อย่าละทิ้งสิ่งที่มี เพียงเพราะเหตุผลบางอย่างมากกว่าหัวใจตัวเอง ชยันต์ค่อยๆ ล้มตัวลงนอนบนเตียงกว้างที่ห้องของพี่ชาย เขาพยายามข่มตานอนให้หลับ แต่แล้วความพยายามของเขามันก็ไร้ผล เมื่อชายหนุ่มไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ หลายวันที่เขมิกาจากไป ทำไมเขาถึงไม่มีความสุขในชีวิตเลย เขาควรดีใจไม่ใช่เหรอที่ไม่มีเธอคอยมายุ่งย่ามกวนใจ เขาเกลียดเธอเกลียดเขมิกาเกลียดทุกอย่างที่เป็นเขมิกา เกลียดแม้แต่เด็กในท้องของเธอ
เพล้ง!! อยู่ๆ กรอบรูปของชรัญที่ถ่ายกับเขมิกาก็หล่นลงมาโดยไม่มีสาเหตุ ชยันต์ค่อยๆ ลุกเดินเข้าไปเก็บเศษแก้วรวมกันไว้ ก่อนจะหยิบรูปใบนั้นขึ้นมา และเขาต้องแปลกใจ เมื่อพบว่ามันมีกระดาษอีกใบซ่อนอยู่หลังรูปภาพใบนั้น เขาค่อยๆ คลี่มันออกแล้วเปิดอ่านโดยมีใจความในกระดาษแผ่นนั้นเขียนถึงเขมิกา
******ถึง..เขมิกาที่รักสุดหัวใจ จดหมายฉบับนี้ชรัญตั้งใจเขียนขึ้นเพื่อบอกเล่าเรื่องราวที่เกิดขึ้นระหว่างเรา ผมตั้งใจจะบอกเขมตั้งนานแล้ว แต่ก็ไม่กล้าพอ แต่ครั้งนี้ชรัญได้รวบรวมความกล้าทั้งหมดที่มีในชีวิต พร้อมที่จะเล่าความจริงให้กับเขมได้รับรู้ ชรัญได้นอกกายนอกใจเขมมาโดยตลอดหลายครั้งหลายครา โดยที่เขมไม่เคยรู้ ชรัญคบซ้อนหลายคนในเวลาเดียวกัน แล้ววันนี้บาปกรรมที่ชรัญได้กระทำไว้กับเขม มันส่งผลมาแล้ว ชรัญถูกผู้หญิงคนนั้นบังคับให้รับผิดชอบ ซึ่งผมไม่มีทางเลือก
เรื่องระหว่างเราคงไม่มีทางกลับมาเป็นเหมือนเดิมอีกแล้วเขม เพราะชรัญได้ทำผู้หญิงคนนั้นท้อง พ่อของเธอมีอิทธิพลมาก ถ้าชรัญไม่ทำตามที่พ่อของเธอบอก สิ่งเดียวที่ชรัญจะได้รับจากพ่อของเธอก็คือความตายเท่านั้น หากชรัญต้องแต่งงานกับผู้หญิงคนนั้นก็ไม่ต่างอะไรกับตายทั้งเป็น ฉะนั้นชรัญขอเลือกเองดีกว่า ขอตายด้วยมือตัวเอง ดีกว่าตายเพราะน้ำมือของผู้หญิงคนนั้น
รักเขมสุดหัวใจขอโทษ
จาก ชรัญผู้ชายเลวๆ
เมื่ออ่านข้อความในจดหมายจบ เศษแก้วที่ติดอยู่ในมือมันถูกเขาขยำไปพร้อมกับกระดาษใบนั้น เลือดกับหยดน้ำตาที่ไหลออกมาพร้อมกัน มันช่างสาสมกับสิ่งที่เขาทำไว้กับเขมิกา เวลานี้หัวใจและแผลในมือของเขามันชาไปหมด รวมทั้งตัวของเขาด้วย เขาทำอะไรลงไป
