แซคเคอรี่อึ้งไปเลย ความมึนเมาของแอลกอฮอล์หายไปในทันที และเขาก็จ้องมองเดรกอย่างว่างเปล่า เขาไม่กล้าถามคำถามอื่น แต่เทแก้วอีกใบให้ตัวเองแล้วกระดกลงไป เดรกตบไหล่เขาอย่างแรง “โอกาสบางอย่างมาเพียงครั้งเดียวในชีวิต นายจะเข้าใจหรือไม่นั้นขึ้นอยู่กับตัวนายเอง” “ฉันจะพยายามเข้าใจมัน ฉันจะเข้าใจมันอย่างแน่นอน” แซคเคอรี่ยังคงสร้างแรงจูงใจเตือนสติให้ตัวเอง ทันใดนั้น โทรศัพท์ของเขาก็ดังขึ้น “พ่อ กลับบ้านเร็ว ช่วยพาคนของพ่อมาช่วยเยอะ ๆ เลย มีไอ้สารเลวที่ไร้เดียงสามาสร้างปัญหาให้กับบ้านเรา!” แซคเคอรี่ขมวดคิ้ว “ใครจะกล้าสร้างปัญหาที่บ้านสมิธ!” “นั่นคือ ไทร์ ซัมเมอร์ ลูกเขยของตระกูลซีคนที่แต่งงานกับครอบครัวของพวกเขา พ่อครับ วินนี่เฟรดของตระกูลซีมาเจรจาธุรกิจกับผมวันนี้ และผมแกล้งเธอนิดหน่อย แต่ตอนนี้ไอ้สารเลวคนนี้มาหาเรื่องทะเลาะวิวาทกับผม” วิ้งงง… เสียงอื้ออึงดังขึ้นในจิตใจของแซคเคอรี่ตามมาด้วยความว่างเปล่า เขาไม่สามารถฟื้นความรู้สึกกลับมาได้ชั่วขณะ ขณะที่ปลายสาย เลียมยังคงตะโกนและกรีดร้องเรียกว่า “พ่อ กลับบ้านเร็ว! ถ้าคุพ่อไม่มา ผมจะโดนเขาทำร้ายจนตายจริง ๆ ช่วยพาคนของพ่อมามาก ๆ หน่อย ผม
แซคเคอรี่ลุกขึ้นยืน ร่องรอยของความเศร้าโศกหายไปจากใบหน้าของเขาในทันที และสีหน้าของเขาก็มืดลง “คนสารเลวคนนี้เกือบจะทำลายครอบครัวสมิธไปแล้ว เขาสามารถนอนบนเตียงไปตลอดชีวิตและหยุดสร้างปัญหาให้ฉันได้แล้ว” การทำลายแขนขาของลูกชายด้วยมือของเขาเองทำให้แซคเคอรี่รู้สึกปวดใจอย่างแน่นอน อย่างไรก็ตาม ความกลัวถึงผลที่จะตามมาของเขามันดูรุนแรงมากกว่า เดรก ทัคเกอร์ เป็นแค่ลมตดในสายตาของไทร์ และลูกชายของเขากล้าที่จะแตะต้องภรรยาของชายคนนี้ ถ้าเมื่อกี้เขาลังเลแม้แต่ครู่เดียว ตระกูลสมิธทั้งหมดอาจถูกทำลาย ผู้ชายอย่างเขามีลูกชายสี่คน ลูกสาวสองคน และลูกนอกกฎหมายจำนวนนับไม่ถ้วนนอกบ้านของเขา ดังนั้น แม้ว่าเลียมจะพิการ มันก็ไม่ใช่เรื่องใหญ่สำหรับเขา “บราเธอร์ทัคเกอร์ ยังพอมีวิธีที่จะแก้ไขเรื่องนี้ได้อีกไหม?” เดรกเริ่มจุดบุหรี่และใช้เวลาสูบอยู่นาน “นั่นก็ขึ้นอยู่กับว่านายดูแลสิ่งต่าง ๆ ยังไง” ในขณะนั้น คนในคฤหาสน์ตระกูลซีได้นั่งรอมาครึ่งวันแล้ว แต่ก็ยังไม่มีคำพูดใด ๆ จากตระกูลสมิธเลย หลังจากที่การติดต่อทางธุรกิจระหว่างทั้งสองครอบครัวได้ถูกตัดขาดกัน พนักงานของ ซีกรุ๊ปก็ได้รายงานความสูญเสียภายในบริษัทไปทีละส
