Share

บทที่ 18

last update Last Updated: 2025-06-07 19:00:00

บทที่ 18

เมื่อถึงหน้าห้อง รังสิมันต์เอื้อมมือไปบิดลูกบิดประตู แล้วผลักมันเข้าไปโดยไม่คิดจะเคาะให้เสียเวลา ในเมื่อบ้านหลังนี้เป็นบ้านของเขา และเด็กคนนั้นก็ไม่มีค่าพอที่เขาจะต้องรักษามารยาทด้วย

การเข้ามาของรังสิมันต์ ทำให้ร่างบางที่ยังนอนอยู่บนเตียงต้องยันตัวลุกขึ้นนั่ง ก่อนจะหลุบตาลงเมื่อเห็นสายตาซึ่งยังสาดประกายเหี้ยมเกรียมมาใส่เธอ

“ทำไมถึงยังไม่กินข้าว”

รังสิมันต์ถามขึ้นห้วนๆ เมื่อมองไปเห็นว่าชามข้าวต้มยังวางอยู่บนโต๊ะข้างหัวเตียง โดยที่ยังไม่มีรอยพร่องเลยแม้แต่นิด

“จันทร์ยังไม่หิวค่ะ” เสียงที่เปล่งออกมานั้นค่อนข้างจะแหบแห้ง ร่างเล็กเกร็งขึ้นอีกเท่าตัวเมื่อรังสิมันต์สาวเท้าเข้ามาทรุดตัวนั่งลงบนขอบเตียง

เจ้าของบ้านวางถุงยาที่ตัวเองถือมาลงบนโต๊ะใกล้กับถุงยาของหมอ ก่อนจะหยิบชามข้าวต้มที่เริ่มจะเย็นแล้วขึ้นมา แล้วหันไปยังเด็กสาวที่ตอนนี้นั่งก้มหน้าอยู่

“เงยหน้าขึ้น แล้วกินข้าวต้มนี่ซะ”

รังสิมันต์ออกคำสั่งพร้อมกับยื่นชามข้าวต้มไปให้ หากแต่จันทริกายังคงนั่งนิ่ง และไม่มีทีท่าว่าจะรับมันจากมือเขาแต่อย่างใด

“จันทริกา!”

“...”

แม้จะเรียกเสียงเข้มแต่คนถูกเรียกก็ยังคงไม่ยอมยื่นมือมารับชามข้าวต้มจากเขา รังสิมันต์จึงถอนหายใจออกมาดังๆ

“เมื่อคืนโดนยังไม่พอใช่ไหม ดื้อกับฉันแบบนี้อยากโดนอีกใช่ไหม”

คราวนี้ได้ผล เพราะจันทริกาเงยหน้าขึ้นมองเขา พร้อมกับเบิกตากว้างขึ้นในทันที ร่างบางเหมือนจะถอยร่นหนี แต่ก็ถอยไม่ได้เพราะข้างหลังคือพนักเตียง

“ตกลงจะกินหรือเปล่า ถ้าไม่กินฉันจะได้ทำอย่างอื่นแทน”

คำขู่ของเขาทำให้จันทริกาจำต้องยื่นมือไปรับชามข้าวต้มนั้นมา ก่อนจะตักใส่ปากอย่างอ้อยอิ่งและพยายามกลืนลงคออย่างยากลำบาก เพราะในยามนี้ร่างกายของเธอไม่ได้ต้องการอาหารพวกนี้เลย แถมในคอก็ตื้อไปหมด

“ทำไมชักช้าจังวะ”

ถ้อยคำที่เหมือนกับถูกสบถออกมาคล้ายดั่งรำคาญและหงุดหงิดเต็มประดานั้น ทำให้จันทริกาลำคอตีบตันมากกว่าเดิม เมื่อตระหนักว่านับจากเหตุการณ์เมื่อคืนนี้ คงไม่มีวันที่รังสิมันต์จะกลับมาเป็นพี่ชายที่แสนดีของเธออีกแล้ว

จันทริกาได้ยินรังสิมันต์ถอนหายใจออกมาแรงๆ อีกครั้ง ก่อนที่ชามข้าวต้มจะถูกกระชากไปจากมือเธอ และไม่กี่อึดใจต่อมา ช้อนก็มาจ่อตรงปากของเธอพร้อมด้วยคำสั่งของคนที่มีอำนาจมากที่สุดในบ้าน

“อ้าปาก!”

