"ลงมาสิ"เอ่ยเรียกเมื่อหญิงสาวยังเอาแต่นั่งอยู่กับที่ "มาทำไมคะ" "มาฝากท้องมั้ง"น่านนทีตอบกลับอย่างกวนๆ "คุณน่าน!"สายธารสวนกลับ เมื่อเขาจงใจกวนประสาทเธอ "ลงมาเถอะน่า ชักช้าเสียเวลา" "บอกก่อนสิคะว่ามาทำไม" "ผัวเมียมาอำเภอถ้าไม่มาจดก็ต้องมาหย่า แค่นี้คิดไม่ได้หรือไง" "จดทะเบียน...สมรสเหรอคะ"คำว่าสมรสหลุดออกมาจากปากเบาหวิว เมื่อตกใจกับสิ่งที่ได้ยิน "อืม...จะลงมาได้หรือยัง" "ไม่ต้องทำขนาดนี้ก็ได้ ฉันไม่ได้..."คำพูดต่อมาถูกกลืนลงคอ เมื่อน่านนทีขัดขึ้น "เรื่องนั้นฉันจะคิดเอง ตอนนี้เธอลงมาดีๆดีกว่า หรือว่าจะต้องให้ฉันอุ้ม" "คนไม่ได้รักกัน ไม่ต้องทำแบบนี้ก็ได้ค่ะ" "ฉันทำเพราะเห็นว่าสมควรทำ" "ถ้าคุณทำเพราะต้องการแสดงความรับผิดชอบ ก็ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ฉันเข้าใจว่าเรื่องของเราเกิดขึ้นมาจากอะไร อย่าให้ฉันต้องเป็นภาระคุณไปมากกว่านี้เลยนะคะ" "เธอนี่ดื้อกว่าที่ฉันคิดไว้นะ" "ฉันไม่ได้ดื้อค่ะ แค่แสดงความคิด" "สายธาร...อย่าให้ฉันหมดความอดทนกับเธอ"
View More@ร้านอาหารริมทะเลจังหวัดเพชรบุรี
"เราเลิกกันเถอะ"คำพูดที่ออกมาจากริมฝีปากอวบอิ่มของคนที่นั่งฝั่งตรงข้าม ส่งผลให้ใบหน้าที่กำลังเปื้อนยิ้มซีดลงอย่างเห็นได้ชัด ช้อนที่กำลังตักอาหารเข้าปากสั่นขึ้น แต่เจ้าของมือใหญ่ยังควบคุมมันเอาไว้ได้
พริมามองภาพตรงหน้าด้วยหัวใจที่ปวดร้าว ดวงตากลมโตหลบตา ที่กำลังมองมาที่เธอด้วยสายตาตัดพ้อ เธอเห็นเขากลืนน้ำลายลงคอ ก่อนจะวางช้อนในมือ เธอไม่อยากทำลายบรรยากาศที่กำลังมีความสุขกับเขา แต่เธอมีเวลาไม่มาก เพราะหลังจากนี้เธอก็จะไปให้ไกลที่สุด คำสั่งที่ได้รับมาอย่างเร่งด่วนจากคนเป็นพ่อ พริมาเองก็สุดจะทน เพราะเท่ากับว่าเธอต้องทำร้ายหัวใจตัวเองด้วย
ตาคู่คมมองหน้าหญิงคนรัก สมองที่ด้านชาจากอาการช็อคเริ่มประมวลผล หัวแกร่งกระตุก เมื่อผลที่ได้ก็คือคำบอกเลิกจากหญิงคนรัก
"เกิดอะไรขึ้นครับ"น่านนทีพยายามควบคุมน้ำเสียง เมื่อถามคำถามนี้ออกไป เขากับพริมาคบกันมาตั้งแต่เรียนมหาลัยปี1 และมีแผนจะแต่งงานกัน อยู่ๆเธอมาบอกเลิก เป็นใครก็ตั้งรับไม่ทัน
