เพียงขวัญสาวน้อยที่เกือบต้องขายตัวเพื่อหาเงินมารักษาแม่ที่ป่วย แต่โชคชะตาก็พลิกผันเธอรู้เรื่องชาติกำเนิดของตัวเองแท้ที่จริงเธอมีพ่อเป็นถึงเจ้าของบริษัทใหญ่โต แต่แล้วโชคชะตาหรือพรมลิขิตทำให้เธอต้องแต่งงานกับขุนเขาหนุ่มหล่อมาดเข้มผู้ไม่เคยเชื่อมั่นในความรัก เขาและเธอจะประครองรักครั้งนี้ได้หรือไม่
View Moreเพียงขวัญ สาวน้อยวัย 19 ปี เธอเป็นผู้หญิงที่จัดว่าสวยผิวขาวสะอาดสะอ้าน ตาโต ริมฝีปากอวบอิ่มเป็นสีชมพู หุ่นสวยทุกอย่างที่รวมเป็นเธอมันช่างดูเพอร์เฟคชะทุกอย่าง ถึงแม้ว่าเธอจะเกิดมาในครอบครัวที่มีฐานะยากจนเธออาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังโดยเธอไม่เคยรู้เลยว่าพ่อของเธอเป็นใคร แม่บอกเพียงว่าพ่อกับแม่เลิกรากันไปตั้งแต่ตอนที่เธอยังเด็กมาก และเธอเองก็ไม่เคยถามเราะทุกครั้งพูดถึงพ่อแม่จะมีสีหน้าที่เศร้าเธอจึงไม่เคยที่จะถามเกี่ยวกับเรื่องพ่ออีกเลยเพราะเธอกลัวจะทำให้แม่ไม่สบายใจ เพียงขวัญจึงอาศัยอยู่กับแม่เพียงลำพังสองคน มาลีแม่ของเธอมีอาชีพเป็นช่างเย็บผ้าซึ่งฝีมือการเย็บผ้าของแม่ถือว่าเป็นมืออาชีพเพราะแม่เคยเป็นช่างตัดเย็บในห้องเสื้อชื่อดังมาก่อนแต่หลังจากที่ได้เลิกลากับพ่อแม่ก็ได้ลาออกจากงานและพาเธอย้ายมาอยู่บ้านเช่าแห่งนี้ เธออาศัยอยู่กับแม่ที่บ้านเช่าไม้สองชั้นหลังเล็กนี้ตั้งแต่เด็กจนโตเท่าที่จำความได้ แม่รับจ้างเย็บผ้าอยู่ที่บ้านพอให้มีรายได้อยู่บ้างถึงไม่มากแต่ก็สามาถที่จะส่งเสียให้เธอเรียนได้จนจบชั้นมัธยมและตอนนี้เธอกำลังจะสอบเข้ามหาวิทยาลัยของรัฐบาลแห่งหนึ่ง
“แม่คะ แม่ค่ะ” เสียงหวานของเพียงขวัญเรียกผู้เป็นแม่น้ำเสียงเต็มไปด้วยความดีใจ
“ว่ายังไงลูกเสียงดังมาแต่ไกลเชียวนะเรา”มาลีซึ่งกำลังนั่งเย็บผ้าอยู่ต้องวางมือและเงยหน้าขึ้นมองลูกสาว
เพียงขวัญกอดผู้เป็นแม่ “แม่ค่ะขวัญสอบติดเข้ามหาลัยได้แล้วค่ะ” เพียงขวัญสอบติดคณะบริหารธุรกิจมหาวิทยาลัยของรัฐบาลแห่งหนึ่ง
“เก่งมากลูกสาวแม่” มาลีส่งยิ้มให้กลับลูกสาวแต่แววตาก็ยังมีความกังวนอยู่บ้างเพราะการเรียนต่อในระดับมหาวิทยาลัยมันต้องใช้เงิน แต่เธอก็อยากให้ลูกสาวได้เรียนสูงๆเพื่อจะได้มีงานดีๆทำ เพียงขวัญมองหน้าผู้เป็นแม่เธอเข้าใจว่าแม่ของเธอต้องคิดเรื่องค่าใช้จ่ายในการเรียนครั้งนี้อย่างแน่นอน