ตระกูลซีไม่เคยคาดหวังว่าแซคเคอรี่ สมิธ จะเห็นด้วยอย่างรวดเร็ว ทุกคนต่างยิ้มแย้มแจ่มใส “ไอริสยังคงมีความสามารถมากที่สุดเช่นเคย แค่เธอเดินออกมา สัญญาก็ถูกจัดการเรียบร้อย” “ไม่ใช่ว่าไอริสจะมีความสามารถหรอก มันเป็นเพราะทราวิสต่างหาก มันนับเป็นพรอย่างยิ่งสำหรับครอบครัวของเราที่ไอริสได้พบสามีที่ยอดเยี่ยมอย่างทราวิส” “ถูกต้อง ถูกต้อง แม้แต่บุคคลสำคัญอย่างประธานสมิธยังต้องแสดงความเคารพต่อครอบครัวเจนเซ่นเลย ดูเหมือนว่าตระกูลเจนเซ่นและศูนย์ยาสมุนไพรเซ็นจูรี่จะแข็งแกร่งที่สุดในเมืองคานห์” กลุ่มสมาชิกในตระกูลซียังคงชื่นชมทราวิสและไอริสต่อไป ด้วยการเยินยอ ยกพวกเขาขึ้นสูงเสียดฟ้า ทันใดนั้น แซคเคอรี่ก็ยื่นสัญญาที่เขาเตรียมไว้ให้ไอริส “มิสซี ฉันร่างสัญญาเรียบร้อยแล้ว เนื่องจากห้างเสื้อผ้าใจกลางเมืองกำลังจะเปิดในไม่ช้า ด้วยความร่วมมือกับกุชชี่ โรงงานของตระกูลสมิธจะไม่สามารถตอบสนองความต้องการได้ทั้งหมด ดังนั้น สมิธกรุ๊ปของเราจึงขอเชิญ ซีกรุ๊ป อย่างเป็นทางการให้เป็นพันธมิตรทางธุรกิจที่ใหญ่ที่สุดของเรา ในอนาคต โรงงานซีกรุ๊ปสามารถใช้ความเชี่ยวชาญในการผลิตเสื้อผ้าให้กับสมิธกรุ๊ปของเราได้ เราต้องกา
แซคเคอรี่งุนงง นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่เขาได้ยินไอริสพูดถึงศูนย์ยาสมุนไพรเซ็นจูรี่ มันคืออะไรกันแน่? ทราวิสกระแอมแห้ง ๆ ก่อนยืนยืดอกสูง ดูมั่นใจ “สวัสดีครับ ประธานสมิธ ผมชื่อทราวิส เจนเซ่น และ ฟอเรสต์ เจนเซ่น เป็นพ่อของผมเอง ผมคิดว่าพ่อของผมได้โทรหาคุณเกี่ยวกับเรื่องนี้แล้ว ผมดีใจมากที่คุณสามารถช่วยเหลือพ่อของผมได้ ในกรณีนี้ คุณสามารถนำสัญญาให้เราลงนามได้เลย เมื่อผมได้กลับไป ผมจะพูดคำชื่นชมสักสองสามคำกับพ่อของผมเกี่ยวกับคุณอย่างแน่นอน” แซคเคอรี่เกือบหัวเราะเยาะกับความตลกของไอ้โง่คนนี้ “ฟอเรสต์ เจนเซ่น งั้นเหรอ? เขาคือใครกัน?" “พ่อของผมไง!” “แล้วคุณล่ะเป็นใคร?” “เขาคือทราวิส เจนเซ่น” ไอริสอธิบายอย่างรวดเร็ว “ประธานสมิธ คุณยกโทษให้ตระกูลซี ของเราเพราะให้เกียรติธุรกิจครอบครัวของทราวิสไม่ใช่เหรอ?” “ไปไกล ๆ เลยไป!” เสียงตะคอกอย่างกะทันหันของแซคเคอรี่ทำให้ทราวิสและไอริสตกใจ “พ่อของคุณคิดว่าเขาเป็นใคร และใครสนเรื่องศูนย์ยาสมุนไพรเซ็นจูรี่ของตระกูลเจนเซ่นกัน? ทำไมฉันต้องไปช่วยเขาด้วย ฉันจะลงนามในสัญญานี้กับมิสวินนี่เฟรด ซี เท่านั้น ออกไปให้พ้น!” ไอริสต้องการจะอธิบายบางอย่าง แต่เจ้
