Share

บทที่ 8

last update Last Updated: 2025-09-12 13:28:31

บทที่ 8

“อื้อ…!” เธอครางประท้วงพร้อมกับรัวกำปั้นทุบหลังเขา แต่ดูเหมือนแรงอันน้อยนิดของเธอก็ไม่ได้ทำให้เขาสะทกสะท้านแต่อย่างใด ตรงข้ามกลับทำให้เขาจู่โจมเธอหนักหน่วงมากขึ้น และก่อนที่เธอจะพ่ายแพ้ให้กับสัมผัสเย้ายวนที่เขาจงใจหลอกล่อให้เธอหลงเพริดอีกครั้ง สติที่เหลืออยู่น้อยนิดก็สั่งให้ขาข้างหนึ่งของเธอยกขึ้น แน่นอนว่าเป้าหมายก็คือจุดยุทธศาสตร์ที่เขาหวงแหนนั่นเอง

           “อื้อ…!” เธอฮึดฮัดขัดใจด้วยความหงุดหงิด เมื่ออีกฝ่ายดูจะรู้ทัน ดันขาทั้งสองข้างของเธอให้แยกออกจากกันแล้วแทรกตัวเข้ามาอยู่ระหว่างขาทั้งสองข้างนั้นแทน เธอพยายามจะขยับหนี แต่เขากลับยิ่งทิ้งน้ำหนักลงมากดทับไว้ กระทั่งเนื้อตัวของพวกเขาแนบชิดจนแทบไร้ช่องว่าง

           ตอนนี้มีเพียงสองมือเท่านั้นที่ยังคงขยับประทุษร้ายร่างกายเขาได้ ซึ่งดูเหมือนจะอ่อนเปลี้ยลงไปทุกที กระทั่งมันสิ้นฤทธิ์ลงไปในที่สุด เมื่อถูกคนตัวโตกว่าจับสองมือตรึงไว้กับข้างฝา ก่อนจะยอมผละจากริมฝีปากอวบอิ่ม เพื่อเลื่อนลงมาซุกไซร้ซอกคอหอมกรุ่นอย่างย่ามใจ อา…! กลิ่นนี้อีกแล้ว กลิ่นหอมๆ จากตัวเธอกำลังปลุกความกำหนัดในตัวเขาให้พลุ่งพล่าน และก่อนที่มันจะปะทุจนไม่สามารถควบคุมได้ เขาจึงจำเป็นต้องหยุดทุกอย่างเอาไว้แค่นี้

           “…” เขาผละออกมาจากความหอมกรุ่นตรงหน้าอย่างแสนเสียดาย ในขณะที่สาวเจ้ายังคงยืนนิ่งด้วยความงงงวย ครั้นพอเลื่อนสายตามาสบกับดวงตาคู่คมที่กำลังมองมาอยู่ก่อนแล้ว สติสัมปชัญญะที่เคยหลุดลอยก็กลับคืนมา

           “คุณ! ไอ้คนเลว” เธอเงื้อมือหมายจะตบหน้าอีกฝ่าย โทษฐานที่บังอาจจูบเธอครั้งแล้วครั้งเล่า

           “ถ้าคุณตบ ผมจะไม่จบแค่จูบ เพราะหน้าผมมีราคามากกว่านั้น ไม่ต้องให้บอกนะว่าคุณต้องจ่ายด้วยอะไร” เขาพูดพลางชำเลืองมองไปที่เตียง ทำเอามือที่เงื้อกลางอากาศถึงกับชะงักค้างอยู่อย่างนั้น ก่อนจะค่อยๆ ลดลงมาในที่สุด แต่ทันทีที่มือข้างนั้นทิ้งลงข้างลำตัว โดยไม่ทันตั้งตัว เขาก็จู่โจมเข้ามาอีก

           “อื้อ…!” เป็นอีกครั้งที่เธอร้องเสียงอู้อี้จากการถูกจู่โจมตะโบมจูบ พร้อมกันนั้นก็พยายามดิ้นขลุกขลักหวังให้ตัวเองหลุดพ้นจากการรุกรานแสนวาบหวิวนี้

           “คนเลว! ไหนคุณบอกว่าไม่ตบก็ไม่จูบไง แล้วคุณมาจูบฉันทำไม” ทันทีที่ถูกปล่อยให้เป็นอิสระ เธอก็โพล่งออกมาด้วยความเดือดดาล แต่สองตาเขียวปั๊ดที่จ้องเขม็งมาอย่างเอาเรื่องกลับไม่ได้ทำให้เขากริ่งเกรงแต่อย่างใด

