นิชาดาถูกบังคับจูบอีกครั้ง แม้จะบอกว่าไม่ฝืนใจ แต่ธีรดนย์ก็จูบเธออย่างถือสิทธิ์ที่จ่ายเงินค่าตัวของเธอแล้วเช่นเดิม หญิงสาวจำต้องเปิดปากรับด้วยปลายนิ้วแกร่งออกแรงกดข้างแก้ม ลิ้นร้อนรุกเร้าเกี่ยวกระหวัดอย่างเร่งรีบทำเอาหายใจหายคอไม่ทันต้องร้องประท้วงอึกอัก แต่ชายหนุ่มก็เพียงเปลี่ยนเป็นจูบซับกลีบปากทั้งบนล่างแทน
มือหนาที่ค่อยเคลื่อนเข้ามาด้านในเคล้าคลึงกระชับอกอวบล้นสลับไปมาสองข้าง สะกิดวนเวียนปลายยอดที่เบ่งบานรับแรงเร้าอย่างพอใจ ขณะที่อีกมือลูบต่ำลงเรื่อยๆ
นิชาดามัวยุ่งกับการห้ามมือที่วุ่นวายกับหน้าอกตน พร้อมอาการวูบวาบที่รุมเร้าทั่วทั้งกาย รู้ตัวอีกครั้งความอุ่นของมือหนาก็ครอบครองเหนือสัดส่วนบอบบาง
“อ๊ะ หยะ...อย่า”
มือหนากุมเคล้นย้ำอย่างไม่ยอมห่าง ตั้งใจปลุกปั่นร่างกายที่ยังแข็งขืนให้โอนอ่อน แม้จะรู้ว่าใจหญิงสาวยังไม่ยินยอม ทว่าเขาจะทำให้ร่างกายอีกฝ่ายตอบสนองและเสร็จสมจนเธอไม่อาจปฏิเสธความรู้สึกตัวเองให้จงได้ ธีรดนย์มั่นใจในฝีมือของตัวเอง แม้จะเป็นการรวบรัดอยู่สักหน่อย ทว่าสุดท้ายแล้วสาวเจ้าจะต้องชื่นชอบการปรนเปรอของตนอย่างแน่นอน
ปลายนิ้วแกร่งบดคลึงส่งผลให้ร่างทั้งร่างของเธออ่อนปวกเปียก อารมณ์ที่ไม่ค่อยมั่นคงนักแตกกระเจิง นิชาดาครางแผ่วอย่างห้ามเสียงตัวเองไม่อยู่ แล้วก็ได้ยินเสียงกระซิบชิดใบหู
“เป็นไง ถูกใจหรือเปล่า อยากให้ต่อแล้วใช่ใหม”
จบคำถามเข้าข้างตัวเองขั้นสุด ริมฝีปากได้รูปก็งับที่ใบหูแล้วไล้ด้วยปลายลิ้น และหญิงสาวก็ส่งเสียงในลำคอดังขึ้นกว่าเดิมราวกับชายหนุ่มเพิ่งปลุกบางอย่างในกายเธอให้ลุกโชน รับรู้ถึงรอยชื้นไล้ไปมาจนเลื่อนมายังซอกคอเธอ อาการหวิวซ่านแผ่ไปทั่วทรวงจนถึงช่องท้อง
เธอไม่ต้องการให้อีกฝ่ายแตะต้องตน แต่กลับมือไม้อ่อน ร่างกายราวควบคุมไม่ได้อีกแล้ว อยากผลักอกกว้างทว่าเหมือนหามือตนเองไม่เจอทั้งที่วางเกาะบ่าหนา
“ไม่”
เสียงหวานพึมพำแผ่วเบาอย่างพยายามบอกความคิดของตน
“มือชั้นนี้แล้ว เธอฟินทั้งคืนแน่นอน”
“อี๋...เลิกพูดบ้าๆ ได้ไหม”
“อยากให้ทำแล้วสินะ”
“คนบ้า”
“หึๆๆ”
พร้อมหัวเราะในลำคอนิ้วแกร่งเคลื่อนผ่านซับในชิ้นบางล่วงล้ำอย่างไม่รีรอ โดยที่นิชาดาไม่ทันรู้ตัวก็ต้องร้องห้ามพลางสะดุ้งเฮือก
