"ตายจริง ล้มทั้งยืนเลยเหรอคะ?"
"ตายแล้ว คุณพักพิง ทำไมไปนั่งที่พื้นแบบนี้ละคะ" ฉันแทบทรงตัวไม่อยู่ ร่างกายชาไปหมด มันขยับไปไหนไม่ได้เลย ทำได้เพียงนั่งจ้องหน้าชายตรงหน้า ที่ฉันรักสุดหัวใจ "อ๋อ นี่เหรอคะ ป้านายแม่บ้านของที่นี่ สวัสดีค่ะ หนูเป็นแฟน ของพี่กีต้าร์ ชื่อ เอมมี่ค่ะ " ป้านายรับไหว้ผู้หญิงคนนั้นอย่างขุ่นเคือง ก่อนจะรีบมาประคองตัวฉันให้ลุกขึ้น "คุณพักพิงลุกขึ้นนะคะ เดี๋ยวป้าพากลับห้องค่ะ" "ค่ะ ป้านาย" ฉันพูดกับป้านายด้วยน้ำเสียงที่สั่นเครือ ก่อนจะมีเสียงทุ้มแทรกขึ้น "ทำไม รับไม่ได้เหรอ?" ฉันไม่ได้หันหลังกลับไปมองตามเสียงนั้น แต่กลับรีบเดินตรงไปยังบันไดอย่างรวดเร็ว เพราะไม่อยากทนเห็น คนที่ฉันรักมีคนอื่นแทนฉัน "ในเมื่อนายก็มีคนอื่นแทนฉันแล้ว งั้นฉันคงไม่มีอะไรที่จะต้องอยู่ที่นี่อีก" "เธอว่าไงนะ พักพิง" เสียงทุ้มตะคอกถามฉันอย่างดุดัน จนฉันเองก็เริ่มกลัวเขาเข้าแล้วเหมือนกัน มือใหญ่พุ่งตัวมากระชากแขนฉันอย่างแรง จนฉันตัวเซ เพื่อให้หันไปมองหน้าเขา ที่กำลังเดือดดาลกับสิ่งที่ฉันเอ่ยพูดออกไป "จะกลับบ้านงั้นเหรอ มันไม่ง่ายไปหน่อยเหรอ พักพิง สิ่งที่เธอทำ กับกี...ไม่ใช่สิ! กับฉันก่อนที่จะถูกรถชน เธอจำไม่ได้แล้วหรือไง?" "ฉันทำอะไรนาย ฉันไม่เคยทำอะไรนายเลยด้วยซ้ำ ฮื้อออออ!!!" "โกหก! นี่มันถึงเวลาแล้วพักพิง ที่เธอจะต้องชดใช้ในสิ่งที่เธอทำกับฉัน ฉันจะทำให้เธอ เจ็บปวดที่สุดในชีวิต จนลืมไม่ลงเลย" "อ๋อ งั้นตลอดเวลาที่ผ่านมา ที่พยายามทำดีกับฉันมากมาย เป็นเพราะต้องการให้ฉันรักเพื่อทำลายฉันงั้นเหรอ?" "ใช่ ก็เหมือนที่ฉันเคยได้รับจากเธอไง ทำให้รัก ทำให้หลง แล้วก็ผลักให้ทุกข์ทรมาน" "ฉันทำนายขนาดนั้นเลยเหรอ ที่ผ่านมา นายไม่เคยมองฉันด้วยซ้ำกีต้าร์ ฮื้อออออๆ" "หึ! งั้นเหรอ ไม่เป็นไร ฉันจะช่วยให้เธอจำได้เอง พักพิง เธอจะต้องรับมันทั้งหมด เพื่อชดใช้ให้ฉัน จงอยู่ที่นี่ อย่างทรมาน ถ้าเธอกลับบ้าน ฉันสาบานเลย ว่าเงินค่าสินสอด ทุกบาททุกสตางค์ ที่แม่เธอเอาไป ฉันจะเอาคืนทั้งหมด ให้ครอบครัวเธอต้องไปเป็นขอทานอยู่ริมถนนเลยคอยดู" คำพูดของเขาที่พูดใส่ฉัน มันทำให้ฉันเจ็บปวด จนอยากจะตายลงเดี๋ยวนั้นเลยทีเดียว เขาผลักฉันล้มลงอย่างแรง ราวกับไม่สนใจว่าฉันจะเจ็บปวดเพียงใด "ว้าย! คุณกีต้าร์ ทำไมทำกับภรรยาตัวเองแบบนี้ละคะ" แม้แต่เสียงห้ามปรามของป้านายเขายังไม่สนใจ กลับรีบเดินเข้าไปหาผู้หญิงคนนั้นและจูงมือกันขึ้นไปบนห้องนอน ห้องนอนที่ฉันมีคืนแรกกับเขา ห้องที่ฉันพึ่งขนของของตัวเองเข้าไปอยู่ และนอนมาเป็นเวลา 1 เดือน แต่ตอนนี้ เขากลับเอาผู้หญิงคนอื่นเข้าไปนอน แถมน้ำเสียงที่หัวเราะกันอย่างมีความสุข มันยิ่งทำให้ ใจของฉันแทบขาดลงตรงนั้น ตอนนี้ฉันเข้าใจทุกอย่างแล้ว ที่เขาพยายามเข้าหาฉัน และให้ค่าสินสอดแพงๆ มันเป็นเพราะ เขาต้องการทำร้ายฉัน ในแบบที่เขารู้สึก แต่ฉันไม่ได้เป็นคนทำร้ายเขา หรือว่า จะเป็นวันนั้น ก่อนที่เขาจะถูกรถชน หรือเป็นเพราะที่ฉันเล่าเรื่องที่ฉันชอบเขา ให้เพื่อนฟัง แล้วเขาเข้ามาได้ยินพอดีนะ ฉันเลยเป็นคนที่ทำให้เขาถูกรถชน แค่ฉันคิด ความรู้สึกของฉันก็ดิ่งจนอย่างจะตายไปเดี๋ยวนั้นเลยก็ว่าได้ มันเจ็บปวดจัง ความรักนี่มันเจ็บปวดเหลือเกิน จะเกลียดก็เกลียดไม่ลง เพราะรักเขามากไปแล้ว#กีต้าร์"เป็นไงบ้าง พิงฟ้า""ก็เรื่อยๆ ตามประสาคนติดคุก""เราเอารูปลูกมาให้ ตอนนี้ลูกได้เรียนเต้นบรรเลย์ และ เล่นดนตรีด้วย ลูกเก่งมากเลยนะ เธอหัวดีมาก ""ขอบคุณนะ"ผมใช้มือแตะไปที่กระจกกั้นระหว่างผมกับพิงฟ้าด้วยความคิดถึงสุดหัวใจ แต่ผมกลับได้เห็นสีหน้าเศร้าสลดของพิงฟ้า ที่มองมาทางผมแทนเสียอย่างนั้น"นะ....นาย""ว่าไง?""ฉันทำร้ายนาย ทำลายชีวิตนายถึงขนาดนี้ ทำไมนายถึงยังรักฉันอยู่ ทำไมถึงไม่หาแฟนใหม่ แล้วแต่งงานใหม่"ผมยกยิ้มขึ้นอย่างมีความหวัง ถึงแม้จะรู้ดีว่า พิงฟ้า ใช้ผมเป็นเครื่องมือสำหรับทุกอย่างเท่านั้น แต่ผมก็ยังรักเธอ"ก็เพราะ แม่ของน้องพราวมีแค่คนเดียวไง เราถึงไม่ให้ใครมาแทนแม่ของลูกเราได้""นะ...นายเป็นคนดีจริงๆ ดีจนฉันละอายแก่ใจ""พิงฟ้า เราจะรอเธอนะ รอวันที่เราจะได้อยู่พร้อมหน้าพร้อมตากันอีกครั้ง 3 คนพ่อแม่ลูก"10 ปีต่อมาศาลได้ยกคดีของพิงฟ้าขึ้นมาพูด
วินาทีนั้น ใจฉันกระตุกวูบ สับสนในความรู้สึกของตัวเองราวกับว่า มันเป็นอย่างที่กีต้าร์พูดจริงๆ"เกี่ยวก้อยกันนะ!""ห๊ะ?"เขาดึงมือฉันไปเกี่ยวก้อยอย่างเดียงสา จะว่าไปแล้ว กีต้าร์ก็ดูเหมือนเด็กน้อยอยู่เลยนะ หรืออาจเป็นเพราะเขาหลับไปนาน ตื่นขึ้นมาถึงได้ดูเหมือนเด็กน้อยแบบนี้ไปได้แต่ฉันก็ยิ้มรับเขาอย่างเอ็นดูนั่น อีกอย่างความคิดของฉันมันก็เปลี่ยนไป ราวกับได้ปลดปล่อยความรู้สึกที่ติดค้างในใจมาอย่างยาวนานเสียอย่างนั้น"ตอนเรียน นายมองเราอยู่ตลอดเลยเหรอ?""