“ต้องขอบคุณช่างคนเก่งคนนี้ค่ะ”
ปลายฝนอดเอ่ยชมฝีมือพรางพิ้งค์ไม่ได้นับว่าเพื่อนของเธอเก่งไปเสียทุกอย่างจริงๆ
“ฉวย..”
หนูน้อยตัวกลมแก้มย้วยในชุดเสื้อยืดเจ้าหญิงสีชมพูกับกระโปรงสีขาวฟูฟ่องมัดผมรวบโดนัมสองข้างเดินเข้ามาเกาะขาปลายฝันเงยหน้าเอ่ยชมคนเป็นน้าหน้าบาน
“รู้ดีจังเลยนะเรา”
เปรมสุดาอุ้มยัยหนูพลอยขวัญมานั่งที่ตักพร้อมกดจูบกระหม่อมหนึ่งทีหากอยากจะให้หลานนั้นออกมาเหมือนกับยัยหนูพลอยขวัญเหลือเกินยิ่งคิดก็ยิ่งอยากให้ถึงวันที่ลูกสาวเธอคลอดเร็วๆ
“ฝัน..ขบวนแห่มาใกล้แล้วมาดูสิ”
ปลายฝันรีบลุกเดินมาที่หน้าต่างตามพราวพิ้งค์เพื่อดูขบวนแห่ที่เหล่าผู้คนกำลังพากันรำหน้ากลองยาวอย่างสนุกสนาน
“น่าตื่นเต้นจังเลย”
ตอนนี้ปลายฝันเริ่มทำตัวไม่ถูกทั้งที่เตรียมใจเอาไว้แล้วแต่พอถึงสถานการณ์จริงกลับประหม่าเสียได้
“นั่น..คุณ..ภูริช..”
ชายวัยกลางคนที่พราวพิ้งค์เห็นว่ากำลังยืนอยู่ข้างๆคีรินทำเอาสาวเจ้ายืนตัวชาหน้าเสีย
“อ่อ..ใช่คุณภูริชเธอรู้จักด้วยเหรอเค้าเป็นพี่ชายของคุณแดนแต่คนละแม่”
“แล้ว..ทำไมนามสกุลไม่เหมือนกัน”
“คุณแดนบอกว่าคุณภูเปลี่ยนไปใช้นามสกุลของแม่ตั้งแต่เป็นวัยรุ่นแล้วเพราะนามสกุลแม่คุณภูไม่มีใครสืบสกุลเลยส่วนคุณแดนก็ใช้นามสกุลพ่อคนถึงไม่ค่อยรู้จักว่าคุณแดนเป็นพี่น้องของคุณภูเท่าไรนักนอกจากคนสนิท”
“งั้นเหรอ”
“อืม..ฉันก็พึ่งรู้ไม่นานมานี้เอง”
ปลายฝันยังคงจับจ้องไปที่ขบวนแห่ด้วยท่าทีตื่นเต้นแต่เป็นพราวพิ้งค์ที่เห็นว่างานนี้เธอจะไม่ค่อยสนุกเสียแล้วเพราะกลัวว่าใครบางคนที่เธอไม่อยากเจอจะอยู่ที่งานนี้ด้วย
หลังจากขบวนแห่มาประชิดประตูบ้านทุกคนลงมาอยู่หน้าบ้านหลังเล็กของพราวพิ้งค์คนที่กั้นประตูเงินเป็นมิลินและแพรวาสองสาวไฮโซที่เดินทางกลับมาจากอังกฤษก็เพื่องานของปลายฝันโดยเฉพาะ
“ซองน้อยไม่ให้ผ่านนะคะพ่อเลี้ยง”
