LOGIN7 โมงเช้าวันต่อมา
เช้านี้ประทานพรลงมาข้างล่างด้วยอารมณ์ขุ่นมัวจากเมื่อคืน เพราะร่องรอยที่นภพงศ์ทำเอาไว้ มันทำให้เธอไม่สามารถใส่บิกินี่ได้ ถึงเธอจะไม่ชอบแต่งตัวเท่าไหร่นัก แต่ไปทะเลทั้งที จะให้มาใส่เสื้อผ้าเหมือนเวลาปกติก็ใช่เรื่อง หญิงสาวกระแทกตัวนั่งลงบนโซฟาในห้องนั่งเล่นด้วยอารมณ์หงุดหงิด
“เป็นอะไรแก” ดาราภัสที่ตามหลังประทานพรมาเพียงเล็กน้อยถามขึ้น เมื่อเธอเห็นเพื่อนรักของเธออารมณ์ไม่ดีแต่เช้า
“อยากยิงคน” เสียงหวานตอบออกไปเรียบๆ แต่ใบหน้าหงิกงอ
“ห๊ะ…”
“เอาล่ะ รอทุกคนมาครบ เรามีเรื่องต้องคุยกันนะยัยเพลง” ลลัลนาออกมาจากห้องทานอาหารพร้อมกับนัทธี เดินมาทรุดตัวนั่งลงตรงข้ามประทานพร
“ไม่ค่ะ เพลงไม่คุย ไม่มีอะไรต้องคุยนี่คะ”
“งั้นเหรอ แต่สิ่งที่แม่เห็นกับตา แม่ว่ามันมีนะ”
“มีอะไรกันเหรอคะแม่ลัล” ดาราภัสมองลลัลนาสลับกับประทานพร ที่กำลังเถียงกันในหน้าเคร่งเครียด โดย ที่เธอไม่เข้าใจว่ามันเกิดอะไรขึ้น
เพียงไม่นาน ณดลกับฟางข้าวก็เดินออกมาจากห้องทานอาหารมานั่งลงข้างนัทธีกับลลัลนา รวมทั้งกันชนกกับนภพงศ์ก็เดินเข้ามาหย่อนตัวนั่งในห้องนั่งเล่น โดยที่นภพงศ์มานั่งลงข้างประทานพร ส่วนกันชนกนั่งข้างนภพงศ์อีกที
“ไปนั่งไกลๆเพลงหน่อยค่ะ เดี๋ยวเพลงโมโหจะยิงเอา”
“ยัยเพลง!!!”
ประทานพรหน้ามุ่ย เมื่อโดนมารดาส่งเสียงดุ นภพงศ์นั่งเงียบไม่พูดอะไร ปรายตามองคนตัวเล็กข้างๆอย่างพอใจ
“เอาล่ะ มาพร้อมแล้วนะ เพลงอธิบายกับแม่หน่อย ว่าสิ่งที่แม่เห็นมันหมายความว่ายังไง”
“จะให้เพลงอธิบายอะไรล่ะคะ ก็มันไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้นจริงๆนี่คะ”
“แม่เห็นกับตานะเพลง”
“ถามพี่ฟ้าเถอะค่ะ เพลงก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าพี่ฟ้าเป็นบ้าอะไร” สิ้นเสียงของประทานพร ทุกคนหันไปมองนภพงศ์เป็นตาเดียว
“ฟ้ามีอะไรจะบอกแม่ไหม” ลลัลนาถามพลางสบตากับนภพงศ์ด้วยสายตาแปลกๆ สายตาที่ประทานพรและดาราภัสไม่ทันได้สังเกต
“ผมไม่มีอะไรแก้ตัวครับ”
“พี่ฟ้า!!! มันไม่ตลกนะ ทำไมพูดแบบนี้ ในเมื่อมันไม่มีอะไรเกิดขึ้น”
