พ่อคุ้มอินทรีย์ที่กลับมาพร้อมชัยชนะโดยไม่เสียเลือดเนื้อและกำลังคนฝั่งของตนเองเลยแม้แต่คนเดียวแถมยังยึดทรัพย์สินข้าวของพวกไอ้โจรปล้นควายกลับมาได้อีกเกือบหกเกวียน
"พี่อินทรีย์ที่นี่เฉียบขาดมาก ป่านนี้พวกมันไปเฝ้ายมบาลก็ยังไม่รู้ตัวเลยว่าตัวเองตายแล้ว"ไอ้กล้าพูดแบบติดตลก "ไอ้กล้าไอ้ชิบหาย..! มึงก็อย่าพูดไปเผลอ ๆ มันยังคิดว่ามันยังหายใจอยู่หรือเปล่า"ไอ้สนที่พูดหยอกเย้ากับเพื่อน เหล่าบรรดาลูกน้องของพ่อคุ้มอินทรีย์ลูกสมุนห้าสิบคน ไม่มีใครปฏิเสธวิธีการของอินทรีย์เพราะเขามักจะใช้สมองมากกว่ากำลัง ไม่ว่าจะเป็นวิธีขาวหรือดำจะลดศักดิ์ศรีหรือมีศักดิ์ศรีสำหรับเขาขอเพียงแค่บรรลุเป้าหมายเขาทำได้หมด "พวกมึงไปพักผ่อนเถอะ ส่วนเวรยามที่เฝ้าตามจุดประตูทั้งห้าของหมู่บ้านสลับผลัดเปลี่ยนกันอย่าให้ขาด"อินทรีย์พูดจบก็เดินกลับขึ้นเรือนเพื่อไปชำระล้างคราบเหงื่อไคร อีจวงที่เฝ้ารอชะเง้อคอยาวว่าเมื่อไหร่พ่อคุ้มอินทรีย์ ของมันจะกลับมาที่เรือนเสียที เพราะมันอยากจะขึ้นไปปรนนิบัติพัดวีดั่งเช่นทุกคราว มันอยากจะเป็นเมียของอินทรีย์จนตัวสั่น แต่ก็ทำได้เพียงแค่บีบนวดเพราะอินทรีย์ไม่เคยล่วงเกินมันมากไปกว่านั้น "พ่อคุ้มกลับมาแล้วเหรอจ๊ะ"อีจวงที่ยืนเสนอหน้ารออินทรีย์อยู่ตรงใต้ถุนเรือน "เอ็งมีอะไรถึงมายืนอยู่ตรงนี้อีจวง"อินทรีย์ที่เพิ่งเอาม้าไปเก็บในคอกเห็นอีจวงยืนชะเง้อคอยาวก็เลยเอ่ยปากถาม "บ่าวมารอพ่อคุ้มอินทรีย์กลับมานะจ๊ะ พ่อคุ้มอินทรีย์เหนื่อยหรือเปล่าจ๊ะ เดี๋ยวบ่าวหาน้ำเย็นๆ มาให้"อีจวงรีบเดินเข้าไปเอาอกเอาใจ จนทำให้บ่าวไพร่ในเรือนบางคนก็อดหมั่นไส้ไม่ได้ "เออขอบใจมาก เอ็งเอาน้ำเย็นขึ้นไปให้ข้าวบนเรือนแล้วกัน ข้าวเย็นนี้ไม่ต้องเตรียม ข้าไม่หิว"อินทรีย์พูดจบก็เดินหนีกลับขึ้นไปบนเรือน "แหม..! อีจวงมึงจะออกนอกหน้านอกตาเกินไปแล้วหรือเปล่าวะ"อีแดงที่อยู่มาก่อนอีจวงก็รู้สึกหมั่นไส้ที่อีจวงเสนอหน้าตาจนเกินงาน "ทำไมอีแดง มึงอิจฉาวาสนากูล่ะสิ ที่กูได้ขึ้นไปรับใช้ บีบนวดพ่อคุ้มอินทรีย์อยู่เป็นประจำ อย่างมึงอย่างไม่มีโอกาสหรอก"อีจวงพูดจบก็เดินหายไปในครัวเพื่อไปหยิบน้ำเย็นๆ มาให้กับอินทรีย์บนเรือน "พ่อคุ้มอินทรีย์จ๊ะ บ่าวเข้าไปได้หรือไม่จ๊ะ"อีจวงที่ทำเสียงเล็กเสียงน้อย "เออ..