แพรวาสาวสวยร่างสูงราวกับนางแบบเอ่ยเรียกซองกับเจ้าบ่าวหน้าระรื่นเพราะรู้ว่าเจ้าบ่าวของเพื่อนกระเป๋าหนักไม่น้อยงานนี้เธอคงได้เงินซื้อขนมเยอะทีเดียว
“ใช่ค่ะพ่อเลี้ยง”
มิลินสาวสวยร่างสูงมาดเนี้ยบหน้าตาจิ้มลิ้มเอ่ยเสริมแพรวา
“คนละห้าซองจะให้ผ่านหรือเปล่าครับ”
แดนไทยหันมาหยิบซองในมือของภูริชยื่นให้กับสาวๆคนละห้าซองเพื่อที่จะผ่านประตูเงินหวังว่าสองสาวจะให้เขาผ่านไปง่ายๆเพราะอยากจะเจอเจ้าสาวแย่แล้ว
“แค่สามซองก็ให้ผ่านแล้วล่ะค่ะ”
แพรวารีบปล่อยประตูกั้นแต่โดยดีเพราะเธอเห็นแต่ละซองมีแต่หนาๆทั้งนั้นหากเจ้าบ่าวใจป้ำเธอก็พร้อมปล่อยไปได้ง่ายๆ
ตอนนี้ด่านต่อไปของแดนไทยก็เป็นประตูทองหน้าห้องของเจ้าสาวที่มีพราวพิ้งค์หญิงสาวในชุดเดรสสีครีมรวบผมหางม้าแต่งหน้าอ่อนๆยืนกั้นประตูคู่อยู่กับฟองจันทร์หญิงสาวหน้าสวยหวานในชุดเดรสสีชมพูอ่อนลูกสาวของฟองเงิน
“เอ..พิ้งค์จะได้เท่าเมื่อกี้ไหมคะพ่อเลี้ยง”
พราวพิ้งค์ชะเง้อไปยังแพรวาและมิลิน
“แน่นอนครับ”
เจ้าบ่าวบุญทุ่มยื่นซองให้สองสาวที่กั้นประตูทองคนละห้าซองเช่นเดียวกับเมื่อครู่
“แบบนี้ค่อยน่าให้ผ่านหน่อยค่ะ”
ฟองจันทร์รีบเก็บซองเข้ากระเป๋าใบเล็กแต่เธอและพราวพิ้งค์ก็ยังไม่ยอมเปิดให้เจ้าบ่าวผ่านไปหาเจ้าสาวอยู่ดี
“เปิดให้ผมสิครับ”
แดนไทยหันไปพูดกับพราวพิ้งค์ด้วยสีหน้าฉงน
“ยังค่ะ”
พราวพิ้งค์ชี้ไปยังเจ้าตัวกลมที่กำลังวิ่งแจ้นมาหาเธอ
“ดีจ้า..”
หนูน้อยพลอยขวัญวิ่งมายกมือป้อมสวัสดีแดนไทยเสียงดังเจ้าก้อนกลมเป็นจุดสนใจให้กับภูริชและโนแอลไม่น้อยเพราะใบหน้าแบบนี้เหมือนกับคนในครอบครัวของตนไม่มีผิดต่างกันตรงที่เป็นเด็กผู้หญิงเท่านั้น
“ลุงต้องผ่านด่านเจ้าตัวกลมไปก่อนใช่หรือเปล่าครับ...จะเอาอะไรให้ดีล่ะ..หนูพลอยอยากได้อะไรครับ”
แดนไทยย่อตัวลงอุ้มยัยหนูพลอยขวัญทั้งหัวเราะร่าเมื่อประตูด่านสุดท้ายดูท่าจะยากที่สุด
“ยูก..อม..”
