Masukหลังจากแจ้นออกมาจากห้องพักปิยฉัตรก็เรียกรถของทางรีสอร์ตให้ไปส่งในตัวเมือง ระหว่างทางคุณหมอสาวนั่งพักสายตานิดหน่อย ก่อนจะลืมตาขึ้น แล้วทำหน้างงๆ เมื่อเห็นทัศนียภาพสองข้างทาง
“นี่ไม่ใช่ทางเข้าไปในเมืองนี่นา คุณจะพาฉันไปไหน!” เธอเอ่ยถามด้วยท่าทางตื่นๆ เพราะไม่รู้ว่าคนที่นั่งอยู่หลังพวงมาลัยรถเป็นคนดีหรือคนร้ายกันแน่
และที่สำคัญคือไม่รู้ว่าภายใต้การออกนอกเส้นทางเป็นแผนของสองพ่อลูกนั่นหรือเปล่า ว่าลูกชายแสบแล้ว ตาเฒ่านั่นยิ่งร้ายลึกเป็นทวีคูณ
“นายใหญ่เกรงว่านายหญิงจะหนีไม่พ้นมือนายหัว เลยให้ผมพานายหญิงไปหลบที่บ้านพักริมทะเลอีกหลังครับ” วาจาที่หลุดออกมาจากปากคนขับรถทำให้ปิยฉัตรอ้าปากค้าง
นั่นไง! เธอคิดผิดเสียที่ไหน หนึ่งในสองพ่อลูกนั่นมีเอี่ยวจริงๆ
“นายใหญ่กับนายหัวของคุณไม่ได้กำลังเล่นตลกกับฉันใช่ไหม”
“ไม่ครับ”
“แน่ใจนะ”
เธอหรี่ตามองคนที่กำลังบังคับพวงมาลัยให้รถเคลื่อนไปข้างหน้า ขณะเอ่ยถามเป็นเชิงย้ำ เพราะในถิ่นของสองพ่อลูกจอมวายร้ายนั่น บอกตรงๆ ว่าเธอไม่ไว้ใจใครหน้าไหนทั้งสิ้น
“แน่ใจครับ”
“แล้วบ้านพักริมทะเลที่ว่าอยู่ไกลจากรีสอร์ตมากไหม” คุณหมอสาวเริ่มซักไซ้ลงลึกไปถึงรายละเอียด เพราะยังไม่แน่ใจว่าสิ่งที่ได้ฟังจากปากอีกฝ่ายจะเป็นความจริง
“พอสมควรครับ นายหญิงจะนอนก็ได้นะครับ ถ้าถึงแล้วผมจะปลุกครับ”
วาจาที่ได้รับฟังมิอาจทำให้ปิยฉัตรคลายใจได้ หากทว่าคนที่ตั้งใจจะนั่งดูเหตุการณ์ไปจนถึงจุดหมายกลับอ้าปากหาวหวอดๆ ในไม่กี่นาทีถัดมา มิหนำซ้ำเธอยังรู้สึกครั่นเนื้อครั่นตัวเหมือนจะเป็นไข้เสียอย่างนั้น
“ถ้าฉันนอน คุณจะไม่พาฉันไปฆ่าหมกป่าใช่ไหม”
หลังจากทนความเพลียและความง่วงต่อไปไม่ไหวคนที่ตากำลังจะปิดอยู่รอมร่อก็เอ่ยเสียงเนือยๆ ขณะยกมือขึ้นกอดอก เมื่อรู้สึกว่าไอเย็นจากแอร์ในรถยนต์ทำให้เธอหนาวผิดปกติ
