Se connecter“มีความสุขมาก ๆ นะครับ” ดินแดนเอ่ยพร้อมกับรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าบ่าว
“ขอบใจนะ รีบ ๆ ตามมามีความสุขเหมือนกันนะโว้ย” ฟ้าครามตอบกลับด้วยรอยยิ้ม
ดินแดนอมยิ้มแล้วส่ายหัว ก่อนจะอวยพรและรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าสาว ซึ่งเขาเป็นคนสุดท้ายที่รดน้ำสังข์และอวยพรทั้งคู่
พิธีการของคู่บ่าวสาวเป็นอันเสร็จสิ้นลงไปอย่างราบรื่น สีหน้าของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีแต่ความชื่นมื่น เสียงเชียร์ให้หอมให้จูบดังไม่ขาดสาย ไม่ว่าเจ้าสาวจะเขินจนหน้าแดงขนาดไหน ก็ไม่วายที่จะส่งเสียงเชียร์กันอยู่ตลอดงาน
ดินแดนและเพื่อน ๆ ที่มาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เดินเข้าไปร่วมถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาว แล้วเปลี่ยนให้ฝ่ายเพื่อนเจ้าสาวเข้ามาถ่ายบ้าง สายตาของดินแดนไม่ได้มองใครเลยสักคน ทั้งที่เพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนทั้งสวยและดูดีด้วยกันทั้งนั้น มีบางคนส่งยิ้มทอดไมตรีมาให้ เขาก็แค่ยิ้มกลับไปตามมารยาทเท่านั้น
ชายหนุ่มเดินมาคว้าแก้วน้ำผลไม้ที่มีบริการอยู่มุมของห้อง กำลังจะยกดื่มดับกระหาย พวกเพื่อนก็พากันเดินเข้ามา ยังไม่ได้ไปร่วมโต๊ะกินเลี้ยงฉลองมงคลสมรสให้กับคู่บ่าวสาว พวกเขาก็มองหาเครื่องดื่มสีอำพันกันแล้ว ทว่ายังไม่มีสักแก้ว
“ต้องรอดื่มที่โต๊ะสินะ” หนึ่งในคนที่อยากจิบแอลกอฮอล์ให้ชุ่มคอพูดอย่างเสียดาย
“เอาน่าหลังจากนี้แค่ไม่กี่นาทีก็ได้เวลาไปร่วมรับประทานอาหารกันแล้ว ต้องอดใจเอาไว้หน่อยสิวะ” เพื่อนอีกคนหนึ่งพูดขึ้น
คนที่สนใจแต่เครื่องดื่มประเภทน้ำผลไม้ยิ้มให้ พลางนึกขำเพื่อนที่เอาแต่โหยหาน้ำเมาจนลืมไปว่านี่คืองานแต่งงานไม่ใช่เวลาหลังเลิกงานที่จะถามหาน้ำเมาพวกนั้นที่กินเป็นประจำแทบทุกวัน
ขณะเดียวกันดินแดนหันไปเห็นว่าเพื่อนอีกคนกำลังยิ้มกรุ้มกริ่ม สีหน้าคล้ายกับอยากพูดอะไรบางอย่าง เดาแล้วเรื่องที่จะพูดน่าจะเป็นเรื่องที่น่ายินดีแน่ ๆ แววตาถึงมีประกายความสุขเสียขนาดนั้น
“เชิญแขกผู้มีเกียรติร่วมรับประทานอาหารกันที่ห้องข้าง ๆ ได้เลยนะครับ” พิธีกรพูดใส่ไมค์เพื่อประกาศให้แขกเหรื่อได้ย้ายไปยังอีกห้องที่เป็นห้องสำหรับจัดเลี้ยง ทำให้ดินแดนละความสนใจจากต้นกล้าไปก่อน แล้วพากันเดินไปอีกห้องแทน
