Home / วาย / ต้องมนต์เมีย / บทที่ ๓ ครั้งที่หนึ่ง

Share

บทที่ ๓ ครั้งที่หนึ่ง

last update Last Updated: 2025-08-21 20:00:55

CW: มีการกล่าวถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ, เลือด, ความรุนแรง, เนื้อหาล่อแหลมทางเพศ, ภาวะซึมเศร้า และการอัตวินิบากกรม

**โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างสูง**


กุมภ์ต้องการบอกสามีคนปัจจุบันมาตลอด ว่าคืนแต่งงานนั้น ‘ไม่ใช่ครั้งแรก’ ของเขา แม้ว่านั่นจะเป็นร่างกายอันบริสุทธิ์ก็ตาม ตลอดช่วงที่คบหากันเขาคิดมาเสมอ ว่าการได้มาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในชาติที่สามจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ตัวเองจะได้พบเจอกับใบหน้าอุบาทว์นี่สะท้อนอยู่บนกระจก

เขามีอาการต่อต้านหลังเพศสัมพันธ์กับพ่อครูคนนั้น ซึ่งพยาบาลอย่างเขาทราบดีว่ามันหมายถึงอะไร การอาเจียน อาการครั่นเนื้อครั่นตัวพะอืดพะอม และความร้อนผ่าวราวถูกไฟลนเมื่อถูกสัมผัสจากผู้ชายคนอื่น มันหมายความว่าลึก ๆ ร่างกายตอบสนองตามความทรงจำที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายเป็น

แม้มันอาจเลือนรางไปบ้าง แต่ในชาติแรกของเขารวมถึงอีกสองชีวิตที่เคยใช้ เขามีจุดเริ่มต้นมาจากตระกูลเศรษฐีผู้ร่ำรวย มีมารดาผู้จิตใจดี และบิดาซึ่งคอยประคบประหงมตัวเขาซึ่งเป็นลูกชายเพียงคนเดียวราวกับไข่ในหิน ไม่ว่าต้องการอะไร หากเป็นสิ่งที่สามารถซื้อได้ด้วยเงินตรา เขาจะได้มันมาถือครองทั้งหมด รวมไปถึงการมีอาจารย์ส่วนตัวคอยสอนทั้งเรื่องภายในครัวเรือน ยันวิชาเฉพาะในโรงเรียนที่ยากจะมีโอกาสนัก หากเกิดเป็นเพศสุคนธ์ เมื่อมีความรู้ติดตัวมากขึ้น มันจึงราวกับเป็นการเปิดโลกทัศน์

ตัวเขาในวัย ๑๓ ปี อ้อนบิดาเพื่อขอไปช่วยงานพยาบาลซึ่งเป็นอาชีพในฝันหลังได้ลองศึกษาตำราพื้นฐานด้วยตนเอง แม้งานที่มีโอกาสได้ทำจะเป็นการเย็บมุมเอกสาร หรือการช่วยทำความสะอาดเล็ก ๆ น้อย ๆ ก็ตาม แต่เมื่อได้ลองไปหาประสบการณ์จริง เขาจึงมั่นใจว่าอยากทำอาชีพนี้เพื่อเป็นความภาคภูมิใจของตนเองและพ่อแม่

การเรียนการสอนมีด้วยกันทั้งหมดรวมการฝึกงานแล้วสิ้น ๒ ปีครึ่ง แม้ลำบากไปสักนิดในการขอร้องผู้ปกครอง แต่สุดท้ายด้วยความตั้งใจอันแรงกล้าของเด็กวัยละอ่อน เขาจึงได้เข้าเรียนในโรงเรียนเฉพาะทาง ซึ่งเต็มไปด้วยเพศที่สูงกว่าและตัวเขาก็เป็นสุคนธ์เพียงคนเดียวในสถานศึกษา

