Beranda / อื่น ๆ / ตราบาปบริสุทธิ์ / รักหมดใจแต่แสดงออกไปว่าไม่ต้องการ

Share

รักหมดใจแต่แสดงออกไปว่าไม่ต้องการ

last update Terakhir Diperbarui: 2025-08-27 07:58:57

บ้านรชนิศภานุพงศ์ การที่ไม่มีเขมิกาอยู่ที่บ้านหลังใหญ่ บรรยากาศภายในบ้านเริ่มเปลี่ยนไป อาหารที่เคยเลิศรสและพิถีพิถันในการปรุง การตกแต่งบ้านตามมุมต่างๆ ที่เคยเต็มไปด้วยดอกไม้นานาพันธุ์ ความหอมจากเกสรของมัน ค่อยๆ จางลงไป พร้อมกับการจากไปของผู้หญิงที่ชื่อเขมิกา                                    

ชยันต์ที่นั่งอยู่บนระเบียงของบ้านทรงไทยหลังกว้างใหญ่ เขาเหม่อมองออกไปอย่างไร้จุดหมาย ในเวลาที่พระอาทิตย์กำลังจะลับขอบฟ้า ต้นไม้ที่เอนไปตามลมยามเย็น บ่งบอกให้รู้ว่าความสว่างไสวของช่วงกลางวันกำลังจะสิ้นสุดลง ความมืดมนกำลังจะเข้ามาแทนที่ เหล่าวิหคกำลังโบยบินกลับรัง

บรรยากาศอันร่มรื่นของบ้าน ที่ปกคลุมไปด้วยต้นไม้เล็กใหญ่บนเนื้อที่สิบกว่าไร่ ของอาณาเขตเรือนไทย แต่เวลานี้มันช่างมืดครึ้มเสียเหลือเกิน ทุกอย่างรอบๆ บ้าน กำลังเศร้าหม่นเหมือนกับไว้อาลัยให้กับการจากไปของเขมิกา ไม่นานก็มีนกบินเข้ามายังรังนอน ที่อยู่บนต้นไม้ข้างๆ ระเบียงที่ชยันต์นั่งอยู่ ทำให้เขานึกถึงใบหน้างามของคนที่เคยเป็นภรรยา เธอคงไม่หวนกลับมายังรังนอนนี้อีกแล้ว ชยันต์ไม่สามารถทำใจยอมรับเขมิกาเป็นภรรยาได้ เนื่องจากเธอเป็นสาเหตุทำให้พี่ชายของเขาต้องมาตายจากไปโดยไม่ได้ร่ำลา              

ชายหนุ่มนั่งอยู่พักใหญ่ๆ ก่อนจะได้ยินเสียงรถแล่นเข้ามาจอด เขาพอจะเดาได้คงเป็นมารดา ที่ห่างบ้านไปนานและคงมีใครส่งข่าวให้ท่านรู้เรื่องเขมิกาเป็นแน่ มารดาของเขาจึงด่วนมาเช่นนี้ เมื่อผู้เป็นมารดาได้เดินทางไปพักผ่อนที่ต่างประเทศและดูแลธุรกิจไปด้วย เกือบสามเดือนที่นางไม่อยู่เมืองไทย นั่นคือโอกาสและเวลาที่เขาเริ่มลงมือวางแผนทำร้ายเขมิกา ให้สาสมกับที่เธอเป็นต้นเหตุทำให้ชรัญพี่ชายคนเดียวของเขาต้องมาตาย                                                                                                 

เมื่อลงจากรถก็มีคนเดินมารายงานคุณหญิงขวัญเรียมเรื่องเขมิกาทันที คนที่รายงานไม่ใช่ใครที่ไหนคนนั้นก็คืออนงค์ แม่นมที่เลี้ยงดูชรัญและชยันต์มาตั้งแต่เล็ก พอคุณหญิงฟังจบนางก็ไม่รอช้ารีบขึ้นไปหาลูกชายอย่างเร่งรีบ เพราะไม่คิดว่าชยันต์จะกล้าทำเรื่องแย่ๆ แบบนี้ลงได้         

