Home / อื่น ๆ / ตราบาปบริสุทธิ์ / Chapter 9 การตัดสินใจ

Share

Chapter 9 การตัดสินใจ

last update Last Updated: 2025-08-27 08:02:40

บนเส้นทางที่มืดมนคงไม่อับจนไร้สิ้นซึ่งทางเดิน วันนี้เขมิกาขอติดรถมาส่งลูกสาวด้วย ลัลนาก็ไม่ได้แย้งอะไร เพราะความเป็นจริงแล้วก็อยากให้เขมิกาได้ไปส่งลูกบ้าง อย่างน้อยมาเรียมก็จะรู้สึกอบอุ่นที่มีมารดามาส่งเหมือนกับคนอื่นเขาบ้าง เมื่อมาถึงโรงเรียน เขมิกาขอรอในรถไม่ต้องเอ่ยถึงเหตุผล เพื่อนอย่างลัลนาก็เข้าใจดี

"เป็นเด็กดีนะคะเชื่อฟังคุณครูรู้ไหมลูก"

"ค่ะ สวัสดีค่ะ หนูไปแล้วนะคะคุณแม่" เด็กน้อยพูดพร้อมกับยกมือไหว้อย่างอ่อนน้อม ก่อนจะเข้าไปสวมกอดผู้เป็นมารดา จากนั้นจึงลงจากรถไปพร้อมกับลัลนา ก่อนจะโบกมือลามารดาของเธอ ซึ่งเขมิกานั่งอยู่ในรถที่ติดฟิล์มกรองแสงหนาทึบ ทำให้คนที่มองเข้ามาไม่สามารถรู้ได้ว่าเป็นใคร แต่คนอยู่ด้านในสามารถมองออกไปเห็นคนด้านนอกอย่างชัดเจน

รถคันหรูแล่นเข้ามาจอดเทียบกับคันที่เขมิกานั่งอยู่ ผู้ชายร่างกำยำที่เธอคุ้นเคยเป็นอย่างดี ค่อยๆ เปิดประตู พร้อมกับอุ้มเด็กหญิงหน้าตาน่ารักวัยเดียวกับมาเรียมลงมาจากรถ ก่อนจะมีผู้หญิงสาวสวยก้าวเท้าตามลงมา สามคนพ่อแม่ลูกเดินเข้าไปภายในโรงเรียน โดยมีสายตาของเขมิกาทอดมองไปยังสามคนจนลับตา ด้วยความรู้สึกชอกช้ำในอุรา

เมื่อเขมิกานั่งมองภาพตรงหน้า เธอถึงกับกำมือแน่น เพื่อระงับความโกรธ ซึ่งเธอกับลูกอยู่กันอย่างยากลำบาก แต่เขากลับมีครอบครัวที่อบอุ่นอยู่กันพร้อมหน้าพร้อมตาพ่อแม่ลูก ชยันต์จะต้องเสียใจกับสิ่งที่เขาสั่งให้เธอทำ มาเรียมต้องมีพร้อมทุกอย่างและต้องโตมาอย่างมีคุณภาพ เขมิกาบอกกับตัวเองจนขึ้นใจ มาเรียมจะต้องเพอร์เฟกต์ ลูกสาวของเธอต้องเก่งทุกด้าน เวลานี้เขมิกาจะทำทุกอย่าง เพียงเพื่อให้มาเรียมอยู่เหนือลูกของชยันต์ให้ได้

สักพักลัลนาก็เดินมาขึ้นรถ ประจำที่ตำแหน่งคนขับ แต่ก็ต้องแปลกใจ เมื่อเพื่อนรักกำมือแน่นดวงตาเหม่อลอย เหมือนกำลังคิดอะไรอยู่อย่างมีนัยแอบแฝง

"เขม เขมิกาเธอเป็นอะไร ยัยเขม!" เมื่อเรียกแล้วแต่เขมิกาก็ยังเหม่อ จึงทำให้ลัลนาเอื้อมมือไปเขย่าที่แขนของเพื่อนรักอย่างแรง เธอจึงมีสติกลับคืนมา

"อาการแบบนี้คงเป็นเพราะชยันต์ใช่ไหม นาเดินสวนกับเขาเมื่อตะกี้ รู้สึกว่าลูกของเขาจะอยู่ห้องเดียวกับมาเรียมด้วยนะ" ลัลนาพูดขณะขับรถออกมาจากโรงเรียน เธอไม่เข้าใจกับสิ่งที่เขมิกากำลังคิดจะทำ เพราะมันเสี่ยงเกินไป ที่จะให้มาเรียมเรียนที่เดียวกับลูกของชยันต์ แต่เธอก็ไม่สามารถขัดเขมิกาได้

