Home / โรแมนติก / ดั่งลิขิตร้าย / 9.อดเปรี้ยวไว้กินหวาน (1)

Share

9.อดเปรี้ยวไว้กินหวาน (1)

Author: rasita_suin
last update Last Updated: 2025-12-16 18:49:59

ศศิไม่กล้ามองใคร ได้แต่ยกมือไหว้ขอบคุณคนที่ช่วยตนเองอีกครั้งแล้วเดินก้มหน้าก้มตาเอาใบงานไปยื่นให้คนขับรถตู้ จากนั้นจึงไปยืนข้างๆ ปภาภรที่มีสีหน้าตกใจอย่างปิดไม่มิด เพื่อนสาวรีบโอบเอวเธอเป็นการปลอบใจเงียบๆ ขณะที่แขกทยอยกันขึ้นรถ ส่วนเพชรยืนมองห่างออกไปพร้อมกับเพื่อนคนหนึ่งของเขา หญิงสาวพยายามมองต่ำเข้าไว้ ทว่าอยู่ๆ ก็ต้องเงยหน้าขึ้นเมื่อเท้าของใครคนหนึ่งมาหยุดอยู่ในระดับสายตา

“ผมอยากรู้ว่าคุณเลิกงานกี่โมง”

หนุ่มญี่ปุ่นนั่นเอง เขาส่งยิ้มอ่อนๆ มาให้

การถามอย่างตรงไปตรงมาแบบไม่อ้อมค้อมของอีกฝ่ายทำให้ศศิจนใจ ในเมื่อเขาเป็นแขกเธอก็ไม่อาจบอกปัดได้ และยังรู้ว่าหลายคนกำลังมองมาหญิงสาวยิ่งไม่สบายใจ

“บ่ายสองค่ะ”

“โอเค ผมจะจำไว้ หวังว่าสักวันคุณจะให้เกียรติไปเที่ยวกับพวกเราบ้าง”

“จะโอ้เอ้อีกนานไหมไคจิ”

น้ำเสียงเข้มของคนเป็นเจ้านายดังมาอีกครั้งทำให้ศศิกับปภาภรถึงกับตัวแข็ง

ไคจิหัวเราะหึๆ ไม่หันไปมองเพชร แต่กลับโน้มตัวลงมาใกล้พนักงานต้อนรับสาวมากขึ้น

“จริงๆ ผมอยากให้คุณไปกับผมคนเดียว”

แขกหนุ่มขยิบตาให้เมื่อเธอมองหน้าเขาอย่างคาดไม่ถึง ริมฝีปากอิ่มเม้มเข้าหากันทันที แต่ผู้ชายตรงหน้าไม่อยู่แล้ว เขาเดินล้วงกระเป๋ายิ้มระรื่นไปขึ้นรถ ขณะที่ศศิไม่ได้มองตาม เธอยืนนิ่งกำมือแน่นมองตรงไปข้างหน้าเพียงอย่างเดียว

‘หรือว่าเขาก็รู้จักเธอเหมือนกับคนอื่นๆ’

รถตู้เคลื่อนออกไปแล้ว เพชรเองก็เดินไปยังรถของตัวเองพร้อม

ทักษ์ดนัยทันทีเช่นกัน ไม่อยากแสดงออกให้ใครรู้ว่าเขาอยากรู้ว่าไคจิคุยอะไรกับศศิ ขณะที่ในใจนึกเคืองสาวสวยขึ้นมา เธอไม่ได้เป็นปัญหาที่ทำให้เขาต้องคอยจับตามองจารุพงษ์เอาไว้อย่างเดียวเสียแล้ว

ทุกอย่างเงียบสนิท ทุกคนไปหมดแล้วปภาภรจึงเอ่ยขึ้นเบาๆ

“เพื่อนคุณเพชรเขาน่ารักดีเนอะ พูดไม่ค่อยชัด แต่ก็ดูจริงใจดีนะ ไม่คิดว่าเราเป็นแค่พนักงานธรรมดา สนใจก็จีบเลย”

