“ไม่สนใจแต่ชวนเค้าทานข้าวเย็นด้วยกันนี่หมายความว่ายังไงน้า..”
ปลายฝันเห็นพ่อเลี้ยงหนุ่มกลับไปได้ก็ได้ทีเอ่ยหยอกเพื่อนเธอเสียงอ่อน
“หมายความว่าเป็นคนมีมารยาทไงเค้าอุตส่าห์ช่วยมาส่งถึงที่แถมยังให้คนมาลากรถไปที่อู่อีก...แล้วนี่มิลินกับแพรวาจะมาถึงตอนไหน”
พราวพิ้งค์ขมวดคิ้วส่ายหัวให้คนที่ทำตัวเป็นแม่สื่อแม่ชักก่อนจะถามถึงเพื่อนสนิทอีกสองคนที่บอกว่าจะมาถึงในวันนี้แต่เย็นแล้วก็ไม่ยักจะเห็น
“อีกเดี๋ยวคงถึงแล้วล่ะ..ไปเดี๋ยวฉันไปช่วนทำกับข้าวในครัว”
“ห้ามพูดเชียคุณคีรินอีกไม่อย่างนั้นพรุ่งนี้หาช่างแต่งหน้ามาเองเลย”
“โอ๋ๆ..แค่นี้ทำเป็นงอนไปได้”
สองสาวคุยกันจบก็รีบสาวเท้าเข้าไปในครัวเพื่อทำอาหารเย็น
ภคพลอยู่ในในชุดนอนสีเทายืนกอดอกพิงหน้าต่างช่วงกลางดึกดวงตาคมนัยน์ตาสีฟ้ายืนจ้องแหวนเพชรวงน้อยในมือไม่วางตา แหวนวงนี้ควรจะอยู่กับเจ้าของมันนานแล้วแต่ติดตรงที่เขานั้นไม่มีโอกาสได้ให้และคิดว่าคงจะเก็บตายไว้อย่างนี้เห็นจะดีแล้ว
ก๊อกๆๆ
มือหนารีบเก็บแหวนวงเล็กเข้าในกระเป๋าก่อนะจะเดินดุ่มไปเปิดประตูหากเดาไม่ผิดคงจะเป็นพี่ชายของเขาที่น่าจะนอนไม่หลับเพราะแปลกที่เช่นเดียวกับที่เขานั้นเป็น
“อย่าบอกว่านอนไม่หลับ”
ภคพลทักทายพี่ชายหน้าระรื่นเป็นโนแอลพี่ชายของเขาจริงๆอย่างที่คิด
“อืม..เลยมาหาเพื่อนคุย”
ร่างสูงเดินเข้ามาในห้องน้องชายทิ้งตัวลงนั่งที่โซฟาปลายเตียง
“ดื่มกันหน่อยไหม”
ในเมื่อคืนนี้เขาและพี่ชายต่างก็หลับยากเวลานี้จึงเป็นเวลาที่ดีที่จะสังสรรค์กันตามประสาพี่น้อง
“ก็ดี...อืม..ปกติฉันเห็นนายจะมีคนข้างกายไม่ซ้ำหน้าทำไมตอนนี้ไม่มีซะล่ะ”
โนแอลพยักหน้าก่อนจะเอ่ยถามในสิ่งที่คาใจตั้งแต่เจอกันเมื่อเย็น
“ก็อยากอยู่แบบสงบๆเงียบๆคนเดียวบ้าง..”