เพราะประทานพรมัวโวยวายใส่คนตัวใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างๆ ทำให้เธอไม่ทันได้เห็นว่าบิดามารดาของเธอ กับบิดามารดาของนภพงศ์ แอบสบตากันพร้อมกับรอยยิ้มพอใจที่ผุดขึ้นเพียงเสี้ยววินาที ก่อนที่มันจะหายไป และใบหน้าเคร่งขรึมก็กลับมาตามเดิม
“เอาล่ะ เอาเป็นว่าเรื่องนี้ เดี๋ยวเราค่อยกลับมาคุยกันก็แล้วกันนะ” นัทธีตัดบทลงก่อนที่ลลัลนากับฟางข้าวจะแสดงพิรุธออกมา
“เดี๋ยวผมกับข้าวจะรีบจัดการให้เร็วที่สุดครับพี่นัท”
“อืม งั้นเราออกเดินทางกันเลยดีกว่า จะได้ไปถึงก่อนเที่ยง”
“ฟ้าขับรถไปเองใช่ไหม อย่าขับเร็วมากนะ ตากันย์ เราด้วย อย่าขับเร็ว”
“ครับๆ”
หลังจากพูดคุยกันเรียบร้อย ทุกคนทยอยเดินออกจากห้องเล่นเพื่อไปยังรถที่มาจอดรออยู่ นัทธี ลลัลนา ณดล และฟางข้าว ขึ้นรถของที่บ้านไป ประทานพรเองก็เดินตามหลังออกมาตั้งใจจะเดินไปที่รถของตัวเองคันอื่นที่จอดอยู่ที่บ้าน แต่ก็ปลิวตามแรงดึงของมือใหญ่ ที่ดึงแขนเธอให้เดินตามตัวเองไปที่รถ
ดาราภัสเดินออกมาทันเห็นการกระทำของพี่ชายก็เหวอ
“อ้าว แล้วพลอยล่ะ พลอยกับเพลงคุยกันว่าจะนั่งไปด้วยกันนะ”
“ไปกับพี่ก็ได้พลอย ไม่งั้นพลอยคงได้ขับรถไปเองคนเดียว” กันชนกที่เดินออกมาเป็นคนสุดท้าย ส่ายหน้ากับความเอาแต่ใจของเพื่อน ก่อนจะบอกคนตัวเล็กอย่างดาราภัสให้ไปกับเขา
“ค่ะ พี่กันย์รู้เรื่องที่พ่อกับแม่คุยกันไหม พลอยตามไม่ทัน เมื่อคืนเกิดอะไรขึ้นเหรอ”
“ไม่มีอะไรหรอก เรายังเด็ก ไม่รู้น่ะดีแล้ว”
“เด็กตรงไหน พลอยอายุ 21 ปีแล้วนะคะ พลอยอายุเท่าเพลงนะ”
“ก็นั่นแหละ เด็กอยู่ ไปๆ ไปขึ้นรถได้แล้ว เดี๋ยวตามคนอื่นไม่ทัน”
ดาราภัสเบะปากใส่กันชนก ก่อนจะเดินตรงไปที่รถของเขาแล้วขึ้นไปนั่งตามความเคยชิน มีบางครั้งที่กันชนกมารับเธอกับประทานพรไปไหนมาไหน อีกทั้งพวกเธอ 4 คนโตมาด้วยกัน เลยทำให้เธอไม่คิดอะไรมาก รวมทั้งกันชนกก็ใจดีกับเธอมาก ราวกับว่าเธอเป็นน้องสาวแท้ๆของเขา เธอจึงไม่เคยคิดอะไรเกินเลยกับเขาแม้แต่น้อย
กันชนกมองตามคนตัวเล็กที่เดินไปขึ้นรถของเขาเล็กน้อย ก่อนที่ตัวเองจะตรงไปยังที่นั่งฝั่งคนขับ เมื่อทุกอย่างเรียบร้อย ก็แตะคันเร่งออกตัวตามคนอื่นๆไป
