"แม่ แม่ค่ะ แม่ฟื้นแล้ว" เพียงขวัญพูดทั้งน้ำตา
"แม่ไม่สบายทำไมแม่ไม่ยอมบอกขวัญค่ะ"
"แม่ไม่เป็นไรหลอกลูกแม่แค่เป็นลมเอง"
"แม่อย่าโกหกขวัญเลยค่ะคุณหมอบอกขวัญหมดแล้ว แม่ค่ะแม่ต้องรักษานะค่ะแม่จะได้อยู่กับขวัญนานๆ"
มาลีมองหน้าลูกสาวด้วยสายตาที่ตื้นตันเธอไม่อยากให้ลูกลำบากเพราะเธอ
"แต่ค่ารักษามันแพงนะลูกเราไม่มีเงิน จะเอาเงินมาจากไหนตั้งมายมาย ขวัญไม่ต้องห่วงแม่นะลูกแม่ไม่เป็นไรหลอก"
"แม่ไม่ต้องห่วงนะค่ะงานพิเศษที่ขวัญทำอยู่เจ้านายขวัญใจดีมากค่ะแม่ขวัญสามารถเบิงเงินมาใช้ก่อนได้เดียวหัวหน้าจะหักเงินในส่วนที่ขวัญจะได้เองแม่ไม่ต้องห่วงนะค่ะ เดียวพรุ่งนี้ขวัญจะเข้าไปคุยกับหัวหน้า แม่ไม่ต้องกังวลเรื่องค่ารักษานะค่ะ ปล่อยให้เป็นหน้าที่ของขวัญเอง แม่ต้องพักผ่อนให้เยอะๆนะค่ะ"
เพียงขวัญพูดเสียงใสพร้อมกับรอยยิ้มเพื่อทำให้แม่รู้สึกสบายใจและไม่ต้องกังวน
เพียงขวัญกลับบ้านไปเก็บเสื้อผ้าเพื่อที่จะมานอนเฝ้าแม่ที่โรงพยาบาลระหว่างที่เธอกำลังนั่งคิดอะไรอยู่เธอก็มองไปเห็นถุงกระดาษมันเป็นถุงใส่เสื้อของลูกค้าที่แม่ตัดเสร็จแล้วมีชื่อติดที่ถุง "เจ้มะนาว" มีความคิดบางอย่างเกิดขึ้นบนหัวของหญิงสาวเธอหยิงถุงกระดาษและไปหาเจ้มะนาวที่คลับ
คลับXXX
"เจ้มะนาวครับมีคนมาหาครับ" เด็กเสิร์ฟในคลับเดินมาหาเจ้มะนาว
"ใครมาหาฉัน"
"ผู้หญิงครับ เธอรอเจ้อยู่ตรงหน้าประตูทางเข้าครับ"
"เธอบอกไมว่ามาทำไมมีธุระอะไร"
"เธอบอกว่าเอาชุดมาให้เจ้ครับ"
เจ้มะนาวรู้ทันทีว่าคนที่มาหาเธอเป็นใครเธอจึงเดินไปหาทันที
"ขวัญ..."