ทว่านอกจากบิดามารดาจะต้องอนุญาตแล้ว คู่หมั้นของเขาเองก็ต้องเห็นด้วยกับสิ่งนี้ผ่านการลงนามในเอกสารเช่นกัน ทางโรงเรียนจึงจะยอมรับให้สุคนธ์เข้าไปศึกษาได้ เนื่องจากโดยทั่วไป วัยนี้สุคนธ์ล้วนต่างต้องออกเรือนแต่งสามีกันหมด หากมีการตั้งครรภ์ขึ้นมาขณะเรียนคงไม่เหมาะสมทั้งภาคทฤษฎีและภาคปฏิบัติ

“ไม่ว่ากุมภ์จะทำอะไร พี่พร้อมสนับสนุนเสมอ”

น้ำเสียงอันอบอุ่นราวกับไอน้ำที่ลอยฟุ้งในอากาศนั้นเขายังจำได้ไม่ลืมเลือน ผู้ชายคนนั้นเอ่ยมันพร้อมใบหน้าเปื้อนยิ้มเล็ก ๆ พลางจับมือถือแขนขึ้นไปจุมพิตอย่างแผ่วเบาคล้ายกับตัวเขากำลังอยู่ในเทพนิยาย

“พี่จิระใจดีกับน้องเสมอเลย”

“แน่นอนสิ กุมภ์ของพี่ทั้งที”

เสียงใส ๆ ที่ตอบกลับชายคนรักพร้อมรอยยิ้มกว้างที่แทบจะฉีกถึงหู หากย้อนกลับไปได้เขาจะไม่ให้คนอย่างมันมาแตะต้องตัวเด็ดขาด

เด็กไร้เดียงสาไม่เคยรู้เลยว่าภายใต้ภาพลักษณ์ของชายสุภาพคนนั้นจะมีแต่ความโลภอันไม่มีที่สิ้นสุด เพราะภายหลังเมื่อเขาร่ำเรียนไปได้เพียงปีเดียว จู่ ๆ อาจารย์ที่สอนก็มาบอกว่าตัวเขาถูกถอดชื่อออกจากสถาบัน เนื่องจากมีหนึ่งในผู้ปกครองมายื่นคำร้อง และคนคนนั้นคือคนที่บอกว่าพร้อมจะสนับสนุนเขาไม่ว่าความต้องการของเขาจะเป็นสิ่งใด

ในวันเดียวกันนั้นเอง เขาพาตัวเองไปที่ห้องธุรการเพื่อสอบถามความแน่ใจอีกครั้ง แต่ทุกอย่างไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เขาไม่สามารถเข้าเรียนกับเพื่อน ๆ ได้อีกต่อไป จำต้องทิ้งวิชาที่พยายามร่ำเรียนมาเพื่อทำตามความต้องการของคนนอก

เขาขังตัวเองอยู่ในห้องราวกับเป็นเด็กไม่รู้จักโต ปฏิเสธการเข้าหาจากทุกคนและใช้ชีวิตจากอาหารที่แม่บ้านนำขึ้นมาวางให้หน้าห้อง ยิ่งรู้ว่าพ่อกับแม่เห็นดีเห็นงามกับจิระ ตัวเขาก็หมดความไว้เนื้อเชื่อใจไปจนสิ้น

ไม่ใช่ว่าเราสัญญากันแล้วหรอกหรือ ไม่ใช่ว่าจะสนับสนุนตัวเขาหรือ ทำไมถึงได้มากลับคำแบบนี้ ทว่าตัวเขาในตอนนั้นช่างไร้หัวคิดจนน่าโมโหจริง ๆ คิดเหรอว่าตัวเองที่ถูกคู่หมั้นมองว่าเป็นเครื่องผลิตลูกราคาแพงจะได้เป็นอิสระจากค่านิยมของสังคม

“พี่ขอโทษที่ไม่ได้บอกเรานะครับ”

ถ้าปากมากนักก็อย่าดีแต่พูดแก้ตัว

“แต่พี่เห็นเราเรียนหนัก”

แล้วมันไปหนักบนหัวพ่อคุณหรืออย่างไร

“เป็นแบบนี้ต่อไปมันจะไม่ดีต่อสุขภาพร่างกายเรานะครับ”