อันที่จริงนภพงศ์กับกันชนกรู้เรื่องที่บิดามารดาของพวกเขาจับคู่น้องๆให้กับพวกเขาตั้งนานแล้ว เขากับนภพงศ์บังเอิญไปได้ยินบิดามารดาคุยกันตั้งแต่ยังวัยรุ่น แต่พวกเขาก็ไม่ได้บอกอะไรกับทั้ง 2 สาว เพราะกลัวพวกเธออึดอัด พวกเขาทำตัวเป็นปกติทุกอย่าง อีกทั้งตัวกันชนกเองก็ไม่ได้คิดอะไรกับดาราภัสด้วย เขาเห็นเธอเป็นน้องสาวมาตลอด
ต่างกับนภพงศ์ หลังจากวันนั้น เขาก็ทำตัวแปลกไป คอยตามเฝ้าตามหวงประทานพรมาตลอด แต่ก็เป็นในฐานะพี่ชาย จนเรียนจบและเข้ามาดูแลธุรกิจของครอบครัวเต็มตัว ทำให้เขาต้องห่างกับประทานพรไปพักใหญ่ เพราะอยู่ในช่วงเวลาปรับตัว และพิสูจน์ฝีมือให้ได้รับการยอมรับ
เขาต้องเข้ามาดูแลทุกอย่างตั้งแต่อายุยังน้อย ทั้งโรงแรมในเครือทั้งหมด อีกทั้งบริษัทเครื่องสำอางของมารดาอีก มันเลยทำให้เขาต้องพิสูจน์ฝีมือตัวเองอยู่หลายปี แต่เขารับรู้ข่าวของประทานพรตลอด เขาส่งลูกน้องคอยตามดูแลและส่งข่าวของประทานพรให้เขา ทำแบบนี้มาตลอด 5 ปี จนในวันนี้ ที่ประทานพรกับดาราภัสอายุ 21 ปี มันถึงเวลาที่เขาต้องเริ่มเดินหน้าเสียที
นภพงศ์ปรายตามองคนตัวเล็ก ที่นั่งบ่นพึมพำมาตลอดทาง ตั้งแต่ที่เขาลากเธอมาขึ้นรถวันนี้คนตัวเล็กใส่เสื้อคอกว้างสีขาว เปิดหัวไหล่มนสวย ผูกชายเสื้อเหนือเอวเล็กน้อย กับกางเกงยีนขาสั้นโชว์เรียวขายาวสวย ปิดท้ายด้วยรองเท้ารัดส้นสีขาว
“เก่งนี่ ปิดรอยได้เกือบหมด”
“มีหน้ามาพูดนะคะ กลายเป็นเรื่องใหญ่ไปแล้วเนี่ย”
“ก็ดีแล้ว”
“ดีอะไรล่ะคะ พี่ฟ้าลวนลามเพลงนะ!!!”
“หึ”
ประทานพรมองคนตัวใหญ่ที่กำลังขับรถอยู่อย่างคาดโทษ ก่อนจะเบือนหน้ามองออกไปนอกหน้าต่าง สายตาครุ่นคิด
ระหว่างที่กำลังนั่งคุยเล่นกันอยู่ คนอื่นๆ ก็กลับเข้ามาที่บ้านพัก แต่เมื่อมองไม่เห็นรถของกันชนก ก็มีสีหน้าแปลกใจ“ฟ้า เจ้ากันย์ไปไหน” ณดลถามบุตรชายตัวเอง ระหว่างถือของเดินมาวางที่โต๊ะ“ลากยัยพลอยออกไปแล้วครับ”“ห๊ะ…..” คนอื่นๆ ที่กำลังทยอยขนของที่ซื้อมาวางที่โต๊ะ หันมามองทั้งสองคนด้วยความพร้อมเพรียง“…..” นภพงศ์กับดาราภัสทำเพียงยิ้มๆ ให้กับผู้ใหญ่“สงสัยจะได้เตรียมสินสอดแล้วมั้ง” นัทธีหันมาบอกลลัลนาที่ยืนอึ้งอยู่“เห็นจะต้องเป็นแบบนั้นล่ะค่ะ”“เดี๋ยวข้าวไปดูที่ห้องยัยพลอยหน่อยดีกว่า”ฟางข้าวพูดจบก็เดินขึ้นบ้านไปสำรวจห้องของบุตรสาว