เข้ามา"อินทรีย์เอ่ยปากอนุญาต "บ่าวเอาน้ำเย็น ๆ มาให้พ่อคุ้มจ้ะ" "เอาวางไว้ตรงนั้น แล้วมึงก็ออกไปได้แล้วอีจวง" อินทรีย์พูดตัดบทเพราะรู้สึกเหนื่อยล้าและอยากนอนพักผ่อน แต่อีกจวงก็ยังคงทำท่ามึนตึง ไม่ยอมออกไปง่ายๆอินทรีย์จึงปรายตามอง "มึงมีอะไรทำไมถึงยังไม่ออกไปอีก" "พอดีบ่าวเห็นว่าพ่อคุ้มอินทรีย์กลับมาเหนื่อยๆบ่าวเตรียมสมุนไพรประคบไว้ให้ ให้บ่าวนวดให้พ่อคุ้มอินทรีย์นะจ๊ะ"อีจงเสนอตัว อินทรีย์ชั่งใจอยู่นานเพราะเขาเองก็ไม่อยากวุ่นวายเพราะตอนนี้รู้สึกเหนื่อยล้าเต็มทนแต่ก็ดีที่มีคนมานวดคลายความปวดเมื่อยตัวให้จึงได้ตอบอนุญาต"เออก็ได้" อีจวงพอได้ยินคำอนุญาต ก็วิ่งยิ้มน้อยยิ้มใหญ่คลานเข่าเข้าไปหาอินทรีย์ที่นอนอยู่บนเตียงบีบนวดอย่างไม่รีรอ อีจวงพยายามใช้มารยาร้อยเล่มเกวียน เพื่ออ่อยอินทรีย์ให้รับมันขึ้นเป็นเมีย แต่ก็ไม่เคยสำเร็จเพราะอินทรีย์ไม่เคยมีอะไรกับบ่าวในบ้านเลยสักคน ผ่านไปสักพักนึงอินทรีย์ก็รู้สึกหายปวดเมื่อยจึงได้เอ่ยปากไล่ให้อีจวงออกจากห้องไป อีจวงที่อารมณ์เสียไม่น้อย เพราะตั้งใจมาอ่อยอินทรีย์อย่างเต็มที่ สุดท้ายก็แห้วกลับมาเหมือนเดิม "แหมอีจวงแห้วอีกละสิถ้ามึงอ่ะ"อีแดงที่เป็นไม้เบื่อไม้เมากับอีจวงก็พูดจากระแนะกระแหน "มึงไม่ต้องมาพูดกับกูอย่างนี้หรอกอีแดง มึงอ่ะไม่ได้สัมผัสแม้แต่ปลายเล็บตีนของพ่อคุ้ม..! อย่าปากดีให้มันมาก"อีจวงหันไปด่าอีแดงอย่างไม่ไว้หน้า "เพราะว่ากูไม่ได้มักใหญ่ใฝ่สูงเหมือนมึงไงล่ะอีจวงระวังให้ดีเถอะ วันหนึ่งพ่อคุ้มจะเฉดหัวมึงออกจากบ้านกูจะรอดูวันนั้น"พูดจบอีแดงก็เดินสะบัดตูดออกไป "ไม่มีวันนั้นหรอก มีแต่กูจะขึ้นเป็นเมียพ่อคุ้มให้มึงดูอีแดง"อีตวงก็พูดสบถกับตัวเองเบา ๆ ทางด้านไอ้ทองอินที่ได้พาครอบครัวของตัวเอง ระหกระเหินร่อนเร่ มาจนถึงตัวเมืองโคราช แม้จะยังรู้ตัวว่าหนีพ้นเงื้อมมือเจ้าของโรงพนันมาได้ แต่ก็ใช่ว่าพวกนั้นจะไม่ตามล่า "พี่นี่เราก็เดินมาหลายวันแล้วนะ เราไปหาที่หยุดพักสักที่เถิด หากเป็นเช่นนี้ลูกกับข้าน่าจะหมดแรงเสียก่อนที่จะถึงโคราชเป็นแน่" นางนวลที่เห็นสภาพอิดโรยของลูกสาวก็รู้สึกสังเวชใจ "พวกมึงจะพูดทำไมกันนักหนาวะ เป็นตัวถ่วงกู ชิบหาย รู้อย่างนี้ไม่น่าเอามาด้วยหรอก ปล่อยให้แม่งโดนกระทืบอยู่ที่ลพบุรีก็ดี" ไอ้ทองอินที่พูดโดยไม่สนใจความรู้สึกลูกหรือเมียเลย "ทำไมพี่พูดอย่างนั้นล่ะ..! ที่พวกข้าต้องมาตกระกำลำบาก มันก็เพราะพี่ไม่ใช่หรือไง"นางนวลที่หมดความอดทนกับคนอย่างไอ้ทองอิน "อีนวลมึงอย่าปากดีให้มันมากนักนะ มึงเดินไปเถอะอีกไม่กี่ชั่วโมงก็จะถึงบ้านลุงกูที่โคราชแล้ว" "แม่จ๋าขออัญชันพักสักเดี๋ยวได้หรือไม่อัญชันรู้สึกไม่ไหวจริง ๆ จ้ะ เหมือนไม่มีแรงจะเดินแล้ว"อัญชันที่เหมือนจะเป็นไข้ตัวร้อนรุม ๆ เพราะเมื่อวานฝนตกหนัก สองคนแม่ลูกโดนฝนและน้ำค้างมาหลายวัน "พี่ทองอินหยุดพักให้ลูกพักข้างหน้าสักประเดี๋ยวเถอะ ลูกน่าจะได้ไข้เดี๋ยวขอข้าเช็ดตัว หาข้าวหายาให้ลูกได้กินสักหน่อย" "เออก็ได้กูก็เหนื่อยแล้วเหมือนกัน" ไอ้ทองอินที่พูดจบก็นั่งแหมะลงกับพื้นโดยที่ไม่มาดูนางอัญชันเลยแม้แต่นิดเดียว นางนวลที่จัดการหุงหาข้าวแม้จะเป็นเพียงข้าวต้มที่เหลือข้าวอยู่เพียงสามหยิบมือก็ยังได้อีกหนึ่งมื้อสำหรับคนสามคน ปลาแห้งที่เหลือเพียงตัวเดียวนางก็เลือกที่จะบีบใส่ลงไปในหม้อข้าวเพื่อให้ลูกและสามีได้กิน "อัญชันเดี๋ยวลูกมากินข้าวก่อนนะลูกนะ เดี๋ยวแม่จะหาฟ้าทะลายโจรแถว ๆ นี้ดูเผื่อจะได้ลดไข้ของลูกลงบ้าง"นางนวลเดินไปเก็บสมุนไพรเพื่อหาเอามาลดไข้ให้ลูกสาวตนเอง 'แม่อยากไปไหนไกลนะจ๊ะ อัญชันไม่เป็นอะไรมากหรอก แม่ไม่ต้องเป็นห่วงข้านะ"คำพูดราวกับว่าจะเป็นคำสั่งลาของอัญชันและแม่ เหมือนจะเป็นวันสุดท้ายที่อัญชันจะไม่ได้เห็นแม่อีก "มึงก็มัวแต่ร่ำรี่ร่ำไรอยู่นั่นแหละอีนวล จะทำอะไรก็ทำ จะได้ออกเดินทางสักที ส่วนมึงอีอัญชันก็เป็นตัวถ่วงตั้งแต่เกิดยันโตเลยนะ" อัญชันไม่พูดอะไรโต้ตอบกลับผู้เป็นพ่อเพราะแม่มักจะสอนให้อัญชันเคารพบิดาเสมอ ไม่ว่าบิดานั้นจะทำไม่ดีมากน้อยเพียงใด อัญชันก็ไม่เคยเกลียดผู้เป็นพ่อเลยสักครั้ง "งั้นเดี๋ยวแม่จะเข้าไปในป่าไม่ไกล ตรงโน้นตอนที่เดินผ่านมา แม่เห็นสมุนไพรฟ้าทะลายโจรขึ้นเป็นดงเลยลูกรอแม่ซักเดี๋ยวนะ" สองคนพ่อลูกนั่งกินข้าวต้มปลาแห้งเหลือเพียงข้าวต้มอยู่เพียงถ้วยสุดท้าย อัญชันเลือกที่จะเก็บเอาไว้ให้แม่กิน ไอ้ทองอินที่มีท่าทีจะแย่งข้าวต้มไปอัญชันก็สู้สุดฤทธิ์ "กูบอกให้มึงส่งข้าวต้ม มาให้กูอย่างไรล่ะอีอัญชันมึงจะเก็บไว้ทำอะไร กูยังกินไม่อิ่ม"ไอ้ทองอินตวาดลูกสาวลั่น เพราะตัวนั้นกินข้าวต้มได้แค่ถ้วยเดียว "อัญชันจะเก็บไว้ให้แม่จ้ะ แม่นวลยังไม่ได้กินข้าวเลย ถ้าพ่อกินหมดแล้ว แม่นวลจะกินอะไรล่ะจ๊ะ"อัญชันหวงหม้อข้าวยิ่งกว่าอะไรดีในเวลานี้ "ก็เรื่องของมันสิ ใครใช้ให้มันเสือกเดินกลับเข้าไปในป่าล่ะ ท้องมันกับท้องกูก็ไม่ได้ติดกันสักหน่อย" "ไม่ได้จ้ะ ยังไงข้าก็จะเก็บข้าวถ้วยนี้เอาไว้ให้แม่ ถ้าพ่อจะกินพ่อต้องไปหาเอาเองแล้วล่ะ" ไอ้ทองอินที่เห็นท่าทีไม่ยอมของลูกสาว จึงต้องล่าถอยกลับไปนั่งรอ นางนวลที่ยังไม่ออกจากป่าเสียทีผ่านมานานสองนาน หันไปสักพักเห็นเมียรักเมียชังถือต้นฟ้าทะลายโจรออกมาหนึ่งกอใหญ่ "อัญชันแม่กลับมาแล้วลูก เดี๋ยวแม่จะรีบคั้นน้ำฟ้าทะลายโจรให้ลูกกิน เพื่อดับพิษไข้นะลูกนะ"นางนวลที่รีบทำเวลาบดยาผสมน้ำให้ลูกสาว "แม่กินข้าวก่อนเถอะจ๊ะ เดี๋ยวยาข้าบดเองก็ได้" อัญชันยื่นถ้วยข้าวถ้วยสุดท้าย