เข้าสู่ระบบที่ฉันรับเธอมาอยู่ด้วยนั่นเพราะแม่เธอขอร้อง ทำงานเป็นคนใช้ในบ้านหลังนี้ได้ถือว่าบุญแล้ว...“เพราะเป็นลูกสาวเมียน้อยใช่ไหมหนูถึงได้ถูกรังเกียจขนาดนี้ แต่ก็ดี หนูจะได้ไม่รู้สึกผิดเอาทีหลัง :) ”
ดูเพิ่มเติม--------------
"ได้โปรดเถอะค่ะคุณครีม ช่วยรับขนมไว้อีกสักคนนะคะ"
"ไม่"
"อึก!"
เสียงแหบพร่าสีหน้าซีดเผือดของหญิงวัยกลางคนเธอได้แต่นั่งฟุบอยู่กับพื้น คลื่นน้ำสั่นไหวหลั่งออกมาเป็นหยาดน้ำตา โดยข้างกายเธอนั้นคือลูกสาววัยแรกแย้ม ขนม หญิงสาววัยสิบเก้าปี ด้วยใบหน้าสวยพริ้มหยาดเยิ้มดวงตากลมโตใครที่ได้เห็นต่างก็รักและเอ็นดู แต่ไม่ใช่กับพี่สาวต่างแม่อย่าง ครีม
"ที่ฉันให้เธอสองแม่ลูกเข้ามาในบ้านหลังนี้ ก็เพราะเห็นแก่คุณพ่อแต่นี่กลับมาพล่ามขออะไรที่เกินตัว เหอะน่าสมเพชชะมัด"
"กึด" เพียงเพราะเราสองแม่ลูกเป็นส่วนเกินดั่งชิ้นเนื้อร้ายของบ้านจึงถูกปฏิบัติไม่ต่างกับทาสรับใช้ ทั้งที่ความจริงแม่ฉันเป็นฝ่ายถูกกระทำจากผู้ชายมักมากคนนั้นแท้ๆ ไม่มีใครคิดว่าความผิดที่เกิดขึ้นเป็นของตาแก่คนนั้นแม้แต่คนเดียว กลับโยนมันมาให้แม่และฉันตลอดระยะเวลาเกือบยี่สิบปี ฉันหลงดีใจคิดว่าจะสิ้นสุดเวรกรรมจากบ้านหลังใหญ่นั้นเมื่อบ้านทั้งบ้านล้มละลาย แต่แม่กลับยังห่วงกลัวว่าฉันจะไม่มีเงินเรียนต่อมหาลัยจึงได้แบกหน้าพาฉันมาหาครีม ลูกสาวผู้เป็นหน้าเป็นตาของตระกูลซึ่งได้แต่งงานกับเจ้าของธุรกิจสปาโรงแรมรวมกับเจ้าของเกาะหลายแห่งอย่าง แบงค์ นักธุรกิจมือทองอายุสามสิบสองปี ที่ครีมยังเชิดหน้าเชิดตาได้เพราะทรัพย์สินของสามีนั่นแหละ
"มีเรื่องอะไรกัน"
"แบงค์"
เจ้าของบ้านตัวจริงปรากฏตัวขึ้นทำให้ครีมซึ่งนั่งไขว่ห้างกอดอกรีบลุกขึ้นเดินปรี่ตรงไปหาสามี
"กลับมาจากเกาะแล้วเหรอคะ แล้วเรื่องงานไปถึงไหนแล้ว"
หญิงร่างเพรียวบางเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงเรียบหวานดั่งกับเพชรน้ำหนึ่งงดงามทุกกิริยา ต่างจากแม่มดวางมาดเมื่อครู่ราวกับคนละคน ทว่าสายตาของสามีที่มองมานั้นกลับเต็มไปด้วยความเฉยชา ทำเอาสีหน้าร่าเริงของยัยแม่มดเมื่อครู่ต้องชะงัก
"ไม่ใช่เรื่องที่ฉันต้องรายงานให้เธอฟัง"
เขาว่าจบพลางตวัดสายตาจ้องมองสองแม่ลูกซึ่งนั่งกอดกันอยู่ไม่ไกลนัก ขณะที่ครีมกำลังมองพื้นรู้สึกเสียหน้าอยู่นั้นเสียงเย็นชาของแบงค์จึงได้เอ่ยถาม
"นั่นน้องสาวเธอนี่"
"อะ เออจะว่างั้นก็ได้ค่ะ" คนที่ไม่อยากให้มามากที่สุดกลับเข้ามายุ่งซะได้
"มีเรื่องอะไรทำไมถึงได้มา"
เป็นเจ้าของบ้านที่เดินเข้าไปถามความเป็นไปที่แท้จริงจากสองแม่ลูก
"คะ คิดว่าดิฉันจะต้องกลับบ้านเกิดน่ะค่ะแล้วอยากให้ลูกสาวมาทำงานเป็นคนรับใช้ที่นี่ คุณแบงค์พอจะช่วยรับเธอไว้สักคนได้ไหมคะ เรื่องงานบ้านทำอาหารเธอเก่งทะ..."
"อือ เอาของใช้เสื้อผ้ามาแล้วใช่ไหม"
"แบงค์!" ไอ้บ้าคนนั้นคิดจะเอาลูกเมียน้อยพ่อมาหยามฉันหรือไง!
"มีปัญหาอะไร บ้านนี้เป็นบ้านของฉันจะรับหรือไม่รับก็ไม่เกี่ยวกับเธอ"
สายตาที่บ่งบอกว่าเขาไม่เห็นค่าไม่ว่าครีมจะถูกมองกี่ครั้งก็รู้สึกเย็นยะเยือกไปทั่วทั้งตัว ราวกับถูกมนต์สะกดแช่แข็งร่างเธอเอาไว้ ครีมทำได้แค่เพียงก้มหน้ายอมรับความจริงด้วยมือทั้งสองข้างที่กำเอาไว้แน่น
นังเด็กชั้นต่ำอย่าคิดเลยว่าแกจะได้อยู่สุขสบาย ฉันจะทำให้แกต้องเดินออกจากบ้านนี้ไปเอง
"ขอบคุณ คุณแบงค์มากเลยนะคะ! เอ้า ขอบคุณท่านเขาสิขนม"
"อื้ม ขอบคุณค่ะคุณแบงค์"
หญิงสาวเดียงสายกมือไหว้ขอบคุณตามมารยาท แม้ท่าทางอ่อนหวานใบหน้าสวยพริ้มของขนมจะเด่นสะดุดตาสักเพียงใด ร่างแกร่งของชายหน้าหล่อยังคงมีสีหน้าเย็นชาดังเดิม
"แค่นี้แม่ก็ไม่ห่วงแกแล้วล่ะขนม อยู่ที่นี่ก็ตั้งใจทำงานล่ะไว้ถ้าเรียนจบเมื่อไหร่แม่จะมารับแกนะ ^^ "
"จ้ะ หนูจะตั้งใจเรียนให้จบแม่ไม่ต้องห่วงนะ"
สองแม่ลูกต่างยกยิ้มอย่างโล่งใจให้กันและกัน แม้ในใจของหญิงสาวจะรู้ดีว่าระหว่างทางนั้นเธอจะต้องเจอเรื่องที่ยากลำบาก แต่เมื่อนึกถึงใบหน้าที่เปี่ยมไปด้วยรอยยิ้มของผู้เป็นแม่ เธอก็พร้อมลุกขึ้นปัดเข่าและก้าวเดินต่ออีกครั้ง
"ต้องขอขอบคุณคุณแบงค์อีกครั้งนะคะ"
"อืม" นิสัยสูงส่งปากแข็งปั้นหน้ายิ้มของเธอ ฉันก็อยากรู้เหมือนกันว่ามันจะอยู่ได้นานสักแค่ไหนครีม หึ
________
มาแล้วจ้าา กลับมาครั้งนี้จัดหนักจัดเต็มเหมือนเคย ฝากทุกคนเป็นกำลังใจให้ไรท์ด้วยนะ ❤️
----------------"พี่ไวท์เราคบกันไหมคะ" "..........." เจ้าตัวไม่ได้พูดคำไหนออกมา เพียงแค่ยืนก้มหน้าแน่นิ่งอยู่แบบนั้น ราวกับกำลังตกตะกอนความคิดในหัวของตัวเองอยู่ แต่ฉันกลับลุ้นระทึกทุกวินาทีกลัวว่าพี่เขาจะปฏิเสธไม่ได้รู้สึกเหมือนกันกับฉัน แต่ต่อให้จะถูกปฏิเสธฉันก็ไม่หวั่นหรอก เพราะเวลาที่ฉันจะทำให้พี่ไวท์ยอมรับยังมีอีกเยอะ "เหมี่ยวไม่อยากคาดเค้นจากพี่หรอกนะ แต่ถ้าพี่พร้อมที่จะเป็นแฟนเหมี่ยวในตอนนี้เลยคงจะดีไม่น้อย" "เหมี่ยวแน่ใจแล้วเหรอว่าจะฝากชีวิตที่เหลือไว้กับพี่" "ค่ะ ตั้งแต่วันนั้นที่เราได้คุยกันจริงจัง เหมี่ยวก็รู้เลยว่าเหมี่ยวชอบพี่จริงๆ" "ถ้าเหมี่ยวยืนยันแบบนั้น" พี่ไวท์ค่อยๆ เดินตรงมาหาฉันก่อนจะทรุดตัวนั่งลงบนพื้น ในจังหวะนั้นฉันเองก็ตื่นเต้นไม่รู้ว่าคำตอบจากปากของพี่เขาจะเป็นเช่นไร ระหว่างที่กำลังตื่นเต้นจนทำตัวไม่ถูกอยู่นั้นฝ่ามือหนาเอื้อมคว้าชอบดอกไม้ในมือ ก่อนจะก้มหน้าใช้ริมฝีปากกระตุกเชือกคลายปมโบว์สีแดงสดบนเอวฉันจนมันคลายหลุดออกจากกัน"!!!" บอกตามตรงใจฉันมันไม่อยู่กับเนื้อกับตัวเลยทั้งกังวลประหม่าและกลัวในเวลาเดียวกัน ได้แต่นอนหลับตารอคำตอบอย่างเงียบๆ กระทั่งสัม
---------------"เออขอบใจมึงมากที่เข้าใจ""ที่ผ่านมาเองกูก็ละเลยเหมี่ยวมากเกินไป ทำเหมือนน้องไม่มีตัวตน เอาเป็นว่าพี่ขอโทษนะ""อ๋อ ไม่เป็นไรเหมี่ยวเข้าใจพี่ดี เพราะคนที่เริ่มเรื่องทั้งหมดคือเหมี่ยวเองนี่ พี่กายไม่ต้องขอโทษเหมี่ยวหรอก"เหมี่ยวอธิบายโดยเร็วเธอเองก็คงรู้สึกผิดเหมือนกัน ทำเอาบรรยากาศหลังพูดความในใจโล่งปลอดโปร่งราวกับคนละโลกกับเมื่อกี้"เพื่อเป็นการขอโทษที่กูหลบหน้ามึง วันนี้กูเลี้ยงเอง""มันต้องแบบนี้ดิวะ กูรอคำนี้ของมึงมานานแล้วไอ้ไวท์""เบาหน่อยนะมึง แดกเหล้าทุกวันจนตับร้องไห้ล่ะ""ทำไงได้วะความสุขกูนี่หว่า"ไม่ผิดหวังเลยที่วันนี้ผมได้มาเจอกับมัน บรรยากาศคำพูดสิ่งหนักอึ้งในใจได้หายไปหมดแล้ว ผมมักจะเผลอมองหน้ามะเหมี่ยวและยิ้มออกมาทุกครั้ง โดยไม่คิดเลยว่าการได้มองหน้าผู้หญิงคนหนึ่งมันจะทำให้มีความสุขได้มากขนาดนี้ กระทั่งเรานั่งดื่มกันไปสักพัก มะเหมี่ยวเริ่มขยับตัวเอ่ยกระซิบบางอย่างข้างหูผม คำนั้นทำเอาความร้อนรุ่มในร่างกายผมมันลุกโชนขึ้นมาในทันทีที่ได้ยิน"คืนนี้หนูมีอะไรจะบอกพี่ไวท์ อย่าลืมไปที่ห้องหนูนะ หนูจะรอ...อย่างใจจดใจจ่อ""อึก"ไม่ได้แค่พูดแต่ฝ่ามือยังเลื่อนไล้ไป