ศศิไม่ได้สนใจในสิ่งที่เพื่อนพูด เธอหันหลังเดินกลับเข้าไปยังเคาน์เตอร์ต้อนรับ ขณะที่อีกฝ่ายรีบตามมาด้วยความแปลกใจ

“ทำไมทำหน้าบึ้งแบบนี้ล่ะ เป็นแป้งหน่อยไม่ได้ มีหนุ่มหล่อมาขายขนมจีบซึ่งๆ หน้าทั้งที่เป็นพนักงานต้อนรับแบบนี้ปลื้มตายเลย แต่ว่ามาทำต่อหน้าคุณเพชรมันก็เกินไปหน่อย ศศิเองก็ยังไม่ผ่านงานเลย...”

“พอเถอะแป้ง คนพวกนั้นเขาไม่จริงใจกับเราหรอก เขาก็แค่เห็นเราเป็นของเล่น”

หญิงสาวเสียงเข้มแทบจะตวาดใส่เพื่อน ทำเอาปภาภรถึงกับงงในท่าทางของเธอ

“ศศิคิดมากเกินไปแล้ว เขาอาจจะจริงใจก็ได้”

“มันเป็นไปไม่ได้หรอก”

ศศิตัดบทอย่างเด็ดขาดทั้งน้ำเสียงและท่าทาง อีกฝ่ายได้แต่

ส่ายหน้าแต่ก็ไม่ได้พูดอะไรขึ้นมาอีก

ศศิเอาเอกสารทั้งหมดของวันนี้ไปเก็บตามที่อรอุมาสั่ง ปภาภรจะช่วยแต่เธอบอกว่าไม่เป็นไร เพราะถ้าหัวหน้ารู้ว่ามีคนช่วยก็คงไม่พอใจอีก เพื่อนเธอจึงบอกว่าจะไปรอที่ห้องเปลี่ยนเสื้อผ้า

เมื่อก้าวเข้ามาในห้องเก็บเอกสารด้านหลังของออฟฟิศต้อนรับร่างระหงก็ถอนหายใจ เธอไม่ได้ปิดประตูเพราะหอบกระดาษมากองโตทำให้เปิดปิดยาก หญิงสาววางเอกสารก่อนจะหาแฟ้มงานของแต่ละส่วนเพื่อเก็บเอกสารซึ่งมีทั้งหมดห้าแฟ้มใหญ่ๆ

ศศิค่อยๆ แยกจัดเรียงเพื่อจะได้ไม่สลับกัน ขณะเดียวกันก็ถอนหายใจไปด้วย เธอกำลังกลุ้มใจเรื่องเพื่อนๆ ของเพชรที่ต่างก็รู้จักเธอ ได้แต่หวังว่าพวกเขาจะไม่มาวุ่นวายกับเธอมากจนทำให้ต้องเสียงาน การที่ได้รู้ว่าพี่นิดหน่อยยังอยากได้ตัวเธออยู่ทำให้ศศิต้องการอยู่ที่นี่ไปอีกนานๆ

หญิงสาวรู้ว่าพี่นิดหน่อยคงโดนกดดันจากผู้ใหญ่ที่ตนเองติดต่อเอาไว้ แต่สิ่งที่อีกฝ่ายทำมันก็เหมือนการค้ามนุษย์ในความคิดของเธอ ทำได้เพียงแค่ขอให้พี่นิดหน่อยสำนึกได้และเลือกทางเดินใหม่

“อ้าว...คุณศศิ ทำอะไรอยู่ล่ะครับ”

เสียงของใครคนหนึ่งดังผ่านประตูที่แง้มเอาไว้ หยุดทุกความคิดของหญิงสาวลง เธอหันไปแล้วก็ต้องตกใจเมื่อเห็นร่างสูงของจารุพงษ์ก้าวเข้ามาในห้อง ศศิรีบยกมือไหว้อีกฝ่าย

“ทำไมอยู่ที่นี่คนเดียว คุณเลิกงานแล้วนี่”

เขาถามกลับอย่างสนใจ แววตาอ่อนเชื่อม

“เอาเอกสารมาเก็บน่ะค่ะ”