เขาได้ทำร้ายเขมิกาเพียงเพราะเข้าใจผิด เธอไม่ได้มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆ กับการตายของชรัญเลยแม้แต่น้อย แต่เขมิกาต่างหากที่เป็นผู้ถูกกระทำ ไม่ว่าจะเป็นชรัญหรือแม้แต่ตัวเขาเองชยันต์ ทั้งสองล้วนทำผิดต่อเขมิกาด้วยกันทั้งคู่ ชยันต์ทรุดตัวลงไปกองกับพื้น สิ่งที่เขาทำกับเขมิกาและลูกน้อยในครรภ์นั้น มันเลวร้ายกว่าอสุรกายเสียอีก เขาเกลียดตัวเองขึ้นมาทันที ป่านนี้เขมิกาจะอยู่ที่ไหน อย่างไร กับใคร เธอจะเป็นยังไงบ้างลูกจะยังอยู่กับเธอไหม
“ฮึกฮือ! เขมิกาผมขอโทษ” น้ำตาของลูกผู้ชายอกสามศอกไหลออกมาพร้อมกับเสียงสะอื้น ปิศาจอย่างเขากับนางฟ้าอย่างเธอมันช่างแตกต่างกันราวฟ้ากับเหว นี่เขาทำร้ายคนบริสุทธิ์ไปถึงสี่คน หนึ่งในนั้นคือลูกของเขาเด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วยเลย เขากลับสั่งให้เธอไปฆ่าลูกอย่างเลือดเย็น
เขาไม่มีหน้าไปเจอเธอได้อีกแล้วสิ่งที่เขาทำกับเธอมันระยำต่ำช้าเกินไป เมื่อชายหนุ่มได้มอบและยัดเยียดความเจ็บปวดให้กับเธอครั้งแล้วครั้งเล่า ซึ่งสาเหตุที่บ้านของเขมิกาต้องมาล้มละลาย บิดามารดาของเธอต้องฆ่าตัวตายนั่นคือฝีมือของเขาเอง คนที่เป็นฆาตกรน่าจะเป็นเขามากกว่า เขาทำให้ชีวิตของเขมิกาพังไม่เป็นท่า ทำให้เธอต้องเผชิญกับเคราะห์กรรมเพียงลำพังซ้ำๆ ครั้งแล้วครั้งเล่า
ชยันต์เดินออกจากห้องพี่ชายของเขา แล้วเข้าไปยังห้องของตัวเอง ชายหนุ่มหยิบรูปของเขมิกาขึ้นมา ทำให้เขานึกถึงวันที่ทำให้ครอบครัวของเธอล้มละลาย วันที่บิดามารดาของเธอตายไปต่อหน้าต่อตา เขมิกานั่งร้องไห้อยู่คนเดียวที่บ้านหลังนั้น โดยปราศจากคนรอบข้าง
แม่บ้านหรือคนขับรถทุกคนหายหนีไปหมดเมื่อเธอเหลือแต่ตัว เขาเดินเข้าไปในบ้านของเธอทำตัวดังเทพบุตรชุบชีวิตเธอขึ้นมา ใบหน้าที่หมองหม่นของเธอค่อยๆ คลายยิ้มออก เมื่อเธอมีเขาอยู่ข้างๆ ที่คอยให้กำลังใจในวันที่เธอเดียวดาย เขาใช้ความอ่อนแอของเธอเป็นเครื่องมือในการทำให้เขมิกาจนตรอก จนยอมสยบให้กับเขา
เมื่อเธอมอบหัวใจและร่างกายให้กับผู้ชายอย่างชยันต์โดยไม่รู้เลยว่าวันข้างหน้า เขาจะกลายเป็นปิศาจมาทำร้ายเธอ เขมิกาไม่รู้ด้วยซ้ำว่าสาเหตุที่เธอตกอยู่ในสภาพเช่นนั้นเป็นเพราะเขา