“ไม่แน่นอนครับ นายหญิงสบายใจได้ครับ”
“โอเค ถ้าถึงแล้วปลุกด้วยแล้วกัน”
ที่สุดปิยฉัตรก็ยอมจำนนต่อความง่วงงุน เสียงเนือยๆ ติดจะหาวเอ่ยคล้ายกำชับในท้ายประโยค แล้วหลับตาลงในวินาทีที่อีกฝ่ายขานรับ ส่วนในใจก็ได้แต่ภาวนาว่าเจ้าสัวทรงพลจะไม่หักหลังเธอ
ปิยฉัตรหลับด้วยความเพลียจัด จนกระทั่งถึงที่หมายคนขับรถถึงได้เอ่ยเรียกเบาๆ หญิงสาวก้าวขาลงจากรถอย่างงงๆ ครั้นจะเอ่ยถามอะไรอีกฝ่ายก็สตาร์ตเครื่องยนต์จากไปเสียแล้ว ไม่นานก็มีหญิงวัยกลางคนเดินมายกมือไหว้ด้วยท่าทางนอบน้อม และแนะนำตัวว่าเป็นแม่บ้าน ก่อนจะเชิญเธอเข้าบ้าน
ทันทีที่ก้าวขาเข้าไปในบ้านหรูติดริมทะเลปิยฉัตรก็ต้องสะดุ้งเฮือก เมื่อได้ยินเสียงสบถถ้อยคำหยาบคายของใครบางคน ครั้นเงี่ยหูฟังก็ชักจะรู้สึกว่าเสียงนั้นมันช่างคุ้นหูเสียเหลือเกิน
“ไอ้พวกเวร! ปล่อยกูนะโว้ย! พวกมึงมามัดกูไว้หาพ่อมึงเหรอ!”
“นายใหญ่สั่งครับ พวกผมขัดนายใหญ่ไม่ได้ ขอโทษจริงๆ ครับนายหัว”
ยุทธนาซึ่งอาวุโสสุดในบรรดาชายฉกรรจ์ทั้งสี่ที่เอาตัวจอมพลมาที่นี่เอ่ยเสียงสั่นๆ ขณะยกมือไหว้เจ้านายปลกๆ อย่างขอลุแก่โทษ ด้วยรู้ดีว่าอีกฝ่ายโหด ดิบ เถื่อน และบ้าเลือดมากแค่ไหน
“ถ้าหลุดไปได้ กูจะกระทืบพวกมึงให้ไส้แตกเรียงตัว” วาจาเอาเรื่องในท้ายประโยคทำให้ลูกน้องต่างหน้าซีดตัวสั่น แต่กระนั้นก็ยังไม่วายทำใจดีสู้เสือ
“งั้นนายหัวก็ดื่มน้ำก่อนนะครับจะได้ใจเย็นๆ”
แทนที่จะปล่อยเจ้านายหนุ่มซึ่งกำลังคลุ้มคลั่งประหนึ่งพายุร้าย ยุทธนากลับเอาแก้วน้ำมาจ่อตรงปากบางเฉียบ แล้วก็ต้องสะดุ้งเฮือกสุดตัว เมื่อโดนคนที่ถูกมัดมือทั้งสองข้างติดกับเก้าอี้ มัดเท้าติดกัน ตวาดเข้าให้
“กูไม่ดื่มโว้ย!”
