Share

บทที่ 10 แมว... ปิงปิง

last update Huling Na-update: 2025-01-05 20:44:00

บทที่ 10 แมว... ปิงปิง

ปิงปิงคิดว่าวันนี้มันเป็นวันอะไร ทำไมมีเรื่องเกิดขึ้นกับเธอมากมาย เธอเดินตามพี่สาวไปเรื่อย ๆ จนเห็นพี่สาวของเธอเลี้ยวเข้าไปในซอยเล็ก ๆ เธอจึงหยุด รอให้เวลาผ่านไปสักพักถึงจะเดินตามเข้าไป…

"แหนะ... มีเรื่องสนุกทำไมไม่เรียก" เล่อเล่อเข้ามากระซิบใกล้ ๆ

"เล่อเล่อ บ้านเธออยู่โน่น มาทำอะไรตรงนี้" ปิงปิงตอบกลับทันที ถ้ามาจากโรงเรียน บ้านเล่อเล่อถึงก่อนบ้านเธอ เมื่อกี้เล่อเล่อเข้าบ้านไปแล้ว ทำไมถึงมาอยู่ที่นี่อีก

"ลืมสมุดการบ้านไง ต้องเอาไปลอก จะให้ไปลอกที่โรงเรียนหรือไง... ถามโง่ ๆ " เล่อเล่อรีบบอกทันที เธอรู้ว่าปิงปิงทำการบ้านเสร็จก่อนเลิกเรียนตลอด เอามาลอกที่บ้านปลอดภัยที่สุด!

พอรู้ว่าปิงปิงกำลังแอบตามดูพี่สาว เล่อเล่อก็ขอตามไปด้วย ทั้งสองจึงแอบอยู่ฝั่งตรงข้ามของอีกซอย ตอนนี้พวกเธอมองเห็นพี่อิงอิงยืนคุยกับผู้ชายคนหนึ่ง แต่ไม่รู้ว่าใคร ด้วยระยะที่ไกลจึงทำให้ไม่สามารถได้ยินว่าพวกเขาคุยอะไรกัน พยายามมองดูว่าผู้ชายหน้าตาเป็นยังไงก็มองไม่เห็น

"ปิงปิง... เราออกไปก่อนดีไหม ตรงนี้เสี่ยงเกินไป" เล่อเล่อกระซิบบอก

"ดีเหมือนกัน" ปิงปิงคิดว่าถึงแอบดูหรือแอบฟังก็ไม่ได้ยินอยู่ดี

ทั้งสองเดินออกมาจนถึงหน้าบ้านของปิงปิง และกำลังรื้อกระเป๋าเพื่อเอาสมุดการบ้านพร้อมกับพูดคุยกันไปด้วย เพราะเล่อเล่อคิดว่าผู้ชายคนนั้นเหมือนคนที่คุยกับพี่อิงอิงเมื่อตอนกลางวัน

"ทำไมมาถึงบ้านช้า" เฉินเฉินถามน้องสาวทันทีที่ออกมาเจอ 

"มาถึงนานแล้วแต่ยังไม่ได้เข้าบ้านค่ะ" ไหลไปไกลกว่าน้ำก็ปิงปิงนี่แหละ

"เราคุยกันเพลินไปหน่อย... ฉันกลับแล้วนะ พรุ่งนี้เจอกันที่โรงเรียน" เล่อเล่อต้องรีบหนีก่อน ไม่อยากอยู่เดี๋ยวจะซวยได้

"รีบเข้าไป ย่ายิ่งอารมณ์ไม่ดีอยู่" เฉินเฉินรีบบอกน้องสาว 

ปิงปิงมองตามพี่ชายจนสุดสายตาแล้วค่อยเข้าบ้าน เธอเดาว่าพี่ชายต้องออกไปตามหาพี่สาวแน่ ๆ เธอเลยต้องรีบเข้าบ้านไปช่วยงานก่อนที่จะโดนด่า ถึงปิงปิงจะไม่เก่งเรื่องทำอาหารแต่เรื่องกินไว้ใจเธอได้เลย และหน้าที่หลักของเธอคือคนทำความสะอาดเก็บล้างจาน น่าภาคภูมิใจมาก แตกบ้างทิ้งบ้าง ปิงปิงทำมาหมดแล้ว...