ตัวเขายังไม่มีปัญหากับร่างกายตัวเองเลย แล้วคนอย่างคุณมีสิทธิ์อะไรมากำหนดชีวิตคนอื่นตามใจชอบ

“พี่...เป็นห่วงเรานะครับ”

ทว่าตัวเขาซึ่งยังไม่ประสีประสา โดนคำหวานปลอมเปลือกล้างสมองเสียจนหลงเชื่อไปทุกสิ่งอย่างที่ชายคนนั้นพูด น้อมรับกอดนั้นเข้ามาทั้งที่ความฝันทั้งชีวิตของตัวเองถูกพังไม่มีชิ้นดี

ด้วยเหตุอันไม่อาจให้อภัยนั้น เขาจึงขอเลื่อนการแต่งงานออกไป อันเป็นที่หัวเสียของทั้งผู้ใหญ่ฝั่งนั้นและฝั่งเขาเป็นอย่างมาก จากบิดาที่เคยจิตใจดีเริ่มกล่าวคำกดดันย้ำเตือนถึงจุดประสงค์ของร่างกายนี้

‘กูเลี้ยงมึงมาโตป่านนี้ ทำไมถึงไม่รู้หน้าที่ของตัวเองอีก’

‘ที่ผ่านมาไม่ว่าอะไรกูก็หามาให้ อยากไปเรียนข้างนอกกูก็ให้ไป แล้วยังจะต้องการอะไรอีก’

จะทำกูขายขี้หน้าไปถึงไหน... แสดงว่าตัวเขาที่ถูกเลี้ยงดูมาให้มีรูปร่างหน้าตาดีตามสมัยนิยม ถูกฝึกมารยาท และมีคนมาป้อนความรู้ให้ถึงที่บ้านเพียงเพื่อเป็นเครื่องประดับชิ้นหนึ่งของครอบครัวเองหรอกหรือ

จนเมื่อความอดทนนั้นหมดลง ค่ำคืนที่ฟ้าฝนโหมกระหน่ำในวัย ๑๗ แรก ได้มีเสียงเดินผิดแผกขึ้นมาบนเรือน พร้อมกับกุญแจที่สามารถเปิดห้องชั้นในสุดซึ่งเป็นห้องนอนของเขาได้ ยามเมื่อสายฟ้าผ่าลงมา ลูกชายเพียงคนเดียวคนนั้นซึ่งกำลังอ่านหนังสือเตรียมสอบพยาบาลครั้งถัดไปก็ได้เห็นร่างของใครบางคนเดินตรงเข้ามาราวกับมีจุดประสงค์บางอย่าง

บานประตูนั้นได้ปิดลงพร้อมกับเสียงกรีดร้องที่ไม่มีใครได้ยิน หรือบางทีทุกคนในเรือนนั้นต่างรู้กันดีว่าในคืนนั้นตัวเขาจะถูกกระทำสิ่งใดจากคู่หมั้นซึ่งเมามายบ้าง

รอยพันธะบริเวณหลังคอนั้นชุ่มโชกไปด้วยเลือดและบวมปูดโปน อันเนื่องมาจากร่างกายอันไม่สมยอม คราบน้ำเหนียวพร้อมเลือดแห้งสีน้ำตาลเกรอะกรังเต็มช่วงล่างไหลนองไม่ต่างจากน้ำตาบนใบหน้า ตัวเขาในคืนนั้นร้องขอความปรานีจนเสียงแหบแห้งแต่ไม่เป็นผล ทั้งเนื้อทั้งตัวมีแต่รอยช้ำจ้ำแดงจากการตีตราจองและการขัดขืนตลอดราตรี