คำตอบของยัยหนูตัวกลมเรียกเสียงหัวเราะของคนรอบข้างได้เป็นอย่างดีจะมีอะไรที่ยัยหนูพลอยขวัญชื่นชอบไปกว่าลูกอมรสเปรี้ยวหวานที่คนเป็นแม่ซื้อให้ประจำ
“ลุงไม่มีด้วยสิ..เอาเป็นซองแดงหมดนี่ได้หรือเปล่า”
แดนไทยยื่นซองแดงหนาใส่มือป้อมของยัยหนูพลอยขวัญหวังว่านี่จะเป็นสิ่งที่แทนลูกอมที่เด็กหญิงอยากจะได้และเขาก็จะได้เข้าไปรับตัวเจ้าสาวเสียที
“เอา..จ่ะ”
เด็กหญิงยิ้มหน้าบานกอดซองหนาไว้ไม่วางดูท่าจะรู้ว่าของด้านในมีค่ามากกว่าลูกอมหลายเท่าสร้างความน่าเอ็นดูให้คนที่ร่วมขบวนมาไม่น้อย
“โอ้โห..ไม่ค่อยจะงกเลยนะเรา” ฟอดด
แดนไทยกดหอมแก้มย้วยของยัยหนูพลอยขวัญไปฟอดใหญ่ด้วยความหมั่นเขี้ยวก่อนจะส่งตัวคนในอ้อมอกไปให้พราวพิ้งค์และประตูห้องเจ้าสาวก็ได้เปิดออก
พราวพิ้งค์และทุกคนยืนดูเจ้าบ่าวที่กำลังจูงเจ้าสาวออกมาด้วยท่าทียินดีตอนนี้พราวพิ้งค์โล่งใจมากเมื่อคนที่เธอไม่อยากเจอไม่มาในงานนี้ค่อยรู้สึกคลายกังวลขึ้นมากพอสมควร
และแล้ววันเวลาก็ผ่านไปร่วมอาทิตย์ที่สามพราวพิ้งค์ก็ยังไม่มีทีท่าใจอ่อนคุยกับภคพลง่ายๆจนทุกคนต่างก็เห็นใจชายหนุ่มพอสมควรในตอนนี้ภูริชก็เข้ามาพักฟื้นที่บ้านของแดนไทยยัยหนูพลอยขวัญที่ปู่ไปรับมาทุกวันจึงทำให้ภคพลนั้นได้อยู่กับลูกนานๆบ้างนับว่าความสุขนี้ได้จากบารมีของคนเป็นพ่อล้วนๆ“งานหินเลยสิ..”ภูริชหันมาถามภคพลที่กำลังนั่งมองลูกสาวตัวกลมนั่งทานขนมไม่วางตา“หินจริงๆครับคุณพ่อ”ภคพลหันมาพยักหน้ากับคนเป็นพ่อหน้าเจื่อน“ทีหลังจะเล่นอีกหรือเปล่า”“เข็ดแล้วครับ”“ฮ่าๆๆ..”ภูริชหัวเราะร่าเมื่อเห็นพราวพิ้งค์จะเป็นผู้หญิงคนแรกที่ทำให้ลูกชายจอมเอาแต่ใจของเขาใจเสียได้นานขนาดนี้เช้าวันต่อมาพราวพิ้งค์ไปส่งยัยหนูให้ภูริชที่บ้านของแดนไทยเรียบร้อยเธอจึงขับรถมาที่ไร่เพียงกมลเพื่อมาหาฟองจันทร์ด้วยรู้ว่าหญิงสาวจะไปจากที่นี่เพื่อไปทำงานที่กรุงเทพในอีกวันสองวันที่จะถึง“เลือกทางนี้จริงๆใช่ไหม”พราวพิ้งค์มาที่นี่เพื่อคุยกับฟองจันทร์ให้แน่ใจว่าสิ่งที่หญิงสาวเลือกนั้นตรงกับใจที่ต้องการจริงๆหรือเปล่า“จันทร์ว่าจันทร์ขอออกไปอยู่คนเดียวก่อนดีกว่าค่ะ... แล้วค่อยคิดดูว่าตอนนั้นจะอยู่ได้หรือเปล่า”ฟองจันทร์เงียบค