“งั้นพวกผมขออนุญาตนะครับ”
ขาดคำชายอีกสามคนที่เหลือก็ต่างกรูเข้ามาช่วยกันจับจอมพลไม่ให้ดิ้นรนฟึดฟัด แล้วกลอกน้ำในแก้วใส่ปากเจ้าพ่อมาเฟียที่กำลังอาละวาดด้วยความฉุนจัด
“ถ้ากูหลุดไปได้ พวกมึงเตรียมตัวตายได้เลย” น้ำเสียงขุ่นคลั่กถูกเค้นออกมาจากลำคอแกร่ง ขณะกวาดสายตาอำมหิตมองชายทั้งสี่อย่างเอาเรื่อง
“เมตตาพวกผมด้วยเถอะครับ พวกผมเลี่ยงคำสั่งของนายใหญ่ไม่ได้จริงๆ”
“เออ! กูจะเมตตาพวกมึงก็ได้”
“ขอบคุณครับนาย” สี่หนุ่มต่างพากันละล่ำละลักด้วยความยินดีว่าตัวเองจะรอดตายแล้ว แต่ไม่นานก็ต้องพากันอ้าปากค้างและเหงื่อตกเมื่อได้ยินประโยคถัดมา
“เดี๋ยวกูจองศาลาให้”
“โธ่…นายครับ”
ชายร่างยักษ์ต่างพากันโอดครวญ เพราะรู้ดีว่าเวลาคลุ้มคลั่งจอมพลไม่ต่างอะไรจากขีปนาวุธที่พร้อมจะทำลายล้างทุกอย่างให้ราบเป็นหน้ากลอง
“พวกมึงเอาน้ำอะไรให้กูกินวะ ทำไมมันร้อนอย่างนี้” หลังจากนั่งจ้องหน้าชายทั้งสี่ที่ยืนคุมเชิงด้วยสายตาอาฆาตอยู่พักใหญ่ จอมพลก็รู้สึกร้อนวูบวาบแปลกๆ ไปทั้งสรรพางค์กาย
“เอ่อ…” คราวนี้น้องเล็กสุดอย่างกำภูอ้าปากทำท่าอึกอัก
“มึงจะเอ่ออ่าหาพระแสงอะไรวะ กูถาม…ตอบ!” คนที่อยู่ๆ ก็เกิดลำคอแห้งผาก และร้อนรุ่มไปหมด ขึ้นเสียงกัมปนาทด้วยความหงุดหงิดงุ่นง่าน
“ยาปลุกเซ็กส์ครับ” ที่สุดคนที่โดนพี่ใหญ่อย่างยุทธนากระทุ้งสีข้างกดดันให้ตอบคำถามก็หลุดปากโพล่งออกมา ก่อนจะรีบก้มหน้าหลบตาด้วยความหวาดหวั่น
“ไอ้ฉิบหาย! มึงให้กูแดกยาปลุกเซ็กส์ทำเหี้ยอะไร! บ้านนี้ไม่มีผู้หญิงให้กูเอาเว้ย!” คนที่ถูกวางยาคำรามลั่น ใบหน้าหล่อแบบดิบๆ ถมึงทึง หนวดเคราที่ขึ้นอยู่เหนือริมฝีปากบางเฉียบถึงกับกระดิก
“นายใหญ่เตรียมไว้ให้นายหัวแล้วครับ บอกว่าถือเป็นของขวัญวันเกิดย้อนหลังครับ” ยุทธนาเอ่ยบอกเร็วๆ จนลิ้นแทบพันกัน ก่อนจะหลบตาวูบ
“ของขวัญระยำน่ะสิ! กูโตแล้ว! ไม่เอาของขวัญโว้ย!”
“นายใหญ่สั่งมาว่าต้องเอาสถานเดียวครับ เอาอย่างอ่อนโยน และห้ามใส่คอนดอมด้วยครับ”
ลูกน้องยังคงถ่ายทอดคำสั่งของเจ้าสัวทรงพลด้วยเสียงสั่นๆ แล้วก็ต้องพากันสะดุ้งเฮือก หน้าซีดเผือด เมื่อได้ยินเสียงสบถของเจ้านายหนุ่ม
“โดนยาปลุกเซ็กส์ แล้วจะให้กูเอาอย่างอ่อนโยนเนี่ยนะ นรกเถอะว่ะ!”