น้ำเสียงยังคงเป็นขู่เข็ญดังเดิม แต่คนที่บาดเจ็บทั้งกายและใจก็ไม่คิดจะทำตาม รังสิมันต์จึงขยับเข้าไปใกล้กว่าเดิม

“ถ้าเธอไม่อ้าปาก ฉันจะเอาข้าวต้มชามนี้กรอกปากเธอแทนการใช้ช้อน”

คำพูดนั้นทำให้จันทริกาต้องอ้าปากค้างอย่างตกตะลึง และรังสิมันต์ก็ถือโอกาสนั้นยัดช้อนข้าวต้มใส่ปากและบังคับให้เธอกลืน และคำต่อๆ มาก็ถูกคนป้อนทำเช่นเดิมจนกระทั่งข้าวต้มเหลืออยู่ค่อนชาม นั่นแหละรังสิมันต์จึงพอใจ

เขาขยับไปยังถุงยาที่หมอจัดไว้ให้ อ่านฉลาก แกะมันใส่มือ แล้วส่งให้จันทริกากิน ตามด้วยน้ำอีกหนึ่งแก้ว ทว่านั่นไม่ใช่ยาชุดสุดท้าย เพราะมันยังเหลือยาสีขาวที่ส่งตามมาอีกหนึ่งเม็ด

“กินนี่ด้วย”

“ยาอะไรเหรอคะ” เสียงหวานเอ่ยถามเบาหวิวและมองคนที่กำลังส่งยามาให้อย่างไม่แน่ใจ

“ไม่ใช่ยาพิษก็แล้วกันน่ะ มันแค่ยาคุมฉุกเฉิน กินซะ!”

มือบางจำต้องยื่นไปรับมากินตามคำสั่ง โดยไม่ได้โต้แย้งหรืออะไร เพราะรู้ดีว่ารังสิมันต์คงทำทุกอย่างเพื่อป้องกันความผิดพลาดที่จะเกิดขึ้นตามมา

                หลังจากที่จันทริกากินยาเม็ดนั้นเสร็จ อดีตพี่ชายที่แสนดีก็โยนถุงยาที่เขาซื้อมาใส่ตักเธออย่างไร้ความอ่อนโยน แต่นั่นยังไม่โหดร้ายเท่ากับถ้อยคำของเขาที่ตามมา

“ส่วนนี่เป็นยาคุมแบบธรรมดา ฉันซื้อมาไว้ให้โหลหนึ่ง กินได้เป็นปี อ่านฉลากให้เข้าใจแล้วก็อย่าเผลอลืมกินล่ะ เพราะฉันไม่อยากได้ลูกที่เกิดจากผู้หญิงใจร้ายอย่างเธอ”

“หมายความว่าคุณตะวันจะ...” จันทริกาไม่กล้าเอ่ยจนจบประโยค

“ใช่! เธอจะต้องชดใช้อีก ชดใช้ไปเรื่อยๆ จนกว่าความแค้นระหว่างเราจะจบลง”

“แล้วมันจะจบเมื่อไหร่คะ...”

“เมื่อฉันพอใจ!”

พูดจบร่างสูงก็ก้าวยาวๆ ออกไปจากห้อง โดยมีเมสซี่ซึ่งนั่งมองสองหนุ่มสาวอยู่นานวิ่งตามออกไป ภายในห้องจึงตกอยู่ในความเงียบอีกครั้ง ทว่าความเงียบเกิดขึ้นเพียงครู่หนึ่ง เพราะต่อมามันก็ถูกทำลายด้วยเสียงสะอื้นแสนเศร้าที่ดังขึ้นเบาๆ แต่กลับสะท้อนความทุกข์ในใจของคนที่กำลังร้องไห้ได้เป็นอย่างดี