วันต่อมาพราวพิ้งค์มาถึงโรงพยาบาลในช่วงเช้าเธอต้องตกใจเมื่อเห็นแคทเธอรีนกำลังจะเดินเข้าไปในห้องของภคพลจึงรีบรั้งตัวหญิงสาวเอาไว่ก่อน“คุณมาที่นี่ทำไมคะ”“พอลโทรให้ฉันมาหาบอกว่าอยากให้ฉันมาดูแล”แคทเธอรีนตอบกลับพราวพิ้งค์หน้าระรื่น“งั้นก็กลับไปเถอะค่ะ..เพราะหน้าที่นี้เป็นของฉันค่ะ”“ไม่กลับค่ะ..ฉันไม่รู้หรอกนะคะว่าคุณเป็นอะไรกับพอลแต่ในเมื่อพอลเลือกที่จะให้ฉันมาดูแลคุณนั่นแหละที่ต้องกลับ”แคทเธอรีนว่าจบก็เปิดประตูเข้าห้องภคพลไปโดยมีพราวพิ้งค์ตามหลังเข้ามาติดๆ“ฉันมาแล้วค่ะพอล”แคทเธอรีนเอ่ยทักทายภคพลที่กำลังนั่งเลื่อนมือถืออยู่บนเตียงเสียงใส“ฉันบอกแล้วไงคะว่าคนที่จะดูแลคุณได้คือพยาบาลที่นี่”พราวพิ้งค์ค่อนข้างมีท่าทีเดือดดาลพอสมควรดวงตากลมโตจ้องมองภคพลเขม็งอย่างไม่วางตา“ก็ผมต้องการให้แคทมาดูแลคุณมีปัญหาอะไรอยากจะพักผ่อนผมก็ให้โอกาสคุณได้พักแล้วไง”“บอกให้เธอกลับไปเดี๋ยวนี้”“ไม่..”ภคพลตวัดหางตาคมมองหญิงสาวด้วยสายตากวนประสาท“ได้..เดี๋ยวได้รู้กัน”พราวพิ้งค์เดินกัดฟันกรอดออกนอกห้องไปไม่นานนักเหล่าชายฉกรรจ์คนของภูริชสามสี่คนก็เข้ามาลากตัวของแคทเธอรีนกลับไปส่งที่อยู่ของเธอครู่ต่อมา“
วันต่อมาพราวพิ้งค์ใจเสียตั้งแต่เมื่อวานยังไม่หายเพราะจนป่านนี้แล้วภคพลก็ยังไม่ยอมฟื้นขึ้นมา“เมื่อไรคุณจะตื่นมาคะ..คุณจะไล่ฉันต่อว่าฉันอีกกี่คำก็ได้ขอแค่ตื่นมาได้ไหม”สาวเจ้านั่งเอ่ยเสียงอู้อี้อยู่ข้างเตียงของชายหนุ่มพรางยกมือปาดน้ำตาลวกๆ“อืม..”ขณะที่พราวพิ้งค์นั่งหน้าหน้าเคร่งเครียดอยู่พักใหญ่ภคพลก็มีทีท่าว่าจะขยับตัวตื่น“คุณพอล”มือเรียวรีบกดเรียกพยาบาลทันทีที่เห็นว่าภคพลลืมตาไม่นานนักณดลและพยาบาลผู้ช่วยอีกหนึ่งคนก็เข้ามาในห้องพราวพิ้งค์จึงหลบไปนั่งมุมห้องเงียบๆขณะที่หมอหนุ่มกำลังลงมือตรวจอาการภคพล“จำได้หรือเปล่าว่าก่อนปวดหัวเกิดอะไรขึ้น..”