บทที่ 6 เพื่อนปิงปิง
ปิงปิงโดนครูสั่งให้ยืนหน้าห้องเรียนเป็นการทำโทษ และตอนพักกลางวันให้เข้าไปช่วยงานครู ตอนที่เธอยืนอยู่หน้าห้องก็ค่อย ๆ เอาหัวชะโงกหน้าดูตรงหน้าต่างห้องเรียนเพื่อมองหาเพื่อนสนิทของเธอ แต่ก็ไม่เห็น เพื่อนของเธอบอกว่าจะไปเยี่ยมญาติแค่ 3 วัน วันนี้ก็น่าจะมาเรียนได้แล้ว แต่เดี๋ยวนะ! เธอเห็นเพื่อนเธอแล้ว กำลังคลานเข้ามา คงมาสายเหมือนเธอ แต่เล่อเล่อมาสายกว่า
"เย่วเล่อ! จะหลบครูหรือยังไง! ไปยืนกับเพื่อนเธอเดี๋ยวนี้! "
ปิงปิงคิดว่าคุณครูเหมือนมีเครื่องตรวจจับนักเรียนมาสาย แต่พอรู้ว่าเพื่อนสนิทก็โดนทำโทษด้วยกัน จึงทำให้ปิงปิงมีความสุขขึ้นมาทันที
"ปิงปิง เธอวิ่งลงบันไดอีกแล้วใช่ไหม"
เย่วเล่อรู้จักเพื่อนของเธอดี เพราะเล่นกันมาตั้งแต่จำความได้
"ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว... ฉันอยากรู้ว่าเธอรู้จักคนพวกนี้ไหม"
ปิงปิงหยิบสมุดส่งให้เพื่อนแล้วขยิบตาเป็นสัญลักษณ์ที่รู้กันแค่สองคน เพราะถ้าครูจับได้จะได้บอกว่าคุยกันเรื่องเรียน
"ถามถูกคนแล้ว เล่อเล่อคือผู้รอบรู้เรื่องผู้คน" เล่อเล่อรีบยืดอกพูดด้วยความภูมิใจ
เล่อเล่อค่อย ๆ ไล่อ่านทีละชื่อแล้วก็เกาหัวแกรก ๆ
"หัวเธอกระแทกพื้นแรงมากหรือเปล่า นี่มันชื่อเธอกับพี่ ๆ ของเธอ ไม่รู้ก็บ้าแล้ว! "
"ไม่ใช่ไม่ใช่... ชื่ออื่นสิ ถ้ารู้ก็เขียนไว้ให้ด้วยว่าคนนั้นเป็นใคร"
"พอรู้จัก บางคนก็เรียนที่เดียวกับเรานี่แหละ เป็นพวกรุ่นพี่ และมีโรงเรียนตรงข้ามเราด้วย" เล่อเล่อกระซิบบอก
เล่อเล่อเป็นผู้รอบรู้จริง ๆ ปิงปิงขอนับถือ...
"กระซิบกระซาบอะไรกัน มาสายยังไม่สำนึกอีก มัวแต่คุยกันอยู่นั่นแหละ"
"เปล่าค่ะคุณครู หนูแค่คุยเรื่องเรียน นี่ไงคะสมุดของหนู" ปิงปิงรีบบอกพร้อมกับดึงสมุดจากมือเพื่อนและโบกให้คุณครูเห็น
"ใช่ค่ะ เมื่อวานเราไม่ได้มาเรียนกัน เลยคุยกันเรื่องเรียนค่ะ" เล่อเล่อก็รีบยืนยันให้ครูเชื่อพวกเธอ
"เข้าไปนั่งที่แล้วไปหาหัวหน้าชั้น ตามส่งงานให้เรียบร้อยด้วย"
"ค่ะครู"
ช่วงพักกลางวัน ปิงปิงเอาสมุดบันทึกออกมาดู แล้วค่อย ๆ เขียนรายละเอียดของแต่ละบุคคลตามที่เล่อเล่อบอกจนเสร็จ
"เออ ปิงปิง เธอเขียนรายชื่อนั่นทำไม อยากรู้จักหรือว่า... แอบชอบเหรอ" เล่อเล่อรีบถามเพื่อนทันทีที่คิดได้
