เมื่อพูดถึงคาร์สัน ยอร์ก ใบหน้าของเจย์ เบลดก็กระตุกเล็กน้อย แม้ว่าเขาจะเป็นนายน้อยซาร์แห่งเมืองไพร์ม แต่เขาก็ต้องเกรงกลัวคาร์สัน ยอร์ก ที่เป็นราชาแห่งเซาท์ริเวอร์อยู่มาก ในเวลานี้ เขาตาบอดอย่างสิ้นเชิงเพราะความรักที่เขามีต่อคอนนี่ ยอร์ก เขาเห็นไทร์เป็นคู่ต่อสู้ที่ยิ่งใหญ่ที่สุดของเขา เมื่อคาร์สันเชิญไทร์ไปทานอาหารเย็น เจย์รู้สึกว่าตำแหน่งของเขาถูกคุกคาม เมื่อจิตนาการถึงคอนนี่และไทร์ ที่กำลังมีความสุขอยู่ด้วยกัน มันบีบคั้นหัวใจของเขาและจุดประกายความโกรธของเขา เขาไม่สามารถทนเห็นมันได้ “ไทร์ ซัมเมอร์! ฉันไม่สนใจว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น แต่ถ้าแกยังกล้าที่จะเข้ามาเหยียบเมืองไพร์มอีก ฉันจะฆ่าแก!” เมื่อมองดูท่าทางที่คุกคามของเจย์ ไทร์กลับคิดว่ามันไร้สาระ “ฉันไม่ได้สนใจมิสยอร์กของนาย ขอร้องเถอะเจย์ อย่ามายุ่งกับฉัน” ไทร์ไม่สนใจคนเหล่านี้ในขณะที่เขากลับไปที่รถคาดิลแลคของเขา พวกเขาโชคดีที่เป็นคนของคาร์สัน ยอร์ก ถ้าไม่เช่นนั้น ไทร์จะไม่เมตตาพวกเขาอย่างแน่นอน “ฉันไม่สน ว่าแกจะสนใจเธอหรือเปล่า แต่เธอต้องการแต่งงานกับแก และนั่นคือความกังวลของฉัน! ฉันจะให้โอกาสแกเป็นครั้งสุดท้าย กลับเมือง
ไทร์ ซัมเมอร์รู้สึกหนาวไปที่กระดูกสันหลังของเขา ผู้หญิงสมัยนี้ตรงไปตรงมาขนาดนี้ได้ยังไง? อันที่จริง ตั้งแต่ที่ วินนี่เฟรดเข้ามาในชีวิตเขา ไทร์ก็ไม่ได้สนใจผู้หญิงคนอื่นอีกเลย แต่ถ้าเขาได้พบกับคอนนี่ ยอร์กก่อนวินนี่เฟรด บางทีเขาอาจจะถูกดึงดูดโดยผู้หญิงที่สวยและงดงามคนนี้แทน ถึงแม้ว่า ไทร์จะได้พบกับหญิงสาวผู้มั่งคั่งและเจ้าหญิงผู้งดงามมากมายและเขายังได้พบกับคนดังระดับโลกมานับไม่ถ้วน แต่ก็ไม่มีใครที่สวยได้เท่าคอนนี่ผู้นี่ ผู้หญิงคนนี้เป็นผลงานชิ้นเอกที่แกะสลักและสร้างขึ้นอย่างพิถีพิถันโดยพระเจ้า อย่างไรก็ตาม ตอนนี้ไทร์มีเพียงแค่วินนี่เฟรดเท่านั้น รถคาดิลแลคของเขามุ่งหน้าไปยังคฤหาสน์ยอร์ก ในขณะที่ เจย์ เบลด ถูกทิ้งให้ยืนแข็งทื่ออยู่เช่นนั้น เขายังคงตะลึงงันในขณะที่เขาจ้องไปที่รถคาดิลแลคที่พุ่งออกไปด้วยดวงตาที่แดงก่ำ เปลวเพลิงแห่งความโกรธแผดเผาหัวใจของเขา ลูกน้องของเข้าเดินเข้ามาหาเขาและถามด้วยความเป็นห่วงว่า “บราเธอร์เจย์ คุณโอเคไหม?” ผัวะ… เจย์ปล่อยหมัดเข้าที่ท้องของลูกน้อง ชายผู้นั้นรู้สึกได้ถึงตะคริวที่หน้าท้องและเขาก็ล้มลงกับพื้นแล้วจับหน้าท้องเอาไว้ด้วยความเจ็บปวด “แม่ง