ณดลเริ่มถามคนที่มีอาการสะลึมสะลือภคพลยังคงเงียบเขาเปรยสายตาไปยังหญิงสาวที่นั่งใจจดใจจ่อจ้องมองมายังตัวเองอยู่ที่มุมห้องก่อนจะเงยหน้าส่ายหัวกับณดล“..ไม่รู้ฉันจำไม่ได้”“แล้วตอนนี้ยังมีอาการปวดหัวอยู่หรือเปล่า”“ไม่..ฉันโอเค.. ขอพักผ่อนก่อน”ท่าทีของภคพลดูเหนื่อยอ่อยเป็นพิเศษณดลจึงไม่ได้เค้นถามอะไรเพื่อนตนมากเมื่อไม่มีอาการปวดหัวภคพลก็ไม่ได้น่าเป็นห่วงอะไร“อีกสี่ชั่วโมงฉันจะมาดูนายอีกรอบ”“อืม..”“ฉันขออยู่เฝ้านะคะจะอยู่เงียบๆ”พราวพิ้งค์ไม
“ก็อยากดูแลไม่ใช่หรือไง”ดวงตาคมจ้องมองยังใบหน้าที่บึ้งตึงของหญิงสาวด้วยแววตาเจ้าเล่ห์ทั้งยังส่งน้ำเสียงยียวนกวนประสาทเธอตลอดเวลาทำพราวพิ้งค์หน้านิ่วคิ้วขมวดเพราะเห็นท่าแล้วว่าภคพลคงจะอยากเล่นสงครามประสาทกับเธอเพราะเห็นว่าเธอดูแลเข้าหน่อยก็ใช้สารพัด“เจ้านายของนายเค้าปากไม่ค่อยตรงกับใจเท่าไรเลย”ณดลมองดูภคพลและพราวพิ้งค์ผ่านประตูกระจกด้านนอกกับก้องภพเขาดูออกว่าเพื่อนตนนั้นไม่ได้อยากจะไล่พราวพิ้งค์ไปจริงๆที่ทำไปเพียงเพราะโกรธเคืองเรื่องเธอหนีไปก็เท่านั้น“ครับ”ก้องภพเปรยสายตามองไปยังคนในห้องก็อมยิ้มอ่อนรู้ว่าจิตใจของนายเขาซับซ้อนซ่อนเงื่อนอยู่พอสมควรและที่หายวันหายคืนเช่นนี้ก็คงเป็นเพราะมีคนที่ตัวเองเอ่ยปากไล่มาอยู่ดูแลทุกวันนั่นเองRrrrr“ฉันขอตัวเดี๋ยวนะคะ”พราวพิ้งค์เห็นสายคีรินเข้ามาเธอก็รีบลุกออกจากเก้าอี้ทั้งที่ยังไม่ทันที่จะป้อนข้าวให้ภคพลเสร็จ“ค่ะคุณคีริน”หญิงสาวกดรับสายคุยกับคนที่โทรมาหาขณะที่กำลังจะเดินถึงประตูหลังจากนั้นก็เดินหายเงียบออกไปข้างนอก“คีริน”ภคพลขมวดคิ้วมองตามหลังร่างบางไม่วางตาเขารู้ว่าไม่เคยรู้จักคนๆนี้แต่ทำไมคุ้นกับชื่อคีรินที่หญิงสาวเอ่ยเรียกปลายสายแปลกๆ
“นายทำอะไรของนายรู้ก็รู้ว่าแคททำกับนายขนาดไหนยังจะอยู่ใกล้อีก”ณดลเริ่มสวดเพื่อนของเขาหลังจากที่ห้องนี้เหลือเพียงสองคน“ฉันทำเพราะอยากให้พิ้งค์ไปไกลๆต่างหาก”ภคพลตอบปัดเสียงอ่อนคิดว่าแค่นี้เพื่อนของเขาจะรู้ใจเสียอีกว่าคนอย่างเขาไม่มีทางดีกับคนที่เคยทำร้ายตัวเองมาก่อนแน่นอน“แกโกรธคุณพิ้งค์แค่เรื่องที่เธอหนีไปแล้วไม่บอกนายแค่นั้นเหรอ”ภคพลยังคงเงียบเป็นคำตอบ ณดลเริ่มขมวดคิ้วไม่รู้ว่าเพื่อนตนที่ยังเป็นมีนิสัยเก่าๆเป็นคนคิดเล็กคิดน้อยกับเรื่องผู้หญิงด้วย“คุณพิ้งค์ก็กลับมาแล้วไงเธอกลับมาเพราะเป็นห่วงนาย...