Share

บทที่ 19

last update Last Updated: 2025-06-07 19:00:33

บทที่ 19

ค่ำแล้ว...ร่างสูงซึ่งอยู่ในชุดนอนลายทางสีน้ำตาลเข้มขยับตัวจากกระจกหน้าโต๊ะเครื่องแป้ง ไปทรุดตัวนั่งลงบนเตียงกว้างของตัวเอง ก่อนจะล้มตัวลงนอนโดยคืนนี้เป็นคืนแรกที่เขาไม่ได้ดื่มแอลกอฮอล์ก่อนนอน

                เวลาผ่านไปเกือบสองชั่วโมง ทว่ารังสิมันต์กลับไม่สามารถข่มตาให้หลับลงได้ อาการนี้ไม่ใช่อาการที่เกิดขึ้นคืนแรก ก่อนหน้านั้นเขานอนไม่หลับเพราะจมปลักอยู่ในห้วงของความเศร้าที่สูญเสียภรรยาและลูกไป หากแต่คืนนี้มันเกิดเพราะความหงุดหงิดบางอย่าง

                ความรู้สึกผิดมันเกาะกินใจอย่างบอกไม่ถูก อยากจะคิดว่ามันเป็นเพียงแค่ความฝัน แต่กลิ่นหอมอ่อนๆ ยังติดอยู่บนหมอนใบข้างๆ มันเป็นกลิ่นแปลกใหม่ที่ไม่ได้เกิดจากความหอมของน้ำยาปรับผ้านุ่ม หรือกลิ่นน้ำหอมที่ผู้หญิงชอบใช้ แต่มันเป็นกลิ่นหอมที่เรียกว่ากลิ่นเนื้อนางของใครบางคนที่มานอนบนเตียงเดียวกับเขาต่างหาก

                รังสิมันต์จำได้แม่นว่าจันทริกาไม่ได้เป็นคนขึ้นมานอนเอง แต่เกิดจากการกระทำของเขา การกระทำที่เขาย้ำกับตัวเองอยู่ซ้ำๆ ว่าเกิดจากความโกรธกรุ่นล้วนๆ

                ป่านนี้ไม่รู้เด็กคนนั้นจะหลับหรือยัง?...

                คำถามนั้นเกิดขึ้นในใจและชวนให้หงุดหงิดอีกรอบ ถ้าจะให้คิดป่านนี้เด็กคนนั้นคงหลับเป็นตายกระมัง ก็เมื่อคืนกรำศึกหนักเสียขนาดนั้น ซ้ำยังกินยาแก้ไข้เข้าไปอีกหลายเม็ด ฤทธิ์ของมันคงเกินกำลังผู้หญิงตัวเล็กๆ จะต้านทานได้

รังสิมันต์ถามเองตอบเอง ทว่าคำตอบที่ได้รับกลับทำให้เขาหงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม มันไม่ยุติธรรมสักนิด เพราะในขณะที่จันทริกาหลับสบาย แต่เขากลับไม่สามารถข่มตาให้หลับได้ ดังนั้นเรื่องนี้จะต้องมีคนรับผิดชอบ ซึ่งก็คงไม่ใช่ใครอื่นนอกจากตัวต้นเหตุ

อีกไม่ถึงห้านาทีต่อมา ร่างสูงก็พาตัวเองมาหยุดตรงหน้าห้องนอนของจันทริกา จัดการไขลูกบิดที่ถูกล็อกจากข้างในด้วยกุญแจสำรอง จากนั้นก็เร้นกายเข้าไปในห้องอย่างถือวิสาสะ

ภาพที่เห็นเป็นจริงดั่งคาดไว้ จันทริกาหลับไปแล้ว โดยมีแมวตัวโปรดของเขานอนอยู่ข้างๆ ทั้งคนทั้งแมว หลับทั้งๆ ที่ไฟข้างหัวเตียงยังเปิดทิ้งไว้ ทำให้เขามองเห็นใบหน้าของเธอได้ชัดเจน รังสิมันต์ทรุดตัวนั่งลงบนขอบเตียง คราวนี้น้ำหนักซึ่งทำให้ที่นอนยุบยวบยาบ ยังผลให้คนนอนหลับอยู่สะดุ้งตื่นคล้ายกับกวางน้อยระแวงไพร ตาคู่สวยเบิกกว้าง ก่อนจะขยับตัวลุกขึ้นนั่งเมื่อเห็นว่าคนที่ล่วงล้ำเข้ามาในห้องของตนยามวิกาลเป็นใคร ขณะที่เมสซี่เพียงแค่ลืมตาขึ้นมองแวบหนึ่ง เมื่อเห็นว่าเป็นเจ้านายของตน มันก็หลับต่อราวกับรู้ว่าควรจะทำตัวเงียบๆ ไว้

“คุณตะวัน!”

“กินยาหรือยัง”

“กะ...กินแล้วค่ะ” เสียงหวานตอบตะกุกตะกัก คำถามเช่นนั้นสร้างความแปลกใจให้กับจันทริกาเป็นอย่างมาก หรือว่ารังสิมันต์จะรู้สึกผิดแล้ว ปิศาจที่สิงร่างเขาได้ถูกขับไล่ออกไปแล้ว เขาจึงได้กลับมาเป็นพี่ชายใจดีของเธอดังเดิม

“ฉันไม่ได้หมายถึงยาแก้ไข้ ฉันหมายถึงยาคุมฉุกเฉินที่มันเหลืออีกหนึ่งเม็ด”

คำถามที่สองนี่ต่างหากที่ทำให้จันทริกากระจ่างแก่ใจ ว่าเธอเป็นฝ่ายแอบหวังลมๆ แล้งๆ ไปเองว่ารังสิมันต์จะเมตตาเหมือนเก่า หลังจากที่ได้ระบายความแค้นของเขา แต่แท้จริงแล้วสิ่งที่เขารู้สึกและมอบให้อยู่ตอนนี้ก็ยังมีแต่ความเกลียดชังอันแสนน่ากลัว

“ไม่ได้กินค่ะ จันทร์ไม่ทราบ”

“เธอไม่อ่านฉลากหรือไงว่าพอครบสิบสองชั่วโมงให้กินอีกเม็ดที่เหลือ หรือว่าอยากท้องกับฉัน”

รังสิมันต์ทำเสียงไม่พอใจ ก่อนจะเอื้อมมือไปหยิบถุงยา ควานหายาเม็ดที่เป็นปัญหาอีกเม็ดออกมา จากนั้นก็ยื่นไปให้ผู้ที่เคยอยู่ในฐานะน้องสาวและน้องเมีย ซึ่งตอนนี้ไม่ใช่แล้ว

“กินซะจันทริกา ฉันไม่อยากให้เธอท้อง”

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 50

    บทที่ 50“แต่คุณปรัชญ์ขอร้องนะคะ จันทร์ไม่อยากผิดคำพูดกับ...”จันทริกายังพูดไม่ทันจบ นิ้วแกร่งเรียวยาวก็แตะลงบนเรียวปากนุ่ม เพื่อห้ามไม่ให้เธอพูดต่อ“ฉันไม่อนุญาตให้เธอเห็นคนอื่นสำคัญกว่าฉัน”พูดจบนิ้วที่แตะอยู่บนเรียวปากนุ่มก็เลื่อนออก แต่เรียวปากหยักร้อนกลับเคลื่อนเข้ามาแทนที่ ร่างบางเกร็งขึ้นเพราะกลัวว่ารังสิมันต์จะทำรุนแรงเช่นเดิมอีก หากแต่จูบครั้งนี้เป็นจูบที่แสนอ่อนโยน จูบที่คล้ายจะไถ่โทษ จูบที่เว้าวอน จนอาการเกร็งนั้นมลายหายไป และยืนนิ่งให้เขาจูบอยู่เนิ่นนาน“เมี้ยว...”เสียงร้องของเมสซี่ที่ดังขึ้น ทำให้อารมณ์ที่กำลังอ่อนไหวของทั้งคู่สะดุดลง จันทริกาได้สติจึงรีบผละออกห่างจากการโอบกอดของเขาอย่างรวดเร็ว แล้วย่อตัวลงไปอุ้มเมสซี่ขึ้นมาแนบอก คล้ายกับจะใช้มันเป็นเกราะป้องกันไม่ให้เขาเข้าถึงตัวได้อีกรังสิมันต์ออกจะเขม่นแมวตัวโปรดเป็นครั้งแรก แต่ไหนแต่ไรมันรู้งาน และไม่เคยทำตัวเป็นก้างขวางคอ แต่ทำไมวันนี้มันถึงมาขัดจังหวะก็ไม่รู้“ฉันเพิ่งบอกเธอไปหยกๆ ว่าไม่ให้เห็นใครสำคัญกว่าฉัน”“แต่นี่เมสซี่แมวของคุณนะคะ คุณให้อาหารมันหรือยังคะ” จันทริกาถามอย่างพอจะเข้าใจอากัปกิริยาของเมสซี่ดีว่าที