ก่อนนอน ปิงปิงเอาสมุดที่ใช้จดรายละเอียดของแต่ละคนออกมา ทำเป็นหาสมุดหนังสือมาทำการบ้านเพื่อตบตาคนในครอบครัว เธอวาดแผนผังออกมาว่าใครมีส่วนเกี่ยวข้องที่จะทำให้ครอบครัวเธอเดือดร้อนหรือทำร้ายเธอได้ จากรายชื่อที่ได้มา ไม่มีใครที่เกี่ยวข้องกับเธอโดยตรงเลย ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับคนรอบตัวเธอ กับบางคนเธอยังไม่รู้จักและไม่เคยเห็นเลย ถ้าเธอได้อ่านหนังสือเล่มที่สองมันคงดีกว่านี้

"เราต้องขอแยกบ้านให้เร็ว ไม่อย่างนั้นจะเกิดปัญหาตามมา" 

"ผมจะไปคุยเดี๋ยวนี้แหละ" 

ปิงปิงที่กำลังนั่งขีดเขียนแผนผังเพื่อช่วยชีวิตตัวเองต้องหยุดชะงัก เพราะได้ยินเสียงพ่อกับแม่กำลังคุยกันเรื่องแยกบ้าน ปิงปิงเลยคลานไปแอบฟังใกล้ ๆ ทุกคนน่าจะคุยเรื่องนี้กันจนเรียบร้อยแล้ว เธอเลยไม่ได้ยินอะไรนอกจากเห็นพ่อกำลังจะออกจากห้องไป เธอไม่รู้ว่าทั้งสี่คนคุยอะไรกัน ปกติแล้วเธอไม่ค่อยมีส่วนร่วมกับเรื่องแบบนี้ที่ต้องคุยต้องปรึกษาเพราะทุกคนเห็นว่าเธอยังเด็ก แต่เรื่องวันนี้ต่างออกไป เพราะทุกคนต้องการที่จะแยกบ้านเลย

"มีอะไรหรือเปล่าคะ" เมื่อทนความสงสัยไม่ไหวก็ต้องถาม หากรอให้บอก คงไม่มีใครบอกเธอแน่ ๆ

"เปล่า" เฉินเฉินตอบน้องสาวไป

"บางเรื่องก็ควรบอกนะคะ ถึงปิงปิงจะไม่สามารถช่วยอะไรได้ แต่ปิงปิงก็ควรรู้ไม่ใช่เหรอคะ"

ทุกคนต่างเงียบและมองหน้าปิงปิงอย่างคิดไม่ถึงว่าลูกสาวหรือน้องสาวคนเล็กที่เอาแต่เล่นสนุกจะพูดจริงจังเป็นด้วย หรือเพราะปิงปิงเริ่มโตขึ้นแล้ว... 

"พ่อไปคุยกับปู่และย่าเรื่องแยกบ้าน" ฟางเหนียงบอกลูกสาวคนเล็ก

"เรามีเงินแล้วเหรอคะ" ก่อนหน้านี้ไม่ได้แยกเพราะไม่มีเงิน ผ่านมาไม่กี่วันจะขอแยกบ้าน เป็นใครก็ต้องสงสัย ทำไมรีบแยกบ้าน

"เฮ้อ... ที่เราต้องรีบ เพราะถ้าอยู่ต่อ พี่สาวของลูกจะต้องถูกบังคับให้แต่งงาน"

"ปู่กับย่าบังคับเหรอคะ" ปิงปิงถามต่อ

"ก็น่าจะรู้ ถ้ายังอยู่ในบ้านนี้ ทุกคนในบ้านเห็นด้วยก็ต้องทำตาม" อิงอิงเป็นคนตอบน้องสาวออกไป

"แล้วทำไมต้องเป็นพี่อิงอิงล่ะ พี่ถงเหนียน พี่หงฮวาอายุเยอะกว่าพี่อีก ยังไม่เห็นแต่งออกไปเลย" 

"ผู้ชายคนนั้นอยากแต่งกับพี่อิงอิง" เฉินเฉินเป็นคนตอบคำถามนี้

"ใครเหรอคะ" 

"เจ้าของโรงไม้ที่พ่อเราไปทำงานด้วย" ฟางเหนียงเป็นคนตอบ

"โห... แก่ขนาดนั้นอยากมีเมียเด็กเมียสวย ไอ้เฒ่าเอ๊ย! " พอรู้ว่าเป็นใคร ปิงปิงก็อดพูดออกมาไม่ได้

"นั่นแหละ เราถึงต้องแยกบ้านและย้ายออก เพราะถ้าเถ้าแก่หวังมาคุยกับที่บ้าน มีหวังทุกคนเห็นด้วยแน่ เพราะเถ้าแก่คงทุ่มเงินไม่อั้น"

"แล้วรู้ได้ยังไงว่าตาแก่นั่นจะมาคุย" ปิงปิงผู้สงสัยและอยากรู้ในทุกเรื่องไม่เคยปล่อยให้สงสัยนาน

"เฮ้อ... เรื่องมันเป็นแบบนี้... "

จากที่แม่และพี่ของเธอเล่าให้ฟัง จึงทำให้เธอได้รู้ว่าตาแก่นั่นคุยกับพ่อของเธอ พ่อปฏิเสธไปและคิดว่าไม่มีอะไรแล้ว แต่เมื่อสองวันก่อน เถ้าแก่หวังมาคุยกับลุงใหญ่ของเธอ พี่สาวกับพี่ชายของเธอได้ยินเข้าพอดีถึงได้รู้เรื่องนี้ จึงได้มาปรึกษาพ่อและแม่ว่าควรแยกออกไปอยู่ต่างหาก ไม่อย่างนั้นพี่สาวเธอได้ตกเป็นเมียอีกคนของตาเฒ่านั่นแน่ ๆ ที่บอกเมียอีกคนเพราะมันมีเมียตั้งหลายคน เพราะมีเงินเลยทำได้ดั่งใจ

