิ้งศพของอีนวลไว้ที่ป่าโดยไม่แยแส และรากอัญชันที่มีไข้ขึ้นสูงเดินทางต่อทันที "พ่อปล่อยข้านะ ข้าจะอยู่กับแม่ ปล่อยข้าเดี๋ยวนี้ ข้าไม่ไปไหนกับพ่อทั้งนั้น"อัญชันโวยวายทำตัวดื้อดึงไม่ยอมเดินไปกับไอ้ทองอินทร์แม้แต่ก้าวเดียว ไปทองอินขี้โมโหจนเลือดขึ้นหน้า ตบเข้าไปที่ใบหน้าเล็ก ๆ ของนางอัญชันจนเลือดซิบพร้อมกับชี้หน้ากรนด่าต่างๆนานา "มึงฟังกูนะอีอัญชัน แม่มึงอีนวลมันตายห่าไปแล้วแต่กูนี่พ่อมึง ยังมีชีวิตอยู่ มึงจะให้ไอ้พวกเวรนั่นมากระทืบกูหรือยังไง..!" "ถ้ามึงยังดื้อดึงไม่ไป กูจะมัดมึงไว้กับศพแม่มึงที่นี่แหละ ให้เสือคาบไปแดกเลย อีลูกเวร"ไอ้ทองอินที่ไม่มีแม้แต่พ่อ ความหลงเหลือความเป็นคนความเป็นผัวเมตตาอารีแม้แต่ศพของเมียอย่างนางนวลที่รักมันมาตลอดทั้งชีวิตมันก็ทิ้งขว้าง "แม่จ๊ะลูกลาก่อนนะจ๊ะ ชาติหน้าฉันใดขอให้เราได้เกิดมาเป็นลูกแม่กันอีก ข้าจะดูแลแม่เองทั้งหมดมันเป็นเพราะอัญชัน"อัญชันที่พร่ำเพ้อ ก้มกอดศพแม่ต้องจำใจลุกจากลาด้วยความไม่เต็มใจ "เออให้มันพูดง่าย ๆ อย่างนี้สิวะอีอัญชันกูจะได้เลี้ยงมึงได้"ไอ้ทองอิมยังไม่รู้ว่าที่ตัวของอัญชันนั้นยังมีเงินค่าขนมที่ไปเก็บมามากอยู่ เพราะมีเงินที่ร้านขนมนั้นเชื่อหลายเจ้าเอาไว้ด้วย อัญชันเดินร้องไห้สะอึกสะอื้นตลอดทางจนดวงตาสวยแดงกล่ำใบหน้าเปรอะเปื้อนไปด้วยน้ำตาจนดูไม่น่ามอง "อีอัญชันมึงเมื่อไหร่จะหยุดร้องไห้ มึงจะร้องให้จนตายห่าตามแม่มึงไปเลยหรือไง"ไอ้ทองอินที่ไม่มีความรักใคร่ลูกสาวคนนี้อยู่แล้ว จึงมักจะใช้คำพูดและวาจาที่ไม่ดีอยู่เสมอ "พ่อไม่รักแม่เลยหรือจ๊ะ แม่นวลรักพ่อมากนะ ไม่ว่าพ่อจะทำอะไรไม่ดี แม่นวลก็มักจะบอกให้ข้ารักและเคารพพ่อ"อัญชันรวบรวมความกล้าที่จะพูดกับผู้เป็นพ่อของตัวเอง "ตอนนี้แม่มึงไม่อยู่บนโลกใบนี้แล้วอีอัญชันมึงก็เลิกพร่ำพรรณนาถึงมันได้แล้ว" ผ่านไปไม่นานทั้งสองก็เดินมาถึงหมู่บ้านแห่งเมืองโคราชที่มีนายเหนือหัวเป็นใหญ่คือพ่อคุ้มอินทรีย์ ไอ้ทองอินที่เดินทางมาหาผู้เป็นญาติคนสุดท้าย "ลุงเขียว ลุงเขียวอยู่ไหม"ไอ้ทองอินตะโกนเรียกคนบนเรือนแต่ก็ดูเหมือนจะไม่มีใครอยู่ "พ่อมาถูกแน่นะจ๊ะ"อัญชันเอ่ยปากถามด้วยสภาพที่แทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้วเพราะพิษไข้ "เออกูมาถูกแต่แค่คงไม่มีใครอยู่"พูดยังไม่ทันขาดคำก็มีคนเดินผ่านมาพอดี "เอาพ่อหนุ่มมาจากบ้านไหนล่ะ มาทำอะไรที่นี่"ชาวบ้านที่เดินผ่านมาหันไปถามไอ้ทองอิน "ข้าเป็นหลานของลุงเขียวน่ะ พอดีว่าจะแวะมาเที่ยวหาแกสักหน่อย แกไปไหนป้าพอจะรู้ไหม" "ตาเขียวมันไปวัด วันนี้มันไปทำบุญใส่บาตรอีกสักพักก็คงกลับล่ะ เดี๋ยวข้าจะไปวัดพอดีเดี๋ยวข้าจะบอกให้นะ" "ขอบใจป้ามากนะจ๊ะ ถ้าเจอลุงเขียวบอกลุงเขียวว่าไอ้ทองอินมาหา" "ได้จ้ะพ่อหนุ่มเดี๋ยวป้าจะบอกให้" ไอ้ทองอินที่นั่งรออยู่ตรงใต้ถุนเรือนพร้อมกับอัญชันที่มีสภาพอิดโรยดูร่อแร่จนจะไม่ไหว "พ่อจ๋าข้าอยากกินน้ำ อยากล้างหน้าล้างตาสักหน่อยจะได้ไหมจ๊ะพ่อ" "มึงนี่เรื่องมากเหมือนแม่มึงจริง ๆ เลยนะแล้วดูสภาพอย่างกับศพเดินได้"ไอ้ทองอินพูดจบก็เดินไปหาน้ำข้างบนเรือนก็ถูกล็อคเอาไว้ มีเพียงน้ำที่เอาไว้ต้อนรับแขกก็ตักลงมาให้นางอัญชันหนึ่งถ้วย "เอารีบ ๆ กินเข้าไปวุ่นวายชิบหาย"ไอ้ทองอินทำหน้าไม่สบอารมณ์กับอัญชัน อัญชันที่ได้น้ำก็กระดกทีเดียวจนหมดถ้วย อัญชันค่อย ๆ หยิบยาฟ้าทะลายโจรสมุนไพรที่แม่ตั้งใจขุดเอามาให้เพื่อดับพิษไข้ อัญชันตัดสินใจบดยาทีละเล็กน้อยแม้จะขมมากก็ต้องจำใจกิน "พ่อข้าอยากจะนอนสักหน่อยได้ไหมจ๊ะ ข้าไม่ไหวจริงๆข้ารู้สึกหนาวสั่นจนแทบจะเป็นลมล้มพับ" "เออมึงนอนนอนไปเถอะจะทำอะไรก็ทำ" "จ้ะพ่อ" ลุงเขียวลุงแท้ ๆ ของไอ้ทองอิน ที่ผ่านมาหลายปีไอ้ทองอินไม่เคยกลับมาเยี่ยมเยียน แต่วันนี้ดันกลับมาหาเขาลุงเขียว ตาเขียวที่ได้ข่าวจากป้าสมใจจึงรีบเดินทางกลับมาที่เรือนทันที "อ้าวไอ้ทองอินลมอะไรพัดพาเอ็งมาถึงโคราชได้วะหายไปตั้งหลายปี ไม่เคยติดต่อข้ามาเลย'ลุงเขียวพูดอย่างน้อยใจ ที่หลานชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างไอ้ ทองอิน ตั้งแต่แม่มันเสียมันก็ไม่เคยติดต่อเขากลับมาอีกเลย "พอดีฉันจะขอมาอยู่กับลุงเขียวสักพักนะจ๊ะ ฉันมีปัญหาทางบ้านนิดหน่อย"ไอ้ทองอินไม่ยอมเปิดปากเล่าความจริงให้กับลุงเขียวฟัง "ได้สิวะเองมาทั้งทีเดี๋ยวข้าจะเลี้ยงข้าวเลี้ยงปลาเองให้อิ่มหนำสำราญ และไหนลูกกับเมียเอ็งล่ะ"ลุงเขียวที่ถามหานางนวลและลูกสาวของไอ้ทองอิน "ข้ามาแต่กับลูกสาวของข้าสองคน ส่วนนางนวลมันอยู่บ้านทางโน้น ดูแลบ้านช่อง"ไอ้ทองอินพูดตัดบทคำโต เพราะไม่อยากให้ใครรู้ถึงความชั่วช้าของมันที่ทิ้งร่างเมียไว้กลางป่า "เออไม่เป็นไรเอ็งมาข้าก็ดีใจจะแย่แล้วไปขึ้นเรือนก่อนเถอะ" "เออเดี๋ยวฉันตามนางอัญชันแป๊บนึงนะลุงมันนอนอยู่ใต้แคร่ตรงใต้ถุนเรือนนะจ๊ะ" "ลุงเขียวเดินไปดูสภาพของหลานสาวที่ดูอิดโปรยจนดูผิดสังเกต "เอ้ย..! ทำไมสภาพมันถึงเป็นอย่างนี้หรอวะ"ลุงเขียวยื่นมือไปสัมผัสหน้าผากที่เต็มไปด้วยเม็ดเหงื่อเขาจึงรู้ทันทีว่าหลานสาวสุดที่รักตัวร้อนจี๋ "ทำไมมึงถึงปล่อยให้มันได้ไข้ขนาดนี้วะไอ้ทองอิน"ลุงเขียวหันขวับไปถามผู้เป็นหลานชาย "พอดีระหว่างทางมันตากน้ำค้างโดนฝนมามันก็เลยได้ไข้นะจ๊ะลุงเขียว ฉันก็ไม่คิดว่ามันจะกระหม่อมบางขนาดนี้"ไอ้ทองอินที่ทำเป็นทองไม่รู้ร้อนก็ตอบไปแบบส่งๆ "อัญชัน อัญชันลูก"ลุงเขียวที่เคยเห็นอัญชันตอนอายุขวบสองขวบ ตาเขียวรักและเมตตาเอ็นดูอัญชันเป็นพิเศษ อัญชันที่ได้ยินเสียงบุรุษที่ตัวเองไม่เคยได้อยู่ในความทรงจำ ก็ลืมตาตื่นขึ้นภาพพร่ามัวค่อย ๆ ชัดเจนขึ้นบุรุษผิวสองสี ดูท้วมใหญ่หน้าตาดูใจดี อัญชันลุกขึ้นทันที "สวัสดีจ๊ะลุงหนูชื่ออัญชัน เป็นลูกของแม่นางนวลกับพ่อทองอินจ้ะ"อัญชันยกมือไหว้อย่างนอบน้อม "โอ้โห..!ใบหน้าหลานสาวข้ าดูซิขนาดได้ไข้ยังสวยขนาดนี้ เอ็งนี่มันช้างเผือกจริงๆนะอัญชันเอ้ยสวยเหมือนแม่เอ็งเลย"ตาเขียวที่เห็นใบหน้าหลานสาวก็กล่าวชมแม้จะอยู่ในสภาพมอมแมมและอิดโรย "แม่ของข้า,..,.."ยังไม่ทันที่อัญชันจะได้พูดจบไอ้ทองอินก็พูดแทรกขึ้นมาทันที "อัญชันเอ็งเพิ่งฟื้นจากไข้ ขึ้นเรือนไปเถอะ เดี๋ยวลุงขึ้นไปรอข้าบนเรือนเสียก่อนนะเดี๋ยวข้าขอคุยธุระกับลูกสาวข้าสักประเดี๋ยวไป"ไอ้ทองอินหันไปพูดกับผู้เป็นลุง "เออได้ ๆ เดี๋ยวข้าจะขึ้นไปรอเอ็งสองคนบนเรือนเดี๋ยวข้าจะได้ให้คนเตรียมเสื้อผ้าให้เอ็ง"พูดจบลุงเขียวก็เดินกลับขึ้นไปบนเรือนปล่อยให้สองพ่อลูกได้พูดคุยกันตามประสา "นางอัญชันเอ็งอย่าได้พูดเรื่องที่เกิดขึ้นภายในบ้านของเราให้ลุงเขียวได้รู้เป็นอันขาดแม้กระทั่งเรื่องแม่ของเองก็ตาม........" อัญชันถึงกับหน้าถอดสีไม่คิดว่าผู้เป็นพ่อจะใจไม้ไส้ระกำแม้กระทั่งเรื่องของแม่ที่ถูกทิ้งศพไว้กลางป่าก็ต้องถูกเก็บไว้เป็นความลับจนวันตาย...