เพียงขวัญที่กำลังยืนหันหลังอยู่เมื่อได้ยินเสียงเรียกเธอจึงหันไปตามเสียงเรียกนั้นทันที
"สวัสดีค่ะพี่มะนาว"
"วาไงทำไมไม่เข้าไปข้างในหละ"
"ขวัญมีธุระจะพูดกับพี่มะนาวค่ะ"
"งั้นเหรอ งั้นมาทางนี้ตามพี่มา" เพียงขวัญเดินตามไปมันเป็นห้องที่ไม่มีใคร
"นั่งซิขวัญ ว่าไงเรามีอะไรจะคุยกับพี่่"
"พี่มะนาวค่ะ คือว่าตอนนี้แม่ป่วยหนักต้องเข้ารับการผ่าตัดด่วนขวัญต้องการหาเงินซักก้อนเพื่อใช้เป็นค่าผ่าตัดรักษาอาการป่วยของแม่ค่ะ" เพียงขวัญพูดทั้งน้ำตากำมือทั้งสองบีบกันไว้แน่น
"ขวัญว่าไงนะพี่มาลีป่วยหนักอย่างนั้นหรือ" เจ้มะนาวมองหน้าของสาวน้อยตรงหน้าด้วยความสงสารเธอใช้มือเอื้อไปแตะมือของหญิงสาวตรงหน้าเบาๆ
"ขวัญไม่เป็นไรนะพี่มาลีจะต้องหาย" เธอปลอดหญิงสาว
"คุณหมอบอกว่าแม่ต้องรักษาโดยเข้ารับการผ่าตัด ซึ่งค่ารักษาสองแสนบาทมันเป็นเงินไม่น้อยเลยสำหรับขวัญ"
เพียงขวัญพูดทั้งน้ำตา
"ขวัญอยากทำงานค่ะพี่มะนาวพอจะช่วยขวัญได้ไมค่ะขวัญต้องการเงินสองแสนไปเป็นค่าผ่าตัดรักษาแม่"
"ขวัญแน่ใจนะว่าจะทำจริงๆ ขวัญรู้ใช่ไมว่าเด็กสาวที่นี่เขาทำอะไรถึงจะได้เงินเยอะขนาดนั้น" เจ้มะนาวมองหน้าหญิงสาวตรงหน้าด้วยความสงสารเพียงขวัญเป็นเด็กดีกตัญญูเธอก็ไม่อยากให้เพียงขวัญทำงานแบบนี้หรอกแต่เธอก็ไม้มีเงินมากพอทีจะช่วยเด็กสาวตรงหน้านี้ได้
"ได้เดี่ยวพี่จัดการให้ขวัญพร้อมวันไหน"
"พรุ้งนี้เลยค่ะพี่ ขวัญไม่มีเวลาแล้วตอนนี้อาการของแม่หนักมากเลย"
"โอเค เดียวพรุ่งนี้ขวัญพร้อมก็เข้ามาได้เลยเดี่ยวพีนัดลูกค้าไว้ให้"
เจ้มะนาวเข้าไปหาไมเคิ้ลเธอแจ้งรายละเอียดของเพียงขวัญเพื่อหาเสี่ยมือหนักใจปั้มแต่ต้องการคนที่คิดว่าดีที่สุดเพราะเธอเองก็รู้สึกสงสารเด็กสาวในโชคชะตาที่ต้องมาเจอเรื่องเลวร้ายแบบนี้
ห้องทำงานหรูขุนเขานั่งทำงานอยู่ที่โต๊ะทำงาน
คลื่น.... คลื่น...เสียงโทรศัพท์ดังขี้น
"ว่าไงวะ มึงมีธุระอะไรโทมาหากูตอนนี้วะ ....วันนี้กูงานยุ้งคงไปดื่มกับมึงไม่ได้"ขุนเขาบอกกับเพื่อนออกไปก่อนที่อีกคนจะพูด
"ไม้รู้ซิวะ กูมีเด็กใหม่คนหนึ่งกูเห็นแล้วสงสารวะ สวยที่สำคัญยังซิง เธอต้องการเงินเพื่อไปรักษาแม่ ไม่รู้เป็นไงกูเห็นหน้าผู้หญิงคนนี้แล้วกูคิดถึงมึงขึ้นมา มึงลองเข้าไดูรูปเธอเดี่ยวกูส่งไปให้ เผื่อมึงจะสนใจ" ไมเคิ้ลบอกเพื่อนออกไป เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมต้องโทมาบอกขุนเขาเพราะปกติแล้วเขาก็รู้ดีวาเพื่อนของเขาไม่ชอบผู้หญิงแบบนี้