"นาช่วยหาแขกกระเป๋าหนักให้เขมสักคนสิ"

เอี๊ยดดด!! ลัลนาเหยียบเบรกกระทันหัน ก่อนจะหักรถหลบเข้าข้างทาง ดีนะที่ไม่มีรถตามหลังมา ไม่อย่างนั้นคงเกิดอุบัติเหตุแน่ๆ

"ลัลนาแกขับรถยังไงเนี่ย เขมยังมีลูกที่ต้องดูแลนะ ตกใจหมดเลย!" เขมิกาพูดพร้อมกับเอามือขึ้นมาทาบที่อก แต่คนที่ดูจะตกใจกว่าคือลัลนา เมื่อหญิงสาวไม่คิดไม่ฝันมาก่อนเลยว่า เพื่อนรักคิดจะทำอะไรแบบที่พูดออกมา

"นี่เขมเธอเป็นบ้าไปแล้วเหรอ เขมกำลังคิดจะทำอะไร รู้ใช่ไหมสิ่งที่เขมกำลังคิดจะทำ มันจะส่งผลให้ชีวิตของเขมพังพินาศได้เลยนะ"

"เขมคิดและตัดสินใจดีแล้ว มันคือทางเดียวที่เขมมีในเวลานี้" หญิงสาวพูดออกมาด้วยแววตาที่มุ่งมั่น เมื่อเธอนั้นมีความปรารถนาที่จะเอาชนะชยันต์

"เขมไม่สงสารมาเรียมเลยหรือไง คิดจะทำอะไรก็นึกถึงลูกบ้าง ถ้ามาเรียมโตขึ้นรู้ว่าแม่ทำงานอะไร ถ้าเพื่อนที่โรงเรียนรู้และเอามาล้อ มาเรียมอาจจะเป็นเด็กเก็บกดหรือกลายเป็นโรคซึมเศร้าได้นะเขม" ลัลนาพยายามพูดโน้มน้าวให้เพื่อนรักเปลี่ยนใจ

"เรื่องนี้มันเป็นความลับระหว่างเราสองคน ถ้านาไม่บอกมาเรียมก็ไม่รู้”

"แต่นาไม่อยากให้เขมทำ บอกตรงๆ นะเขมอาชีพนี้มันไม่เหมาะกับเขมเลย เราไม่รู้ว่าจะเจอแขกแบบไหนบ้าง บางคนก็ดีอ่อนโยนนุ่มนวล แต่บางคนซาดิสม์มีความต้องการที่รุนแรง นั่นมันคือสิ่งที่ผู้หญิงอย่างเราหวาดกลัวที่สุดในชีวิต แล้วไหนจะถูกเขาตราหน้าว่าไร้เกียรติและศักดิ์ศรีอีก"

"ต่อให้แลกมันมาด้วยชีวิตเขมก็จะทำ สิ่งที่เขมได้ตัดสินใจไปแล้ว ไม่มีอะไรคือใครมาเปลี่ยนใจเขมได้หรอกนา" ลัลนาเหนื่อยหน่ายกับความดื้อรั้นของเขมิกา เพราะหญิงสาวยืนกระต่ายขาเดียว ไม่ฟังคำห้ามปรามของเธอเลยสักนิด

ในที่สุดลัลนาตีไฟเลี้ยวขับรถมุ่งสู่ถนนใหญ่ พร้อมทั้งถอนหายใจเข้าลึกๆ หลายครั้ง สรุปแล้วเธอต้องช่วยเพื่อน ในสิ่งที่ไม่อยากช่วยเอาเสียเลย

"นาคงห้ามเขมไม่ได้เลยสินะ" ลัลนายังคงถามออกมาด้วยน้ำเสียงที่ตัดพ้อ เมื่อเพื่อนรักยืนกรานจะทำอาชีพนี้ให้ได้

"อย่าห้ามเลยนา มันเป็นทางเดียวสำหรับเขม ในเวลานี้สิ่งที่เขมอยากจะขอจากนาอีกอย่างคือมาเรียม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องเรียนกิริยามารยาท การทำอาหารหรือแม้แต่ศิลปะการป้องกันตัว นาช่วยจัดการทุกอย่างแทนเขมด้วยนะ"