ศึกในวันนี้ผลสุดท้ายถ้าถามว่ามีใครแพ้หรือชนะหรือเปล่าสำหรับอินทรีย์เขามองเพียงว่านี่เป็นการสูญเสียครั้งยิ่งใหญ่ ไม่มีใครอยากลาจากโลกนี้ไปโดยทิ้งครอบครัวไว้เบื้ิองหลัง อินทรีย์ทำได้เพียงปล่อยให้ผู้หญิงและเด็กรวมถึงคนชราที่อยู่ที่นี่ได้ใช้ชีวิตที่เหลือของตัวเองต่อไป "ข้าจะถามพวกเอ็งว่าจะติดตามกลับไปที่หมู่บ้านของข้าหรือไม่ข้าจะดูแลทุกคนอย่างดีไม่ให้มาลักเล็กขโมยน้อย ปล้นฆ่าแบบนี้" อินทรีย์ถึงแม้จะดูโหดเหี้ยมอำมหิตแต่เขาก็ไม่เคยคิดจะทำร้ายผู้หญิงเพศแม่ "พวกข้าไม่มีอะไรที่พึ่งใบบุญได้แล้ว หากพ่อคุ้มอินทรีย์จะเมตตา พวกข้าก็ยินดีจะติดตามและจงรักภักดีกับพ่อคุ้มอินทรีย์จนกว่าชีวิตของพวกข้าจะลาจากโลกนี้ไป" ยายเฒ่าคนหนึ่งที่ดูเป็นคนที่น่าจะมีวุฒิภาวะและผู้คนน่าจะนับหน้าถือตาอยู่ไม่น้อย "หากยายเฒ่ามะเกลือว่าเช่นนั้นพวกฉันก็ว่าตามนั้นจ้ะ"ลูกเด็กเด็กแดงของเหล่าเสือโจรก็พากันน้อมรับที่จะติดตามอินทรีย์ตลอดชีวิต "พี่อินทรีย์มันจะดีหรือที่รับลูกเสือลูกจะเข้มาเลี้ยง สักวันหนึ่งมันอาจจะแว้งกัดพวกเราตอนที่มันโตขึ้นก็ได้นะพี่"ไอ้สนหันมาบอกอินทรีย์ "หากเป็นเช่นนั้นมันก็เป็นเวรกรรมของกูแล้วล่
ตัดภาพมาที่ปัจจุบันเมื่ออินทรีย์ร่ำลาอัญชันแล้วมาที่ลานอาวุธของเขาพร้อมกับเตรียมยุทโธปกรณ์ในการไปกำจัดพวกไอ้โจรปล้นควายให้สิ้นไป"ในวันนี้ กูไม่รู้ว่า กูจะพาพวกมึงไปตายหรือรอดกลับมาครบทุกคนหรือเปล่า""แต่กูอยากจะบอกพวกมึงว่า การในครั้งนี้เพื่อลูกหลานของเรา และครอบครัวของเรากูขอให้พวกมึงสู้อย่างสุดกำลัง..!"อินทรีย์พูดปลอบขวัญลูกสมุนทุกคนต่างส่งเสียงเฮลั่นอินทรีย์เตรียมไพร่พลไปนับห้าสิบคนในการทำศึกครั้งนี้ไม่ว่าจะออกมาแพ้หรือชนะนั่นหมายถึงความเป็นและความตายของหมู่บ้านแห่งนี้ใช้เวลาไม่นานจากเส้นทางลับที่อินทรีย์และทุกคนได้ล่วงรู้จึงได้ไปตั้งหลักที่นั่นเพื่อเตรียมถอนรากถอนโคนไอ้โจรปล้นควายถึงถิ่น"พวกมึงแบ่งกำลัง เป็นสองกอง กองแรกไปหลอกล่อพวกมันให้ออกมาจากหมู่บ้าน""กองที่สองไปอยู่บนหน้าผาสูงชันบริเวณที่มันเคยกลิ้งหินลงมาใส่พวกเราแล้วยิงธนูไฟใส่หลังคาบ้านของพวกมัน""กองที่สามลัดเลาะไปตามเส้นทางที่ไอ้สนได้แจกแจงให้พวกมึงเป็นทางลอบเข้าหมู่บ้านของพวกมัน""แล้วพวกมึงค่อยเข้าไปเผาบ้านเรือนของพวกมันทีละหลัง และฆ่าพวกมันอย่าให้เหลือหากเป็นผู้หญิงกับเด็กไว้ชีวิตมัน"อินทรีย์สั่งเสียงเข้มทุกคนจึ
