LOGINหลังฝนตกหนักตลอดคืน ไอดินและกลิ่นหญ้าอ่อน ๆ ลอยฟุ้งในช่วงเช้าทำให้อากาศช่างสดชื่น ดาวนิลขยับตัว บิดขี้เกียจด้วยความเมื่อยขบ เมื่อคืนติณรุนแรงเสียจน…พลันหญิงสาวก็หน้าแดงซ่าน เขารุนแรงแต่ก็ไม่ได้ทำให้เธอเจ็บปวด เพียงแต่รังแกให้เธอหมดแรงแม้แต่จะร้องวิงวอนให้เขาหยุด เธอเสร็จไม่รู้กี่หนกี่ครั้ง แต่ติณก็ยังไม่หนำใจ
ยามปกติเขาก็ดุดันจนเหลือรับ แต่เมื่อคืนดาวนิลสัมผัสถึงความผิดปกติทางอารมณ์ของเขาได้ชัดเจน การเคลื่อนไหวของเขาดิบกระด้างกว่าทุกครั้งคล้ายกับมีเรื่องที่ทำให้เขาเกรี้ยวกราดหรือเคืองแค้นอย่างรุนแรง
ขนาดในวันที่แม่พาตัวเธอมาประเคนให้เขาถึงบ้านเมื่อพี่สาวหนีไปกับคนอื่น ติณก็ยังอ่อนโยนต่อเธอพอสมควรยามรู้ว่านั่นคือครั้งแรกของเด็กสาวที่อายุเพียงสิบแปดปี ติณให้โอกาสเธอได้เลือกด้วยซ้ำ แต่หญิงสาวไม่อาจปฏิเสธคำขอร้องและขู่เข็ญของมารดาได้ ดาวนิลจึงกลายมาเป็นนางบำเรอแลกหนี้สินสอดที่เขาตั้งใจมอบให้พี่สาว
"มีเรียนหรือเปล่า" ร่างสูงสง่าเดินออกจากห้องน้ำด้วยเนื้อตัวเปล่าเปลือย มีเพียงผ้าขนหนูสีขาวสะอาดตาโปะอยู่บนหัวเพื่อซับน้ำหลังสระผม
"มีตอนเก้าโมงค่ะ" ดาวนิลเบือนหน้าหนี อยู่กับเขามาสี่ปีแล้วแท้ ๆ ก็ยังไม่คุ้นกับการต้องเห็นเรือนร่างของเขาแบบอล่างฉ่าง
"ไปอาบน้ำซิ มีเรื่องจะคุยด้วย" ชายหนุ่มหยิบผ้าเช็ดตัวผื่นใหญ่มายื่นให้หญิงสาว สีหน้าจริงจังของติณทำให้ดาวนิลสังหรณ์ใจแปลกๆ รีบคว้าผ้าเช็ดตัวเข้าห้องน้ำอย่างรวดเร็ว
ครั้นพอเสร็จธุระส่วนตัว บ้านหลังเล็ก ๆ ที่เธออาศัยอยู่ตลอดสี่ปีก็มีคนมารออยู่ในห้องรับแขกแล้ว หญิงสาวประสานตาที่สั่นไหวกับติณ ภาวนาให้ทุกอย่างเป็นภาพลวงตา แต่ทันทีที่หญิงสาวผมน้ำตาลหยักศกหันกลับมาตามสายตาของติณ ดาวนิลก็รู้ว่าคำอธิษฐานของเธอไม่ได้ผล…
เดือนพราวกลับมาแล้ว !