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 49

    บทที่ 49ร่างสูงเดินดุ่มไปหาคนทั้งคู่อย่างไม่รีรอ สีหน้าบอกชัดว่าไม่สบอารมณ์และไม่พอใจเป็นอย่างมาก ปรัชญ์จึงพยักหน้าให้จันทริกาหลบไปก่อน ส่วนเขาเป็นฝ่ายอยู่รับหน้ารังสิมันต์ “แกมาทำอะไรที่บ้านฉัน” รังสิมันต์ถามเสียงห้วนกระด้างอย่างไม่คิดจะเก็บอารมณ์“มาหาจันทร์”“มาหาทำไม?”“มาจีบมั้ง” ปรัชญ์ตอบกวนๆ ยิ่งเห็นรังสิมันต์ทำหน้าถมึงทึงเช่นนั้นก็ยิ่งพอใจที่ได้ยั่วให้เพื่อนโกรธได้ แต่ดูแค่ตาเดียวก็รู้ว่าที่รังสิมันต์ทำหน้าแบบนั้นก็เพราะกำลังหึงหรือไม่ก็หวงก้าง“มันใช่เวลาไหม” รังสิมันต์ย้อนถามด้วยน้ำเสียงโทนเดิม“ทีแกยังเคยคิดจีบเมียฉัน ทำไมฉันจะจีบเมียแกบ้างไม่ได้” ปรัชญ์ยักไหล่และตอบกวนๆ เช่นเดิม ทั้งๆ ที่ในใจแอบหัวเราะคนออกอาการอยู่เงียบๆ “ฉันบอกแล้วไงว่าเด็กคนนั้นไม่ใช่เมียฉัน” แม้จะออกอาการว่าหึงหวงปานใด แต่ปากก็ยังคงปฏิเสธเสียงแข็ง ซึ่งนั่นกลับยิ่งเข้าทางปรัชญ์“ไม่ใช่ก็ยิ่งดีใหญ่ ฉันจะได้ทำอะไรสะดวกๆ”“แกกำลังจะแต่งงานกับน้องเล็กนะเว้ย เลวให้มันน้อยๆ หน่อยได้ไหมไอ้เวร”“หวงก้างว่างั้น”“แกแม่งกวนตีนไม่เลิกว่ะ แล้วแต่แกเถอะไอ้เลวอยากทำอะไรก็ทำ” เมื่อถูกจี้แบบถูกจุดซ้ำแล้วซ้ำอีก รังสิ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 48