"โอ๊ย! เขม แกไม่ต้องฝากฝังขนาดนั้นก็ได้พูดยังจะไปออกรบอย่างนั้นแหละ"

ฮ่า! ฮ่า! ฮ่า!” เสียงหัวเราะของเขมิกาดังขึ้น

"ไปเถอะ ฉันพร้อมออกรบแล้ว ฉันขอเริ่มงานคืนนี้เลยนะ"

"ฮ่ะ! นาจะบ้าตาย เขมเป็นคนหัวร้อนตั้งแต่เมื่อไหร่ เขมไม่ซีเรียสเลยเหรอ คุณหนูเขมของฉัน ทำไมต้องมาเจอกับเรื่องบ้าๆ พวกนี้ด้วย"

เมื่อลัลนาขับรถมาถึงสถานเริงรมย์ ทั้งสองก็เดินตรงขึ้นไปยังห้องที่เขมิกาพักอยู่ พอถึงห้องปุ๊บเขมิกาก็รีบสอบถามถึงเรื่องงานที่จะทำคืนนี้ ซึ่งความเป็นจริงแล้ว เขมิกากลัวอยู่ไม่น้อย แต่เธอก็แสแสร้งแกล้งทำเป็นชิลๆ เพื่อให้เพื่อนรักสบายใจกับสิ่งที่เธอกำลังจะทำเพื่อลูก

"เขมไปตามที่อยู่นี้นะที่คอนโด xxx เดี๋ยวน่าจะส่งพิกัดและรายละเอียดทั้งหมดไปให้อีกที"

"นาคัดให้เขมแล้วใช่ไหม พุงปลิ้นหัวล้านแก่คราวพ่อไม่เอานะ"

"สวยเลือกได้ว่างั้น" ลัลนาแซวเพื่อนออกมาด้วยความหมั่นไส้ ทั้งที่ภายในใจก็รู้สึกห่วงใยเพื่อนไม่น้อย

"เถอะน่าไหนๆ ก็ไหนๆ แล้วขอดูดีหน่อยละกัน"

"เขมไม่เปลี่ยนใจแน่นะ คิดอีกรอบก่อนก็ได้ อย่าใช้อารมณ์ในการด่วนตัดสินใจ"

"คำไหนคำนั้นบอกแล้วไง เขมไม่เปลี่ยนใจหรอก ต่อให้ช้างมาฉุดก็ฉุดเขมไม่ได้ ให้เขมทำเถอะนะลัลนา"

"ยังไงก็ดูแลตัวเองให้ดีๆ ป้องกันทุกครั้ง ห้ามพลาด เพราะนอกจากเขมจะติดโรคแล้ว โอกาสที่จะตั้งท้องก็มีสูงมาก"

"เขมจะทำตามกฎของที่นี่และจะดูแลตัวเองเป็นอย่างดี นาไม่ต้องห่วงหรอกนะ"

"เอานี่ไปไว้ใช้"

"ทำไมมันเยอะแยะอย่างนี้ล่ะนา"

"นี่มันยังน้อยไปด้วยซ้ำ" ลัลนาหยิบถุงยางออกจากกระเป๋ายัดใส่มือให้กับเขมิการาวสิบกล่องจนล้นมือ เธอหวังให้เพื่อนรักเปลี่ยนใจ ก่อนจะเดินออกจากห้องไป ปล่อยให้เขมิกาได้ใช้ความคิดไต่ตรองอยู่เพียงลำพัง

แต่ทว่านาทีนี้ไม่มีอะไรหยุดเธอได้ เพราะเขมิกาตัดสินใจที่จะทำแล้ว ซึ่งความจริงนั้นเธอคิดไว้ตั้งแต่มาเรียมเกิดมาลืมตาดูโลกด้วยซ้ำ เมื่อเขมิกาทำใจอยู่นานหลายปี ก่อนจะตัดสินใจทำอาชีพนี้ ซึ่งวันนี้ชยันต์คือแรงผลักดันให้เธอต้องในสิ่งที่เธอหวาดกลัว