"อะไรของมึงวะ ถ้ามึงจะพูดแค่นี้กูวางนะโว้ยมึงก็รู้ว่ากูไม่สนใจเรื่องแบบนี้"
"เออๆกูส่งรูปของผู้หญิงไปให้มึงดูแล้ว มึงดูเองแล้วกัน"
"ถ้าสวยจริงทำไมมึงไม่เอาเองวะ มาบอกกูทำไม"
"ก็กูมีแฟนอยูแล้วแต่มึงโสดนี่หว่า เอาๆถ้ามึงไม่สนเดียวกูจะหาเสียใจปั้มซักคนให้น้องเขาก็ได้"
ไมเคิ้ลวางโทรศัพท์เสียงข้อความในมือถือของขุนเขาก็ดังขึ้น ขุนเขากะว่าจะวางโทรศัพท์ลงแล้วแต่อยู่ดีๆมือของเขาก็กดเปิดดูข้อความในมือถือที่่เพื่อนส่งมาให้เขามองดูรูปผู้หญิงที่เพื่อนส่งมา ตอนแระแค่มองผ่านๆแต่แล้วเขาต้องหันกลับมามองหน้าผู้หญิงในรูปอีกครั้ง "เพียงขวัญ" เขาจำชื่อเธอได้ ใบหน้าคมเข้มมองรูปตรงหน้าอย่างมีความหมายดีนะที่เขาเปิดดูรูปของเธอก่อนไม่อย่างนั้นเขาคงรู้สึกเสียใจเป็นแน่ซึ่งเขาก็ไม่เข้าใจตัวเองเหมือนกัน ขุนเขารีบโทรศัพท์กับไปหาไมเคิ้ลทันที
โรงพยาบาล
เพียงขวัญมาเฝ้าแม่ตอนเช้าเธอไปเรียนที่มหาลัย
คลื่น...คลื่น....เสียงโทรศัพท์ของเพียงขวัญดังขึ้น
"สวัสดีค่ะ พี่ณดล"
"ขวัญ เป็นไงบ้างช่วงนี้เราเงียบไปเลยนะ เป็นอะไรรึเปล่า"
"ไม่เป็นไรค่ะ ช่วงนี้ขวัญเรียนหนักค่ะ ใกล้สอบแล้วต้องอ่านหนังสือ พี่ณดลมีอะไรรึเปล่าค่ะ"
"พอดีคุณลินดาเธอโทรมาหาพี่ บอกเรื่่องทางผู้ใหญ่อยากให้ทีมโชว์ของเราร่วมงานกับบริษัทของเขาพี่รับปากไปแล้วเลยโทรมาบอกขวัญ"
"จริงหรือค่ะพี่ณดล ดีจังเลยค่ะ"
"เขาบอกวันหยุดเสาร์อาทิตย์โชว์วันละหนึ่งรอบ เริ่มงานวันเสาร์นี้นะขวัญอย่าลืมหล่ะ แล้วเจอกัน"
"ค่ะพี่ณดล แล้วเจอกันค่ะ"
เมื่อวางสายจากณดล
"ขวัญแม่แกเป็นยังไงบ้างวะ วันนี้ฉันต้องไปตลาดซื้อของให้แม่เดียวพรุ่งนี้ฉันเข้าไปเยี่ยมแม่แกที่โรงพยาบาลนะ ฝากบอกแม่ด้วยนะ" อนงค์ถามเพื่อนด้วยความเป็นห่วงและรู้สึกสงสารเพื่อนรักที่ต้องเจอกับเรื่องร้ายๆแบบนี้
"จ๊ะ "
"แกจะไปโรงพยาบาลหาแม่เลยมั้ยวันนี้"
"ไปฉันจะแวะเข้าไปดูแม่ก่อน"
"โอเคร งั้นเอาไว้พรุ่งนี้เจอกันนะ ฉันไปก่อนละ แล้วเจอกัน.....บ๊าย"
"แล้วเจอกัน บ๊ายจ๊ะ..."