"พี่เดือน" ดาวนิลยืนนิ่งอยู่กับที่ราวกับเลือดที่ไหลเวียนในร่างกายเธอจับตัวเป็นก้อนน้ำแข็ง พี่สาวที่หายไปนานนับสี่ปีกลับมาอีกครั้ง
ดีใจซิ…เธอควรจะดีใจ ดาวนิลดันรู้สึกขมปร่าและอึดอัดเมื่อเห็นสายตารู้ทันคู่นั้นของพี่สาว
"ใช่ พี่กลับมาแล้ว ต่อไปนี้พี่จะชดใช้ให้คุณติณเอง ขอโทษนะที่ให้ดาวต้องทำหน้าที่แทนพี่" ปากอวบอิ่มสีแดงสดคลี่ยิ้มกระจ่างตา เดือนพราวเป็นผู้หญิงที่เซ็กซี่โดยไม่ต้องพยายาม เอาแค่ยิ้มน้อย ๆ แบบนี้ ก็ยังทำให้คนมองใจสั่น มีผู้หญิงไม่มากที่ทาลิปสติกสีแดงสดแล้วยังดูแพง น่าอิจฉาที่เดือนพราวเป็นคนส่วนน้อยกลุ่มนั้น
"หมายความว่าไงคะ"
"ตายแล้วเด็กโง่ ก็หมายความว่าพี่จะมาทำงานให้คุณติณนะซิจ๊ะ" เดือนพราวหัวเราะอย่างมีจริต แตกต่างจากคนเป็นน้องที่หน้าขาวซีด ไม่ทันได้ตั้งตัวกับเหตุการณ์ตรงหน้า
"พี่เดือนจะมาทำงานให้คุณติณ งานอะไรคะ" ดาวนิลจับต้นชนปลายไม่ถูก อยู่ ๆ พี่สาวที่ก่อเรื่องจนทำให้เธอตกกระไดพลอยโจนกลายเป็นลูกหนี้ของติณก็กลับมา ไม่มีใครบอกเธอให้รู้เรื่องราวสักนิด แถมผู้ชายที่โกรธแค้นครอบครัวเธอมาตลอดสี่ปีกลับอ้าแขนต้อนรับพี่สาวเธอเข้ามาทำงานด้วยง่าย ๆ ไม่ให้สับสนก็คงแปลกประหลาด
"พี่จะมาเป็นเลขาส่วนตัวของคุณติณ" เดือนพราวไขข้อข้องใจให้น้องสาว
"เดือนเอากระเป๋าเสื้อผ้าเก็บในห้องก่อนเถอะ จะได้พักผ่อน" ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโซฟา ตรงไปคว้าต้นแขนนุ่มที่โผล่พ้นเสื้อนักศึกษา "จะไปเรียนใช่ไหม ออกไปพร้อมกัน"
"ดาวไปเองได้"
ติณเห็นท่าทางดื้อรั้นของหญิงสาวก็ไม่โต้เถียงต่อ เขาบีบต้นแขนหนักมือขึ้นเป็นการเตือน ดาวนิลกัดริมฝีปากแน่น เจ็บแต่ก็ไม่ได้ร้องออกมา สุดท้ายชายหนุ่มก็คลายแรงบีบลง แต่ก็ยังลากหญิงสาวออกจากบ้านมาขึ้นรถของตนเองได้สำเร็จ
จากตัวแทนสู่ที่หนึ่งในหัวใจท้องฟ้าภายนอกยังเป็นสีดำอยู่ทั้งที่เป็นเวลาใกล้รุ่งสางแล้ว ติณหยิบรีโมทแอร์มาปรับอุณหภูมิให้สูงขึ้นเล็กน้อยเพราะหญิงสาวซุกตัวลงกับอกของเขาอย่างหาความอบอุ่นติณกระชับร่างภรรยาให้แนบชิด สูดกลิ่นหอมอ่อนหวานอันคุ้นเคยที่ทำให้เขาหลงใหลมิรู้คลาย ผ่านมาจนถึงวันนี้ที่ดาวนิลมีตาหนูตะวันและอีกไม่นานก็จะคลอดลูกสาวให้เขาอีกหนึ่งคน ผู้หญิงคนนี้เป็นความมหัศจรรย์ในชีวิตของเขา