“แม่ค่ะแม่ไม่ต้องห่วงเรื่องค่าใช้จ่ายนะค่ะขวัญจะทำงานและเรียนไปด้วยเพื่อแบ่งเบาภาระของแม่เมื่อเรียนจบแล้วขวัญจะเป็นคนดูแลแม่เองค่ะแม่จะได้ไม่ต้องเหนื่อยอีก”
“แม่รู้ว่าลูกสาวของแม่เก่งและเป็นเด็กดีแต่ขวัญจะไปทำงานอะไรละลูกแม่กลัวว่าขวัญจะเหนื่อยทั้งทำงานและเรียนไปด้วยมันจะไหวหรือลูก”มาลีพูดเอามือลูบหัวของลูกสาวอันเป็นที่รักในขณะที่เพียงขวัญยังกอดผู้เป็นแม่เอาไว้
“ไหวซิค่ะแม่ขวัญโตแล้วนะค่ะแถมขวัญยังเป็นลูกสาวของแม่ที่ทั้งเก่งและเป็นแบบอย่างให้ขวัญมาตลอดแค่นี้สบายมากค่ะแม่ไม่ต้องเป็นห่วงขวัญนะค่ะ” เพียงขวัญพูดเสียงใสพพร้อมส่งยิ้มหวานให้กับผู้เป็นแม่
มหาวิทยาลัยฺBBBB
วันแรกของการเปิดเรียนหญิงสาวในชุดนักศึกษาเสื้อพอดีตัวเผยให้เห็นอกเต่งตึงภายใต้เสื้อตัวจิ๋วทั้งที่ไม่เคยผ่านมือหมอและกระโปรงเข้ารูปเหนือเขาเผยให้เห็นขาขาวเรียวสวยได้รูปส่งผลให้คนร่างเล็กแต่มีส่วนเว้าส่วนโค้งที่สมบูรณ์แบบ
“เพียงขวัญ เพียงขวัญ รอฉันด้วย” เสียงของอนงค์เพื่องรักเพียงคนเดี่ยวที่เพียงขวัญมี อนงค์สอบเข้าเรียนมหาลัยเดียวกันกับเพียงขวัญและเลือกเรียนคณะเดียวกัน
“อนงค์ฉันนึกว่าแกจะมาก่อนฉันนะเนี่ย” เพียงขวัญยิ้มให้กับเพื่อนสาว
ระหว่างเดินไปยังอาคารเรียนอนงค์ก็นึกได้เรื่องที่เพียงขวัญให้ช่วยหางานให้เธอหลังเลิกเรียนเพื่อหารายได้เสริม
“นี่ขวัญงานที่แกให้ฉันช่วยหานะมีอยู่งานหนึ่งน่าสนใจนะโว้ยเงินดีแต่ว่าแม่แกจะยอมให้แกทำไมก็เท่านั้นนะ”อนงค์บอกเพียงขวัญ
“งานอะไรของแกวะ”เพียงขวัญรู้สึกแปลงใจ
“งานอาชีพนางเงือกโชว์ ฉันเห็นว่าแก่ว่ายน้ำ และก็ดำน้ำเก่ง พอดีฉันมีพี่ชายที่เป็นลูกพี่ลูกน้องกันเขาทำงานอยู่ที่คณะเงือกโชว์เขาเล่าให้ฟังนะว่าเขาต้องการนางเงือกโชว์คนของเค้าไม่พอทำเฉพาะช่วยวันหยุดหรือช่วงมีคนจ้างไปแสดงโชว์ตามงานต่างๆที่สำคัญเงินดีมากนะ”
เพียงขวัญนิ่งไปครู่หนึ่ง “น่าสนใจดีนะตกลงฉันจะลองไปสมัครดู แล้วฉันจะต้องทำอะไรยังไงบ้างพี่แกเล่าให้ฟังไหม”
“ถ้าแก่ตกลงทำเดียวอาทิตย์หน้านี้เราไม่มีเรียนฉันพาแกไปหาพี่ชายฉันกัน”อนงค์บอกกับเพียงขวัญ