"พรีมกำลังจะแต่งงานค่ะ เหตุผลแค่นี้คงพอ"พริมาตอบแฟนหนุ่ม ที่กำลังจะกลายเป็นอดีตคนรักในอีกไม่กี่นาทีข้างหน้า แค่เธอลุกขึ้นแล้วเดินจากไป น่านนทีก็จะกลายเป็นอื่น
"ง่ายๆอย่างนี่เลยเหรอครับ พรีมมีเหตุผลอื่นที่บอกผมไม่ได้ใช่ไหม"น่านนทียังคิดเข้าข้างตัวเอง เพราะเหตุผลที่เธอเอามาใช้บอกเลิกมันฟังไม่ขึ้น ตลอดเวลาที่คบกันมา เขารู้ว่าเธอไม่เคยมีคนอื่น เรื่องแต่งงานน่าจะเป็นข้ออ้าง พริมาน่าจะมีปัญหาที่บอกกับเขาไม่ได้มากกว่า
"เรื่องระหว่างเรา ขอให้มันจบแค่นี้นะคะ พรีมขอโทษที่หลอกคุณมาตลอด พรีมมีคู่หมั้นอยู่แล้ว ขอโทษนะคะน่าน"พูดพร้อมกับลุกขึ้นยืน เธอต้องไปจากตรงนี้ให้เร็วที่สุด ก่อนที่น้ำตาจะไหลออกมา ไม่ใช่เรื่องง่ายๆเลยสักนิด ที่จะต้องบอกเลิกกับคนที่ตัวเองรักมากที่สุด เธอก็แค่ผู้หญิงคนหนึ่ง มีหัวใจและเจ็บเป็น
"เพราะคุณพ่อใช่ไหมครับ ท่านสั่งให้พรีมเลิกกับผมใช่ไหม"น่านนทีตัดสินใจถาม เรื่องนี้ผู้ใหญ่น่าจะมีส่วนเกี่ยวข้อง เขารู้ดีว่าทางครอบครัวของเธอไม่ชอบเขา เพราะฐานะที่ต่างกัน
"เปล่าค่ะ เรื่องนี้พรีมตัดสินใจเอง ลาก่อนนะคะ"พริมาตัดสินใจหันหลัง สูดลมหายใจเข้าปอดลึกๆ เพื่อประคองสติตัวเอง เธอรักเขามากที่สุด แต่เธอก็ทำร้ายเขาไม่ได้ ถ้าขืนเธอยังคบกับเขาต่อไป อนาคตของเขาก็ต้องพังลง เพราะพ่อของเธอคงไม่ปล่อยเขาไว้ น่านนทีกำลังมีอนาคตที่ดี แต่นั่นไม่ใช่สิ่งที่ครอบครัวของเธอต้องการ คนที่กำลังสร้างอนาคต เทียบไม่ได้กับคนที่มีความพร้อมอยู่ในมือ คนที่สามารถต่อยอดและทำให้ธุรกิจของครอบครัวเธอให้มั่นคงและก้าวหน้า ความรักมันกินไม่ได้ ความเหมาะสมต่างหากที่จะทำให้คนในครอบครัวมีความสุข
ตาคู่คมมองตามร่างบางที่เดินห่างออกไป ไม่มีคำคัดค้านใดๆ เมื่อเขาก็รู้ว่า สาเหตุที่ต้องเลิกกันมันคืออะไร เขาเองก็ไม่อยากดึงฟ้าให้ลงต่ำ หงส์อย่างเธอก็เหมาะแล้วที่จะอยู่ในฝูงหงส์ กาอย่างเขาก็คงได้แต่ทำใจ
"ผมรักคุณนะครับ"นี่คือคำพูดสุดท้าย ที่ออกมาจากใจของเขา เขารักพริมามากและมันจะเป็นแบบนี้ตลอดไป
...............................................................................................