"เคยได้ยินเรื่องกลั่นแกล้งในโรงเรียนหรือเปล่า ฉันอยากรู้ว่าคนพวกนี้เป็นคนร้ายไหม"
ปิงปิงไม่ได้บอกเรื่องจริงทั้งหมด แต่เรื่องกลั่นแกล้งกันในโรงเรียนมันมีอยู่จริง และพวกเธอก็เคยเห็นมาแล้วด้วย
"เคยสิ ก็ฉันกับเธอไงที่ไปแกล้งคนอื่น"
โป๊ก! ปิงปิงเคาะหัวเพื่อนไปหนึ่งที
"เจ็บนะปิงปิง! "
"ก็เคาะให้เจ็บ"
"เออ... บอกมาว่าเธอจะทำอะไร"
"ก็จะตามดูคนพวกนี้ไง ถ้าคนพวกนี้แกล้งพี่สาวฉันล่ะ" ปิงปิงหาข้ออ้าง
"เออจริง อาจอิจฉาที่พี่สาวเธอสวยแล้วลากไปตบในห้องน้ำอะไรแบบนี้ เราต้องหาตัวคนร้ายให้ได้! " เล่อเล่อเห็นด้วย
"แล้วแบบนี้จะมีคนอิจฉาฉันไหมเล่อเล่อ อิจฉาจนมาฆ่าอะไรแบบนี้" ปิงปิงทำท่าขนลุกขนพอง
"เธอไม่ได้สวยแบบพี่อิงอิง! ใครมันจะมาทำอะไร แล้วอีกอย่าง มีแต่เธอที่จะไปฆ่าคนอื่น ยัยบ๊อง! "
"ฉันไม่สวยจริง ๆ เหรอ" เธอมีพี่สาวสวย พี่ชายหล่อ มีแต่คนบอกแบบนี้ทั้งนั้น แล้วเธอจะไม่สวยเลยเหรอ...
"ไม่สวยเหมือนพี่อิงอิง เธอขาวมากเกินไป ตาก็กลมโต ขนตาก็ยาวจนน่าสงสารหนังตาที่ต้องแบกรับน้ำหนักขนตา คิ้วก็ดำ ปากก็นิดเดียวแล้วสีมันแดงด้วย ปากเเค่นี้ เธอยัดของกินเข้าไปได้ยังไงเยอะแยะ แก้มก็ป่อง ๆ แถมมีรอยบุ๋มเวลายิ้ม เธอตัวเตี้ยอีก ง่าย ๆ เลย เธอไม่สวย เธอกับฉันเหมือนกัน เราไม่สวยถึงได้เป็นเพื่อนกันไง! "
"ก็จริง ไม่มีใครชมฉันสวยเลย มีแต่บอกน่ารักเหมือนตุ๊กตา แล้วคิดดู ตุ๊กตามันน่ากลัวน่าสยองมากเลยนะ"
เล่อเล่อเห็นด้วย พวกเธอเคยเห็นตุ๊กตาแล้ว มันน่ากลัวมากกว่าน่ารักอีก
"ไม่คุยเรื่องนี้แล้ว ตอนนี้ว่าง เราไปแอบดูคนพวกนี้ไหม" เล่อเล่อเอานิ้วจิ้มไปที่สมุด
"เราจะหาเจอได้ที่ไหน" ปิงปิงโน้มหน้าเข้าไปใกล้เล่อเล่อ
"ตามมา... "
ทั้งสองลัดเลาะกันไปด้านหลังโรงเรียน พอเดินไปทางไหนก็มีแต่คนมอง ปิงปิงสงสัยเลยก้มมองตัวเองว่ามีอะไรผิดปกติไหม หรือว่ามีอะไรติดหน้าเธอ ทำไมพวกรุ่นพี่ถึงพากันมองพวกเธอขนาดนี้
"เล่อเล่อมองหน้าฉัน มีอะไรผิดปกติไหม ทำไมพี่ ๆ เขามองหน้าแปลก ๆ "
"ไหน ไม่เห็นมีอะไรก็ขี้เหร่เหมือนเดิม มันเป็นเขตเด็กโต ถึงโรงเรียนไม่ห้ามแต่รุ่นเราก็ไม่ค่อยมีใครเข้ามา อย่าคิดมาก เขาคงไม่เคยเห็นคนขี้เหร่นั่นแหละ เร็ว ๆ ตามมา เดี๋ยวหมดเวลาพัก"