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 112

    บทที่ 112ร่างสูงเดินตามบันไดลงไปชั้นล่าง หลังออกจากห้องลูกชาย พยายามครุ่นคิดว่ายามดึกแบบนี้เมียเขาจะไปอยู่ที่ไหน ตอนแรกคิดว่าเธอออกไปเดินเล่น เลยไปตามหาดูที่สวนหย่อม แต่ก็ไร้เงาจันทริกาอย่างสิ้นเชิง คนตามหาเมียจึงทั้งร้อนใจและอดหัวเสียด้วยความเป็นห่วงไม่ได้ กระทั่งฉุกคิดขึ้นได้ถึงห้องนอนชั้นล่างที่เขายังไม่ได้ไปดู ร่างสูงจึงก้าวตรงไปยังห้องนั้นอย่างไม่ลังเล แล้วก็ต้องแอบถอนหายใจออกมาเบาๆ เมื่อเห็นแสงสว่างเล็ดลอดออกมาจากข้างในเธอลงมาทำอะไรที่นี่นะมือใหญ่ผลักประตูเข้าไปเพื่อหาคำตอบให้ตัวเองในทันที ทำเอาคนที่อยู่ในห้องสะดุ้งเล็กน้อย มือที่กำลังทำอะไรบางอย่างอยู่ชะงักไป ก่อนจะถอนหายใจออกมาเบาๆ เช่นกัน เมื่อความลับที่ตัวเองพยายามจะปกปิด ถูกจับได้เสียแล้ว“อยู่นี่นี่เอง พี่ตามหาซะทั่ว” เสียงทุ้มรำพึงขึ้นแบบกึ่งโล่งอกกึ่งคาดโทษ เพราะหลายวันมานี้เธอทำให้เป็นห่วงและแอบหนีเขามากลางดึกอยู่บ่อยๆ“จันทร์นึกว่าพี่ตะวันหลับไปแล้วซะอีกค่ะ” จันทริกาพูดออกไปตามที่ตัวเองจำได้ เพราะก่อนออกจากห้องมา รังสิมันต์มีอาการง่วงงุนจนเกือบจะหลับไปแล้ว“ตอนแรกก็หลับไปแล้ว แต่ก็ต้องตื่นมาเพราะเมียหาย ไม่ใช่คืนแรก

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 111

    บทที่ 111เมื่อภรรยาเอาแต่ยืนหน้าแดง รังสิมันต์จึงยื่นแขนมาเกี่ยวเอวเล็ก รั้งร่างบางให้นั่งลงบนตัก ก่อนจะยื่นหน้าเข้าไปหอมแก้ม“ตกลงนะ”“ก็ได้ค่ะ” เสียงหวานเอ่ยรับปากอายๆ ทำให้คนที่ได้ดั่งใจประกบปากจูบเธออย่างดูดดื่มทันที และจันทริกาก็อดไม่ได้ที่จะจูบตอบเขาด้วยความดูดดื่มอ่อนหวานเช่นกันรังสิมันต์ครางออกมาในลำคออย่างพอใจ มือใหญ่เริ่มลูบไล้ไปตามลอนสะโพกผาย ต่ำลงไปยังชายกระโปรงแล้วรุกคืบเข้าไปข้างใน สัมผัสกับความเนียนละมุนของขาอ่อน เช่นเดียวกับปากและจมูกโด่ง ที่ตอนนี้ผละออกจากการประกบจูบ แต่กลับเริ่มซุกไซ้ไปตามพวงแก้ม ใบหู เลื่อนต่ำไปถึงซอกคอ แล้วระดมจูบไซ้ปลุกเร้า อย่างรู้ดีว่าทำอย่างไรจันทริกาจึงจะยอมตามใจ“พอแล้วค่ะพี่ตะวัน ไหนว่าคืนนี้ไงคะ” เสียงหวานเอ่ยประท้วงออกมาหอบๆ พยายามจะผลักใบหน้าสามีออกห่างแต่เขาไม่ยอม“ขอมัดจำก่อนไงจ๊ะ”“ไม่เอาค่ะ จันทร์ต้องลงไปหาอาทิตย์นะคะ”“ฟองคำเลี้ยงให้อยู่ไม่ใช่เหรอ ตอนนี้อยู่กับพี่ก่อนเถอะนะ”“จันทร์คิดถึงลูกนี่คะ ไม่ได้เจอกันตั้งหลายชั่วโมง”“แล้วไม่คิดถึงผัวบ้างเหรอคนดี พี่กับจันทร์ก็ไม่ได้เจอกันตั้งหลายชั่วโมงเหมือนกันนะ”“คิดถึงค่ะ คิดถึงทั้งลูก