หลังจากนั้นตัวเขาจำไม่ได้แล้วว่าตัวเองทำอะไรลงไปหลังกลับมามีสติ ทว่าจำได้อีกก็คงจะเป็นตอนถูกส่งตัวมายังบ้านสามีหลังพิธีแต่งงานพร้อมหน้าแก้มที่บวมช้ำจากแรงตบของบิดาผู้ให้กำเนิดนั่น จึงทำให้แม่สามีไม่พอใจใบหน้าของเขาซึ่งได้รอยแผลมา แม้อีกไม่กี่สัปดาห์มันจะหายกลับมาเป็นปกติก็ตาม

ภายในคฤหาสน์หลังนั้นตัวเขาโดนแม่สามีโขกสับราวกับเป็นคนใช้ แต่เพราะทำครัวไม่เป็นจึงโดนไล่ให้มาปัดกวาดเช็ดถูบ้านทั้งหลังเพียงคนเดียวแทน เพราะเจ้าหล่อนบอกว่าสมัยเธอเป็นสะใภ้ก็ต้องดูแลทุกอย่างในบ้านเช่นกัน

ความต้องการของผู้หญิงคนนั้นไม่มีที่สิ้นสุด นอกจากบังคับเขาตื่นเช้ามาเช็ดทำความสะอาดซักผ้ารีดผ้าจรดค่ำแล้ว ยังสั่งให้มีบุตรกับลูกชายตัวเอง แต่การที่เขานอนไม่พอติดต่อกันเป็นเวลานานทำให้ร่างกายไม่ตอบรับความต้องการอันเกินตัวนั้นทั้งอาหารมื้อหนึ่งที่เขากินได้นั้นมีปริมาณน้อยนิด เนื่องมาจากสามีคนนั้นไม่ชอบคนอ้วน จึงฝากแม่ตัวเองมากำชับไม่ให้เขาทานข้าวเกินมื้อละ ๑ ทัพพี สั่งให้เดินยกของไปมาติดต่อกันเป็นเวลานาน ประกอบกับการพักผ่อนที่น้อยเป็นทุนเดิมจึงทำให้ตลอดหลายเดือนมานี้ ไม่มีสัญญาณการตั้งครรภ์เลยแม้แต่น้อย

“กุมภ์ ไม่เป็นไรนะครับ เรามาพยายามด้วยกันนะ”

“อือ...”

“อย่าน้อยใจไปเลยนะครับ แม่พี่เขาก็เป็นแบบนี้ ต่อให้จะตำหนิเรา จะดุเรา แต่เขาก็รักเราไม่ต่างจากพี่หรอก”

เพราะมีคำหวานเคลือบยาขมป้อนในทุกคืน เขาจึงยอมทนอยู่ในขุมนรกมาจนตั้งท้องได้ โดยทำเป็นเมินการกระทำอันสวนทางของสามี ที่ไม่เคยถามความยินยอมภรรยายามร่วมเตียงเลยสักครั้ง

เขาพยายามทำตามสิ่งที่บ้านหลังนั้นคาดหวังราวกับคนบ้าเพื่อให้ได้รับการยอมรับ แม้ว่าจะตั้งท้องมาจนเข้าเดือนที่ห้าแล้วก็ตาม แต่ก็ยังคงนอนไม่พอถึงกระนั้นก็ยังดีที่คุณนายอนุญาตให้ทานอาหารเพิ่มได้อีกนิดหน่อย

“พี่ นั่นใครเหรอจ๊ะ?”

กุมภ์ปลดเสื้อกันเปื้อน อุ้มท้องหอบสารร่างกระเซอะกระเซิงจากการทำงานบ้านไปทักทายสามีที่พึ่งกลับจากการคุยธุรกิจ ก่อนจะเห็นว่าวันนี้มีผู้ติดตามหูกระรอกมาด้วยหนึ่งคน

“ผมนภัคครับ เป็นเลขาของคุณจิระศักดิ์ ยินดีที่ได้พบครับนายหญิง”

“สะ...สวัสดีจ้ะ เดินมาคงเหนื่อยแย่ เดี๋ยวไปเตรียมน้ำมาให้นะจ๊ะ”

แม้ว่าตัวเขาจะตั้งครรภ์มาจนป่านนี้ แต่สามีกลับไม่คิดจะจ้างแม่บ้านสักคนเข้ามาช่วยแบ่งเบาภาระ พอเลือกใจดีสู้เสือเอาเรื่องนี้ไปคุยกับแม่สามีกลับได้รับการตอบกลับมาแบบนี้

“จะขี้เกียจตัวเป็นขนไปจนถึงเมื่อไร! ฉันคิดเอาไว้อยู่แล้วว่าได้ลูกคุณหนูมาเป็นสะใภ้แล้วมันจะเรื่องเยอะขนาดนี้!”