สวัสดีค่ะ ฝากสายธารนานนทีด้วยนะคะ มณีภัทรสรลงนิยายในGood novel หลายเรื่องนะคะฝากนิยายของมณีภัทรสรด้วยนะคะ
สิงห์ถอนหายใจเมื่อความซวยมาเยือน จะเดินหนีก็ใช่ที่ ไหนๆก็เป็นคนพาพวกเธอมา ช่วยสักครั้งจะเป็นไรไป เพิ่งเจอกันครั้งแรก ไอ้ธงชัยคงไม่พิศวาสถึงขนาดฆ่าเขาทิ้งหรอกมั้ง ร่างสูงใหญ่ขยับเข้าไปใกล้วงล้อมอีกนิด โดยมีน่านนทีตามไปอีกคนสายธารเหมือนโดนมนต์สะกด ตากลมโตไม่ล่ะจากใบหน้าคมเข้ม เธอแน่ใจแล้วว่าเขาคือผู้ชายที่ทะเลจริงๆ โลกกลมจนน่าตกใจ"ไอ้สิงห์! ไอ้น่าน!"ธงชัยเอ่ยชื่อคนมาใหม่ ก่อนจะกัดกรามด้วยความโมโห หมูกำลังจะหามดันเอาคานมาสอด"ฉันบอกให้รอที่รถ เดินมาทำอะไรตรงนี้"น่านนทีเอ่ยเสียงเข้ม เมื่อต้องเล่นไปตามบท สองคนนี้บ้านอยู่ท้ายไร่เขา ไม่แปลกถ้าเธอจะติดรถเขามาตลาดด้วย"มึงพาสองสาวนี้มาเหรอ"ธงชัยถาม เขาเองก็สังเกตเห็นอาการของเธอที่ดีใจเมื่อเห็นหน้าน่านนที จนออกนอกหน้า"ใช่ ขอติดรถกูมาซื้อของ ถ้ารู้ว่าวุ่นวายขนาดนี้ กูไม่พามาหรอก"น่านนทีพูดขึ้น สองสาวหน้าตึง "ฉันมากินก๋วยเตี๋ยว"สายธารตอบ "ไม่ต้องกิน ฉันจะกลับแล้ว"น่านนทีพูดเสียงเย็น สายธารกลืนน้ำลายลงคอ เข้าใจว่าเขากำลังช่วย แต่จำเป็นต้องโหดและนิ่งขนาดนี้เลยหรือ ดูก็รู้ว่าเขาไม่พอใจ และรำคาญพวกเธอ"หลีกทางให้น้องเขาสิ แล้วพี่จะไปหาที่ไร่นะคร
"หลานตาชุบ มัคนายกที่บ้านอยู่ท้ายไร่ไอ้น่านนะเหรอ"ภูชิตถามต่อ เมื่อสองสาวเดินผ่านไป"เออ...ก็มีอยู่ชุบเดียวนั่นแหละ""สวยเนอะมึงว่าไหม""ก็งั้นๆ"คำพูดนี้น่านนทีเป็นคนตอบ จะว่าสวยก็สวย แต่จะดูให้ธรรมดาก็ธรรมดา เขาเคยเห็นคนสวยมาเยอะ ระดับนางงามก็เคยเจอมาแล้ว"มากันสองคน กล้าหาญจริงๆ""หน้าตาแบบนี้ ถ้าไอ้ธงชัยเห็นคงไม่รอด"คำว่าธงชัยทำให้คิ้วเข้มกระตุก มือแกร่งยกแก้วสาดเหล้าลงคอ ใครจะชอบไม่ชอบใคร ก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเขาสองสาวกลายเป็นหัวข้อสนทนาของสี่หนุ่ม เมื่อยิ่งพูดก็ยิ่งสนุกปาก จะมีก็แต่น่านนทีคนเดียวที่นั่งฟังเงียบๆ เพราะผู้หญิงกลายเป็นของแสลงสำหรับเขาไปแล้วอีกด้านของตลาด ธงชัยกับพรรคพวก ก็สนใจคนแปลกหน้าเช่นกัน ข้อมูลที่ได้มาจากลูกน้อง ทำให้รู้ว่า สาวแปลกหน้าเป็นหลานตาชุบ "สวยนะพี่"ลูกน้องคนสนิทกระซิบที่หูเจ้านาย เมื่อสองสาวเดินมาทางนี้"อืม..."ธงชัยขานรับในลำคอ สายตาจับจ้องไปยังใบหน้าของผู้หญิงทั้งสอง ก่อนจะไปหยุดที่ใบหน้าขาวเนียน ของคนที่ผิวขาวกว่า"คนหลังน่าจะอ่อนหวานเอาใจเก่ง"เหล้าในมือ ถูกกลืนลงคอ เมื่อเลือกคนที่ถูกใจได้แล้ว"ไปทำความรู้จักกันหน่อย"ชายหนุ่มลุกขึ้นจากโต๊ะ เมื