เมื่อเปิดดูตู้เสื้อผ้าก็ปิดประตูห้องไว้ตามเดิม แล้วกลับลงมา“เรียบร้อยค่ะทุกคน กวาดเสื้อผ้าไปเรียบ” ฟางข้าวบอกทุกคนพร้อมกับนั่งลงกับทุกคน“คงจะกลับไปที่คอนโดนั่นแหละ ปล่อยไปเถอะ” นัทธีพอจะเดานิสัยบุตรชายตัวเองออกบอกทุกคนนภพงศ์มองสถานการณ์ตรงหน้าพร้อมกับลอบถอนหายใจ ไม่มีใครคิดจะตามกันชนกกับดาราภัสไป อย่างน้อยทั้งสองคนนั้นก็มีเวลาได้เคลียร์กันประทานพรหัวเราะออกมาเบาๆ กับสิ่งที่เห็น ทั้งอาการของสามี และอาการของบิดามารดา สองหนุ่มสาวมองหน้ากันเล็กน้อย ก่อนจะจับจ
เมื่อประทานพรลงมาข้างล่าง ก็เห็นว่าทุกคนกำลังสนุกสนานกันกับการเตรียมปาร์ตี้มื้อเย็น หญิงสาวเดินไปนั่งลงข้างๆ สามี ก่อนจะลงมือช่วยอีกแรง“อ้าว ไม่พักผ่อนก่อนล่ะลูก”“ไม่ล่ะค่ะแม่ เดี๋ยวกลางคืนนอนไม่หลับ อีกอย่างเพลงเริ่มหิวแล้วค่ะ”“ไปทานผลไม้รองท้องก่อนสิลูก อยู่โต๊ะนู้นน่ะ”เมื่อฟังมารดาพูดจบ ประทานพรก็ลุกขึ้นเดินไปอีกโต๊ะ ที่ดาราภัสนั่งปอกผลไม้อยู่ เธอนั่งลงตรงข้ามเพื่อนรัก ก่อนจะหยิบผลไม้ชิ้นหนึ่งส่งเข้าปากตัวเองพลางเคี้ยวแก้มตุ่ย“ไงคุณแม่ ตื่นมาก็หิวเลย”“ก็ช่วยไม่ได้ ไม่ได้กินคนเดียวนี่นา”สองสาวเพื่อนรักนั่งคุยเล่นกันไปเรื่อยๆ จนกระทั่งการเตรียมมื้อเย็นเสร็จเรียบร้อย หนุ่มๆ จัดการจุดเตาเพื่อย่างอาหารทะเล ส่วนสาวๆ นั่งรอกินพลางพูดคุยกันอย่างสนุกสนาน อังเดรช่วยบรรดาพี่น้องหยิบจับทำนั่นทำนี่ได้เพียงนิดหน่อย เพราะเขาเองก็ไม่ค่อยได้มาเที่ยวทะเลบ่อยนักเมื่ออาหารทะเลที่นภพงศ์กับกันชนกย่างสุก พวกเขาก็ทยอยตักใส่จานใบใหญ่ ก่อนจะยกไปวางที่โต๊ะริมทะเล ที่ประทานพรกับดาราภัสนั่งอยู่“มาแล้วจ้ะสาวๆ”“หืม วันนี้พี่กันย์พูดเพราะ แปลก” ประทานพรแซวพี่ชายพลางทำหน้าไม่รู้ไม่ชี้ กันชนกได้แต่มองหน้า
เวลาล่วงผ่านไปจนกระทั่งเย็น ทั้งนภพงศ์และประทานพรพากันกลับบ้านพักผ่อน โดยที่ข้าวของที่จะนำไปเที่ยว ได้ถูกจัดเก็บใส่กระเป๋าเรียบร้อยแล้วเช้าวันต่อมา ทั้งสองบ้านต่างมารวมตัวกันที่บ้านของประทานพรตั้งแต่เช้า กระเป๋าทุกใบ รวมทั้งข้าวของที่เตรียมจะนำไปถูกขนขึ้นรถจนหมด ก่อนจะแยกย้ายกันขึ้นรถ แล้วขับตามกันออกไปเมื่อเดินทางมาถึงที่บ้านพัก ทั้ง 2 