“นายใหญ่บอกว่านายหัวไม่กล้าทำรุนแรงกับคนที่นายใหญ่ส่งมาหรอกครับ”
“ฝากไปบอกตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์นั่นด้วย ว่ากูไม่เอา กูมีมือช่วยตัวเองได้” คนถูกวางยาเค้นเสียงห้าวเจือหอบหนักๆ ทำท่าฮึดฮัด ทั้งเดือดดาลและกระหายอยากฟัดผู้หญิงเต็มกำลัง
แต่ไม่หรอก! อะไรที่พ่อเขาอยากได้ ตาเฒ่าจอมบงการนั่นจะไม่สมหวัง
“นายใหญ่บอกว่าถ้านายหัวช่วยตัวเอง จะถือว่านายหัวป๊อดครับ”
ยุทธนาเอ่ยอย่างยิ้มๆ ก่อนที่ชายทั้งสี่จะแตกฮือคนละทิศคนละทาง จากนั้นก็พากันกระโดดหนีไปทางหน้าต่างของบ้านชั้นเดียว เมื่อจอมพลออกแรงกระชากแขนทั้งสองข้างที่ถูกมัดติดกับพนักเก้าอี้จนหลุด แล้วแก้มัดที่ข้อเท้า พ่อคนเจ้าอารมณ์ตั้งใจว่าจะไล่ชำระความกับลูกน้องทั้งสี่ให้สาแก่ใจ หากว่าไม่รู้สึกเหมือนมีใครกำลังแอบมองตนอยู่
ทันใดนั้นเขาก็เปลี่ยนเป้าหมายจากหน้าต่าง สืบเท้าก้าวไปยังประตู ชั่วเสี้ยวนาทีคนที่หลบอยู่หลังประตูถึงกับผงะ เมื่อมองลอดช่องของประตูที่แง้มอยู่แล้วเห็นจอมพลกำลังยืนจังก้าอยู่
แย่แล้ว! เป็นไอ้เถื่อนจริงๆ ด้วย!
แล้วมันมาอยู่ที่นี่ได้ยังไง!
โอ๊ย! เธอโดนตาเฒ่าจอมเจ้าเล่ห์หลอกอีกแล้วเหรอเนี่ย โง่ดักดานอะไรอย่างนี้วะไอ้ปี่
ไม่ได้การแล้ว เธอต้องรีบหนีออกไปจากที่นี่ ก่อนที่ไอ้คนบ้านั่นจะทำอะไรอย่างที่ได้ส่งข้อความมาข่มขู่เธอไว้เมื่อชั่วโมงก่อน คนบ้าดีเดือดอย่างจอมพลทำได้ทุกอย่าง
และการทรมานเธอให้เหมือนตายทั้งเป็นก็เป็นชัยชนะอันแสนหอมหวานสำหรับเขา
ร่างระหงของคุณแม่ยังสาวแถมยังห้าวเป้งเกินหญิงก้าวมาหยุดลงตรงหน้าคนที่กำลังกอดอกหลับตานิ่งๆ อยู่ตรงม้านั่งยาวในสวนสวยข้างลานลอดรถ คลี่ยิ้มบางๆ แล้วไล้แก้มสากอย่างอ่อนโยน หลุดหัวเราะคิกเมื่อคนที่เผลอหลับชักได้สติครางงึมงำในลำคอคล้ายขัดใจ ครั้นเธอจะละมือห่างเขากลับคว้าเอาไว้ แล้วจูบหนักๆ ลงบนหลังมือนุ่ม แต่แค่นั้นดูเหมือนยังไม่สาแก่ใจ เพราะพ่อเจ้าประคุณทำให้เธอหลุดอุทานหน้าตื่นด้วยการฉุดร่างอ้อนแอ้นลงไปนั่งแหมะบนตักแกร่ง แล้วร้อยรัดเอวคอดกิ่วด้วยวงแขนอุ่นอย่างไม่กริ่งเกรงว่าใครจะมาเห็น ฟอด!!!