ภคพลหลุบสายตาลงต่ำเล็กน้อยทั้งตอบคำถามพี่ชายตนเสียงอ่อนเขาฝืนยิ้มให้อีกฝ่ายดูว่าไม่มีอะไรในใจก่อนจะหมุนตัวออกไปจากห้องเพื่อไปเอาเครื่องดื่มที่ชั้นล่าง
โนแอลนั่งเงียบแม้นจะไม่ค่อยได้เจอน้องเท่าไรนักแต่สายตาท่าทีของภคพลทำให้เขารู้ได้ว่าน้องตนนั้นมีเรื่องในใจที่ไม่อยากบอกใคร ให้เขาเดาคงไม่พ้นเรื่องความรักเพราะคนเจ้าชู้ที่มีผู้หญิงข้างกายตลอดอย่างภคพลคงไม่ขาดผู้หญิงเพราะคำว่าอยากอยู่เงียบๆคนเดียวแน่นอน
โนแอลเป็นฝาแฝดกับนาดีลลูกชายของภูริชกับภรรยาชาวฝรั่งเศสหลังจากที่โนแอลและนาดีลเกิดได้ไม่นานแม่พวกเขาก็เสีย ไม่นานนักภูริชก็ได้เจอกับแม่ของภคพลเธอจึงดูแลโนแอลและนาดีลดั่งลูกในไส้พอมีภคพลออกมาทั้งสามก็รักกันมากเช่นพี่น้องแท้ๆ
โนแอลกับนาดีลมีกิจการอยู่ที่ฝรั่งเศสกันทั้งคู่เมื่อกิจการดำเนินไปได้ยิ่งสวยพวกเขาก็ยิ่งยุ่งกับการพัฒนาบริษัทจนไม่ค่อยมีเวลากลับมาที่ไทยเท่าไรนัก โนแอลเป็นคนเดียวที่หาเวลากลับมาได้ส่วนนาดีลนั้นยังปลีกตัวกลับมาไม่ได้จริงๆเพราะติดธุระที่จะต้องไปคุยกับคู่ค้าอยู่ที่สิงคโปร์
โนแอลเป็นหนุ่มรูปร่างสูงใหญ่กำยำล่ำสันเขาสูง185ผิวขาวใบหน้าคมผมสีน้ำตาลตัดรองทรงสูงคิ้วหนาได้รูปสวยตาคมนัยน์ตาสีนิลจมูกโด่งเป็นสันปากหนาเป็นกระจับสีชมพู ค่อนข้างเป็นคนที่สุภาพอบอุ่น พูดน้อย และไม่ค่อยได้ออกสังคมเท่าไรผิดกับน้องชายอย่างนาดีลและภคพลที่สองคนนี้แม้นจะคนละแม่แต่นิสัยเหมือนกันทุกอย่าง
“อย่าดื่มเยอะล่ะ..ยังต้องทานยาอยู่ไม่ใช่หรือไง..”
โนแอลยื่นมือรับแก้วไวน์ที่น้องชายพึ่งเทใส่แก้วให้
“ผมดื่มหนักตั้งแต่กลับจากโรงพยาบาลแล้วครับก็ไม่เห็นเป็นอะไรคนอย่างผมแข็งแรงอยู่แล้วพี่อย่าห่วงเลย”
คนที่ถูกเป็นห่วงตอบกลับหน้าระรื่นทั้งกระดกไวน์อึกใหญ่ต่อหน้าพี่ชายทำเอาโนแอลนั่งส่ายหัวยิ้มอ่อนจะกี่ปีน้องชายของเขาก็ยังคงมีนิสัยหัวรั้นเช่นเคยไม่รู้ว่าจะมีใครมาปรามนิสัยแบบนี้ได้เลย
เช้าวันต่อมาเสียงอึกกระทึกของกลองยาวจากบ้านเจ้าบ่าวที่แห่ขบวนกันมารับเข้าสาวที่บ้านของพราวพิ้งค์ดังสนั่นผู้คนที่ร่วมขบวนมากหน้าหลายตาทั้งคนในไร่และผู้ใหญ่ในพื้นที่ที่รู้จักกับแดนไทย
เจ้าบ่าวอย่างแดนไทยวันนี้อยู่ในชุดสูทซาตินสีเทายิ้มแก้มปริตั้งแต่ตื่นขึ้นมาดีใจที่จะได้ตกแต่งภรรยาที่กำลังท้องอย่างเป็นทางการเสียที
ทางด้านปลายฝันเจ้าสาวที่กำลังท้องโตอยู่ในชุดเดรสเกาะอกสีขาวปักเลื่อมลายเงินเป็นดีเทลเล็กๆสีขาวกระโปรงผ้าแก้วฟูฟ่องยาวเลยเข่าเล็กน้อยดูน่ารักเหมาะเจาะกับร่างของคนท้องในตอนนี้เป็นอย่างมาก
ใบหน้าสวยหวานของปลายฝันถูกพรางพิ้งค์เนรมิตให้เป็นคนที่สวยที่สุดโดยการแต่งหน้าอ่อนๆเน้นให้เจ้าสาวดูสดใสทรงผมรวบเกล้ามวยต่ำปักมุกเล็กน้อยพองาม
“ลูกแม่สวยที่สุดเลยวันนี้”
เปรมสุดาเอ่ยชื่นชมก่อนจะรวบตัวเจ้าสาวมากอดทั้งยินดีทั้งใจหายที่รู้ว่าลูกจะมีครอบครัวจริงๆแล้ว