“ตะ...แต่ฉันท้องอยู่นะจ๊ะแม่”

“อะไร ใกล้คลอดเสียเมื่อไหร่ ถ้าฉันจ้างพวกรากหญ้ามาแล้วเกิดมันขโมยสมบัติฉันไปจะทำยังไง เอ็งจะรับผิดชอบไหม!?”

“จะ...จ้ะ ฉันขอโทษจ้ะแม่ จะไม่ถามอีกแล้วจ้ะ”

“เหอะ! ให้มันรู้หน้าที่เสียบ้าง ไม่ใช่สร้างแต่เรื่องให้ฉันหัวเสีย”

ไม่ใช่ว่าตัวเขาไม่พยายามติดต่อกับบิดามารดาเลย แต่เพราะงานที่รัดตัว ตกกลางคืนมาก็เหนื่อยจนไม่มีแรงเขียน คราวจะหาปากกากับกระดาษก็ยากลำบากเพราะช่วงหลังมานี้สามีไม่ชอบให้เข้าไปยุ่งวุ่นวายในห้องทำงานส่วนตัว พร้อมบอกจะทำความสะอาดเอง จึงไม่มีโอกาสได้ขอเครื่องเขียนมาส่งจดหมายไปถึงที่บ้าน กลับกันทางนั้นเองก็ไม่เคยมาเยี่ยมเยือนเขาเลยนับตั้งแต่แต่งงาน สงสัยตอนนั้นคงตัดพ่อตัดลูก ข้อหาทำเสียหน้าไปแล้วกระมัง

นอกจากนี้ในชาติแรกยังมีอีกสิ่งหนึ่งที่เขาจำได้ มันเป็นช่วงเวลาเช้าตรู่หลังตัวเขาและแม่สามีกลับมาจากการทำบุญที่วัด กลิ่นน้ำหอมนั้นโชยมาจากชั้นสอง เป็นกลิ่นที่สามีใช้บ่อยหลังเขาตั้งครรภ์ ซึ่งมันไม่ดีต่อเด็กในท้องแน่นอนแต่เขาที่ไม่อยากมีปัญหาจึงทำได้แต่เงียบไว้ไม่ให้ครอบครัวมีปากเสียง

เขาค่อย ๆ พยุงท้องเจ็ดเดือนขึ้นไปข้างบนอย่างระมัดระวัง เพื่อจะไปเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมลงมาช่วยล้างผักเตรียมให้แม่สามีเข้าครัว กระนั้นด้วยความสงสัยใคร่รู้จากบานประตูห้องทำงานที่แง้มอยู่ เขาจึงแอบมองเข้าไปข้างใน เพราะเมื่อคืนสามีไม่ได้กลับมานอนที่ห้อง จึงเป็นห่วงเกรงว่าเจ้าตัวจะป่วยไข้

เมื่อมองกลับไป มันช่างเป็นความคิดที่น่าขันยิ่งกว่ามุกตลก เพราะเขารู้ดีว่าหลังจากนั้นจะเกิดอะไรขึ้น