โต๊ะที่พวกเขาได้นั่งอยู่ทางด้านหลังฝั่งขวา เสียงดนตรีบรรเลงเพลงรักเพราะ ๆ หวานซึ้งที่เข้ากับบรรยากาศงานแต่งงานดังขึ้นมา พนักงานของโรงแรมทยอยนำอาหารและเครื่องดื่มมาเสิร์ฟ
“เอาด้วยเปล่า” คนถือขวดเหล้าถามเพื่อนที่มองแต่น้ำอัดลม
“ไม่เอา” ดินแดนปฏิเสธทันที เขาไม่ใช่คนชอบดื่มเหล้าหรือแอลกอฮอล์เท่าไรนัก อีกอย่างเดี๋ยวก็ต้องเดินทางกลับอีก จะลำบากเอาหากเมา ช่วงนี้ยิ่งมีการรณรงค์เมาไม่ขับด้วย เจอด่านขึ้นมาแล้วจะซวย เสียเงินค่าปรับไม่เท่าไร แต่เสียประวัตินี่สิไม่อยากจะพูดถึง
“อะไรวะดิน สักนิดน่า” เพื่อนยังตื๊อไม่เลิก และยังส่งแก้วเหล้ามาให้อีก นั่นทำให้ดินแดนต้องรับมาด้วยความจนใจ เพราะหากไม่รับคงตื๊ออยู่อย่างนั้น เขาจิบไปเพียงเล็กน้อยพอเป็นพิธี เพื่อไม่ต้องถูกคะยั้นคะยออีกก็พอแล้ว
“รินอวบ ๆ ขึ้นเนอะ ว่าไหม”
หนึ่งในเพื่อนที่นั่งโต๊ะเดียวกันเอ่ยขึ้นมา เพราะสังเกตเห็นหญิงสาวที่ชื่อนรินดูอวบอั๋นดูมีน้ำมีนวลขึ้นจนผิดตาไป เธอนั่งอยู่อีกโต๊ะที่อยู่ข้างหน้าเพียงโต๊ะเดียว แต่เสียงดนตรีที่ดังตลอด ทำให้ไม่ได้ยินว่ามีคนกำลังพูดถึงตัวเองอยู่
“อืม”
ดินแดนส่งเสียงตอบสั้น ๆ เขาไม่ได้อยากร่วมพูดถึงสรีระของคนอื่นโดยเฉพาะผู้หญิง แต่นรินอวบขึ้นมากจริง ๆ เมื่อก่อนเธอตัวเล็กชายหนุ่มได้เจอกันกับเธออยู่ประจำ เพราะว่านรินเป็นหมอประจำเรือนจำที่เขาเป็นผู้คุมอยู่ และเธอก็เป็นแฟนกับต้นกล้า ซึ่งเป็นเพื่อนรุ่นน้องของเขาด้วย
“แดนเซอร์คนซ้ายสวยว่ะ” เสียงของภาคภูมิดังขึ้นทำให้ทุกคนในโต๊ะหันไปมองแดนเซอร์ทั้งสามคนบนเวที ตอนนี้เป็นจังหวะดนตรีเริ่มเร็วขึ้นและสนุกขึ้น
“ไอ้แดน มึงมองของสวย ๆ งาม ๆ บ้างดิวะ จ้องมันแต่เป็ดอยู่นั่นแหละ” ชายสวมแว่นที่นั่งโต๊ะเดียวกันแซวดินแดนขึ้นมา เพราะเขาหันมามองกี่ครั้ง ก็เห็นเพื่อนเอาแต่มองเป็ดย่างหนังกรอบที่อยู่ในจาน ทั้งที่คนแซวและเพื่อนคนอื่นเอาแต่จ้องมองแดนเซอร์สุดเซ็กซี่บนเวทีแบบตาไม่กะพริบ
“มึงดูไปเถอะ กูขอกินอย่างเดียวแล้วกัน” ดินแดนตอบกลับไปอย่างไม่ใส่ใจ ไม่พูดเปล่าเขายังคีบเป็ดย่างขึ้นมากินอย่างสบายใจอีกด้วย
‘คนสวย ๆ มีให้เห็นอยู่ทั่ว หันไปทางไหนก็เจออยู่แล้ว ไม่จำเป็นต้องจ้องมองอะไรขนาดนั้น ถึงเห็นว่าสวยก็ไม่ได้สนใจต่ออีกอยู่ดี ไม่สู้มองแค่อาหารหน้าตาน่ากินที่อยู่บนโต๊ะนี่ดีกว่า ทั้งหน้าตาที่น่าลิ้มลอง ทั้งกลิ่นหอม ๆ ที่ทำให้ต้องตักชิม และรสชาติก็ดีเยี่ยม จนไม่อยากวางตะเกียบและช้อนลง’ ดินแดนมองอาหารพร้อมกับคิดในใจไปด้วย
