Masuk(เจ้าชายราฟา) วันที่ส่งคนพบอลิส
ณ บ้านพักส่วนพระองค์ของรัชทายาทลำดับที่สอง
ก๊อก ก๊อก ก๊อก
เสียงเคาะประตูห้องพักดังขึ้นแล้วเปิดออกทันที โดยที่ไม่ต้องรอให้เจ้าของที่นี่อนุญาต
“ได้ข่าวว่าหลานชายส่งคนไปพบคู่หมั้นแล้วเหรอเนี่ย ฮ่าฮ่า” เสียงหัวเราะเอกลักษณ์ของปู่ดังขึ้นจากด้านหลัง แต่ตอนนี้เขาไม่มีอารมณ์จะหันไปโต้ตอบอะไร เพราะสายตายังคงจับจ้องไปยังประกาศสำคัญทั่วประเทศ
“.....” ข่าวเรื่องการหมั้นถูกประกาศออกไปทันทีที่เลยวันเกิดมาได้เพียงวันเดียว
พึ่บ!
เสียงนั่งลงบนโซฟาตัวใหญ่ และเป็นจังหวะที่เขาหันหลังกลับไปมอง
“เริ่มหรือยังล่ะการพบคู่หมั้นน่ะ”
“คุณปู่มาหาผมเพราะเรื่องแค่นี้เหรอครับ” ราฟาเดินมานั่งลงฝั่งตรงกันข้ามกัน
“ใช่ ฉันก็อยากฟังเหมือนกันว่าเด็กที่ฉันเลือกจะเป็นยังไง” ปู่ของเขารู้ทันอีกแล้วสินะว่าจะต้องมีการบันทึกเสียง และดักฟังการสนทนาในครั้งนี้
“ก็ทั่วไปครับ คิดว่าจะพิเศษกว่าปกติเหรอ” ท่าทีมั่นใจของเขาทำให้ผู้เป็นปู่หลุดยิ้มออกมา
“ในระหว่างรอเรามาดูประวัติและหน้าของเธอดีมั้ย” พูดจบปู่ก็ส่งสัญญาณให้ผู้ดูแลของตัวเองจัดการกับสิ่งที่เตรียมมา
“ไม่ต้อง ไม่จำเป็นต้องเห็น มันรกสายตาเปล่าๆ” สิ่งที่กำลังจะฉายขึ้นบนจอโทรทัศน์ขนาดใหญ่หยุดชะงักทันที
“แต่ฉันอยากดูฆ่าเวลาระหว่างรอให้คนของแกไปเจอคู่หมั้น เปิด” สิ้นเสียงคำสั่งภาพของคู่หมั้นเขาก็ถูกฉายขึ้นบนจอ แต่เพราะนั่งหันหลังให้จึงไม่ใส่ใจปล่อยให้คนอยากเห็นดูไปตามความต้องการของตัวเอง
“ยู พวกนั้นไปถึงหรือยัง” เขาหันไปถามมือขวาของตัวเอง แต่ดูเหมือนอีกฝ่ายจะยืนนิ่งไม่ขยับ สายตาจ้องมองเลยไปยังด้านหลังเขาอีกคน
“หันไปดูสิหลานชาย” เขาละสายตาจากมือขวาแล้วจ้องไปยังคุณปู่ รอยยิ้มของผู้ชนะที่เหมือนว่าครั้งนี้คุณปู่จะทำให้เขาทำตามความต้องการของตัวเองได้สำเร็จ
“ผมไม่ดูอะไรที่ทำให้ตัวเองเสียสายตาหรอก” พูดจบก็ส่งยิ้มแบบเดียวกันให้ปู่
เพราะอีกไม่กี่ชั่วโมงข้างหน้า การหมั้นก็จะยุติแล้ว ไม่มีความจำเป็นต้องใช้พื้นที่ในหัวจดจำใบหน้าของคนที่ไม่มีวันได้พบเพิ่มขึ้นให้รก ใครที่ไหนก็ต้องเลือกความสบายทั้งนั้น และเงินจำนวนมหาศาลที่เสนอไปเขามั่นใจว่าเธอจะอ้าแขนรับมันไว้ด้วยความเต็มใจ
“ราฟา จำคำพูดแกเอาไว้ แล้วพยายามห้ามใจตัวเองไว้ด้วยล่ะถ้าอยู่กับเธอ” คำเตือนของปู่พูดขึ้นก่อนจะละสายตามองเลยไปยังด้านหลัง