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 110

    บทที่ 110‘น้องอาทิตย์’ ลูกชายวัยหกเดือนนั่งรถมากับพ่อบนเบาะหลัง ในตอนบ่ายช่วงวันหยุดสุดสัปดาห์ โดยมีอุ้ยคำเป็นคนขับ รถคันหรูแล่นมาหยุดที่ลานจอดรถของคณะซึ่งแม่น้องอาทิตย์เรียนอยู่ แม้วันนี้จะเป็นวันหยุด แต่ทว่าลานจอดรถกลับแน่นขนัดไปด้วยพาหนะของนักศึกษาภาคพิเศษในระดับปริญญาตรี โท และเอก ที่ต่างต้องมาเรียนในวันเสาร์อาทิตย์ ร่างบางออกมาจากตึกช้ากว่าเวลาเดิมเกือบสิบห้านาที ทำให้ใบหน้าหล่อเหลาที่เกลื่อนไปด้วยรอยยิ้มก่อนหน้านี้บึ้งตึงลงโดยพลัน ไม่ใช่เพราะต้องรอเมียนาน แต่เป็นเพราะมีหนุ่มหล่อหน้าตาดีเดินเคียงคู่ออกมาด้วยต่างหากเห็นเช่นนั้นลมเพชรหึงก็กำเริบทันที ร่างสูงเอียงตัวไปอุ้มลูกน้อยขึ้นมาบนวงแขน ก่อนจะผลักประตูรถลงไป แล้วก้าวยาวๆ ตรงไปหาภรรยาสาวอย่างไม่ลังเลทันที“ทำไมวันนี้มาช้าจังครับที่รัก พี่กับลูกมารอตั้งนาน” ไม่แค่ถามแต่รังสิมันต์ยังส่งน้องอาทิตย์ให้ผู้เป็นภรรยาอุ้ม พร้อมกับส่งสายตาดุๆ ไปยังไอ้หน้าหล่อคนนั้น เป็นเชิงบอกว่านี่เมียเขาและเธอก็มีลูกแล้ว เพราะฉะนั้นถ้ามันไม่อยากเดือดร้อนก็อย่าทำตัวสนิทสนมกับเมียเขาเกินเหตุ“ขอโทษด้วยนะคะ พอดีจันทร์มีงานกลุ่มที่ต้องแบ่งกันทำกับเพื่อ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 109

    บทที่ 109หลังจากงานแต่งงานระหว่างรังสิมันต์กับจันทริกาผ่านไป เสียงเปียโนแสนไพเราะก็มักจะดังขึ้นบ่อยครั้ง เช่นเดียวกับคืนนี้ก็เช่นกัน คฤหาสน์หลังใหญ่ในยามค่ำคืน ยังคงสวยงามและสว่างไสวด้วยไฟหลากหลายดวง เสียงเปียโนที่ถูกบรรเลงด้วยนิ้วเรียวๆ สวยๆ ดังขึ้นท่ามกลางความเงียบสงบของราตรีกาล สมาชิกในครอบครัวที่กำลังนอนอยู่ต่างอดคลี่ยิ้มออกมาไม่ได้ เมื่อเสียงเปียโนที่กำลังถูกบรรเลงอยู่ตอนนี้นั้น เป็นท่วงทำนองอันแว่วหวานแสนไพเราะ สะท้อนอารมณ์ของคนเล่นเป็นอย่างดี ว่ากำลังมีความสุขมากแค่ไหน ความสุขนั้นส่งผ่านเสียงเพลง ขับกล่อมคนฟังให้ผล็อยหลับไปอย่างแสนสุขเช่นเดียวกับคนเล่น“อุ๊ย...พี่ตะวัน”เสียงหวานอุทานขึ้น เมื่อเพลงแสนหวานนั้นจบลง พร้อมๆ กับที่เอวเล็กถูกแขนแข็งแรงสอดเข้ามากอด พวงแก้มและซอกคอก็โดนจูบโดนไซ้จากจมูกโด่งคมของคนที่ไม่เคยยอมห่างเธอไปไหน“รางวัลสำหรับเพลงเพราะๆ”“ใครอยากได้รางวัลแบบนี้กันคะ”“ใครๆ ก็อยากได้ทั้งนั้นแหละ”“ใครๆ ที่ว่านี่หมายถึงสาวๆ ของพี่ตะวันเหรอคะ” จันทริกาเอียงหน้ามาถาม สีหน้าและแววตาสะท้อนความสุขออกมา จนตอนนี้ใครต่อใครต่างก็บอกว่าเธอเป็นผู้หญิงที่น่าอิจฉามากที่สุด“ถ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 108