"มันเกิดอะไรขึ้นชยันต์ เขมิกาหายไปไหน เธอไปตั้งแต่เมื่อไหร่ ทำไมไม่บอกแม่" ผู้เป็นมารดาเอ่ยปากถามขึ้น เมื่อเห็นลูกชายเอาแต่เหม่อลอยออกไปอย่างไร้จุดหมายอย่างนั้น นี่หรือคนที่เป็นฝ่ายชนะ ไม่ใช่เลยเขากำลังแพ้ต่างหาก แพ้ให้กับความรักที่เขามีให้เขมิกา การที่เขาพยายามปฏิเสธหัวใจตัวเองนั้น มันยากยิ่งกว่าการบอกรักใครสักคนเสียอีก                                                                                                          

"แม่มาถึงนานหรือยังครับ ทำไมไม่บอก ผมจะได้ไปรับ" เมื่อลูกชายตอบไม่ตรงคำถาม หญิงวัยกลางคนค่อยๆ นั่งลงข้างๆ ชายหนุ่ม ก่อนที่จะถอนหายใจเข้าลึกๆ อย่างเหนื่อยหน่าย กับสิ่งที่ลูกชายกำลังฝืนทำ จนส่งผลให้ตัวเองเจ็บไม้แพ้เขมิกา

"แกกำลังทำอะไรอยู่ชยันต์ เขมไม่มีญาติหรือว่าเพื่อนพ้องที่ไหน ป่านนี้จะไปตกระกำลำบากอยู่ที่ใดก็ไม่รู้ ผู้หญิงตัวเล็กๆ จะต้องไปเผชิญกับชะตากรรมนอกบ้าน มันไม่สนุกหรอกนะ หยุดซะ! กับสิ่งที่แกกำลังทำอยู่ คนที่จะสูญเสียคือแกเองนะชยันต์"                                                    

"แม่ก็รู้เขมิกาคือคนที่ทำให้ชรัญต้องตาย! เธอสมควรได้รับผลกรรมที่ทำไว้ นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ ผมปล่อยให้เธอมีชีวิตอยู่อย่างสุขสบายมานานแล้ว มันถึงเวลาที่เธอควรจะได้รับความเจ็บปวดเหมือนที่ผมกับแม่เคยเจอมาก่อน" ชายหนุ่มยังคงหยิบยกเอาเหตุผล ที่มันขัดแย้งกับความรู้สึกขึ้นมาเป็นข้ออ้าง                       

"ทำไมแกถึงปักใจเชื่อว่าเขมิกาเป็นสาเหตุการตายของชรัญ ในเมื่อหลักฐานอะไรก็ไม่มี เพียงแค่รูปถ่ายของเธอตกอยู่ในห้อง มันไม่เพียงพอหรอกนะ หลักฐานแค่นั้นมันเป็นการปรักปรำเธอมากกว่า”                       

"แค่นั้นมันก็มากพอแล้ว เธอเป็นสาเหตุทำให้ชรัญต้องตายแน่นอนผมมั่นใจ"                                   

"ชีวิตแกมันคงยึดติดอยู่แต่กับการแก้แค้นหรอกเหรอชยันต์ ถ้าวันหนึ่งความจริงปรากฏ เขมิกาไม่ได้เป็นสาเหตุในการตายของชรัญ แกอย่ามาเสียใจก็แล้วกัน" พอคุณหญิงขวัญเรียมพูดจบ ก็เดินออกไปทันที ซึ่งคุณหญิงรักลูกสะใภ้คนนี้มาก ประหนึ่งว่าเป็นลูกสาวแท้ๆ ของตัวเอง เพราะเขมิกาทำหน้าที่สะใภ้และภรรยาไม่เคยขาดตกบกพร่อง ฝีมือปลายจวักที่ใครได้มาชิมต่างก็พูดเป็นเสียงเดียวกัน ถึงความเลิศรสของอาหารคาวหวานที่เขมิกาเป็นคนปรุง                                                                    