           “สงสัยคุณจะไม่แตกฉานเรื่องภาษาไทยสินะ ผมบอกว่าถ้าคุณตบ ผมจะไม่จบแค่จูบ แต่ในเมื่อคุณไม่ตบ ผมก็เลยต้องจบที่จูบ” ให้ตายสิ! นี่เธอต้องรู้สึกยังไงกับคำพูดกวนประสาทแต่หน้ากลับยังนิ่งเฉยของเขาเนี่ย ครั้นเมื่อไม่สามารถทำอะไรได้ จึงได้แต่ยืนกำหมัดแน่นอยู่อย่างนั้น กระทั่งใจเย็นลง เธอจึงพยายามจะคุยด้วย

           “แล้วคุณมา…เอ่อ…มาจูบฉันทำไม หรือว่าเกิดติดกับแผนยั่วของฉันขึ้นมา ระวังเถอะ ถ้าขืนคุณยังตอแยฉันไม่เลิก ฉันจะยั่วให้คุณหัวปั่นเลยคอยดู”

           “แล้วถ้าผมบอกว่าใช่ล่ะ ผมติดกับแผนยั่วระดับเด็กอนุบาลของคุณแล้ว แบบนี้คุณยังอยากจะจับผมอยู่รึเปล่า”เขาสาวเท้าเข้าหาด้วยท่าทีคุกคาม ทำให้เธอต้องขยับถอยด้วยความหวาดระแวงราวกับกลัวว่าประวัติศาสตร์จะซ้ำรอย โดนเขาจูบอีก แต่ด้วยความลนลานไม่ทันระวัง ส้นเท้าที่ชนกับขอบเตียง ทำให้เธอเสียหลักจนล้มหงายลงไปบนที่นอน

           “ว้าย!” ให้ตายสิ! อย่างกับฉากพระนางในละคร ติดก็ตรงที่เธอดันเหมือนนางร้ายมากกว่านางเอก ตรงที่ตอนล้มมือดันฉวยคอเสื้อเขาติดมือมาด้วย ภาพที่เห็นตอนนี้เลยกลายเป็นว่าเธอเป็นฝ่ายดึงเขาลงมา ประหนึ่งให้ท่าเชื้อเชิญอย่างที่เขาเคยกล่าวหา

           “หึๆ คุณร้ายกว่าที่ผมคิดนะพริมรตา” เสียงของเขาเรียกสติเธอ ครั้นพอเห็นว่ามือตัวเองอยู่ตรงไหน เธอก็ร้องเสียงหลงทันที

           “เฮ้ย!” เธอรีบสลัดมือออกจากคอเสื้อเขาเร็วๆ

           “เอาล่ะ! ผมจะไม่อ้อมค้อมอีก บอกมาว่าแอบถ่ายคลิปผมไปทำไม” เธอผงะตาโตกับคำถามนี้ที่วกกลับมาอีกครั้ง ครั้นพอจะขยับหนีก็ถูกเขาคร่อมเอาไว้ทั้งตัวจนไม่สามารถขยับไปไหนได้

           “กะๆ ก็บอกไปแล้วไงว่าฉันจะจับคุณ” เธอปดคำโตเสียงสั่นเครืออีกครั้ง

           “ถ้าเชื่อคุณอีก ผมก็โง่เต็มที” ตลอดทางที่นั่งรถมาด้วยกัน เขาพยายามสังเกตท่าทีของเธอ แน่นอนว่าท่าทีของเธอไม่ใช่อาการของคนที่ชื่นชอบจนอยากจะจับเขาทำสามีอย่างที่พูดเลยสักนิด ไม่ใช่แค่ไม่ชอบ แต่คุณเธอยังทำท่าทีประหนึ่งว่ารังเกียจกันนักหนา และมันก็ทำให้เขาอดรนทนไม่ได้จนต้องหาคำตอบ

           “ตอบมาว่าถ่ายทำไม ไม่งั้นผมไม่จบแค่จูบแน่” เขาข่มขู่ด้วยการโน้มใบหน้าลงมาใกล้ ในขณะที่เธอก็รีบยกสองมือขึ้นมาปิดปากราวกับกลัวว่าจะถูกจูบอีก แต่มือนั้นก็ถูกจับตรึงไว้กับที่นอนจนขยับเขยื้อนไม่ได้