โรงพยาบาล
ระหว่างที่เพียงขวัญกำลังเดินจะถึงห้องพักผู้ป่วยที่แม่อยู่ เธอก็เห็นผู้หญิงมีอายุแต่งตัวดูดีเดินออกมาจากห้องพักของแม่พร้อมกับผู้หญิงอีกคนที่เธอมองการแต่งตัวแล้วเหมือนแม่บ้านหรือผู้ติดตามเพราะเธอเดินตามหลังพร้อมทั้งยังถือกระเป๋าให้ผู้หญิงคนที่เดินนำหน้าซึ่งเมื่อเดินสวนทางกับเพียงขวัญเห็นผู้หญิงคนนั้นหยุดมองเธอนิดหนึ่งก่อนจะเดินจากไป
หญิงสาวลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอนที่ถูกเตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะชุดนอนสายเดี่ยวสีขาวพริ้วบางแทบจะปิดอะไรเธอไม่ได้เลยเธอเข้าใจในความคิดของผู้ใหญ่ที่เลือกชุดนี้ไว้ให้เธอ ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำและล็อคประตูทันทีหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเธอจะทำยังไงดี แต่เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่เขาจะ.....กับเธอ ใช่เขามีสิทธิ์ในตัวเธอ แค่คิดใบหน้านวลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีหญิงสาวรีบสลัดความคิดนี้ออกไปก่อนและรีบจัดการอาบน้ำให้เสร็จและหยิบชุดนอนมาใส่แต่ชุดมันบางมากจนเธอต้องมองหาอะไรมาปิดมันเอาไว้เพราะคงไม่เป็นการดีแน่ถ้าเธอจะใส่ชุดนี้ออกไปให้เขาเห็นเขาคงจะคิดว่าเธออ่อยเขาแน่นอนและแล้วสายตาก็แลไปเห็นเสื้อคลุมแขวนอยู่เธอจึงหยิบมาสวมทับชุดนอนไว้ เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาเธอก็ต้องรู้สึกชาวูบไปทั้งตัวเมื่อเห็นสายตาคมที่จ่องมองมาที่เธอด้วยสายตาเจ้าเลห์เขายิ้มที่มุมปากทำเอาเธอร้อนวูบไปทั้งตัว เธอเดินอ้อมมายังอีกฝั่งของเตียงนอนจากนั้นก็ค่อยๆนั่งลงสายตาชำเลืองมองดูชายหนุ่มก่อนจะล้อมตัวลงนอนแล้วรีบดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่างกายของเธอเอาไว้จนมิดถึงคอขุนเขามองอาการของหญิงสาวแล้
ขุนเขามองหน้าเพียงขวัญสายตาที่เขามองมาเหมือนจะคาดโทษเธอไว้และสลับกับมองหน้าของ ณดล ชัดๆที่ตอนนี้จ่องเขาอยู่ สายตาคมจ่องตอบเช่นกัน ณดลมองหน้าเจ้าบ่าวเขม็งไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ณดลทำทีเหมือนกับว่าตนเหนือกว่าขุนเขาเพราะเขารู้จักเพียงขวัญมาก่อนที่เธอจะมาแต่งงาน"คุณมีอะไรสำคัญคุยกับภรรยาของผมอย่างนั้นหรือครับถึงต้องหลบมาคุยกันสองต่อสองในที่ลับตาคนแบบนี้"ขุนเขาพูดเสียงเข้มปนดุมองหน้าณดลและหันกลับมามองหน้าเพียงขวัญ"เออ..คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะนี่พี่ ณดลพี่เขาก็แค่มาแสดงความยินดีด้วยก็แค่นั้นเองค่ะ""ขอโทษด้วยนะครับพอดีเรื่องที่ผมคุยกับขวัญเรารู้กันแค่สองคนไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้ด้วยได้" ฌดล พูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังเข้าใจไปได้หลายทาง ขุนเขาเดินไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ถูกที่ได้ยิน ณดล พูดออกไปอย่างนั้น ขุนเขาเมื่อเดินมาถึงหญิงสาวก็ใช้มือโอบไหล่ดึงหญิงสาวเข้ามาประชิดตัวก่อนจะโน้มหน้าคมมาเกือบจะชนแก้มพร้อมใบหน้ายกยิ้มและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเข้มจริงจังอย่างผู้เหนื่อกว่าว่าเขามีสิทธิ์ในตัวเธอ"แต่ผมกับภรรยาเราสองคนอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเราก็จะกลายเป็นคนๆเดียกันแล้วเราคงไม่มีเรื่องอะไรต้อง