ถึงแม้ว่าเขมิกาจะไม่ได้โตมากับครอบครัวตระกูลผู้ดีเก่าแก่ แต่มารดาของเธอก็อบรมเลี้ยงดูมาอย่างดี ทำให้เธอโตขึ้นมา เพียบพร้อมไปด้วยกิริยามารยาทที่งดงาม บวกกับหน้าตาที่สวยได้รูป ดวงตากลมโตดังดวงจันทร์วันเพ็ญนั้นคนที่โชคดีที่สุดน่าจะเป็นชยันต์ ที่ได้เธอมาเป็นภรรยา แต่เขากลับมองเห็นเธอเป็นเพียง แค่ศัตรูที่พรากชีวิตของพี่ชายของเขาไปเท่านั้น                                                                      

ชยันต์เปิดประตูเข้ามายังห้องนอน เวลานี้เขาควรดีใจที่ได้แก้แค้นเขมิกาสำเร็จ แต่ทำไมมันกลับมาทิ่มแทงหัวใจของเขาเอง ภาพที่เขมิกานั่งร้องไห้สะอึกสะอื้นจนตัวโยนตามมุมต่างๆ

ภายในห้องนี้ มันผุดได้ขึ้นมาในหัวของเข้าอีกครั้ง เขาพยายามสลัดมันออกไป แต่ก็กลับวนเวียนมาเหมือนเดิม เพราะไม่ว่าจะเป็นเสื้อผ้าเครื่องใช้ที่เป็นของเขมิกา ครีม แป้ง แปรงยาสีฟัน รองเท้า กระเป๋าทุกอย่างที่เป็นของเธอ มันยังคงวางอยู่ที่เดิมภาพที่เขมมิกานอนอยู่บนเตียง เธอมักจะนอนสะอึกสะอื้นจนตัวสั่นเทา ก่อนหลับทุกคืน ภาพเหล่านั้นมันยังคงตราตรึงตามมาหลอกหลอนเขาอยู่ร่ำไป                           

ตอนที่เขมิกามาบอกว่าเธอกำลังตั้งท้อง ลึกๆ แล้วเขารู้สึกดีใจ แต่กลับพูดออกไปในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับหัวใจ เขาสั่งให้เขมิกาไปเอาเด็กออก เขาไม่เคยคิดมาก่อนเลยว่า เขาจะพลั้งปากพูดอะไรแบบนั้นออกไป เพราะอารมณ์และความแค้นแท้ๆ ที่พลั้งปากสั่งให้เธอไปฆ่าลูกของตัวเอง

เมื่อนอนไม่หลับชยันต์จึงเดินเข้าไปยังห้องหนึ่ง ก่อนจะไขกุญแจเปิดประตูเข้าไป เขาใช้ห้องนี้เป็นห้องเก็บของบังหน้า แต่ข้างในมันคือห้องของชรัญ เวลามีเรื่องไม่สบายใจ เขามักจะเข้ามาขลุกอยู่แต่ในห้องนี้ เพราะมันทำให้เขารู้สึกว่าชรัญพี่ชายของเขายังอยู่ข้างๆ เสมอ