หญิงสาวในชุดว่ายน้ำสีดำ ผิวขาวเนียน ใบหน้าสวยลูกครึ่งไทย-เยอรมัน ผมยาวสลวยสีบลอนด์ธรรมชาติเปียกชุ่มน้ำยาวถึงกลางหลังสะโพกผาย เอวคอด สัดส่วนของหญิงสาวโตเต็มวัย เจ้าของคะแนนโหวตผู้หญิงที่มีหุ่นดีที่สุดประจำปีของประเทศไทย หน้าอกคัป D ที่ทำให้ผู้ดูแลในห้องนี้ไม่สามารถละสายตาจากภาพบนจอได้ ยกเว้นหลานชายของเขาที่ไม่หันไปมอง
“อย่าพูดเหมือนหลานตัวเองเป็นเด็กที่ไม่เคยผ่านผู้หญิงสิครับ”
“ฉันล่ะชอบรอยยิ้มแกจริงๆ สมกับเป็นหลานสุดที่รักของปู่ เหมือนฉันสมัยหนุ่มไม่มีผิด”
“ขอบคุณครับที่ชม” ไม่รู้ว่าชมจากใจมั้ย แต่ก็ยินดีที่จะรับเอาไว้ก่อน
“ขออนุญาตครับ” ยู มือขวาของเขาได้สติกลับมาแล้วจึงเข้ามากระซิบจากด้านหลัง
“....” สายตาคมจ้องมองไปที่คุณปู่ แต่หูก็ฟังในสิ่งที่ยูกำลังจะพูด
“คนของเราพบกับคุณอลิสแล้วครับ”
“คุณปู่จะอยู่ฟังด้วยใช่มั้ยครับ”
“แน่นอนอยู่แล้ว” ปู่เอนหลังพิงพนักโซฟาหรู เอื้อมมือรับซิการ์จากผู้ดูแลของท่าน
อุปกรณ์รับเสียงสัญญาณจากอีกฟากของประเทศถูกวางลงบนโต๊ะ ซึ่งคนที่เขาส่งไปต่อรองกับคู่หมั้นติดเครื่องดักฟัง และบันทึกเสียงเอาไว้ด้วยมันถูกเชื่อมเข้ากับตัวขยายเสียงเพื่อให้ปู่ได้ยินคำปฏิเสธการหมั้นในครั้งนี้ได้อย่างชัดเจน
(ด้านอลิส)
ณ ร้านอาหาร โซนห้องรับรอง VIP
“เรียกผมว่าเจ้าชายราฟาก็ได้ครับ ไม่ต้องเรียกชื่อเต็มตามที่แนะนำไปในตอนแรก”
“ค่ะ”
“การหมั้นของเรามันดูจะแปลกประหลาดไปสักหน่อย ผมคิดว่าคุณอลิสจะไม่ตกใจกับเรื่องที่เกิดขึ้นนะครับ”
“ค่ะ”
“ผมอาจจะทำให้คุณผิดหวังที่ต้องมาชี้แจงว่าจะขอยกเลิกการหมั้นระหว่างเราทั้งคู่”
“....” ฉันนั่งฟังผู้ชายตรงหน้าที่พูดไม่หยุดตั้งแต่มา
ท่าทางแปลก ๆ ที่พอจะจับสังเกตได้ การพูดมาก และบางทีเขาก็หลุดคำแปลกออกมา ซึ่งส่วนตัวฉันคิดว่าคนระดับเขาไม่มีทางพลาด ภายในห้องก็มีผู้ติดตาม 4 คน 2 คน ยืนอยู่ด้านหลังของฉัน และด้านหลังเขาอีก 2 คน
“คุณสามารถเรียกร้องข้อเสนอ หรือสิ่งที่ต้องการได้มากกว่านี้”
“....” พูดมากจัง
“เรื่องเงินถ้าคุณอลิสอยากได้มาเท่าไรก็เสนอมาเลยครับ ผมมีมากพอที่จะจ่ายได้ตามความต้องการ”
“...ค่ะ” เอาเรื่องเงินมากดฉัน แต่พูดออกมาโจ่งแจ้งเลยเหรอ ไม่มีศิลปะในการพูดเอาซะเลย
“หรืออยากได้อะไรที่มากกว่าเงินก็ได้นะครับ ผมยินดี”
“....”