“ฉันเจ็บ”
ขาเรียวขยับอย่างต่อต้านและรู้สึกน่าอายจนเกร็งไปทั้งตัว
“ออกไป”
คิ้วเข้มขมวดกับความแน่นหนึบที่มากเกินไปหากเขาก็ยังไม่หยุดรุกปลายนิ้ว ทว่าอีกฝ่ายกลับยิ่งร้องดังขึ้นทำให้ธีรดนย์ชะงัก ในหัวขาวโพลนไปชั่วขณะ
‘น้องไอ้เมฆยังซิงหรือวะ’
จากที่กำลังหลงมัวเมากับผิวเนื้อนุ่มละมุนหอมกรุ่น ทั้งอกอวบน่าซุกไซ้ราวถูกกดสวิตช์หยุด เข้าใจทันใดว่าทำไมหญิงสาวจึงดูกลัวเกินกว่าเหตุ และยังฝืนต้านแม้ร่างกายจะอ่อนระทวย ชนิดที่หากเขารุกจริงจังเจ้าตัวไม่มีทางรอด ทว่าทำแบบนั้นเขาก็จะทำให้นิชาดามีบาดแผลใหญ่
ชายหนุ่มหยุดทุกสิ่งอย่าง แต่ร่างสูงใหญ่ยังค้ำอยู่เหนือคนตัวเล็กกว่า สบตากับดวงตาคู่กลมโตราวกวางน้อยตื่นภัยพลางครุ่นคิดเคร่งเครียด เขาไม่เคยให้ตัณหาครอบงำจิตใจจนถึงขั้นทำร้ายผู้หญิงมาก่อน กับนิชาดาถือว่าบังคับเธออย่างที่ไม่เคยทำกับใครนับแต่จูบแรกเพราะคิดว่าตนต้องได้ แต่ถึงขั้นปลุกปล้ำนั้นไม่เคยคิดแม้แต่น้อย
‘ฉันจะถูกข่มขืน’
คำนั้นของนิชาดาราวตีแสกหน้าเขา ธีรดนย์จึงพูดต่อหน้ายายของตนไปว่าเธอคือคนที่เขาจะแต่งงานด้วย แม้แปลกใจตัวเองที่แทบไม่เสียเวลาคิดด้วยซ้ำ ทั้งที่ไม่ได้ใส่ใจข้อเสนอของนภณต์นัก คิดแค่ว่ารับน้องอีกฝ่ายมาเป็นคู่นอนก็เพียงพอแล้ว
ในตอนแรกธีรดนย์เข้าใจว่าหญิงสาวน่าจะเคยผ่านอะไรมาบ้าง ไม่อย่างนั้นพี่ชายมีหรือจะเอ่ยปากขายน้องสาวให้เขา แต่ที่เจ้าตัวต่อต้านเพราะเขาเป็นคนห่าม ดิบเถื่อน หยาบคาย ไม่ได้ทำตัวดูดีสมฐานะเจ้าของไร่ และเชื่อว่าหากได้สัมผัสเล้าโลมแล้วหญิงสาวก็จะหันมาร่วมมือตามสัญชาตญาณ และติดใจเหมือนผู้หญิงทุกคน ต่อไปก็จะเป็นฝ่ายเรียกร้องจากเขาเอง
กระนั้นยิ่งปลุกเร้ามากเท่าไรก็ยิ่งประจักษ์ชัดว่าตนคิดผิด มาถึงขั้นก้ำเกินแล้วอย่างนี้ยิ่งรู้สึกราวเขากำลังก่อการร้ายอย่างมหันต์ ธีรดนย์ถอนหายใจยาว แนบหน้าลงไปใกล้ดวงหน้าสวยหวานอย่างหนักใจ
“รู้ใช่ไหม ว่าตอนนี้ฉันอาการหนัก”
เสียงเข้มต่ำกระซิบข้างหู ขณะนิชาดาที่นอนนิ่งขึงไม่กล้าขยับงุนงงกับการเปลี่ยนไปกะทันหันของชายหนุ่มเช่นกัน แล้วก็สะดุ้งนิดๆ เพราะเขาจูบแก้มเธอหนักๆ
“ฉันไม่ทำอะไรแล้ว...”