"คุณ..นี่คุณปล่อยปล่อยฉันเดินเองได้" ขุนเขาไม่ฟังเสียงของเธอเขาใช้แรงดึงให้เธอเดินตามเขามายังร้านอาหารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านเพชรเท่าไหร่นัก"นั่งลงแล้วไม่ต้องพูดอะไรฉันหิวแล้ว" ขุนเขาจับเธอนั่งเก้าอี้แล้วเขาก็เดินอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอเขาสั่งอาหารโดยไม่สนใจอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังทำหน้าหงิกหน้างอด้วยความไม่พอใจในความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย เมื่ออาหารยกมาเสิร์ฟ เขาสั่งอาหารมาเยอะแยะราวกับกินกันหลายคนเธอมองหน้าเขาที่ตั้งหน้าตั้งตาทานอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจเธอเลย"นี่คุณทำไหมสั่งมาเยอะแยะขนาดนี้กินกันแค่สองคนเองแล้วจะกินหมดไหมเนี่ย""ก็ผมหิวกินๆไปเถอะ ไม่หมดเดียวเขาก็เทให้หมามันกิน" ชายหนุ่มพูดโดยไม่สนใจเธอเขายังคงตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อย"คุณนี่...ออ..ฉันลืมไปว่าคุณรวยแค่นี้ขนหน้าแข่งคุณคงไม่ล่วงหรอก....พวกคนรวยใช้เงินยังกับใบไม้"เธอพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันจนคนฟังต้องเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับอมยิ้มพอใจกับท่าทางของหญิงสาวทานข้าวเสร็จเขาชวนเธอไปดูหนังต่อแต่เธอไม่ยอมไปบอกอยากกลับบ้านเขาเลยต้องตามใจเพราะไม่อยากจะบังคับเธอเกินไปทั้งที่จริงแล้วเขาอยากทำความรู้จักและใกล้ชิดกับเธอให้มากก
บ้านอัครเดช"ขวัญ มาหาย่าซิลูก""ค่ะคุณย่า มีอะไรหรือเปล่าค่ะ""เดียววันนี้ประมาณสี่โมงเช้า คุณขุนเขาโทรศัพท์มาบอกว่าจะมารับหนูไปลองชุดแต่งงานเตรียมตัวไว้ด้วยนะ""ค่ะ..คุณย่าบอกเขาได้ไหมค่ะว่าขวัญจะไปเองแค่บอกสถานที่มาไม่ต้องให้เขามารับขวัญก็ได้ ""คุณขุนเขาบอกจะมารับเองให้หนูรออยู่ที่บ้าน ย่าว่าหนูทำตามที่เขาบอกเถอะลูก""ค่ะคุณย่า"ไม่นานรถสปอร์ตคันหรู สีดำ ก็มาจอดอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลาราวเทพบุตรก็ก้าวลงจากรถการแต่งตัวในวันสบายๆที่ไม่เป็นทางการด้วยเสื้อเชิตราคาแพงสีฟ้าครามแขนยาวพับมาครึ่งแขนเผยให้เห็นกล้ามแขนที่แข็งแรงและสีผิวขาวอย่างคนรักสุขภาพนิ้วเรียวงามราวกับผู้หญิงบนข้อมือใส่นาฬิกายี้ห้อดังเสื้อทับในกางเกงพร้อมเข็มขัดหนังราคาแพง แค่การแต่งตัวธรรมดาสำหรับชายหนุ่มแต่ไม่ธรรมดาสำหรับใครหลายๆคน มันทำให้ชายหนุ่มยิ่งดูดี ดูเนียบไร้ที่ติเลยจริงๆ สาวใช้ที่เดินมาต้อนรับมองชายหนุ่มด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะพาเข้าไปในบ้านเมื่อถึงห้องรับแขกคุณพิศมัยและคุณวิโรจน์ก็นั่งรออยู่แล้ว"สวัสดีครับ" ขุนเขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความเคารพแต่ท่างทางของเขายังคงดูน่าเกรงขาม"สวัสดีครับ
