บทที่ 9 นักสืบปิงปิง
ปิงปิงได้ยินก็กลอกตามองบน จากขี้เหร่อยู่แล้ว ตอนนี้มีคำว่าอ้วนห้อยติดตามมาด้วย แล้วชาตินี้จะสวยเหมือนคนอื่นไหม... "บีบทำไม" ปิงปิงหันมากระซิบเล่อเล่อที่อยู่ ๆ ก็บีบก้นเธอในเวลานี้ "ยัยขี้เหร่! เธอแอบไปกินซาลาเปาร้านประจำแล้วไม่บอกฉันใช่ไหม! " เล่อเล่อได้ยินที่พี่จุนหานเรียกน้องอ้วนปิงปิง เธอก็ต้องจับก้นพิสูจน์ และเธอคิดว่าเพื่อนเธอต้องแอบไปกินของอร่อยตอนที่เธอไม่อยู่แน่ ๆ โป๊ก! ปิงปิงถวายกำปั้นใส่หัวเล่อเล่อทันทีพร้อมกับถลึงตาใส่อีกด้วย จากนั้นเธอก็เลิกสนใจยัยเห็นแก่กินแล้วทำตามแผนที่เธอวางไว้ เธอส่งยิ้มทะเล้นให้พี่จุนหานพร้อมกับยักคิ้วให้อีกด้วย จะเรียกอะไรเธอก็ไม่สน ขอแค่ได้ข้อมูลมาก็พอ "ปิงปิงมาขอบคุณพี่" ปิงปิงพูดเสียงดังเพราะเขากับเธออยู่ห่างกันพอสมควร แล้วดูเหมือนจะมีคนอื่น ๆ ยืนขวางไม่ให้เธอเข้าใกล้ "หึ! กล้าดี" จุนหานพูดจบ เขาก็ส่งสัญญาณให้คนของเขาหลีกทางให้เด็กอ้วน ปิงปิงเดินเข้าไปหาพี่จุนหานด้วยท่าทางที่ไม่ได้กลัวเลยสักนิด แต่ใครจะไปรู้ว่าใจเธอเต้นแทบทะลุออกมา ไม่ใช่เพราะตื่นเต้นหรอกนะแต่เป็นเพราะเธอกลัว ไม่ได้กลัวธรรมดานะ กลัวมากที่สุด! เธออาศัยความใจกล้าและหน้าด้านเดินเข้าไปเพื่อหาข้อมูลโดยเฉพาะ "ปิงปิงขอถามอะไรพี่ได้ไหมคะ" ปิงปิงพยายามทำตัวให้น่ารักที่สุด เผื่อพี่เขาจะเมตตาและสงสาร "..." พี่เขาไม่ตอบแต่ชำเลืองมองเธอพร้อมเลิกคิ้วขึ้น ปิงปิงเลยเดาว่าเขาอนุญาตให้เธอถามได้ "พี่รู้จักฝาแฝดที่เป็นพี่ของปิงปิงใช่ไหม" พอถามออกไป เธอก็แอบมองดูว่าพี่จุนหานแสดงอาการอะไรยังไงไหม หงุดหงิดหรือเปล่าแต่ว่าไม่มี เขายังมองเธอและมีสีหน้าเรียบเฉย เธอก็คิดเข้าข้างตัวเองว่า... เขาอนุญาตให้เธอถามต่อได้ ปิงปิงขยับเข้าไปใกล้ ๆ และถามคำถามเรื่อย ๆ โดยมีเล่อเล่อช่วยถาม ถึงเขาไม่ตอบอะไร แต่พวกเธอก็ตีเนียนชวนคุยชวนถามเรื่อย ๆ มือข้างซ้ายก็ค่อย ๆ ยื่นไปแตะพี่จุนหานโดยไม่ให้เขารู้ตัว แต่แค่ยื่นออกเท่านั้นแหละ เขาก็ปัดมือเธอออกทันที "ไม่ไม่! ปิงเหมือนเห็นอะไรติดที่แขนพี่ มา ๆ เดี๋ยวปิงปิงเอาออกให้" ตีหน้ามึนเก่งที่สุดก็ปิงปิงนี่แหละค่ะ พอเธอแตะข้างซ้ายเสร็จก็เปลี่ยนเป็นฝั่งขวาเพื่อดูเหตุการณ์ พร้อมกับส่งยิ้มกว้างจนตาหยีให้กับพี่จุนหานที่ยืนนิ่งมองเหมือนรำคาญเธอ... แต่เธอไม่สน... รำคาญไปเหอะ... "พูดมากนะน้องอ้วน" "พี่ช่วยปิงปิงได้ไหม พี่ดูนี่ให้หน่อย รู้จักใครบ้างไหม... " ปิงปิงหยิบสมุดอีกเล่มที่เธอจดรายชื่อแยกไว้และยื่นให้พี่เขาดู เขาเหลือบตามองแค่แป๊บเดียว ไม่รู้ว่าเห็นหรือไม่เห็น เธอก็พยายามยื่นเข้าไปใกล้ ๆ "พี่ก็ดูให้ปิงปิงหน่อย... ปิงปิงจะได้เลิกก่อกวนพี่" เล่อเล่อรีบช่วยทันที ที่บอกเพราะกลัวพี่เขารำคาญแล้วจับพวกเธอโยนออกไปจะทำยังไง "ใช่ ๆ ดูหน่อย... นะนะ" ปิงปิงพยายามยิ้มให้น่ารักที่สุดแล้วส่งตาวิ้งๆ ให้ด้วย เผื่อเขาจะนึกเอ็นดูเธอขึ้นมาบ้าง "พี่เธอน่าจะรู้จักดี" จุนหานตอบกลับเสียงเรียบ "ใครบ้าง บอกได้ไหมแล้ว แต่ละคนเป็นยังไงบอกหน่อย" ปิงปิงรัวคำถามทันที ในเมื่อรู้จักแล้วก็ต้องพอรู้บ้างล่ะ "ไปถามพี่เธอโน่น กลับไปได้แล้ว" "แลกกัน... พี่ให้ข้อมูล ปิงปิงจะยอมทำตามคำสั่งพี่... ตกลงไหม" เธอรีบยื่นข้อเสนอทันที อย่างน้อยพี่จุนหานก็เป็นคนกว้างขวางในโรงเรียน และจากที่ใช้เมื่อซ้ายแตะดูเหตุการณ์ จริง ๆ เขาก็ไม่ได้เลวกับทุกคน เลวแค่กับบางคนเท่านั้น หวังว่าหนึ่งในนั้นที่เขาทำเลวใส่จะไม่ใช่ปิงปิงคนนี้นะ! โป๊ก! เล่อเล่อผู้ยืนฟังยัยเพื่อนที่คิดอะไรโง่ ๆ เลยอดเตือนสติสักทีไม่ได้ "ยัยโง่! ปิงปิง ถ้าเขาสั่งเธอทำเรื่องไม่ดีล่ะ" เล่อเล่อรีบเข้าไปกระซิบถาม "ก็ไม่ทำไง... " ปิงปิงยักไหล่ตอบอย่างไม่สนใจว่าคนที่ยืนอยู่ใกล้ ๆ จะได้ยิน "ได้! พรุ่งนี้ค่อยมาเอา กลับไปได้แล้ว" จุนหานดึงสมุดโน้ตของเด็กอ้วนมาเก็บไว้แล้วรีบไล่กลับบ้านทันที "ตกลง! ขอบคุณพี่มาก พรุ่งนี้เจอกัน! " ปิงปิงรับปากทันที หวังว่ามือซ้ายของเธอจะไม่ทำให้เธอผิดหวังนะ สองสาวรีบเดินกลับบ้านทันที ถ้าได้ข้อมูลจากพี่จุนหาน แสดงว่าวันนี้วันเดียว เธอจะได้ข้อมูลของคนที่มีรายชื่อในหนังสือเล่มนั้นเกือบครบ แต่ที่น่าเสียดายคือ เธอได้อ่านแค่เล่มแรก "ยังดีที่เธอแยกสมุดโน้ต... ไม่อย่างนั้น ถ้าพี่จุนหานเห็นชื่อตัวเองขึ้นมา ฉันไม่อยากจะคิด" เล่อเล่อพูดและยังทำท่าขนลุกขนพอง "นี่ใคร! ปิงปิงเชียวนะ" ปิงปิงเชิดหน้ายืดอกแล้วเอานิ้วโป้งชี้เข้าหาตัวเองเพื่อให้เพื่อนรู้ว่าเธอสุดยอดมาก! "ไม่ใช่ว่าข้อแลกเปลี่ยนคือให้เธอเป็นทาสเขาล่ะ" เล่อเล่อยังห่วงเรื่องนี้อยู่ ถ้ายัยบ๊องนี่บ้าขึ้นมามันจะยุ่ง "ก็ไม่เอาและไม่ทำ" ปิงปิงยังคงตอบตามปกติ "ยัยบ้า! ไม่ทำเดี๋ยวก็โดนลากไปกระทืบหรอก แล้วไม่อยากได้ข้อมูลหรือไง ฮะ! " เล่อเล่อพูดเสียงดังจนคนเดินผ่านไปมาหันมามองสองสาวที่เหมือนกำลังจะตีกันเอง "เอา! ก็หาจากที่อื่นไง... ที่ไหนทำให้เดือดร้อนจะไปเอาทำไม ถ้าเขาสั่งให้ทำในสิ่งที่ไม่ชอบ ฉันก็ไม่เอาข้อมูลจากเขา ไม่จำเป็นที่ฉันต้องทำตามที่เขาบอก ข้อแลกเปลี่ยนถือว่าล้มเลิก" "เออ... ก็จริง นึกว่าหัวกระแทกแล้วจะโง่" เล่อเล่อสบายใจขึ้นมาหน่อย ถึงจะกลัวพี่จุนหาน แต่อีกไม่นานพวกพี่ก็เรียนจบแล้ว เขาคงไม่มารังควานเด็กแบบพวกเธอหรอก ปิงปิงเดินคิดไปเรื่อย ๆ ก็แอบมองเพื่อนสนิทไปด้วย ใครจะโง่หาข้อมูลจากทางเดียว ต้องหาหลาย ๆ ทาง ถึงมันจะเหนื่อยก็ยังดีกว่าอยู่เฉย ๆ รอความตาย พอถึงหน้าบ้านก็เจอกับพี่สาวที่กำลังจะเดินออกไปข้างนอก ปิงปิงรีบหลบทันที เพราะเวลานี้พี่สาวเธอจะต้องช่วยแม่ทำกับข้าว เธอเลยต้องแอบตามไปดู ตอนนี้ใครทำอะไรแปลก ๆ หรือทำตัวผิดปกติ เธอก็สงสัยหมดแหละ ยิ่งเกี่ยวข้องกับคนในครอบครัว เธอยิ่งต้องรู้! .................................................... ฉายาใหม่ ปิงปิงร้อยอาชีพ ยังไม่ถึง 10 ตอน ปิงปิงทำไปหลายอย่างเลย....ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า