    บทที่ 48วันนี้เป็นวันหยุดของรังสิมันต์ซึ่งเพิ่งจะกลับมาจากกรุงเทพฯ เมื่อวานนี้ อุ้ยคำจึงลากลับบ้านไปหาครอบครัว ส่วนหนานอินซึ่งเป็นรปภ.เฝ้าป้อมหน้าบ้านก็ขอลาหยุดเช่นกัน จึงกลายเป็นว่าวันนี้จันทริกาต้องอยู่บ้านหลังใหญ่นั้นกับเจ้าของบ้านตามลำพังรังสิมันต์อยู่กับเมสซี่ในห้องนั่งเล่น ส่วนจันทริกาตากผ้าอยู่หลังบ้าน มือเล็กที่กำลังจับผ้าขึ้นแขวนบนราวตากชะงักครู่หนึ่งพลางเงี่ยฟัง เมื่อได้ยินเสียงกดกริ่งหน้าบ้าน ปกติแล้วหน้าที่เปิดประตูรั้วจะเป็นของหนานอินซึ่งเป็นรปภ.เฝ้าหน้าป้อม แต่วันนี้หนานอินลางาน จันทริกาจึงต้องละมือจากการตากผ้า แล้วเร่งฝีเท้าไปยังประตูหน้าบ้านอย่างรู้ดีว่าเป็นหน้าที่ตัวเอง“มาหาใครคะ” เสียงหวานถามคนที่มากดกริ่งอย่างสุภาพ ก่อนที่ดวงตาสวยปนเศร้าจะเบิกกว้างและเปลี่ยนเป็นเปล่งประกายด้วยความดีใจ เมื่อเห็นหน้าคนที่มากดกริ่งในระยะใกล้“พี่เล็ก...”เจ้าของชื่อที่เธอเรียกคือรุ่นพี่ที่เธอเคยสนิทสนมมากในตอนเรียนมัธยม เพราะเคยอยู่ชมรมดนตรีด้วยกันนั่นเอง “จันทร์...” “ดีใจจังค่ะที่ได้เจอพี่เล็ก พี่เล็กสวยขึ้นจนจันทร์เกือบจะจำไม่ได้เลยค่ะ”

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 47

    บทที่ 47สำหรับคนที่จมอยู่ในห้วงของความทุกข์ใจ วันเวลามักผ่านไปช้าเสมอ คนในบ้านที่รังสิมันต์ส่งไปทำงานที่ห้างสรรพสินค้าของเขา ยังไม่มีใครได้กลับมา ดังนั้นจันทริกาจึงต้องทำงานบ้านทุกอย่างแทบจะคนเดียวเช่นเดิม และยังมีสิ่งที่ต้องทำมากกว่าหน้าที่ของคนรับใช้ทั่วไป นั่นคือเธอต้องคอยรองรับไฟปรารถนาของรังสิมันต์ ไม่ว่าเขาต้องการยามใด เธอก็ไม่เคยที่จะปฏิเสธได้สักครั้ง จันทริการู้ดีว่าเขาทำไปเพื่อระบายความแค้นเท่านั้น หากแต่ตอนนี้เธอกลับเริ่มรู้สึกว่าร่างกายของตัวเองเริ่มจะผูกพันกับเขาอย่างลึกซึ้งมากขึ้นทุกวัน ซึ่งเรื่องเหล่านี้ทำให้เธอทุกข์ใจไม่น้อย หากจะมีสิ่งที่ทำให้เธออยู่บ้านหลังนี้ได้อย่างมีความสุข ก็คงจะเป็นความน่ารักของเมสซี่กับความเอ็นดูจากลุงหนานอินซึ่งเป็นรปภ.กับอุ้ยคำเท่านั้น ส่วนเจ้าของบ้าน แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานแค่ไหน เขาก็ยังคงใจร้ายและเย็นชาใส่เธอดังเดิม แม้บางครั้งเขาเหมือนจะอ่อนโยน แต่นั่นก็เป็นเพียงเพราะเขาลืมตัว ครั้นพอเขาคิดได้ว่าเกลียดชังเธอแค่ไหน จันทริกาก็มักจะได้รับผลจากความเคียดแค้นชิงชังของเขาดังเดิมเช้านี้จันทริกาไม่ได้ทำอาหาร รังสิมันต์บอกเอาไว้ตั้งแต่เมื่อวานแล้วว่