           “ตอบมาพริมรตา ไม่งั้นผมจะ…” เขาขู่ด้วยการก้มหน้าลงมาจนปลายจมูกสัมผัสกับแก้มเธอเบาๆ ทำคนถูกหอมแก้มกลายๆ หลับตาปี๋ด้วยความตกใจ หลังจมูกโด่งๆ ของเขากดลงมาหนักๆ และก่อนที่มันจะเลื่อนไปตรงส่วนอื่น เธอก็รีบโพล่งออกมา

           “ถ่ายเอาไว้กระชากหน้ากากคุณ” ถึงแม้ว่าเขาจะยอมผละออกมาจากแก้มนุ่มๆ แต่ก็ใชว่าเธอจะปลอดภัย เมื่อเขายังคงคร่อมเธออยู่อย่างนั้น

           “เพื่อ?” เขาถามพลางไล้ปลายนิ้วไปบนแก้มนุ่มๆ ของเธออย่างคุกคาม ราวกับจะข่มขู่กลายๆ ว่าเธอไม่ควรเล่นลิ้นหรือมีลูกเล่นใดๆ

           “เพื่อไม่ต้องแต่งงานกับคุณไง เพื่อนฉันเขาไม่อยากแต่งงานกับคุณ เขาก็เลยวางแผนส่งฉันมาเพื่อจัดฉากกระชากหน้ากากคุณ”

           “ด้วยการส่งคุณมาอยู่กับผู้ชายสองต่อสองโดยไม่ห่วงความปลอดภัยของคุณเลยเนี่ยนะ เป็นเพื่อนกันประสาอะไรถึงได้…”

           “หยุดนะ อย่ามาว่าเพื่อนฉัน คุณไม่ได้รู้จักเรา คุณไม่มีสิทธิ์มาวิจารณ์ความเป็นเพื่อนของเรา” เธอขึ้นเสียงใส่ด้วยความโกรธกรุ่น แน่นอนว่าในชีวิตเธอมีคนที่รักอยู่แค่ไม่กี่คน และคนที่เธอรักมากก็คือเพื่อนรักทั้งสองคนนั่นเอง

           “แล้วเพื่อนแบบไหนเขาส่งเพื่อนมาเสี่ยงอันตรายแบบนี้บ้าง นอกซะจากว่าเพื่อนคนนั้นจะไม่หวังดีแล้วก็ยัง…”

           “ก็เพราะเขาคิดว่าคุณเป็นเกย์ไง เขาถึงได้กล้าส่งฉันมา” เธอตะโกนใส่หน้าด้วยความเดือดดาล ซึ่งดูเหมือนมันจะได้ผลเมื่อเขาชะงักไปเล็กน้อย ก่อนจะค่อยๆ หันมาจ้องเขม็งที่หน้าเธอ

           “คุณจะบอกว่าเพื่อนคุณคิดว่าผมเป็นเกย์ที่คิดจะมาหลอกแต่งงานบังหน้า ก็เลยคิดจะตลบหลังด้วยการอัดคลิปผมมาประจานว่างั้น” เขาที่จับประเด็นได้ จึงพอจะเดาเรื่องราวได้คร่าวๆ

           “ก็ไม่ได้ประจาน แค่จะทำให้แม่กับยายรู้ความจริง พวกท่านจะได้เลิกบังคับให้เพื่อนฉันแต่งงานกับคุณก็เท่านั้นเอง” เธอบอกเสียงอ่อย

           “แล้วคุณล่ะ…รู้ความจริงรึยัง” จู่ๆ เขาก็โน้มใบหน้าลงมาหาอีก และไอ้สายตาวิบวับเป็นประกายมันก็กำลังทำให้ใจเธอเต้นไม่เป็นจังหวะ