สีหน้าของไอริสมืดลง และเธอก็เริ่มตำหนิ “ไอ้ขอทานไปให้พ้น! ที่นี่ไม่มีที่ว่างสำหรับแกที่จะมายืนพูดตรงนี้” “ฉันบอกให้แสดงความจริงใจหน่อยไง” การแสดงออกของไทร์ก็มืดลงเช่นกัน เพียงแค่จ้องมองจากสายตาของเขา ไอริสก็กลัวจนเธอหยุดหยิ่งผยองไปทันที “แก…” “ฉันอะไร?” ไทร์พูดว่า “สัญญานี้ต้องมีความหมายมากกับตระกูลซีของเธอใช่ไหม? หากไม่มีวินนี่เฟรด พวกเธอก็ไม่สามารถปกป้องตัวเองได้หรอก ถ้าเธอทำเรื่องนี้พัง ปู่ของเธออาจจะไล่เธอออกจากบริษัทด้วยก็ได้นะ” ไอริสสั่นสะท้าน ไทร์สามารถจับจุดอ่อนของเธอได้ทันที เธอสูดหายใจเข้าลึก ๆ และปรับน้ำเสียงของเธออย่างไม่เต็มใจที่จะพูดว่า “วินนี่เฟรด คุณปู่ขอให้ฉันมารับเธอกลับไป ก่อนหน้านี้เราทำผิดและรีบร้อนเกินไป ดังนั้นเธอไม่ต้องโทษมัน ตอนนี้ทุกคนสงบลงแล้ว ดังนั้นเธอสามารถกลับไปที่บริษัทได้” วินนี่เฟรดตกตะลึง เธอไม่เคยคาดหวังว่าวันที่ไอริสจะถ่อมตนต่อเธอจะมาถึง หลังจากพูดอย่างนั้น ไอริสก็มองดูไทร์ด้วยความรังเกียจและพูดว่า “ฉันเดาว่านายคงพอใจแล้วนะ?” “เมื่อเธอขอร้องใครสักคน เธอไม่ได้พูดถึงคำว่า ‘ขอร้อง’ ออกมาเลยเหรอ?” “ไทร์ ซัมเมอร์ อย่าให้มันมากเกินไป”
ในตอนเย็น พระอาทิตย์ตกทอแสงเป็นสีแดงจากขอบฟ้า ไทร์ที่อยู่ในครัวเพื่อจัดเตรียมอาหารเย็น ในขณะที่วินนี่เฟรดกำลังช่วยแบลร์ทำการบ้าน ทันใดนั้น ประตูห้องนั่งเล่นก็ถูกเปิดออก ชายวัยกลางคนและหญิงวัยกลางคนถือกระเป๋าสองใบเดินเข้ามา “พ่อคะ แม่คะ ทำไมถึงกลับมาได้ล่ะ?” วินนี่เฟรดรีบไปที่ทางเข้าของประตูทันที คนสองคนนี้เป็นพ่อแม่ของวินนี่เฟรด กล่าวอีกนัยหนึ่งก็คือพ่อตาและแม่ยายของไทร์! พ่อของวินนี่เฟรดชื่อ เจคอบ ซี เขาเป็นลูกชายคนที่สามของจอร์จ ซี เขาเคยมีตำแหน่งอยู่ในซีกรุ๊ป แต่หลังจากเหตุการณ์ของวินนี่เฟรดเมื่อหกปีที่แล้ว พี่น้องของเขาใช้โอกาสนี้ในการกล่าวหาเขาและขโมยอำนาจทั้งหมดของเขาภายในซีกรุ๊ปไปทั้งหมด หลังจากนั้น เขาก็ตกงานทันที แม่ของวินนี่เฟรดชื่อ เฮเลน โคล เธอมีนิสัยที่แข็งกร้าว เมื่อเฮเลนเข้ามาในห้อง สีหน้าของเธอก็มืดมนพร้อมกับตำหนิว่า “ถ้าเราไม่กลับมา เธออาจจะบินหนีไปแล้ว ขอทานคนนั้นอยู่ที่ไหน? ให้เขาออกไปจากที่นี่เดี๋ยวนี้” ไทร์ที่กำลังทำอาหารอยู่ในครัวนั้น ได้ยินความโกลาหล เขาหัวเราะอย่างขมขื่น แม่ยายของเขาดูไม่เป็นมิตรเอาเสียเลย มันดูเหมือนว่าวันของเขาอาจจะยากขึ้นเล็กน้อ