------------สัปดาห์ต่อมา"เหมี่ยว!""ห๊ะ!!!" "แกเป็นไรเนี่ย ช่วงนี้เหม่อลอยผิดปกตินะ" เสียงเรียกที่ดึงสติฉันกลับมาคือปุ๊ก ขณะที่เรานั่งกินชานมหลังเลิกเรียนฉันเหม่อมองคิดถึงใบหน้า น้ำเสียง สีหน้าของพี่ไวท์ทุกครั้งที่สติไม่อยู่กับตัว แม้วันนั้นจากผ่านมานานนับสัปดาห์แล้วก็ตาม"มีเรื่องให้คิดนิดหน่อยน่ะ" ฉันพูดไหลตามน้ำไปพลางยกแก้วขานมขึ้นดื่ม "หรือว่าแกกำลังมีความรัก!?" "มะ ไม่ใช่สักหน่อย!" ทายถูกจนน่าขนลุกเลยแฮะ เรื่องที่ฉันกำลังคุยกับพี่ไวท์อยู่ไม่ได้บอกให้ปุ๊กรู้ กลัวว่าปุ๊กนะเป็นห่วง ด้วยที่พี่ไวท์มีเพื่อนเป็นพี่กายเกียรติศักดิ์คงไม่ต้องพูดถึง"ถ้าแกจะมีแฟนฉันก็ไม่ติดนะเว้ย แต่ผู้ชายสมัยนี้ส่วนใหญ่หวังเอาเพื่อสนุกเท่านั้นแหละ ส่วนเรื่องรักเป็นรอง" "ไหงคิดแบบนั้นล่ะ" "ตัวอย่างก็มีให้เห็นตั้งเยอะแยะ อย่างพี่กายเดือนมหาลัยอะไรนั่น""แล้วปุ๊กคิดว่าความรักคืออะไร" ปุ๊กเงียบไปครู่หนึ่ง ไม่แน่ใจว่าเพราะกำลังเรียบเรียงคำพูดอยู่ หรือเพราะไม่รู้จะตอบอย่างไรดี"ความมั่นคง แน่วแน่ แม้จะอยู่ห่างไกลแต่ยังคงยืนหยัดในรักเดียว"คงเพราะปุ๊กลุกกับแฟนห่างไกลกันเธอจึงมองว่าความรักคือการยืนหยัดใ
------------"พี่ไวท์~" ควบคุมตัวเองไม่ได้เลย ตอนนี้ฉันควบคุมตัวเองไม่ได้สักนิดแค่ได้เห็นพี่ไวท์อยู่ตรงหน้าฉันพร้อมพุ่งเข้าใส่ อยากครอบครองอยากมีพื้นที่ที่อบอุ่นปลอดภัย ฉันโหยหาความรักนั้นมาเสมอในตอนนี้ฉันมั่นใจว่าพี่ไวท์เป็นคนที่ใช่สำหรับฉัน เพราะแบบนั้นฉันจึงไม่อยากเสียพี่เขาไปอีก จากเหตุการณ์ครั้งที่แล้วหลังจากที่พี่ไวท์หนีกลับไปฉันทั้งรู้สึกเสียดาย อับอายในเวลาเดียวกัน เสียดายที่ไม่รั้งและเสนอตัวมอบทั้งหมดให้พี่เขา ทั้งอับอายและกลัวที่จะถูกพี่เขามองว่าเป็นผู้หญิงใจง่าย เพราะแบบนั้นในวันนี้ฉันจึงเลือกที่จะดื่มและวางแผนทุกอย่างจนในที่สุด เวลาที่ฉันจะได้ครอบครองพี่ไวท์ก็มาถึงฉันจะไม่ปล่อยพี่เขาไปไหนเด็ดขาด จนกว่าฉันจะได้เป็นคนรักของเขา "เหมี่ยว อือ~" ฝ่ามือหนากดท้ายทอยขณะเดียวกันฉันเริ่มขยับเบียดกลีบอวบน้ำไปมากับกางเกงที่ถูกดันขึ้นมา รู้สึกได้เลยว่าส่วนนั้นของฉันมันชุ่มฉ่ำไปด้วยหยาดน้ำหวาน เวลาที่สัมผัสกับเสื้อผ้าจึงรู้ว่าส่วนนั้นมันชุ่มไปด้วยหยาดน้ำหวานเต็มไปหมด ไม่ไหวฉันเองก็เสียวสะท้านจนควบคุมความรู้สึกอารมณ์ตัวเองไม่ได้แล้วเหมือนกัน อยากจะสัมผัสของจริงแล้วสิ"พี่ไวท์เหมี่ยวไม