“จะว่าไปคุณก็เป็นคนที่สวยมากเลยนะครับ เสียดายที่ผมต้องปฏิเสธการหมั้น”
“ขอบคุณที่ชมค่ะ” ฉันพูดพร้อมกับส่งยิ้มให้แล้วยกแก้วน้ำขึ้นดื่ม
ดวงตาคมลอบมองไปยังผู้ติดตามสองคนที่ยืนอยู่ข้างหลังเขา ทั้งคู่หันมองหน้ากันอย่างไม่มีสาเหตุ ซึ่งพวกเขาเป็นผู้ดูแลเจ้าชายไม่ควรที่จะละสายตาออกจากเจ้านายแม้แต่วินาทีเดียว
“ผมมาที่ประเทศไทยบ่อยนะ เอาไว้เรามาเจอกันในสถานะอื่น เวลาอื่นเป็นการส่วนตัวก็ได้นะครับ” สายตากรุ้มกริ่มจ้องมองฉันไม่ละสายตา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ปรากฏขึ้นบนใบหน้า มันกลับทำให้รู้สึกขนลุกมากกว่าที่จะทำให้คิดว่าคนตรงหน้าอันตราย
“....”
“แต่คงไม่มีในฐานะของคู่หมั้น ผมต้องขอโทษอีกครั้งที่ทำให้คุณเสียดาย” เสียดายเหรอ...
ฉันจ้องมองไปยังผู้ชายตรงหน้าด้วยสายตาเรียบเฉย แต่แล้วก็สังเกตเห็นแสงสะท้อนกระทบกับขอบแว่นกันแดดที่เขาสวมใส่อีกครั้ง แสงกะพริบสีแดงสะท้อนขึ้นเป็นระยะและเมื่อมันกะพริบ คนพูดมากตรงหน้าก็จะเงียบลงเหมือนตั้งใจฟังอะไรสักอย่าง
“(ยิ้ม)” ริมฝีปากบางยกยิ้มให้เขาในขณะที่อีกฝ่ายก็ลอบมองมาที่ฉันเช่นกัน
“สรุปว่าคุณอลิสจะ...” เขาดูอ้ำอึ้งต่างไปจากทีแรกนะ
“คะ?” ฉันถามกลับแล้วส่งยิ้มหวานให้
“ข้อเสนอของผมน่ะ คุณอลิสอยากได้เท่าไรครับเพื่อยุติการหมั้นในครั้งนี้”
“....” รอยยิ้มหวานถูกส่งให้คนตรงหน้า
มือเล็กเอื้อมหยิบแก้วน้ำขึ้นจิบอีกครั้ง สายตามองเลยไปยังผู้ติดตามทั้งสองข้างหลังของเขา พวกเขาแสดงสีหน้าเหมือนหวาดกลัวบางสิ่ง สายตาล่อกแล่กไม่อยู่กับตัว แล้วยังละสายตาจากบุคคลที่บอกว่าเป็นเจ้าชายมาตั้งแต่เมื่อกี้แล้ว
“ว่ายังไงครับ เรารีบมาตกลงเรื่องนี้กันเถอะ ผมจะได้รีบออกไปจากที่นี่”
“ทำไม รีบร้อนจังคะ” เสียงหวานเอ่ยถามพร้อมกับรอยยิ้มประจำตัว ก่อนจะวางแก้วน้ำในมือลงบนโต๊ะ
ปึก!