ภาพใบหน้านวลดวงตากลมโตล่องลอยมาที่หัวชยันต์อีกครั้ง คำที่มารดาเตือนกำลังส่งผลแล้วหลักฐานเพียงแค่รูปถ่าย เขากลับตัดสินเธอให้เป็นฆาตกร มันช่างไร้เหตุผลไม่มีความยุติธรรมให้กับเธอเลยสักนิด นับจากนี้เขาจะทำยังไงต่อไปดี เขมิกาคงไม่มีทางที่จะให้อภัยเขาแล้ว ทำไมใจเขาถึงได้มืดบอดเห็นเธอเป็นเพียงแค่ศัตรู ทั้งที่หัวใจของเขามันรักเธอจนเต็มหัวใจ
แต่สิ่งที่แสดงออกไปกลับผลักไสหัวใจตัวเองให้หนีห่าง เขาเพิ่งเข้าใจความรู้สึกของชรัญพี่ชายของเขาในเวลานี้ ทำไมชรัญถึงตัดใจปลิดชีวิตตัวเอง ความรู้สึกแบบนี้เองใจมันจะขาดรอนๆ
เมื่อนึกถึงใบหน้างามของหญิงสาวที่เขาเคยนอนเคียงข้าง คนที่ทำอาหารอร่อยๆ ให้รับประทาน คนที่จัดแต่งบ้านให้สวย คนที่เตรียมเสื้อผ้าเนี้ยบๆ ให้ใส่ คนที่รอเขากลับบ้าน คนที่ทำหน้าที่แม่บ้านไม่ขาดตกบกพร่อง ทั้งที่เธอไม่ต้องทำอะไรเลยก็ได้ แต่เขมิกาก็ทำสิ่งเหล่านั้นให้เขามาโดยตลอดระยะเวลาเกือบหนึ่งปีด้วยความเต็มใจ
รูปร่างบอบบางกับกิริยามารยาทที่เรียบร้อยของเขมิกา บวกกับใบหน้างามเข้ารูปนั้น แม้ไม่ต้องแต่งแต้มเธอก็สวยธรรมชาติ สวยทั้งนอกและใน แต่เขากลับมัวแต่ผูกติดอยู่กับความแค้น เลยมองข้ามความดีที่เขมิกามีให้ ชาตินี้เขาคงหาภรรยาที่แสนดีและเพียบพร้อมอย่างเธอไม่ได้อีกแล้ว นี่สินะที่เขาเรียกว่าตกนรกทั้งเป็น ผลกรรมที่เขาได้กระทำไว้ไม่ต้องรอถึงชาติหน้า มันกำลังส่งผลถึงชาตินี้และเดี๋ยวนี้ เขากำลังรับผลกรรมที่ทำไว้กับเขมิกา ทุกอย่างมันย้อนและสะท้อนกลับมาหาเขา ความเจ็บปวดที่เขมิกาได้รับนั้น มันได้คืนสนองกลับมาทิ่มแทงหัวใจของเขาเป็นร้อยเท่าพันเท่า ในเวลานี้เขาเหมือนตกอยู่ในนรกอเวจี
ใครเล่าจะรู้กับความระทมที่มี เมื่อชีวิตถูกกำหนดมาให้เป็นเช่นนี้ เด็กน้อยกลับมาจากโรงเรียน เธอพบเพียงห้องว่างเปล่า มาเรียมมองซ้ายแลขวาหามารดาผู้ให้กำเนิด จนลัลนาอดที่จะสงสารไม่ได้ เมื่อเด็กตัวแค่นี้ต้องมาอยู่ในสถานที่แบบนี้ ลัลนาได้แต่หวังว่าอนาคตของมาเรียม โชคชะตาคงไม่เล่นตลกเหมือนกับที่มารดาของเธอพบเจอมา"มาเรียมคืนนี้อยู่กับแม่นานะ แม่เขมไปทำงานพรุ่งนี้เช้าก็กลับ""แม่เขมทำงานที่ไหนคะ ทำไมถึงทำตอนกลางคืน