“ตกลงแต่ตอนนี้ฉันว่าเรารีบเข้าเรียนกันก่อนดีกว่า”เพียงขวัญพูดกับอนงค์จากนั้นสองสาวก็พากันเดินขี้นอาคารเรียน
รถยุโรปสีดำคันหรูขับวิ่งมาจอดหน้าโรงแรมระดับห้าดาวชายหนุ่มหน้าตาหล่อคมเข้มดูดีสวมชุดสูทราคาแพงก้าวลงจากรถเมื่อลูกน้องคน สนิทเปิดประตูให้
“นายเชิญครับ”ต้นลูกน้องคนสนิทเอยบอกเจ้านายหนุ่ม
ขุนเขาชายหนุ่ม อายุ 28 ปี เจ้าของทายาทธุรกิจโรงแรมและห้างสรรพสินค้ารายใหญ่ของประเทศซึ่งมีอยู่หลายสาขาทั้งในและต่างประเทศ ขุนเขารับช่วงต่อธุรกิจจากบิดาในการเข้ารับหน้าที่เป็นผู้บริหารใหญ่ เขาเป็นผู้ชายรูปร่างสูงขาว หุ่นนายแบบ หน้าตาหล่อคมเข้มหาที่ติไม่ได้ด้วยรูปร่างหน้าตาราวกับเทพบุตร ทำให้เขาเป็นที่หมายปองของหญิงสาวทั้งประเทศแค่เขากวักมือเรียกแม่สาวๆเหล่านั้นก็พร้อมที่จะมอบกายให้เขาบนเตียงแต่ว่าเขากลับไม่เคยสนใจในตัวผู้หญิงคนไหนมาก่อนในชีวิตและเขาคิดว่าความรักไม่มีอยู่จริง ผู้หญิงทุกคนก็เห็นแก่เงินเหมือนกันหมด มีแต่แม่ของเขาที่คอยแต่จะหาคู่ให้กับเขาอยู่ตลอดเวลาเมื่อชายหนุ่มเข้ามานั่งที่โต๊ะทำงานได้ไม่นาน
ก๊อกๆ เสียงประตูห้องทำงานก็ดังขึ้น
"เข้ามา วาไงคุณลินดา"
"ท่านประธานค่ะเที่ยงวันนี้ท่านมีนัดทานข้าวกับคุณเดวิดที่ร้านอาหารNNNค่ะ" ลินดาเลขาสาวสวยแจ้งผู้เป็นเจ้านายหนุ่ม
ขุนเขาพยักหน้าตอบรับโดยไม่ได้มองหน้าหล่อนแล้วบอกให้เธอออกไป
คลื่น คลื่น เสียงโทรศัพท์ของขุนเขาดังขึ้น
“ครับแม่ ผมไม่ว่างครับเที่ยงนี้ผมมีนัดทานข้าวคุยธุระกับลูกค้าเอาไว้วันหลังนะครับ...แม่ก็รู้ว่ามันเสียเวลาเปล่าผมไม่สนใจ”
“ขุนเขาแต่หนูวิภาวีเขาสวยหน้ารักมากเลยนะลูกอีกอย่างหนูวิภาวีก็เพิ่งเรียนจบมาจากต่างประเทศเลยนะลูกแม่อยากให้ลูกทำความรู้จักกับน้องเอาไว้”
“เอาไว้คราวหน้านะครับแม่แค่นี้นะครับ”ขุนเขารีบวางสายตัดบทสนสนากับผู้เป็นแม่ทันที
ตูด ตูด
สิ้นเสียงโทรศัพท์ขุนเขาก็สายหัว ก้มหน้าทำงานต่อเมื่อถึงเวลาใกล้นัดเขาลุกจากเก้าอี้หยิบเสื้อสูทหรูราคาแพงมาใส่ก่อนออกจากห้องทำงานไป
คลับXXX