"เป็นไงบ้างคุณ" ฟางเหนียงเอ่ยถามทันทีที่สามีเข้ามา

"แม่พูดเหมือนเดิม แยกได้แต่เงินไม่มีแบ่งให้ เงินที่เราทำมาได้ก็กินใช้ในบ้านและค่าเรียนของลูก ๆ เรา เลยไม่มีเงินแบ่งให้" หลิวชวนบอกภรรยาด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด

ปัง! ปัง!

"เจ้าเล็ก เปิดประตูให้พ่อหน่อย" 

ทุกคนที่กำลังนั่งล้อมวงกันหันไปมองทางประตูทันที เพราะเสียงนี้ไม่ใช่ใครที่ไหน นั่นเป็นเสียงปู่ของปิงปิงเอง 

"เจ้าเล็กเอานี่ไป"

หลิวชวนหยิบห่อออกมาเปิดดูและมองหน้าพ่ออย่างสงสัย เพราะในห่อนี้มีเงินประมาณ 500 หยวน

"พ่อมีเงินเท่านี้แหละที่พอจะให้แกได้ ไม่ต้องให้ใครรู้" 

"ขอบคุณครับพ่อ"

"แกไปปรึกษากันเถอะว่าจะเอายังไง ช่วงนี้แม่แกก็ต้องบ่นต้องว่าเรื่องนี้ทำใจไว้บ้าง"

"ครับ"

หลังจากปู่ของเธอออกไป ทุกคนก็ปรึกษากัน ปิงปิงเป็นได้แค่ผู้นั่งฟังและถามบ้างบางครั้ง แต่คนที่ตัดสินใจคือพ่อกับแม่ของเธอ เธออยากเอาเงินที่มีอยู่มาให้พ่อกับแม่ แต่ยังคิดไม่ออกว่าจะบอกพ่อกับแม่ยังไงดี ถ้าบอกตรง ๆ มันจะเป็นอะไรไหม ตอนนี้เธอมีเรื่องที่สงสัยเพิ่มขึ้นมา เธอเคยแตะตัวปู่ ตอนนั้นไม่เห็นว่าปู่ซ่อนเงิน แต่ตอนนี้ปู่มีเงินที่แอบซ่อนเอาไว้แล้วเอามาช่วยครอบครัวเธอ ตกลงความสามารถของเธอมันใช้ไม่ได้กับทุกคนเหรอ มันต้องใช้แบบไหนกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ คืนนี้เธอต้องแอบไปเอาเงินของคนในบ้านที่ซ่อนไว้ตามที่ต่าง ๆ เพื่อเป็นทุนในการย้ายบ้านในครั้งนี้

...........................................

น้องจะได้แยกบ้านแล้วนะคะ แต่จะแยกแบบราบรื่นไหมหนอ...

รี้ด : ทำไมตอนนี้ชื่อแมว... ปิงปิง

ไรท์ : แมวขโมยไงรี้ด... คืนนี้แมวตัวนี้จะอาละวาด ระวังตัวกันไว้นะทุกคน

Patuloy na basahin ang aklat na ito nang libre
I-scan ang code upang i-download ang App

Kaugnay na kabanata

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 11

    บทที่ 11หลังจากได้ข้อสรุปแล้วว่าครอบครัวเราจะต้องไปหาห้องเช่าหรือบ้านเช่าอยู่ก่อน ถึงย่าจะยอมให้แยกบ้านแต่ก็ไม่ได้ให้เงิน ถึงยังไงก็ต้องย้ายออกให้เร็วพร้อมหนังสือแยกบ้าน ก่อนที่ตาแก่โรงไม้จะมาคุยกับย่า พรุ่งนี้พ่อจะต้องหาบ้านเช่าและอาจต้องหางานใหม่สำรองไว้ด้วย ส่วนหน้าที่ของเธอในคืนนี้คือ ต้องออกไปทำงานพิเศษช่วงที่คนหลับกันหมดหลังจากทุกคนเข้าห้องนอนกันหมดแล้ว ปิงปิงก็หาข้ออ้างไปเข้าห้องน้ำ เพราะเธอปวดหนักมากถึงมากที่สุด อาจต้องเข้าห้องน้ำนาน ๆ ถึงมันจะฟังไม่ขึ้นแต่เพราะทุกคนชินกับการพูดเกินจริงของเธออยู่แล้วก็เลยไม่สนใจ อีกอย่าง เธออยู่แต่ในบ้านไม่ได้ออกไปไหนแน่ ๆ"ทำไมคนพวกนี้ถึงซ่อนเงินไกลตัว แทนที่จะเก็บไว้ใกล้ตัว" เธอไม่เข้าใจจริง ๆ ถ้าเป็นเธอจะเก็บไว้ใกล้ตัวให้มากที่สุดปิงปิงเดินไปดูตามที่เห็นภาพ ไม่ว่าจะเป็นกระถางต้นไม้ ใต้ตู้ หลังภาพวาด สารพัดที่ซ่อน บางที่ก็ได้มาไม่กี่หยวน แต่ก็ต้องเอาไว้ก่อน บางที่ต้องมุดเข้าใต้โต๊ะแคบ ๆ ก็ต้องทำ ตอนนี้หัวเธอคงมีแต่ฝุ่นเต็มไปหมด ตรงไหนที่ต้องมุดก็พอไหว แต่บางที่ต้องปีน อย่างหลังตู้สูงต้องหาเก้าอี้มาเป็นตัวช่วย"อื้อ... อย่า เดี๋ยวมีคนมาเห็