ตอนที่ 6 ราวกับต้องมนตร์ (2)ดินแดนเดินเล่นและถ่ายรูปไปเรื่อย ๆ จนสะดุดสายตาเข้ากับหญิงสาวคนหนึ่งที่ยืนอยู่ในสวนท่ามกลางดอกไม้ ตอนนี้ชายหนุ่มราวกับต้องมนตร์ ภาพนั้นทำให้เขามองค้างเติ่ง สองขาพลันชะงักงันไม่เดินต่อ สายตายังตรึงไว้อยู่กับเธอคนนั้น เขาไม่กล้าแม้แต่จะกะพริบตาเพราะกลัวภาพนั้นจะหายไปใบหน้ารูปไข่ ดวงตากลมโต จมูกโด่งกำลังพอดี ริมฝีปากก็อวบอิ่ม เธอคลี่ยิ้มให้กับนกที่เกาะอยู่บนกิ่งก้านของต้นไม้ใหญ่ และเอาโทรศัพท์ออกมาถ่ายรูปเจ้านกตัวนั้นไว้ เส้นผมยาวสลวยสะบัดทิ้งตัวไปทางด้านหลังแล้วเอี้ยวมองมาทางเขา ยิ่งได้เห็นหน้าเธอชัด ๆ ยิ่งรู้สึกเหมือนถูกดึงดูดเอาไว้จนละสายตาไม่ได้หนำซ้ำหัวใจที่เคยนิ่งเฉยมานาน กลับเต้นแรงจนไม่สามารถควบคุมอัตราการเต้นไว้ได้“ไอ้ดิน ไปรวมตัวกันได้แล้ว จะเริ่มแห่ขบวนขันหมากแล้ว” เสียงของเต้ที่ตะโกนมาเรียกมาแต่ไกล ดึงความสนใจของดินแดนไปจากหญิงสาวคนนั้น เขาหันไปหาเต้ที่กำลังเดินเข้ามาหา“เออ” เขาขานตอบไปสั้น ๆ แล้วหันกลับมาหาหญิงสาวที่ทำให้อัตราการเต้นของหัวใจเขาเปลี่ยนแปลงไป ทว่าตอนนี้เธอกลับหายไปแล้วดินแดนกวาดสายตาชะเง้อหาไปรอบ ๆ บริเวณงาน เพราะอยากเห็นหน้าเ
ตอนที่ 5 ราวกับต้องมนตร์ (1)หลังจากงานแต่งของฟ้าครามผ่านไปแล้ว การใช้ชีวิตของดินแดนดำเนินไปอย่างราบเรียบเป็นปกติเหมือนเดิมทุกวัน ไปทำงานคนเดียว กลับมาบ้านกินข้าวคนเดียว นอนดูโทรทัศน์คนเดียว แต่เขาไม่เคยรู้สึกเหงาหรืออยากมีใครสักคนเข้ามาเติมเต็ม ชีวิตที่เรียบง่ายนั้นไม่ได้ทำให้รู้สึกขาดอะไร ชายหนุ่มกลับรู้สึกว่ามีความสงบและมีความสุขดีอยู่แล้วแต่วันนี้ชีวิตคงมีสีสันขึ้นมาก เพราะต้องมาร่วมงานแต่งงานของเพื่อนรุ่นน้องอย่างต้นกล้ากับนรินอดีตหมอประจำเรือนจำ“หวัดดีพี่ดิน” ต้นกล้าที่เป็นเจ้าบ่าวของงานทักทายด้วยความดีใจ ที่เห็นดินแดนเดินเข้าไปในงานตั้งแต่ท้องฟ้ายังไม่มีแสงสว่างดี“มาก่อนใครเลย” ต้นกล้าพูดต่ออย่างหยอกล้อ“รีบมาเลยเนี่ย เผื่อมีอะไรให้ช่วย” ดินแดนตอบกลับด้วยรอยยิ้ม“ไม่มีอะไรให้ช่วยหรอกพี่ ผมใช้เงินแก้ปัญหาไปหมดแล้ว แค่พี่มาเป็นเพื่อนเจ้าบ่าวให้ก็ขอบคุณมากแล้ว ไปเถอะ เข้าบ้านกัน”ต้นกล้าพูดขึ้นด้วยสีหน้ามีความสุขก่อนจะพาดินแดนเข้ามาในห้องรับรอง ซึ่งใช้เป็นห้องแต่งตัวของเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าบ่าว อีกห้องที่อยู่ข้างกันเป็นห้องแต่งตัวของเจ้าสาวกับเพื่อนเจ้าสาว“นี่ชุดพี่ น่าจะใส่ได