ตลอดที่นายนอนเป็นผักคนที่ดูแลนายไม่ใช่พยาบาลแต่เป็นคุณพิ้งค์..เธอคอยเช็ดเนื้อเช็ดตัวให้นายพูดคุยกับนายตลอด..ตอนนายไข้ขึ้นเธอก็ไม่เคยได้หลับได้นอน..แต่พอนายฟื้นมากลับเอาแต่ไล่ให้เธอไปไกลๆมันยุติธรรมแล้วเหรอ”ณดลว่าเสียงแข็งหากเขาพูดเรื่องยัยหนูพลอยขวัญได้เขาก็อยากจะพูดใจจะขาดภคพลจะได้รู้ว่าตอนนี้ตัวเองเป็นพ่อคนแล้วไม่ควรทำตัวงี่เง่าประชดใครเหมือนเด็กแต่ติดตรงที่พราวพิ้งค์ขอเอาไว้“ตอนเธอหนีฉันไปทิ้งให้ฉันเคว้งคว้าง...ยุติธรรมกับฉันเหมือนกันหรือไง”“นายไม่ได้คิดกับเธอแค่คู่นอนใช่หรือเปล่า
ก๊อกๆๆสายตาของสองหนุ่มมองไปยังประตูที่กำลังจะมีคนเข้ามาเมื่อภคพลเห็นว่าเป็นใครเขาก็มีสีหน้าไม่สบอารมณ์ในทันที“คุณพอลคะ”พราวพิ้งค์สาวเท้าเข้ามานั่งข้างเตียงของภคพลด้วยใบหน้าระรื่นมือเรียวรีบกอบกุมมือของชายหนุ่มเอาไว้แน่นด้วยความดีใจที่เห็นเขานั้นฟื้นขึ้นมาได้เสียที“กลับมาทำไม”ยังไม่ทันที่หญิงสาวจะถามไถ่อาการของภคพลกับณดลคำถามน้ำเสียงเสียงห้วนของคนเจ็บก็ทำให้พราวพิ้งค์หน้าเสียกะทันหันไม่รู้ว่าเขาจะแกล้งอะไรเธอถึงได้ทักทายกันเช่นนี้“ผมขอคุยกับคุณพิ้งค์หน่อยครับ”ณดลรีบเรียกพราวพิ้งค์ออกมาคุยกันข้างนอกเพราะมีเรื่องที่หญิงสาวจะต้องรับรู้ถึงอาการที่ไม่ค่อยจะดีนักของภคพล“พอลความทรงจำหายไป...ที่จำได้ก็น่าจะสามปีที่แล้วครับ”“สามปีที่แล้วเหรอคะ?”พราวพิ้งค์เสียงสั่นมือไม้อ่อนเท่ากับว่าภคพลคนที่เจ็บอยู่ตอนนี้ยังเป็นคนเดิมคนที่เอาแต่ใจโผงผางเจ้าชู้และข้อสำคัญคือเขายังคงมองเธอเป็นแค่คู่นอนที่ไม่ต้องการให้มีอะไรผูกมัดฟึ่บบ“คุณพิ้งค์”ณดลรีบประคองพราวพิ้งค์เมื่อร่างบางฟุบกองลงกับพื้นดั่งคนไร้เรี่ยวแรงอาการข้างเคียงหลังการบาดเจ็บของภคพลนี่คือสิ่งที่พราวพิ้งค์ไม่อยากให้เกิดที่สุดหลังจากที่ไ