ไทร์ ซัมเมอร์และคอนนี่ ยอร์กจึงนั่งลงด้วยกัน ในขณะที่พ่อบ้านเจมสันยืนอยู่ข้าง ๆ พวกเขาเพื่อรินเครื่องดื่ม “พี่ชายที่รัก คุณแม่ของฉันดีกับคุณมาก ฉันมักจะขอให้เธอทำอาหารเหล่านี้ แต่เธอไม่ทำอาหารให้ฉันเลย เมื่อคุณอยู่ที่นี่ เธอกำลังแสดงทักษะการทำอาหารทั้งหมดของเธอให้คุณเห็น ในที่สุดฉันก็สามารถได้ทานอาหารเหล่านี้” จะว่าไปแล้ว คอนนี่ไม่ได้สนใจภาพลักษณ์ของเธอเลย เธอคว้าปีกไก่จากบนโต๊ะแล้วเคี้ยวมันทันที สีหน้าของคาร์สัน ยอร์กมืดลงในทันทีและเขาก็ตะคอกเธอ “ดูเธอทำ แขกของเธอยังไม่ได้เริ่มรับทานเลย แต่เธอกำลังกินอาหารด้วยมือเปล่า วางมันลงเดี๋ยวนี้ มารยาทของเธออยู่ไหนหมด?” เธอไม่สะทกสะท้านกับคำดุว่าของพ่อของเธอ คอนนี่ยังคงเคี้ยวไก่ของเธอต่อไป เธอคว้าอีกอันหนึ่งใส่ในชามของไทร์ และเคี้ยวในขณะที่เธอพูดว่า “พี่ชายที่รัก คุณก็กินด้วยสิ ฝีมือการทำอาหารของคุณแม่ของฉันยอดเยี่ยมมาก” ไทร์รู้สึกอึดอัดเล็กน้อย พฤติกรรมของหญิงสาวคนนี้แตกต่างจากใบหน้าที่งดงามของเธอ คาร์สันไม่รู้ว่าจะทำเช่นไรกับลูกสาวของเขา ดังนั้นเขาจึงทำได้แค่ถอนหายใจ “ไทร์ คุณไม่ต้องไปสนใจเธอ เธอไม่เป็นกุลสตรีเอาซะเลย” เขาส่งสายตา
ถึงตอนนี้ มีเพียงคาร์สัน ยอร์ก ไทร์ ซัมเมอร์และเจมสัน ซิงค์ ซึ่งรับผิดชอบการเทไวน์ข้าง ๆ พวกเขาเท่านั้น ที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร “ไทร์ อย่าไปสนใจเธอเลย ผู้หญิงคนนั้นเป็นแบบนั้นเสมอมา คุณป้าเควลซ์ของคุณจะให้ความกระจ่างแก่เธอเอง ถ้าเธอพยายามจะรบกวนคุณอีก ผมจะเป็นคนดูแลเธอเอง” คาร์สันกล่าว ไทร์ยิ้มและตอบ “ไม่เป็นไรคุณลุงยอร์ก” “มาเถอะ วันนี้เราใช้โอกาสดี ๆ นี้เพื่อดื่มกัน” คาร์สันหันไปหาเจมสัน “เจมสัน ไปที่ห้องเก็บไวน์และหยิบไวน์ขวดเก่าที่ฉันเก็บไว้มา คืนนี้ไทร์และฉันจะดื่มจนกว่าเราจะเมากันไปข้างหนึ่ง” เจมสันพยักหน้าทันทีก่อนจะรีบไปที่ห้องเก็บไวน์ เมื่อเขาจากไป มีเพียงคาร์สันและไทร์เท่านั้นที่ถูกทิ้งไว้ในห้องอาหาร ในขณะนั้น คาร์สันที่ยิ้มแย้มแจ่มใสในตอนแรก ใบหน้าของเขาแสดงถึงความจริงจังออกมาชั่วครู่ก่อนที่รอยยิ้มของเขาจะกลับคืนมา เพียงชั่วพริบตานั้น ไทร์ก็เข้าใจความหมายของเขาทันที คาร์สันขยับแก้วไวน์ต่อหน้าเขา เขาใช้ไวน์หนึ่งหยดจากแก้วของเขาเขียนลงบนโต๊ะอย่างรวดเร็วว่า 'หน้าต่างมีหูประตูมีช่อง' ขณะที่เขาเขียน เขาพูดต่อว่า “ไทร์ ผมต้องขอบคุณคุณ ที่รักษาป้าเควลซ์ของคุณให้หายดี