แม่เขมบอกว่าตอนกลางคืนมันอันตราย" คำถามของมาเรียมทำให้ลัลนาถึงกับสะอึก ทุกคนต่างพร่ำสอนให้มาเรียมเป็นเด็กดี ผ้าขาวผืนนี้ใครจะระบายสีอะไรลงไป จะสวยงามแค่ไหนมันคงอยู่ที่คนแต่งแต้ม อย่างน้อยมาเรียมก็โชคดีที่คนแต่งแต้มสีลงไปเป็นเขมิกา มารดาที่รักลูกปานดวงใจ คอยผลักดันส่งเสริมให้หนูน้อยมีอนาคตที่สดใจ แม้ว่าตัวเธอต้องแลกมาด้วยอะไรก็ตามที"แม่เขมไปทำงาน ไปร้องเพลง มาเรียมไปอาบน้ำนะคะคนเก่ง จะได้มาทานข้าวเย็นด้วยกัน""ค่ะ แม่นา" มาเรียมเป็นเด็กว่านอนสอนง่าย แต่ลัลนากลับรู้สึกผิด เมื่อสิ่งที่พูดไปนั้นมันคือการโกหก ซึ่งมาเรียมเป็นเด็กฉลาด การปกปิดเรื่องนี้คงทำได้เพียงแค่ระยะเวลาหนึ่งเท่านั้น
บนเส้นทางที่มืดมนคงไม่อับจนไร้สิ้นซึ่งทางเดิน วันนี้เขมิกาขอติดรถมาส่งลูกสาวด้วย ลัลนาก็ไม่ได้แย้งอะไร เพราะความเป็นจริงแล้วก็อยากให้เขมิกาได้ไปส่งลูกบ้าง อย่างน้อยมาเรียมก็จะรู้สึกอบอุ่นที่มีมารดามาส่งเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง เมื่อมาถึงโรงเรียน เขมิกาขอรอในรถไม่ต้องเอ่ยถึงเหตุผล เพื่อนอย่างลัลนาก็เข้าใจดี"เป็นเด็กดีนะคะเชื่อฟังคุณครูรู้ไหมลูก""ค่ะ สวัสดีค่ะ หนูไปแล้วนะคะคุณแม่" เด็กน้อยพูดพร้อมกับยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม ก่อนจะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นมารดา จากนั้นจึงลงจากรถไปพร้อมกับลัลนา ก่อนจะโบกมือลามารดาของเธอ ซึ่งเขมิกานั่งอยู่ในรถที่ติดฟิล์มกรองแสงหนาทึบ ทำให้คนที่มองเข้ามาไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร แต่คนอยู่ด้านในสามารถมองออกไปเห็นคนด้านนอกอย่างชัดเจนรถคันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบกับคันที่เขมิกานั่งอยู่ ผู้ชายร่างกำยำที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ค่อยๆ เปิดประตู พร้อมกับอุ้มเด็กหญิงหน้าตาน่ารักวัยเดียวกับมาเรียมลงมาจากรถ ก่อนจะมีผู้หญิงสาวสวยก้าวเท้าตามลงมา สามคนพ่อแม่ลูกเดินเข้าไปภายในโรงเรียน โดยมีสายตาของเขมิกาทอดมองไปยังสามคนจนลับตา ด้วยความรู้สึกชอกช้ำในอุราเมื่อเขมิกานั่งมองภาพตรงหน้า