ตอนที่ 4 ข่าวน่ายินดีของเพื่อน (2)“มึงนี่เอาแต่กินจริง ๆ อย่างนี้สิถึงไม่มีแฟน” เพื่อนยังแซวต่อถึงสาเหตุที่อีกคนไม่มีแฟนสักทีดินแดนไหวไหล่เป็นคำตอบ แล้วคีบกินเป็ดย่างต่ออย่างเอร็ดอร่อย เขาจะสนใจบนเวที ก็เฉพาะตอนที่เพื่อนขึ้นไปขอบคุณแขกเหรื่อที่มาร่วมงานเท่านั้น ชายหนุ่มมองเจ้าบ่าวและเจ้าสาวที่ช่วยกันจูงมือเดินขึ้นบนเวที ภาพน่ารักอบอุ่นเช่นนี้ ทำให้ดินแดนหลุดยิ้มออกมาฟ้าครามกล่าวขอบคุณแขกในงานที่มาร่วมแสดงความยินดีกับเขา และแล้วเจ้าสาวก็น้ำตารื้นมาในตอนที่เจ้าบ่าวพูดความในใจว่า ดีใจมากขนาดไหนที่ได้มีวันนี้ดินแดนมองแล้วเอาแต่ยิ้มตามไปด้วย ไม่ใช่แค่เขาคนเดียวที่ยิ้ม แต่คนที่นั่งอยู่ด้านล่างเวที ก็คลี่ยิ้มออกมาอย่างห้ามไม่ได้ คนที่มีความรักดี ๆ นี่ เปล่งประกายความสุขออกมาชัดเจน จนทำให้ผู้คนยิ้มตามได้ไม่ยากเลยหลังจากจบพิธีการแล้ว นักร้องและแดนเซอร์ก็กลับขึ้นมาทำหน้าที่ของตัวเองต่อ ส่วนดินแดนก็ก้มหน้าก้มตากินต่อด้วยเหมือนกัน จนกระทั่งใกล้ได้เวลาเลิกงาน แขกที่มาร่วมยินดีกำลังทยอยกลับ จนเหลือแค่ไม่กี่คน ส่วนเพื่อนเจ้าบ่าวและเพื่อนเจ้าสาวนั้นยังอยู่กันครบ เพียงแค่นั่งกันคนละฝั่งเท่านั้น“
ตอนที่ 3 ข่าวน่ายินดีของเพื่อน (1)“มีความสุขมาก ๆ นะครับ” ดินแดนเอ่ยพร้อมกับรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าบ่าว“ขอบใจนะ รีบ ๆ ตามมามีความสุขเหมือนกันนะโว้ย” ฟ้าครามตอบกลับด้วยรอยยิ้มดินแดนอมยิ้มแล้วส่ายหัว ก่อนจะอวยพรและรดน้ำสังข์ลงที่มือของเจ้าสาว ซึ่งเขาเป็นคนสุดท้ายที่รดน้ำสังข์และอวยพรทั้งคู่พิธีการของคู่บ่าวสาวเป็นอันเสร็จสิ้นลงไปอย่างราบรื่น สีหน้าของแขกเหรื่อที่มาร่วมงานมีแต่ความชื่นมื่น เสียงเชียร์ให้หอมให้จูบดังไม่ขาดสาย ไม่ว่าเจ้าสาวจะเขินจนหน้าแดงขนาดไหน ก็ไม่วายที่จะส่งเสียงเชียร์กันอยู่ตลอดงานดินแดนและเพื่อน ๆ ที่มาทำหน้าที่เป็นเพื่อนเจ้าบ่าว เดินเข้าไปร่วมถ่ายรูปกับคู่บ่าวสาว แล้วเปลี่ยนให้ฝ่ายเพื่อนเจ้าสาวเข้ามาถ่ายบ้าง สายตาของดินแดนไม่ได้มองใครเลยสักคน ทั้งที่เพื่อนเจ้าสาวแต่ละคนทั้งสวยและดูดีด้วยกันทั้งนั้น มีบางคนส่งยิ้มทอดไมตรีมาให้ เขาก็แค่ยิ้มกลับไปตามมารยาทเท่านั้นชายหนุ่มเดินมาคว้าแก้วน้ำผลไม้ที่มีบริการอยู่มุมของห้อง กำลังจะยกดื่มดับกระหาย พวกเพื่อนก็พากันเดินเข้ามา ยังไม่ได้ไปร่วมโต๊ะกินเลี้ยงฉลองมงคลสมรสให้กับคู่บ่าวสาว พวกเขาก็มองหาเครื่องดื่มสีอำพันกันแล้ว