เธอเกือบจะโล่งอกไปแล้วหากไม่มีประโยคต่อมา
“แต่แค่ครั้งนี้นะ”
ร่างอรชรแข็งทื่อ ทั้งเรือนร่างหนาหนักยังบดเบียดลงมาแม้จะอยู่ด้านนอก พลางริมฝีปากได้รูปก็ไต่มากดจูบเหนือกลีบปากราวกับจะกลืนกินปากของเธอแทนนานครู่หนึ่งจึงถอนจูบ
“ยังไงเธอก็เป็นคนของฉัน เตรียมใจไว้ให้พร้อม”
บอกแล้วเขาก็ผละจากร่างน่าปรารถนาเลี่ยงเข้าห้องน้ำเพื่อสงบสติอารมณ์ตัวเอง แต่ไม่เอ่ยให้นิชาดาได้ใจว่าตนให้เวลาจนกว่าเธอจะพร้อม ในใจยังเชื่อมั่นว่าจะสามารถหาโอกาสใกล้ชิดจนอีกฝ่ายสมยอมได้ในอีกไม่นาน
นิชาดาพลิกตัวไปอีกด้าน ห่อร่างของตนด้วยผ้าห่มราวจะช่วยป้องกันได้หากชายหนุ่มเปลี่ยนใจ งอเข่ากอดตัวเองขณะรับรู้การเคลื่อนไหวยวบยาบเล็กน้อยก่อนจะได้ยินเสียงประตูกับน้ำทำให้รู้ว่าเขาคงเข้าห้องน้ำไปแล้ว
สิ่งที่เพิ่งผ่านไปทำให้เธอกลัวจนตัวสั่น รู้สึกเหมือนตัวเองหยุดหายใจไปชั่วอึดใจกับสัมผัสเอาแต่ใจนั้น ชายหนุ่มแตะต้องเธออย่างไม่ให้เกียรติเพราะเห็นว่าเป็นลูกหนี้ ทั้งที่บอกว่าให้เวลาก็ยังพยายามปลุกเร้า และมันก็ต้องเกิดขึ้นจริงๆ ในสักวัน หรือไม่ก็คงเร็วๆ นี้ ด้วยแววตาคมเข้มนั้นฉายชัดถึงความต้องการ เมื่อครู่เธอก็ถูกกดดันจากกายแกร่งอันแสนน่ากลัวจากร่างสูงใหญ่ที่จงใจบดเบียดให้รับรู้
เธอไม่อยากอยู่ในสถานการณ์ที่ต้องหวาดหวั่นตลอดเวลาเช่นนี้ ไม่อยากเป็นที่รองรับความต้องการของใครอย่างน่าอดสู เขานึกจะกอดจูบลูบไล้เมื่อไร อยากร่วมรักเมื่อไรก็ได้
เธอจะทำใจยอมรับสัมผัสจากคนแปลกหน้า สัมผัสที่ปราศจากหัวใจได้อย่างไร เป็นนางบำเรอปรนเปรอร่างกายตนให้เจ้าหนี้โดยปราศความรัก เธอต้องทนฝืนทำให้ได้ใช่ไหม
น้ำตาที่ซึมออกมาถูกกะพริบตาไล่ให้จางหายลงไป ไม่อยากให้ชายหนุ่มมาเห็นแล้วค่อนว่าเธอเล่นบทสาวน้อยไร้เดียงสาอีก และแม้อยากรีบใส่เสื้อผ้าแต่กลับอ่อนแรงจนไม่อยากขยับตัว นิชาดาจึงนอนนิ่งอยู่อย่างนั้นราวไร้ความรู้สึก กระทั่งได้ยินเสียงเข้มดังขึ้น
“ไปอาบน้ำซะ ฉันจะโทรไปสั่งให้คนเอาอาหารที่บ้านใหญ่มาส่ง”
======
หมอกยังรอดอยู่ อย่าเพิ่งเคืองกันน้า ขอเวลาหมอกอีกนิดนึงนะคะ ยังทำใจไม่ได้เพราะรู้สึกดีด้วย แถมนายดนย์ยังแปลกหน้า แล้วก็ดูน่ากลัวอีก ^-^"