ให้กับนางนวลผู้เป็นแม่พร้อมกับส่งยิ้มไปให้ แสดงให้แม่เห็นว่าตัวเองนั้นไม่เป็นอะไรมาก "ขอบใจมากนะลูกที่คิดถึงแม่"ยังไม่ทันที่นางนวลจะยื่นมือไปรับถ้วยข้าว นางนวลถึงกับเป็นลมล้มพับลงไปหายใจรวยรินราวกับคนจะขาดใจตาย "แม่ แม่ แม่เป็นอะไรจ๊ะ..! แม่เป็นอะไรแม่ตอบอัญชันสิ"อัญชันที่ตกใจรีบพุ่งไปกอดแม่ที่นอนขดตัวงอหายใจรวยรินอยู่บนพื้น "อัญชันฟังแม่นะลูก ลูกต้องไปกับพ่อและดูแลตัวเองให้ดี นับจากนี้ลูกต้องเป็นคนดี ซื่อสัตย์และไม่ยุ่งกับการพนันอย่างที่พ่อเป็นนะลูก รับปากแม่สิ" นางนวลใช้มือสั่นเทายื่นไปสัมผัสใบหน้าลูกสาวเป็นครั้งสุดท้ายห่วงเดียวห่วงสุดท้ายในชีวิตของนางนวลคือลูกสาวที่ชื่ออัญชัน "ไม่นะแม่ แม่ต้องอยู่กับข้า ฮื่ิอ ฮึก แม่เป็นอะไรแม่บอกข้าสิ พ่อ พ่อช่วยมาดูแม่หน่อย ฮื่อ"ไอ้ทองอินที่ทำท่าเหนื่อยหน่าย คิดว่าเมียรักเมียชังตอนนี้แกล้งทำเป็นล้มป่วย "มึงเป็นอะไรของมึงวะอีนวล มึงจะเล่นละครอะไรเป็นอีกให้มันไว ๆ หน่อยเถอะ"ไอ้ทองอินพูดจบก็ไปจับใบหน้าของเมียรักดู มองเห็นว่าเริ่มมีปากเขียวช้ำจึงได้สำรวจไปทั่วร่างกายจนไปเห็นรอยเขี้ยวที่ข้อขาเล็กของเมียตนเอง "อีนวลนี่มึงถูกงูกัดอย่างนั้นรึ"ไอ้ทองอินตกใจถึงกับทำอะไรไม่ถูก "มันไม่ทันแล้วพี่ทองอิน ข้าปากพี่ดูแลอัญชันด้วยนะ พี่รับปากข้าได้หรือไม่ ว่าจะเลิกเล่นการพนันและหันมาดูแลลูกสาวของเรา"ไอ้อินที่เห็นว่าเมียตัวเองนั้นหายใจร่อแร่จึงรับปากไปส่งส่ง "กูรับปากมึง ไม่ต้องเป็นห่วง"แม้แต่น้ำตาสักหยดเดียวให้ทองอินก็ไม่มีที่จะไหลให้กับนางนวล ช่างผิดแผกแตกต่างกับนางนวลเหลือเกินที่มองใบหน้าผัวที่นางรักมาตลอดทั้งชีวิตนี่สินะที่เขาให้สุภาษิตว่ามีผัวผิดคิดจนตัวตาย....อัญชันที่นั่งดูการฝึกอาวุธอยู่ด้านหลังของอินทรีย์ วันนั้นทั้งวันตลอดบ่าย เหล่าบรรดาชายหนุ่มต่างพากันยิ้มกริ่ม อย่างมีกำลังใจเพราะไม่ได้เห็นแต่ใบหน้าเหี้ยมเกรียมของอินทรีย์แต่กลับเห็นใบหน้าน่ารักจิ้มลิ้มที่ส่งยิ้มให้กับอินทรีย์ทำให้พวกเขาที่ฝึกอาวุธอยู่ก็ยิ้มตามไปด้วย"พวกมึงยิ้มห่าอะไรกัน..! ฝึกกันไปสิวะ..!!"อินทรีย์ยืนเอามือไพล่หลัง เดินวนไปวนมาจ้องเราลูกสมุนตาเขม็งอินทรีย์รู้สึกทนไม่ไหวจึงบอกให้ไอ้สนมาคุมการฝึกแทนเขา เพื่อจะพาอัญชันกับเรือนเขารู้สึกรำคาญสายตาทุกคู่ที่จ้องมองอัญชันอย่างไม่วางตาก่อนที่เขาจะควบคุมอารมณ์เอาไว้"ไอ้สน มึงคุมการฝึกให้ดี ฝึกพวกมันให้หนักโทษฐานที่มองอัญชันของกู"อินทรีย์หันไปพูดกับไอ้สน"ฉิบหาย งานหยาบแล้วพวกมึง เหนื่อยเอวเคล็ดแน่!"