“คิดถึงจังเลยทูนหัว”หลังจากกดจมูกลงหอมแก้มนวลปลั่งของเมียรักฟอดใหญ่ ชายที่ใครต่อใครต่างขนานนามว่าผู้ทรงอิทธิพลแห่งน่านน้ำอันดามันก็เอ่ยอย่างอ้อนๆ“ปี่ก็คิดถึงคุณค่ะ แต่ปล่อยก่อนได้ไหมคะ เดี๋ยวใครมาเห็นเข้า อายเขาตายเลย”เจ้าของใบหน้าร้อนจี๋ที่ไม่ได้พบหน้าสามีมาสามวันเต็มๆ เพราะเขาบินไปทำธุระด่วนที่ฮ่องกง กระซิบบอกเสียงหวาน แล้วละล่ำละลัก พลางขืนกายออกจากวงแขนล่ำด้วยท่าทีขัดเขิน “ฮื่อ…เห็นก็ช่างเขาสิจ๊ะ ก็ผมคิดถึงคุณนี่นา ลงจากเครื่องได้ก็ให้ไอ้ยุทธมาส่งหาคุณเลยนะ” นอกจากจะไม่ทำตามที่เธอต้องการ ค
ห้าปีผ่านไปชีวิตคู่ของจอมพลกับปิยฉัตรยังคงหวานชื่นไม่สร่างซา ถึงแม้เวลาจะล่วงเลยมาถึงห้าปี เขาไม่เคยรักเธอน้อยลง เช่นเดียวกับเธอที่ไม่เคยรักเขาน้อยลงเช่นกัน ความรักของทั้งคู่ยังคงหวานฉ่ำอย่างไม่น่าเชื่อ แถมใครที่มีโอกาสได้เห็นสองสามีภรรยาแสดงความรักต่อกันก็ต่างอ้าปากค้าง เพราะคิดไม่ถึงว่าผู้ชายบุคลิกดิบเถื่อน เย็นชา ดุดัน และแข็งกระด้าง จะปากหวานและช่างเอาอกเอาใจเมียรักได้มากมายจนชวนทึ่ง เช่นเดียวกับปิยฉัตรที่ทำให้หลายคนซึ่งมีโอกาสได้เห็นบทบาทในฐานะเมียของจอมพล ไม่อยากจะเชื่อว่าผู้หญิงห้าวๆ ลุยๆ บุคลิกค่อนไปทางผู้ชายจะอ่อนหวาน และช่างเอาอกเอาใจสามีได้อย่างน่าอัศจรรย์ ที่สำคัญคือจอมพลรักและหลงเมียมากจนเป็นที่กล่าวขาน แต่ที่นอกเหนือไปกว่านั้นคือเขาหวงเธอเอามากๆ หวงแม้กระทั่งกับลูกชายและลูกสาวของตัวเอง “แม่จ๋า หนูปิ่นอยากนอนกับแม่” เด็กหญิงปีย์วรา อาศิระ หรือหนูปิ่น หนูน้อยวัยสี่ขวบเอ่ยออดอ้อน พลางซบหน้าที่ถอดพิมพ์มาจากผู้เป็นพ่อเด๊ะแต่ตาสวยเหมือนแม่ลงตรงอกอุ่น น้ำคำออเซาะของลูกสาวสุดสวาททำให้คนเป็นพ่อที่นั่งเหยียดขาพิงหลังกับหมอนชะงักมือที่กำลังเลื่อนอ่านงานผ่านห
จากนั้นยุทธนาก็เดินมาบอกบ่าวสาวว่าถึงเวลาเข้าหอแล้ว ซึ่งนั่นก็ทำให้ทั้งคณะฮาครืนอีกรอบเพราะคำแซวต่างๆ นานา ก่อนที่คู่บ่าวสาวจะไปยังห้องสวีทของโรงแรมหรูริมแม่น้ำเจ้าพระยา “ขอบใจหนูปี่มากนะที่ยอมอดทนกับลูกชายนิสัยเสียของป๊า ยอมให้อภัยไอ้คนใจหมาอย่างมัน และยอมกลับมาใช้ชีวิตร่วมกันกับมัน ป๊าดีใจนะที่หนูยอมกลับมาเป็นครอบครัวเดียวกัน ยินดีต้อนรับสู่อาศิระอย่างเป็นทางการนะลูก”เจ้าสัวทรงพลเอ่ยเสียงติดจะสั่นเครือด้วยความตื้นตัน