ปลายนิ้วแกร่งไล้แผ่วผิวตรงข้างเอวสูงขึ้นมาวนเวียนปลายยอดอกแล้วขยำเบาๆ ทำเอานิชาดาสะดุ้งเฮือกลืมตาขึ้นกลางดึก พร้อมกับที่ริมฝีปากอุ่นพรมไต่จากต้นแขนมายังไหล่มน ซอกคอจนถึงใบหูก่อนกระซิบ“หมอกจ๋า รักกันนะจ๊ะ”“คุณดนย์ นี่บ้านใหญ่นะคะ ลูกก็อยู่ด้วย”เธองัวเงียห้ามเสียงเบาเพราะเกรงจะทำให้ลูกชายตื่นและตนเองก็พึ่งหลับไปไม่นานหลังจากป้อนนมหนูน้อยจึงยังเพลียอยู่ ทั้งนอนไม่ค่อยเต็มอิ่มนักอยู่แล้ว ยังดีที่เวลากลางวันมีคุณนายแสงหล้ากับเหมยช่วยดูลูกพอให้ได้งีบบ้าง“น่านะ รับรองเบ๊าเบา ลูกไม่ตื่นแน่”สามียังกระซิบเสียงทุ้มนุ่ม มือก็เคล้าคลึงทรวงอกที่อวบอัดขึ้นของตนทำเอานิชาดาอกใจสั่นไหวไม่น้อย จะว่าไปตนก็คิดถึงสัมผัสจากชายหนุ่มอยู่เหมือนกัน หากก็ยังกังวล“ได้ด้วยเหรอคะ”“เดี๋ยวทำให้ดู”พร้อมพูดชายหนุ่มก็เชยคางให้เธอหันกลับไปรับจูบนุ่มนวลก่อนจะค่อยเพิ่มแรงจูบเม้มและกัดกลีบปากอิ่มด้านล่างให้เธอเผยอรับลิ้นร้อน นิชาดาขยับตัวพลิกมาโอบรอบลำคอหนาตอบรับจูบลึกซึ้งอย่างไม่ยอมน้อยหน้าร่างสองสองขยับเสียดสีเบาๆ ในสัดส่วนที่แตกต่างหากสอดรับกันอย่างลงตัว ลูกชายตัวน้อยนั้นนอนในเปลสี่เหลี่ยมไม่ต้องเกรงว่าแรงเคลื่อ
“คุณดนย์คะ”กลางดึกคืนหนึ่งหลังจากมาพักโรงแรมได้สองวันนิชาดาก็รู้สึกปวดท้องแล้วเหมือนมีบางอย่างไหลออกมา หญิงสาวพึมพำเรียก ชายหนุ่ม เพียงแตะแขนอีกฝ่ายก็รู้สึกตัวแล้วขยับนั่งเปิดโคมไฟทันที“เจ็บท้องเหรอหมอก”“ค่ะ...น่าจะน้ำเดินแล้ว”เธอพูดจนแทบไม่มีเสียงเพราะเจ็บ“งั้นหมอกอยู่นิ่งๆ ก่อนนะ แป๊บเดียว”ร่างสูงใหญ่รีบลุกขึ้นใส่เสื้อโดยเร็วแล้วคว้ากระเป๋าที่เตรียมเอาไว้ก่อนมาประคองร่างที่อุ้ยอ้ายขึ้นของภรรยา“เดินพอไหวไหม”“ค่ะ”นิชาดายังพอไหวจึงกัดฟันค่อยๆ เดินไปพร้อมกับที่ชายหนุ่มพยุง ธีรดนย์ตั้งใจเลือกห้องพักใกล้ลิฟต์จึงไม่ต้องเดินไกลมากหญิงสาวนอนรอเพื่อให้ปากมดลูกเปิดและปวดท้องมากขึ้นเรื่อยๆ โดยมีสามีอยู่ข้างๆ เป็นทั้งคนปลอบใจให้กำลังใจและที่ระบายของตนเพราะบ่อยครั้งที่เธอมักจะจิกเล็บลงบนหลังมือหนาที่กุมมือตนไว้“อื้อ เจ็บจังค่ะ”ยิ่งเห็นดวงหน้าสวยซีดเผือด เหงื่อผุดพราย ทรมานด้วยความเจ็บปวดชายหนุ่มก็ทุรนทุรายตาม เพราะหญิงสาวนอนอยู่แบบนี้มาสามชั่วโมงแล้ว ก้มลงไปจูบหน้าผากมนเช็ดเหงื่อให้ก่อนจะกระซิบ“ฉันจะตามพยาบาลอีกรอบนะ”นิชาดาปล่อยให้ชายหนุ่มไปโดยไม่แย้ง เธอรู้สึกทนไม่ไหวแล้วจริงๆ ไม่น