    Huling Na-update : 2025-01-05
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 12

    บทที่ 12ทั้งสองยืนดูอยู่ห่าง ๆ เพราะยังไม่แน่ใจว่าคนกลุ่มนั้นจะเข้าไปหาพี่สาวของเธอหรือเปล่า ปิงปิงจ้องตาไม่กะพริบ และในช่วงจังหวะนั้น สายตาของเธอก็ปะทะเข้ากับบางอย่าง "คิดว่าเราไหวไหม" เล่อเล่อไม่คิดหนี แต่ก็ไม่แน่ใจว่าสู้ไหวไหม"ไม่ไหว... ดูคนก่อน ถ้ามีเรื่องจริง ๆ จะเอาอะไรไปสู้ และมองดูรอบ ๆ คนดูต้นทางเว้นระยะขนาดนั้น มีคนเดียวที่จะช่วยเราได้ในตอนนี้ ไปตามพี่จุนหานมาให้เร็วที่สุด ฉันจะถ่วงเวลาเอง" เขาคนเดียวที่น่าจะช่วยเธอได้ในตอนนี้"อือ... ฉันจะรีบให้สุดชีวิต" พูดจบ เล่อเล่อก็รีบวิ่งออกไปทันที ใจก็ภาวนาให้กลุ่มพี่จุนหานอยู่ที่เดียวกับที่เธอเจอเมื่อวานเมื่อรู้ว่าคนกลุ่มนั้นเดินเข้าไปหาพี่สาวของเธอจริง ๆ แม้จะยังไม่ทำอะไรแต่มันก็คิดดีไม่ได้เลย ปิงปิงเดินยิ้มกว้างเข้าไปหาด้วยท่าทางสบายอารมณ์"พี่อิงอิง! " เธอตะโกนดังลั่น พร้อมทั้งส่งยิ้มหวานให้พี่สาวทุกคนที่ได้ยินเสียงเธอต่างหันมามองเป็นตาเดียว แต่ปิงปิงไม่ได้สนใจใคร เธอชำเลืองมองไปที่มุมหนึ่งของตึก แล้วก็ละสายตากลับมามองพี่สาวกับผู้ชายที่ยืนอยู่ด้วยกัน"ปิงปิงมีเรื่องจะให้พี่ช่วย... ไปด้วยกันหน่อยนะคะ" ปิงปิงดึงแขนพี่สาวให้รีบ

    Huling Na-update : 2025-01-05
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 13

    บทที่ 13หลังจากที่พี่จุนหานรับปากว่าจะช่วยแล้ว จึงไล่เธอสองคนกลับตึกต้น เรื่องที่เกิดขึ้นนั้นพวกเขาจะจัดการเอง แล้วยังขู่เธอว่าถ้าก่อเรื่องอีก เขาฆ่าเธอแน่ ตอนนี้เธอเลยต้องกลับมานั่งเรียนในสภาพที่ไม่ค่อยดีสักเท่าไร เพื่อน ๆ ในห้องต่างก็ว่าพวกเธอแอบปีนกำแพงไปกินซาลาเปาร้านดังมาแน่ ๆ เพราะสภาพเธอสองคนเหมือนตอนที่แอบปีนกำแพงหรือต้นไม้ออกไปนอกโรงเรียน ทุกคนไม่ค่อยตกใจ เพราะสภาพนี้คือสภาพปกติของเธอสองคน เธออยากจะบอกเพื่อนร่วมห้องเหลือเกิน ถ้าออกนอกโรงเรียนตอนนี้ พวกเธอไม่มีสภาพแบบนี้แล้ว เพราะเธอมีช่องทางลับ แต่ต้องเก็บเงียบไว้หลังเลิกเรียน พี่ชายกับพี่สาวมารอรับเธอกับเล่อเล่อเพื่อที่จะได้กลับบ้านพร้อมกัน โดยเดินไปอีกทาง ไม่ได้ตรงกลับบ้าน เพราะพี่ทั้งสองคนรู้ดีว่าควรบอกน้องในเรื่องที่เกิดขึ้นเมื่อตอนกลางวัน น้องสาวจะได้สบายใจ"แวะซื้อของกินก่อนค่อยไปนั่งริมน้ำ" พี่ชายเธอพูดจบแล้วลากเล่อเล่อให้ตามไปซื้อของด้วยกันทันทีตอนนี้เลยเหลือแค่เธอกับพี่สาวที่กำลังเดินนั่งที่ริมน้ำ พออยู่สองคน เธอก็มองหน้าพี่สาวเพื่อเป็นสัญญาณว่าเธอรอฟังอยู่นะ พูดมาได้เลย"พี่คิดว่ามันจะไม่มีปัญหา เพราะพี่ก็ทำงานนี