ไอ้บุญมาลูกน้องลูกกระจ๊อกที่รองมือรองเท้าของไอ้สนและไอ้กล้าเอ่ยขึ้นเสียงดัง"แน่นอนพี่อินทรีย์ เดี๋ยวข้าจะคุมการฝึกให้พี่เอง พี่พาคุณหนูอัญชันกับเรือนไปเถอะไ"อ้สนที่รู้ใจผู้เป็นลูกพี่ยิ่งกว่าใครอัญชันที่นั่งเป็นทองไม่รู้ร้อนมิรู้หนาว อยู่บนแคร่เห็นหน้าบึ้งตึงของพ่อคุ้มอินทรีย์ก็รีบเดินเข้าไปถามด้วยความเป็นห่วงเป็นใยตามประสา"ไป
ไอ้ทองอินเดินโซซัดโซเซ ตั้งใจจะเอาชีวิตไปตายเอาดาบหน้า ไอ้ทองอินเหลือแต่ชีวิตของมัน และไม่เหลือใครอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นลูกหรือเมียและญาติคนสุดท้ายมันรู้สึกสิ้นไร้ไม้ตอก จึงเดินตุ้มปัดตุ้มเป๋ไปในป่าโดยไร้จุดหมาย"อย่าให้กูฟื้นตัวมาได้นะ..!ไอ้อินทรีย์ ตาเขียว กูจะมาเอาคืนให้หมดทุกคนเลย ที่ทิ้งกู"ไอ้ทองอินกับเคียดแค้นให้กับลุงแท้ ๆ อย่างตาเขียวที่ไล่ตะเพิดมันออกจากบ้านและคนที่ซื้อลูกสาวมันไปอย่างพ่อคุ้มอินทรีย์ก็ยังจะมาซ้ำมันให้ออกจากหมู่บ้านอีกนับจากวันนั้นเป็นต้นมา วันแล้ววันเล่าชีวิตของอัญชันดูราบรื่นและสวยงาม อัญชันบัดนี้อายุเข้า 17 ปีดูสวยงามสง่า ความเป็นกุลสตรีที่อ่อนโยนยิ่งผูกมัดใจของอินทรีย์เข้าไปทุกวัน"ยายปริกจ๋า วันนี้อัญชันขอไปลานฝึกอาวุธได้ไหมจ๊ะอยากจะเอาปลาสามรสไปฝากพ่อคุ้ม"อัญชันที่ยิ้ม หวานขอยายปริกให้ใจอ่อน"ก็ได้คุณหนูอัญชัน ยายให้ไปแต่คุณหนูอัญชันจะต้องไม่ไปก่อความวุ่นวายให้กับพ่อคุ้ม ต้องลำบากใจรู้หรือไม่"ยายปริกรู้ว่าอัญชันเองก็เป็นเด็กดีน่ารักแต่ก็มีความแสบอยู่ไม่น้อย"อัญชันสัญญากับยายปริกว่าจะไม่สร้างความวุ่นวายเด็ดขาด อัญชันจะรีบไปรีบกลับ ขอเอาข้าวไปส่งให้กับ
อีจวงที่วิ่งหน้าตั้งไปตามไอ้สนและไอ้กล้าที่อยู่ร้าน น้ำชาข้างตลาด ไม่ไกลจากบ้านของพ่อคุ้มอินทรีย์มากนัก เมื่อมาถึงอีจวงจึงรีบตะโกนเรียกคนทั้งสอง"พี่สน พี่กล้า พ่อคุ้มหัวอินทรีย์เรียกหาที่เรือนมีเรื่องรีบกลับไปที่เรือนทันที"อีจวงที่ยืนหอบแฮ่กๆแต่ก็ยังบอกทุกความของพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่มีตกหล่น"เกิดเรื่องอะไรวะ"ไอ้สนและไอ้ต้นกล้าหันไปพูดกับ อีจวงพร้อมกัน"ก็พ่ออีนางเด็กอัญชันน่ะ มันมาอาละวาดที่เรือนจะเอาอีอัญชันกลับ"อีจวงที่ไม่ชอบอัญชันก็เรียกจิกหัว ทันทีสองคนที่ได้ยินดังนั้น"นังจวงพูดจาอะไรให้มันดี ๆ หน่อยเถอะ แม่อัญชันก็เป็นคนสำคัญของที่เรือนของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้สนหันไปเอ็ดอีจวง"ช่างมันเถอะพวกพี่รีบไปเที่ยวเรือนก่อน"อีจวงที่ไม่สนใจเสียงบ่นกรนด่าของไอ้สนไอ้ทองอินที่อยู่ใต้ถุนเรือน ก็ยังคงโวยวายลั่นทำ ท่าทางจะขึ้นมาบนเรือนของอินทรีย์ให้ได้ แต่อินทรีย์ยืนขวางแม้แต่บันไดขั้นเดียวก็ไม่ให้ขึ้นเหยียบ"เอ็งมาทำแบบนี้ได้ยังไงวะ ข้าอยากจะเอาลูกสาวข้าคืน เอ็งก็คืนมาสิ ข้าเป็นพ่อของมันนะ"ไอ้ทองอินทำเป็นทองไม่รู้ร้อนทั้งที่รับเ