“ผมเป็นเจ้าชายนะครับ ยังมีอะไรอีกมากที่ต้องไปทำ”
“ทราบค่ะ...ถ้างั้นช่วยฟังฉันก่อนนะคะ”
“รีบพูดเลยครับ” ผู้ชายตรงหน้าเริ่มแสดงออกแปลกขึ้น แสงไฟจากใต้เสื้อสะท้อนกับขอบแว่นเหมือนว่าอุปกรณ์นั่นกำลังถูกใช้งาน
“เจ้าชายราฟา...ใช่มั้ยคะ”
“ใช่ครับ”
เขาตอบกลับทันทีแล้วเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อยที่ถูกเรียกแบบนั้น ท่าทางภูมิใจนั่นมันคืออะไร...มีแต่คนที่พึ่งเคยได้รับอะไรแบบนี้เท่านั้นแหละที่จะภูมิใจได้ขนาดนั้น คนที่เกิดมาพร้อมกับตำแหน่งไม่มาแสดงความรู้สึกอะไรแบบนี้แน่
“น่าแปลกใจจังนะที่คนปกปิดตัวตนจากสื่อแบบเจ้าชายจะเดินทางมาพบฉันด้วยตัวเอง”
“ผมให้เกียรติให้คุณไงครับ” ในจังหวะที่เขาพูดแสงสีแดงก็กะพริบขึ้นอีกครั้ง
“ขอบคุณมากค่ะ”
“รีบพูดสิ่งที่ต้องการสักที ผมมีธุระต่อ” ธุระเหรอฉันว่าเขากำลังถูกกดดันจากบางสิ่งมากกว่า
“ค่ะ ขอพูดอะไรอีกนิด...เจ้าชายราฟาน่ะเป็นบุคคลที่แม้แต่ภาพวัยเด็กยังไม่มีให้เห็น และไม่มีทางที่คนประเภทชอบใช้เงินกดหัวคนอื่นแบบเจ้าชายจะให้เกียรติผู้หญิงสามัญชนแบบฉัน”
“....” ตอนนี้ไม่ใช่แค่คนตรงหน้าจะมองมาที่ฉัน แต่รวมไปถึงผู้ติดตามอีกสองคนด้านหลังนั่นด้วย
“ขอบคุณสำหรับข้อเสนอที่มอบให้นะคะ แต่ฉันคิดว่าถ้าหมั้นไปแล้วอยู่ในฐานะภรรยาของเจ้าชาย น่าจะได้มากกว่าที่ขอไปแน่นอน”
“...อึก!” กลืนน้ำลายงั้นเหรอ กำลังกลัวสินะ
“ไม่มาด้วยตัวเองก็ไม่ได้ว่าอะไรหรอก แต่ไม่เห็นจะต้องส่งคนอื่นมาแล้วใช้ชื่อตัวเองเลยนี่ จริงมั้ยคะ” พูดจบก็ยกมือเท้าคาง จ้องมองไปยังผู้ชายฝั่งตรงกันข้ามที่ตอนนี้เขามีสีหน้าซีดลงเรื่อย ๆ
“ผมไม่ใช่คนอื่นนะครับ ผะ!” ยังไม่ทันที่เขาจะพูดจบ ฉันก็ใช้นิ้วแตะปากตัวเองแล้วส่งเสียงให้เขาเงียบ
“ชู่ว! ช่วยเงียบด้วยค่ะ”
“ช่วยให้เกียรติผมในฐานะเจ้าชายแห่งจักรวรรดิด้วย”
“บอกให้เงียบยังไงล่ะคะ เงียบแล้วฟัง” รอยยิ้มบนใบหน้าหายไป เหลือเพียงใบหน้าเรียบเฉย
“.....” ในที่สุดเขาก็ยอมเงียบ และรอฟังในสิ่งที่ฉันกำลังพูด
“ดีใจมากที่ถูกยื่นข้อเสนอด้วยวงเงินจำนวนมหาศาล ฉันมีค่าตัวที่แพงลิ่วขนาดนั้นเลยสินะ”
“.....” ทั้งห้องเข้าสู่ความเงียบ มีเพียงฉันเท่านั้นที่ยังคงพูดต่อไม่หยุด
“ฉันยอมรับการหมั้นค่ะ”
ปึง! สิ้นเสียงของฉัน ผู้ชายตรงหน้าก็ลุกขึ้นตบโต๊ะเสียงดัง
“ผมสั่งให้คุณปฏิเสธการหมั้นครั้งนี้ไง!”