    บทที่ 108งานแต่งงานเล็กๆ ถูกจัดขึ้นในอีกสองอาทิตย์ต่อมา ตอนเช้าเป็นงานแต่งแบบไทยตามประเพณี รังสิมันต์เชิญเฉพาะญาติผู้ใหญ่ฝั่งตัวเองมาเป็นสักขีพยาน และเป็นการบอกกล่าวให้รับรู้ว่าจันทริกาคือภรรยาของเขา ส่วนญาติทางฝั่งจันทริกาไม่มีใคร นอกจากตาธงกับยานนวลที่เธอถือว่าเป็นตากับยายของเธอ ส่วนงานกลางคืนเป็นงานเลี้ยงแบบอบอุ่น ที่มีเฉพาะเพื่อนสนิทของทั้งสองฝ่ายเท่านั้น แน่นอนว่าหนุ่มๆ ทั้งสี่คนซึ่งได้แก่ ปรัญช์ ปราณต์ ศาสตรา และกวินภพ มาร่วมงานเลี้ยงครั้งนี้กันทั่วหน้า โดยแต่ละคนต่างควงคู่ภรรยามาทั้งนั้น ยกเว้นกวินภพซึ่งยังโสดแต่ก็ยังมีคนมาด้วย คือเอมมาลินนั่นเอง เอมมาลินถูกเชิญมางานเลี้ยงคืนนี้ด้วย เพราะถึงแม้จันทริกาจะรู้จักกับเอมมาลินได้ไม่นาน แต่เอมมาลินก็เป็นผู้มีพระคุณและยังเป็นคนที่เธอรักและนับถือเหมือนพี่สาวอีกคนหนึ่ง งานนี้อดีตคนเคยรักจึงจำต้องเดินทางมาเชียงใหม่ด้วยกันตามลำพังบรรยากาศของงานเลี้ยงเป็นไปอย่างอบอุ่นและเป็นกันเองจริงๆ พี่สาวที่รักทั้งสองอย่างภัคธีมาและธรินดาต่างแสดงความยินดีกับน้องสาว ที่แม้ต้องเผชิญกับความร้ายกาจของรังสิมันต์ เพราะความเข้าใจผิดมามากมาย แต่ในที่สุดเธอก็เ

  • ตะวันพ่ายจันทร์   บทที่ 107

    บทที่ 107“คนร้ายกาจ” จันทริกาต่อว่าคนเจ้าแผนการเบาๆ ไม่ใช่เพราะโกรธเคือง แค่รู้สึกว่าตัวเองไม่เคยชนะเขาเลย แต่แท้จริงแล้วเขาต่างหากล่ะที่พ่ายแพ้ต่อเธอ พ่ายแพ้แบบยอมสยบแทบเท้า ยอมแบบราบคาบหมดทุกอย่าง“ที่ต้องร้ายก็เพราะรักมาก อยากชดเชยความผิดของตัวเอง แบบนี้จันทร์ยังจะใจแข็งกับพี่ได้ลงคออีกเหรอ” เขาใช้ทั้งลูกล่อลูกชน เพื่อให้เธอยอมโอนอ่อนผ่อนตาม ขณะที่รถยังคงแล่นไปเรื่อยๆ และเข้าใกล้ที่ว่าการอำเภอเข้าไปทุกที“จันทร์ไม่มีทางเลือกอื่นแล้วใช่ไหมคะ”“ครับไม่มีแล้ว เพราะทางนี้คือทางที่ดีที่สุดสำหรับเราสองคนและลูก หลังจดทะเบียนกันแล้ว พี่ก็จะจัดงานแต่งงานด้วย โอเคไหม”“ไม่จัดไม่ได้เหรอคะ จันทร์ไม่ชอบพิธีรีตรองอะไรแบบนั้นหรอก อีกอย่างจันทร์เคยอยู่ในฐานะน้องเมียมาก่อน จันทร์กลัวพี่ตะวันจะเสื่อมเสียค่ะ” คราวนี้จันทริกาพูดด้วยเหตุผล เพราะเป็นห่วงชื่อเสียงของเขาจริงๆ ไหนจะญาติๆ และคนรอบข้างอีก เธอเชื่อว่าต้องมีคนติฉินนินทาแน่ สำหรับเธอนั้นเป็นแค่ผู้หญิงธรรมดา ไม่มีอะไรให้ต้องห่วงมากมาย แต่สำหรับเขามันไม่ใช่ เขาเป็นนักธุรกิจ มีชื่อเสียง มีสังคม เรื่องนี้มันอาจทำให้เขามัวหมอง“จันทร์ไม่ได้มีความเก

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status