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 46

    บทที่ 46“คำว่าเกมหัวใจ มันไว้สำหรับคนที่มีใจให้กัน”“แกไม่ได้คิดอะไรกับจันทร์ว่างั้น” จากที่ถูกไล่ต้อนตอนนี้ปรัชญ์เปลี่ยนเป็นฝ่ายไล่ต้อนรังสิมันต์บ้าง“คิด...คิดว่าเด็กคนนั้นทำให้เมียฉันตาย”“แน่ใจว่าคิดแค่นั้น แล้วนี่แต่งตัวจะไปไหน”“กลับเชียงใหม่สิวะ จะอยู่ทำไมล่ะ ก็ผู้หญิงที่ฉันตั้งใจจะมาจีบกลายเป็นเมียแกไปแล้วนี่ หรือแกจะให้ฉันแย่งเมียเพื่อนก็ได้นะฉันไม่ถือ”“ก่อนจะถามฉัน ถามตัวเองก่อนว่าคิดจะแย่งเมียฉันจริงๆ หรือแค่อยากให้เมียตัวเองหึง”คำพูดที่เหมือนกับมานั่งอยู่ในใจเช่นนั้น ทำให้รังสิมันต์ต้องทำหน้าตึงกลบเกลื่อน แม้สิ่งที่ปรัชญ์พูดมาจะไม่ตรงกับความจริงนักแต่ก็เฉียดสุดๆ เขาไม่ได้อยากให้จันทริกาหึง แค่อยากให้เธอเจ็บจริงหรือที่ว่าต้องการแค่นั้น?รังสิมันต์ถามตัวเอง...แล้วทำไมตอนที่เด็กคนนั้นทำหน้าเหมือนไม่รู้สึกอะไรกับเขา เขาถึงได้หงุดหงิดนัก“ต้องให้ย้ำกี่ครั้งว่าเมียฉันตายแล้ว แกความจำเสื่อมหรือไงไอ้เชี่ยปรัชญ์” คนถูกต้อนคืนทำเสียงฉุนๆ ใส่“ฉันไม่ได้หมายถึงคนที่ตายแล้วเว้ย แต่หมายถึงคนที่แกอยู่ด้วยตอนนี้”“จันทริกาไม่ใช่เมียฉัน”“แล้วเป็นอะไร แค่อดีตน้องเมียที่ตอนนี้ถูกลดฐานะล

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 45

    บทที่ 45“เธอนอนหรือยัง” ถามทั้งๆ ที่รู้ว่าดึกดื่นขนาดนี้ จันทริกาต้องนอนแล้ว เพราะปกติถ้าคืนไหนที่เขาไม่ได้ให้เธอขึ้นไปหา หรือเป็นฝ่ายลงมาหาเธอ เด็กคนนั้นจะหลับเร็วเป็นพิเศษ“นอนแล้วค่ะ คุณโทร.มามีอะไรหรือเปล่าคะ”“ฉันแค่โทร.มาถามว่าเมสซี่เป็นยังไงบ้าง” ปากพูดไปตามที่สมองเตรียมการเอาไว้ล่วงหน้า หากแต่เสียงในใจเสียงหนึ่งกลับตะโกนก้องขึ้นมาว่า เพราะอยากได้ยินเสียงนุ่มๆ เรียบๆ ของเธอต่างหาก“เมสซี่อยู่กับจันทร์ค่ะ ตอนนี้หลับไปแล้ว”“ก็ดี ฉันแค่เป็นห่วงมัน”“ไม่ต้องห่วงนะคะจันทร์จะดูแลเมสซี่อย่างดี และสมบัติทุกชิ้นของคุณในบ้านหลังนี้ยังอยู่ครบค่ะ” จันทริกาพูดกับคนโทร.มาด้วยน้ำเสียงที่เหมือนจะเป็นการบอกกล่าวตามปกติ ทว่าหัวใจกลับปวดแปลบ เมื่อตระหนักถึงความจริงที่ว่า คุณตะวันเป็นห่วงแค่เมสซี่เท่านั้น ไม่ได้ห่วงเธอแม้แต่นิด หากจะห่วงก็คงห่วงว่าเธอจะพาใครมาขโมยของในบ้านอย่างที่เขาพูดไว้ก่อนไปมากกว่า เพราะเธอเป็นผู้ร้ายในสายตาเขามาตลอดตั้งแต่ศศิประภาตายไป จันทริกาจึงต้องบอกเขาไปเช่นนั้น หากแต่คนฟังกลับรู้สึกว่าเธอกำลังประชด“สมบัติของฉันที่เธอว่าอยู่ครบทุกชิ้น รวมถึงเธอด้วยหรือเปล่า”จันทริกาห

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status