หลังจากกลับมาอินทรีย์ก็ได้เค้นสอบถามเรื่องความจริงจากปากคนของตาเฒ่าเสือดำด้วยวิธีการที่โหดเหี้ยมด้วยการจับมันถอดเล็บทีละเล็บถอดฟันทีละซี่เมื่อไหร่ที่มันไม่พูดความจริงก็ถอดออกทีละข้างอ๊าค....!เสียงร้องโหยหวนของไอ้แคระและลูกน้องรวมถึงไอ้โกสุมผู้ที่คิดคดทรยศแม้กระทั่งคนที่ให้ข้าวให้น้ำโดนทรมานอยู่ด้านหลังลานฝึกอาวุธที่มีบ่องูพิษอยู่ด้านข้าง"มึงฆ่ากูซะเถอะถ้ากูรอดไปได้กูจะฆ่ามึงซะ"ไอ้โกสุมจากที่รักและเคารพกลายเป็นเครียดแค้นและโกรธเกลียดอินทรีย์เป็นเท่าตัว"ฮึ ฮึ ฮึ ฮ่า ฮ่า" เสียงแค้นหัวเราะอันเย็นยะเยือกของอินทรีย์ทำให้ทุกคนอยู่ตรงนั้นถึงกับขนรกเกลียวเพราะไม่เคยเห็นอินทรีย์ในเวอร์ชั่นดูโหดร้ายเป็นเท่าทวีคูณจากปกติมาก"ถ้าเป็นกูกูยอมตายว่ะ กูไม่ยอมให้พ่อคุ้มทรมานกูแบบนี้แน่"ไอ้บุญทองที่เห็นการทรมานก็รู้สึกว่าความตายมันดูหอมหวานกว่าการที่เป็นอยู่แน่นอน"มึงอยากจะลองดูไหมล่ะไอ้ห่าอย่าพูดไป"ไอ้สนหันไปตีปากไอ้บุญทอง"กูไม่อยากลองอ่ะ แค่กูได้ยินเสียงมันร้องกูก็จะตายแล้วโอ๊ยขนลุก..บรื้อ.."ไอ้บุญทองถึงกับใช้มือลูกต้นแขนตัวเอง"ต่อให้มึงอยากตาย..กูก็จะไม่ให้มึงตายคนอย่างมึงควรค่า แก่การทรมาน..ส่
ย้อนกลับไปวันที่อินทรีย์ได้บอกให้ไอ้โกสุมพาลูกสมุนนับสิบคนออกไปตรวจตราและแก้มือเพื่อเอาความดีมาลบล้างความผิดที่มันได้หักหลังรอบส่งศาลให้กับฝ่ายศัตรูตรงข้าม"พวกมึงรอกูอยู่ที่นี่ เดี๋ยวกูจะไปเดินดูนอกถ้ำสำรวจอีกทีว่าเราจะโจมตีพวกมันได้จากทางไหน"ไอ้โกสุมที่วางแผนจะออกไปส่งข่าวให้กับพวกโจรปล้นควายคนเดียวจึงสั่งให้ลูกน้องนับสิบรอภายในถ้ำและจะเปิดเผยที่อยู่ของลูกน้องรวมถึงทางรับเข้าออกที่มันได้ค้นพบ"พี่ให้ข้าไปเป็นเพื่อนดีกว่า หากพี่ไปคนเดียว ข้ากลัวจะเกิดอันตราย"ลูกสมุนคนนึงตะโกนขึ้นมาเพราะเป็นห่วงไอ้โกสุม"มึงต้องฟังคำสั่งกูไอ้ชัช ถ้ามึงไม่ฟังคำสั่งกูคนอื่นก็จะพาลเดือดร้อนไปด้วยมึงต้องดูแลทุกคนที่นี่จนกว่ากูจะกลับมาเข้าใจหรือไม่" ไอ้โกสุมทำแทรกเป็นห่วงทุกคน"ได้พี่ข้าขอให้พี่ปลอดภัยกลับมา"ไอ้ชัชได้กล่าวคำอวยพรให้กับไอ้โกสุม"ขอบใจมึงมากไอ้ชัชมึงเป็นเพื่อนที่ดีที่สุดของกู"ไอ้โกสุมที่ทำท่าซึ้งอกซึ้งใจทั้งที่เป็นการโกหกหลอกลวงผู้อื่นทั้งสิ้นผ่านไปไม่นานไอ้โกสุมเดินลัดเลาะออกจากถ้ำทางลับเพื่อจะไปส่งข่าวแก่ไอ้มอญที่อยู่ในชุมโจรและมันอยากไปดูลูกกับเมียให้เห็นกับตาว่าสบายดีหรือไม่ มันคิดแล