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 74 ตอนพิเศษ

    เวลาผ่านไปสามปีกว่า มาเรียมได้ให้กำเนิดลูกสาวคน ชื่อว่ามาติยา ดวงหน้าและแววตาของหนูน้อยมีความคล้ายคลึงเขมิกามารดาของเธอมาก ใครเห็นต่างก็รักและเอ็นดู เพราะมาติยาเป็นเด็กเลี้ยงง่ายไม่งอแง ซึ่งวันนี้เป็นวันหยุด ในช่วงบ่ายแก่ๆ มาเรียมและติณณ์ได้พาลูกสาวไปเล่นกับคุณตาและคุณทวดที่บ้านรชศภานุพงศ์ ส่วนชนัญหลังจากที่บิดาให้ไปเรียนรู้งานกับตุลย์พี่ชายของติณณ์ความใกล้ชิด ทำให้คนทั้งคู่ตกหลุมรักกัน จากนั้นในปีถัดมาคนทั้งสองได้ตกลงปลงใจแต่งงานกัน จนตอนนี้ชนัญตั้งครรภ์ท้องแก่ กำหนดคลอดต้นเดือนหน้านี้แล้ว ซึ่งหญิงสาวยังคงอยู่ที่บ้านรชศภานุพงศ์ เพราะมาเรียมได้ย้ายไปอยู่ที่บ้านของติณณ์ จึงทำให้พี่ชายของเขาต้องจำใจย้ายมาอยู่ที่บ้านหลังนี้แทน เนื่องจากชยันต์ไม่ยอมให้ลูกสาวอีกคนย้ายออกไปทางด้านแชมเปญหลังจากที่ชยันต์วิ่งเต้นประกันตัวให้ออกมาห้องขัง หล่อนได้ย้ายออกไปอยู่คอนโดใช้ชีวิตเพียงลำพัง เพราะไม่อยากข้องเกี่ยวกับชยันต์ให้เป็นเวรเป็นกรรมต่อกันอีก แต่ชนัญก็ได้แวะเวียนไปหามารดาของเธอบ่อยๆ เพราะกลัวว่าแชมเปญจะเหงา ที่ต้องไปอยู่อย่างโดเดี่ยวแบบนั้น เพราะตั้งแต่นายทรงพลบิดาของเธอเ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 73 บทส่งท้าย2

    "คุณสวยมากรู้ตัวหรือเปล่ามาเรียม ตรงนี้เป็นของผม ตรงนี้เป็นของผม และตรงนี้มันก็เป็นของผม ตัวของคุณทุกซอกทุกมุมเป็นของผม เพียงคนเดียว" ติณณ์ใช้สายตากวาดมองเรือนร่างเปลือยเปล่าของภรรยาด้วยความรู้สึกเสน่หา พร้อมกับจับตรงนั้นตรงนี้จนมาเรียมรู้สึกเขินอายแทบจะมุดลงใต้เตียงแล้วในตอนนี้"ผมรักคุณจัง" ติณณ์พูดออกมาพร้อมกับจับมาเรียมนอนราบลงไปกับเตียง ขณะชายหนุ่มได้เข้าไปคร่อมร่างอรชรเอาไว้ ทั้งสองจ้องมองไปที่ดวงตาของกันและกัน ซึ่งเวลานี้มันได้หวานหยาดเยิ้ม ใบหน้าหวานกับเรียวปากอวบอิ่มที่ถูกแต่งแต้มเอาไว้ด้วยลิปสติกสีแดง ทำให้หญิงสาวแลดูเซ็กซี่และเย้ายวนเกินห้ามใจ"มาเรียมก็รักคุณค่ะ" หญิงสาวบอกรักชายตรงหน้าด้วยความรู้สึกที่เขินอาย เมื่อสายตาคมของเขาจ้องมองลงต่ำไปหยุดที่ทรวงอกเปลือยเปล่าของเธอ"แม่บอกว่าอยากอุ้มหลานแล้ว คืนนี้จัดเต็มนะที่รัก" เสียงทุ้มของชายหนุ่มกระซิบลงไปที่ข้างหูของภรรยา ก่อนที่เขานั้นจะซุกไซ้ใช้ปลายจมูกคม กดลงไปที่ลำคอระหง พร้อมกับพรมจูบลงไป ติณณ์ใช้ปลายลิ้นลากเลียลงมาที่เม็ดบัวอมชมพู พร้อมกับใช้มือเคล้นคลึงเบาๆ"อืม...อ๊า คุณติณณ์ขา" หญิงสาวร้องเรียกชายหนุ่มออกมา เมื่อปลายล