Lanjutkan membaca buku ini secara gratis
Pindai kode untuk mengunduh Aplikasi

Bab terbaru

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 74 ตอนพิเศษ

    เวลาผ่านไปสามปีกว่า มาเรียมได้ให้กำเนิดลูกสาวคน ชื่อว่ามาติยา ดวงหน้าและแววตาของหนูน้อยมีความคล้ายคลึงเขมิกามารดาของเธอมาก ใครเห็นต่างก็รักและเอ็นดู เพราะมาติยาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่งอแง ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุด ในช่วงบ่ายแก่ๆ มาเรียมและติณณ์ได้พาลูกสาวไปเล่นกับคุณตาและคุณทวดที่บ้านรชศภานุพงศ์ ส่วนชนัญหลังจากที่บิดาให้ไปเรียนรู้งานกับตุลย์พี่ชายของติณณ์ความใกล้ชิด ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกัน จากนั้นในปีถัดมาคนทั้งสองได้ตกลงปลงใจแต่งงานกัน จนตอนนี้ชนัญตั้งครรภ์ท้องแก่ กำหนดคลอดต้นเดือนหน้านี้แล้ว ซึ่งหญิงสาวยังคงอยู่ที่บ้านรชศภานุพงศ์ เพราะมาเรียมได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของติณณ์ จึงทำให้พี่ชายของเขาต้องจำใจย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้แทน เนื่องจากชยันต์ไม่ยอมให้ลูกสาวอีกคนย้ายออกไปทางด้านแชมเปญหลังจากที่ชยันต์วิ่งเต้นประกันตัวให้ออกมาห้องขัง หล่อนได้ย้ายออกไปอยู่คอนโดใช้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะไม่อยากข้องเกี่ยวกับชยันต์ให้เป็นเวรเป็นกรรมต่อกันอีก แต่ชนัญก็ได้แวะเวียนไปหามารดาของเธอบ่อยๆ เพราะกลัวว่าแชมเปญจะเหงา ที่ต้องไปอยู่อย่างโดเดี่ยวแบบนั้น เพราะตั้งแต่นายทรงพลบิดาของเธอเ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 73 บทส่งท้าย2

    "คุณสวยมากรู้ตัวหรือเปล่ามาเรียม ตรงนี้เป็นของผม ตรงนี้เป็นของผม และตรงนี้มันก็เป็นของผม ตัวของคุณทุกซอกทุกมุมเป็นของผม เพียงคนเดียว" ติณณ์ใช้สายตากวาดมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของภรรยาด้วยความรู้สึกเสน่หา พร้อมกับจับตรงนั้นตรงนี้จนมาเรียมรู้สึกเขินอายแทบจะมุดลงใต้เตียงแล้วในตอนนี้"ผมรักคุณจัง" ติณณ์พูดออกมาพร้อมกับจับมาเรียมนอนราบลงไปกับเตียง ขณะชายหนุ่มได้เข้าไปคร่อมร่างอรชรเอาไว้ ทั้งสองจ้องมองไปที่ดวงตาของกันและกัน ซึ่งเวลานี้มันได้หวานหยาดเยิ้ม ใบหน้าหวานกับเรียวปากอวบอิ่มที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยลิปสติกสีแดง ทำให้หญิงสาวแลดูเซ็กซี่และเย้ายวนเกินห้ามใจ"มาเรียมก็รักคุณค่ะ" หญิงสาวบอกรักชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่เขินอาย เมื่อสายตาคมของเขาจ้องมองลงต่ำไปหยุดที่ทรวงอกเปลือยเปล่าของเธอ"แม่บอกว่าอยากอุ้มหลานแล้ว คืนนี้จัดเต็มนะที่รัก" เสียงทุ้มของชายหนุ่มกระซิบลงไปที่ข้างหูของภรรยา ก่อนที่เขานั้นจะซุกไซ้ใช้ปลายจมูกคม กดลงไปที่ลำคอระหง พร้อมกับพรมจูบลงไป ติณณ์ใช้ปลายลิ้นลากเลียลงมาที่เม็ดบัวอมชมพู พร้อมกับใช้มือเคล้นคลึงเบาๆ"อืม...อ๊า คุณติณณ์ขา" หญิงสาวร้องเรียกชายหนุ่มออกมา เมื่อปลายล