           “คะความจริงอะไร” เสียงเธอเบาหวิวจนแทบไม่ได้ยิน 

Continue to read this book for free
Scan code to download App

Latest chapter

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 81

    บทที่ 81 “แล้วคุณรู้ได้ยังไงคะว่าฉันจะไป” เธอปาดน้ำตาพลางถามด้วยความสงสัย เขาจึงเล่าให้ฟังว่าตอนนั้นที่เขาถูกปลายฟ้าสวมกอดจากทางด้านหลัง ทำให้เขาแกะมือนั้นออก จากนั้นก็หันมาเผชิญหน้ากับปลายฟ้าเพื่อยืนยันให้อีกฝ่ายฟังชัดๆ อีกครั้ง ว่าเขาลืมเรื่องในอดีตไปหมดแล้ว ตอนนี้ในหัวใจเขาก็มีแต่ผู้หญิงที่ชื่อพริมรตาคนเดียวเท่านั้นที่เขารักหมดหัวใจ แต่ก่อนที่เขาจะได้พูด เขาก็ทันได้สังเกตเห็นหลังเธอไวๆ จึงพอจะเดาเหตุการณ์ได้คร่าวๆ “คุณก็เลยมาดักรอฉัน เพราะรู้ว่าฉันจะหนี?” ทันทีที่เขาพยักหน้า เธอก็โผกอดเขาอีกครั้ง พร้อมกับร้องไห้โฮ “ทำไมถึงได้ใจร้ายกับผมนักนะยัยเด็กโง่ สงสัยผมคงต้องหาโซ่มาล่ามคุณไว้ให้เราตัวติดกันตลอดเวลาแล้วมั้ง คุณจะได้หนีผมไปไหนไม่ได้อีก” เขากอดพลางใช้มือลูบหลังอย่างปลอบประโลม “ไม่หนีแล้วค่ะ คราวนี้ถึงคุณไล่ฉันก็ไม่ไป แค่คิดว่าจะไม่ได้เห็นหน้าคุณอีก ใจฉันก็แทบขาด ฉันจะไม่ยอมจากคุณไปไหนอีกเด็ดขาด ฉันรักคุณค่ะ” เธอเงยหน้าก่อนเขย่งเท้าขึ้นไปจุ๊บที่ปากเขาเบาๆ อย่างเอาใจ “ผมเคยบอกคุณแล้วใช่ไหม ว่าถ้ามีอะไรให้พูดกันตรงๆ ถามผมตรงๆ ไ

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 80

    บทที่ 80 “เฮาทนเก็บงูพิษตี้พร้อมจะแว้งกัดเฮาได้ทุกเมื่ออย่างตั๋วบะได้เหมือนกั๋น เฮาบะพร้อมจะเสี่ยง เพราะเฮาบะพร้อมจะเสียคนตี้ฮักตี้สุดไปเพราะตั๋ว ไปซะบัวตอง อยู่ที่โน่นอาจจะบะสุขสบายเต้าตี้นี่ แต่คนตี้นั่นก่อมีน้ำใจ๋ แค่ตั๋วต้องพยายามยะตัวดีๆ ตี้เฮาต้องส่งตั๋วไป เพราะเฮายังหันว่าตั๋วเป๋นน้อง ละไค่หื้อตั๋วประบปรุงตัวซะใหม่ ถ้าบะไค่ลำบากไปเหลือนี่ กลับตัวกลับใจ๋เป็นคนใหม่ เลิกกึ๊ดเลิกขอย ละตั๋วจะพบว่าความสุขอยู่ใกล้ตั๋วแค่เอื้อม (ฉันทนเก็บงูพิษที่พร้อมจะแว้งกัดฉันได้ทุกเมื่ออย่างเธอไม่ได้เหมือนกัน ฉันไม่พร้อมจะเสี่ยง เพราะฉันไม่พร้อมจะเสียคนที่ฉันรักที่สุดไปเพราะเธอ ไปซะบัวตอง อยู่ที่โน่นอาจจะไม่สุขสบายเท่าที่นี่ แต่คนที่นั่นก็มีน้ำใจ แค่เธอต้องพยายามทำตัวดีๆ ที่ฉันต้องส่งเธอไป เพราะฉันยังเห็นว่าเธอเป็นน้อง และอยากให้เธอปรับปรุงตัวซะใหม่ ถ้าไม่อยากลำบากไปมากกว่านี้ กลับตัวกลับใจเป็นคนใหม่ เลิกคิดเลิกอิจฉา แล้วเธอจะพบว่าความสุขอยู่ใกล้เธอแค่เอื้อม” การตัดสินใจเด็ดขาดของเขาทำบัวตองถึงกับหมดแรงทรุดลงกับพื้น ไม่เหลือเค้าคุณหนูผู้เย่อหยิ่งอีกต่อไป “พฤกษ์ฝากจัดการต่อด้วย