ในคืนนั้น ขณะที่ไทร์พร้อมที่จะเข้าไปนอนในห้องเดิมของแบลร์ เขากลับถูกเฮเลน แม่ยายของเขา ไล่ออกไปทันทีที่เขาเข้ามา “นายกำลังทำอะไร?” เฮเลนทำท่าจับเอวของเธอขณะที่เธอจ้องไปที่ไทร์อย่างโกรธจัด “ผมจะเข้ามานอน” “นอน? นายมีสิทธิที่จะนอนในห้องนอนหรือเปล่า? ไปนอนที่โซฟาโน่น” วินนี่เฟรดขมวดคิ้วเมื่อเธอเข้ามาและพูด อย่างหงุดหงิดว่า “คุณแม่คะ ทำอะไรอยู่? แบลร์นอนกับฉันมาตลอด ห้องนอนนี้ว่างเหลือเฟือ แล้วทำไมไทร์ถึงต้องนอนบนโซฟาด้วยล่ะ?” เฮเลนพึมพำ “เขาเป็นขอทานที่คุ้นเคยกับการนอนข้างถนน ตอนนี้เขาแต่งงานในครอบครัวเราแล้ว ดีแค่ไหนแล้วที่มีหลังคาคลุมหัวเขาอยู่ ถ้าเขาอยากนอนในห้องนอน ก็ฝันไปเถอะ!” “แต่คุณแม่…” วินนี่เฟรดอยากจะโต้กลับ แต่ไทร์ก็รั้งเธอไว้อย่างรวดเร็ว “ไม่เป็นไร ได้นอนโซฟาก็ยังดี” “ดีแล้วล่ะ อย่างน้อยนายก็มีสมองอยู่บ้าง” เฮเลนพึมพำ “แต่อย่าคิดที่จะพักที่บ้านเราเพื่อกินอาหารฟรีไปตลอดล่ะ ในอีกไม่กี่วัน นายไปหย่ากับวินนี่เฟรดของเราซะ นายไม่คู่ควรกับเธอเลย” เมื่อพูดอย่างนั้น เฮเลนก็ดึงวินนี่เฟรดเข้าไปในห้องของเธอทันที หลังจากประตูปิดลง การแสดงออกของวินนี่เฟรดเต็มไปด้วยการกล่า
วินนี่เฟรดเสียใจกับคำพูดนั้นมาก ก่อนที่สัญญาจะได้รับการลงนามทำไมไม่ให้ไอริสจากฝ่ายธุรกิจเป็นคนจัดการล่ะ? แล้วตอนนี้ปลอดภัยแล้ว แต่คุณกลับใช้แผนกมาเป็นข้ออ้าง คุณลำเอียงได้แค่ไหนกัน จอร์จ ซี?ไอริสมองวินนี่เฟรดอย่างหน้าด้าน “ได้ยินแล้วใช่ไหมว่าคุณปู่ให้โครงการนี้กับฉัน”วินนี่เฟรดไม่มีคำพูดใด ๆ จะตอบโต้แต่แล้วในขณะนั้น ไทร์ก็หัวเราะออกมาดัง ๆ “ช่างน่าตลกสิ้นดี”“แกหัวเราะอะไรของแกไอ้ขอทาน? แกไม่มีสิทธิ์ที่จะพูด” ไอริสจ้องเขม็งไปที่ไทร์ด้วยท่าทางเยาะเย้ยไทร์ยิ้มเยาะ “ฉันกำลังหัวเราะให้กับความโง่เขลาของเธอไง วินนี่เฟรดและฉันเป็นคนไปที่สมิธกรุ๊ป เพื่อลงนามสัญญานี้ ลองดูที่เงื่อนไขหมายเลขแปดเสียก่อน เงื่อนไขได้ระบุไว้อย่างชัดเจนแล้วว่า ตราบใดที่วินนี่เฟรดไม่ได้ทำข้อผิดพลาดที่ร้ายแรง เธอจะเป็นคนจัดการโครงการนี้ และถ้าหากเปลี่ยนผู้รับผิดชอบ สัญญาจะเป็นโมฆะโดยอัตโนมัติทันที”“อะไรนะ!?” สีหน้าของไอริสเปลี่ยนไปทันที เธอพลิกดูสัญญาอย่างรวดเร็ว และเธอก็ได้เห็นความจริง เงื่อนไขในข้อสุดท้ายของสัญญานั้น ตรงตามที่ไทร์กล่าวมาทุกประการ นั่นคือสมิธกรุ๊ปได้ชี้แจงอย่างชัดเจนแล้วว่า มีเพียงวินนี่เฟร