ครอบครัวช่วยกันขนข้าวของลงจากรถเอาไปวางไว้ที่โต๊ะกลางบ้าน ก่อนจะแยกกันขนกระเป๋าขึ้นไปเก็บบนบ้าน โดยที่ประทานพรและดาราภัสนั่งทานขนมอยู่ที่โต๊ะริมทะเล“แกว่าการมาที่นี่ของเราครั้งก่อน กับการมาครั้งนี้ มีอะไรเปลี่ยนไปบ้างวะ” ดาราภัสทอดสายตามองไปยังผืนน้ำกว้าง ก่อนจะเอ่ยปากพูดขึ้นมาพร้อมกับหันมามองใบหน้าหวานของเพื่อนรักที่ควบตำแหน่งพี่สะใภ้“เปลี่ยนเยอะ ในความคิดฉันนะ ฉันรู้สึกว่าตัวเองโตเป็นผู้ใหญ่ขึ้นเยอะ คงเพราะฉันกำลังจะเป็นแม่คนด้วยมั้ง สถานะหลายๆอย่างก็เปลี่ยนความรู้สึก ความคิดก็เปลี่ยน” ประทานพรตอบดาราภัส แต่สายตาของเธอทอดมองไปยังผืนน้ำทะเลกว้างหญิงสาวปล่อยความคิดให้ลอยไปไกล ครั้งก่อนตอนที่เธอมาที่นี่ ก็มาพร้อมกับทุกคนในครอบครัวเหมือนวันนี้ ต่างก
หลังจากที่ทุกคนตกลงกันว่าจะพากันไปเที่ยวก่อนที่อังเดรจะกลับ จึงต้องกำหนดวันว่างขึ้นมา จนสรุปได้ว่ารอให้ประทานพรและดาราภัสสอบเสร็จก่อนนภพงศ์กับกันชนกรีบเคลียร์งานให้เสร็จ จะได้ไม่มีงานค้างมากนัก หากต้องหยุดไปหลายวัน จนบ่ายวันหนึ่ง ก่อนถึงวันไปเที่ยว นภพงศ์ไปรับประทานพรที่มหาวิทยาลัยตามปกติ“พี่ฟ้า ทางนี้ค่ะ” เสียงสดใสของประทานพรดังขึ้นพร้อมกับโบกมือเรียกคนรัก เมื่อเห็นว่าเขามองหาเธอไม่เจอ“ยัยพลอยล่ะ” ชายหนุ่มถามคนรักสีหน้าแปลกใจที่ไม่เห็นน้องสาวของตัวเองอยู่ด้วย ทั้งที่ปกติทั้งคู่จะตัวติดกันตลอด“โดนพี่กันย์ลากไปแล้วค่ะ” หญิงสาวหัวเราะเบาๆ“อีกแล้วเหรอ”“ช่วงนี้มาลากไปทุกวันแหละค่ะ หวงยัยพลอยน่าดู”“แล้วมันก็ซื่อบื้อยังไม่รู้ตัวด้วยนะ ทั้งที่หวงจนแทบจะไม่ให้ยัยพลอยห่างตัวขนาดนี้”“เดี๋ยวก็คงรู้สึกตัวแหละค่ะ แต่เพลงกลัวยัยพลอยจะช้ำซะก่อน”ประทานพรพูดพลางส่งของที่วางบนโต๊ะให้กับสามี พร้อมกับขยับตัวลุกขึ้นยืน ก่อนจะพากันเดินไปที่รถที่นภพงศ์จอดเอาไว้ไม่ห่างนัก“ก็หวังว่ามันจะไม่รุนแรงมาก”“คงยากหน่อยนะคะ หึงแรงซะขนาดนี้” นภพงศ์ได้แต่กลอกตาไปมากับคำบอกเล่าของภรรยาสาว ก่อนจะพากันขึ้นรถแล้ว