    Huling Na-update : 2025-01-06
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 14

    บทที่ 14ทั้งสามคนที่มาใหม่ตกใจที่เห็นปิงปิงถือเงินจำนวนมากยื่นออกไป ส่วนแม่เอามือปิดปากท่าทางตกใจ ส่วนปิงปิงนั้นตกใจมากกว่า ไม่คิดว่าพ่อกับพี่จะกลับมาเร็วขนาดนี้ คิดจะให้แม่ช่วยพูด กลายเป็นว่ามาเห็นตอนที่เธอกำลังยื่นเงินให้แม่พอดี...หลิวชวนตั้งสติได้เป็นคนแรก เขารีบปิดประตูห้องทันทีพร้อมกับหันไปมองหน้าภรรยา เหมือนกับกำลังกังวลกับเงินจำนวนนี้"ปิงปิง เงินใคร" หลิวชวนถามด้วยน้ำเสียงเคร่งเครียด ทุกคนรับรู้ได้ทันทีเพราะปกติพ่อจะเรียกปิงปิงว่าตัวแสบมากกว่าเรียกชื่อ นอกจากเวลาที่ต้องคุยจริงจังเท่านั้นที่จะเรียกชื่อนี้"เงินที่ปิงปิงจะให้พ่อกับแม่ค่ะ... เงินนี้ปิงปิงได้มาเพราะ... " ปิงปิง อ้ำอึ้งเพราะเหมือนทุกคนจ้องจับผิดเธอ มันเลยทำให้เธอประหม่าที่จะพูดออกไป"ปิงปิงเห็นป้าใหญ่ลับ ๆ ล่อ ๆ ที่สวนหลังบ้านบ่อย ๆ ... พอไม่มีใครอยู่ ปิงปิงเลยไปดูตรงนั้นก็เจอเข้ากับเงินจำนวนนี้ค่ะ"ปิงปิงตัดสินใจบอกไปแบบนั้น ที่ต้องพูดแบบนี้เพราะเธอยังไม่แน่ใจว่าความสามารถพิเศษที่เธอมีมันใช้ได้ตลอดไหม เพราะบางทีก็มองเห็น บางทีก็มองไม่เห็น ถ้าบอกไปแล้วมันไม่เป็นแบบที่พูดล่ะ... เธอเลยคิดว่าบอกแบบนี้แหละดีที่สุดแล้

    Huling Na-update : 2025-01-06
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 15

    บทที่ 15เช้านี้ปิงปิงตื่นมาด้วยอาการเหมือนคนนอนไม่พอ นั่งกินข้าวไปก็อ้าปากหาวไปด้วย ตอนนี้เธออยากกินน้ำคาเฟยที่คนโตชอบกินเพื่อไม่ให้ง่วงนอน แต่พ่อของเธอเคยบอกว่าเด็กกินไม่ดี เธอเลยไม่เคยได้ลิ้มลองคาเฟยสักที...สภาพเดินไปเรียนก็เหมือนศพเดินได้จนพี่สาวต้องคอยจูงมือไป เธอมีหน้าที่แค่หลับตาแล้วเดินตาม ทั้ง ๆ ที่เมื่อคืนเธอหลับฝัน แต่ทำไมพอตื่นขึ้นมามันเหมือนคนไม่ได้นอนเลยแม้แต่นิดเดียว "ปิงปิง พี่ว่าเธอไม่น่าจะไหว... เมื่อคืนนอนดึกใช่ไหม! " อิงอิงเห็นสภาพน้องสาวแล้วว่าไม่ไหว เมื่อคืนก็เข้านอนพร้อมกัน แต่ทำไมน้องสาวถึงมีสภาพแบบนี้"เรานอนพร้อมกันนะพี่อิงอิง... แต่ทำไมมันง่วงแบบนี้" ปิงปิงก็ไม่เข้าใจเหมือนกัน"เด็กอ้วน... " เสียงดังมาจากทางด้านหลังปิงปิงไม่สนใจเสียงนั้น ตอนนี้เธอจะหลับให้ได้เลย หรือว่าเธอหลุดเข้าไปในห้องหนังสือนั่นทั้งตัวจริง ๆ ไม่ใช่แค่หลับฝันไปอย่างที่เธอเข้าใจ"ลุกขึ้น ปิงปิง! " เฉินเฉินมาช่วยลากน้องสาวให้ยืนขึ้นจากการนั่งยองๆ หลับตาอยู่บนถนน"เกิดอะไรขึ้น" คนมาใหม่ถามขึ้นทันทีที่เห็น"ง่วงจะหลับ" เฉินเฉินเป็นคนตอบคำถามนี้"อิงอิง... กินนี่ก่อน" เสียงผู้ชายอีกคนที่ฟัง