เสียงไก่ขันที่ลอยมาตามลม ปลุกคนที่เพิ่งงีบหลับไปเมื่อตอนค่อนคืนให้ตื่นขึ้น สายธารลืมตา เมื่อคนที่นอนข้างๆขยับตัว "ไปไหนคะ""คุณธาร พี่ทำให้คุณธารตื่นหรือเปล่า"นารีพูดอย่างสำนึกผิด"พี่นิ่ม!"สายธารเสียงดัง เมื่อนารียังใช้ถ้อยคำเดิมๆพูดกับเธอ"ขอโทษค่ะ พี่ลืม""แล้วจะไปไหนคะ""พี่จะไปดักรถกับข้าวค่ะ ลุงแกว่ารถจะมาตีสี่ จะได้ถามชาวบ้านด้วยว่าตลาดไปทางไหน ธารนอนต่อนะ เดี๋ยวพี่มา""ธารไปด้วยค่ะ"สายธารพูด พร้อมกับมุดมุ้งตามออกมานารีขี่จักรยานโดยมีสายธารนั่งซ้อนท้าย โชคดีที่ลุงชุบทิ้งไฟฉายไว้ให้ เธอจึงมีไฟส่องทาง ตากลมโตมองไปรอบๆบริเวณ ที่มีดวงไฟสีส้มเป็นจุดๆ "ตรงที่มีไฟน่าจะเป็นบ้านคนนะ"สายธารพูด เมื่อสังเกตรอบๆ"นั่นสิพี่ก็ว่าใช่"นารีเห็นด้วย ลมหนาวพัดมากระทบผิว ทำให้สายธารคิดถึงบ้าน ที่บ้านอากาศตอนเช้าก็หนาวแบบนี้ แต่เธอไม่เคยออกจากบ้านในสภาพนี้เลยสักครั้ง ถ้าจำเป็นต้องไปทำกิจกรรมที่มหาวิทยาลัย ก็จะมีคนขับรถไปส่งเสมอ "นั่นใช่ไหมรถกับข้าวที่ว่า"นารีชี้มือไปด้านหน้า ที่มีคนกลุ่มหนึ่งยืนมุงรถกระบะ"น่าจะใช่นะ"สองสาวปั่นจักรยาน มาจอดบริเวณที่รถขายกับข้าวจอดอยู่ แล้วพากันไปเลือกซื้อกับข้
เมื่อความมืดโรยตัว ความเหงาก็เข้าเกาะกุมหัวใจ ร่างบางนั่งกอดเข่าอยู่หน้าบ้าน ตากลมโตมองดวงดาวบนท้องฟ้า น้ำตาพากันไหลลงมาเป็นสาย "คุณปู่ขาธารคิดถึงคุณปู่"หญิงสาวพูดกับตัวเอง เมื่อตระหนักได้ว่า ที่พึ่งเดียวในชีวิตได้จากเธอไปแล้ว "คุณธารมานอนได้แล้วค่ะ พี่นิ่มผูกมุ้งให้แล้ว โชคดีนะคะหนูไม่กัดพวกผ้าห่ม เหม็นสาบหน่อยแต่ใช้ได้"นารีเดินออกมาจากตัวเรือน หญิงสาวหยุดอยู่กับที่ เมื่อเห็นนายสาวกอดเข่าร้องไห้"คุณธาร ร้องไห้อีกแล้ว"นารีนั่งลงข้างๆ "พี่นิ่ม ธารคิดถึงคุณปู่ คิดถึงบ้าน"สายธารบอกกับนารี เมื่อซบลงบนไหล่พี่เลี้ยงสาว"พี่เข้าใจ ร้องออกมาเถอะค่ะ ร้องออกมาให้หมด""ธารพยายามจะเข้มแข็งแล้ว แต่ธารทำไม่ได้ ขอให้ธารร้องอีกครั้งนะคะ ธารสัญญาว่าจะเป็นครั้งสุดท้าย""ไม่ต้องสัญญาค่ะ น้ำตาคือเพื่อนที่ดีที่สุด คุณธารอยากร้องก็ร้อง ร้องออกมา คนเข้มแข็งก็ร้องไห้ได้ค่ะ""ทำไมธารต้องมาเจออะไรแบบนี้ด้วยคะ เวรกรรมอะไรของธาร""ไม่ใช่เวรกรรมหรอกค่ะ ไอ้สนิทมันเลว ต่อให้เราไม่เป็นหนี้มัน สักวันมันก็ต้องหาเรื่องมาเอาตัวคุณธารไปอยู่ดี"นารีกำหมัดแน่น เมื่อพูดถึงเรื่องนี้ พ่อเลี้ยงสนิทจ้องสายธารมาตั้งแต่อายุ 15