ตอนที่ 2 ไม่อยากเจ็บอีก (2)“ไม่ดีกว่าครับ ผมยังไม่อยากมีแฟน” ชายหนุ่มตอบกลับเสียงจริงจัง หากคราวนี้ฟ้าครามยังไม่หยุดคิดที่จะให้เขามีแฟนก็คงไม่รู้จะพูดยังไงแล้ว และก็ดันเป็นอย่างที่เขากังวลไว้เสียด้วย เมื่ออีกฝ่ายยังวกกลับมาเรื่องเดิม“ลองคุยดูก่อน ไปทักทายพูดคุยกันสักคำสองคำก็ยังดี เผื่อไปด้วยกันได้ไง” ฟ้าครามยังคะยั้นคะยออีกครั้ง คนมีความรักที่สุขสมหวัง มักจะมองเห็นแต่ภาพสวยงาม เขาถึงได้หวังดีอยากให้เพื่อนคนนี้มีความสุขแหมือนกันดินแดนมองอีกฝ่ายนิ่ง ๆ กำลังคิดว่าควรจะตัดสินใจเล่าเรื่องบางอย่างให้รุ่นพี่คนนี้ฟังดีไหม เผื่อจะเข้าใจว่าความรักที่เขาเคยเจอมานั้น ทำให้เขาเจ็บช้ำมากแค่ไหน มันมากจนไม่กล้าพาใครสักคนเข้ามาอยู่ในหัวใจอีกแล้วคนถูกมองเลิกคิ้วขึ้นเป็นเชิงถาม ดูจากสีหน้าของดินแดน น่าจะต้องมีบางอย่างที่อัดอั้นและอยากที่จะระบายออกมา“มีอะไรอยากเล่าไหม” ฟ้าครามอดไม่ได้ที่จะถามออกไป“แฟนคนเก่าเขาไม่โอเคกับอาชีพนี้ของผม เพราะต้องย้ายไปอยู่ที่อื่นเรื่อย ๆ ยิ่งจังหวัดไหนที่ไม่ค่อยมีความเจริญ เขายิ่งไม่โอเคที่จะไปอยู่ด้วย” น้ำเสียงของดินแดนมีความเศร้าเจืออยู่ แม้เรื่องจะผ่านมานานพอสมคว
ตอนที่ 1 ไม่อยากเจ็บอีก (1)“ไม่อยากแต่งงานบ้างเหรอ”เสียงของใครบางคนดังขึ้นจากด้านหลัง ทำให้มือของ ‘ดินแดน’ พลันชะงักไป เขาปล่อยมือออกจากกระดุมเสื้อเชิ้ตสีครีมอ่อนก่อนจะหันไปมองเจ้าของคำถามโดยที่ไม่ได้ให้คำตอบอะไร นอกจากส่งยิ้มไปให้เพียงเล็กน้อยเท่านั้น“เลิกกับคนเก่าไปตั้งนานแล้ว ทำไมไม่คบใครบ้างวะ มึงควรจะ มูฟออนได้แล้วนะดิน” ชายคนเดิมยังส่งคำถามออกมา เมื่อไม่มีคำตอบและเพราะเขามัวแต่กำลังสวมเสื้อสูทเข้ากับลำตัว เลยทำให้ไม่เห็นสีหน้าเพื่อนรุ่นน้องที่เวลานี้ใบหน้าเจื่อนลงแล้วเจ้าของคำถามคือ ‘ฟ้าคราม’ เป็นเจ้าบ่าวในวันนี้“หาให้ไหม รับรองว่าสวยถูกใจแน่นอน”ฟ้าครามเงยหน้าขึ้นถามอีกครั้งหลังจากที่ติดกระดุมสูทเรียบร้อยแล้ว เลยอาสาจะหาแฟนให้สักคน เผื่อว่าเพื่อนรุ่นน้องจะได้มีความรักครั้งใหม่สักทีไม่รู้ว่าที่ยังโสดอยู่จนถึงทุกวันนี้ เพราะไม่มีเวลาหาด้วยหรือเปล่า จะว่าไปที่ทำงานของดินแดนก็ไม่สามารถเจอใครได้มากเท่าไรนัก“ไม่เอา” ดินแดนส่ายหน้าและรีบปฏิเสธอย่างไว ราวกับไม่ต้องใช้ความคิดให้เสียเวลาในเรื่องนี้ พอนึกถึงอดีตที่เคยมีแฟนสีหน้าก็เศร้าลงเล็กน้อยอย่างหักห้ามใจไม่ได้ แม้ว่ามันจะผ่า