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 79

    บทที่ 79 “ยั้งบ้าได้ละบัวตอง ตั๋วก่อฮู้ว่าเฮาบ่ะเกยกึ๊ดจะอั้นกับตั๋ว แต่อู้เรื่องนี้ขึ้นมาก่อดีละ จะได้สะสางเรื่องวันนั้นตี้ตั๋วยะหื้อเมียเฮาเข้าใจ๋ผิดละหนีไป (เลิกบ้าได้แล้วบัวตอง เธอก็รู้ว่าฉันไม่เคยคิดแบบนั้นกับเธอ แต่พูดเรื่องนี้ขึ้นมาก็ดีเหมือนกัน จะได้สะสางเรื่องวันนั้นที่เธอปั้นเรื่องจนเมียฉันเข้าใจผิด แล้วก็หนีไป)” อา…ไม่ใช่แค่บัวตองที่กำลังตื่นตระหนก แม้แต่พริมรตาเองก็กำลังทำหน้าแหย เมื่อเรื่องวันนั้นถูกขุดคุ้ยขึ้นมาให้เธอได้อายอีก “อ้ายอู้เรื่องอะหยัง น้องบะฮู้เรื่อง ก่อบอกละว่าเขาหมู่นี้รวมหัวใส่ความน้อง น้องบะได้ยะ แต่ถ้าอ้ายบะเจื้อ น้องก่อบะมีหยังจะอู้แหม (พี่พูดเรื่องอะไร น้องไม่รู้เรื่อง ก็บอกแล้วว่าคนพวกนี้รวมหัวกันใส่ร้ายน้อง น้องไม่ได้ทำ แต่ในเมื่อพี่ไม่เชื่อ น้องก็ไม่มีอะไรจะพูดอีก)” บัวตองทำท่าจะผละหนีเพื่อเอาตัวรอด แต่กลับถูกใครอีกคนเดินเข้ามาขวางไว้ซะก่อน “จะรีบไปไหนล่ะ มาคุยกันให้รู้เรื่องก่อนสิ จำไม่ได้เหรอว่าเธอกับฉันเรายังมีเรื่องต้องคุยกัน” เป็นปลายฟ้าที่เข้ามาขวาง ที่มาวันนี้ก็เพื่อจะลบล้างตราบาปที่อีกฝ่ายเคยฝากเอาไว้

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 78

    บทที่ 78 “เอ๊ะ! ยะหยังสองคนนั้นบะตวยมาตะฮอดบะเดี่ยว เมินละนานิ หันว่าอยากกิ๋นแต่บะหันฟั่งมา งืดแต๊ (เอ๊ะ! ทำไมสองคนนั้นยังไม่ตามมาอีก นี่ก็นานแล้วนะ เห็นบอกว่าหิวแต่กลับไม่รีบตามมา พิลึกคนจริง) ป้าสายบ่นงึมงำ หลังเห็นว่าพ่อเลี้ยงหนุ่มกับพฤกษ์ยังไม่ตามมา “ปล่อยเขาเถอะค่ะป้า อีกเดี๋ยวก็คงมากันเองนั่นแหละ ป้ามานั่งกินข้าวเป็นเพื่อนหนูดีกว่า นั่งกินคนเดียวแล้วมันเขินๆ เกร็งๆ ยังไงก็ไม่รู้ค่ะ” เธอว่าพลางหันไปมองคำเอื้อยกับคำปองที่เอาแต่ยืนมองเธอด้วยรอยยิ้มแหยๆ “บะต้องไปถือสาสองคนนี้เลยเจ้า มันก่อแค่อยากอยู่ใกล้ๆ อยากฮับใจ๊หนู ไถ่โต๊ดตี้มันเกยยะบะดีกับหนูไว้นาก๊ะ(อย่าไปถือสาสองคนนี้เลยค่ะ มันก็แค่อยากจะอยู่ใกล้ๆ อยากรับใช้หนู ไถ่โทษที่มันเคยทำผิดกับหนูไว้นั่นแหละ)” สองพี่น้องรีบพยักหน้าตามที่ป้าสายพูด “หืม! ไถ่โทษอะไรคะ” เธอเลิกคิ้วทันที “ก่อไถ่โต๊ดตี้วันนั้นมันปล่อยหื้อหนูเข้าใจ๋ผิด ทั้งๆ ตี้มันฮู้ละมันก่อหันว่ากุ๊อย่างเป๋นแผนก๋านของคุณบัวตอง แต่มันก่อยังปล่อยหื้อคุณหนีไป (ก็ไถ่โทษที่วันนั้นมันปล่อยให้หนูเข้าใจผิด ทั้งๆ ที่มันรู้แล้วมั