เมื่อเสร็จงานขุนเขาก็มายังคลับหรูแห่งหนึ่งซึ่งเป็นของไมเคิ้ลเพื่อนรักของเขาเมื่อเขามาถึงพนักงานก็รู้งานรีบพาเขาไปยังห้องวีไอพีซึ่งอยู่ชั้นสองของคลับซึ่งห้องนี้จะมองเห็นห้องข้างล่างได้ทุกมุม
“ขุนเขามึงเป็นอะไรวะหน้าตามึงดูเคียดๆนะโว้ย”ไมเคิ้ลเอ๋ยถามเพื่อน
“เดียวกูหาเด็กสาวๆสวยๆมาคอยดูแลมึงหน่อยดีกว่าเผื่อมึงจะอารมณ์ดีขึ้นมาบ้าง” ไมเคิ้ลถามเพื่อน ทั้งที่รู้ว่าขุนเขาไม่เคยเลยที่จะมองผู้หญิงแบบนี้หรือแบบไหนก็ตาม ตั้งแต่เขาจำความได้ ขุนเขาเป็นชายหนุ่มรูปหล่อ แต่มีนิสัยเย็นชาสาวๆวิ่งเข้าหาตลอดแต่กลับไม่ยอมสนใจใครเป็นพิเศษ
“กูเบื่อวะ แม่ชอบจับคู่หาผู้หญิงมาให้กูตลอด”
"แม่มึงคงอยากอุ้มหลาน ความจริงกูว่ามึงน่าจะคบใครสักคนและแต่งงานได้แล้วนะ เพื่อนๆส่วนใหญ่แต่งงานบางคนก็มีลูกกันแล้วนะโว้ย"
"แต่กูไม่อยากแต่ง"
“มึงจะเครียดไปทำไมมึงก็ยอมๆทำตามใจแม่มึงดิลองคบไปก่อน ไปกันไม่ได้จริงๆมึงก็หยุด มึงเป็นผู้ชายนะโว้ยไม่มีอะไรต้องเสียมีแต่ได้กับได้”ไมเคิ้ลใช้มือตบไปที่ไหล่เพื่อนเบา
ขุนเขานั่งดื่มเหล้าระหว่างนั้นเขาก็เพ่งมองไปยังชั้นล่างของคลับสายตาของเขาก็ไปสะดุดที่หญิงสาวร่างเล็กในชุดเสื้อยืดสีขาวตัวเล็กพอดีตัวกับกางเกงยีนส์เข้ารูปหน้าตาสะสวยผิวขาวสะอาดสะอ้านซึ่งดูจากชุดแล้วหล่อนคงไม่ได้มาเที่ยวอย่างแน่นอนเพราะในมือของหล่อนถือของพลุงพลังและการแต่งกายที่ไม่ใช่แบบที่มาเที่ยวในสถานที่แบบนี้
หญิงสาวลุกเดินไปหยิบผ้าเช็ดตัวและชุดนอนที่ถูกเตรียมไว้เพื่อเธอโดยเฉพาะชุดนอนสายเดี่ยวสีขาวพริ้วบางแทบจะปิดอะไรเธอไม่ได้เลยเธอเข้าใจในความคิดของผู้ใหญ่ที่เลือกชุดนี้ไว้ให้เธอ ก่อนจะรีบเดินเข้าห้องน้ำและล็อคประตูทันทีหัวใจดวงน้อยเต้นไม่เป็นจังหวะเธอจะทำยังไงดี แต่เธอกับเขาแต่งงานกันแล้วมันก็ไม่ใช่เรื่องผิดที่เขาจะ.....กับเธอ ใช่เขามีสิทธิ์ในตัวเธอ แค่คิดใบหน้านวลก็เปลี่ยนเป็นสีแดงระเรื่อขึ้นมาทันทีหญิงสาวรีบสลัดความคิดนี้ออกไปก่อนและรีบจัดการอาบน้ำให้เสร็จและหยิบชุดนอนมาใส่แต่ชุดมันบางมากจนเธอต้องมองหาอะไรมาปิดมันเอาไว้เพราะคงไม่เป็นการดีแน่ถ้าเธอจะใส่ชุดนี้ออกไปให้เขาเห็นเขาคงจะคิดว่าเธออ่อยเขาแน่นอนและแล้วสายตาก็แลไปเห็นเสื้อคลุมแขวนอยู่เธอจึงหยิบมาสวมทับชุดนอนไว้ เมื่อเปิดประตูห้องน้ำออกมาเธอก็ต้องรู้สึกชาวูบไปทั้งตัวเมื่อเห็นสายตาคมที่จ่องมองมาที่เธอด้วยสายตาเจ้าเลห์เขายิ้มที่มุมปากทำเอาเธอร้อนวูบไปทั้งตัว เธอเดินอ้อมมายังอีกฝั่งของเตียงนอนจากนั้นก็ค่อยๆนั่งลงสายตาชำเลืองมองดูชายหนุ่มก่อนจะล้อมตัวลงนอนแล้วรีบดึงเอาผ้าห่มมาคลุมร่างกายของเธอเอาไว้จนมิดถึงคอขุนเขามองอาการของหญิงสาวแล้
ขุนเขามองหน้าเพียงขวัญสายตาที่เขามองมาเหมือนจะคาดโทษเธอไว้และสลับกับมองหน้าของ ณดล ชัดๆที่ตอนนี้จ่องเขาอยู่ สายตาคมจ่องตอบเช่นกัน ณดลมองหน้าเจ้าบ่าวเขม็งไม่ยอมแพ้เหมือนกัน ณดลทำทีเหมือนกับว่าตนเหนือกว่าขุนเขาเพราะเขารู้จักเพียงขวัญมาก่อนที่เธอจะมาแต่งงาน"คุณมีอะไรสำคัญคุยกับภรรยาของผมอย่างนั้นหรือครับถึงต้องหลบมาคุยกันสองต่อสองในที่ลับตาคนแบบนี้"ขุนเขาพูดเสียงเข้มปนดุมองหน้าณดลและหันกลับมามองหน้าเพียงขวัญ"เออ..คุณเข้าใจผิดแล้วค่ะนี่พี่ ณดลพี่เขาก็แค่มาแสดงความยินดีด้วยก็แค่นั้นเองค่ะ""ขอโทษด้วยนะครับพอดีเรื่องที่ผมคุยกับขวัญเรารู้กันแค่สองคนไม่สามารถให้คนอื่นรับรู้ด้วยได้" ฌดล พูดด้วยน้ำเสียงที่ทำให้คนฟังเข้าใจไปได้หลายทาง ขุนเขาเดินไปหาหญิงสาวที่ตอนนี้ทำหน้าไม่ถูกที่ได้ยิน ณดล พูดออกไปอย่างนั้น ขุนเขาเมื่อเดินมาถึงหญิงสาวก็ใช้มือโอบไหล่ดึงหญิงสาวเข้ามาประชิดตัวก่อนจะโน้มหน้าคมมาเกือบจะชนแก้มพร้อมใบหน้ายกยิ้มและพูดออกไปด้วยน้ำเสียงเข้มจริงจังอย่างผู้เหนื่อกว่าว่าเขามีสิทธิ์ในตัวเธอ"แต่ผมกับภรรยาเราสองคนอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้าเราก็จะกลายเป็นคนๆเดียกันแล้วเราคงไม่มีเรื่องอะไรต้อง
"คุณ..นี่คุณปล่อยปล่อยฉันเดินเองได้" ขุนเขาไม่ฟังเสียงของเธอเขาใช้แรงดึงให้เธอเดินตามเขามายังร้านอาหารซึ่งอยู่ไม่ไกลจากร้านเพชรเท่าไหร่นัก"นั่งลงแล้วไม่ต้องพูดอะไรฉันหิวแล้ว" ขุนเขาจับเธอนั่งเก้าอี้แล้วเขาก็เดินอ้อมมานั่งฝั่งตรงข้ามกับเธอเขาสั่งอาหารโดยไม่สนใจอีกฝ่ายที่ตอนนี้กำลังทำหน้าหงิกหน้างอด้วยความไม่พอใจในความเอาแต่ใจของอีกฝ่าย เมื่ออาหารยกมาเสิร์ฟ เขาสั่งอาหารมาเยอะแยะราวกับกินกันหลายคนเธอมองหน้าเขาที่ตั้งหน้าตั้งตาทานอย่างเอร็ดอร่อยโดยไม่สนใจเธอเลย"นี่คุณทำไหมสั่งมาเยอะแยะขนาดนี้กินกันแค่สองคนเองแล้วจะกินหมดไหมเนี่ย""ก็ผมหิวกินๆไปเถอะ ไม่หมดเดียวเขาก็เทให้หมามันกิน" ชายหนุ่มพูดโดยไม่สนใจเธอเขายังคงตั้งหน้าตั้งตากินอย่างเอร็ดอร่อย"คุณนี่...