ตัวเขาที่ตั้งท้องโวยวายราวกับเสียสติ เปิดประตูเดินเข้าไปจิกหัวเลขานุการส่วนตัวของสามีที่กำลังร่วมเพศกับสามีตามกฎหมายของตนเองอยู่บนเบาะหนังก่อนจะเหวี่ยงร่างนั้นลงกับพื้นอย่างไม่ไว้หน้า เข้าตบตีสามีทั้งน้ำตาเรียกร้องถามหาความเห็นอกเห็นใจต่อลูกในครรภ์ แต่กับสามีที่พาชู้มาเอาถึงในบ้าน ทั้งยังหน้าด้านหน้าทนพามาทำความรู้จักกับภรรยาตัวเอง มันไม่ใช่คนที่จะกลับมามีสามัญสำนึกกันได้ง่าย ๆ

“พี่ทำแบบนี้ได้ยังไง! ฮึก...ทำลายอนาคตของน้องแล้วยังจะ...ฮือ น้องอุตส่าห์เชื่อใจพี่ แล้วพี่ทำแบบนี้กับฉันได้ยังไง!!? ฮึก...ฮือ”

เรื่องราวในอดีตประเดประดังเข้ามา ร่างกายร้อนระอุไปด้วยไฟแค้น เมื่อนั้นภาพสามีที่นั่งนิ่งอย่างไม่รู้สึกรู้สาจึงได้ดับวูบลง และกลายเป็นภาพของเพดานโรงพยาบาลแห่งหนึ่งแทน

ตัวเขาแท้งเนื่องจากล้มหลังไปกระแทกกับขอบโต๊ะ มิหนำซ้ำยังได้แผลลึกจนส่งผลต่อการเดิน แม่ผัวที่ยืนอยู่ข้างเตียงก็เอาแต่บ่น ว่าเขาไม่หัดรู้จักควบคุมอารมณ์ตัวเองจนต้องเสียลูกไป แล้วมันอย่างไรล่ะ ในเมื่อต่อให้เด็กคนนั้นเกิดมา ก็ต้องมารู้ความจริงพ่อมีชู้กับเลขานุการตัวเองในระหว่างที่แม่ตั้งท้อง มันคงเสริมพัฒนาการเด็กได้ดีน่าดูเชียว

ผ่านไปสักพักผู้หญิงแก่คนนั้นก็หุบปากสีแดงสดลงได้เสียที ก่อนจะด่าทิ้งท้ายและพาลูกชายออกไปด้วยกัน ทิ้งเขาเอาไว้กับสายน้ำเกลือและห้องนอนอันเงียบสงัดยามบ่าย

บนเตียงนอน ณ เวลานั้นคงเป็นความเศร้าหมองที่สุดนับตั้งแต่ใช้ชีวิตมาในฐานะกุมภีล์ ลูกชายหัวแก้วหัวแหวนของพ่อค้าทองผู้มีฐานะร่ำรวย ทว่าเขาโดนด่าว่าอะไรบ้างนะ...

ไร้ประโยชน์...ไร้ความสามารถ...แค่สามีคนเดียวยังรั้งไว้กับตัวไม่ได้...และอีกต่าง ๆ นานาที่เขาหน่ายจะจดจำมัน

แสงแดดยามบ่ายลอดผ่านผ้าม่านสีขาวบางเบาที่ปล่อยชายพลิ้วไหวไปตามแรงลมจากหน้าต่างเปิดแง้ม มันกระทบลงบนผนังสีไข่ไก่ของห้องนอนเดี่ยวในโรงพยาบาล ทิ้งเงาสีทองจางๆ ไว้บนพื้นกระเบื้องลายเก่า เสียงเข็มนาฬิกาบนผนังเดินอย่างเป็นจังหวะ ขับกล่อมความเงียบงันของบ่ายวันนั้นให้เต็มไปด้วยความสงบ

เตียงเหล็กสีขาวตั้งอยู่กลางห้อง ถูกปูด้วยผ้าปูที่นอนสะอาดสะอ้าน มุมผ้าพับอย่างเรียบร้อยตามระเบียบ ประดับด้วยหมอนใบใหญ่ที่รองรับศีรษะของผู้ป่วยโดยที่พวกมันมีรอยยับเล็กน้อยหลังการใช้งานจากคนไข้เจ้าของห้อง