เมื่อไทร์ได้ยินข่าวนี้ สีหน้าของเขาไม่มีการเปลี่ยนแปลงใด ๆ ราวกับว่าเขารู้มาตลอด “ต้องทำขนาดนั้นเลยเหรอ?” ไทร์พึมพำกับตัวเองก่อนจะตอบว่า “ผ่อนคลาย ทำสิ่งที่พวกนายต้องทำต่อไป แค่ทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น” “แต่บราเธอร์ไทร์” เดรก ทัคเกอร์กล่าว “ฉันจะจัดการเอง” ในตอนท้ายของการโทร เดรกไม่กล้าพูดอะไรอีก ดังนั้นเขาจึงทำได้เพียงวางสายเท่านั้น ในยุคนี้ ที่วิธีการกระจายข้อมูลได้รับการพัฒนาเป็นอย่างดี ข้อมูลต่าง ๆ สามารถแพร่กระจายไปทั่วประเทศได้ทันที บุคคลสำคัญของเมืองคานห์มีการติดต่อทางธุรกิจกับเมืองไพร์มไม่น้อยและหลายคนยังเป็นหุ้นส่วนทางธุรกิจ ดังนั้น เมื่อข่าวการเสียชีวิตของกษัตริย์แห่งเซาท์ริเวอร์แพร่กระจายไปทั่วเมืองไพร์ม เมืองคานห์ก็จะได้รับข่าวคราวเช่นกัน หลังจากการโทรครั้งแรกจากเดรก ไทร์ยังได้รับสายจากบุคคลอื่น เช่น โนอาห์ ลี, แซคเคอรี่ สมิธ, โดนัลด์ ลูอิส, และเจด ลอเรล อย่างต่อเนื่อง แต่ละคนต่างก็ดูวิตกกังวลและเป็นห่วงไทร์ เหตุการณ์นี้ร้ายแรงเกินไป เนื่องจากเกี่ยวข้องกับการตายของราชาแห่งเซาท์ริเวอร์ คาร์สัน ยอร์ก ไทร์ได้ให้คำตอบกับบุคคลสำคัญในเมืองคานห์เหล่านี้แบบเดี
“นายท่าน ท่านจะกลับไปจริง ๆ ใช่ไหม?”ณ เกาะขนาดใหญ่ในใจกลางมหาสมุทร เป็นที่ประทับตั้งตระหง่านของพระราชวัง สถานที่แห่งนี้เป็นของอาณาจักรที่กว้างใหญ่ไพศาลที่สุด ตำหนักราชันย์ในเวลานี้ ห้ากษัตริย์และเหล่านายพลทั้งสิบแปดคนมารวมตัวกันที่ห้องโถง ขณะที่พวกเขาให้ความสนใจไปที่ชายหนุ่มผู้ซึ่งอยู่เบื้องหน้าพวกเขา ชายหนุ่มผู้นี้มีนามว่า ไทร์ ซัมเมอร์ เจ้าของที่แท้จริงของตำหนักราชันย์“ใช่” ไทร์กล่าวหนักแน่น “เมื่อหกปีก่อน ฉันถูกไล่ออกมาจากคฤหาสน์ตระกูลซัมเมอร์ ถูกปล่อยให้เดินเตร่อยู่กลางถนนในเมืองคานห์ ถูกวางยาโดยใครบางคนและจบลงที่ฉันมีเรื่องรัก ๆ ใคร่ ๆ กับเธอคนนนั้น”“หลังจากนั้นฉันก็ได้พบกับผู้ช่วยชีวิต ผู้ซึ่งพาฉันมาที่แห่งนี้ และด้วยสองมือของฉัน ฉันสร้างตำหนักราชันย์ขึ้นมา ถึงอย่างไรตอนนี้ฉันก็มีอำนาจสูงสุดในโลกนี้ ร่วมกับสถานะและความร่ำรวยของฉันที่เคยได้ให้สัญญากับเธอไว้ ว่าฉันจะรับผิดชอบเธอและกลับไปเพื่อแต่งงานกับเธอ” ไทร์มองไปที่รูปภาพในมือของเขาขณะสายตาอ่อนโยนลงหญิงสาวในรูปภาพนั้นอยู่ในช่วงอายุก่อนจะย่างเข้ายี่สิบ ดวงตาของเธอสีสดราวกับภาพวาด จมูกของเธอยาวงุ้ม และริมฝีปากของเธออ่อนน