ทองชุบที่ป้านวลแนะนำมา แท้จริงแล้วเป็นพี่ชายของป้านวล และก็ไม่ได้เป็นสัปเหร่ออย่างที่ผู้ชายคนนั้นบอก ลุงทองชุบเป็นมัคนายกวัดอย่างที่สองสาวเดาไว้ตั้งแต่ตอนแรก เมื่อแนะนำตัวและบอกที่มาที่ไปของเรื่องราวที่เกิดขึ้นที่ลำปาง ทองชุบก็ถอนหายใจ แล้วมองหน้าสองสาวที่หนีร้อนมาพึ่งเย็น แล้วคิดหนัก ทุกวันนี้ตัวเขาเองก็ไม่มีอาชีพอะไร อาศัยทำงานในวัด เพื่อแลกข้าวก้นบาตรไปวันๆ กินนอนที่วัด จะรับสองคนนี้ไว้ก็ไม่สะดวก ครั้นจะปล่อยไปก็ไม่ได้ เมื่ออ่านจดหมายที่ป้านวลฝากมา ก็เข้าใจความจำเป็นทั้งหมดทั้งมวล"ธารกับพี่นิ่มไม่รบกวนแล้วค่ะ ขอบคุณลุงมากนะคะ"สายธารพูดขึ้น เมื่อเห็นความลำบากใจในดวงตาของชายวัยกลางคนที่มองมาที่เธอ การที่จะรับคนแปลกหน้ามาอยู่ด้วย ก็เป็นเรื่องธรรมดาที่เขาต้องคิดมาก "ใช่จ้ะแค่นี้ก็รบกวนลุงมากแล้ว"นารีเห็นด้วยกับสายธาร แค่ทองชุบรับฟังเรื่องราว หาข้าวหาน้ำให้พวกเธอกิน ก็มากพอแล้ว เธอคงไม่รบกวนไปมากกว่านี้"แล้วพวกเอ็งจะไปไหนกัน"ทองชุบถาม อดรู้สึกห่วงไม่ได้ ผู้หญิงมากันตามลำพังย่อมไม่ปลอดภัย"พวกฉันก็ยังไม่รู้จ้ะ"นารีตอบไปตามความจริง ตอนนี้พวกเธอสิ้นไร้ไม้ตอก ไม่มีที่ไหนให้พึ่งพา บ้านที่
นารีปัดสิ่งที่กวนใจออกจากไหล่ เมื่อมันรบกวนเวลานอนของเธอ มือบางฟาดหนักๆลงไปบนสิ่งนั้น เมื่อมันยังกวนเธอไม่เลิก"นี่เธอสองคนน่ะ ตกลงจะนอนใช่ไหม"สิงห์เรียกด้วยน้ำเสียงหงุดหงิด เมื่อเรียกสองสาวมาสักพักหนึ่งแล้ว แต่ทั้งสองไม่มีทีท่าว่าจะตื่น "เสียเวลาฉิบ!"พูดอย่างไม่สบอารมณ์ เพราะเบื่อหน่ายสองคนนี้เต็มทน"นี่ยายขี้เซา ตื่นได้แล้ว!"ชายหนุ่มตะโกนใส่หูหญิงสาวคนที่นั่งใกล้เขา ไม่ได้ผล แทนที่เธอจะตื่น กลับผลักหน้าเขาออก แล้วหันไปอีกทาง เพื่อหนีจากสิ่งรบกวน คนที่นั่งข้างประตูก็เช่นกัน หัวที่พิงบานประตูหมุนกลับมาพิงกับหัวคนที่ขยับหนีเขา เป็นตำแหน่งที่เหมาะจริงๆ สองสาวหันหัวมาชนกัน แล้วหลับต่ออย่างสบายอารมณ์"ซ้อมหรือตายไงวะ"สิงห์บ่นอย่างหัวเสียปริ๊น! ปริ๊น! ปริ๊นเสียงแตรรถที่ขับสวนมา ดึงความสนใจของสิงห์ไปจากสองสาว เมื่อชายหนุ่มหันไปคุยกับคนที่ตะโกนมาจากรถคันนั้น"กลับมาแล้วเหรอ ได้ของครบไหม!"น่านนทีตะโกนถาม เมื่อเห็นรถสิงห์ ชายหนุ่มนึกแปลกใจที่เห็นสิงห์จอดรถอยู่หน้าวัด"ครบ มึงจะไปไหน!"สิงห์ตะโกนตอบ แล้วถามกลับ"ไปเอาต้นกาแฟที่ไร่ไอ้เพชร ไปไหม!""เดี๋ยวตามไป!"สายธารปรือตาขึ้น เมื่อได้ยินเสีย
Comments