ติณย้อนกลับไปนึกถึงวันแรกที่เขาพบดาวนิล ทุกสิ่งทุกอย่างกระจ่างชัดราวกับเพิ่งเกิดขึ้นเมื่อวาน…“อายุเท่าไร”คำพูดแรกที่ติณพูดกับเด็กสาวที่ถูกพามาให้เขาถึงที่ พอเดือนพราวเชิดเงินหนีไปออสเตรเลีย ทิ้งงานแต่งงานเรียบ ๆ ที่เขาตั้งใจเตรียมไว้ให้เธออย่างไม่ไยดี เดิมที ‘รักร้อย’ มารดาของเดือนพราวและดาวนิลก็ตั้งใจจะทำเป็นไม่รู้ไม่ชี้ แต่พอเจอกับความโกรธและอิทธิพลของติณ รักร้อยก็แก้ปัญหาง่าย ๆ ด้วยการโยนลูกสาวคนเล็กที่เขาไม่เคยเจอมาก่อนให้ถึงเตียง“สิบแปดค่ะ”ชายหนุ่มขมวดคิ้ว นึกขัดใจท่าทางตื่น ๆ และน้ำเสียงที่เบาจนจับใจความไม่ได้ เขาต้องถามซ้ำอีกครั้งจึงจะได้ยินว่าเด็กสาวตรงหน้าอายุสิบแปดปีแล้ว โตพอที่เขาจะไม่
ดาวนิลเป็นคนท้องที่สวยมาก ทั้งที่ปกติมักจะมีคนบอกว่าถ้าแม่ผิวพรรณเปล่งปลั่งจะได้ลูกสาว แต่จากการตรวจหมอยืนยันว่าเธอตั้งท้องลูกชาย ติณเห่อหนักถึงขนาดเตรียมหาชื่อมงคลออกมาเป็นหางว่าว ของเล่นต่างก็ขนซื้อจนเต็มห้องเด็กที่จัดไว้รอลูกชายคนนี้ หนักเข้าดาวนิลต้องดุให้เขาเพลา ๆ ลงบ้าง ไม่อย่างนั้นบ้านจะกลายเป็นโชว์รูมของเล่นเอาส่วนคุณย่าต้องตากับคุณป้าตุลยาก็ปรึกษาซินแสประจำตระกูลเรื่องฤกษ์ยาม ตอนแรกติณเหมือนจะไม่สนใจ ลูกชายเขามาเกิดวันไหน เวลาไหน นั่นคือฤกษ์ซูเปอร์มงคล แต่พอถูกผู้เป็นย่าและป้าชักจูงโน้มน้าวบ่อย ๆ รวมถึงหัวใจคนเป็นพ่อที่อยากจะเลือกสิ่งที่ดีที่สุดเพื่อลูกโดยไม่มีข้อแม้ คนมั่นใจในตนเองอย่างติณก็เขวไปเหมือนกัน ถึงขนาดระดมหาซินแสชื่อดังมาช่วยดูเวลาคลอดให้ดาวนิลได้แต่ส่ายหัวให้กับหลาย ๆ อย่างที่เธอไม่คาดคิดว่าจะได้เห็นจากชายหนุ่มที่แสนจองหองและดื้อรั้น เชื่อแค่ตนเองแบบติณ ถือว่าลูกชายคนนี้ช่วยให้เธอได้เปิดหูเปิดตาจนเห็นอีกด้านของบ้านตระการเกียรติเช่นกัน“ดาวมาดื่มนมหน่อยครับ” ชายหนุ่มเตรียมนมอุ่น ๆ มาให้ภรรยาดื่มก่อนนอนทุกคืน ตั้งแต่อ่านข้อมูลว่าคนท้องจะถูกดึงแคลเซียมไปให้กับลูกเ