    Huling Na-update : 2025-01-06
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 16

    บทที่ 16หลังจากที่ทั้งคู่กลับมาห้องเรียนก็ถูกลงโทษตามระเบียบ แต่ครั้งนี้ครูตีพวกเธอทั้งสองคนจนน่องขาว ๆ กลายเป็นรอยแดงจากการถูกไม้เรียวฟาด หลังจากถูกทำโทษแล้ว ทั้งสองต้องรีบทำงานเพื่อที่จะได้ส่งให้ทันเวลา สองสาวหัวชนกัน ช่วยกันทำงานอย่างขยันขันแข็งจนกระทั่ง..."ปิงปิง... มีรุ่นพี่มาหา" เพื่อนคนหนึ่งตะโกนบอกเธอแล้วรีบวิ่งหนีออกจากห้องไปทันที"เธอไปก่อเรื่องอะไรอีกหรือเปล่า" เล่อเล่อรีบถามเพื่อนทันทีพร้อมกับชะเง้อมองไปทางระเบียงหน้าต่างเพื่อเตรียมพร้อม"ไม่... เป็นเธอเองหรือเปล่า" ปิงปิงรีบปฏิเสธทันที ไม่รู้ว่าเธอก่อเรื่องหรือเปล่า แต่บอกปัดไปก่อนดีที่สุด"นั่นสิ... เราก่อเรื่องอะไรไหม" เล่อเล่อเกาหัวแกรก ๆ พร้อมเดินไปที่ระเบียง"เดี๋ยวฉันไปดูเอง... ถ้าสถานการณ์ไม่ดีเตรียมโดดหนีได้เลย" ปิงปิงบอกเพื่อนทันที ชั้นเรียนของเธออยู่แค่ชั้นสองโดดได้อยู่แล้ว สูงกว่ากำแพงนิดเดียวเอง"บ้าหรือไง! ไปด้วยกันนั่นแหละ ท่าไม่ดีก็แค่วิ่ง" เล่อเล่อเอาสมุดเคาะหัวเพื่อนทันทีทั้งสองยังไม่ทันได้ออกไปนอกห้องเรียน... ก็มีคนเดินเข้ามาหาเธอทั้งสองคนเสียก่อน พอรู้ว่าเป็นใครมาหาจึงถอนหายใจอย่างโล่งอกเพราะไม่ต้องอ

    Huling Na-update : 2025-01-08
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 17

    บทที่ 17ตอนนี้ที่บ้านเธอกำลังต้อนรับแขกที่ไม่น่าต้อนรับ เพราะคนที่มาคือเถ้าแก่โรงไม้ เธอนึกว่าเรื่องนี้จะไม่เกิดขึ้นเพราะเธอถามพ่อกับแม่แล้ว ทั้งสองตอบว่าได้ปฏิเสธเถ้าแก่โรงไม้ไปแล้ว และบอกกับคนที่บ้านแล้วว่าไม่ยอมให้พี่สาวเธอแต่งกับเถ้าแก่โรงไม้เด็ดขาด ปิงปิงมองไปที่พี่สาวที่ตอนนี้กำลังยืนหน้าซีดและพี่ชายที่ดูยังไงก็รู้ว่ากำลังโมโหกับเรื่องนี้ "อิงอิง... อยู่ก่อน ส่วนคนอื่นออกไปได้แล้ว" ย่าหลิ่งเป็นคนสั่งปิงปิงมองหาพ่อกับแม่ของเธอ ไม่รู้ว่าตอนนี้อยู่ไหนจึงได้แต่มองหน้าพี่ชายที่ไม่ยอมขยับไปไหนพร้อมกับเอาตัวมายืนบังพี่สาวที่เหมือนกำลังจะร้องไห้ ปิงปิงภาวนาให้ความสามารถของเธอใช้ได้ในครั้งนี้ ปิงปิงเอามือไปแตะลุงใหญ่ที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ และได้เห็นเหตุการณ์ที่ลุงใหญ่บอกอะไรบางอย่างกับพ่อแม่ของเธอ ก่อนที่ทั้งสองจะออกจากบ้านไป ปิงปิงมองหน้าลุงใหญ่ทันที ไม่ใช่ว่าเขาหลอกให้พ่อแม่เธอออกไปข้างนอก แล้วให้ผู้ใหญ่ทางนี้ตกลงกันเองโดยที่ไม่รอพ่อแม่ของเธอ แล้วเอาปู่ย่ามาอ้างหรอกนะ... พอคิดได้ดังนั้น ปิงปิงก็วิ่งออกไปข้างนอกทันทีปิงปิงวิ่งไปตามทางที่เธอเห็นว่าพ่อแม่เดินไป สายตาก็สอดส่องมองหาพ่อกับแม่