“ชู่ว! เบาเสียงลงด้วยค่ะคุณเจ้าชายตัวปลอม...แล้วทั้งหมดที่พูดไปตั้งแต่แรกฉันไม่ได้พูดกับคุณนะคะ”
ปึง!
มือเล็กค้ำลงบนโต๊ะแล้วโน้มตัวเข้าไปใกล้ผู้ชายที่นั่งอยู่ สายตามองเลยไปยังด้านหลังผู้ติดตามยืนนิ่งอยู่กับที่ คงเพราะรู้แล้วว่าถูกฉันจับได้ ใบหน้าสวยขยับเข้าไปใกล้คอเสื้อในขณะที่อีกฝ่ายนั่งตัวแข็งทื่อ
“ฉันพูดกับคนที่ฟังอยู่หลังไมค์นี่ต่างหาก...ยินดีที่ได้หมั้นกันนะคะเจ้าชายราฟา”
เสียงหวานพูดใส่ไมค์ที่ซ่อนอยู่ใต้ปกเสื้อ ทุกคนในห้องเงียบไม่มีใครกล้าแม้แต่จะส่งเสียงหรือขยับตัว หึ! เกมแรกฉันขึ้นนำ
หลายอาทิตย์ผ่านไปหลังจากผ่านงานแต่งมาข่าวของพวกเรายังคงถูกจับตามอง ส่วนเรื่องราวปัญหาของมิเชลถูกประณามจากสื่อและประชาชนอย่างมาก ในฐานะทำตัวเมากร่างในงานสำคัญ ซึ่งความจริงแล้วทุกสิ่งทุกอย่างเกิดจากความตั้งใจของเพื่อนฉันเอง ยายโซต้องการเลือกที่จะแสดงตัวเป็นผู้ถูกเข้าใจผิด แต่เพื่อนฉันก็ทำจริง ๆมิเชลพูดถึงฉันไม่ดีก่อน เพื่อนสาวผู้ใจดีก็เลยตามยายนั่นตลอด เมื่อได้โอกาสก็จัดให้ไป 2 น้ำกับ 1 ดิน แล้วก็ยืมมือสื่อกับแขกในงานมาตบหน้ามิเชลนั่นแทนที่จะลงมือเอง ตอนนี้มิเชลจึงต้องเก็บตัว ถูกเพื่อนในกลุ่มถอยออกห่าง เพราะทั้งเรื่องของไดอาน่าด้วยเลยไม่ค่อยมีใครอยากเข้าใกล้ส่วนฉันหลังจากผ่านช่วงงานแต่งมาแล้วทุกอย่างก็เปลี่ยนไปอย่างเห็นได้ชัด หนึ่ง ฉันเข้าใจมาตลอดว่าราฟาว่าง แต่ไม่ใช่ งานในฐานะของเชื้อพระวงศ์เยอะมาก และเขาก็มีสิ่งที่ต้องดูแลในส่วนของตัวเอง แต่ด้วยความที่เกิดมาพร้อมกับหน้าที่นี้ เขาเลยจัดการมันได้ไม่ยาก และทำตัวเหมือนว่างก็แค่นั้นเองสอง ไม่ว่าราฟาต้องออกไปที่ไหนฉันต้องไปกับเขาทุกที่ ซึ่งคนที่พึ่งเข้ามาในตำแหน่งนี้ได้ไม่นานก็ทำเอาร่างพังทุกครั้งที่กลับมา จนช่วงนี้เขารู้สึกว่าร่างกายฉั