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 77

    บทที่ 77 “ไปพูดเพราะๆ กับมันทำไม ไม่ได้! ต่อไปห้ามพูดกับมันด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีก ผมไม่อนุญาต” เขาทำท่างอแงราวเด็กๆ จนเธอส่ายหน้าน้อยๆ ในขณะที่พฤกษ์กับทำหน้าแหยกับสีหน้าท่าทางที่ไม่คุ้นเคยของเจ้านาย “ตกลงจะเอายังไงกันแน่คะ ไหนบอกว่าชอบให้ฉันพูดเพราะๆ ไง” นั่นสินะ ก็เขาเคยย้ำนักหนาว่าห้ามเธอพูดคำหยาบ มิหนำซ้ำยังใช้จูบมาขู่เธอด้วย “ใช่! แต่เฉพาะกับผมแค่คนเดียว คนที่มีสิทธิ์ฟังเสียงเพราะๆ ของคุณมีผมแค่คนเดียว” พฤกษ์ถึงกับกลอกตาไปมากับความหวงเมีย ที่หวงแม้กระทั่งเสียงของเมีย“เฮ้อ! ท่าจะอาการหนักแล้วเจ้านายเรา” พฤกษ์บ่นพึมพำเบา แต่มันก็ดังพอจะให้คนข้างหลังได้ยินและหันขวับไปมองตาขวางได้ แต่เพราะเคลียร์เรื่องค้างคากับเธอยังไม่จบ เขาจึงไม่อยากเสียเวลาต่อปากต่อคำกับพฤกษ์อีก “ตกลงว่าคุณจะยอมไปอยู่ที่โน่นกับผมแล้วใช่ไหม” เขาต้องถามเพื่อความแน่ใจ ด้วยกลัวว่าเธอจะหนีกลับมาอีก “เอ่อ…คือฉันไม่รู้ว่าฉันจะทำอะไรได้บ้างถ้าต้องไปอยู่ที่โน่น” “ได้สิ คุณทำได้ทุกอย่างในฐานะ…ภรรยาของผม แต่งงานกันนะครับคนดี” อา…! มันคือการเซอร์ไพรส์ขอแต่งงานแบ

  • ถึงป๋าดุ (ดัน) หนูก็ไหว   บทที่ 76

    “เอ่อ…พวกแกต้องใจเย็นแล้วฟังฉันให้ดีนะ ฉันสบายดี ไม่ได้เป็นอะไรแล้ว ไม่จำเป็นต้องให้พวกแกมาเฝ้า” เธอพยายามอธิบาย แต่มันก็ไม่ใช่เรื่องง่ายหรอกนะสำหรับคนที่เตรียมตัวมาขนาดนั้น “อย่าบอกนะว่าที่แกไม่ให้พวกฉันมาเฝ้า เป็นเพราะว่าแกมีคนเฝ้าอยู่แล้ว มานี่เลยยัยตัวแสบ เล่ามาให้หมดเลยว่าเรื่องมันเป็นไงมาไง ทำไมแกกับพ่อเลี้ยงถึงได้…” แวววิวาห์ลากเพื่อนไปคุยกันอีกมุม โดยมีอีกสองสาวตามประชิด ประหนึ่งว่ากลัวเธอจะหนีระหว่างที่กลุ่มสาวๆ กำลังสอบสวนกันอย่างเข้มข้น หนุ่มๆ ก็พากันมานั่งคุยเรื่องคอขาดบาดตายด้วยสีหน้าเคร่งเครียด กระทั่งภาคินยื่นซองขาวมาให้พ่อเลี้ยงหนุ่ม “อะไร” ถึงจะสงสัยแต่เขาก็หยิบซองนั่นมา “ใบลาออกที่คุณขอ” ภาคินตอบตามตรง “ขอบคุณ แต่เอาตรงๆ เลยนะ ผมจะขอบคุณมากกว่านี้ ถ้าพวกคุณช่วยพาบรรดาเมียๆ ของพวกคุณกลับไป ให้ตายสิ! ผมอุตส่าห์ทิ้งงานเพื่อมาหาเมีย มาอยู่กับเมีย แต่ดูสิ่งที่เมียพวกคุณทำสิ เมียพวกคุณกำลังจะพรากเมียผมไป” เอ่อ…เดี๋ยวนะนี่คือเรื่องคอขาดบาดตายที่ว่า? “แล้วคุณคิดเหรอว่าการที่พวกผมต้องอยู่ห่างเมียแล้วพวกเราไม่เครียด เ

More Chapters
Explore and read good novels for free
Free access to a vast number of good novels on GoodNovel app. Download the books you like and read anywhere & anytime.
Read books for free on the app
SCAN CODE TO READ ON APP
DMCA.com Protection Status