เมื่อเวลาล่วงเลยผ่านไป การเปิดภาคเรียนใหม่ก็มาถึง เด็กหญิงมาเรียมหน้าตาบ้องแบ๊ววัยน่ารัก เดินเข้ามาในโรงเรียน พร้อมกับมารดาที่ชื่อว่าลัลนา ทำให้ผู้ปกครองบางคนที่รู้ถึงอาชีพของเธอต่างมองมาอย่างเหยียดๆ แต่ลัลนาก็ไม่สนใจ"สวัสดีค่ะคุณครู" ลัลนาพูดพร้อมทั้งพนมมือไหว้ทักทายคุณครู ซึ่งคุณครูเองก็รีบรับไหว้พร้อมทั้งยิ้มกว้างให้กับทั้งสองอย่างเป็นกันเอง"สวัสดีค่ะคุณลัลนา หนูมาเรียม" มาเรียมยกมือขึ้นไหว้ครูไม่สวยเท่าไรนัก เพราะเด็กน้อยเริ่มจะรู้แล้วว่าที่นี่จะไม่มีมารดาของเธอ"ไหว้สวยๆ ค่ะหนูมาเรียม" ลัลนาเอ็ดมาเรียมเล็กน้อย ซึ่งเป็นการติเพื่อก่อ เมื่อลัลนสต้องการให้เด็กน้อยทำกิริยาให้งดงาม สมกับที่เป็นลูกหลานของบ้านรชนิศภานุพงศ์"ซาหวัดดีคะคุณครู" แม้จะพูดยังไม่ชัดสักเท่าไหร่นัก แต่เด็กหญิงมาเรียมก็พูดออกเสียงรอเรือได้ชัดเจน กว่าพยัญชนะตัวอื่น"สวัสดีค่ะ หนูมาเรียมไหว้สวยมากเลยนะคะ ไปค่ะคุณครูจะพาเอาของไปเก็บ แล้วไปเล่นกับเพื่อนๆ นะคะ""ฝากด้วยนะคะคุณครู""ไม่ต้องห่วงค่ะคุณลัลนา หน้าที่ของคุณครูคือการอบรมดูแลและเอาใจใส่เด็กทุกคนเป็นอย่างดีค่ะ"เมื่อลัลนาส่งมาเรียมเข้าห้องเรียนเสร็จแล้ว เธอก็
แม้ชยันต์รู้ดีว่าเด็กคนนี้ไม่ใช่ลูกของเขา แต่ก็อดที่จะสงสารไม่ได้ เมื่อเด็กไม่รู้เรื่องอะไรด้วย ซึ่งเธอโชคร้ายที่มาเกิดในท้องของแชมเปญ เธอเป็นมารดาที่ไม่เคยแม้แต่จะอุ้มลูกด้วยซ้ำตั้งแต่คลอดออกมา แชมเปญได้ลูกสาวชื่อว่าชนัญ แปลว่าว่าคนที่แตกต่าง เพราะเธอแตกต่างจริงๆ เมื่อมีแชมเปญเป็นแม่และชยันต์เป็นพ่อด้วยเหตุผลที่เขาต้องจำยอม ไม่สามารถปฏิเสธหรือหลีกเลี่ยงความรับผิดชอบนี้ไปได้ เวลาที่เขามองหน้าเด็กน้อยคนนี้ทีไร ทำให้นึกถึงผู้หญิงอีกคน ถ้าลูกของเขายังอยู่ป่านนี้เธอก็คงจะคลอดแล้ว เมื่อนึกถึงเขมิกาทีไร ชยันต์ก็มักเดินเข้าไปในห้องของชรัญเสมอ เพราะของทุกอย่างเขาเก็บมันเอาไว้ที่นี่เพื่อรอให้เขมิกากลับมาทั้งที่เขาก็รู้อยู่แก่ใจว่ามันคงไม่มีวันจะเป็นไปได้ แต่เขาก็ยังหลอกตัวเองว่าสักวันเขมิกาจะกลับมาพร้อมกับลูกน้อย เมื่ออยู่ลำพังน้ำตาของลูกผู้ชายอกสามศอกได้ไหลหยดลงมาอีกครั้ง กรอบรูปงานแต่งที่มีเขาเป็นเจ้าบ่าวเขมิกาเป็นเจ้าสาวใบหน้าอันงดงามที่เปื้อนไปด้วยรอยยิ้ม ทำให้ชยันต์นึกถึงวันที่เขาพรากทุกอย่างไปจากเธอ ตั้งแต่วันที่เขาเดินเข้ามาในชีวิตของเขมิกา รอยยิ้มนั่นก