"จะไปไหนกัน"
ปิงปิงกับเล่อเล่อยืนนิ่ง ไม่กล้าขยับขาก้าวต่อ
"นี่มันน้อง ๆ อาคารต้น มาทำอะไรอาคารปลาย"
"พาเพื่อนมาหาพี่ชายค่ะ" เล่อเล่อรีบหันหน้ามาตอบรุ่นพี่ และค่อย ๆ ดึงปิงปิงให้หันมาเหมือนกัน
ปิงปิงเงยหน้ามองพวกรุ่นพี่ เธอค่อย ๆ ไล่สายตามองทีละคนแต่ไม่ได้พูดอะไร แค่จำหน้าไว้เท่านั้น
"พี่ชายชื่ออะไร" พี่คนหนึ่งถามขึ้น มองดูก็รู้ว่าสูงมาก เพราะเขาเดินเข้ามาใกล้จนเธอต้องแหงนหน้ามองเขาเลยทีเดียว
"พี่ชื่อ... วิ่งเร็วปิงปิง" เล่อเล่อพูดได้แค่นั้นก็บอกให้เพื่อนวิ่งทันที
ส่วนปิงปิงผู้ชำนาญด้านการหนี เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้บ่อย แค่เล่อเล่อส่งสัญญาณบอกก็ผลักพี่ที่อยู่ใกล้ ๆ แล้ววิ่งหนีทันที
สองสาววิ่งกันไปคนละทิศคนละทาง แต่ไม่ต้องกลัวว่าจะหลงเพราะเธอสองคนเป็นมืออาชีพ มองตารู้ใจ ไปเจอกันที่นัดหมายได้เลย...
.......................................................
*แจ้งทุกคนนะคะ*
โรงเรียนที่ปิงปิงเรียนเป็นเหมือนโรงเรียนมัธยมนะคะ จะมี ม.ต้น ม.ปลาย แต่ในนิยายเรียกชั้นต้นและชั้นปลาย ตึกเรียนก็เรียกตึกต้น ตึกปลายนะคะ
อีกเรื่องที่อาจจะสงสัย ปิงปิงกับเล่อเล่ออายุ 14 ทำให้ไม่รู้ว่าน่ารักเป็นแบบไหน ไม่ใช่ว่าทั้งสองคนไม่รู้ว่าน่ารักเป็นแบบไหน แต่เพราะปิงปิงถูกเปรียบเทียบว่าน่ารักเหมือนตุ๊กตา พอมีคำว่าเหมือนตุ๊กตา จึงทำให้เธอเข้าใจว่ามันขี้เหร่ไม่น่ารักมันน่าเกลียด เพราะสมัยนั้นตุ๊กตาไม่ได้น่ารักเหมือนยุคปัจจุบันของเรา และปิงปิงก็เคยเห็นแต่ตุ๊กตาที่มันน่ากลัวและขี้เหร่ ยัยน้องเลยเข้าใจว่าตัวเองขี้เหร่ค่ะ
ตอนพิเศษ"โอ๊ย!! ไม่ไหวแล้ว!! " ปิงปิงเริ่มโวยวายเสียงดัง เนื่องจากตอนนี้เธอเริ่มเจ็บท้องคลอดแล้ว"ฟู่ ๆ ๆ หายใจลึก ๆ นะ" จุนหานกำลังพยายามปลอบใจเพื่อให้ภรรยาใจเย็นลงตอนนี้เจ้าหน้าที่กำลังเตรียมห้องคลอด เนื่องจากท้องนี้ต้องใช้หมอต่างชาติมาทำการผ่าตัดคลอด พยาบาลได้ฉีดยาเพื่อทำให้ภรรยาของเขาหลับแล้ว แต่ภรรยาของเขายังไม่หลับและยังไม่สลบ ไม่รู้เพราะยายังไม่ออกฤทธิ์หรือเพราะความเจ็บปวดที่มากเกินไป ทำให้ภรรยาของเขาเริ่มเสียงดังโวยวาย"ไม่เอาแล้ว มันเจ็บ ฮือ ๆ ๆ ๆ " ปิงปิงเริ่มร้องไห้และเริ่มโวยวายเสียงดัง