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 72 บทส่งท้าย

    วันเวลาผ่านไป งานแต่งระหว่างมาเรียมกับติณณ์ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้คนหลายร้อยพันมาเป็นสักขีพยาน ทุกคนล้วนแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ ที่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาสมใจสักที ชนัญก็มาร่วมงานนี้ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องคนละสายเลือด เริ่มสนิทและคุ้นเคยรักกันไม่ต่างพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา คนที่สุขใจที่สุดเห็นจะเป็นชยันต์บิดาของมาเรียม เมื่อเขานั้นไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเรื่องราวดีๆ จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเขา เมื่อลูกสาวทั้งสองรักใคร่ปรองดองกัน แม้ชนัญจะไม่มีสายเลือดของเขาสักหยด แต่ชยันต์ก็รักไม่ต่างจากมาเรียม เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก ส่วนมาเรียมนั้นไม่ต้องบอกเขารักลูกสาวคนนี้ โดยไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น"ขอให้ทั้งสองครองรักกัน ตราบชั่วนิรันดรขอให้แต่ละวันคืนในชีวิตคู่เป็นวันที่แสนพิเศษ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ย่ารักหนูนะมาเรียม" หญิงสูงวัยอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว ก่อนที่ทั้งสองจะลงก้มลงกราบที่เท้าด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ"ขอบคุณนะคะคุณหญิงย่า มาเรียมก็รักคุณหญิงย่านะคะ" มาเรียมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับหญิงสูงวัย ด้วยความรู้สึกรัก แม้จะเข้ามาอยู่ในบ้านรชนิศนุพงศ์ได้ไม่นาน แต่ควา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 71 ความเข้าใจ

    ณ บ้านรชนิศภานุพงศ์วันนี้ชยันต์ได้ออกจากโรงพยาบาล คุณหญิงขวัญเรียมได้จัดแจงให้แม่บ้านทำอาหารไว้ต้อนรับลูกชาย ซึ่งสิ่งที่หญิงสูงวัยมีความสุขมากที่สุด นั่นคือการที่มาเรียมและบิดาได้ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนชนัญยังคงเก็บตัวเงียบ เธอไม่สนใจโลกภายนอกตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่อง ชนัญลงมาทานข้าวแล้วขึ้นห้องเธอทำแบบนี้ตั้งแต่แชมเปญถูกจองจำ และที่น่าสมเพชไปยิ่งกว่านั้น ไม่มีใครไปเยี่ยมมารดาเธอเลยสักครั้ง แชมเปญคงต้องอยู่ในนั้นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยใช้ชีวิตอย่างลำพัง พร้อมกับความยากลำบากแสนเข็ญ คนที่พูดปดมดเท็จไปทั่วแย่งสามีชาวบ้านอย่างแชมเปญ ผลของกรรมเหล่านั้นกำลังจะตามเธอทัน เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยได้รับ แต่แชมเปญคงเจ็บปวดกว่าหลายเท่า เมื่อเธอต้องไร้ซึ่งอิสรภาพและต้องตกอยู่ในสถานที่แบบนั้น อีกไม่นานศาลชั้นต้นก็คงจะพิพากษาแชมเปญ ที่มีได้กระทำความผิด แน่นอนเธอคงได้นอนอยู่ในกรงขังนานหลายปี เมื่อไม่มีใครไปประกันตัวซึ่งอีกคนที่ได้รับกรรมครั้งนี้อีกคนคือชนัญ เมื่อเธอรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้วสิ้น ชยันต์ไม่ใช่บิดาแท้ๆ แม้เขาจะดูแลเธอมาทั้งชีวิต และมันคงถึงเวลา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 70 ความรู้สึกของการมีพ่อ