สภาพของไอ้ทองอิน ที่โดนซ้อมจนใบหน้าปูดบวมบิดเบี้ยว กว่ามันจะลุกขึ้นมาได้ก็เล่นเอาช้ำใน เจ็บตัวไป 3-4 วัน เงินที่เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาทบาทสุดท้ายในสมัยนั้นเป็นเงินที่มากอยู่พอจะให้ตั้งตัวได้เลยแต่สุดท้ายไอ้ทองอินก็ยังหอบสภาพสังขารด้วยใบหน้าที่ปูดบวมไปเล่นการพนันในบ่อนท้ายหมู่บ้านจนสิ้นเนื้อประดาตัวไอ้อินที่โดนเอามาทิ้งใกล้ ๆ กับโรงหมอ ก็ได้หมอใจดีช่วยรักษาจนหาย แต่คนอย่างไอ้ทองอินก็เปรียบเสมือนงูพิษมันพร้อมจะชกกัดกับทุกคน"หมอข้าขอยาแก้ปวดหน่อยสิ ข้าปวดเนื้อปวดตัวไปหมด"ใบหน้าที่ปูดบวมเขียวช้ำ ของไอ้ทองอินก็ยังไม่ดีขึ้น มันก็เริ่มจะแผลงฤทธิ์ได้อีกแล้ว"ข้าก็เพิ่งจะให้เอ็งกินไปไม่ถึงชั่วยาม เอ็งก็ต้องรอหน่อยสิวะ มันก็ต้องปวดเป็นธรรมดาสมุนไพรยังไม่ออกฤทธิ์"คนเป็นหมอถึงกับส่ายหัว กับคนไข้อย่าง ไอ้ทองอิน แม้แต่เงินสตางค์แดงเดียวไอ้ทองอินก็ไม่จ่าย"โธ่เว้ย..! ทำไมข้าต้องมาทนเจ็บปวดด้วยวะ หมอยังเองนี่มันไม่ได้เรื่อง"ไอ้ทองอินลุกขึ้น โซซัดโซเซ สีหน้าชี้หนาด่าทอหมอที่ช่วยชีวิตมันเอาไว้"ถ้าเอ็งพูดอย่างนี้ เอ็งก็ออกไปจากโรงหมอของข้าเสีย แล้วอย่าย้อนกลับมาอีก"คนเป็นหมอถึงกับโมโหเลือดขึ้นหน
ไอ้กล้ากับไอ้สนถือวิสาสะพาตาเขียวเดินขึ้นไปบนเรือนของอินทรีย์ เพื่อไปพบกับอินทรีย์ที่นั่งอยู่กลางเรือน นั่งดูอัญชันฝึกร้อยมาลัยอยู่กับยายปริกที่พื้นด้านล่างตรงหน้าของเขา"พ่อคุ้มอินทรีย์ ดูสิจ๊ะ มาลัยของอัญชันบูดเบี้ยวไม่สวยเหมือนของยายปริกเลย"อัญชันทำหน้างอเป็นม้าหมากรุกรู้สึกน้อยใจในฝีมือของตัวเองยายปริกจึงพูดปลอบใจอัญชันว่า "ตอนที่ยายฝึกทำครั้งแรกโย้เย้กว่าของเอ็งเยอะเลย อัญชันเนี่ยถือว่าเก่งแล้ว เอ็งต้องฝึกฝีมือมาก ๆ นะ'ยายปริกเอ่ยบอกให้อัญชันได้รู้สึกดีขึ้น"จริงหรอจ๊ะ"อัญชันหันไปถามยายปริกพร้อมกับรอยยิ้มพิมพ์ใจ"จริงสิ ยายจะหลอกเอ็งทำไมล่ะ กว่ายายร้อยมาลัยเก่ง สวยขนาดนี้ ยายก็ฝึกจนเข็มแทงนิ้วไม่รู้กี่พันรอบ"ยายปริกรู้สึกเหมือนมีหลานสาวตัวเล็ก ๆ ทำให้เรือนนี้ดูมีชีวิตชีวาตาเขียวที่ยืนมองดูหลานสาว อยู่ตรงหัวกระได รู้สึกมีความสุขที่ เห็นหลานสาวมีรอยยิ้มและดูหน้าตาสดใสเพียงแค่เวลาวันสองวันเท่านั้นเอง แต่ตาเขียวก็อยากจะไปคุยกับพ่อคุ้มอินทรีย์ให้รู้เรื่องเพื่อความปลอดภัยของหลานอินทรีย์หันไปตามเสียงก๊อกแก๊กที่ตรงหัวบันไดบ้านก็รู้สึกแปลกใจที่ไอ้สนกับไอ้กล้า จูงใครคนนึงมาบนบ้านของเขาโ