หนึ่งอาทิตย์ต่อมา“งานแต่งเลื่อนกำหนดการเข้ามาเป็นวันที่หนึ่งเดือนนี้ครับ” “....” ฉันนั่งฟังสิ่งที่คุณยูรายงาน คิ้วเรียวเริ่มขมวดเข้าหากันทีละนิดการที่งานเลื่อนเข้ามาแบบนี้ฉันไม่จำเป็นต้องไปถามเลยว่าเป็นเพราะใคร ก็มีคนเดียวที่เอาแต่ใจตัวเองแล้วยังสั่งเลื่อนงานได้ตามใจก็คือ คนที่ฉันต้องแต่งงานด้วยนี่แหละ“ดี” ราฟาเห็นด้วยอย่างมากกับสิ่งที่เกิดขึ้น เดาอะไรไม่เคยผิด“บ้านพักส่วนพระองค์ที่ประเทศไทย คุณภาคินแจ้งว่าจัดการหาผู้ดูแลทั้งหมดให้เรียบร้อยแล้วครับ” “....” มือที่กำลังแกะเปลือกองุ่นหยุดชะงัก แล้วค่อย ๆ เงยหน้ามองไปยังคนตัวสูงที่นั่งอยู่ฝั่งตรงกันข้าม“หาผู้ดูแลให้? ฟังเหมือนตั้งใจเข้ามาช่วย แต่บังคับโดยไม่มีสิทธิ์ให้เลือกเลยใช่มั้ย” เหมือนราฟาจะรู้ทันเพื่อนตัวเอง“ครับ” คุณยูเองก็พยักหน้าเห็นด้วย“ไอ้เวร...” เสียงพึมพำของราฟาที่มีต่อเพื่อนตัวเอง ทำเอาฉันถึงกับอมยิ้มมือเล็กหยิบลูกองุ่นเข้าปาก แต่เพียงแค่ลิ้นสัมผัสรสชาติก็ต้องคายมันออกมาทันที รสขมติดอยู่ปลายลิ้นทำเอาความอยากกินหายไปจนหมดทันที เมื่อเงยหน้าขึ้นก็เจอเข้ากับสายตาของคนรอบตัว นี่ฉันทำอะไรที่เสียมารยาทบนโต๊ะอาหารสินะ“ขอ
หญิงสาวในชุดกางเกงเข้าชุด ผมยาวถูกมัดรวมยกสูงแล้วสวมทับด้วยหมวกบักเก็ตสีดำ สายตามองยังร้านค้าในงานเทศกาลรอบตัวด้วยความตื่นตาตื่นใจ สองเท้าก้าวเดินท่ามกลางสายตาคนรอบข้างที่มองมาเป็นตาเดียวเสียงพูดคุยรอบตัวคือทุกคนต่างคุ้นหน้าในฐานะของคู่หมั้นเจ้าชายราฟา แต่เมื่อมองรอบตัวฉันที่เดินอยู่คนเดียวพวกเขาก็เลิกให้ความสนใจ เพราะเป็นไปได้ยากที่คู่หมั้นรัชทายาทลำดับที่สองจะมาเดินเล่นโดยไร้ผู้ดูแล“เอาวานิลลากับสตรอว์เบอร์รีค่ะ” ฉันหยุดยืนหน้าร้านไอศกรีมของชอบอันดับหนึ่งในใจ“รอสักครู่นะคะ” เจ้าของร้านส่งยิ้มหวานมาให้พร้อมกับหันไปจัดเตรียมออร์เดอร์หลังจากแยกกับท่านปู่ คำตอบของฉันที่ท่านได้รับทำให้ได้เห็นรอยยิ้มที่คล้ายกับปู่ของฉัน รอยยิ้มที่ใจดี อบอุ่น และมีความสุขจนปกปิดมันไว้ไม่อยู่ แค่สิ่งที่พวกเขาอยากให้เป็นมันกำลังเป็นไปในทางที่ทั้งสองรอมาตลอดแต่เราก็ร่วมกันวางแผนแกล้งราฟาสักหน่อย