วิโรจน์เรียกเพียงขวัญมาพบที่ห้องทำงานและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพียงขวัญฟังเพียงขวัญเมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดตอนแรกเธอคิดปฏิเสธแต่คิดดูดีๆแล้วเธอก็ไม่อยากเห็นธุรกิจของพ่อล้มละลายท่านเป็นผู้มีพระคุณทั้งส่งเสียเธอเรียนจนจบและยังช่วยเหลือดูแลรักษาแม่ของเธอเป็นอย่างดีเธอจึงยอมตกลงที่จะแต่งงานกับขุนเขาคนที่พ่อบอกว่าเขาจะช่วยเหลือธุรกิจของครอบครัวทุกอย่าง"แน่ใจหรือลูกว่าลูกจะยอมแต่งงานกับคุณขุนเขาจริงๆ ถ้าลูกไม่เต็มใจก็ปฏิเสธได้นะพ่อไม่บังคับ แล้วพ่อจะคิดหาวิธีอื่นแก้ไขก็ได้ลูก""ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อขวัญตัดสินใจแล้วค่ะ คุณพ่อบอกทางนั้นได้เลยว่าเรายินดีทำตามข้อตกลง ""ขอบใจมากนะลูก ลูกสาวของพ่อน่ารักพ่อเชื่อว่าคุณขุนเขาต้องรักเอ็นดูลูกสาวของพ่อแน่นอนและที่สำคัญพ่อคิดว่าเขาเป็นคนดี" วิโรจน์พูดพร้อมทั้งใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวของเพียงขวัญเบาๆด้วยความรักความเอ็นดูเพียงขวัญมองหน้าของพ่อด้วยใบหน้าที่บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเต็มใจยอมแต่งงานจริงๆหลังจากคุยกับพ่อเสร็จเพียงขวัญก็ขอกลับไปหาแม่ที่บ้านเพื่อเยี่ยมท่านซึ่งคุณวิโรจน์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอต้องการไปหาแม่ตอนไหนก็ได้ใจจริงแล้วเขาอยากจะรับทั้งมาลีมาอยู่ด้วยก
"กูว่าช่วงนี้มึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษหวะ" ไมเคิ้ลถามเพื่อนเพราะเขารู้สึกแปลกๆ"ก็ไม่มีอะไรกูก็เหมือนเดิม""ไม่จริงมัง..มีเรื่องอะไรรึเปล่าที่กูยังไม่รู้หรือตกข่าวบอกกูมาชะดีๆ"ขุนเขานึกถึงคำพูดของเขากับแม่เมื่อหลายวันก่อน"แม่กับพ่อก็อายุมากแล้วไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อุ้มหลานเหมือนคนอื่นๆเขาไหม ถ้าลูกไม่ชอบหนูวิภา ลูกก็หาผู้หญิงที่ถูกใจซักคนมาแต่งงานด้วยแม่กับพ่อจะได้อุ้มหลานชะที ""ถ้าผมบอกคุณแม่ว่าตอนนี้ผมเจอผู้หญิงที่ถูกใจแล้วหละคุณแม่จะไปสู่ขอให้ผมได้ไหมครับ""จริงหรือลูกใครกันลูกสาวบ้านไหนบอกแม่มาซิลูก"คุณสุดามีสีหน้าตื่นเต้น"ลูกสาวคนโตของคุณวิโรจน์ อัครเดชกับภรรยาเก่าเธอชื่อเพียงขวัญครับ ผมอยากแต่งงานกับเธอถ้าไม่ใช่เธอผมก็ไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น" คำพูดที่มุ่งมั่นมั่นคงและแฝงไว้ด้วยต้องได้เท่านั้น"ลูกสาวคนโตของคุณวิโรจน์แม่เหมือนจะเคยเจอครั้งหนึ่งตอนที่เธอไปออกงานกับคุณวิโรจน์เธอก็สวยน่ารักดีนะ แต่ว่าลูกเคยเจอและคุยกันเหรอ""เปล่าครับผมก็แค่เคยเจอเธอและเคยคุยกันครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว..." ขุนเขาบอกกับผู้เป็นแม่"อ้าว...แล้วแบบนี้ลูกสองคนยังไม่รู้จักกันเลยแล้วจะให้แม่ไปขอแล้วถ้าเกิด