    Huling Na-update : 2025-01-08
  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 18

    บทที่ 18จากเหตุการณ์ที่ทำให้ทั้งบ้านทะเลาะกันนั้น ทำให้แต่ละครอบครัวหน้าตึงใส่กันไม่พูดคุยกันเหมือนแต่ก่อน และปัญหาก็มีมาเรื่อย ๆ บ้านลุงใหญ่มีปัญหาเรื่องหนี้สินและงานแต่งลูกชายคนโตที่ดูเหมือนจะล่ม เพราะลูกชายไปมีอะไรกับพี่สาวเหริน และพี่สาวเหรินบอกว่าเธอน่าจะกำลังตั้งท้อง ตอนนี้รอผลตรวจจากโรงพยาบาลก่อนถึงจะรู้ผลแน่ชัด ทำให้ย่าหลิ่งปิดห้องไม่พูดคุยกับใคร ส่วนบ้านลุงรองก็มีปัญหาเพราะลุงรองมีเมียอีกคน และที่หนักกว่านั้นคือมีลูกชายวัย 5 ขวบด้วยกันแล้ว เมื่อเรื่องมันพร้อมใจกันเกิดขึ้น ปู่ของเธอจึงบอกให้ไปจัดการปัญหาของแต่ละคนกันเอง เพราะแต่ละครอบครัวมีปัญหาใหญ่ ๆ เกิดขึ้น จึงทำให้ครอบครัวของเธอย้ายออกได้ง่ายและที่สำคัญไม่มีเสียงบ่นเสียงด่าของย่า เพราะย่าคิดว่าตอนนี้คนในบ้านเยอะเกินไป ถ้ามีคนย้ายออกน่าจะประหยัดได้มากกว่า"อย่ามัวแต่นั่งเท้าคางมองดูคนอื่นเขา รีบไปกันได้แล้ว" ฟางเหนียงรีบไล่ลูก ๆ ให้รีบออกไปวันนี้เป็นวันเสาร์ เธอต้องไปทำความสะอาดบ้านเช่าหลังใหม่เพื่อที่จะได้ย้ายไปอยู่ในวันพรุ่งนี้ บ้านหลังนี้เป็นบ้านของครอบครัวป้าลี่อิงนั่นเอง อยู่ห่างจากที่นี่ไปอีกด้านหนึ่งของเมือง หรือที

    Huling Na-update : 2025-01-08

Pinakabagong kabanata

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   ตอนพิเศษ

    ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 51 บทส่งท้าย

    บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 50

    บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 49

    บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 48

    บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 47

    บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 46

    บทที่ 46ปิงปิงเตรียมไขกุญแจเข้าห้องอย่าทุลักทุเล... แต่ที่น่าตกใจคือประตูเปิดออกเอง ทั้งที่เธอยังไม่ได้เสียบกุญแจเลยด้วยซ้ำ ปิงปิงเลยจุดคบเพลิงตามที่ปู่ทวดบอกแล้วถือเดินตามทางเดินเข้าไป ภายในห้องกว้างมีกลิ่นดอกไม้หอมคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ ปิงปิงเดินไปจนถึงที่จุดคบเพลิงที่ติดอยู่กับผนัง เธอจึงจุดเพิ่มเพื่อที่จะได้มองเห็นรอบ ๆ แสงสว่างค่อย ๆ สว่างขึ้นทีละนิด พอทั้งห้องเริ่มสว่างก็เกิดเสียงดัง ปัง!! พร้อมกับประตูทางเข้าปิดสนิท เหมือนว่าตอนนี้เธอถูกขังอยู่ในห้องนี้แล้ว...ชั่วขณะที่ปิงปิงสำรวจ ห้องนี้ที่มีขนาดกว้างพอสมควร แต่พอสำรวจจนทั่วก็ทำให้หัวใจของเธอกระตุกวูบ เพราะว่าห้องนี้เหมือนกับลานกว้างในฝันของเธอนั่นเอง ลานกว้างที่มีแท่นบูชา... ถ้าให้เดาคงเป็นสถานที่ที่เทพธิดาอักษรจบชีวิตลงแน่นอน ปิงปิงเดินเข้าไปที่แท่นบูชาที่มีดอกเหมยกุยสีแดงขึ้นอยู่เต็มและกำลังเบ่งบานชูช่อสวยงาม เธอค่อย ๆ เอามือลูบไล้ตามพื้นของแท่น สัมผัสดูเรื่อย ๆ สายตาก็สำรวจสิ่งของที่วางบนแท่นบูชา มีตะเกียงแก้ววางอยู่... ถัดมาเป็นหนังสือเล่มสีแดง... สิ่งสุดท้ายคือกริชโบราณแบบที่แทงเข้าไปในหัวใจของธิดาอักษร แบบเดียวกันกับท