เมื่อความรักเริ่มเบ่งบานและสุกงอมทุกอย่างดูจะสวยงามและโรยไปด้วยกลีบกุหลาบโลกทั้งใบเปลี่ยนสีกลายเป็นสีชมพูระหว่างอินทรีย์และอัญชันที่ดูอบอุ่นไปด้วยมวลความรัก เหมือนผีเสื้อบินรายล้อมอยู่รอบตัว"พ่อคุ้มอินทรีย์จ๊ะอัญชันจะไปบ้านตาเขียวไปดูแลทำความสะอาดสักพักแล้วจะรีบกลับมา"บ้านของตาเขียวที่ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้หลานสาวอย่างอัญชันมากมาย อัญชันกลายเป็นทายาทโดยชอบธรรมเพียงคนเดียวของตาเขียวที่มีสิทธิ์ในทรัพย์สมบัติทั้งที่นาบ้านเรือนไทยและเงินสดอีกจำนวนหนึ่งทองแท่งอีกเป็นหีบ"ให้นางชมพู่ติดตามเอ็งไปด้วยนะอย่าไปไหนมาไหนคนเดียวแล้วเดี๋ยวข้ากลับจะไปลานฝึกอาวุธจะรีบตามเอ็งไป"อินทรีย์ที่รีบแต่งตัวเพื่อต้องไปทำภารกิจวางแผนที่จะปิดฉากล้างบางถอนรากถอนโคนพวกโจรปล้นควายที่อยู่ในหุบเขาฝั่งตรงข้ามกับช่องเขาแคบให้มันหมดสิ้นไปเสียที"ได้จ้ะพ่อคุ้ม พ่อไม่ต้องเป็นห่วงอัญชันดอกหนาอัญชันมีชมพู่ไปเป็นเพื่อนแล้วไหนจะบ่าวไพ่ที่เรือนของตาเขียวอีก ไม่มีใครกล้าทำอะไรอัญชันดอก" อัญชันแต่งกายด้วยเสื้อแขนยาวสีน้ำตาลปกปิดไปจนถึงต้นคอกระดุมเม็ดสุดท้ายนุ่งผ้าถุงสีน้ำตาลเรียบๆแต่กลับทำให้อัญชันดูสง่าผ่าเผย"เดี๋ยวข้าจะใ
การจูบที่เนิ่นนาน เหมือนกับกระชากวิญญาณของอัญชันให้หลุดลอยออกจากร่างแววตาระยิบระยับหยาดเยิ้มจ้องมองประสานกันหวานยิ่งกว่าน้ำผึ้ง อินทรีย์ถอนจูบออก แล้วกดจมูกโด่งลงไปบนซอกคอขวาขบเม้มเบา ๆ พอให้อัญชันรูสึกเจ็บแปล็บ ๆ เหมือนเป็นการลงโทษเด็กดื้อไปในตัว"พะ พ่อคุ้ม อย่ากัดนะจ๊ะ ฮืม อัญชันเจ็บ.!"อัญที่ถูกเอารัดเอาเปรียบเอาแต่ใจโดยคนตัวโตเพราะไม่พอใจในคำตอบที่เธอตอบ"ข้าไม่กัดหรอก แต่ข้าจะเปลี่ยนเป็นเลียหัวนมที่ตั้งแข็งชูชันจนทะลุกระโจมอกเอ็งแล้ว ฮืม เด็กดื้อ... "อินทรีย์เลื่อนจมูกมาถูไถกลางร่องอกอวบอิ่มที่นุ่มนิ่ม กลิ่นหอมอ่อน ๆ ยังเยาว์เชื้อเชิญเสียเหลือเกิน"พ่อ อย่านะ ฮืม ไม่เอาแบบนี้" อัญที่แผลเก่ายังไม่ทันจะหาย เหมือนจะโดนทำแผลให้ใหม่เสียแล้ว"เอ็ง อยากดื้อกับข้า ทำไม ฮึ ..! ดูซิว่านมเอ็งอร่อยไหม ขอข้าชิมอีกทีนะ เด็กดื้อ.."อินทรีย์ไม่พูดเปล่า กระชากกระโจมอกของอัญชันออก เผยให้เห็นเต้าอวบอิ่มใหญ่โต และยอดจุกปทุมสีชมพูหวาน ชูชันราวกับเชื้อเชิญให้เขาพุ่งเข้าหา อินทรีย์ใช้ปากหนาก้มลงไปดูดดึงราวกับเด็กหิวนม ไม่พอใจอินทรีย์ใช้สองมือหนา รวบสองเต้าให้มาอยู่ตรงกลางแล้วลงลิ้นที่จุกสีชมพูหวา