เสียงอาเจียนที่ดังขึ้นแทบทุกเช้าเป็นเวลาเกือบเดือนแล้ว ชายหนุ่มร่างสูงที่เคยดูกร้าวแกร่งไปทั้งตัวตามลักษณะของชายวัยฉกรรจ์ที่ดูแลตนเองอย่างดีมาตลอดกลับมีสภาพคอพับคออ่อน นั่งแปะลงไปบนพื้นห้องน้ำ กอดโถชักโครกไว้แน่นเหมือนเป็นของสำคัญดาวนิลตามเข้ามาในห้องน้ำ ค่อย ๆ ลูบแผ่นหลังเปลือยเปล่าของติณจากบนลงล่าง หวังว่ามันจะช่วยบรรเทาอาการอาเจียนอย่างเอาเป็นเอาตายของสามีลงได้บ้าง จากที่ในช่วงแรกตัวเธอเองก็ขำและแอบสมน้ำหน้าที่ชายหนุ่มมีอาการแพ้ท้องแทนเมียแบบที่คนอื่น ๆ บอก ตอนนั้นยังนึกไปว่าติณคงเห่อและตื่นเต้น สักพักอาการแพ้ท้องเหล่านี้ก็คงหายไป ที่ไหนได้ ผ่านมาเป็นเดือนแล้วติณก็ยังไม่ดีขึ้น แถมดูจะยิ่งแย่ลงกว่าเดิมอีกต่างหาก ในขณะที่ตัวเธอเองกลับกินได้นอนหลับ อ้วนท้วนสมบูรณ์จนน่าแปลกใจ“บ้วนปากหน่อยนะคะ คุณติณ” หญิงสาวส่งแก้วน้ำให้ชายหนุ่มกลั้วคอ ใช้ผ้าเย็นที่มีกลิ่นหอมอ่อนเช็ดหน้าที่ซีดเหมือนไก่ต้มของเขา“ดาวจ๋า ผมเวียนหัว ทรมานจังเลยครับที่รัก” ติณย้ายมือจากการกอดโถชักโครกโผเข้ามาสวมกอดหญิงสาวตัวนุ่มนิ่มหอมกรุ่นแทน ซุกหน้ากับซอกคอของดาวนิล ถูไถไปมาเหมือนลูกแมวตัวโตจอมขี้อ้อน ตั้งแต่ภรรยาสาวตั
กลับมาที่วงเหล้าอันครื้นเครงอีกครั้ง คราวนี้สีหน้าสีตาของติณดูผ่อนคลายขึ้นมาก จนถึงขนาดที่ไม่ดุหรือหัวเสียยามที่ปู่เชยรินเหล้าน้ำผึ้งให้หญิงสาวอีกจอกซึ่ง ๆ หน้า“ให้อีกแก้วเดียวนะ จะพากลับไปนอนแล้ว” หญิงสาวหน้าแดง ตาฉ่ำชวนให้มันเขี้ยว ติณมาทรุดนั่งลงข้างตัวคนขี้เมา ไหล่เกยไหล่จนคนอื่นอมยิ้มไปตาม ๆ กันตั้งแต่ติณมาอยู่ที่เกาะหยกคราม เขาสงบจนเงียบขรึม คนงานต่างสัมผัสถึงความเศร้าโศกจนดูอ้างว้าง กระทั้งวันนี้ทุกคนได้เห็นหญิงสาวที่นายน้อยเคยพามาด้วยกันครั้งก่อน ต่างมีความหวังว่าสาวน้อยคนนี้จะทำให้ติณยิ้มออก แม้ว่าตั้งแต่เย็นจนค่ำ เขาจะหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จา“งั้นกลับดีกว่าค่ะ ดาวมึน ๆ แล้วเหมือนกัน” หญิงสาวดื่มไปแค่สองจอกเล็ก ๆ เพราะเธออยากคุยกับเขาให้รู้เรื่องเสียที เห็นหน้าจ๋อยคอตก ดาวนิลเองก็สงสาร“แต่ผมยังอยากดื่มต่ออยู่เลย ติดใจเหล้าน้ำผึ้ง” พินันท์บอกเบา ๆ“มึงอยู่ต่อแล้วกัน เดี๋ยวกูไปส่งดาวนิลแล้วค่อยกลับมา”“เหรอ อ่า ๆ” พินันท์เลิกคิ้ว เหมือนไม่อยากเชื่อ ดูตาแล้วพี่ชายคงไม่มีทางทิ้งเนื้อสาวมานั่งให้ยุงกัด ข้ออ้างที่เอ่ยปากก็เห็นไปถึงลิ้นไก่ ยิ่งมองตามหลังพี่ชายที่โอบเอวบางประคองไป