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 45

    บทที่ 45หลังจากได้รับคำตอบรับจากผู้อาวุโสตระกูลจ้าวแล้ว จ้าวหลิวหยางเลยพาทุกคนมาที่ตระกูลหลัก ปิงปิงเดินเข้าบ้านไปพร้อมกับทุกคน ส่วนคนติดตามหรือคนสนิทต้องรออยู่นอกบ้านเพราะไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าไปข้างใน ตอนแรกเธอไม่ได้มีอาการกลัวแต่อย่างใด แต่พอมาอยู่ท่ามกลางสายตาของคนตระกูลจ้าวหลายสิบคน จึงทำให้เธอรู้สึกเกร็งอยู่บ้างปิงปิงทำความเคารพผู้อาวุโสทุกท่านตามที่พ่อจ้าวแนะนำจนครบทุกคน ตอนนี้มีคนตระกูลจ้าวหลายคนที่สนใจรอดูผลทดสอบว่าจะออกมาเป็นแบบไหนยังไงบ้าง... ปู่ทวดเรียกเธอให้เข้าไปยืนบริเวณตรงกลางซึ่งมีผู้อาวุโสนั่งล้อมรอบเป็นวงกลม"จ้าวปิงปิง... มันคือพิธีที่สืบทอดมาตั้งแต่บรรพบุรุษ ไม่ต้องกลัว มันไม่มีอะไรเลย""ปู่ทวดคะ... ให้ทุกคนอยู่ด้วยได้ไหมคะ" ปิงปิงอยากให้พ่อ พี่ชายหาน และเล่อเล่ออยู่ด้วย มันจะทำให้เธออุ่นใจมากกว่าอยู่คนเดียว"ตอนนี้อยู่ได้... แต่ถ้าผ่านการทดสอบ ต้องเข้าไปในห้องลับนั้นเพียงคนเดียว... มันคือความเชื่อและคำทำนายที่ส่งต่อให้แก่ผู้นำตระกูล""ปู่ทวดเล่าให้ฟังได้ไหมคะ""เดี๋ยวก็รู้... ลูกหลานตระกูลจ้าวล้วนเชื่อและทำตามมาตลอดตั้งแต่อดีตจนถึงตอนนี้""ปู่ขอถามปิงปิงหน่อยได

  • ตัวเอกพวกนั้นช่างแสนร้ายกาจ   บทที่ 44

    บทที่ 44ปิงปิงได้อ่านหนังสือเล่มแดงของพี่ชายหานแล้ว เธอคิดว่ามันต้องมีหนังสืออีกเล่มหรือสองเล่มแน่ ๆ เพราะมันเหมือนยังไม่จบ ปิงปิงได้บอกเล่าเรื่องราวต่าง ๆ ที่เกิดขึ้นกับตัวเธอให้พี่ชายหานได้ฟังทั้งหมด ไม่มีปิดบังสักเรื่อง ถึงมันจะดูเหลือเชื่อ แต่พี่ชายหานก็เชื่อเธอ เพราะเขาก็ได้เข้าไปที่ห้องหนังสือเช่นเดียวกันกับเธอ...หนังสือเล่มนั้นมันเหมือนเป็นเรื่องราวบันทึกคล้าย ๆ เล่มของเธอ หนังสือบอกไว้ว่า... ก่อนที่ธิดาอักษรจะยอมเป็นเครื่องสังเวยให้จอมมาร เธอได้แบ่งดวงจิตออกเป็นร้อย ๆ ดวงเพื่อส่งไปจุติตามโลกหนังสือต่าง ๆ ที่ธิดาอักษรสร้างขึ้น หนังสือต่าง ๆ ที่ว่านี้ก็เปรียบเสมือนอีกโลกหนึ่ง มิติหนึ่งที่ต่างเวลาและต่างสถานที่... เพื่อที่จะไม่ได้ดวงจิตถูกทำลายไปทั้งหมด... เหลือไว้เพียงดวงจิตเดียวในโลกนี้ซึ่งต้องใช้สังเวยให้กับจอมมาร... แต่เรื่องที่น่าสนใจมันอยู่ตรงที่ เหมือนธิดาอักษรจะมีคนคอยช่วย นั่นคือ ธิดาบุปผา ที่มาช่วยก่อนที่ดวงจิตจะแตกสลายจากการสละญาณบารมีทั้งหมด โดยได้เก็บเศษเสี้ยวดวงจิตใส่ตะเกียงแก้วและส่งให้กับตระกูลที่เทพมังกรจะถือกำเนิด พร้อมกับบอกว่า... ธิดาอักษรจะหวนคืน..."คิดออก

Galugarin at basahin ang magagandang nobela
Libreng basahin ang magagandang nobela sa GoodNovel app. I-download ang mga librong gusto mo at basahin kahit saan at anumang oras.
Libreng basahin ang mga aklat sa app
I-scan ang code para mabasa sa App
DMCA.com Protection Status