ไอ้ทองอินที่ได้เงินสามร้อยห้าสิบบาทเป็นเงินที่ขายลูกสาวกิน มันเอาไปถลุงในบ่อนพนันเพียงคืนเดียวก็เหลือติดตัวเพียงยี่สิบบาท มันจึงรีบล่าถอยกลับไปหาลุงของมันที่เรือน"ลุงเขียวจ๊ะ ข้าขอโทษจ้ะ"ไอ้ทองอินก้มลงไปกราบ ลุงเขียว เพื่อขอขมาลาโทษ ที่ทำให้ลุงได้รับบาดเจ็บตาเขียวที่เห็นหลานชายหัวแก้วหัวแหวนมาทำท่าทางขอขมาลาโทษก็รู้สึกใจอ่อน แต่ก็ไม่ได้รับคำขอโทษแต่อย่างใด"แล้วหลานสาวกูอยู่ที่ไหน มึงเอาแม่อัญชันไปขัดดอกจริงๆ ใช่ไหม"ตาเขียวเค้นถามหลานชายหัวแก้ว หัวแหวน ตาเขียวถามหาหลานสาวสุดที่รักอย่างอัญชันเมื่อวานแกพยายามจะวิ่งตามแต่ด้วยความบาดเจ็บของคนแก่จึงทำอะไรไม่ได้"ฉันขายนางอัญชันให้กับผู้ชายคนนึงไปแล้วฉันได้เงินมานิดหน่อย แต่ตอนนี้ เหลือติดตัวอยู่ยี่สิบบาท" ตาเขียวโมโหจนเลือดขึ้นหน้า ที่ไอ้ทองอินขายลูกกินอย่างไม่รู้สึกผิด แกจึงใช้ไม้ตะพดฟาดไปที่หัวของ ไอ้ทองอินจนแตก พร้อมกับตวาดลั่นบ้าน แกเอ่ยไล่ไอ้ทองอินทร์ให้ออกจากบ้านไป"มึงนี่มันไม่ใช่คนจริง ๆ ขนาดลูกหมาลูกแมว มันยังรักลูกของตัวเอง แต่นั่นลูกสาวมึงแท้ ๆ มึงยังกล้าขายให้กับคนที่มึงไม่รู้จัก มึงใช้สมองหรือหัวแม่โป้งตีนคิดไว่ะ..?"
วันนี้เป็นวันแรก ที่อัญชันได้ใช้ชีวิตในแบบที่ควรเป็นเย็นวันนี้อัญชันที่ฝึกทำปลาสามรสกับยายปริกและน้ำพริกกะปิผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์เป็นครั้งแรกอัญชันรีบช่วยยายปริกยกข้าวเย็นขึ้นมาบนเรือน"เอ็งทำอันใดให้ข้ากินหรืออัญชัน"พ่อคุ้มอินทรีย์ที่พึ่งอาบน้ำผัดเสื้อผ้าก็เดินออกมา"อัญชันทำเมนูปลาสามรส น้ำพริกกะปิแล้วก็ผักต้มให้กับพ่อคุ้มอินทรีย์ ลองกินดูจ๊ะ"อัญชันยิ้มหวานเนื้อตัวยังมีแต่กลิ่นกับข้าวพ่อคุ้มอินทรีย์เดินเข้าไปหาอัญชัน โอบกอดร่างเล็ก ๆ พร้อมกับหอมแก้มเบาๆ ดังฟอด..!"พ่อคุ้ม...!!!"อัญชันเรียกอินทรีย์เสียงดังเพราะแอบตกใจที่อยู่ดีๆก็โดนขโมยหอมแก้ม"ทำไม มึงเป็นคนของกูแล้ว กูบอกมึงแล้วไง ไม่ต้องตกใจหรอก ต่อไปนี้ทุกอย่างบนตัวมึงเป็นของกูแต่เพียงผู้เดียว"อินทรีย์พูดไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ ออกมาทั้งนั้น"อัญชันแม้จะไม่เคยได้รับความรักจากพ่อแบบที่พ่อคุ้มทำ ก็ยิ่งรู้สึกเคอะเขินเล็กน้อยเพราะพ่อคุ้มอินทรีย์ไม่ใช่พ่อแท้ ๆ ของตน"ขอบใจเอ็งมาก เอ็งก็มากินข้าวพร้อมข้าเลยแล้วกัน"อินทรีย์ที่จุงมือเล็ก ๆ ให้เดินตามมาด้วยอีจวงที่เดินขึ้นมาพร้อมกับโถข้าว แทบจะทำโถข้าวหลุดมือ เมื่อเห็นภาพพ่อคุ้มอินทรีย์