ออ..ฉันลืมไปว่าคุณรวยแค่นี้ขนหน้าแข่งคุณคงไม่ล่วงหรอก....พวกคนรวยใช้เงินยังกับใบไม้"เธอพูดด้วยน้ำเสียงประชดประชันจนคนฟังต้องเงยหน้าขึ้นมามองพร้อมกับอมยิ้มพอใจกับท่าทางของหญิงสาวทานข้าวเสร็จเขาชวนเธอไปดูหนังต่อแต่เธอไม่ยอมไปบอกอยากกลับบ้านเขาเลยต้องตามใจเพราะไม่อยากจะบังคับเธอเกินไปทั้งที่จริงแล้วเขาอยากทำความรู้จักและใกล้ชิดกับเธอให้มากก
บ้านอัครเดช"ขวัญ มาหาย่าซิลูก""ค่ะคุณย่า มีอะไรหรือเปล่าค่ะ""เดียววันนี้ประมาณสี่โมงเช้า คุณขุนเขาโทรศัพท์มาบอกว่าจะมารับหนูไปลองชุดแต่งงานเตรียมตัวไว้ด้วยนะ""ค่ะ..คุณย่าบอกเขาได้ไหมค่ะว่าขวัญจะไปเองแค่บอกสถานที่มาไม่ต้องให้เขามารับขวัญก็ได้ ""คุณขุนเขาบอกจะมารับเองให้หนูรออยู่ที่บ้าน ย่าว่าหนูทำตามที่เขาบอกเถอะลูก""ค่ะคุณย่า"ไม่นานรถสปอร์ตคันหรู สีดำ ก็มาจอดอยู่หน้าบ้าน ชายหนุ่มใบหน้าคมเข้ม หล่อเหลาราวเทพบุตรก็ก้าวลงจากรถการแต่งตัวในวันสบายๆที่ไม่เป็นทางการด้วยเสื้อเชิตราคาแพงสีฟ้าครามแขนยาวพับมาครึ่งแขนเผยให้เห็นกล้ามแขนที่แข็งแรงและสีผิวขาวอย่างคนรักสุขภาพนิ้วเรียวงามราวกับผู้หญิงบนข้อมือใส่นาฬิกายี้ห้อดังเสื้อทับในกางเกงพร้อมเข็มขัดหนังราคาแพง แค่การแต่งตัวธรรมดาสำหรับชายหนุ่มแต่ไม่ธรรมดาสำหรับใครหลายๆคน มันทำให้ชายหนุ่มยิ่งดูดี ดูเนียบไร้ที่ติเลยจริงๆ สาวใช้ที่เดินมาต้อนรับมองชายหนุ่มด้วยสายตาชื่นชมก่อนจะพาเข้าไปในบ้านเมื่อถึงห้องรับแขกคุณพิศมัยและคุณวิโรจน์ก็นั่งรออยู่แล้ว"สวัสดีครับ" ขุนเขายกมือไหว้ผู้ใหญ่ทั้งสองด้วยความเคารพแต่ท่างทางของเขายังคงดูน่าเกรงขาม"สวัสดีครับ