หญิงสาวรีบตอบแล้วหันไปหยิบแฟ้มกองสูงซึ่งตนเองวางไว้บนโต๊ะใกล้ๆ เพื่อเอาไปเรียงในจุดที่ถูกต้อง ตั้งใจจัดการงานของตัวเองให้เสร็จเร็วๆ จะได้รีบออกไปจากห้องนี้ การมาของจารุพงษ์ทำให้เธอรู้สึกอัดอึดแถมยังดูไม่เหมาะสมอีกด้วย ที่สำคัญศศิกังวลกับสายตาของเขาเวลามองเธอ

ตู้เอกสารที่ต้องเก็บแฟ้มอยู่ค่อนข้างสูง ในนี้มีบันไดเล็กๆ สามขั้นไว้ใช้ต่อขึ้นไปจึงไม่ยากเย็นนัก ศศิมุ่งมั่นเพื่อให้งานของตนเสร็จจึงไม่ทันสังเกตว่าร่างสูงของจารุพงษ์ขยับเข้ามาใกล้ ในจังหวะที่เธอเอี้ยวตัวจะหยิบแฟ้มที่เหลือสุดท้ายบนโต๊ะ มือหนาที่วางทาบมือซึ่งหยิบแฟ้มของเธอก็ทำเอา

หญิงสาวสะดุ้ง ร่างอรชรที่กำลังบิดตัวเอียงวูบเพราะน้ำหนักตัวถูกทิ้งไปยังเท้าเพียงข้างเดียวทำให้บันไดเล็กเอียง

“อุ๊ย!”

ศศิพยายามทรงตัวเอาไว้ไม่ให้ล้มแต่ก็พลัดตกมาหนึ่งขั้นเข่ากระแทกส่วนบนสุดของบันได ดีที่บันไดไม่ถึงกับล้ม

“โอ๊ย!”

=====

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ดั่งลิขิตร้าย   15.เลือกเดินทางผิด (2)

    “นั่นคุณจะไปไหน”“ไปจากที่นี่”ร่างสูงใหญ่กระโดดพรวดก้าวสามก้าวก็ไปถึงหญิงสาวก่อนที่มือบางจะทันได้จับลูกบิดประตู แขนกำยำรวบเอวบางขึ้นอุ้มจนร่างระหงลอยขึ้นทั้งตัว ศศิพยายามดิ้นถีบเท้าไปมาแต่ไม่สามารถหลุดออกจากคนตัวโตกว่าได้“ปล่อยนะ ปล่อยฉัน ฉันจะไปจากที่นี่ ไปจากเกาะนี้”“เราต้องคุยกันก่อน”“ฉันไม่มีอะไรจะคุยกับคุณอีกแล้ว”“แต่ผมมี”เพชรบอกพร้อมพาร่างสวยกลับมายังเตียงนอนอีกครั้ง แล้วทิ้งตัวลงไปนอนด้วยกัน พอเธอพลิกตัวจะหนีไปอีกด้านเขาก็เท้าแขนขวางเอาไว้ศศิจำต้องหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มเมื่อเขาปิดทางหนีของเธอทั้งสองด้าน“คุณได้ในสิ่งที่ต้องการไปแล้ว ยังมีอะไรต้องคุยอีก”“ใช่ ผมได้แล้ว แล้วก็ได้เป็นคนแรกของคุณด้วย”เขาบอกพร้อมจ้องดวงตาคู่สวยนิ่งไม่ไหวติง และเห็นแววตาสั่นไหวจากนัยน์ตาคู่นั้น ก่อนที่เธอจะมองเมินไปทางอื่น“เรามาคุยกันแบบดีๆ ดีกว่าศศิ”เพชรพยายามใช้คำพูดให้ดูซอฟต์ที่สุด เขาเป็นคนผิด ทำร้ายทั้งร่างกายและจิตใจของเธอ พูดอะไรออกไปก็คงทำให้หญิงสาวเจ็บทั้งนั้น“ผู้หญิงหน้าเงินอย่างฉันคุยดีๆ ไม่เป็นหรอก”“ไม่เอาน่า”ชายหนุ่มอดถอนหายใจไม่ได้ ทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปหมด เขาด่าว่า