ไร่ชาดิฐวัฒน์ได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยวที่ต้องการสัมผัสอากาศบริสุทธิ์แห่งขุนเขา นอนในบ้านท่ามกลางไร่ชาเขียวชอุ่ม มองเห็นเมฆลอยต่ำปกคลุมยอดเขา การเก็บชาก็ได้รับความนิยม มีคนจองคิวเต็มจำนวนในทุกวันนิชาดาที่ออกมาเก็บภาพบรรยากาศวันหยุดเพื่อโพสต์ในเว็บและโซเชียลต่างๆ ของไร่ยืนมองผู้คนที่มีความสุขกับการได้มาไร่นี้อย่างภูมิใจ ตอนนี้นอกจากเพจแล้วเธอเปิดแอคเคาต์โซเชียลของไร่เพิ่มขึ้นจนครบถ้วน เพราะโลกออนไลน์เป็นสิ่งที่ใช้ในการประชาสัมพันธ์ได้อย่างมีประสิทธิภาพที่สุดในยุคสมัยนี้“ชอบไหมเจ้า”ส้มที่เป็นคนถ่ายภาพให้เธอเปิดกล้องให้ดู ขณะที่นิชาดามากับมธุรินซึ่งยืนเป็นเพื่อนและคอยดูแลเธอที่ท้องแก่ใกล้คลอด ความจริงธีรดนย์ไม่อยากให้หญิงสาวมาทำงานแต่นิชาดาไม่อยากอยู่เฉยๆ การได้ขยับตัวเดินไปเดินมาจะช่วยให้เธอคลอดธรรมชาติได้ง่ายขึ้น หากก็ต้องดูว่าเด็กกลับหัวด้วยหรือไม่เหมือนกัน“อืม ชอบจ้ะ ไปเก็บภาพมุมโน้น ให้เห็นคาเฟ่กับร้านอาหารด้วยนะจ๊ะ”“เจ้า”“พี่ไปกับส้มเองก็ได้ หมอกเข้าไปนั่งพักในคาเฟ่ดีกว่า”มธุรินเอ่ยปากเพราะดูท่าเหมือนภรรยาเจ้าของไร่จะเดินไปอีกไกลกับส้ม“ถ้าอย่างนั้นฝากพี่รินด้วยนะคะ แล้ว
“พอใจหรือยังเมียจ๋า”“อะไรคะ”“ก็รู้แล้วว่าฉันไม่ได้พลาดพลั้งเสียท่าคุณภัทร ฉันเป็นของหมอกคนเดียวมาตั้งแต่จดทะเบียนแล้วไงล่ะ”พร้อมกับถามใบหน้าคมเข้มก็ขยับมาชิด หน้าผากจรดแนบหน้าผากเธอ ส่งสายตาออดอ้อนก่อนจะดันตัวเธอให้ค่อยๆ ถอยไปชิดเตียง แต่เขาทิ้งตัวเองลงหงายหลังแล้วรั้งเธอให้นอนลงไปบนร่างแกร่งนิชาดายิ้มหวาน ไม่ได้ฝืนตัวเพราะตัวเองก็ไม่ได้ขุ่นเคืองอะไร เพียงแค่สงสัยเพราะธีรดนย์ไม่ได้กลับบ้านดึกนัก ยกเว้นช่วงก่อนจัดงานแต่ง“พอใจค่ะ”เธอตอบเสียงเบาชายหนุ่มก็ยิ้มมุมปาก“ผัวเป็นคนดี ไม่วอกแวก รักเมียคนเดียว เมียไม่ให้รางวัลหน่อยเหรอจ๊ะ”คนใต้ร่างอ้อนเสียงทุ้ม แววในดวงตาคู่คมเข้มนั้นหวานฉ่ำจนนิชาดารู้สึกว่าหัวใจตนกำลังละลายไปกับความหวานที่ส่งมาให้“อืม”ปลายนิ้วเรียวไล้วนเหนืออกกว้างพลางทำท่าทีราวครุ่นคิด“อยากได้รางวัลเล็กหรือรางวัลใหญ่คะ”“ชุดใหญ่สิจ๊ะเมียจ๋า”นิชาดาไม่ตอบรับทว่ามือบางเปลี่ยนเป็นลูบแผงอกหนาของคนไม่ใส่เสื้อ แล้วเห็นชายหนุ่มสูดหายใจลึก ยิ่งมือเธอลากลงต่ำ อีกฝ่ายก็ถึงกับกลืนน้ำลายมือนุ่มไม่ได้ต่ำลงไปอย่างที่เขาคาดหวังหากไล้แผ่วเพียงตรงช่วงเอว แต่ชายหนุ่มก็พอใจเพราะร่างหอ