จุนหานจึงต้องคอยกอดและปลอบใจ พร้อมกับส่งสายตากดดันเจ้าหน้าที่ทั้งหลายที่ทำงานไม่ทันใจเขาเอาเสียเลย จุนหานค่อย ๆ ลูบหลังคนที่เจ็บท้องเพื่อปลอบโยนจนคนตัวเล็กที่บ่นพึมพำเสียงเบาลงเรื่อย ๆ จนเงียบไป หมอไม่อนุญาตให้เขาเข้าไปข้างในห้องผ่าตัด แต่จุนหานยืนยันที่จะเข้าไป เขาไม่มีทางปล่อยให้ภรรยาคลอดเพียงลำพังแน่นอน หมอที่ต้องรีบทำการผ่าคลอดก็ต้องยอมและทำงานด้วยอาการเกร็ง เพราะจุนหานมองอย่างไม่ละสายตา ทำให้หมอต้องรีบผ่าคลอดให้สำเร็จ ไม่อย่างนั้นต้องตกอยู่ในสถานการณ์กดดันจากญาติคนไข้เป็นเวลานานแน่น
บทที่ 51 บทส่งท้ายวันนี้คือวันแต่งงานของปิงปิง เธอต้องตื่นแต่เช้าเพื่อเตรียมตัว ต้องบอกว่าแทบไม่ได้นอนทั้งคืน เพราะเธอต้องดูแลว่าที่เจ้าบ่าวของเธอที่ตอนนี้อาการหนักพอสมควร เหตุเกิดจากเขาอีกนั่นแหละ เธอเลยไม่ค่อยสงสารเขาสักเท่าไร"ไหวไหมคะ" ปิงปิงถามแม่ฟางเหนียงที่เข้ามาดูว่าเธอแต่งตัวเสร็จหรือยัง เพราะทางบ้านหยางจ้างช่างแต่งหน้าแต่งตัวไว้ทั้งหมด เธอมีหน้าที่แค่ยืนนิ่ง ๆ หรือนั่งนิ่ง ๆ ให้เขาแต่งตัวให้เท่านั้นเอง"ก็ยังอาเจียนออกมาตลอด" ฟางเหนียงพูดแล้วก็อดหัวเราะไม่ได้ที่เห็นคนนิ่ง ๆ แบบจุนหานมีอาการแบบนี้"ปิงปิงไม่ค่อยสงสารเขาเท่าไรหรอกค่ะ" เธอพูดตามที่คิด"แหม! ยัยขี้เหร่! ใครไม่เป็นไม่รู้หรอกว่ามันทรมานมากแค่ไหน" เล่อเล่อที่นั่งกินผลไม้อยู่รีบออกตัวอย่างแรง เพราะสองคนนี้มีอาการอย่างเดียวกัน"กินเยอะ ๆ นะแม่หมา... " ปิงปิงเอามือลูบท้องนูน ๆ ของเพื่อนที่หมอบอกว่าท้องได้ประมาณสามเดือนแล้ว"ไม่ต้องห่วงเรื่องกินของฉัน... ฉันกำลังสงสัยว่าตกลงจัดพิธีแบบไหนเนี่ย! จะแบบโบราณก็ไม่ใช่ จะแบบต่างชาติก็ไม่ใช่" เล่อเล่อมองดูงานที่ถูกจัดในโรงแรม แขกทุกคนก็นอนกันที่นี่ทั้งหมด"ตอนงานหมั้นเขาตามใจ
บทที่ 50ปิงปิงถูกเคี่ยวกรำทั้งวันทั้งคืนเกือบทั้งอาทิตย์ ไม่ได้ออกจากห้องไปไหน แม้แต่ตอนกินข้าวก็ยังต้องอยู่แต่ในห้อง บทลงโทษนี้ทำให้เธอลุกไม่ไหว แถมในช่วงวันแรก ๆ เธอระบมไปทั้งตัว เหมือนจะมีไข้ ไอ้คนใจร้ายก็ให้เธอกินยา แต่แทนที่จะได้นอนพัก เขากลับทำให้เธอเหมือนโดนดูดพลังออกไปจนหมด พี่ชายหานต้องเป็นคนอุ้มเธอไปอาบน้ำและแต่งตัว เขาทำให้เธอแทบทุกอย่าง..."