  • ดั่งลิขิตร้าย   15.เลือกเดินทางผิด (1)

    ก่อนที่คนใต้ร่างเขาจะดึงความรู้สึกนึกคิดกลับมาได้เพชรก็ดันเรียวขาสวยสองข้างให้เปิดสำหรับตนเองพร้อมเบียดลงไปหาอีกฝ่าย นำพาร่างแกร่งโลมไล้สัดส่วนอ่อนไหวที่มีซับในบางขวางกั้นอย่างร้อนแรงเรียกร้องเพื่อให้ตนเองพรักพร้อมสำหรับเพลงใคร่บทนี้สิ่งที่สัมผัสร่างกายเธอทำให้ศศิเผยอปากด้วยความไม่คาดคิด เหงื่อซึมจนท่วมตัว กลัวที่สุดในชีวิต นึกอยากกรีดร้องออกมาแต่กลับกลายเป็นเสียงครวญพร่าแผ่ว อยากพูดอยากห้ามแต่กลับพูดไม่ออก นวลเนื้อตื่นตัวตอบรับการแตะต้องอย่างไม่อาจบังคับได้“คุณเพชร...อย่า...ได้โปรด”ใบหน้าสวยส่ายไปมาบอกถึงความไม่เต็มใจ เสียงพร่าบางเบาถูกเค้นออกมาจากจิตสำนึกส่วนลึก เมื่อรับรู้ถึงการแตะต้องที่มากเกินกว่าผ่านเนื้อผ้า“ไม่...ไม่...”เพชรไม่สนใจฟัง เขาเกี่ยวแพนตี้ชิ้นน้อยให้พ้นทางเพื่อสัมผัสร่างสาวโดยตรง เพียงแตะไล้แผ่วผิวทั้งร่างระหงก็สั่นเทิ้ม แม้แต่เขาเองยังซ่านสยิวจนต้องสูดลมหายใจเข้าปอดอย่างหนักหน่วง กลั้นใจเดินหน้าเต็มขั้นในทันทีเพราะไม่อยากรั้งรออีกต่อไปแล้วเสียงหวีดพร่าตามมาทันควันพร้อมกับความรู้สึกบางอย่างในร่างนุ่มอุ่นที่ทำเอาร่างสูงใหญ่ถึงกับชะงักตัวแข็งทื่อ ตาคมมองร่างสวยท

  • ดั่งลิขิตร้าย   14.บทพิสูจน์สุดร้อนแรง (2)

    “ไม่ใช่สิ ฉันผ่านใครต่อใครมาแล้วตั้งหลายมือ รู้สึกดีจังที่คุณก็จะเป็นคนหนึ่งในนั้น”ท่าทางที่เปลี่ยนจากหน้ามือเป็นหลังมือของหญิงสาวทำให้เพชรชะงักไป นึกรังเกียจคนใต้ร่างขึ้นมาวูบหนึ่งจนอยากสะบัดตัวลุกหนีไป แต่เขาต้องการให้บทเรียนกับเธอ อยากให้รู้ว่าร่างกายของเธอไม่ได้ทำให้เขาหลงหรือคลั่งอยากได้เหมือนผู้ชายพวกนั้น หลังจากเขาก้าวลงจากเตียงไปเธอจะกลายเป็นผู้หญิงไร้ค่าคนหนึ่ง ไม่ได้แม้แต่เงินสักบาทจากเขา และเขาก็จะไม่หันมามองเธอซ้ำอีก“ดี แต่อย่าติดใจจนลืมผมไม่ลงก็แล้วกัน”เพชรขยับลงมาใกล้ใบหน้าสวยแล้วพูดต่อเบาๆ“เพราะบอกไว้เลยว่า ผมจะไม่นอนกับคุณเป็นครั้งที่สอง”พูดจบเขาก็เคลื่อนใบหน้าคมมายังลำคอขาวผ่อง“อย่านะคุณเพชร”ศศิพยายามหันหน้าหนีและพลิกตัวให้มากที่สุดเท่าที่จะทำได้เพราะแขนถูกชายหนุ่มกดเอาไว้ ทว่าเพชรก็ยังแนบริมฝีปากลงมาบนผิวบางข้างลำคอเธอได้ ร่างทั้งร่างของศศินิ่งงันไป รู้สึกร้อนวูบวาบจากจุดที่ปากชายหนุ่มแตะจรดปลายเท้า“อะไรกัน แค่เริ่มต้นเอง อย่าเพิ่งเสร็จไปก่อนซะล่ะ”จบคำหยาบคายนั้นร่างระหงก็เริ่มดิ้นรนพยายามสะบัดตัวให้แรงขึ้น“ปล่อยฉัน คุณรังเกียจฉันจะแตะต้องฉันทำไม”“เพราะคุ