ร่างอรชรออกมายืนหน้าระเบียง มองพระจันทร์ดวงโตผ่านแมกไม้แล้วก็เอาโทรศัพท์ถ่ายก่อนจะอัปโซเชียล ก็มีคนทักและพิมพ์คอมเม้นต์ว่าคิดถึงหลายคน ปกตินิชาดาอัปเดตบ่อยทว่านับแต่มาอยู่ที่นี่ก็ห่างหายเพราะปัญหาต่างๆ ที่รบกวนจิตใจและทุ่มเทความตั้งใจกับงานใหม่ของตน ทั้งยังไม่ได้ตัดวิดีโอที่ถ่ายขณะเดินทางมาไร่ดิฐวัฒน์ด้วย ช่องของเธอพร้อมโซเชียลหยุดเคลื่อนไหวมาสามเดือนแล้ว มานึกขึ้นได้ในตอนนี้ คิดว่าน่าจะพอมีเวลาทำงานตัวเองในวันหยุดได้ เพราะตอนนี้งานในไร่ลงตัวและมีกำหนดปล่อยคลิป Vlog เดือนละครั้ง“จะว่าไป เราไม่เคยชมจันทร์ด้วยกันเลยนะ ออกมาก็น่าจะรอฉันก่อน”เสียงเข้มดังขึ้นและผ้าคลุมที่มาพร้อมการโอบกอดจากด้านหลัง ธีรดนย์คุยงานกับวัชพลนิชาดาก็แวบไปอาบน้ำก่อนแล้วจำได้ว่าเป็นคืนพระจันทร์เต็มดวงซึ่งตนเองยังไม่เคยได้มองดูอย่างจริงจังว่าจะสวยดวงโตแค่ไหน ทั้งยังมีเรื่องให้คิดอยากให้ธรรมชาติยามค่ำคืนช่วยบำบัดความตึงเครียด จึงออกมาหน้าระเบียงในตอนชายหนุ่มอาบน้ำธีรดนย์วางคางบนบ่าเธอ กรุ่นกลิ่นครีมอาบน้ำอบอวลพร้อมไออุ่นจากร่างสูงใหญ่โอบล้อมทำให้หญิงสาวเอนอิงอีกฝ่ายราวต้องการความอบอุ่น“ก็เพราะเอะอะคุณดนย์ก็อุ้มเ
“ฉันเปล่า....”ภัทรดาส่ายหน้าพลางถอยหลังเสียงสั่นมากขึ้น“กลัวทุกคนจะรู้ว่าคุณมาถึงไร่หลังฉันเกิดอุบัติเหตุใช่ไหมคะ”นิชาดาจะไม่ไล่บี้อีกฝ่ายเลยหากเจ้าตัวไม่บอกว่าเธอใส่ร้าย“เธอเกิดเรื่องเมื่อไรฉันก็ไม่รู้ ฉันแค่มาทำงาน ไม่รู้อะไรทั้งนั้น”“ไม่เป็นไร ดูกล้องก่อนแล้วค่อยว่ากัน เพราะผมจำเวลาที่หมอกเกิดเรื่องได้ ถ้าคุณไม่รู้อะไรจริงก็รอให้การณ์กับตำรวจ”“คุณดนย์”คนที่หน้าซีดอยู่แล้วยิ่งตาโต พึมพำพลางถอยหลังช้าๆ“ภัทรไม่ได้ทำนะคะคุณดนย์ ไม่ใช่ภัทรนะ เมียคุณใส่ร้ายภัทร”“ถ้าไม่ได้ทำคุณก็ไม่ต้องกลัวอะไร ไม่ต้องห่วงไปหรอก ตำรวจก็แค่สอบถามเท่านั้น”ยิ่งธีรดนย์เอ่ยถึงตำรวจซ้ำอีกภัทรดายิ่งหวาดกลัวมากขึ้น หญิงสาวรีบหันหลังจะกลับไปขึ้นรถ“ไม่ ภัทรไม่ผิด ภัทรไม่ได้ทำอะไร อย่ามายุ่งกับภัทร”ภัทรดาเหมือนสติหลุดขยับพรวดออกไปราวต้องการหนี ขณะนั้นมีรถคันหนึ่งขึ้นเนินมา ซึ่งก่อนหน้านี้แต่ละคนก็ไม่ทันได้สังเกตสิ่งอื่นเช่นกันเพราะรถของภัทรดาจอดบังทางที่จะเห็นได้ และต่างก็กำลังสนใจเรื่องราวที่เกิดขึ้น แต่พอเห็นรถทั้งหมดก็ตะโกนรั้ง“คุณภัทร!”“กรี๊ดดด!”เอี๊ยด!!เสียงรถเบรกดังขึ้นอีกครั้ง ทว่าภัทรดาก็ถูกเ