อินทรีย์จ้องมองลูกน้องทั้งสองตาเขม็งด้วยความไม่พอใจที่สอดรู้สอดเห็น เรื่องของเขาไปเสียทุกเรื่อง ถึงแม้พวกมันจะดูทะเล้นตึงตังไปบ้าง แต่ยามที่สู้รบปรบมือ พวกมันก็ไม่เคยถอยและไม่เคยทิ้งอินทรีย์เลยแม้แต่ครั้งเดียวเป็นตายแทนเขาได้เสมอ"ช่างสอดรู้สอดเห็นเสียจริงพวกมึง อัญชันเป็นคนของกู นับจากวันนี้เป็นต้นไป ผู้ใดก็ห้ามแตะต้อง"อินทรีย์ใช้น้ำเสียงที่ดูอ่อยโยนทำให้อัญชันไม่รู้สึกกลัว"แม่อัญชันจ๊ะฉันชื่อไอ้กล้า ส่วนเนี่ยไอ้สน แม่อัญชันอย่าได้กลัวฉันสองคนเลยนะ ฉันเป็นลูกน้องของพ่อคุ้มอินทรีย์"ไอ้กล้าที่มันก็กล้าสมชื่อได้พูดขึ้นไอ้สนใช้มือตบไปที่เพื่อนเบา ๆ ให้หยุดพูดเสียทีเดี๋ยวจะปากพาซวยกันทั้งคู่แต่ไอ้กล้าก็ไม่ได้ฟังอัญชันหันมองคนทั้งสองพร้อมกับผงกหัวรับอย่างว่าง่าย คนตัวเล็กอย่างอัญชันทำอะไรก็ดูน่ารักไปเสียหมดในสายตาของอินทรีย์ อินทรีย์ค่อย ๆ อุ้มอัญชันออกจากตัก ให้นั่งอยู่ข้าง ๆ พร้อมกับใช้วงแขนแกร่งโอบกอดเอาไว้"ไหน ไหน ก็ไหน ไหนแล้ว ทำความรู้จักไว้เสียสิอัญชัน อันนั้นไอ้สนหน้าตามันจะดูรูปทั่วตัวดำแต่มันเป็นคนจิตใจดี""ส่วนคนนั้นไอ้กล้าปากหมาพาซวยถึงแม้มันจะดีดดิ้งไปบ้างไม่ค่อยเชื่อฟังคำ
อินทรีย์ที่อุ้มอัญชันขึ้นมากอดกระชับไว้แน่นพร้อมหอมใบบนหน้าผากมนด้วยความน่ารักน่าเอ็นดูของอัญชัน ทำให้อินทรีย์อดใจไม่ไหวจึงแกล้งหยอกล้ออัญชันจนมันหัวเราะร่วน"ฮ่า ฮ่า พ่อคุ้ม อัญชันจั๊กจี้จ้ะ ไม่เอาแล้ว ไม่เล่นแล้ว"อัญชันที่โดนพ่อคุ้มกลั่นแกล้งนั่งหัวเราะร่วนอยู่บนตักแกร่ง"กูไม่แกล้งมึงแล้วก็ได้อัญชัน แต่ต่อไปนี้เอ็งจะต้องเป็นเด็กดี เชื่อฟังทุกเรื่องที่ข้าพูดเข้าใจไหมพ่อคุ้มอินทรีย์บอกกับอัญชันอย่างจริงจัง"อัญชันสัญญาจ้ะ อัญชันจะเป็นเด็กดี จะเชื่อฟังที่ พ่อคุ้มบอกทุกเรื่องเลยจ้ะ อัญชันอยากจะเรียนทำอาหารเพิ่มได้ไหมจ๊ะ""เมื่อก่อนแม่ของอัญชัน มักจะสอนอัญชันทำขนมแล้วก็อาหารมากมาย อัญชันอยากรู้ว่าพ่อคุ้มชอบกินอะไรอัญ ชันจะได้ทำให้พ่อคุ้มกินทุกวันเลย"อัญชันที่พูดเอาอกเอาใจพ่อคุ้มอินทรีย์ด้วยความไร้เดียงสาอัญชันรู้สึกรักและผูกพันกับพ่อคุ้มอย่างบอกไม่ถูก"มึงเป็นเด็กที่น่ารัก และรู้จักเอาอกเอาใจเสียจริงนะไม่เสียแรงที่กูช่วยมึงมา"พ่อคุ้มพูดคุยกับอัญชันอยู่นานสองนานอย่างไม่รู้สึกเบื่อทางด้านไอ้ต้นกล้าและไอ้สนที่เดินดั้นด้นจากลานฝึกมาจนถึงเรือนของพ่อคุ้ม มันแอบดูอยู่ตรงชายบันไดเรือน ก็ถึงก