บางครั้งความเจ็บปวดมันก็ไม่ได้หมายความว่าเรากำลังทุกข์ เพราะการเจ็บปวดครั้งนี้มันมาพร้อมกับความสุข รถพยาบาลแล่นเข้ามาหน้าตึกทางเข้าห้องฉุกเฉิน โดยมีหญิงท้องแก่นอนปวดท้องอยู่ภายในรถ ก่อนที่เธอจะถูกพยาบาลและบุรุษพยาบาลพาขึ้นรถเข็นเข้าไปยังห้องคลอด ภายในห้องสี่เหลี่ยมสีขาวเขมิกากำลังนอนรอให้กำเนิดทารกน้อย ความเจ็บปวดและการบีบรัดบวกกับการหดตัวเป็นจังหวะของมดลูกนั้น มันมีความรุนแรงสม่ำเสมอและถี่มากขึ้นเรื่อยๆ เม็ดเหงื่อที่ผุดขึ้นเต็มใบหน้าบวกกับความเจ็บปวดที่บ่งบอกถึงนาทีเป็นนาทีตาย ซึ่งมันเจ็บเกินคำบรรยายใดๆ หากเวลานี้มีบิดาของลูกยืนอยู่ข้างๆ คอยกุมมือให้กำลังใจและซับเหงื่อให้ มันคงจะรู้สึกดีหรืออาจจะบรรเทาความเจ็บปวดลงได้บ้างไม่มากก็น้อย แต่เวลานี้เขมิกากำลังเผชิญกับความเจ็บปวดนี้เพียงลำพัง เมื่อความเจ็บปวดรุนแรงขึ้นอย่างต่อเนื่องจากมดลูกหดรัดตัวดีขึ้นเรื่อยๆ นิการู้สึกเจ็บมากที่สุดที่เคยเจ็บมาในชีวิตนี้ ความรู้สึกครั้งนี้ทำให้เธอนึกถึงใบหน้าของผู้เป็นมารดา ในวันนั้
อดีตมันคือเรื่องราวของเมื่อวาน..แม้เพิ่งผ่านมาไม่นานจะขอจดจำแต่สิ่งดี บ้านรชนิศภานุพงศ์ คุณหญิงขวัญเรียมนั่งถอนหายใจอยู่ที่ห้องรับแขก เมื่อเห็นสภาพของลูกชายที่เหลือเพียงคนเดียวตอนนี้ชยันต์ไม่ต่างอะไรกับศพที่เดินได้ หน้าตาที่เคยหล่อเหลาเวลานี้มันรุงรังไปด้วยหนวดเครา เนื้อตัวที่ซูบผอมเสื้อผ้าที่เคยเนี้ยบ คนรีดต้องใช้เวลาและพิถีพิถันเป็นอย่างดีเขาจึงจะสวมใส่แต่เวลานี้เขากลับสวมเพียงแค่เสื้อยืดกางเกงยีนที่ไม่ได้ถอดไปซักเป็นเวลาหลายวันแล้ว มันดูมอซอเสียจนผู้เป็นมารดาแทบทนไม่ได้ กลิ่นน้ำเมาส่งกลิ่นเหม็นตลบอบอวลคละคลุ้งไปทั่วร่าง แทนน้ำหอมแบรนด์เนมที่เคยใช้ น้ำที่ไม่ได้ไหลชำระล้างผ่านร่างกายมาหลายวันนั้น ทำให้สภาพของเขาเวลานี้ช่างต่างกันราวฟ้ากับเหว ใครเห็นคงไม่เชื่อแน่ว่าเขาคือนักธุรกิจหนุ่มรูปหล่อไฟแรง ที่บรรดาสาวน้อยสาวใหญ่เคยแย่งกันขายขนมจีบ "ชยันต์แกจะหยุดดื่มได้หรือยังแม่ขอเถอะนะ แม่เหลือแกแ