สายลมอ่อนจากหน้าต่าง พัดพากลิ่นแดดและกลิ่นใบไม้จากสวนหย่อมนอกตึกเข้ามา จักจั่นร้องระงมเป็นเสียงพื้นหลังของฤดูร้อน สอดประสานกับฝีเท้าแผ่วเบาของพยาบาลที่เดินผ่านระเบียงหน้าห้องและพื้นเบื้องล่าง

แววตาสีหม่นจ้องมองจากหน้าต่างชั้นสามลงไปยังลานดินชั้นหนึ่งด้วยความว่างเปล่า เรียวนิ้วผอมแห้งแตะวงกบหน้าต่างด้วยความอ่อนแรงและความหวัง พลางบอกตัวเองในใจว่าอีกไม่ช้าความขาดแคลนนี้จะหายเป็นปลิดทิ้ง

บานประตูห้องได้ถูกเปิดออกอีกครั้งโดยคณะแพทย์พยาบาล ทว่าภายในห้องกลับว่างเปล่าไร้ซึ่งวี่แววคนไข้ เหลือเพียงเข็มน้ำเกลือเปื้อนเลือดอยู่ถูกถอดออกไปได้ไม่นาน ทันใดนั้นเสียงร้องแหลมของกลุ่มคนโดยรอบก็พลันดังขึ้นมาจากชั้นหนึ่ง

ไม่รู้เป็นโชคดีของเขาหรือเปล่าที่ได้เห็นใบหน้าตกตะลึงของสองแม่ลูกนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่หน้าประตูโรงพยาบาล มันคงเป็นการจากลาที่สมบูรณ์แบบ หากสองคนนั้นเห็นรอยยิ้มที่เขาส่งไปให้ในวาระสุดท้าย

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ต้องมนต์เมีย   บทที่ ๓ ครั้งที่หนึ่ง

    CW: มีการกล่าวถึงเรื่องเหนือธรรมชาติ, เลือด, ความรุนแรง, เนื้อหาล่อแหลมทางเพศ, ภาวะซึมเศร้า และการอัตวินิบากกรม**โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านเป็นอย่างสูง**กุมภ์ต้องการบอกสามีคนปัจจุบันมาตลอด ว่าคืนแต่งงานนั้น ‘ไม่ใช่ครั้งแรก’ ของเขา แม้ว่านั่นจะเป็นร่างกายอันบริสุทธิ์ก็ตาม ตลอดช่วงที่คบหากันเขาคิดมาเสมอ ว่าการได้มาเริ่มต้นใหม่อีกครั้งในชาติที่สามจะเป็นครั้งสุดท้ายที่ตัวเองจะได้พบเจอกับใบหน้าอุบาทว์นี่สะท้อนอยู่บนกระจกเขามีอาการต่อต้านหลังเพศสัมพันธ์กับพ่อครูคนนั้น ซึ่งพยาบาลอย่างเขาทราบดีว่ามันหมายถึงอะไร การอาเจียน อาการครั่นเนื้อครั่นตัวพะอืดพะอม และความร้อนผ่าวราวถูกไฟลนเมื่อถูกสัมผัสจากผู้ชายคนอื่น มันหมายความว่าลึก ๆ ร่างกายตอบสนองตามความทรงจำที่มี ไม่ใช่สิ่งที่ร่างกายเป็นแม้มันอาจเลือนรางไปบ้าง แต่ในชาต