ให้ปิงปิงกลับบ้านได้ไหมคะ" ปิงปิงพูดขึ้นขณะที่กำลังนั่งกินข้าวต้มอยู่"ไม่อยากลุกจากเตียงใช่ไหม" จุนหานที่นั่งอยู่ฝั่งตรงข้ามพูดขึ้น"ปิงปิงไม่ได้ออกจากห้องนี้มาเป็นอาทิตย์แล้วนะคะ พ่อต้องเป็นห่วงแน่นอน เล่อเล่อด้วย ต้องเป็นห่วงแน่ ๆ และที่สำคัญ ปิงปิงต้องไปเรียน""รีบกิน เรื่องพวกนั้นจัดการให้แล้ว""เรื่องไหน... จัดการยังไงคะ" "พ่อจ้าวยังไม่กลับ เล่อเล่ออยู่บ้านคู่หมั้น ส่วนเรื่องวิทยาลัยแจ้งไปแล้วว่าช่วงนี้กำลังเตรียมงานแต่ง เลยไม่ได้เข้าเรียน"จุนหานจัดการทุกอย่างโดยเป็นคนสั่งให้ลูกน้องดำเนินการ ส่วนเรื่องงานแต่ง เขาเป็นคนไปบอกครอบครัวของเขาให้เตรียมจัดงานได้เลย ถ้าอยากอุ้มหลานเร็ว ๆ ให้จัดการทุกอย่างให้เรียบร้อย เพราะช่วงนี้เขาไม่
บทที่ 49ปิงปิงยังคงนอนนิ่งเหมือนกับเล่อเล่อที่ยังหลับสนิท หมอเข้ามาตรวจร่างกายจนละเอียดก็ไม่พบว่ามีอะไรผิดปกติ คนอื่น ๆ ของตระกูลจ้าวต่างก็ออกไปส่งแขก เนื่องจากหมดเวลาเลี้ยงรับรองแล้ว พวกเขายังทำทุกอย่างตามปกติ แม้แต่คนสามคนที่หายไปก็ไม่มีคนสงสัยเลยหลังจากส่งแขกแล้วก็เหลือแค่คนตระกูลจ้าวกับหยางจุนหานที่กำลังรอฟังเรื่องราวที่เขาไม่รู้ เขาเลยต้องปล่อยให้ปิงปิงนอนอยู่ในห้องรับรองกับเล่อเล่อสองคน แล้วสั่งให้คนเฝ้าไว้ ถ้าปิงปิงตื่นแล้วให้รีบแจ้งเขาทันที ก่อนที่เขาและจ้าวหลิวหยางจะพากันเดินไปที่ห้องโถงของตระกูลจ้าว"คงมีแค่ไม่กี่คนที่รู้เรื่องนี้" หลิวหยางพูดขึ้นระหว่างที่เดินไป"บางทีก็แปลกใจ... แทนที่จะบอกพวกเรา ทำไมถึงไม่บอก ชอบทำอะไรที่เสี่ยงอันตราย หากตื่นขึ้นมา ผมขออนุญาตลงโทษปิงปิงในการทำผิดครั้งนี้ด้วยนะครับ" จุนหานรีบบอกทันที"ได้!! ครั้งนี้มันเสี่ยงถึงชีวิต ลงโทษได้เลย พ่อจะไม่อยู่บ้าน... เพราะถ้าอยู่คงทำใจไม่ได้" หลิวหยางยอมให้จุนหานลงโทษลูกสาวเขา ต่อไปจะได้ไม่ต้องทำอะไรเสี่ยงแบบนี้อีก เขาคิดว่าจุนหานคงไม่กล้าทำอะไรรุนแรงถึงขั้นซ้อมลูกสาวเขาแน่นอน แต่จะลงโทษแบบไหน เขาก็ไม่อยากร