ก็มองนะ ก็เธอโดดเด่นหนิ มีแต่เพื่อนๆ เข้าหา""ฮ่ะ ฮ่าๆ"ฉันพูดคุยกับกีต้าร์อย่างถูกคอเสียอย่างนั้น พอได้คุยกับเขาจริงๆ มันก็กลับกลายเป็นว่าเขาทำให้ฉันสบายใจขึ้นเยอะเลย นายนี่ไร้เดียงสาจริงๆ"นายไม่คิดจะหาแฟนใหม่เหรอ?""ไม่ล่ะ เราจะรอพิงฟ้าออกจากคุก อย่างไงเธอก็เป็นแม่ของลูกเรา เป็นแม่ของน้องพราว"แถมเขายังรักเดียวใจเดียวและมั่นคงในความรักอีกต่างหาก ทั้งๆ ที่ผู้หญิงคนนั้น ทำร้ายเขามาตั้งมากมายขนาดนั้
ห้องพักฟื้นฉันตื่นขึ้นมาอีกครั้งด้วยหัวใจที่แตกสลายจนละเอียดไม่มีชิ้นดีข้างตัวยังมีสายน้ำเกลือและชายร่างใหญ่ นอนอยู่ข้างเตียง"อื้มม!""อ่ะ! ตื่นแล้วเหรอ เป็นไงบ้าง?""นาย!"ฉันพยายามมองร่างใหญ่ที่นั่งอยู่ข้างเตียงอีกครั้งอย่างคิดพิเคราะห์ ถึงได้รู้ว่า คนที่นอนเฝ้าฉันอยู่ตรงนี้ คือ กีต้าร์ ไม่ใช่ เปียโน"เป็นไงบ้าง เวียนหัวอยู่ไหม เดี๋ยวฉันไปตามหมอมาให้ ""นาย!"ท่าทีลนลานแบบนี้ ไม่ใช่อี่ตาเปียโนอย่างแน่นอน เพราะอี่ตาเปียโนจะดูเย็นชาและใจเย็นมีสติกว่ากีต้าร์เยอะ แต่ก็ช่างเถอะ จะใครฉันก็ไม่สนใจแล้วสิ่งที่ฉันสนใจตอนนี้ คือร่างที่ไร้วิญญาณของแม็กทิวมากกว่า ถ้าฉันไม่ได้เห็นร่างของเขาอีกครั้ง ฉันคงคิดว่าตัวเองฝันไปอยู่แน่นอน"แม็กทิวอยู่ไหน?""เปียโน มันไปทำเรื่องเอาศพออกโรงพยาบาลอยู่น่ะ!"ฉันสูดหายใจเข้าเต็มปอดก่อนจะพ่นออกมาด้วยแววตาที่เศร้าหมอง ฉันไม่รู้จริงๆ ว่าตอนนี้มันเกิดอะไรขึ้น แล้วเขาทำเป็นอะไรท
เพี้ยะ!ฉันตบเข้าหน้าคมอย่างจัง จนหันไปอีกทาง ด้วยความเดือดดาลจนยากจะเอ่ย กล้าดีอย่างไงกัน ถึงได้พาลูกๆ ของฉันไปจากอกของฉัน"เธอตบฉัน ทั้งที่ฉันยังหัวแตกอยู่เนี่ยนะ?""ใช่! ฉันเกลียดนาย และฉันก็เหนื่อยมากด้วย ที่จะต้องเห็นหน้านาย"พูดจบ เขาก็ดึงตัวฉันเข้าไปประกบจูบอย่างดุดัน แถมยังกดต้นคอฉันให้แนบชิดจนถอดฝีปากออกไม่ได้ปลายนิ้วมือฉันฟาดเข้าแก้มขาวย้ำๆ อยู่แบบนั้นถี่ๆ แต่ก็ไม่มีทีท่าว่าเขาจะยอมถอดริมฝีปากออกจากโพรงช่องปากฉันเลย มันยิ่งแนบแน่นขึ้นไปอีก จนฉันหายใจไม่ออก"อ้า!"แต่เมื่อฉันเริ่มนิ่ง เขาจึงยอมถอดริมฝีปากออก และลูบแก้มฉันอย่างอ่อนโยน พลางจูบลงบนแก้มขาว เพื่อบ่งบอกถึงการยินยอมฉันในทุกๆ อย่าง"ฉันรักเธอมากนะ ฉันยอมเธอได้ทุกอย่าง ถึงเธอจะทำร้ายฉันให้เจ็บปางตายฉันก็ยอม แต่ขอร้อง เราอย่าหย่ากันเลยนะ เพื่อลูกๆ เพื่อฉัน""..........""ฉันรู้ว่าฉันทำผิดต่อเธอมาตลอด แต่ฉันขอร้องได้ไหม อย่าทิ้งฉันไปไหนอีกเลย ชีวิตฉันต้องการเธอ บ้านก็ต้องการเธอ