  • ดั่งลิขิตร้าย   14.บทพิสูจน์สุดร้อนแรง (1)

    “คุณเพชรปล่อยฉัน”ศศิโวยวายทุบหลังชายหนุ่มแต่เขาไม่สนใจ พาเธอมาจนถึงรถของตนแล้วจัดการให้หญิงสาวขึ้นรถทางด้านคนขับส่วนเขาตามขึ้นมาเบียดทำให้ศศิต้องขยับไปเบาะด้านข้าง เมื่อเธอจะเปิดประตูเขาก็กดล็อกเสียก่อน“คุณจะไปไหนคะ”เธอถามอีกครั้งเมื่อชายหนุ่มออกรถ ดวงตาคู่สวยเต็มไปด้วยความกังวล ทว่าเพชรไม่ตอบ สีหน้าหน้าเขาดูโกรธจัดและเงียบจนน่ากลัวเพียงไม่กี่นาทีรถคันโตของเพชรก็มาจอดหน้าบ้านหลังใหญ่ ศศิใจหายวาบทันควัน“คุณพาฉันมาที่นี่ทำไม”แม้จะไม่เคยมาแต่ไม่ต้องเดาก็รู้ว่าเป็นบ้านของเขาเองเพราะอยู่ในบริเวณด้านหลังของรีสอร์ตเพชรไม่ตอบเช่นเคยและไม่ได้หันมามองเธอแต่เขาลงรถ ศศิจึงรีบลงตามตั้งใจจะคุยกับเขาให้รู้เรื่องว่าตกลงจะให้เธอออกใช่หรือไม่ จะได้กลับไปเก็บของและบอกลาปภาภร แต่ร่างสูงใหญ่วนมาหาเธออย่างรวดเร็วแถมยังรวบร่างเธอขึ้นพาดบ่าหนาในทันที หญิงสาวได้แต่อุทานโดยไม่สามารถทำอะไรได้“คุณเพชรปล่อยฉันนะ”เขาทำให้หญิงสาวเริ่มกลัวมากขึ้นเมื่อเข้ามาในบ้านแล้วไม่ได้หยุดที่ห้องรับแขก เพชรพาเธอตรงเข้าไปด้านในกว่านั้น บ้านหลังนี้เป็นบ้านชั้นเดียว และชายหนุ่มก็เข้ามาในห้องหนึ่งที่ทำเอาศศิถึงกับตระหนก“คุ

  • ดั่งลิขิตร้าย   13.ไล่ออก (2)