วิโรจน์เรียกเพียงขวัญมาพบที่ห้องทำงานและเล่าเรื่องราวทั้งหมดให้เพียงขวัญฟังเพียงขวัญเมื่อฟังเรื่องราวทั้งหมดตอนแรกเธอคิดปฏิเสธแต่คิดดูดีๆแล้วเธอก็ไม่อยากเห็นธุรกิจของพ่อล้มละลายท่านเป็นผู้มีพระคุณทั้งส่งเสียเธอเรียนจนจบและยังช่วยเหลือดูแลรักษาแม่ของเธอเป็นอย่างดีเธอจึงยอมตกลงที่จะแต่งงานกับขุนเขาคนที่พ่อบอกว่าเขาจะช่วยเหลือธุรกิจของครอบครัวทุกอย่าง"แน่ใจหรือลูกว่าลูกจะยอมแต่งงานกับคุณขุนเขาจริงๆ ถ้าลูกไม่เต็มใจก็ปฏิเสธได้นะพ่อไม่บังคับ แล้วพ่อจะคิดหาวิธีอื่นแก้ไขก็ได้ลูก""ไม่เป็นไรค่ะคุณพ่อขวัญตัดสินใจแล้วค่ะ คุณพ่อบอกทางนั้นได้เลยว่าเรายินดีทำตามข้อตกลง ""ขอบใจมากนะลูก ลูกสาวของพ่อน่ารักพ่อเชื่อว่าคุณขุนเขาต้องรักเอ็นดูลูกสาวของพ่อแน่นอนและที่สำคัญพ่อคิดว่าเขาเป็นคนดี" วิโรจน์พูดพร้อมทั้งใช้มือข้างหนึ่งลูบหัวของเพียงขวัญเบาๆด้วยความรักความเอ็นดูเพียงขวัญมองหน้าของพ่อด้วยใบหน้าที่บ่งบอกให้รู้ว่าเธอเต็มใจยอมแต่งงานจริงๆหลังจากคุยกับพ่อเสร็จเพียงขวัญก็ขอกลับไปหาแม่ที่บ้านเพื่อเยี่ยมท่านซึ่งคุณวิโรจน์ก็ไม่ได้ว่าอะไรเธอต้องการไปหาแม่ตอนไหนก็ได้ใจจริงแล้วเขาอยากจะรับทั้งมาลีมาอยู่ด้วยก
"กูว่าช่วงนี้มึงอารมณ์ดีเป็นพิเศษหวะ" ไมเคิ้ลถามเพื่อนเพราะเขารู้สึกแปลกๆ"ก็ไม่มีอะไรกูก็เหมือนเดิม""ไม่จริงมัง..มีเรื่องอะไรรึเปล่าที่กูยังไม่รู้หรือตกข่าวบอกกูมาชะดีๆ"ขุนเขานึกถึงคำพูดของเขากับแม่เมื่อหลายวันก่อน"แม่กับพ่อก็อายุมากแล้วไม่รู้ว่าจะมีโอกาสได้อุ้มหลานเหมือนคนอื่นๆเขาไหม ถ้าลูกไม่ชอบหนูวิภา ลูกก็หาผู้หญิงที่ถูกใจซักคนมาแต่งงานด้วยแม่กับพ่อจะได้อุ้มหลานชะที ""ถ้าผมบอกคุณแม่ว่าตอนนี้ผมเจอผู้หญิงที่ถูกใจแล้วหละคุณแม่จะไปสู่ขอให้ผมได้ไหมครับ""จริงหรือลูกใครกันลูกสาวบ้านไหนบอกแม่มาซิลูก"คุณสุดามีสีหน้าตื่นเต้น"ลูกสาวคนโตของคุณวิโรจน์ อัครเดชกับภรรยาเก่าเธอชื่อเพียงขวัญครับ ผมอยากแต่งงานกับเธอถ้าไม่ใช่เธอผมก็ไม่แต่งงานกับใครทั้งนั้น" คำพูดที่มุ่งมั่นมั่นคงและแฝงไว้ด้วยต้องได้เท่านั้น"ลูกสาวคนโตของคุณวิโรจน์แม่เหมือนจะเคยเจอครั้งหนึ่งตอนที่เธอไปออกงานกับคุณวิโรจน์เธอก็สวยน่ารักดีนะ แต่ว่าลูกเคยเจอและคุยกันเหรอ""เปล่าครับผมก็แค่เคยเจอเธอและเคยคุยกันครั้งหนึ่งเมื่อนานมาแล้ว..." ขุนเขาบอกกับผู้เป็นแม่"อ้าว...แล้วแบบนี้ลูกสองคนยังไม่รู้จักกันเลยแล้วจะให้แม่ไปขอแล้วถ้าเกิด
Comments