    ภายใต้ห้องสี่เหลี่ยมที่มีชายวัยกลางคนนอนหลับใหล ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะตื่นฟื้นขึ้นมา หมอบอกว่าชยันต์บิดาของเธอพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มาเรียมคลายความกังวลลงเลยแม้แต่น้อย เมื่อชยันต์ยังคงนอนเป็นผักอยู่แบบนี้มาหลายวันแล้ว"ทานอะไรบ้างสิมาเรียม คุณต้องเข้มแข็งหากคุณอาชยันต์ฟื้นขึ้นมา คุณจะเอาแรงจากไหนมาดูแลพ่อ" คำพูดของติณณ์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในหูของมาเรียมเลยสักนิด หญิงสาวยังคงนั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เธอกุมมือผู้เป็นบิดาเอาไว้นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ จนฝ่ามือของคนทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ“นี่ก็หลายวันแล้ว พ่อควรฟื้นได้แล้วนะคะ ทุกคนเป็นห่วงพ่อมาก มาเรียมเองก็เป็นห่วงอยากให้พ่อกลับมา กลับมาเป็นพ่อของมาเรียมเถอะนะคะ" มาเรียมพูดพร้อมกับเอามือของชยันต์ขึ้นมาแนบไว้ที่แก้มนวลของเธอ ก่อนที่น้ำตาใสๆ จะไหลหยดลงใส่หลังมือของผู้เป็นบิดา สายใยความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก คงไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น แต่มาเรียมกับชยันต์สองพ่อลูกช่างมีอุปสรรคเหลือเกินเมื่อเธอมุ่งแต่จะเอาคืนผู้เป็นบิดา จนลืมนึกถึงความถูกต้อง หญิงสาวเกือบพลั้งมือทำลายบริษัท ที่บิดานั้นเก็บรักษาเอาไว้ให้เธอ แต่นั่นมันก็ไ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 69 เมื่อความจริงปรากฏ

    ซึ่งความรู้สึกผิดที่มาเรียมมีต่อบิดานั้น ไม่ได้เกิดมาจากการที่เขายกสมบัติอะไรนั่นให้เธอเลยสักนิด แต่มันเกิดจากความรู้สึกผิด ที่บิดานั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำของเขาที่มีต่อแม่เขมิกามาโดยตลอด แต่พอมาเรียมเดินเข้ามาในชีวิตของชยันต์ ไม่ต่างอะไรกับที่เธอนั้นใช้มีดกรีดลงไปซ้ำที่แผลเดิม"ใจเย็นไม่ร้องนะครับคนดี คุณอาชยันต์ต้องปลอดภัยเชื่อผม แม่เขมิกาคงไม่อยากเอาพ่อของมาเรียมไปอยู่ด้วยหรอก เพราะแม่อยากให้คุณอาชยันต์ดูแลมาเรียมมากกว่า" คำพูดของติณณ์แม้จะเป็นเพียงแค่คำปลอบโยน มาเรียมก็ได้แต่ภาวนาหากดวงวิญญาณมีจริง ก็ขอให้แม่เขมิกาปกป้องให้บิดากลับมาอย่างปลอดภัย เพราะเธอยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับมารดาอยากจะเล่าให้บิดาฟัง ซึ่งเขมิกาก็ไม่เคยให้ใจใครไปเช่นกัน ความรักที่นางมีให้กับชยันต์นั้น มันยังมั่นคงตราตรึงตราบจนนางสิ้นลมหายใจ"พ่อของมาเรียมเป็นคนดี เคยได้ยินไหมคนดีผีคุ้ม ยังไงก็ต้องปลอดภัย" เมฆเพื่อนเพียงคนเดียวที่ไม่เคยทอดทิ้งมาเรียมไปไหนตั้งแต่เล็กจนโต และคงไม่มีใครเป็นเพื่อนแท้เท่าเมฆได้อีกแล้ว แม้ยามสุขหรือยามทุกข์เขาก็มักจะอยู่ข้างๆ มาเรียมเสมอ"ขอบใจมากนะเมฆ" มาเรียมพูดออกมา ขณ

Bab Lainnya
Jelajahi dan baca novel bagus secara gratis
Akses gratis ke berbagai novel bagus di aplikasi GoodNovel. Unduh buku yang kamu suka dan baca di mana saja & kapan saja.
Baca buku gratis di Aplikasi
Pindai kode untuk membaca di Aplikasi
DMCA.com Protection Status