  • ต้องมนต์เมีย   บทที่ ๒ อกหัก เมียไม่รัก

    “กุมภ์ พี่ว่าเราไปหาหมอดีไหม?”“ฉันไม่ได้ป่วย ฉันจะไปทำไม”ผ่านได้ราวสามสัปดาห์หลังคืนแต่งงาน พวกเขาสองคนจึงได้ย้ายมานอนห้องเดียวกันในฐานะสามีภรรยาหลังจากแยกห้องกันมาร่วมปี ทว่าเพราะน้องกุมภ์ดูมีอาการแปลกหูแปลกตานับตั้งแต่เช้าวันรุ่งขึ้นของพิธี ต่อให้เขาจะพยายามถามไถ่ หรือชวนกันไปโรงอนามัยใกล้บ้านเพื่อสืบเสาะหาสาเหตุ เจ้าน้องก็ไม่ยอมไปโดยอ้างว่าตนเองปกติสบายดี ไม่ได้เจ็บไข้อันใดอย่างที่เขากล่าวหาทว่าหากมันเป็นเช่นนั้นจริง เหตุไฉนเจ้าน้องจึงหมางเมินสามีอย่างพี่ได้เล่า ไม่ว่าจะขอเข้าไปช่วยดูแลประคบประหงมก็ไม่ยอมให้ทายา บอกจะทำเอง ไล่ให้เขาไปทำพิธีดูแลลูกดวง หรือตอนจะกินจะนอนคุยได้แค่เรื่องผิวเผินซึ่งไม่ต่างจากตอนจีบแรก ๆ เลยสักนิดทั้งที่เรามีแหวนคู่ลงยาประดับนิ้วนางข้างซ้ายแล้วแท้ ๆหรือว่าเมียเขาจะโดนของก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้เพราะตำหนักนี้มนตร์คุ้มกันปัดเป่าแน่นหนา แบบที่ต่อให้คนโดนของมา เพียงแค่เดินเข้าเขตเรือนพวกของมนตร์ดำบางส่วนก็จะหลุดออกไปเองเสียด้วยซ้ำสินครุ่นคิดหนักหลังลูกดวงซึ่งเป็นพ่อค้ากล่าวขอบคุณและเดินออกไปจากห้องพิธี ร่างใหญ่เผยใบหูและหาง

  • ต้องมนต์เมีย   บทที่ ๑ อย่าเศร้าไปไอ้หนุ่ม

    เสียงเดินของนางฟ้าชุดขาวพาดผ่านบทสนทนาระหว่างคนไข้และเหล่าญาติ เจ้าของผมสั้นสลวยพยักหน้ารับคนไข้ตัวน้อยบนรถเข็นซึ่งมาเข้ารับรักษาอย่างเป็นมิตร แล้วจึงย่างก้าวตรงไปยังโต๊ะจำแนกเอกสารหน้าศูนย์ผิวหนัง ทักทายเหล่าพี่พยาบาลซึ่งมาเปลี่ยนกะด้วยรอยยิ้มที่เปี่ยมไปด้วยความสุขุม ทว่ากลับมีสิ่งแปลกปลอมพร้อมด้วยหูหางสีขาวดำฟูฟ่องแฝงตัวมาในหมู่ชนด้วยหนึ่งอัตรา นั่นจึงทำเอาบุรุษพยาบาลเหนื่อยใจอยู่ภายใน‘กุมภ์ คนไข้คนนั้นเขามาหาอีกแล้วนะ’‘อือ รู้แล้ว ปล่อยเขาไปก่อน’เจ้าของชื่อกระซิบตอบพลางวางมือจากเอกสารในตะกร้า ผินใบหน้าลงมามองเพื่อนในแผนกอย่างรู้กัน เพราะหลังจากที่เจ้าตัวมาเข้ารับการรักษา เพียงไม่นานก็กลับมาพร้อมกับดอกไม้ช่อโตอยู่เสมอ แม้เคยโดนเขาตำหนิไปรอบหนึ่งว่ามันเป็นพฤติกรรมอันรบกวนการทำงานของเจ้าหน้าที่ แต่ก็เหมือนฟังหูซ้ายทะลุหูขวาและเลือกกะเกณฑ์มาในเวลาที่คนไข้น้อยราวกับรู้ล่วงหน้า ทั้งที่โรงพยาบาลเป็นที่ที่เอาแน่เอานอนเรื่องเวลาไม่ได้‘แต่ถ้าปล่อยแล้วเขายังไม่ไปไหน เดี๋ยวจะโดนหัวหน้าดุเอานะ’‘เอมบอกเขาไปก็ได้ว่าเป็นเพ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status