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์ที่สามพราวพิ้งค์ก็ยังไม่มีทีท่าใจอ่อนคุยกับภคพลง่ายๆจนทุกคนต่างก็เห็นใจชายหนุ่มพอสมควรในตอนนี้ภูริชก็เข้ามาพักฟื้นที่บ้านของแดนไทยยัยหนูพลอยขวัญที่ปู่ไปรับมาทุกวันจึงทำให้ภคพลนั้นได้อยู่กับลูกนานๆบ้างนับว่าความสุขนี้ได้จากบารมีของคนเป็นพ่อล้วนๆ“งานหินเลยสิ..”ภูริชหันมาถามภคพลที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวกลมนั่งทานขนมไม่วางตา“หินจริงๆครับคุณพ่อ”ภคพลหันมาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อหน้าเจื่อน“ทีหลังจะเล่นอีกหรือเปล่า”“เข็ดแล้วครับ”“ฮ่าๆๆ..”ภูริชหัวเราะร่าเมื่อเห็นพราวพิ้งค์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ลูกชายจอมเอาแต่ใจของเขาใจเสียได้นานขนาดนี้เช้าวันต่อมาพราวพิ้งค์ไปส่งยัยหนูให้ภูริชที่บ้านของแดนไทยเรียบร้อยเธอจึงขับรถมาที่ไร่เพียงกมลเพื่อมาหาฟองจันทร์ด้วยรู้ว่าหญิงสาวจะไปจากที่นี่เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพในอีกวันสองวันที่จะถึง“เลือกทางนี้จริงๆใช่ไหม”พราวพิ้งค์มาที่นี่เพื่อคุยกับฟองจันทร์ให้แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงสาวเลือกนั้นตรงกับใจที่ต้องการจริงๆหรือเปล่า“จันทร์ว่าจันทร์ขอออกไปอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าค่ะ... แล้วค่อยคิดดูว่าตอนนั้นจะอยู่ได้หรือเปล่า”ฟองจันทร์เงียบค
วันต่อมาพราวพิ้งค์มาถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้าเธอต้องตกใจเมื่อเห็นแคทเธอรีนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของภคพลจึงรีบรั้งตัวหญิงสาวเอาไว่ก่อน“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พอลโทรให้ฉันมาหาบอกว่าอยากให้ฉันมาดูแล”แคทเธอรีนตอบกลับพราวพิ้งค์หน้าระรื่น“งั้นก็กลับไปเถอะค่ะ..เพราะหน้าที่นี้เป็นของฉันค่ะ”“ไม่กลับค่ะ..ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นอะไรกับพอลแต่ในเมื่อพอลเลือกที่จะให้ฉันมาดูแลคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ”แคทเธอรีนว่าจบก็เปิดประตูเข้าห้องภคพลไปโดยมีพราวพิ้งค์ตามหลังเข้ามาติดๆ“ฉันมาแล้วค่ะพอล”แคทเธอรีนเอ่ยทักทายภคพลที่กำลังนั่งเลื่อนมือถืออยู่บนเตียงเสียงใส“ฉันบอกแล้วไงคะว่าคนที่จะดูแลคุณได้คือพยาบาลที่นี่”พราวพิ้งค์ค่อนข้างมีท่าทีเดือดดาลพอสมควรดวงตากลมโตจ้องมองภคพลเขม็งอย่างไม่วางตา“ก็ผมต้องการให้แคทมาดูแลคุณมีปัญหาอะไรอยากจะพักผ่อนผมก็ให้โอกาสคุณได้พักแล้วไง”“บอกให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้”“ไม่..”ภคพลตวัดหางตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตากวนประสาท“ได้..เดี๋ยวได้รู้กัน”พราวพิ้งค์เดินกัดฟันกรอดออกนอกห้องไปไม่นานนักเหล่าชายฉกรรจ์คนของภูริชสามสี่คนก็เข้ามาลากตัวของแคทเธอรีนกลับไปส่งที่อยู่ของเธอครู่ต่อมา“