เพราะท่านเฝ้ารอที่จะได้เห็นทั้งคู่ครองรักและแต่งงานกันแบบนี้มานานแล้ว จากนั้นคนแก่ก็เดินเข้าไปสวมกอดลูกสะใภ้ “ทีนี้ก็เรียกป๊าว่าป๊าได้แล้วนะ”“ขอบคุณมากค่ะป๊า”ปิยฉัตรพนมมือไหว้อย่างอ่อนช้อยในจังหวะที่อีกฝ่ายคลายอ้อมแขน แล้วถอยห่างออกไป นัยน์ตากลมโตทั้งสองข้างคลอเคล้าไปด้วยหยาดน้ำใสๆ เพราะซาบซึ้งใจเหลือคณา “ส่วนแกก็ทำตัวให้มันดีๆ ด้วยล่ะไอ้ตัวแสบ อย่าเกเรจนเมียทิ้งอีกเป็นอันขาดเข้าใจไหม ป๊ารักแกนะโว้ย”ขาดคำผู้เป็นพ่อก็ขยับเข้าไปสวมกอดลูกชาย ตบหลังอีกฝ่ายเบาๆ ในจังหวะที่เขาเอ่ยขอบคุณด้วยความซาบซึ้ง “ขอบคุณครับป๊า ผมก็รักป๊าเช่นกันครับ” จากนั้นก็เป็นน้องกั
ต่อจากนั้นไม่ถึงหนึ่งเดือน งานแต่งของทั้งคู่ก็ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่อลังการ ทั้งที่ปิยฉัตรค้านหัวชนฝาแต่สามีจอมเอาแต่ใจกลับไม่ยอมท่าเดียว ดังนั้นเธอจึงแก้เผ็ดโดยการเป็นฝ่ายเลือกชุดบ่าวสาวเอง และบังคับว่าเขาจะต้องใส่ชุดที่เธอเลือกให้โดยไม่มีข้อแม้ และนั่นก็คือที่มาที่ทำให้งานแต่งของทั้งคู่เป็นที่กล่าวขานไปทั้งประเทศ อีกทั้งคนมางานก็ต่างฮาครืน ระเบิดเสียงหัวเราะ หรือถ้าเป็นผู้รากมากดีหน่อยก็จะกลั้นขำจนหน้าดำหน้าแดง ก็จะไม่ให้งานแต่งของทั้งคู่เป็นประเด็นทอร์คออฟเดอะทาวน์ได้ยังไง ในเมื่อชุดเจ้าสาวแต่เจ้าสาวไม่ได้ใส่ เช่นเดียวกับชุดเจ้าบ่าวแต่เจ้าบ่าวไม่ได้ใส่ นั่นก็เพราะปิยฉัตรบังคับให้ทั้งคู่สลับชุดกัน ซึ่งในคราแรกนั้นจอมพลออกอาการโวยลั่น แต่พอเจอเธอขึงตา และแหวใส่ว่าจะไม่แต่งเท่านั้นแหละ พ่อเจ้าประคุณก็ว่าง่ายขึ้นมาทันทีประหนึ่งโดนสะกดจิต จับให้แต่งหญิงทั้งหน้า วิกผม และสวมชุดเจ้าสาวหรูหราฟูฟ่องก็ไม่ปริปากบ่น น่ารักเสียจนเธอต้องหอมแก้มให้รางวัลคนทำหน้าเหยเกเพราะสุขล้นนั้นหลายต่อหลายครั้ง ส่วนเธอน่ะเหรอโคตรสบาย ได้สวมชุดเจ้าบ่าวเป็นทักซิโด้สีขาวถือว่าเข้าทางถนัด แต่พุงที่ยื่นออกมา