บทที่ 48เวลาเดียวกันนั้น จ้าวหลิวหยางได้พาคนทั้งสามเดินลงไปที่ห้องใต้ดิน ตอนนี้ห้องนี้ไม่ใช่ห้องต้องห้ามแล้ว ตั้งแต่ที่ลูกสาวของเขาเข้าไป เขาหวังว่าหนึ่งในสามคนนี้จะเป็นคนที่พวกเขาตามหา"นายท่านครับ" เสียงดังออกมาจากทางเดินอีกมุมหนึ่ง ก่อนที่จ้าวหลิวหยางจะให้คนทั้งสามเดินเข้าไปในห้องลับนั้นก่อน"เข้าไปกันได้เลย... สำรวจได้ตามสบาย" หลิวหยางหันไปบอกทั้งสามคน"ถ้าอย่างนั้นพวกผมเข้าไปก่อนนะครับ" เติ้งคุนเป็นคนบอกกับหลิวหยางทันที เขาก็อยากเห็นว่าในนั้นมีอะไรบ้าง โอกาสดี ๆ แบบนี้ไม่ได้มีง่าย ๆ ถึงจะรู้ว่ามันเป็นแผน แต่เขาก็ยังอยากจะเข้าไปดูห้องนั้นอยู่ดีทั้งสามคนเดินเข้าไปที่ห้องลับ โดยมีจ้าวหลิวหยางยืนมองคนทั้งสาม แต่ที่แปลกคือกู้ฟางเซียนไม่สามารถเข้าไปในนั้นได้ พอสองคนนั้นเข้าไปแล้ว ประตูก็ปิดสนิททันที กู้ฟางเซียนพยายามเปิดแล้วก็เปิดไม่ได้ จึงหันไปทางจ้าวหลิวหยางอย่างสงสัย"มันเปิดไม่ได้" กู้ฟางเซียนพูดขึ้นทันที"ไปเอากุญแจมา" หลิวหยางหันไปบอกคนสนิท... ซึ่งก็รู้อยู่แล้วว่าต้องไปตามหยางจุนหานมาด้วยแต่ที่แปลกไปกว่านั้นคือประตูมันล็อก เหมือนตอนที่ลูกสาวเขาเข้าไปครั้งแรก ซึ่งมันเริ่มไม่เป็
บทที่ 47หลังจากได้พูดคุยวางแผนกันแล้ว ทุกคนก็กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ เพราะต้องรอยืนยันก่อนว่าคนคนนั้นคือใคร ซึ่งหน้าที่นั้นตกเป็นของพี่ชายหาน ตอนนี้เธอมีหน้าที่เรียน ช่วยงานเล่อเล่อ และไปทำงานกับพี่ชายหาน ส่วนมากยังเหมือนเดิม แต่ที่แตกต่างจากเดิมคือ พ่อจ้าวกับพี่ชายหานไม่ปล่อยให้เธออยู่คนเดียว จะต้องมีใครคนใดคนหนึ่งอยู่กับเธอตลอด เพราะพวกเขาคิดว่ายังไงคนคนนั้นก็พยายามเข้าหาเธออย่างแน่นอน โดยเฉพาะพี่ชายหานที่ให้คนมาคอยตามดูแลเธอตลอดเวลาจนเธอกระดิกตัวไปไหนไม่ได้เลย แต่ถ้าจะไปไหน พวกเขาจะไปเป็นเพื่อน จากตอนแรกที่รู้สึกอึดอัด หลัง ๆ เธอเริ่มชินแล้ว..."พูดถึงนี่ก็ผ่านมาหลายเดือนแล้วนะ... พี่ชายหานยังไม่รู้ว่าเป็นคนไหนอีกเหรอ" เล่อเล่อที่กำลังนั่งวาดแบบเครื่องประดับเพื่อจะส่งโรงงานผลิตเงยหน้าหันมาคุยกับเพื่อน"รู้แล้ว... แต่ต้องรอเวลาและต้องใจเย็น ๆ " ปิงปิงบอกไปตามความจริง ตอนนี้แค่รอเวลาเท่านั้น รอให้เหยื่อมาติดเบ็ด มองเหมือนพวกเขาปล่อยไปนานเกินไป แต่จริง ๆ พวกเขาแค่อยากให้ทุกอย่างออกมาดีและเสียหายน้อยที่สุดเลยไม่รีบร้อน เหยื่อจะได้หลงเชื่อว่าทางเราไม่ระแคะระคายเรื่องพวกนี้ พอทางนั้นชะล่า