วันต่อมาพราวพิ้งค์ใจเสียตั้งแต่เมื่อวานยังไม่หายเพราะจนป่านนี้แล้วภคพลก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา“เมื่อไรคุณจะตื่นมาคะ..คุณจะไล่ฉันต่อว่าฉันอีกกี่คำก็ได้ขอแค่ตื่นมาได้ไหม”สาวเจ้านั่งเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพรางยกมือปาดน้ำตาลวกๆ“อืม..”ขณะที่พราวพิ้งค์นั่งหน้าหน้าเคร่งเครียดอยู่พักใหญ่ภคพลก็มีทีท่าว่าจะขยับตัวตื่น“คุณพอล”มือเรียวรีบกดเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่าภคพลลืมตาไม่นานนักณดลและพยาบาลผู้ช่วยอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในห้องพราวพิ้งค์จึงหลบไปนั่งมุมห้องเงียบๆขณะที่หมอหนุ่มกำลังลงมือตรวจอาการภคพล“จำได้หรือเปล่าว่าก่อนปวดหัวเกิดอะไรขึ้น..”ณดลเริ่มถามคนที่มีอาการสะลึมสะลือภคพลยังคงเงียบเขาเปรยสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งใจจดใจจ่อจ้องมองมายังตัวเองอยู่ที่มุมห้องก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวกับณดล“..ไม่รู้ฉันจำไม่ได้”“แล้วตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่หรือเปล่า”“ไม่..ฉันโอเค.. ขอพักผ่อนก่อน”ท่าทีของภคพลดูเหนื่อยอ่อยเป็นพิเศษณดลจึงไม่ได้เค้นถามอะไรเพื่อนตนมากเมื่อไม่มีอาการปวดหัวภคพลก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร“อีกสี่ชั่วโมงฉันจะมาดูนายอีกรอบ”“อืม..”“ฉันขออยู่เฝ้านะคะจะอยู่เงียบๆ”พราวพิ้งค์ไม
“ก็อยากดูแลไม่ใช่หรือไง”ดวงตาคมจ้องมองยังใบหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ทั้งยังส่งน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลาทำพราวพิ้งค์หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเห็นท่าแล้วว่าภคพลคงจะอยากเล่นสงครามประสาทกับเธอเพราะเห็นว่าเธอดูแลเข้าหน่อยก็ใช้สารพัด“เจ้านายของนายเค้าปากไม่ค่อยตรงกับใจเท่าไรเลย”ณดลมองดูภคพลและพราวพิ้งค์ผ่านประตูกระจกด้านนอกกับก้องภพเขาดูออกว่าเพื่อนตนนั้นไม่ได้อยากจะไล่พราวพิ้งค์ไปจริงๆที่ทำไปเพียงเพราะโกรธเคืองเรื่องเธอหนีไปก็เท่านั้น“ครับ”ก้องภพเปรยสายตามองไปยังคนในห้องก็อมยิ้มอ่อนรู้ว่าจิตใจของนายเขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่พอสมควรและที่หายวันหายคืนเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะมีคนที่ตัวเองเอ่ยปากไล่มาอยู่ดูแลทุกวันนั่นเองRrrrr“ฉันขอตัวเดี๋ยวนะคะ”พราวพิ้งค์เห็นสายคีรินเข้ามาเธอก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ทั้งที่ยังไม่ทันที่จะป้อนข้าวให้ภคพลเสร็จ“ค่ะคุณคีริน”หญิงสาวกดรับสายคุยกับคนที่โทรมาหาขณะที่กำลังจะเดินถึงประตูหลังจากนั้นก็เดินหายเงียบออกไปข้างนอก“คีริน”ภคพลขมวดคิ้วมองตามหลังร่างบางไม่วางตาเขารู้ว่าไม่เคยรู้จักคนๆนี้แต่ทำไมคุ้นกับชื่อคีรินที่หญิงสาวเอ่ยเรียกปลายสายแปลกๆ