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 72 บทส่งท้าย

    วันเวลาผ่านไป งานแต่งระหว่างมาเรียมกับติณณ์ ถูกจัดขึ้นอย่างยิ่งใหญ่ มีผู้คนหลายร้อยพันมาเป็นสักขีพยาน ทุกคนล้วนแสดงความยินดีกับคนทั้งคู่ ที่ได้เป็นฝั่งเป็นฝาสมใจสักที ชนัญก็มาร่วมงานนี้ด้วย ความสัมพันธ์ระหว่างพี่น้องคนละสายเลือด เริ่มสนิทและคุ้นเคยรักกันไม่ต่างพี่น้องแท้ๆ ที่คลานตามกันมา คนที่สุขใจที่สุดเห็นจะเป็นชยันต์บิดาของมาเรียม เมื่อเขานั้นไม่คิดไม่ฝันมาก่อนว่าเรื่องราวดีๆ จะเกิดขึ้นกับชีวิตของเขา เมื่อลูกสาวทั้งสองรักใคร่ปรองดองกัน แม้ชนัญจะไม่มีสายเลือดของเขาสักหยด แต่ชยันต์ก็รักไม่ต่างจากมาเรียม เพราะเขาเป็นคนเลี้ยงดูมาแต่อ้อนแต่ออก ส่วนมาเรียมนั้นไม่ต้องบอกเขารักลูกสาวคนนี้ โดยไร้เงื่อนไขใดๆ ทั้งสิ้น"ขอให้ทั้งสองครองรักกัน ตราบชั่วนิรันดรขอให้แต่ละวันคืนในชีวิตคู่เป็นวันที่แสนพิเศษ หนักนิดเบาหน่อยก็อภัยให้กันนะลูก ย่ารักหนูนะมาเรียม" หญิงสูงวัยอวยพรให้กับคู่บ่าวสาว ก่อนที่ทั้งสองจะลงก้มลงกราบที่เท้าด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ"ขอบคุณนะคะคุณหญิงย่า มาเรียมก็รักคุณหญิงย่านะคะ" มาเรียมเงยหน้าขึ้นไปสบตากับหญิงสูงวัย ด้วยความรู้สึกรัก แม้จะเข้ามาอยู่ในบ้านรชนิศนุพงศ์ได้ไม่นาน แต่ควา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 71 ความเข้าใจ

    ณ บ้านรชนิศภานุพงศ์วันนี้ชยันต์ได้ออกจากโรงพยาบาล คุณหญิงขวัญเรียมได้จัดแจงให้แม่บ้านทำอาหารไว้ต้อนรับลูกชาย ซึ่งสิ่งที่หญิงสูงวัยมีความสุขมากที่สุด นั่นคือการที่มาเรียมและบิดาได้ปรับความเข้าใจกันเป็นที่เรียบร้อยแล้ว ส่วนชนัญยังคงเก็บตัวเงียบ เธอไม่สนใจโลกภายนอกตั้งแต่วันนั้นที่เกิดเรื่อง ชนัญลงมาทานข้าวแล้วขึ้นห้องเธอทำแบบนี้ตั้งแต่แชมเปญถูกจองจำ และที่น่าสมเพชไปยิ่งกว่านั้น ไม่มีใครไปเยี่ยมมารดาเธอเลยสักครั้ง แชมเปญคงต้องอยู่ในนั้นอย่างโดดเดี่ยวเดียวดาย เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยใช้ชีวิตอย่างลำพัง พร้อมกับความยากลำบากแสนเข็ญ คนที่พูดปดมดเท็จไปทั่วแย่งสามีชาวบ้านอย่างแชมเปญ ผลของกรรมเหล่านั้นกำลังจะตามเธอทัน เหมือนดั่งที่เขมิกาเคยได้รับ แต่แชมเปญคงเจ็บปวดกว่าหลายเท่า เมื่อเธอต้องไร้ซึ่งอิสรภาพและต้องตกอยู่ในสถานที่แบบนั้น อีกไม่นานศาลชั้นต้นก็คงจะพิพากษาแชมเปญ ที่มีได้กระทำความผิด แน่นอนเธอคงได้นอนอยู่ในกรงขังนานหลายปี เมื่อไม่มีใครไปประกันตัวซึ่งอีกคนที่ได้รับกรรมครั้งนี้อีกคนคือชนัญ เมื่อเธอรู้ความจริงหมดทุกอย่างแล้วสิ้น ชยันต์ไม่ใช่บิดาแท้ๆ แม้เขาจะดูแลเธอมาทั้งชีวิต และมันคงถึงเวลา