เก่งนักใช่มั้ย รู้อะไรก็ไม่ยอมบอก ปล่อยให้รออยู่ที่นั่นไปก่อน แต่ก็แอบคิดว่าคนที่รู้มากอย่างเขาไม่มีทางรออยู่เฉยแน่ แต่ถ้าจะให้หาเจอง่ายก็ไม่สนุกเท่าไรในระหว่างที่ยืนรอไอศกรีมอยู่นั้นก็รู้สึกได้ถึงสายตาสองคู่ที่
จุดเด่นของงานแต่งนั่นคือ เจ้าบ่าวและเจ้าสาว ยิ่งเป็นงานแต่งของรัชทายาทลำดับที่หนึ่งแล้วด้วยทุกสายตาจะจับจ้องไปยังหญิงสาวเพียงคนเดียวที่เข้าใกล้ตำแหน่ง ควีน คนต่อไปแต่เมื่องานแต่งที่หญิงสาวผู้เป็นจุดเด่นมีถึง 2 คน จึงสร้างความสนใจให้กับงานในครั้งนี้มากเข้าไปอีก งานพิธีถูกจัดขึ้นอย่างใหญ่โตสมฐานะ ภาพงานถูกถ่ายทอดให้แก่คนทั่วโลกได้ชม เป็นครั้งแรกที่ฉันกับราฟายืนเคียงข้างกันในงานใหญ่ขนาดนี้มือเล็กถูกเขาดึงไปจับเอาไว้แน่น ตลอดงานราฟาไม่ปล่อยให้ฉันห่างจากตัว เมื่อฉันถูกจับภาพก็มีราฟาอยู่ข้างด้วยเสมอ ยิ่งงานใหญ่ขนาดนี้ไม่ต้องพูดถึงว่าที่ประเทศไทยจะเป็นยังไง“ฉันเดินตามข้างหลังนายแบบปกติได้นะ ตอนนี้ยิ่งถูกสนใจในฐานะคู่หมั้นเจ้าชายด้วย เวลากล้องจับมานายจะติดเข้าไปด้วยนะ” ปกติเก็บตัวไม่ค่อยให้ใครได้เห็นภาพอยู่แล้ว“ติดแล้วยังไง” “ไม่ชอบออกมาให้คนเห็นไม่ใช่หรือไง ตอนฉันหาประวัตินายก็มีแต่รูปวัยเด็ก” ราฟาหันมามองแล้วส่งยิ้มให้“ไม่ชอบออกมาให้คนเห็นเหรอ เหมือนเป็นตัวอะไรสักอย่างเลยฉัน” “ไม่ได้หมายความว่าแบบนี้” “ที่ผ่านมาก็แค่มันน่าเบื่อน่ะ เลยไม่เคยอยู่เกินสิบนาที ภาพฉันก็เลยไม่ค่อยมีเท่าไร”
“คนปกติที่ไหนเขาจะเอาผู้หญิงตัวเล็กที่สวยมากแบบนี้ไปผูกไว้กลางป่าให้เสือมาเลียหน้าเล่น!” “อ้าว เป็นคนเหรอนึกว่าไม่ใช่คน” “แล้วนั่นปากเหรอ นึกว่า...” ดวงตากลมหลุบต่ำมองไปที่เท้าของคนตัวสูง“ใครเอาลงมาได้กูให้ล้านหนึ่ง” “กรี๊ด!!” เสียงแหลมสูงกรีดร้องเมื่อกลุ่มคนจำนวนมากต่างเดินเข้าไปล้อมต้นไม้สูงฉันยืนอ้าปากตาค้างมองไปยังหญิงสาวตัวเล็กที่ยืนอยู่บนกิ่งไม้ใหญ่ที่ยื่นออกมา