“แต่คุณก็ส่งข้อความมาได้นี่นา” “การส่งข้อความถึงคุณมันยิ่งทำให้ผมคิดถึงคุณ อยากได้ยินเสียง อยากเห็นหน้า อาการคิดถึงเมียของผมมันไม่ต่างจากอาการลงแดงนักหรอกทูนหัว” ที่สุดจอมพลก็สารภาพออกมาในสภาพโหนกแก้มแดงก่ำ มันชวนมองจนคนที่เงยหน้าขึ้นมาเห็นยิ้มร่า ก่อนจะทำใจกล้ายื่นหน้าไปจูบแก้มสากเร็วๆ หนึ่งที และนั่นก็ทำเอาจอมพลถึงกับตาโต อ้าปากค้าง หัวใจพองฟูคับอก “ขอบคุณนะคะที่คิดถึงฉัน” เธอเอ่ยเสียงหวานหยดจนคนฟังใจสั่น ถ้าไม่ติดว่าอยู่ในโรงพยาบาลคงได้หาทางปล้ำคนท้องให้หนำใจ และถ้ารู้ว่าแค่เจ็บตัวนิดๆ หน่อยๆ แล้วจะได้ความน่ารักจากเมียขนาดนี้เขายอมเจ็บตัวทั้งปี“ก็เมียทั้งคนนี่ครับ” น้ำคำสั้นๆ ง่ายๆ แต่ความหมายโคตรดี๊ดีทำเอาคนฟังอุ่นซ่านไปทั้งใจ ปิยฉัตรยิ้มจนแก้มปริ ดวงตายิบหยี ก่อนจะฉุกคิดบางอย่างขึ้นได้ แต่นิ่งไปสักพักถึงได้เอ่ยออกมา“จะเป็นคุณพ่อลูกสองแล้ว ต้องรู้จักปล่อยวางรู้ไหมคะ อะไรที่มันผ่านไปแล้วก็ขอให้มันเป็นเพียงอดีต โดยเฉพาะเรื่องของแม่คุณ และเรื่องของอรอุมา ต่อให้ผู้หญิงทั้งโลกจะเลว แต่ขอให้คุณมั่นใจได้ว่าไม่ใช่ปี่ ปี่ไม่มีวันหักหลังหรือทรยศคุณ เหมือนอย่างที่แม่ของคุณแล
เขาบอกจะไปแค่เกือบหนึ่งเดือน แต่นี่เลยหนึ่งเดือนมาเป็นอาทิตย์แล้วพ่อของอีหนูในท้องก็ยังไม่โผล่มาให้เห็น ทำเอาว่าที่คุณแม่ซึ่งจะคลอดในอีกไม่กี่เดือนข้างหน้ากระวนกระวายใจอย่างบอกไม่ถูก เธอหมั่นเช็กข้อความมือถือที่พ่อของลูกมักจะส่งมาสัพยอกหยอกเย้าเป็นประจำ แต่กลับไม่มีแม้แต่ข้อความเดียวในรอบอาทิตย์ ที่แย่ไปกว่านั้นคือเขาไม่โทรมาหา พอเธอตัดสินใจเป็นฝ่ายติดต่อไปก็ปรากฏว่าติดต่อไม่ได้ ความกังวลและเป็นห่วงจอมพลสารพัดทำให้ปิยฉัตรไม่มีกะจิตกะใจจะทำอะไร ทานข้าวก็ไม่ค่อยลง นอนก็ไม่หลับ ทั้งที่ตั้งแต่ท้องมาเธอคลั่งไคล้การกินและการนอนหนักเอามากๆ และสภาพเสื่อมโทรมคงไปเตะตาของเพื่อนรักอย่างธารธาราเข้า อีกฝ่ายถึงได้ทิ้งสามีมาชวนเธอไปหาอะไรอร่อยๆ ยัดลงท้องในช่วงหัวคำของสุดสัปดาห์ “ไปกันยังคะคุณแม่” ธารธาราเอ่ยเย้าเล็กๆ ครั้นเห็นเธอพยักหน้าเนือยๆ ก็ตั้งท่าจะไปช่วยถือของที่วางอยู่ข้างกายให้ ทว่ายังไม่ทันจะได้ไปไหนโทรทัศน์ซึ่งแขวนอยู่เหนือศีรษะก็มีการรายงานข่าวด่วนที่ทำให้ทั้งคู่นิ่งจังงัง ‘เครื่องบินของสายการบินดังของอเมริกาไถลออกนอกรันเวย์ ขณะกัปตันกำลังนำเครื่องลงจอดที่สนามบินสุวรรณภูมิ ทำให้ผ