ติณนั่งมองปู่เชยที่หัวเราะกับดาวนิลและพินันท์โดยไม่ใส่ใจหรือเหลือบแลนายน้อยคนโปรดอย่างเขา อาหารทะเลหลายอย่างที่วางอยู่เริ่มพร่องไปบ้าง แต่ครู่เดียวก็ถูกยกมาเติมราวกับไม่มีวันหมดดาวนิลเหลือบมองชายหนุ่มที่นั่งหน้าบูดบึ้ง ไม่พูดไม่จา แต่ก็ยังยอมมาด้วยกัน หญิงสาวอยากจะหยิกแก้มคนที่ฟอร์มจัดแล้วทุบอีกสักหลายปึก รู้ว่าเขาแอบมองเธออยู่ตลอด พอเธอจับได้ เขาก็สะบัดหน้าหนีไปทางอื่นเหมือนสาวน้อยแสนงอนไม่มีผิด“ปู่เชยขา ดาวอยากดื่มเหล้าน้ำผึ้ง”“ไม่ได้” คราวนี้คนที่ไม่พูดกับใคร ขวางขึ้นทันที“ปู่ขาดาวจะดื่ม คุณพินันท์ก็อยากลองด้วย ใช่ไหมคะ” หญิงสาวหาพวก พอพินันท์พยักหน้า เหล้าน้ำผึ้งโหลใหญ่ก็ยกมาวางทันที“มาครับพี่ติณ มาดื่มด้วยกัน” พินันท์ยกเหล้าจอกแรกให้พี่ชาย แล้วส่งอีกจอกให้หญิงสาว พอกระดกของตนเองลงคอ เหล้าแรงก็ร้อนวาบ รสชาติแบบนี้ ดีกรีแรงไม่กี่จอกก็หัวทิ่มชัวร์“พอแล้วนะ จำครั้งที่แล้วไม่ได้เหรอว่าดื่มเหล้านี่แล้วเป็นยังไง” ติณยึดจอกเหล้าเล็ก ๆ ที่ว่างเปล่าของหญิงสาวไว้ เพราะเธอก็เพิ่งกระดกลงไปในทีเดียว“ก็เมาไงคะ” หญิงสาวลอยหน้าตอบ นัยน์ตาพราว มีหรือว่าเธอจะจำไม่ได้ ยิ่งเห็นหน้าคร้ามดูดซับส
กว่าจะข่มตาหลับลงได้ก็เกือบสว่าง กลิ่นหอมอ่อนๆ ของหญิงสาวปั่นป่วนจนเขาต้องควักบทสวดสารพัดขึ้นมาภาวนาอยู่ในใจ ดังนั้นตอนที่ดวงตาดำขลับงัวเงียลืมตาอีกครั้งก็สายโด่ง พลิกตัวมองที่นอนด้านข้าง เหลือแต่ความว่างเปล่า ดาวนิลคงลุกออกไปนานแล้วเพราะใช้มือลูบคลำ ไม่หลงเหลือไออุ่นจากร่างของเธออยู่ติณรีบผุดลุกขึ้นอาบน้ำแต่งตัว เมื่อคืนมัวแต่ตกตะลึงจนทำตัวไม่ถูก เช้านี้เขาต้องรีบหาคนงานผู้หญิงที่ไว้ใจได้มานอนเป็นเพื่อนหญิงสาว ก่อนที่เลือดกำเดาเขาจะไหลหมดตัว นี่มันเรื่องบ้าบออะไรกัน ไอ้พินันท์ส่งดาวนิลมาทำงานที่นี่ทำไม แขกเหรื่อเขาไม่ได้เปิดให้เข้ามาพัก มีแค่กลุ่มเพื่อนหรือวีไอพีที่ต้องการพักผ่อนซึ่งต้องให้เขาอนุญาตก่อน หรือไอ้พินันท์มันคิดว่าเขาเป็นพระโพธิสัตว์ที่ตัดกิเลส เลิกยุ่งเกี่ยวข้องแวะกับผู้หญิงที่อยู่ในหัวใจได้เด็ดขาดแล้วจริง ๆชายหนุ่มจัดการธุระส่วนตัวและตรงไปที่ตัวรีสอร์ตซึ่งอยู่ไม่ไกล มีพนักงานต้อนรับซึ่งก็เป็นลูกหลานคนงานในเกาะนั่นแหละที่ประจำการอยู่“ดาวนิลล่ะ”“คุณดาวทานอาหารเช้าอยู่ที่ห้องอาหารค่ะ คุณติณจะรับพร้อมกันเลยไหมคะ” ติณพยักหน้ารับ กินเสียพร้อมกัน พนักงานจะได้ไม่ลำบากและมัว