“นายทำอะไรของนายรู้ก็รู้ว่าแคททำกับนายขนาดไหนยังจะอยู่ใกล้อีก”ณดลเริ่มสวดเพื่อนของเขาหลังจากที่ห้องนี้เหลือเพียงสองคน“ฉันทำเพราะอยากให้พิ้งค์ไปไกลๆต่างหาก”ภคพลตอบปัดเสียงอ่อนคิดว่าแค่นี้เพื่อนของเขาจะรู้ใจเสียอีกว่าคนอย่างเขาไม่มีทางดีกับคนที่เคยทำร้ายตัวเองมาก่อนแน่นอน“แกโกรธคุณพิ้งค์แค่เรื่องที่เธอหนีไปแล้วไม่บอกนายแค่นั้นเหรอ”ภคพลยังคงเงียบเป็นคำตอบ ณดลเริ่มขมวดคิ้วไม่รู้ว่าเพื่อนตนที่ยังเป็นมีนิสัยเก่าๆเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องผู้หญิงด้วย“คุณพิ้งค์ก็กลับมาแล้วไงเธอกลับมาเพราะเป็นห่วงนาย...ตลอดที่นายนอนเป็นผักคนที่ดูแลนายไม่ใช่พยาบาลแต่เป็นคุณพิ้งค์..เธอคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นายพูดคุยกับนายตลอด..ตอนนายไข้ขึ้นเธอก็ไม่เคยได้หลับได้นอน..แต่พอนายฟื้นมากลับเอาแต่ไล่ให้เธอไปไกลๆมันยุติธรรมแล้วเหรอ”ณดลว่าเสียงแข็งหากเขาพูดเรื่องยัยหนูพลอยขวัญได้เขาก็อยากจะพูดใจจะขาดภคพลจะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นพ่อคนแล้วไม่ควรทำตัวงี่เง่าประชดใครเหมือนเด็กแต่ติดตรงที่พราวพิ้งค์ขอเอาไว้“ตอนเธอหนีฉันไปทิ้งให้ฉันเคว้งคว้าง...ยุติธรรมกับฉันเหมือนกันหรือไง”“นายไม่ได้คิดกับเธอแค่คู่นอนใช่หรือเปล่า
ก๊อกๆๆสายตาของสองหนุ่มมองไปยังประตูที่กำลังจะมีคนเข้ามาเมื่อภคพลเห็นว่าเป็นใครเขาก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ในทันที“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าเข้ามานั่งข้างเตียงของภคพลด้วยใบหน้าระรื่นมือเรียวรีบกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความดีใจที่เห็นเขานั้นฟื้นขึ้นมาได้เสียที“กลับมาทำไม”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามไถ่อาการของภคพลกับณดลคำถามน้ำเสียงเสียงห้วนของคนเจ็บก็ทำให้พราวพิ้งค์หน้าเสียกะทันหันไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธอถึงได้ทักทายกันเช่นนี้“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์หน่อยครับ”ณดลรีบเรียกพราวพิ้งค์ออกมาคุยกันข้างนอกเพราะมีเรื่องที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ถึงอาการที่ไม่ค่อยจะดีนักของภคพล“พอลความทรงจำหายไป...ที่จำได้ก็น่าจะสามปีที่แล้วครับ”“สามปีที่แล้วเหรอคะ?”พราวพิ้งค์เสียงสั่นมือไม้อ่อนเท่ากับว่าภคพลคนที่เจ็บอยู่ตอนนี้ยังเป็นคนเดิมคนที่เอาแต่ใจโผงผางเจ้าชู้และข้อสำคัญคือเขายังคงมองเธอเป็นแค่คู่นอนที่ไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดฟึ่บบ“คุณพิ้งค์”ณดลรีบประคองพราวพิ้งค์เมื่อร่างบางฟุบกองลงกับพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรงอาการข้างเคียงหลังการบาดเจ็บของภคพลนี่คือสิ่งที่พราวพิ้งค์ไม่อยากให้เกิดที่สุดหลังจากที่ไ