“ดุเหมือนเดิมเลยแห๊ะ” “น้องมึงนั่นแหละ” “น้องกู แต่เมียมึง”“ไอ้***”ลลัลนาส่ายหน้าด้วยความอ่อนอกอ่อนใจ ปล่อยให้ทั้งคู่เถียงกันไปอยู่แบบนั้น ส่วนตนเองหันมาพูดคุยกับฟางข้าวและลูกๆอย่างสนุกสนานหลังจากรับประทานอาหารกันเสร็จเรียบร้อยทุกคนพากันแยกย้ายกลับบ้าน โดยที่กันชนกพาดาราภัสไปส่งที่คอนโด หญิงสาวต้องการไปเคลียงานของเธอให้เสร็จเพราะใกล้จะสอบเต็มทีทางด้านนภพงศ์และประทานพร เมื่อกลับมาถึงบ้านก็พากันกลับขึ้นห้องไปพักผ่อนเลย เพราะหญิงสาวอ่อนเพลียเต็มที“เพลงหลับแล้วเหรอฟ้า”“ครับ”เมื่อดูแลจนคนรักพักผ่อนเรียบร้อยแล้ว นภพงศ์ก็ออกจากห้องนอนไปเงียบๆ เขาตรงไปยังห้องทำงานของนัทธี ซึ่งเขามั่นใจว่าอังเดรก็กำลังอยูที่นั่นในตอนนี้“เอาล่ะ ทางคุณดำรงติดต่อมาแล้วนะ ทางนั้นไม่ได้ติดใจอะไร” นัทธีบอกกับชายหนุ่มที่เพิ่งจะหย่อนตัวนั่งลงบนเก้าอี้หน้าโต๊ะทำงาน“เป็นไปได้ยังๆไงครับ”“ลดาฆ่าตัวตายเอง ทางเราไม่ได้บีบคั้นหรือทำร้ายหล่อนใช่ไหมล่ะ มีแต่หล่อนมาทำร้ายคนของเรา คุณดำรงเลยไม่ติดใจอะไร พร้อมกับฝากขอโทษทุกคนด้วย” นัทธีอธิบายกับนภพงศ์ด้วยสีหน้าเบาใจพวกเขารู้ดีว่ามาเฟียที่อาว
“กลับมาแล้วครับ”นภพงศ์เข้ามาพร้อมกับส่งเสียง ทั้งที่ปกติเขาไม่เคยทำ นั่นหมายความว่าวันนี้ต้องมีอะไรแน่นอน ลลัลนาที่กำลังนั่งทานของว่างอยู่กับประทานพรได้ลุกขึ้นเดินมาดูด้วยความแปลกใจ“พี่เอลล์!!!” ลลัลนาสีหน้าแปลกใจ ก่อนจะรีบโถมตัวเข้ากอดญาติผู้พี่อย่างดีใจ“ว่าไงจ๊ะ คนสวยของพี่ เป็นยังไงบ้าง สบายดีไหม”“สบายดีค่ะ พี่เอลล์มาเมื่อไหร่คะ ไม่เห็นบอกลัลเลย”“ลงเครื่องเมื่อเช้า แล้วเลยไปหาฟ้าที่บริษัทเลย กะว่าเข้ามาพร้อมกันนี่แหละ ไหนตัวแสบของพี่ล่ะ”“นั่งอยู่ข้างในค่ะ เข้าบ้านเถอะค่ะ”ลลัลนาคล้องแขนอังเดร พร้อมกับที่เขายกแขนรอราวกับรู้นิสัยของเธอดี ก่อนจะพากันเดินเข้าไปในบ้าน ตามหลังนภพงศ์ที่เดินเข้ามาหาภรรยาสาวอย่างประทานพรก่อนหน้านั้นไม่ถึงนาที“ว่าไง สาวน้อยของลุง”“ลุงเอลล์!!!!”อังเดรยิ้มให้ประทานพรอย่างอารมณ์ดี ก่อนจะกางแขนออก รอให้หลานสาวที่ตอนนี้กำลังจะเป็นคุณแม่ แต่ยังเป็นหลานสาวตัวน้อยสำหรับเขาเสมอโผเข้ามากอดเขา ด้วยตัวเขาเองไม่มีลูก จึงเอ็นดูเด็กๆทั้ง 4 คนเหมือนลูก เพราะทั้ง 4 คน เกิดและเติบโตในสายตาของเขามาตลอด นั่นเป็นสาเหตุที่เขาฝึกทั้งนภพงศ์และกันย์ชนกให้แข็งแกร่งและรู้ทุกอย