ตอนนี้เหมือนสติกำลังจะหลุดออกจากร่าง ต้องเริ่มตกใจจากเรื่องไหนก่อนหนึ่งพี่คาริชม่าขึ้นไปอยู่ต้นไม้ทำไม สองพี่คาริชม่าขึ้นไปอยู่บนต้นไม้ได้ยังไง เพราะมันสูงมากเทียบกับตึกสองชั้น สามพี่อีวานจะเอาเจ้าสาวตัวเองไปผูกกลางป่าให้เสือกินจริงเหรอ สี่ความปากแจ๋วที่ไม่ได้ต่างไปจากน้องชาย!“ปีนต้นไม้เก่งเหมือนเดิมเลยนะ” ราฟากอดอกยืนพิงรถพี่อีวาน สายตาจ้องมองไปยังหญิงสาวที่อยู่บนต้นไม้“ทำไมพูดเหมือนมันเป็นเรื่องปกติอะไรขนาดนั้น” ฉันกระซิบถาม สายตาก็แอบมองไปยังพี่อีวานหมับ! แต่ก็มองได้แค่แป๊บเดียว เพราะมือของราฟาจับปลายคางบังคับให้หันกลับมามองที่เขา“สามีตัวเองอยู่นี่ เธอต้องมองแค่ฉัน” เพียะ! มือเล็กตีเข้าที่ต้นแขนเขา“มันใช่เว
“เดี๋ยว! หยุดราฟา!” ริมฝีปากบางส่งเสียงทักท้วงหลังจากดิ้นหลุดจากคนตัวสูง หันเบือนหน้าหลบริมฝีปากชวนสัมผัสของผู้ชายตรงหน้า คนถูกขัดใจแสดงอาหารออกมาชัดเจนจนรู้สึกได้ นัยน์ตาคมจ้องมองคนตัวเล็กที่อยู่ภายใต้ร่าง“....” เพราะไม่กล้าดุ จึงทำได้เพียงแค่มองหน้าเท่านั้น“ไม่เป็นไปตามข้อตกลงเลย แค่นี้นายยังทำไม่ได้ ฉันก็ไม่เชื่อสิ่งที่พูดมาทั้งหมดหรอก” ถ้าไม่หยุดตอนนี้ฉันจะไม่มีโอกาสได้หยุดแล้วนะ!“ถ้าทำตามข้อตกลงทุกอย่าง ทุกอย่างก็จบใช่มั้ย” “...อือ” เราทั้งคู่ต่างจ้องหน้ากันจนในที่สุดราฟาก็ยอมผละออก เขาทิ้งตัวนั่งลงบนโซฟาแล้วดึงแขนฉันให้ลุกขึ้นตามมาด้วยอีกคน มือหนาเอื้อมไปหยิบเอกสารมาอ่านด้วยความตั้งใจ ก่อนจะลงมือเซ็นมันทีละใบอีกครั้ง เกือบแล้ว...เกือบปล่อยตัวปล่อยใจแล้ว!ติ้ด! ติ้ด!ระหว่างที่กำลังทะเลาะกับตัวเองอยู่เสียงโทรศัพท์ของฉันก็ดังขึ้น มือเล็กที่กำลังจะเอื้อมไปหยิบ แต่ก็ช้าไปเมื่อคนที่แขนยาวกว่าหยิบมันมาให้ก่อน แต่สายตาที่เห็นเบอร์บนหน้าจอ ราฟาก็กดรับสายอย่างถือวิสาสะทันทีติ้ด!“โทรมาหาเมียคนอื่นทำไม เอาเวลาไปตามเมียตัวเองเถอะพี่อีวาน” ราฟากรอกเสียงพูดกับคนปลายสาย แล้วทำไมไปเรียก