เมื่อมองไปที่ลูกสาวที่ขาดสารอาหารและผอมแห้ง ไทร์รู้สึกได้ถึงความโกรธแค้นภายในจิตใจของเขา“หนู… หนูชื่ออะไร?” หลังจากเขามั่นใจว่าสาวน้อยคนนี้นั้นคือลูกสาวของเขา ไทร์รู้สึกประหม่าและวอกแวกว่าเขาควรจะทำตัวอย่างไรกับเธอ“คุณลุง หนูมีชื่อว่า แบลร์ ซี”ไทร์อุ้มแบลร์ขึ้นมาในอ้อมแขนและถาม “เดี๋ยวลุงจะพาหนูไปกินข้าว โอเคไหม?”แบลร์พยักหน้าปลื้มใจ แม้ว่าเธอจะยังค่อนข้างกลัวคุณลุงแปลกหน้าคนนี้อยู่ แต่เธอนั้นหิวเกินไป“หลังจากเรากินข้าวกันเสร็จแล้ว เดี๋ยวลุงจะพาหนูไปหาแม่”ไทร์เจอเข้ากับร้าน McDonald ที่ใกล้ที่สุด และซื้ออาหารมากมายให้แบลร์ตัวน้อย เมื่อเขามองไปที่แบลร์สวาปามอาหาร เขารู้สึกหัวใจสั่น เธอจะต้องหิวมากแน่ ๆ จากสิ่งที่เธอฝ่าฟันมา “ค่อย ๆ กิน ถ้ามันยังไม่พอ เดี๋ยวลุงสั่งเพิ่มให้อีก”ในที่สุดแบลร์ก็เต็มอิ่ม คิดว่าไทร์คงไม่ได้สังเกตุ เธอแอบหยิบน่องไก่ใส่กระเป๋าของเธอ“แบลร์ นั่นเธอกำลังทำอะไร?” ไทร์นั้นสะดุ้งตกใจแบลร์ตระหนกเล็กน้อยขณะมองไปที่เทียร์สายตาหวาดกลัว “คุณลุง หนูไม่ได้พยายามขโมยอะไรทั้งนั้น หนูแค่อยากจะเอาน่องไก่กลับไปให้แม่...”เอาไปให้... แม่... ไทร์เจ็บปวดร้าวหัวใจ
วินนี่เฟรดจับจ้องสายตาจดจ่อไปที่ใบหน้ารูปงามของไทร์ สามวินาทีต่อมา ราวกับสายฟ้าฟาดผ่าลงมาเหนือหัวของเธอ ใจของเธอก็เริ่มสั่นสะเทือน “นายคือ...ไทร์ ซัมเมอร์...”ในที่สุดวินนี่เฟรดก็จำไทร์ได้ชายผู้ซึ่งเคยบอกเธอไว้ว่าเขาจะกลับมาสู่ขอเธอชายผู้เปลี่ยนชะตาชีวิตของเธอและให้เธอเฝ้ารอถึงหกปีในหัวของวินนี่เฟรดนั้นว่างเปล่าก่อนจะปวดร้าวไปด้วยความโกลาหล บรรยากาศรอบ ๆ พวกเขาถึงจุดเย็นยะเยือกพูดตามตรง ในหัวของไทร์เองก็ยุ่งเหยิง แม้ว่าเขาจะใช้เวลาเพียงหนึ่งคืนกับหญิงสาวคนนี้ในสภาพมึนเมา แต่มันก็เหมือนรักแรกพบสำหรับเขา หลังจากนั้นหนึ่งคืนเขาก็ตัดสินใจว่าเธอคือคนที่ใช่สำหรับเขา เขาใช้เวลาถึงหกปีปราถนาและโหยหาเธอ แต่เมื่อเขามาเจอเธออีกครั้ง เธอนั้นแตกต่างไปอย่างสิ้นเชิงกับสิ่งที่เขาฝันถึง“แม้ว่าเธอจะไม่ได้วางแผนที่จะรอฉันกลับมาอีกแล้ว ทำไมเธอถึงได้ละเลยลูกสาวของเรา?” ในเวลาที่ไทร์กล่าว เขากลับเสียใจกับสิ่งที่พูดเพราะเบื้องหน้าดวงตาของเขา วินนี่เฟรนล้มลงเศร้าโศก น้ำตาไหลพรั่งพรูออกมาอย่างไม่แยแส เธอร้องห่มร้องไห้ออกมาสุดแสนลำบากใจ และจากนั้น...เพี๊ยะ... วินนี่เฟรดตบฉาดใหญ่ไปที่หน้าของไทร์