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 70 ความรู้สึกของการมีพ่อ

    ภายใต้ห้องสี่เหลี่ยมที่มีชายวัยกลางคนนอนหลับใหล ไม่รู้ว่าอีกนานแค่ไหนเขาถึงจะตื่นฟื้นขึ้นมา หมอบอกว่าชยันต์บิดาของเธอพ้นขีดอันตรายแล้ว แต่นั่นก็ไม่ได้ทำให้มาเรียมคลายความกังวลลงเลยแม้แต่น้อย เมื่อชยันต์ยังคงนอนเป็นผักอยู่แบบนี้มาหลายวันแล้ว"ทานอะไรบ้างสิมาเรียม คุณต้องเข้มแข็งหากคุณอาชยันต์ฟื้นขึ้นมา คุณจะเอาแรงจากไหนมาดูแลพ่อ" คำพูดของติณณ์ไม่ได้เข้ามาอยู่ในหูของมาเรียมเลยสักนิด หญิงสาวยังคงนั่งอยู่ข้างเตียงผู้ป่วย เธอกุมมือผู้เป็นบิดาเอาไว้นานเท่าไหร่แล้วก็ไม่รู้ จนฝ่ามือของคนทั้งสองเปียกชุ่มไปด้วยเหงื่อ“นี่ก็หลายวันแล้ว พ่อควรฟื้นได้แล้วนะคะ ทุกคนเป็นห่วงพ่อมาก มาเรียมเองก็เป็นห่วงอยากให้พ่อกลับมา กลับมาเป็นพ่อของมาเรียมเถอะนะคะ" มาเรียมพูดพร้อมกับเอามือของชยันต์ขึ้นมาแนบไว้ที่แก้มนวลของเธอ ก่อนที่น้ำตาใสๆ จะไหลหยดลงใส่หลังมือของผู้เป็นบิดา สายใยความผูกพันระหว่างพ่อกับลูก คงไม่มีสิ่งใดมาขวางกั้น แต่มาเรียมกับชยันต์สองพ่อลูกช่างมีอุปสรรคเหลือเกินเมื่อเธอมุ่งแต่จะเอาคืนผู้เป็นบิดา จนลืมนึกถึงความถูกต้อง หญิงสาวเกือบพลั้งมือทำลายบริษัท ที่บิดานั้นเก็บรักษาเอาไว้ให้เธอ แต่นั่นมันก็ไ

  • ตราบาปบริสุทธิ์   Chapter 69 เมื่อความจริงปรากฏ

    ซึ่งความรู้สึกผิดที่มาเรียมมีต่อบิดานั้น ไม่ได้เกิดมาจากการที่เขายกสมบัติอะไรนั่นให้เธอเลยสักนิด แต่มันเกิดจากความรู้สึกผิด ที่บิดานั้นต้องทนทุกข์ทรมานจากการกระทำของเขาที่มีต่อแม่เขมิกามาโดยตลอด แต่พอมาเรียมเดินเข้ามาในชีวิตของชยันต์ ไม่ต่างอะไรกับที่เธอนั้นใช้มีดกรีดลงไปซ้ำที่แผลเดิม"ใจเย็นไม่ร้องนะครับคนดี คุณอาชยันต์ต้องปลอดภัยเชื่อผม แม่เขมิกาคงไม่อยากเอาพ่อของมาเรียมไปอยู่ด้วยหรอก เพราะแม่อยากให้คุณอาชยันต์ดูแลมาเรียมมากกว่า" คำพูดของติณณ์แม้จะเป็นเพียงแค่คำปลอบโยน มาเรียมก็ได้แต่ภาวนาหากดวงวิญญาณมีจริง ก็ขอให้แม่เขมิกาปกป้องให้บิดากลับมาอย่างปลอดภัย เพราะเธอยังมีเรื่องราวอีกมากมายเกี่ยวกับมารดาอยากจะเล่าให้บิดาฟัง ซึ่งเขมิกาก็ไม่เคยให้ใจใครไปเช่นกัน ความรักที่นางมีให้กับชยันต์นั้น มันยังมั่นคงตราตรึงตราบจนนางสิ้นลมหายใจ"พ่อของมาเรียมเป็นคนดี เคยได้ยินไหมคนดีผีคุ้ม ยังไงก็ต้องปลอดภัย" เมฆเพื่อนเพียงคนเดียวที่ไม่เคยทอดทิ้งมาเรียมไปไหนตั้งแต่เล็กจนโต และคงไม่มีใครเป็นเพื่อนแท้เท่าเมฆได้อีกแล้ว แม้ยามสุขหรือยามทุกข์เขาก็มักจะอยู่ข้างๆ มาเรียมเสมอ"ขอบใจมากนะเมฆ" มาเรียมพูดออกมา ขณ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status