    คนที่นั่งนิ่งอยู่ในห้องผู้บริหารของสำนักงานเหลือบมองออกไปนอกหน้าต่างที่ความมืดค่อยๆ โรยตัวปกคลุม เธอได้แต่อยู่ในนี้มาหลายชั่วโมงแล้ว แต่ยังดีที่อารยาไม่ได้ปล่อยเธอไว้โดยไม่ใส่ใจ อีกฝ่ายสั่งข้าวมาให้ทั้งกลางวันและตอนเย็น แม้จะไม่รู้สึกหิวสักนิดทว่าอารยาก็คะยั้นคะยอจนศศิต้องฝืนใจทานลงไป แถมยังเอื้อเฟื้อหายามาทาตรงมุมปากที่แตกเพราะแรงตบของจารุพงษ์ให้อีกด้วยหญิงสาวกำลังเครียดและวิตกกังวล เรื่องของตัวเองนั้นพอทำใจได้ว่าสุดท้ายแล้วเธอคงต้องไปจากที่นี่ แต่หญิงสาวอดเป็นห่วงอาการของคุณสุพรรณีไม่ได้ ทว่าก็ทำได้เพียงภาวนาให้ท่านไม่เป็นอะไรมากอยู่ๆ ประตูห้องก็เปิดขึ้น ในตอนแรกศศิเข้าใจว่าเป็นอารยาทว่าร่างสูงใหญ่ที่ปรากฏทำให้เธอนิ่งงันไป ไม่ได้แปลกใจที่เห็นชายหนุ่มเข้ามาเพราะรู้ดีว่านี่เป็นห้องของอีกฝ่าย เธอเห็นป้ายหน้าห้องตั้งแต่ตอนที่เข้ามาแล้วว่าเป็นห้องรองประธานกรรมการเพชรใบหน้าเคร่งเครียด มองร่างระหงที่กำลังลุกขึ้นยืนช้าๆ ด้วยความรู้สึกทั้งรังเกียจและเคืองขุ่นระคนกัน เขาโมโหมากจนจัดการไอ้คนหน้าไม่อายที่ตามไปโรงพยาบาลจนเลือดกบปาก ตั้งใจจะเอาให้ฟันร่วงหมดปากด้วยซ้ำถ้านภาไม่ขอร้องเอาไว้“คุณ

  • ดั่งลิขิตร้าย   13.ไล่ออก (1)

    “ว้าย! ท่านประธานคะ”อารยาเองก็เดินตามมาเช่นกัน หญิงสาวรีบขยับเข้าไปรับร่างของคนเป็นเจ้านายที่ทรุดลงได้ทัน อรอุมาก็รีบเข้าไปช่วยประคองด้วย จารุพงษ์กำลังอึ้งอยู่ก็ตกใจจนนิ่งไปเช่นกันในเวลานั้นร่างสูงใหญ่ก็ขยับกายมาอยู่ด้านหลังของอรอุมาแล้วช่วยพยุงคุณสุพรรณี“คุณป้า!”ชายหนุ่มเรียกป้าตนเองด้วยความตกใจแล้วเหลือบสายตาเข้ามาในห้อง ภาพที่เห็นก็ทำเอาสติของเขาขาดผึง ราวได้ยินเสียงบางอย่างขาดในหูตัวเองดังเปรี้ยะเลยทีเดียว สันกรามถูกขบแน่นขณะมองร่างสวยระหงที่รีบถอยให้ไกลจากร่างหนาของจารุพงษ์ ตาคมเต็มไปด้วยแววมาดร้ายกวาดตามมือบอบบางที่พยายามรั้งชายผ้าถุงลงปกปิดเรียวขาขาวสวย“ผมจะพาคุณป้าไปโรงพยาบาลก่อน ระหว่างนี้ผมไม่ต้องการให้ใครหายไปไหนเด็ดขาด จะต้องมีคนรับผิดชอบสิ่งที่เกิดขึ้นกับป้าของผม”เขาออกคำสั่งรัวเร็วจากนั้นร่างสูงใหญ่ก็อุ้มร่างของป้าตนเองขึ้นแล้วก้าวพรวดพุ่งไปยังประตูทางออกของสำนักงาน ราวกับไม่รับรู้ถึงน้ำหนักใดๆ เลยแม้แต่น้อยนภาที่มาพร้อมกับเพชรรีบก้าวตามไปด้วยเผื่อว่าต้องเป็นคนจัดการทุกอย่างจารุพงษ์เองก็เร่งรีบตามออกไปด้านนอกหลังจากเรียกสติตนเองกลับมาได้“คุณจารุพงษ์คะ”อารยารีบเ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status