แต่แล้ว เมื่อฉันคุยกับแม็กทิวจบ ใบหน้าของแม็กทิว ก็พยักหน้ารับราวกับส่งสารให้ใครบางคนอย่างน่าสงสัย นัยน์ตาของเขามีน้ำตาไหลออกมาก่อนที่เงาร่างกำยำ จะขยับตัวเข้าใกล้ฉันอย่างแผ่วเบา และใช้ผ้าสีขาวโปะเข้าจมูกฉันอย่างจัง มันกดจมูกฉันอย่างแรง จนร่างกายของฉันค่อยๆ อิดโรย และดับวูบไปเหลือไว้เพียงเสียงพูดคุยกันอย่างแผ่วเบา ที่ฟังไม่ได้ศัพท์จับไม่ได้ความ เหมือนมันพูดกันว่า จะพาฉันไปที่ไหนสักแห่ง แต่ยังไม่พากลับไทย อะไรประมาณนี้ปัง!แคร่ง!!!"ล่ามดีๆ ดิว่ะ! แม่งเดียวคุณชายก็ได้กระทืบเข้าให้หรอก""ว่าแต่ ไปเอาเมียเขามาไว้แบบนี้จะดีเหรอว่ะ?""หุบปากไป!"ฉันคืนสติมาแล้ว และได้ยินในสิ่งที่มันพูดกัน ตอนนี้ฉันรู้สึกเหมือนมีอะไรมารัดอยู่ที่ข้อเท้าเลยแต่ฉันก็ไม่สามารถขยับตัวได้ หากขยับตัวไปมา พวกมันอาจจะรู้ตัวว่าฉันฟื้นแล้ว และอาจจะเอาไอ้ผ้านั่น มาโปะฉันอีกก็เป็นได้ฉันเป็นห่วงเด็กๆ จัง ป่านนี้จะเป็นอย่างไงบ้างนะ ทำไมมันถึงเป็นแบบ
แกร๊ก!"มาแล้วเหรอคะ ที่รัก"ฉันเดินไปต้อนรับแม็กทิว และน้องฮันน่าอย่างทุกครั้ง ที่ทำเป็นประจำ ก่อนจะโผตัวเข้าไปกอดแม็กทิวอย่างปกติแต่วันนี้มันแปลกไป แม็กทิวดูผอมลง แถมสีผิวก็ยังคล้ำลงด้วยอีกต่างหาก ราวกับว่า เขาไม่ได้พักผ่อนมาอย่างไงอย่างงั้นและด้านข้างของเขา มีกระเป๋าใบใหญ่สีชมพูน่ารัก คาดว่าน่าจะเป็นของน้องฮันน่าอย่างแน่นอน"เออคือ แม็กทิว ทำไมเอากระเป๋าของน้องฮันน่ามาด้วยละคะ ปกติก็ใส่ชุดของน้องพะเพลงได้อยู่แล้ว ไม่เห็นต้องเอามาให้ยุ่งยากเลย""เออคือ!"แม็กทิวเม้มปากลงเล็กน้อย ก่อนจะรีบเปลี่ยนเรื่องให้ฉันรู้สึกสบายใจขึ้น"ไม่มีอะไรหรอกคับ ช่วงนี้ผมทำงานหนัก เลยไม่ได้พักเลย จึงอยากจะขอพักพิง ดูแลลูกสาวของผมหน่อย ในช่วงนี้ ผมอยากให้เธออยู่กับคุณตลอด เพื่อที่คุณกับเธอจะได้สนิทกันมากยิ่งขึ้น"ฉันไม่ค่อยเข้าใจในสิ่งที่แม็กทิวพูดเท่าไหร่นัก แต่ก็ไม่อยากจะถามอะไรต่อให้มันเป็นประเด็น ฉันรู้ว่าตอนนี้เขาคงมีเรื่องเครียดอะไรบางอย่าง ที่บอกฉันไม่ได้ แต่ในสักวัน เขาคงกล้าที่